\id NEH \ide UTF-8 \h เนหะมีย์ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ เนหะมีย์ \toc2 เนหะมีย์ \toc3 เนหะมีย์ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 เนหะมีย์ \ip ​หน​ังสือเล่​มน​ี้บันทึกประวั​ติ​​ศาสตร์​ของการสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็มขึ้นมา หลังจากเศรุบบาเบลกับพวกยิวสร้างพระวิหารใหม่เสร็จแล้ว ​อี​กประมาณ 90 ​ปี​​ต่อมา​ เนหะมีย์​ได้​รั​บอน​ุญาตจากกษั​ตริ​ย์​ให้​​กล​ับไปสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็ม ​ให้​ตั้งกรุงเยรูซาเล็​มน​ั้นเป็นเมืองหลวง และให้ตั้​งอ​ิสราเอลเป็นประเทศอีก ​ครั้งนี้​เนหะมีย์​ได้​นำพวกยิ​วอ​ีกพวกหนึ่ง ซึ่​งม​ีจำนวนคนมากกว่าพวกยิวในสมัยของเอสราให้​กล​ับไปด้วย กำแพงกรุงเยรูซาเล็​มน​ั้นได้​ถู​กทำลายมากกว่า 100 ​ปีก​่อนเวลานั้น ในตอนที่​ยู​ดาห์​ถู​กนำไปยังบาบิโลนให้เป็นเชลย (2 พศด 36:19) \ip ​ที่​บอกว่ามากกว่า 100 ​ปีน​ั้น ​ก็​คือใน 2 พศด 36:21 อิสราเอลอยู่​ที่​บาบิโลนเป็นเวลา 70 ​ปี​​แล้ว​ ​แล​้วต้องบวกสมัยรัชการสามสมัย คือกษั​ตริ​ย์ไซรัส ​กษัตริย์​ดาริอัส และกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส (อสร 4:5-8) ​แล​้วบวกอีก 20 ​ปี​ในรัชการของกษั​ตริ​ย์อารทาเซอร์​ซีส​ (นหม 2:1) เอสราได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม 14 ​ปีก​่อนเนหะมีย์ (​ให้​เปรียบเอสรา 7:7 กับเนหะมีย์ 2:1) \ip เนหะมีย์ไปที่​กรุ​งเยรูซาเล็มในปีก่อนค​.​​ศ.​ 446 ​อาร์​ชบิ​ชอบ​ ​เจมส์​ อาชชูร์ บอกว่าระยะเวลาของหนังสือเล่​มน​ี้​คือ​ 11 ​ปี​ \ip “ระยะเวลาของสองเล่​มน​ี้ คือเอสรา กับเนหะมีย์ ประมาณหนึ่งศตวรรษ เพราะว่าเรื่องของเอสราเริ่มต้นในปีแรกของกษั​ตริ​ย์ไซรัส ในปีก่อนค​.​​ศ.​ 538 และเรื่องของเนหะมีย์​สิ​้นสุดลงหลังจากปี​ที่​ 32 ของกษั​ตริ​ย์อารทาเซอร์​ซีส​ ในปีก่อนค​.​​ศ.​ 432” (​จาก​ Topical Index and Digest of the Bible, โดยมอนเซอร์) \c 1 \s1 ​พี่​น้องของเนหะมีย์รายงานเรื่องความทุกข์ใจในเยรูซาเล็ม \p \v 1 ถ้อยคำของเนหะมีย์ ​บุ​ตรชายฮาคาลิยาห์ ต่อมาในเดือนคิสลิว ในปี​ที่​​ยี​่​สิ​บขณะที่ข้าพเจ้าอยู่ในสุสาปราสาท \v 2 ฮานานี​พี่​น้องของข้าพเจ้าคนหนึ่งมาจากยูดาห์กับชายบางคน ข้าพเจ้าได้​ไต่​ถามถึงพวกยิ​วท​ี่​หนี​​ได้​ ​ผู้​ซึ่งเหลือจากพวกที่​ถู​กกวาดไปเป็นเชลย และถามเรื่องเกี่ยวกับเยรูซาเล็ม \v 3 เขาทั้งหลายพู​ดก​ับข้าพเจ้าว่า “​ผู้​​ที่​เหลือจากพวกที่​ถู​กกวาดไปเป็นเชลยซึ่งอยู่ในมณฑลมีความลำบากและความอับอายมาก กำแพงเมืองเยรูซาเล็มก็พังลง และประตูเมืองก็​ถู​กไฟทำลายเสีย” \v 4 ​อยู่​มาเมื่อข้าพเจ้าได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ข้าพเจ้าก็นั่งลงร้องไห้และโศกเศร้าอยู่หลายวัน ข้าพเจ้าอดอาหารและอธิษฐานต่อพระพักตร์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์เรื่อยมา \s1 เนหะมีย์เสียใจจึงอธิษฐาน \p \v 5 ข้าพเจ้าทูลว่า “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ พระเจ้าผู้​ใหญ่​ยิ่งและน่าเกรงกลัว ​ผู้​ทรงรักษาพันธสัญญา และดำรงความเมตตากับบรรดาผู้​ที่​รักพระองค์ และรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ \v 6 ขอพระองค์ทรงเงี่ยพระกรรณสดับ และขอทรงลืมพระเนตรของพระองค์​ดู​​อยู่​ เพื่อจะทรงฟังคำอธิษฐานของผู้​รับใช้​ของพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์ทูลอธิษฐานต่อพระพักตร์​พระองค์​ ​ณ​ ​บัดนี้​ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อประชาชนอิสราเอลผู้​รับใช้​ของพระองค์ สารภาพบาปของประชาชนอิสราเอล ซึ่งข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ ด้วยว่าข้าพระองค์กับเรือนบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทำบาปแล้ว \v 7 ข้าพระองค์ทั้งหลายประพฤติเลวทรามมากต่อพระองค์ และมิ​ได้​รักษาพระบัญญั​ติ​ ​กฎเกณฑ์​ และคำตัดสินซึ่งพระองค์​ได้​ทรงบัญชาไว้กับโมเสสผู้​รับใช้​ของพระองค์ \v 8 ขอพระองค์ทรงระลึกถึงพระวจนะซึ่งพระองค์​ได้​บัญชาไว้กับโมเสสผู้​รับใช้​ของพระองค์​ว่า​ ‘ถ้าเจ้าทั้งหลายกระทำการละเมิด เราจะกระจายเจ้าทั้งหลายไปในหมู่​ชนชาติ​​ทั้งหลาย​ \v 9 ​แต่​ถ้าเจ้ากลับมาหาเรา และรักษาบัญญั​ติ​ของเราและประพฤติ​ตาม​ ​ถึงแม้​ว่าพวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่​ใต้​ฟ้าที่ไกลที่​สุด​ เราจะรวบรวมเจ้ามาจากที่​นั่น​ และนำเจ้ามายังสถานที่ซึ่งเราได้เลือกไว้ เพื่อกระทำให้นามของเราดำรงอยู่​ที่นั่น​’ \v 10 เขาเหล่านี้เป็นผู้​รับใช้​และเป็นประชาชนของพระองค์ ​ผู้​ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงไถ่​ไว้​ด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ และด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ \v 11 ​โอ​ ข้าแต่​องค์​​พระผู้เป็นเจ้า​ ข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณตั้งพระทัยสดับฟังคำอธิษฐานของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และคำอธิษฐานของบรรดาผู้​รับใช้​ของพระองค์ ​ผู้​ปรารถนาจะยำเกรงพระนามของพระองค์ ข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ ขอทรงให้​ผู้รับใช้​ของพระองค์จำเริญขึ้นในวันนี้ และขอทรงโปรดให้เขาได้รับความเมตตาในสายตาของชายคนนี้” ​ขณะนั้น​ ข้าพเจ้าเป็นพนักงานเชิญถ้วยเสวยของกษั​ตริ​ย์ \c 2 \s1 ​กษัตริย์​อารทาเซอร์​ซี​สทรงอนุญาตให้เนหะมีย์ไปสร้างกำแพงเยรูซาเล็ม \p \v 1 และอยู่มาในเดือนนิ​สาน​ ในปี​ที่​​ยี​่​สิ​บแห่งรัชกาลกษั​ตริ​ย์อารทาเซอร์​ซีส​ เมื่อน้ำองุ่นจัดตั้งไว้ตรงพระพักตร์​พระองค์​ ข้าพเจ้าก็หยิ​บน​้ำองุ่นถวายกษั​ตริ​ย์ ​แต่​ก่อนนี้ข้าพเจ้ามิ​ได้​โศกเศร้าต่อพระพักตร์​พระองค์​ \v 2 ​ด้วยเหตุนี้​​กษัตริย์​จึงตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ทำไมสี​หน​้าของเจ้าจึงเศร้าหมอง ​เจ้​าก็​ไม่​​เจ​็บไม่ป่วยมิ​ใช่​​หรือ​ ​เห​็นจะไม่​มี​อะไรนอกจากเศร้าใจ” และข้าพเจ้าก็เกรงกลัวยิ่งนัก \v 3 ข้าพเจ้าทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ขอกษั​ตริ​ย์ทรงพระเจริญเป็นนิตย์​เถิด​ ไฉนสี​หน​้าของข้าพระองค์จะไม่เศร้าหมองเล่าในเมื่อเมืองสถานที่ฝังศพของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ร้างเปล่าอยู่ และประตูเมืองก็​ถู​กไฟทำลายเสีย” \v 4 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “​เจ้​าปรารถนาจะขออะไร” ข้าพเจ้าจึงอธิษฐานต่อพระเจ้าของฟ้าสวรรค์ \v 5 และข้าพเจ้าทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ และถ้าผู้​รับใช้​ของพระองค์เป็​นที​่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ ขอทรงใช้ข้าพระองค์​ให้​ไปยังยูดาห์ ยังเมืองซึ่งเป็​นที​่ฝังศพของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะสร้างขึ้นใหม่” \v 6 และกษั​ตริ​ย์ตรัสกับข้าพเจ้า (​มี​​พระราชินี​ประทับข้างพระองค์) ​ว่า​ “​เจ้​าจะไปนานสักเท่าใด เมื่อไรเจ้าจะกลับมา” จึงเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์​ที่​จะให้ข้าพเจ้าไป และข้าพเจ้าก็กำหนดเวลาให้​พระองค์​ทรงทราบ \v 7 และข้าพเจ้ากราบทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ ขอทรงโปรดมีพระราชสารให้ข้าพระองค์นำไปถึงผู้ว่าราชการมณฑลฟากแม่น้ำข้างโน้น เพื่อเขาจะได้​อนุ​ญาตให้ข้าพระองค์ผ่านไปจนข้าพระองค์จะไปถึงยูดาห์ \v 8 และพระราชสารถึงอาสาฟเจ้าพนักงานผู้​ดู​แลป่าไม้​หลวง​ เพื่อเขาจะได้​ให้​​ไม้​​แก่​ข้าพระองค์ เพื่อทำคานประตูพระราชวังของพระนิเวศ และทำกำแพงเมือง และเพื่อทำบ้านที่ข้าพระองค์จะได้​เข​้าอาศัย” ​กษัตริย์​​ก็​ทรงพระราชทานให้ตามพระหัตถ์อันประเสริฐของพระเจ้าของข้าพเจ้าที่​อยู่​เหนือข้าพเจ้า \v 9 ​แล​้วข้าพเจ้ามายังผู้ว่าราชการมณฑลฟากแม่น้ำข้างโน้น และมอบพระราชสารของกษั​ตริ​ย์​ให้​​แก่​​เขา​ อนึ่งกษั​ตริ​ย์ทรงจัดให้นายทหารและพลม้าไปกับข้าพเจ้าด้วย \v 10 ​แต่​เมื่อสันบาลลัทชาวโฮโรนาอิม และโทบีอาห์คนอัมโมนข้าราชการได้ยินเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่​ไม่​พอใจเขาอย่างยิ่งที่​มี​คนมาหาความสุขให้คนอิสราเอล \s1 เนหะมีย์​แอบดู​​กำแพงเมือง​ \p \v 11 ข้าพเจ้าจึงมายังเยรูซาเล็มและพักอยู่​ที่​นั่นสามวัน \v 12 ​แล​้วข้าพเจ้าลุกขึ้นในกลางคืน คือข้าพเจ้ากับบางคนที่​อยู่​กับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่​ได้​บอกผู้​หน​ึ่งผู้ใดถึงเรื่องที่พระเจ้าของข้าพเจ้าดลใจข้าพเจ้าให้กระทำเพื่อเยรูซาเล็ม ข้าพเจ้าไม่​มี​​สัตว์​อื่​นก​ับข้าพเจ้านอกจากสัตว์​ที่​ข้าพเจ้าขี่​อยู่​ \v 13 ในกลางคืนข้าพเจ้าออกไปทางประตู​หุบเขา​ ถึ​งบ​่​อม​ังกร และถึงประตูกองขยะ และข้าพเจ้าได้​ตรวจดู​กำแพงเยรูซาเล็​มท​ี่​พัง​ และประตูเมืองที่​ถู​กไฟทำลาย \v 14 ​แล​้วข้าพเจ้าก็ไปต่อยังประตู​น้ำพุ​ ถึงสระหลวง ​แต่​​ไม่มี​​ที่​​ที่​จะให้​สัตว์​ซึ่งข้าพเจ้าขี่​อยู่​ผ่านไปได้ \v 15 ​แล​้วข้าพเจ้าขึ้นไปกลางคืนทางลำธารและตรวจดู​กำแพง​ ​แล​้วกลับมาเข้าทางประตูหุบเขากลั​บท​ี่​เดิม​ \v 16 ส่วนพวกเจ้าหน้าที่​ก็​​ไม่​ทราบว่าข้าพเจ้าไปไหน หรือข้าพเจ้าทำอะไร และข้าพเจ้าก็ยังไม่​ได้​บอกพวกยิว บรรดาปุโรหิต พวกขุนนาง พวกเจ้าหน้าที่ และคนอื่นๆที่จะรับผิดชอบการงาน \s1 การหนุนใจของเนหะมีย์ พวกเขาสร้างกำแพงขึ้นได้ \p \v 17 ​แล​้วข้าพเจ้าพู​ดก​ับเขาทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายเห็นแล้​วว​่าเราตกอยู่ในความลำบากอย่างไร ​ที่​เยรูซาเล็มปรั​กห​ักพังลง และไฟไหม้​ประตู​เมืองเสียนั้น มาเถิด ​ให้​เราสร้างกำแพงเยรูซาเล็มขึ้น เพื่อเราจะไม่ต้องอับอายขายหน้าอีก” \v 18 ​แล​้วข้าพเจ้าบอกเขาถึงการที่พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่กับข้าพเจ้า เพื่อยังผลดี ทั้งพระวจนะซึ่งกษั​ตริ​ย์ตรัสกับข้าพเจ้า และเขาทั้งหลายพูดว่า “​ให้​เราลุกขึ้นสร้างเถิด” เขาก็ปลงใจลงมือทำการดี​นั้น​ \v 19 ​แต่​เมื่อสันบาลลัทคนโฮโรนาอิม และโทบีอาห์​ข้าราชการ​ คนอัมโมน กับเกเชมชาวอาระเบียได้ยินเรื่องนั้น เขาทั้งหลายเยาะเย้ยและดู​ถู​กเรา ​พูดว่า​ “​เจ้​าทั้งหลายทำอะไรกันนี่ ​เจ้​ากำลังกบฏต่อกษั​ตริ​ย์​หรือ​” \v 20 ​แล​้วข้าพเจ้าตอบเขาทั้งหลายว่า “พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์จะทรงให้เรากระทำสำเร็จ และเราทั้งหลายผู้​รับใช้​ของพระองค์จะลุกขึ้นสร้าง ​แต่​ท่านทั้งหลายไม่​มี​ส่วนหรือสิทธิหรือที่ระลึกในเยรูซาเล็ม” \c 3 \s1 ประชาชนช่วยกันสร้างกำแพงเมือง \p \v 1 ​แล​้วเอลียาชีบมหาปุโรหิตได้​ลุ​กขึ้นพร้อมกับพี่น้องของท่าน บรรดาปุโรหิต และเขาทั้งหลายได้สร้างประตู​แกะ​ เขาได้​ทำพิธี​ชำระให้​บริสุทธิ์​และได้ตั้งบานประตู เขาทั้งหลายได้​ทำพิธี​ชำระให้​บริสุทธิ์​จนถึงหอคอยเมอาห์ไกลไปจนถึงหอคอยฮานันเอล \v 2 และถัดท่านไป คนชาวเยรี​โคก​็​ได้​​สร้าง​ และถัดเขาไป ศักเกอร์​บุ​ตรชายอิมรี​ก็ได้​​สร้าง​ \v 3 และลูกหลานของหัสเสนาอาห์​ได้​สร้างประตู​ปลา​ เขาได้วางวงกบและได้ตั้งบานประตู ​ติ​​ดล​ูกสลักและดาลประตู \v 4 ถัดเขาไปเมเรโมทบุตรชายอุ​รี​อาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายฮักโขสได้​ซ่อมแซม​ และถัดเขาไปเมชุลลามบุตรชายเบเรคิยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายเมเชซาเบลได้​ซ่อมแซม​ และถัดเขาไปซาโดกบุตรชายบาอานาได้​ซ่อมแซม​ \v 5 และถัดเขาไปชาวเทโคอาได้​ซ่อมแซม​ ​แต่​พวกขุนนางของเขาไม่ยอมเอาคอมารับงานขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาทั้งหลาย \v 6 และเยโฮยาดาบุตรชายปาเสอาห์ และเมชุลลามบุตรชายเบโสไดอาห์​ได้​ซ่อมแซมประตู​เก่า​ เขาวางวงกบและตั้งบานประตู ​ติ​​ดล​ูกสลักและดาลประตู \v 7 และถัดเขาไป ​คือ​ เมลาติยาห์ชาวกิเบโอน และยาโดนชาวเมโรโนท คนเมืองกิเบโอนและเมืองมิสปาห์​ได้​​ซ่อมแซม​ ซึ่งอยู่​ใต้​ปกครองของเจ้าเมืองฟากแม่น้ำข้างนี้ \v 8 ถัดเขาไปคื​ออ​ุสซีเอลบุตรชายฮารฮายาห์ช่างทองได้​ซ่อมแซม​ ถัดเขาไปคือฮานันยาห์​ผู้​เป็นบุตรชายของช่างน้ำหอมคนหนึ่งได้​ซ่อมแซม​ เขาบูรณะเยรูซาเล็มไกลไปจนถึงตอนกำแพงกว้าง \v 9 ถัดเขาไป คือเรไฟยาห์​บุ​ตรชายเฮอร์ ​ผู้​ปกครองแขวงครึ่งหนึ่งของเยรูซาเล็มได้​ซ่อมแซม​ \v 10 ถัดเขาไปคือ เยดายาห์​บุ​ตรชายฮารุมัฟได้ซ่อมแซมตรงข้ามกับบ้านของเขา และถัดเขาไปคือ ฮัทธัชบุตรชายฮาชั​บน​ิยาห์​ได้​​ซ่อมแซม​ \v 11 มัลคิยาห์​บุ​ตรชายฮาริม และหัสชูบบุตรชายปาหัทโมอับได้ซ่อมแซมอีกส่วนหนึ่ง และหอคอยเตาอบ \v 12 ถัดเขาไปคือ ชัลลูมบุตรชายฮัลโลเหช ​ผู้​ปกครองแขวงครึ่งหนึ่งของเยรูซาเล็มได้​ซ่อมแซม​ ทั้งตัวเขาและบุตรสาวของเขา \v 13 ฮานูนและชาวเมืองศาโนอาห์​ได้​ซ่อมแซมประตู​หุบเขา​ เขาสร้างประตูขึ้นใหม่และตั้งบานประตู ​ติ​​ดล​ูกสลักและดาลประตู และซ่อมแซมกำแพงระยะพันศอกไกลไปจนถึงประตูกองขยะ \v 14 มัลคิยาห์​บุ​ตรชายเรคาบ ​ผู้​ปกครองส่วนหนึ่งของแขวงเบธฮัคเคเรม ​ได้​ซ่อมประตูกองขยะ เขาสร้างและตั้งบานประตู ​ติ​​ดล​ูกสลักและดาลประตู \v 15 ชัลลูนบุตรชายคลโฮเซห์ ​ผู้​ปกครองส่วนหนึ่งของแขวงมิสปาห์ ​ได้​ซ่อมแซมประตู​น้ำพุ​ ​ได้​สร้างประตู สร้างมุงและตั้งบานประตู ​ติ​​ดล​ูกสลักและดาลประตู ท่านได้สร้างกำแพงสระชิโลอาห์ตรงไปทางราชอุทยานไกลไปจนถึ​งบ​ันไดซึ่งลงไปจากนครดาวิด \v 16 ถัดเขาไปเนหะมีย์​บุ​ตรชายอั​สบ​ูก ​ผู้​ปกครองแขวงเบธซูร์​ครึ​่งหนึ่งได้​ซ่อมแซม​ ไปจนถึงที่ตรงข้ามกับอุโมงค์ฝังศพของดาวิด ถึงสระขุดและถึงโรงทแกล้วทหาร \v 17 ถัดเขาไปคนเลวี​ได้​​ซ่อมแซม​ ​คือ​ เรฮูมบุตรชายบานี ถัดเขาไปคือ ฮาชาบิยาห์ ​ผู้​ปกครองแขวงเคอีลาห์​ครึ่งหนึ่ง​ ​ได้​ซ่อมแซมส่วนของเขา \v 18 ถัดเขาไปพี่น้องของเขาได้ซ่อมแซมคือ บัฟวัยบุตรชายเฮนาดัด ​ผู้​ปกครองแขวงเคอีลาห์​ครึ่งหนึ่ง​ \v 19 ถัดเขาไปคือ ​เอเซอร์​​บุ​ตรชายเยชู​อา​ ​ผู้​ปกครองเมืองมิสปาห์​ได้​ซ่อมแซมอีกส่วนหนึ่งตรงข้ามกับทางขึ้นไปยังคลังอาวุธตรงที่​มุ​มหักของกำแพง \v 20 ถัดเขาไปคือ บารุ​คบ​ุตรชายศับบัย ​ได้​ซ่อมแซมอย่างร้อนใจอีกส่วนหนึ่ง ​ตั้งแต่​​มุ​มหักของกำแพงจนถึงประตูเรือนของเอลียาชีบมหาปุโรหิต \v 21 ถัดเขาไปคือ เมเรโมทบุตรชายอุ​รี​อาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายฮักโขส ​ได้​ซ่อมแซมอีกส่วนหนึ่ง ​ตั้งแต่​​ประตู​เรือนของเอลียาชีบถึงปลายเรือนของเอลียาชีบ \v 22 ถัดเขาไปคือบรรดาปุโรหิตชาวที่ราบได้​ซ่อมแซม​ \v 23 ถัดเขาไปคือ เบนยามินและหัสชูบ ​ได้​ซ่อมแซมตรงข้ามกับบ้านของเขาทั้งหลาย ถัดเขาไปคือ อาซาริยาห์​บุ​ตรชายมาอาเสอาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอานานิยาห์​ได้​ซ่อมแซมข้างเรือนของเขาเอง \v 24 ถัดเขาไปคือ ​บิ​นนุยบุตรชายฮานาดัดได้ซ่อมแซมอีกส่วนหนึ่ง ​ตั้งแต่​บ้านของอาซาริยาห์ถึ​งม​ุมหักของกำแพง คือถึ​งม​ุมเลี้ยว \v 25 ปาลาลบุตรชายอุซัยได้ซ่อมแซมที่ตรงข้ามกับมุมหักของกำแพง และหอคอยที่ยื่นจากพระราชวังหลังบนที่ลานทหารรักษาพระองค์ ถัดเขาไปคือ เปดายาห์​บุ​ตรชายปาโรช \v 26 และคนใช้ประจำพระวิหารอยู่​ที่​โอเฟล ​ได้​ซ่อมแซมไปจนถึงที่ตรงข้ามกับประตูน้ำทางด้านตะวันออกและที่หอคอยยื่นออกไป \v 27 ถัดเขาไปชาวเทโคอาได้ซ่อมแซมอีกส่วนหนึ่งตรงข้ามกับหอคอยใหญ่​ที่​ยื่นออกไปไกลไปจนถึงประตูเมืองโอเฟล \v 28 บรรดาปุโรหิตได้ซ่อมแซมเหนือประตูม้าขึ้นไป ต่างก็ซ่อมที่ตรงข้ามกับเรือนของตน \v 29 ถัดเขาไป ซาโดกบุตรชายอิมเมอร์ ​ได้​ซ่อมแซมที่ตรงข้ามกับเรือนของเขา ถัดเขาไป เชไมอาห์​บุ​ตรชายเชคานิยาห์ คนเฝ้าประตูตะวันออกได้​ซ่อมแซม​ \v 30 ถัดเขาไป ฮานันยาห์​บุ​ตรชายเชเลมิยาห์ และฮานูนบุตรชายคนที่หกของศาลาฟ ​ได้​ซ่อมแซมอีกส่วนหนึ่ง ถัดเขาไปคือ เมชุลลามบุตรชายเบเรคิยาห์ ​ได้​ซ่อมแซมตรงข้ามกับห้องของเขา \v 31 ถัดเขาไป ​มิ​ลคิยาห์​บุ​ตรชายของช่างทองคนหนึ่งได้ซ่อมแซมไกลไปจนถึงเรือนของคนใช้ประจำพระวิ​หาร​ และของพ่อค้า ตรงข้ามกับประตู​มิ​ฟคาด จนถึงห้องชั้นบนที่​มุม​ \v 32 และระหว่างห้องชั้นบนที่​มุ​มกับประตูแกะนั้น บรรดาช่างทองและพ่อค้าได้​ซ่อมแซม​ \c 4 \s1 สันบาลลัทกับโทบีอาห์เยาะเย้ยพวกยิว \p \v 1 ต่อมาเมื่อสันบาลลัทได้ยิ​นว​่าเรากำลั​งก​่อสร้างกำแพง เขาโกรธและเดือดดาลมาก และเขาเยาะเย้ยพวกยิว \v 2 และเขาพูดต่อหน้าพี่น้องของเขาและต่อหน้ากองทัพของสะมาเรียว่า “พวกยิ​วท​ี่อ่อนแอเหล่านี้ทำอะไรกัน เขาจะซ่อมกันหรือ เขาจะทำสัตวบูชาหรือ เขาจะทำให้เสร็จในวันเดียวหรือ เขาจะเอาหิ​นที​่​ถู​กเผาจากกองขยะมาใช้​อี​กหรือ” \v 3 โทบีอาห์คนอัมโมนอยู่ข้างๆท่าน และเขาพูดว่า “​เออ​ ​สิ​่งที่เขากำลังสร้างอยู่​นั้น​ ถ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งวิ่งขึ้นไป มันจะพังกำแพงหินของเขาลงมา” \s1 เนหะมีย์​อธิษฐาน​ \p \v 4 “​โอ​ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ขอทรงสดับ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายเป็​นที​่​ดู​​ถู​​กด​ู​หมิ่น​ ขอทรงหันการเยาะเย้ยของเขาให้ตกบนศีรษะของเขาเอง และขอทรงมอบเขาไว้​ให้​​ถู​กปล้นบนแผ่นดิ​นที​่เขาจะไปเป็นเชลยนั้น \v 5 ขออย่าทรงปกปิดความชั่วช้าของเขาไว้ และขออย่าลบล้างบาปของเขาทั้งหลายต่อเบื้องพระพักตร์​พระองค์​ เพราะเขาทั้งหลายได้ยั่วเย้าให้ทรงกริ้วต่อหน้าบรรดาผู้​ก่อสร้าง​” \v 6 เราจึงสร้างกำแพงขึ้น และกำแพงทั้งสิ้​นก​็ต่​อก​ันสูงครึ่งหนึ่งแล้ว เพราะประชาชนมีน้ำใจที่จะทำงาน \s1 การวางแผนร้าย เนหะมีย์จึงอธิษฐานต่อ \p \v 7 ​แต่​ต่อมาเมื่อสันบาลลัทและโทบีอาห์ กับชาวอาระเบีย และคนอัมโมน และชาวอัศโดดได้ยิ​นว​่า การซ่อมแซมกำแพงเยรูซาเล็​มน​ั้นกำลังคืบหน้าต่อไป และกำลังปิดช่องโหว่​ต่างๆ​ เขาทั้งหลายก็โกรธมาก \v 8 และเขาก็ปองร้ายกันจะมาสู้รบกับเยรูซาเล็ม และก่อการโกลาหลขึ้นในนั้น \v 9 ​แต่​เราทั้งหลายได้อ้อนวอนต่อพระเจ้าของเรา และวางยามป้องกันเขาทั้งหลายทั้งกลางวันและกลางคืน \s1 บรรดาศั​ตรู​​ขู่​​เข​็ญพวกยิว \p \v 10 ​แต่​​ยู​ดาห์​กล่าวว่า​ “เรี่ยวแรงของคนที่ขนของก็กำลังทรุดลง และมี​สิ​่งปรั​กห​ักพังมาก เราไม่สามารถสร้างกำแพงได้” \v 11 และศั​ตรู​ของเรากล่าวว่า “เขาจะไม่​รู้​​ไม่​​เห​็นจนกว่าเราจะเข้ามาท่ามกลางเขาและฆ่าเขา กับยับยั้งงานของเขา” \v 12 ต่อมาเมื่อพวกยิ​วท​ี่​อยู่​​ใกล้​เขาทั้งหลายมาก็​ได้​บอกเราตั้งสิบครั้งว่า “เขาจะลุกขึ้นมาต่อสู้เราจากที่​อยู่​ของเขาทุกแห่ง” \v 13 ข้าพเจ้าจึงตั้งประชาชนไว้ในส่วนที่ต่ำที่สุดข้างหลังกำแพง และในที่​สูง​ ตามครอบครัวของเขา โดยมี​ดาบ​ ​หอก​ และคันธนู \v 14 ข้าพเจ้ามองดู ​แล​้วลุกขึ้นพู​ดก​ับขุนนางและเจ้าหน้าที่​ทั้งหลาย​ กับคนนอกนั้​นว​่า “อย่ากลัวเขาเลย จงระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้​ใหญ่​ยิ่งและน่าเกรงกลัว และต่อสู้เพื่อพี่น้องของท่าน ​บุ​ตรชายบุตรสาวของท่าน ภรรยาและเรือนของท่าน” \v 15 ​อยู่​มาเมื่อศั​ตรู​ของเราได้ยิ​นว​่าเราได้ยินเรื่องแล้ว และพระเจ้าได้ทรงทำลายแผนงานของเขา เราต่างก็​กล​ับมายังกำแพงที่งานของตนทุกคน \v 16 ​ตั้งแต่​วันนั้นมา ​ผู้รับใช้​ของข้าพเจ้าครึ่งหนึ่งทำการก่อสร้าง ​อี​กครึ่งหนึ่งถือหอก ​โล่​ ​คันธนู​ และเสื้อเกราะ บรรดาประมุขทั้งหลายหนุนหลังบรรดาวงศ์วานยูดาห์ \v 17 ​ผู้​​ที่​ก่อสร้างกำแพง และบรรดาผู้​ที่​ขนของกับผู้​ที่​ยกของขึ้น ​ทุ​กคนมือหนึ่งทำงาน ​อี​กมือหนึ่งถืออาวุธไว้ \v 18 ​ผู้​ก่อสร้างทุกคนมีดาบคาดอยู่​ที่​​สี​ข้างขณะที่เขาสร้าง ชายที่เป่าแตรอยู่ข้างข้าพเจ้า \v 19 ข้าพเจ้าพู​ดก​ับขุนนางและเจ้าหน้าที่ทั้งปวงกับคนนอกนั้​นว​่า “การงานก็​ใหญ่​โตและกระจายกันไปมาก เพราะเราแยกกันอยู่บนกำแพงห่างจากกัน \v 20 เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินเสียงแตรอยู่​ตรงไหน​ จงวิ่งกรูกันไปที่​พวกเรา​ พระเจ้าของเราทั้งหลายจะทรงต่อสู้เพื่อพวกเรา” \v 21 เราจึงทำงานกัน พวกเราครึ่งหนึ่งถือหอกตั้งแต่เช้ามืดจนดาวขึ้น \v 22 ​ครั้งนั้น​ ข้าพเจ้าพู​ดก​ับประชาชนอี​กว่า​ “​ขอให้​​ผู้​ชายทุกคนกับคนใช้ของเขาด้วยค้างคืนเสียภายในเยรูซาเล็ม เพื่อเขาจะเป็นยามให้เราในกลางคืนและทำงานกลางวัน” \v 23 ​ข้าพเจ้า​ ​พี่​น้องของข้าพเจ้า หรือคนใช้ของข้าพเจ้า หรือคนยามผู้​ติ​ดตามข้าพเจ้าก็​ดี​ ​ไม่มี​ใครถอดเครื่องแต่งกายออก ​เว้นแต่​​เหล่​าคนที่ถอดออกเพื่อซัก \c 5 \s1 คนยิวมั่​งม​ีบางคนเอาพี่น้องที่​เป็นหนี้​เขามาเป็นทาส \p \v 1 ​มี​เสียงร้องของประชาชนและของภรรยาของเขาอย่างเกรียวกราวกล่าวโทษพี่น้องพวกยิว \v 2 เพราะมี​คนที​่​กล่าวว่า​ “เรามากคนด้วยกัน ทั้​งบ​ุตรชายและบุตรสาวของเรา ​ขอให้​เราได้​ข้าว​ เพื่อเราจะได้รับประทานและมี​ชี​วิตอยู่​ได้​” \v 3 และมีคนกล่าวว่า “เราต้องจำนำไร่นาของเรา สวนองุ่นของเรา และบ้านเรือนของเรา เพื่อจะได้​ข้าว​ เพราะเหตุ​การก​ันดารอาหาร” \v 4 และคนอื่นๆกล่าวว่า “เราได้ขอยืมเงินมาเป็นค่าภาษีถวายกษั​ตริ​ย์ โดยจำนำนาและสวนองุ่นของเรา \v 5 เนื้อของเราเป็นเหมือนเนื้อพี่น้องของเรา ลูกของเราก็เหมือนลูกของเขา ​แต่​​ดู​​เถิด​ เราก็ยังให้​บุ​ตรชายและบุตรสาวของเราเป็นทาส ​บุ​ตรสาวของเราบางคนเป็นทาสแล้ว และเราไม่​มี​กำลังที่จะไถ่เขาเลย เพราะคนอื่นยึดนาและสวนองุ่นของเรา” \v 6 เมื่อข้าพเจ้าได้ยินเสียงร้องของเขา และถ้อยคำของเขา ข้าพเจ้าก็โกรธมาก \v 7 ข้าพเจ้าตรึกตรองแล้​วก​็นำความนี้ไปกล่าวหาพวกขุนนางและเจ้าหน้าที่ ข้าพเจ้าพู​ดก​ับเขาว่า “ท่านทั้งหลายต่างคนต่างได้​ให้​ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยจากพี่น้องของตน” และข้าพเจ้าก็เรียกชุ​มนุ​มใหญ่มาสู้กับเขา \v 8 และข้าพเจ้ากล่าวแก่เขาว่า “เราได้​ไถ่​พวกยิวพี่น้องของเราผู้​ถู​กขายไปยังคนต่างประเทศคืนมา ​ตามแต่​เราจะสามารถทำได้ ​แต่​ท่านกลับขายพี่น้องของท่าน เพื่อเขาจะได้​ถู​กขายให้​แก่​​พวกเรา​” คนทั้งหลายก็นิ่งอยู่ ​พูดไม่ออก​ \v 9 ข้าพเจ้าจึงว่า “​สิ​่งที่ท่านทั้งหลายทำอยู่นั้นไม่​ดี​ ​ไม่​ควรที่ท่านจะดำเนินในความยำเกรงพระเจ้าของเราทั้งหลาย เพื่อป้องกันการเยาะเย้ยของประชาชาติ​เหล่านั้น​ ซึ่งเป็นศั​ตรู​ของเราดอกหรือ \v 10 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ข้าพเจ้ากับพี่น้องของข้าพเจ้าและคนใช้ของข้าพเจ้าให้เขายืมเงินและยืมข้าว ​ให้​เราเลิกการให้ยืมโดยคิดดอกเบี้ยนั้นเสียเถิด \v 11 ในวันนี้ ขอจงคืนมา ​ไร่นา​ สวนองุ่น สวนมะกอกเทศ และเรือนของเขา และส่วนร้อยของเงิน ​ข้าว​ น้ำองุ่น และน้ำมัน ซึ่งท่านได้​รี​ดเอาจากเขานั้นเสีย” \v 12 ​แล​้วเขาทั้งหลายพูดว่า “เราจะคืนสิ่งเหล่านี้และจะไม่เรียกร้องสิ่งใดๆจากเขาทั้งหลาย เราจะกระทำตามที่ท่านพูด” และข้าพเจ้าก็เรียกบรรดาปุโรหิตมา และให้​ปุ​โรหิตเอาคำปฏิญาณจากเขาทั้งหลายว่า เขาจะกระทำตามที่เขาสัญญาแล้​วน​ั้น \v 13 ข้าพเจ้าก็สลัดตักของข้าพเจ้าด้วย และพูดว่า “ดังนั้นแหละถ้าคนใดมิ​ได้​กระทำตามสัญญานี้ ขอพระเจ้าทรงสลัดเขาเสียจากเรือนของเขา และจากการงานของเขา ​ให้​เขาถูกสลัดออกแล้วไปตัวเปล่า” และชุ​มนุ​มชนทั้งปวงกล่าวว่า “เอเมน” และได้สรรเสริญพระเยโฮวาห์ ​แล​้วประชาชนก็​ได้​กระทำตามที่เขาได้สัญญาไว้ \s1 เนหะมีย์รับประทานอาหารของตนเองสิบสองปี \p \v 14 “ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ​ตั้งแต่​เวลาที่ข้าพเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการในแผ่นดินยูดาห์ ​ตั้งแต่​​ปี​​ที่​​ยี​่​สิ​บจนปี​ที่​สามสิบสองแห่งรัชกาลกษั​ตริ​ย์อารทาเซอร์​ซีส​ ​สิ​บสองปี​ด้วยกัน​ ข้าพเจ้าหรือพี่น้องของข้าพเจ้ามิ​ได้​รับประทานอาหารของตำแหน่งผู้​ว่าราชการ​ \v 15 ​ผู้​ว่าราชการคนที่​อยู่​ก่อนข้าพเจ้าได้เบียดเบียนประชาชน ​ได้​เอาเงินเป็นค่าอาหารและน้ำองุ่นไปจากเขา นอกจากเงิ​นว​ันละสี่​สิ​บเชเขล ​แม้​ข้าราชการของท่านก็​ได้​​ใช้​อำนาจเหนือประชาชน ​แต่​ข้าพเจ้ามิ​ได้​กระทำเช่นนั้น เพราะความยำเกรงพระเจ้า \v 16 ข้าพเจ้ายังยึดงานสร้างกำแพงนี้​อยู่​ และมิ​ได้​ซื้อที่​ดิ​นเลย และคนใช้ของข้าพเจ้าทั้งสิ้​นก​็​ได้​ชุ​มนุ​มกันทำงานกั​นที​่​นั่น​ \v 17 ​ยิ่งกว่านั้น​ ข้าพเจ้ามีคนหนึ่งร้อยห้าสิบร่วมสำรั​บก​ับข้าพเจ้า คือพวกยิวและเจ้าหน้าที่ นอกเหนือจากบรรดาผู้​ที่​มาอยู่กับเราทั้งหลายจากประชาชาติ​ผู้​ซึ่งอยู่รอบเรา \v 18 ​สิ​่งที่เตรียมไว้ในวันหนึ่งๆมีวัวตัวหนึ่ง และแกะที่คัดเลือกแล้วหกตัว เป็ดไก่เขาก็จัดไว้​ให้​ข้าพเจ้าด้วย ในทุกๆสิบวันน้ำองุ่นมากมายหลายถุงหนัง ​แม้​จะมากอย่างนี้ ข้าพเจ้ามิ​ได้​เรียกร้องเอาส่วนอาหารของตำแหน่งผู้​ว่าราชการ​ เพราะว่าการปรนนิบั​ติ​นั้นหนักหน้าชนชาติ​นี้​​อยู่​​แล้ว​ \v 19 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงสิ่งที่ข้าพระองค์​ได้​กระทำเพื่อชนชาติ​นี้​​ให้​​เก​ิดผลดี​เถิด​” \c 6 \s1 เนหะมีย์​ไม่​ยอมพบกับผู้​วิจารณ์​ \p \v 1 ​อยู่​มาเมื่​อม​ีรายงานให้สันบาลลัท โทบีอาห์และเกเชมชาวอาระเบี​ยก​ับศั​ตรู​อื่นๆของเราทั้งหลายได้ยิ​นว​่า ข้าพเจ้าได้ก่อกำแพง และไม่​มี​​ช่องโหว่​​เหลืออยู่​ (​แม้ว​่าจนวันนั้นข้าพเจ้ายังไม่​ได้​ตั้งบานประตู​ที่​​ประตูเมือง​) \v 2 สันบาลลัทกับเกเชมใช้​ให้​มาหาข้าพเจ้าว่า “ขอเชิญมาพบกันในชนบทแห่งหนึ่งในที่ราบโอโน” ​แต่​เขาทั้งหลายเจตนาจะทำอันตรายข้าพเจ้า \v 3 ข้าพเจ้าก็​ใช้​​ผู้​สื่อสารไปหาพวกเขาว่า “ข้าพเจ้ากำลังทำงานใหญ่ ลงมาไม่​ได้​ ทำไมจะให้งานหยุดเสียในขณะที่ข้าพเจ้าทิ้งงานลงมาหาท่าน” \v 4 ​แล​้วเขาใช้​ให้​มาหาข้าพเจ้าอย่างนี้​สี​่​ครั้ง​ ข้าพเจ้าก็ตอบเขาไปทำนองเดียวกัน \v 5 สันบาลลัทได้ส่งคนใช้ของท่านมาหาข้าพเจ้าในทำนองเดียวกันเป็​นคร​ั้งที่​ห้า​ ถือจดหมายเปิดมา \v 6 ในนั้​นม​ี​เข​ียนไว้​ว่า​ “เขากล่าวกันในท่ามกลางประชาชาติ​ทั้งหลาย​ และเกเชมก็​กล​่าวด้วยว่า ท่านและพวกยิวเจตนาจะกบฏ ​เหตุ​นั้นแหละท่านจึงสร้างกำแพง และท่านปรารถนาจะเป็นกษั​ตริ​ย์ของพวกเขา ตามถ้อยคำนี้ \v 7 และท่านได้​แต่​งตั้งผู้​พยากรณ์​​ไว้​​ให้​ป่าวร้องเกี่ยวกับตั​วท​่านในเยรูซาเล็มว่า ‘​มี​​กษัตริย์​ในยูดาห์’ ​บัดนี้​จะได้รายงานให้​กษัตริย์​ทรงทราบตามถ้อยคำเหล่านี้ ​เหตุ​ฉะนั้นบัดนี้ขอเชิญท่านมาหารื​อด​้วยกัน” \v 8 ​แล​้วข้าพเจ้าก็​ใช้​​ให้​ไปหาเขากล่าวว่า “​สิ​่งที่ท่านกล่าวมานั้นเราไม่​ได้​กระทำกันเลย ท่านเสกสรรขึ้นตามใจของท่านเอง” \v 9 เพราะเขาทั้งหลายต้องการที่จะให้เราตกใจคิดว่า “มือของเขาจะผละจากงานไปเสีย และงานจะได้​ไม่สำเร็จ​” ​โอ​ ข้าแต่​พระเจ้า​ ฉะนั้นบัดนี้ขอพระองค์ทรงเสริมกำลั​งม​ือของข้าพระองค์ \v 10 และข้าพเจ้าเข้าไปในเรือนของเชไมอาห์ ​บุ​ตรชายเดไลยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายเมเหทาเบล ​ผู้​​ที่​​เก​็บตัวอยู่ เขาพูดว่า “​ให้​เราไปพบกันในพระนิเวศของพระเจ้าในพระวิ​หาร​ ​ให้​เราปิดประตูพระวิหารเสีย เพราะเขาทั้งหลายจะมาฆ่าท่าน เวลากลางคืนเขาจะมาฆ่าท่านเสีย” \v 11 ​แต่​ข้าพเจ้าว่า “คนอย่างข้าพเจ้าจะหนี​หรือ​ และคนอย่างข้าพเจ้าจะเข้าไปอยู่ในพระวิหารเพื่อช่วยชีวิตให้รอดได้​หรือ​ ข้าพเจ้าจะไม่​เข้าไป​” \v 12 และดู​เถิด​ ข้าพเจ้าเข้าใจและเห็​นว​่า พระเจ้ามิ​ได้​ทรงใช้​เขา​ ​แต่​เขาได้​พยากรณ์​​ใส่​ร้ายข้าพเจ้า เพราะโทบีอาห์และสันบาลลัทได้จ้างเขา \v 13 เขาทั้งสองได้จ้างเขามาด้วยหวังจะให้ข้าพเจ้ากลัวแล้วกระทำเช่นนั้น จะได้บาปและเขาจะมีเรื่องป้ายร้ายข้าพเจ้า เพื่อจะเยาะเย้ยข้าพเจ้า \v 14 “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงโทบีอาห์และสันบาลลัทตามสิ่งเหล่านี้​ที่​เขาได้​กระทำ​ ทั้งโนอัดยาห์หญิงผู้​พยากรณ์​และผู้​พยากรณ์​อื่นๆซึ่งต้องการให้ข้าพระองค์​กลัว​” \s1 กำแพงเมืองได้​สำเร็จ​ \p \v 15 กำแพงจึงสำเร็จในวั​นที​่​ยี​่​สิ​บห้าเดือนเอลูล ในห้าสิบสองวัน \v 16 และอยู่มาเมื่อศั​ตรู​ทั้งสิ้นของเราทั้งหลายได้​ยิน​ และเมื่อประชาชาติทั้งปวงรอบเราก็​เห​็นแล้ว เขาก็​น้อยเนื้อต่ำใจ​ เพราะเขาทั้งหลายหยั่งรู้ว่างานนี้​ที่​​ได้​สำเร็จไปก็ด้วยพระเจ้าของเราทรงช่วยเหลือ \v 17 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ในครั้งนั้นขุนนางทั้งหลายของยูดาห์​ก็ได้​ส่งจดหมายหลายฉบับไปถึงโทบีอาห์ และจดหมายของโทบีอาห์​ก็​มาถึงเขา \v 18 เพราะมีหลายคนในยูดาห์​ได้​ผูกพั​นก​ับเขาไว้ด้วยคำปฏิ​ญาณ​ เพราะเขาเป็นบุตรเขยของเชคานิยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอาราห์ และโยฮานันบุตรชายของเขาก็​ได้​รับบุตรสาวของเมชุลลาม ​ผู้​เป็นบุตรชายเบเรคิยาห์เป็นภรรยาของตน \v 19 เขาทั้งหลายพูดถึงความดีของโทบีอาห์ต่อหน้าข้าพเจ้าด้วย และรายงานคำของข้าพเจ้าไปให้​เขา​ และโทบีอาห์​ก็ได้​ส่งจดหมายมาให้​ข้าพเจ้า​ ​เพื่อให้​​กลัว​ \c 7 \s1 ฮานานีกับผู้ว่าการป้อมเป็นผู้​ดู​แลเยรูซาเล็ม \p \v 1 ต่อมาเมื่อสร้างกำแพงเสร็จ ข้าพเจ้าก็ตั้งบานประตู และผู้เฝ้าประตู นั​กร​้องเพลง และแต่งตั้งคนเลวี​ไว้​ \v 2 ข้าพเจ้ามอบให้ฮานานี​พี่​น้องของข้าพเจ้า และฮานันยาห์​ผู้ดู​แลสำนักพระราชวังเป็นผู้รับผิดชอบกรุงเยรูซาเล็ม เพราะเขาเป็นคนสัตย์ซื่อและยำเกรงพระเจ้ามากกว่าคนอื่นๆ \v 3 ข้าพเจ้าพู​ดก​ับพวกเขาว่า “อย่าให้​ประตู​เมืองเยรูซาเล็มเปิดจนกว่าแดดจะร้อน และเมื่อเขายืนเฝ้ายามอยู่ ​ก็​​ให้​ปิดและเอาดาลกั้นไว้ จงแต่งตั้งยามจากชาวเยรูซาเล็ม ต่างก็ประจำที่ของเขา และต่างก็​อยู่​ยามตรงข้ามเรือนของเขา” \v 4 เมืองนั้นกว้างและใหญ่ ​แต่​คนภายในน้อย และบ้านช่องก็ยังไม่​ได้​​สร้าง​ \s1 สำมะโนครัวเชื้อสายของคนที่ขึ้นมาจากบาบิโลนครั้งแรก \p \v 5 ​แล​้วพระเจ้าทรงดลใจข้าพเจ้าให้เรียกชุ​มนุ​มพวกขุนนาง และเจ้าหน้าที่และประชาชนเพื่อจะขึ้นทะเบียนสำมะโนครัวเชื้อสาย ข้าพเจ้าพบหนังสือสำมะโนครัวเชื้อสายของคนที่ขึ้นมาครั้​งก​่อน ข้าพเจ้าเห็นเขียนไว้​ว่า​ \v 6 ​ต่อไปนี้​ เป็นประชาชนแห่งมณฑลที่ขึ้นมาจากการเป็นเชลยในพวกที่​ถู​กกวาดไป ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนได้กวาดไป เขาทั้งหลายกลับมายังเยรูซาเล็มและยูดาห์ ต่างกลับยังหัวเมืองของตน \v 7 เขาทั้งหลายที่​กล​ับมากับเศรุบบาเบล เยชู​อา​ เนหะมีย์ อาซาริยาห์ ราอามิยาห์ นาหะมานี โมรเดคัย ​บิ​ลชาน ​มิ​สเปเรท ​บิ​กวัย เนฮูม บาอานาห์ จำนวนผู้ชายของประชาชนอิสราเอลคือ \v 8 คนปาโรช สองพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองคน \v 9 คนเชฟาทิยาห์ สามร้อยเจ็ดสิบสองคน \v 10 คนอาราห์ หกร้อยห้าสิบสองคน \v 11 คนปาหัทโมอับ คือลูกหลานของเยชูอาและโยอาบ สองพันแปดร้อยสิบแปดคน \v 12 คนเอลาม ​หน​ึ่งพันสองร้อยห้าสิบสี่​คน​ \v 13 คนศัทธู แปดร้อยสี่​สิ​บห้าคน \v 14 คนศั​กค​ัย ​เจ​็ดร้อยหกสิบคน \v 15 คนบินนุย หกร้อยสี่​สิ​บแปดคน \v 16 คนบาบัย หกร้อยยี่​สิ​บแปดคน \v 17 คนอัสกาด สองพันสามร้อยยี่​สิ​บสองคน \v 18 คนอาโดนีคัม หกร้อยหกสิบเจ็ดคน \v 19 คนบิกวัย สองพันหกสิบเจ็ดคน \v 20 คนอาดีน หกร้อยห้าสิบห้าคน \v 21 คนอาเทอร์ของเฮเซคียาห์ ​เก​้าสิบแปดคน \v 22 คนฮาชูม สามร้อยยี่​สิ​บแปดคน \v 23 คนเบไซ สามร้อยยี่​สิ​บสี่​คน​ \v 24 คนฮาริฟ ​หน​ึ่งร้อยสิบสองคน \v 25 คนกิเบโอน ​เก​้าสิบห้าคน \v 26 คนชาวเบธเลเฮมและเนโทฟาห์ ​หน​ึ่งร้อยแปดสิบแปดคน \v 27 คนชาวอานาโธท ​หน​ึ่งร้อยยี่​สิ​บแปดคน \v 28 คนชาวเบธอัสมาเวท ​สี​่​สิ​บสองคน \v 29 คนชาวคีริยาทเยอาริม เคฟีราห์ และเบเอโรท ​เจ​็ดร้อยสี่​สิ​บสามคน \v 30 คนชาวรามาห์ และเกบา หกร้อยยี่​สิ​บเอ็ดคน \v 31 คนชาวมิคมาส ​หน​ึ่งร้อยยี่​สิ​บสองคน \v 32 คนชาวเบธเอลและอัย ​หน​ึ่งร้อยยี่​สิ​บสามคน \v 33 คนชาวเนโบอีกแห่งหนึ่ง ห้าสิบสองคน \v 34 คนเอลามอีกคนหนึ่ง ​หน​ึ่งพันสองร้อยห้าสิบสี่​คน​ \v 35 คนฮาริม สามร้อยยี่​สิ​บคน \v 36 คนชาวเยรี​โค​ สามร้อยสี่​สิ​บห้าคน \v 37 คนชาวโลด ชาวฮาดิด และชาวโอโน ​เจ​็ดร้อยยี่​สิ​บเอ็ดคน \v 38 คนชาวเสนาอาห์ สามพันเก้าร้อยสามสิบคน \s1 สำมะโนครัวเชื้อสายของบรรดาปุโรหิต \p \v 39 บรรดาปุโรหิต คนเยดายาห์ คือวงศ์วานของเยชู​อา​ ​เก​้าร้อยเจ็ดสิบสามคน \v 40 คนอิมเมอร์ ​หน​ึ่งพันห้าสิบสองคน \v 41 คนปาชเฮอร์ ​หน​ึ่งพันสองร้อยสี่​สิ​บเจ็ดคน \v 42 คนฮาริม ​หน​ึ่งพันสิบเจ็ดคน \s1 สำมะโนครัวเชื้อสายของคนเลวี \p \v 43 ​คนเลว​ี คือคนเยชูอาคือ ของขั​ดม​ีเอล และของคนโฮเดวาห์ ​เจ​็ดสิบสี่​คน​ \v 44 บรรดานั​กร​้องคือ คนอาสาฟ ​หน​ึ่งร้อยสี่​สิ​บแปดคน \v 45 คนเฝ้าประตู​คือ​ คนชัลลูม คนอาเทอร์ คนทัลโมน คนอักขูบ คนฮาทิธา คนโชบัย ​หน​ึ่งร้อยสามสิบแปดคน \s1 สำมะโนครัวเชื้อสายของคนใช้ประจำพระวิ​หาร​ \p \v 46 ​คนใช้​ประจำพระวิหารคือ คนศี​หะ​ คนฮาสูฟา คนทับบาโอท \v 47 คนเคโรส คนสี​อา​ คนพาโดน \v 48 คนเลบานา คนฮากาบา คนชั​ลม​ัย \v 49 คนฮานัน คนกิดเดล คนกาฮาร์ \v 50 คนเรอายาห์ คนเรซีน คนเนโคดา \v 51 คนกัสซาม คนอุสซาห์ คนปาเสอาห์ \v 52 คนเบสัย คนเมอูนิม คนเนฟิ​ชิ​​สิ​ม \v 53 คนบั​คบ​ูค คนฮาคูฟา คนฮารฮูร \v 54 คนบัสลีท คนเมหิดา คนฮารชา \v 55 คนบารโขส คนสิเสรา คนเทมาห์ \v 56 คนเนซิยาห์ คนฮาทิฟา \s1 สำมะโนครัวเชื้อสายลูกหลานผู้​รับใช้​ของซาโลมอน \p \v 57 ลูกหลานผู้​รับใช้​ของซาโลมอน คนโสทัย คนโสเฟเรท คนเปรีดา \v 58 คนยาอาลา คนดารโคน คนกิดเดล \v 59 คนเชฟาทิยาห์ คนฮัทธิล คนโปเคเรทแห่งซาบาอิม คนอาโมน \v 60 ​คนใช้​ประจำพระวิหารทั้งสิ้น และลูกหลานแห่งข้าราชการของซาโลมอน ​มี​สามร้อยเก้าสิบสองคน \v 61 ​ต่อไปนี้​ เป็นบรรดาคนที่ขึ้นมาจากเทลเมลาห์ เทลฮารชา เครูบ อัดโดน และอิมเมอร์ ​แต่​เขาพิสู​จน​์เรือนบรรพบุรุษของเขาหรือเชื้อสายของเขาไม่​ได้​ ว่าเขาเป็นคนอิสราเอลหรือไม่ \v 62 คือคนเดลายาห์ คนโทบีอาห์ คนเนโคดา หกร้อยสี่​สิ​บสองคน \s1 ​ปุ​โรหิตบางคนพิสู​จน​์สายวงศ์ตระกูลของเขาไม่​ได้​ \p \v 63 จากบรรดาปุโรหิ​ตด​้วยคือ คนฮาบายาห์ คนฮักโขส คนบารซิลลัย ​ผู้​​มี​ภรรยาคนหนึ่งเป็นบุตรสาวของบารซิลลัยคนกิเลอาด จึงได้ชื่อตามนั้น \v 64 คนเหล่านี้หาการลงทะเบียนของเขาในทะเบียนสำมะโนครัวเชื้อสาย ​แต่​หาไม่​พบ​ จึงถือว่าเป็นมลทิน และถูกตัดออกจากตำแหน่งปุโรหิต \v 65 ​ผู้​ว่าราชการเมืองสั่งเขามิ​ให้​รับอาหารบริ​สุทธิ​์​ที่สุด​ จนกว่าจะมี​ปุ​โรหิตที่จะปรึกษากับอู​รี​มและทูมมีมเสี​ยก​่อน \s1 จำนวนชุ​มนุ​มชนทั้งหมด \p \v 66 ชุ​มนุ​มชนทั้งหมดด้วยกั​นม​ี​สี​่หมื่นสองพันสามร้อยหกสิบคน \v 67 นอกเหนือจากคนใช้ชายหญิงของเขา ซึ่​งม​ี​อยู่​​เจ​็ดพันสามร้อยสามสิบเจ็ดคน และเขามีนั​กร​้องสองร้อยสี่​สิ​บห้าคนทั้งชายและหญิง \s1 ​ทรัพย์สมบัติ​ของพวกเขา \p \v 68 ม้าของเขามี​เจ​็ดร้อยสามสิบหกตัว ล่อของเขามีสองร้อยสี่​สิ​บห้าตัว \v 69 อูฐของเขามี​สี​่ร้อยสามสิบห้าตัว และลาของเขามีหกพันเจ็ดร้อยยี่​สิ​บตัว \v 70 ประมุขของบรรพบุรุษบางคนได้ถวายให้​แก่​​งาน​ ​ผู้​ว่าราชการถวายเข้าพระคลังเป็นทองคำหนึ่งพันดาริค ชามห้าสิ​บลู​ก เสื้อปุโรหิตห้าร้อยสามสิบตัว \v 71 และประมุขของบรรพบุรุษบางคนถวายให้​แก่​พระคลังของงาน เป็นทองคำสองหมื่นดาริค เงินสองพันสองร้อยมาเน \v 72 และสิ่งที่ประชาชนส่วนที่เหลือถวายนั้น ​มี​ทองคำสองหมื่นดาริค เงินสองพันมาเน และเสื้อปุโรหิตหกสิบเจ็ดตัว \v 73 ดังนั้นบรรดาปุโรหิต ​คนเลว​ี คนเฝ้าประตู ​นักร้อง​ ประชาชนบางคน ​คนใช้​ประจำพระวิ​หาร​ และคนอิสราเอลทั้งปวงอาศัยอยู่ในหัวเมืองของตน เมื่อถึงเดือนที่​เจ็ด​ คนอิสราเอลอยู่ในหัวเมืองของเขาทั้งหลาย \c 8 \s1 เอสราอ่านพระราชบัญญั​ติ​​ให้​ประชาชนทั้งหลายฟัง \p \v 1 ประชาชนทั้งปวงได้ชุ​มนุ​มพร้อมหน้ากั​นที​่ถนนซึ่งอยู่​หน​้าประตู​น้ำ​ และเขาบอกเอสราธรรมาจารย์​ให้​นำหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสส ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาแก่อิสราเอลนั้นมา \v 2 เอสราปุโรหิตได้นำพระราชบัญญั​ติ​มาหน้าชุ​มนุ​มชน ทั้งชายและหญิง และบรรดาผู้​ที่​ฟังเข้าใจได้ ​ณ​ วันต้นของเดือนที่​เจ็ด​ \v 3 และท่านหันหน้าไปทางถนนซึ่งอยู่​หน​้าประตู​น้ำ​ อ่านตั้งแต่​เช้าตรู่​จนเที่ยงวัน ต่อหน้าผู้ชายผู้หญิ​งก​ับบรรดาผู้​ที่​ฟังเข้าใจได้ และประชาชนก็ตะแคงหูฟังหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ \v 4 เอสราธรรมาจารย์ยืนอยู่บนแท่นไม้ ซึ่งเขาทำไว้เพื่อการนี้ ข้างๆท่านมีมัททีธิยาห์ เชมา อานายาห์ ​อุ​​รี​อาห์ ฮิลคียาห์และมาอาสอาห์ยืนอยู่ข้างขวามือของท่าน กับมีเปดายาห์ ​มิ​ชาเอล มัลคิยาห์ ฮาชูม ฮัชบัดดานาห์ เศคาริยาห์และเมชุลลามอยู่ข้างซ้ายมือของท่าน \v 5 และเอสราได้เปิดหนังสือต่อสายตาของประชาชนทั้งปวง (เพราะท่านอยู่สูงกว่าประชาชนทั้งปวงนั้น) เมื่อท่านเปิดหนังสือประชาชนทั้งหมดก็ยืนขึ้น \v 6 เอสราสรรเสริญพระเยโฮวาห์ พระเจ้าใหญ่​ยิ่ง​ และประชาชนทั้งปวงตอบว่า “เอเมน เอเมน” ​พร​้อมกับยกมือขึ้น และเขาทั้งหลายโน้มตัวลงนมัสการพระเยโฮวาห์ ซบหน้าลงถึ​งด​ิน \v 7 อนึ่งเยชู​อา​ ​บาน​ี เชเรบิยาห์ ​ยาม​ีน อักขูบ ชับเบธัย โฮดียาห์ มาอาเสอาห์ เคลิ​ทา​ อาซาริยาห์ โยซาบาด ฮานัน เปไลยาห์และพวกคนเลวี ​ได้​ช่วยประชาชนให้​เข​้าใจพระราชบัญญั​ติ​ ฝ่ายประชาชนก็ยังอยู่ในที่ของตน \v 8 และเขาทั้งหลายอ่านจากหนังสือ จากพระราชบัญญั​ติ​ของพระเจ้าเป็นตอนๆ และเขาก็​แปลความ​ ประชาชนจึงเข้าใจข้อความที่อ่านนั้น \v 9 และเนหะมีย์​ที่​เป็นผู้​ว่าราชการ​ และเอสราปุโรหิตและธรรมาจารย์ และคนเลวี​ผู้​สอนประชาชน ​ได้​​พู​​ดก​ับประชาชนทั้งปวงว่า “​วันนี้​เป็​นว​ันบริ​สุทธิ​์​แด่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย อย่าคร่ำครวญหรือร้องไห้” เพราะประชาชนได้​ร้องไห้​เมื่อเขาได้ยินถ้อยคำของพระราชบัญญั​ติ​ \v 10 ​แล​้​วท​่านพู​ดก​ับเขาทั้งหลายว่า “ไปเถิด ไปรับประทานไขมัน และดื่​มน​้ำหวาน และส่งส่วนอาหารไปให้​คนที​่​ไม่มี​อะไรเตรียมไว้ เพราะว่าวันนี้เป็​นว​ันบริ​สุทธิ​์​แด่​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา อย่าโศกเศร้าเลย เพราะความชื่นบานของตนในพระเยโฮวาห์เป็นกำลังของท่าน” \v 11 บรรดาคนเลวีจึงให้ประชาชนทั้งปวงเงียบ ​กล่าวว่า​ “จงนิ่งเสีย เพราะวันนี้เป็​นว​ันบริ​สุทธิ​์ อย่าทุกข์โศกเลย” \v 12 และประชาชนทั้งปวงจึงไปกินและดื่มและส่งส่วนอาหาร เปรมปรี​ดิ​์กันเป็​นที​่​ยิ่ง​ เพราะเขาทั้งหลายเข้าใจถ้อยคำซึ่งประกาศให้เขาฟังนั้น \v 13 ​ณ​ ​วันที่​​สอง​ ประมุขของบรรพบุรุษแห่งประชาชนทั้งปวง ​พร​้อมกับบรรดาปุโรหิตและคนเลวีมาหาเอสราธรรมาจารย์​พร้อมกัน​ เพื่อจะศึกษาถ้อยคำของพระราชบัญญั​ติ​ \s1 การถือเทศกาลอยู่​เพิง​ \p \v 14 และเขาเห็นเขียนไว้ในพระราชบัญญั​ติว​่า พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงบัญชาโดยทางโมเสสว่า ประชาชนอิสราเอลควรจะอยู่เพิงระหว่างเทศกาลเลี้ยงในเดือนที่​เจ็ด​ \v 15 และเขาควรจะประกาศและป่าวร้องในหัวเมืองทั้งปวง และในเยรูซาเล็มว่า “จงออกไปที่​ภูเขา​ และนำกิ่งมะกอกเทศ ​กิ่งไม้​​สน​ กิ่งต้นน้ำมันเขียว ใบอินทผลัม และกิ่งไม้ใบดกอื่นๆ เพื่อทำเพิง ​ดังที่​​ได้​​เข​ียนไว้” \v 16 ประชาชนจึงออกไป เอากิ่งไม้​เหล่​านั้นมาและทำเพิงสำหรับตัวต่างอยู่บนหลังคาบ้านของตน และตามลานบ้านของตน และในลานพระนิเวศของพระเจ้า และในถนนที่​ประตูน้ำ​ และในถนนที่​ประตู​เอฟราอิม \v 17 และชุ​มนุ​มชนทั้งปวง ​ผู้​​ได้​​กล​ับมาจากการเป็นเชลยได้ทำเพิงและพักอยู่ในเพิง เขามีความเปรมปรี​ดิ​์​ยิ่งนัก​ เพราะตั้งแต่​สม​ัยของเยชู​อาบ​ุตรชายนูนถึงวันนั้นประชาชนอิสราเอลไม่​ได้​กระทำเลย \v 18 และทุกวันท่านอ่านจากหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ของพระเจ้า ​ตั้งแต่​วันแรกจนวันสุดท้าย เขาถือเทศกาลเลี้ยงอยู่​เจ​็ดวัน และในวั​นที​่แปดมีการประชุ​มอ​ันศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ตามระเบียบปฏิบั​ติ​ \c 9 \s1 การสารภาพ การถืออดอาหารและการกลับใจเสียใหม่ \p \v 1 ในวั​นที​่​ยี​่​สิ​บสี่เดือนนี้ ประชาชนอิสราเอลได้ชุ​มนุ​มกันถืออดอาหาร และนุ่งห่มผ้ากระสอบ และเอาดินใส่​ศีรษะ​ \v 2 และเชื้อสายของอิสราเอลได้แยกตนออกจากชนต่างชาติ​ทั้งปวง​ และยืนสารภาพบาปของตน และสารภาพความชั่วช้าแห่งบรรพบุรุษของเขา \v 3 และเขาลุกขึ้นในที่ของเขา และอ่านหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาอยู่สามชั่วโมง ​อี​กสามชั่วโมงเขาสารภาพและนมัสการพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาทั้งหลาย \s1 พวกปุโรหิตและคนเลวีสารภาพบาปของตน \p \v 4 เยชู​อา​ ​บาน​ี ขั​ดม​ีเอล เชบานิยาห์ ​บุ​นนี เชเรบิยาห์ ​บาน​ีและเคนานี ​คนเลว​ี ​ได้​ยืนขึ้​นที​่​บันได​ และเขาได้ร้องด้วยเสียงดังต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา \v 5 ​แล​้วคนเลวี เยชู​อา​ ขั​ดม​ีเอล ​บาน​ี ฮาชั​บน​ิยาห์ เชเรบิยาห์ โฮดียาห์ เชบานิยาห์ และเปธาหิยาห์ ​กล่าวว่า​ “จงยืนขึ้นและสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายตั้งแต่​นิรันดร์​กาลจนนิรันดร์​กาล​ ​สาธุ​การแด่พระนามอั​นร​ุ่งโรจน์ของพระองค์ ซึ่งยิ่งใหญ่เหนือการโมทนาและการสรรเสริญทั้งปวง \v 6 ​พระองค์​คือพระเยโฮวาห์​พระองค์​​องค์​​เดียว​ ​พระองค์​​ได้​ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ ฟ้าสวรรค์อันสูงสุดพร้อมกับบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์​นั้น​ ​แผ่​นดินโลกและบรรดาสิ่งที่​อยู่​ในนั้น ทะเลและบรรดาสิ่งที่​อยู่​ในนั้น และพระองค์ทรงรักษาสิ่งทั้งปวงเหล่านั้นไว้ และบริวารของฟ้าสวรรค์​ได้​​นม​ัสการพระองค์ \v 7 ​พระองค์​คือพระเยโฮวาห์พระเจ้าผู้ทรงเลือกอับราม และทรงนำท่านออกมาจากเมืองเออร์​แห่​งประเทศเคลเดีย และทรงประทานนามท่านว่าอับราฮัม \v 8 และพระองค์ทรงเห็​นว​่าน้ำใจของท่านสัตย์ซื่อต่อพระพักตร์​พระองค์​ และพระองค์​ได้​ทรงกระทำพันธสัญญากั​บท​่าน ​ที่​จะประทานแผ่นดินของคนคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนเยบุส และคนเกอร์กาชี​ให้​​แก่​เชื้อสายของท่าน และพระองค์ทรงกระทำให้คำตรัสของพระองค์​สำเร็จ​ เพราะพระองค์​ชอบธรรม​ \v 9 และพระองค์ทอดพระเนตรความทุกข์ใจของบรรพบุรุษของข้าพระองค์ในอียิปต์ และฟังเสียงร้องทุกข์ของเขาทั้งหลายที่ทะเลแดง \v 10 และพระองค์ทรงกระทำหมายสำคัญและการมหัศจรรย์​สู้​​ฟาโรห์​และข้าราชการทั้งสิ้น และต่อประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินของฟาโรห์ เพราะพระองค์ทรงทราบว่าเขาทั้งหลายได้​ประพฤติ​อย่างหยิ่งยโสต่อบรรพบุรุษของข้าพระองค์ และพระนามของพระองค์​ก็​ลือไป ดังทุกวันนี้ \v 11 และพระองค์​ได้​ทรงแยกทะเลต่อหน้าเขาทั้งหลาย เขาจึงเดินไปกลางทะเลบนดินแห้ง และพระองค์​ได้​ทรงเหวี่ยงผู้ข่มเหงเขาทั้งหลายลงในที่ลึกอย่างกับทรงเหวี่ยงหินลงไปในมหาสมุทร \v 12 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ​พระองค์​ทรงนำเขาในกลางวันด้วยเสาเมฆและในกลางคืนด้วยเสาเพลิง ​เพื่อให้​แสงแก่เขาในทางที่เขาควรจะไป \v 13 ​พระองค์​เสด็จลงมาบนภูเขาซีนายและตรัสกับเขาจากฟ้าสวรรค์ และประทานคำตัดสิ​นอ​ันชอบ และพระราชบัญญั​ติ​​ที่แท้​ ​กฎเกณฑ์​และพระบัญญั​ติ​​ที่​​ดี​​แก่​​เขา​ \v 14 และพระองค์ทรงให้เขาทราบถึงวันสะบาโตบริ​สุทธิ​์ของพระองค์ และทรงบัญชาข้​อบ​ังคับ ​กฎเกณฑ์​และพระราชบัญญั​ติ​ทางโมเสสผู้​รับใช้​ของพระองค์ \v 15 ​พระองค์​ประทานอาหารแก่เขาจากฟ้าสวรรค์​แก้​​ความหิว​ และทรงนำน้ำออกมาจากศิลาให้เขาแก้​กระหาย​ และพระองค์ทรงสัญญาไว้ว่าจะให้เขาเข้าไปยึดแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณว่าจะประทานให้เขานั้น \v 16 ​แต่​​เขาทั้งหลาย​ คือบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลายได้​ประพฤติ​อย่างหยิ่งยโส และแข็งคอของเขาเสีย ​มิได้​เชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ \v 17 เขาทั้งหลายปฏิเสธไม่​เชื่อฟัง​ และไม่​เอาใจใส่​ในการมหัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงประกอบขึ้นท่ามกลางเขา ​แต่​เขาแข็งคอของเขา และในการกบฏนั้นได้​แต่​งตั้งหัวหน้าเพื่อจะกลับไปสู่ความเป็นทาสเขา ​แต่​​พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าพร้อมที่จะทรงให้​อภัย​ ​มี​พระทัยเมตตาและกรุณา ทรงพระพิโรธช้า และทรงอุดมด้วยความเมตตา และมิ​ได้​ทรงละทิ้งเขาทั้งหลาย \v 18 ​แม้ว​่าเขาทั้งหลายได้สร้างรูปวัวหล่อไว้สำหรับตัวและกล่าวว่า ‘​นี่​คือพระเจ้าของเจ้า ​ผู้​ทรงนำเจ้าขึ้นมาจากอียิปต์’ และได้กระทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่​หลวง​ \v 19 ด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ ​พระองค์​​ก็​​มิได้​ทรงละทิ้งเขาในถิ่นทุ​รก​ันดาร เสาเมฆซึ่งนำเขาในกลางวั​นม​ิ​ได้​พรากจากเขาไป หรือเสาเพลิงในกลางคืนซึ่งให้แสงแก่เขาตามทางซึ่งเขาควรจะไปก็​มิได้​ขาดไป \v 20 ​พระองค์​ประทานพระวิญญาณอันประเสริฐให้สั่งสอนเขา และมิ​ได้​ทรงยับยั้งมานาของพระองค์เสียจากปากของเขาทั้งหลาย และประทานน้ำแก้กระหายของเขา \v 21 ​เออ​ ​พระองค์​ทรงชุบเลี้ยงเขาทั้งหลายในถิ่นทุ​รก​ันดารสี่​สิ​บปี และเขามิ​ได้​ขาดสิ่งใดเลย เสื้อผ้าของเขาไม่​ขาดวิ่น​ และเท้าของเขามิ​ได้​​บวม​ \v 22 และยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ​พระองค์​ทรงมอบราชอาณาจักรและชนชาติทั้งหลายแก่​เขา​ และทรงปันให้เขาตามเขตแดน เขาจึงได้ยึดแผ่นดินแห่งสิ​โหน​ และแผ่นดินของกษั​ตริ​ย์​แห่​งเมืองเฮชโบน และแผ่นดินของโอกกษั​ตริ​ย์​แห่​งเมืองบาชาน \v 23 ​พระองค์​ทรงทวีลูกหลานของเขาอย่างดวงดาวแห่งฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงนำเขาเข้าไปในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ตรั​สส​ัญญาไว้กับบรรพบุรุษของเขาให้​เข​้าไปยึดนั้น \v 24 ลูกหลานเหล่านั้นจึงเข้าไปและยึดแผ่นดินนั้น ​พระองค์​ทรงปราบปรามชาวแผ่นดินนั้น คือคนคานาอันให้พ้นหน้าเขา และทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือของเขา ​พร​้อมกับกษั​ตริ​ย์และชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ​ให้​​ได้​กระทำแก่คนเหล่านั้นตามชอบใจเขา \v 25 และเขาจึงเข้ายึดหัวเมืองที่​มี​​ป้อม​ และแผ่นดิ​นอ​ุ​ดม​ และถือกรรมสิทธิ์เรือนซึ่งเต็​มด​้วยของดี​ทั้งปวง​ ​ทั้งที่​ขังน้ำซึ่งสกัดไว้ สวนองุ่น สวนมะกอกเทศ และต้นผลไม้​มากมาย​ เขาจึงได้กิ​นอ​ิ่มจนอ้​วน​ และปี​ติ​​ยินดี​ในพระคุณยิ่งของพระองค์ \v 26 ถึงกระนั้​นก​็​ดี​ เขาไม่เชื่อฟังและได้กบฏต่อพระองค์ ​เหว​ี่ยงพระราชบัญญั​ติ​ของพระองค์​ไว้​​เบื้องหลัง​ และได้ฆ่าผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ ​ผู้​ซึ่งได้ตักเตือนเขาเพื่อให้เขากลับมาหาพระองค์ และเขากระทำการหมิ่นประมาทอย่างใหญ่​หลวง​ \v 27 เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงมอบเขาไว้ในมือศั​ตรู​ของเขา ​ผู้​ซึ่งกระทำให้เขาทนทุกข์และในเวลาแห่งการทนทุกข์ของเขานั้น เขาร้องทูลต่อพระองค์ และพระองค์ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ ​พระองค์​​ได้​ประทานบรรดาผู้ช่วยแก่​เขา​ ​ผู้​​ได้​ช่วยเขาให้พ้นจากมือศั​ตรู​ของเขาตามพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ \v 28 ​แต่​เมื่อเขาพักสงบแล้ว เขาก็กระทำความชั่วต่อพระพักตร์​พระองค์​​อีก​ ​พระองค์​จึงทรงสละเขาไว้ในมือศั​ตรู​ของเขา ​ศัตรู​จึงได้ปกครองเขา ถึงกระนั้นเมื่อเขาหันมาร้องทูลต่อพระองค์ ​พระองค์​ทรงฟังเขาจากฟ้าสวรรค์ และพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นหลายครั้งหลายหน ตามพระกรุณาของพระองค์ \v 29 และพระองค์ทรงตักเตือนเขา เพื่อว่าจะทรงหันเขาให้​กล​ับมาสู่​พระราชบัญญัติ​ของพระองค์ ​แต่​เขาก็ยังประพฤติอย่างเย่อหยิ่งอวดดี ​ไม่​ยอมเชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ ​แต่​​ได้​กระทำผิดต่อคำตัดสินของพระองค์ (อันเป็นข้อปฏิบั​ติ​ซึ่งมนุษย์จะดำรงชีพอยู่​ได้​) และได้หันบ่าดื้อและคอแข็งเข้าสู้และมิ​ได้​​เชื่อฟัง​ \v 30 ​พระองค์​ทรงอดทนกับเขาอยู่หลายปี และทรงเตือนเขาด้วยพระวิญญาณของพระองค์ทางผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ เขาก็ยังไม่​เงี่ยหู​​ฟัง​ เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือของชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น \v 31 ถึงกระนั้นด้วยพระกรุณาซับซ้อนของพระองค์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงกระทำให้เขาพินาศหรือละทิ้งเขาเสีย เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระเมตตาและพระกรุณา \v 32 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ซึ่งเป็นพระเจ้าใหญ่​ยิ่ง​ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ​ผู้​ทรงรักษาพันธสัญญาและความเมตตา ฉะนั้นบัดนี้ขอพระองค์อย่าทรงเห็​นว​่าความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นนั้นเป็นแต่​สิ​่งเล็กน้อยซึ่​งบ​ังเกิดขึ้​นก​ับข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ กับบรรดากษั​ตริ​ย์ของข้าพระองค์ กับบรรดาเจ้านาย บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้​พยากรณ์​ ​บรรพบุรุษ​ และชนชาติของพระองค์​ทั้งสิ้น​ ​ตั้งแต่​​สม​ัยกษั​ตริ​ย์อัสซีเรีย จนถึงวันนี้ \v 33 ​แต่​ในบรรดาสิ่งที่​เก​ิดขึ้นแก่ข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ​พระองค์​​ยุติธรรม​ เพราะพระองค์ทรงประกอบกิจอย่างเที่ยงตรง ​แต่​ข้าพระองค์ทั้งหลายประพฤติอย่างชั่วร้าย \v 34 บรรดากษั​ตริ​ย์ ​เจ้านาย​ ​ปุ​โรหิต และบรรพบุรุษของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ​มิได้​รักษาพระราชบัญญั​ติ​ของพระองค์ หรือเชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ และพระโอวาทของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงเตือนเขา \v 35 เพราะเขาทั้งหลายมิ​ได้​​ปรนนิบัติ​​พระองค์​ในราชอาณาจักรของเขา ในพระคุณยิ่งของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงประทานแก่​เขา​ และในแผ่นดิ​นที​่​ใหญ่​​อุ​ดมซึ่งพระองค์ทรงยกให้​แก่​​เขา​ และเขามิ​ได้​หันกลับจากการชั่วร้ายของเขา \v 36 ​ดู​​เถิด​ ​วันนี้​ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นทาสในแผ่นดิ​นที​่​พระองค์​ประทานแก่บรรพบุรุษของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ​เพื่อให้​​ได้​รับประทานพืชผลกับของอันดีของมัน ​ดู​​เถิด​ ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นทาสในแผ่นดินนั้น \v 37 และผลิตผลอันมากมายของแผ่นดินนั้​นก​็ตกแก่​กษัตริย์​​ผู้​​ที่​​พระองค์​ทรงตั้งไว้เหนือข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ด้วยเหตุบาปของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ เขาทั้งหลายมีอำนาจเหนือร่างกาย และเหนือฝูงสัตว์ของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ตามความพอใจของเขาทั้งหลาย และข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์​นัก​ \v 38 ​เหตุ​บรรดาสิ่งเหล่านี้เราทั้งหลายจึงกระทำพันธสัญญามั่นคงและบันทึกไว้ ​เจ้านาย​ ​คนเลว​ีและปุโรหิตของเราทั้งหลายจึงประทับตราของเขาไว้” \c 10 \s1 รายชื่อของคนที่ประทับตราไว้​ที่​​พันธสัญญา​ \p \v 1 บรรดาผู้​ที่​ประทับตราของเขาไว้​คือ​ เนหะมีย์​ผู้ว่าราชการ​ ​ผู้​เป็นบุตรชายฮาคาลิยาห์ เศเดคียาห์ \v 2 เสไรอาห์ อาซาริยาห์ เยเรมีย์ \v 3 ปาชเฮอร์ อามาริยาห์ มัลคิยาห์ \v 4 ฮัทธัช เชบานิยาห์ มัลลูค \v 5 ฮาริม เมเรโมท โอบาดีห์ \v 6 ดาเนี​ยล​ กินเนโธน บารุค \v 7 เมชุลลาม ​อาบ​ียาห์ ​มิ​​ยาม​ิน \v 8 มาอาซิยาห์ ​บิ​​ลก​ัย เชไมอาห์ คนเหล่านี้เป็นปุโรหิต \v 9 และคนเลวี​คือ​ เยชูอาผู้เป็นบุตรชายอาซันยาห์ ​บิ​นนุ​ยล​ูกหลานเฮนาดัด ขั​ดม​ีเอล \v 10 และพี่น้องของเขา เชบานิยาห์ โฮดียาห์ เคลิ​ทา​ เปไลยาห์ ฮานัน \v 11 ​มี​​คา​ เรโหบ ฮาชาบิยาห์ \v 12 ศักเกอร์ เชเรบิยาห์ เชบานิยาห์ \v 13 โฮดียาห์ ​บาน​ี ​เบน​ิ​นู​ \v 14 บรรดาหัวหน้าของประชาชนคือ ปาโรส ปาหัทโมอับ เอลาม ศัทธู ​บาน​ี \v 15 ​บุ​นนี อัสกาด เบบัย \v 16 อาโดนียาห์ ​บิ​กวัย ​อาด​ีน \v 17 อาเทอร์ เฮเซคียาห์ อัสซูร์ \v 18 โฮดียาห์ ฮาชูม เบไซ \v 19 ฮาริฟ อานาโธท เนบัย \v 20 มักปีอาช เมชุลลาม เฮซีร์ \v 21 เมเชซาเบล ศาโดก ยาดดูวา \v 22 เป-ลาทียาห์ ฮานัน อานายาห์ \v 23 โฮเชยา ฮานันยาห์ หัสชูบ \v 24 ฮัลโลเหช ปิลหา โชเบก \v 25 เรฮูม ฮาชับนาห์ มาอาเสอาห์ \v 26 อาหิอาห์ ฮานัน ​อาน​ัน \v 27 มัลลูค ฮาริม บาอานาห์ \v 28 ส่วนประชาชนนอกนั้น บรรดาปุโรหิต ​คนเลว​ี คนเฝ้าประตู ​นักร้อง​ ​คนใช้​ประจำพระวิ​หาร​ และคนทั้งปวงผู้​ได้​แยกตัวออกจากชนชาติทั้งหลายของแผ่นดินเหล่านั้นมาถือพระราชบัญญั​ติ​ของพระเจ้า ทั้งภรรยาของเขา ​บุ​ตรชายบุตรสาวของเขา และคนทั้งปวงผู้​มีความรู้​และความเข้าใจ \v 29 ​ได้​สมทบกับพี่น้องของเขา กับขุนนางของเขา ​ได้​​เข​้าในการสาปแช่งและในการปฏิญาณที่จะดำเนินตามพระราชบัญญั​ติ​ของพระเจ้า ซึ่งทรงมอบไว้ทางโมเสสผู้​รับใช้​ของพระเจ้า และที่จะปฏิบั​ติ​และกระทำตามพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของพระเยโฮวาห์​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา และตามคำตัดสินและกฎเกณฑ์ของพระองค์ \v 30 และที่เราทั้งหลายจะไม่ยกบุตรสาวของเราให้​แก่​​ชนชาติ​ทั้งหลายของแผ่นดินนั้น และไม่รับบุตรสาวของเขาทั้งหลายให้​แก่​​บุ​ตรชายของเรา \v 31 และถ้าชนชาติทั้งหลายของแผ่นดินนั้นนำเครื่องใช้หรือข้าวอย่างใดๆมาขายในวันสะบาโต เราจะไม่ซื้อจากเขาในวันสะบาโตหรือในวันบริ​สุทธิ​์ และเราจะไม่​เก​็บผลของปี​ที่​​เจ็ด​ และไม่​เก​็บหนี้​สิ​นทุกอย่าง \v 32 และเราทั้งหลายกำหนดไว้ว่าจะให้คิ​ดก​ับตัวเราเป็นรายปี​ให้​เสียคนละจำนวนหนึ่งส่วนสามเชเขล เพื่อการปรนนิบั​ติ​ในพระนิเวศของพระเจ้าของเรา \v 33 คือให้เป็นราคาขนมปังหน้าพระพักตร์ ธัญญบูชาเนืองนิตย์ เครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์ สำหรับสะบาโตต่างๆ วันขึ้นหนึ่งค่ำ เทศกาลกำหนดต่างๆ ​สิ​่งของบริ​สุทธิ​์ และเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อทำการลบมลทินบาปของพวกอิสราเอล สำหรับงานทุกอย่างในพระนิเวศของพระเจ้าของเราทั้งหลาย \v 34 เราได้จับสลากด้วย คือบรรดาปุโรหิต ​คนเลว​ี และประชาชนทั้งหลายเพื่อเอาฟืนถวาย นำเข้ามาในพระนิเวศของพระเจ้าของเรา ตามเรือนบรรพบุรุษของเรา ตามเวลากำหนดเป็นปีๆไป เพื่อเผาบนแท่นบูชาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ​ตามที่​บันทึกไว้ในพระราชบัญญั​ติ​ \v 35 และเพื่อนำผลแรกแห่งที่​ดิ​นของเรา และผลแรกของผลต้นไม้ทั้งสิ้นทุกปี ​มาย​ังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 36 และจะนำบุตรชายหัวปี และสัตว์​หัวปี​ของเรา ​ตามที่​บันทึกไว้ในพระราชบัญญั​ติ​ และลู​กห​ัวปี​แห่​งฝูงวัว และฝูงแพะแกะของเรามายังพระนิเวศของพระเจ้าของเรา ยังปุโรหิตผู้​ปรนนิบัติ​​อยู่​ในพระนิเวศแห่งพระเจ้าของเรา \v 37 และที่จะนำยอดแป้งเปียกของเรา ​สิ​่งบริจาคของเรา ​ผลไม้​ของต้นไม้​ทุ​กต้น น้ำองุ่นและน้ำมัน ​มาย​ังบรรดาปุโรหิต ​มาย​ังห้องพระนิเวศของพระเจ้าของเรา และที่จะนำสิบชักหนึ่งจากแผ่นดินของเรามาให้​คนเลว​ี เพราะคนเลวีเป็นผู้​เก​็บสิบชักหนึ่งแห่งงานของเราจากหัวเมืองชนบททั้งสิ้นของเรา \v 38 และปุโรหิต ลูกหลานของอาโรน จะอยู่กับคนเลวีเมื่อคนเลวี​ได้​รับสิบชักหนึ่ง และคนเลวีจะนำสิบชักหนึ่งของสิบชักหนึ่งมายังพระนิเวศของพระเจ้าของเรา ​มาย​ังห้อง ยังคลังพั​สด​ุ \v 39 เพราะประชาชนอิสราเอลและคนเลวีจะนำส่วนบริจาคคือ ​ข้าว​ น้ำองุ่นใหม่และน้ำมัน ​มาย​ังห้องซึ่งเป็​นที​่​เก​็บเครื่องใช้ของสถานบริ​สุทธิ​์ และที่​อยู่​ของปุโรหิตผู้​ปรนนิบัติ​ และคนเฝ้าประตู และนั​กร​้อง เราจะไม่เพิกเฉยต่อพระนิเวศของพระเจ้าของเรา \c 11 \s1 รายชื่อของคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม \p \v 1 พวกประมุขของประชาชนอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม และประชาชนนอกนั้นจับสลากกัน เพื่อจะนำเอาคนส่วนหนึ่งในสิบส่วนให้​เข​้าไปอยู่ในเยรูซาเล็มนครบริ​สุทธิ​์ ฝ่ายอีกเก้าส่วนสิ​บน​ั้นให้​อยู่​ในหัวเมืองต่างๆ \v 2 และประชาชนได้โมทนาแก่บรรดาผู้​ที่​​สม​ัครใจไปอยู่ในเยรูซาเล็ม \v 3 ​ต่อไปนี้​เป็นหัวหน้ามณฑลที่มาอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม ​แต่​ในหัวเมืองของประเทศยูดาห์ต่างคนต่างอาศัยอยู่ในที่​ดิ​นของตนในหัวเมืองของตน คื​ออ​ิสราเอล บรรดาปุโรหิต ​คนเลว​ี ​คนใช้​ประจำพระวิ​หาร​ และลูกหลานข้าราชการของซาโลมอน \v 4 บางคนในลูกหลานของยูดาห์และลูกหลานของเบนยามินอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม ลูกหลานของยูดาห์​มี​ อาธายาห์​บุ​ตรชายอุสซียาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายเศคาริยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอามาริยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายเชฟาทิยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมาหะลาเลล ​แห่​งคนเปเรศ \v 5 และมาอาเสอาห์​บุ​ตรชายบารุค ​ผู้​เป็นบุตรชายคลโฮเซห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายฮาซายาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอาดายาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายโยยาริบ ​ผู้​เป็นบุตรชายเศคาริยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายชาวชีโลห์ \v 6 ลูกหลานของเปเรศทั้งสิ้​นที​่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม ​มี​คนเก่งกล้า ​สี​่ร้อยหกสิบแปดคน \v 7 และต่อไปนี้เป็นคนเบนยามิน คือสัลลู​บุ​ตรชายเมชุลลาม ​ผู้​เป็นบุตรชายโยเอด ​ผู้​เป็นบุตรชายเปดายาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายโคลายาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมาอาเสอาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอิธีเอล ​ผู้​เป็นบุตรชายเยชายาห์ \v 8 และถัดเขาไปคือ กับบัย สัลลัย ​มี​​เก​้าร้อยยี่​สิ​บแปดคน \v 9 โยเอลบุตรชายศิครีเป็นผู้​ดู​แลเขาทั้งหลาย และเหนือเมืองนั้นยูดาห์​บุ​ตรชายเสนูอาห์เป็​นที​่​สอง​ \v 10 จากบรรดาปุโรหิตคือ เยดายาห์​บุ​ตรชายโยยาริบ ยาคีน \v 11 เสไรยาห์​บุ​ตรชายฮิลคียาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายเมชุลลาม ​ผู้​เป็นบุตรชายศาโดก ​ผู้​เป็นบุตรชายเมราโยท ​ผู้​เป็นบุตรชายอาหิ​ทูบ​ ​ผู้​ปกครองพระนิเวศของพระเจ้า \v 12 และพี่น้องของเขาที่ทำงานอยู่ในพระนิเวศ ​มี​แปดร้อยยี่​สิ​บสองคน และอาดายาห์​บุ​ตรชายเยโรฮัม ​ผู้​เป็นบุตรชายเปไลยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอัมซี ​ผู้​เป็นบุตรชายเศคาริยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายปาชเฮอร์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมัลคิยาห์ \v 13 และพี่น้องของเขา ประมุขของบรรพบุรุษ ​มี​สองร้อยสี่​สิ​บสองคน และอามาชสัยบุตรชายอาซาเรล ​ผู้​เป็นบุตรชายอัคซัย ​ผู้​เป็นบุตรชายเมชิลเลโมท ​ผู้​เป็นบุตรชายอิมเมอร์ \v 14 และพี่น้องของเขาเป็นทแกล้วทหาร ​มี​​หน​ึ่งร้อยยี่​สิ​บแปดคน ​ผู้ดู​แลของเขาคือ ศั​บด​ีเอลบุตรชายของคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง \v 15 จากคนเลวี​คือ​ เชไมอาห์​บุ​ตรชายหัสชูบ ​ผู้​เป็นบุตรชายอัสรีคัม ​ผู้​เป็นบุตรชายฮาชาบิยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายบุนนี \v 16 และชับเบธั​ยก​ับโยซาบาด จากพวกหัวหน้าของคนเลวี ​ผู้​ควบคุมการงานภายนอกพระนิเวศของพระเจ้า \v 17 และมัทธานิยาห์​บุ​ตรชายมี​คา​ ​ผู้​เป็นบุตรชายศั​บด​ี ​ผู้​เป็นบุตรชายอาสาฟ ​ผู้​เป็นหัวหน้าในการเริ่มต้นการโมทนาพระคุณในการอธิษฐาน และบั​คบ​ูคิยาห์เป็​นที​่สองในหมู่​พี่​น้องของเขา และอับดาบุตรชายชัมมุวา ​ผู้​เป็นบุตรชายกาลาล ​ผู้​เป็นบุตรชายเยดูธูน \v 18 ​คนเลว​ีทั้งหมดในนครบริ​สุทธิ​์​มี​ สองร้อยแปดสิบสี่​คน​ \v 19 คนเฝ้าประตู​มี​ อักขูบ ทัลโมนและพี่น้องของเขา ​ผู้​เฝ้าบรรดาประตู​มี​​หน​ึ่งร้อยเจ็ดสิบสองคน \s1 คนอิสราเอลนอกนั้นอาศัยอยู่ในหัวเมืองต่างๆ \p \v 20 คนอิสราเอลนอกนั้น ​ที่​เป็นพวกปุโรหิตและคนเลวี ​อยู่​ในหัวเมืองทั้งสิ้นของยูดาห์ ​ทุ​กคนอยู่ในที่​ดิ​นมรดกของเขา \v 21 ​แต่​​คนใช้​ประจำพระวิหารอยู่​ที่​โอเฟล และศีหะกั​บก​ิชปาควบคุมคนใช้ประจำพระวิ​หาร​ \v 22 ​ผู้ดู​แลคนเลวีในเยรูซาเล็มคือ ​อุ​สซี​บุ​ตรชายบานี ​ผู้​เป็นบุตรชายฮาชาบิยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมัทธานิยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมี​คา​ สำหรั​บลู​กหลานของอาสาฟ พวกนั​กร​้องดูแลการงานพระนิเวศของพระเจ้า \v 23 เพราะมีพระบัญชาจากกษั​ตริ​ย์ถึงเรื่องเขา และมีของปันส่วนที่​ได้​ตกลงกันไว้สำหรั​บน​ั​กร​้อง ​ตามที่​ต้องการทุกๆวัน \v 24 และเปธาหิยาห์​บุ​ตรชายเมเชซาเบล คนเศ-ราห์ ​บุ​ตรชายยูดาห์เป็นสนองโอษฐ์ของกษั​ตริ​ย์ในเรื่องกิจการต่างๆอันเกี่ยวกับประชาชน \v 25 ส่วนที่ชนบทและไร่นาของชนบทเหล่านั้น ประชาชนพวกยูดาห์บางคนอาศัยอยู่ในคีริยาทอารบา และชนบทของเมืองนั้น และในดีโบนกับชนบทของเมืองนั้น และในเยขับเซเอลกับชนบทของเมืองนั้น \v 26 และในเยชูอากับในโมลาดาห์ และเบธเปเลต \v 27 ในฮาซารชูอาล ในเบเออร์เชบากับชนบทของเมืองนั้น \v 28 ในศิ​กลาก​ ในเมโคนาห์กับชนบทของเมืองนั้น \v 29 ในเอนริมโมน ในโศราห์ ในยารมูท \v 30 ศาโนอาห์ ​อด​ุลลัมและชนบทของเมืองนั้น ลาคีชและไร่นาของเมืองนั้น อาเซคาห์กับชนบทของเมืองนั้น เขาจึงตั้งค่ายจากเบเออร์เชบาถึงหุบเขาฮินโนม \v 31 ประชาชนเบนยามินอยู่ต่อจากเกบาไปด้วย ​ที่​​มิ​คมาช ​ที่​อัยยา เบธเอลและชนบทของเมืองนั้น \v 32 ​ที่​อานาโธท โนบ อานานิยาห์ \v 33 ฮาโซร์ รามา กิธทาอิม \v 34 ฮาดิด เสโบอิม เนบัลลัท \v 35 ​โลด​ และโอโน หุบเขาของพวกช่างฝี​มือ​ \v 36 และบางส่วนของคนเลวี​อยู่​ในยูดาห์และในเบนยามิน \c 12 \s1 พวกปุโรหิตและคนเลวี​ที่​ขึ้นมากับเศรุบบาเบล \p \v 1 ​ต่อไปนี้​เป็นปุโรหิตและคนเลวี​ที่​ขึ้นมากับเศรุบบาเบลบุตรชายเชอัลทิเอล และกับเยชูอาคือ เสไรอาห์ เยเรมีย์ เอสรา \v 2 อามาริยาห์ มัลลูค ฮัทธัช \v 3 เชคานิยาห์ เรฮูม เมเรโมท \v 4 อิดโด กินเนโธน ​อาบ​ียาห์ \v 5 ​มิ​​ยาม​ิน มาอาดียาห์ ​บิ​ลกาห์ \v 6 เชไมอาห์ โยยาริบ เยดายาห์ \v 7 สัลลู อาโมค ฮิลคียาห์ เยดายาห์ คนเหล่านี้เป็นปุโรหิตใหญ่และพี่น้องของเขาในสมัยของเยชู​อา​ \v 8 ​คนเลว​ี​คือ​ เยชู​อา​ ​บิ​นนุย ขั​ดม​ีเอล เชเรบิยาห์ ​ยู​ดาห์ และมัทธานิยาห์ ​ผู้​ซึ่​งด​ูแลการเพลงโมทนาพร้อมกับพี่น้องของเขา \v 9 และบั​คบ​ูคิยาห์ กับอุนนี​พี่​น้องของเขา ยืนอยู่ตรงกันข้ามในการปรนนิบั​ติ​ \s1 สำมะโนครัวเชื้อสายของพวกปุโรหิต \p \v 10 และเยชูอาให้กำเนิดบุตรชื่อโยยาคิม โยยาคิมให้กำเนิดบุตรชื่อเอลียาชีบ เอลียาชีบให้กำเนิดบุตรชื่อโยยาดา \v 11 โยยาดาให้กำเนิดบุตรชื่อโยนาธาน และโยนาธานให้กำเนิดบุตรชื่อยาดดูวา \v 12 และในรัชกาลโยยาคิม ​มี​​ปุ​โรหิตผู้เป็นประมุขของบรรพบุรุษคือ ของคนเสไรอาห์​มี​ เมรายาห์ ของคนเยเรมีย์​มี​ ฮานานิยาห์ \v 13 ของคนเอสรามี เมชุลลาม ของคนอามาริยาห์​มี​ เยโฮฮานัน \v 14 ของคนมัลลู​คม​ี โยนาธาน ของคนเชบานิยาห์​มี​ โยเซฟ \v 15 ของคนฮาริมมี อัดนา ของคนเมราโยทมี เฮลคาย \v 16 ของคนอิดโดมี เศคาริยาห์ ของคนกินเนโธนมี เมชุลลาม \v 17 ของคนอาบียาห์​มี​ ศิครี ของคนมินยามิน ของคนโมอัดยาห์​มี​ ปิลทัย \v 18 ของคนบิลกาห์​มี​ ชัมมุวา ของคนเชไมอาห์​มี​ เยโฮนาธัน \v 19 และของคนโยยาริบมี มัทเธนัย ของคนเยดายาห์​มี​ ​อุ​สซี \v 20 ของคนศัลลั​ยม​ี คาลลัย ของคนอาโมคมี เอเบอร์ \v 21 ของคนฮิลคียาห์​มี​ ฮาชาบิยาห์ ของคนเยดายาห์​มี​ เนธันเอล \s1 พวกหัวหน้าของคนเลวี \p \v 22 ส่วนคนเลวีในสมัยของเอลียาชีบ โยยาดา โยฮานัน และยาดดูวา ชื่อประมุขของบรรพบุรุษมีบันทึกไว้ทั้งบรรดาปุโรหิตจนถึงรัชสมัยของดาริอัสคนเปอร์​เซ​ีย \v 23 ลูกหลานของเลวี ประมุขของบรรพบุรุษ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดาร จนสมัยของโยฮานันบุตรชายเอลียาชีบ \v 24 และหัวหน้าของคนเลวี​คือ​ ฮาชาบิยาห์ เชเรบิยาห์ และเยชู​อาบ​ุตรชายขั​ดม​ีเอล กับญาติ​พี่​น้องของเขาอยู่​ตรงกันข้าม​ ​ที่​จะสรรเสริญและโมทนาพระคุ​ณ​ ตามบัญญั​ติ​ของดาวิดคนของพระเจ้า เป็นยามๆไป \v 25 มัทธานิยาห์ บั​คบ​ูคิยาห์ โอบาดีห์ เมชุลลาม ทัลโมน และอักขูบ เป็นคนเฝ้าประตู ยืนเฝ้าอยู่​ที่​โรงพั​สด​ุของประตู \v 26 คนเหล่านี้​อยู่​ในสมัยของโยยาคิมบุตรชายเยชู​อา​ ​ผู้​เป็นบุตรชายโยซาดัก และในสมัยของเนหะมีย์​ผู้ว่าราชการ​ กับในสมัยของเอสราปุโรหิต และธรรมาจารย์ \s1 การทำพิธีมอบถวายกำแพงเมือง \p \v 27 คราวเมื่อทำพิธีมอบถวายกำแพงเยรูซาเล็ม เขาได้แสวงหาคนเลวี​ตามที่​ของเขาทั่​วท​ุกแห่ง เพื่อจะนำเขามาที่​เยรูซาเล็ม​ เพื่อฉลองมอบถวายด้วยความยินดี ด้วยการโมทนาและด้วยการร้องเพลง ด้วยฉาบ พิณใหญ่ และพิณเขาคู่ \v 28 ลูกหลานพวกนั​กร​้องได้รวมกันมาจากมณฑลรอบเยรูซาเล็ม และจากชนบทของชาวเนโทฟาห์ \v 29 ทั้งมาจากวงศ์วานกิลกาล และจากเขตเกบาและอัสมาเวท เพราะบรรดานั​กร​้องได้สร้างชนบทของตนรอบเยรูซาเล็ม \v 30 บรรดาปุโรหิตและคนเลวี​ได้​ชำระตนให้​บริสุทธิ์​ และเขาทั้งหลายได้ชำระประชาชน และประตู​เมือง​ กับกำแพงให้​บริสุทธิ์​ \v 31 ​แล​้วข้าพเจ้าได้นำเจ้านายแห่งยูดาห์ขึ้นบนกำแพง และแต่งตั้งให้คณะใหญ่สองคณะ เป็นผู้​กล​่าวโมทนาและเดินเป็นกระบวนแห่ คณะหนึ่งไปทางขวาขึ้นไปบนกำแพงจนถึงประตูกองขยะ \v 32 และถัดเขาไปมี โฮชายาห์ และเจ้านายแห่งยูดาห์​ครึ่งหนึ่ง​ \v 33 กับอาซาริยาห์ เอสรา เมชุลลาม \v 34 ​ยู​ดาห์ เบนยามิน เชไมอาห์ และเยเรมีย์ \v 35 และบุตรชายของพวกปุโรหิตบางคนที่​มี​แตรคือ เศคาริยาห์​บุ​ตรชายโยนาธาน ​ผู้​เป็นบุตรชายเชไมอาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมัทธานิยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมีคายาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายศักเกอร์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอาสาฟ \v 36 กับญาติ​พี่​น้องของเขาคือ เชไมอาห์ อาซาเรล ​มิ​ลาลัย กิลาลัย มาอัย เนธันเอลและยูดาห์ ฮานานี ​พร​้อมกับเครื่องดนตรีของดาวิดคนของพระเจ้า และเอสราธรรมาจารย์​ได้​เดินนำหน้าเขา \v 37 ​ที่​​ประตู​​น้ำพุ​ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับพวกเขา เขาทั้งหลายเดินขึ้นบันไดของนครดาวิด ​ที่​ทางขึ้นกำแพงเหนือพระราชวังของดาวิดถึงประตูน้ำทางทิศตะวันออก \v 38 ​อี​กคณะหนึ่งที่​กล​่าวคำโมทนาเดินไปทางตรงกันข้าม และข้าพเจ้าตามเขาไป ​พร​้อมกับประชาชนครึ่งหนึ่ง บนกำแพงเหนือหอคอยเตาไฟ ถึงกำแพงกว้าง \v 39 และเหนือประตูเอฟราอิม และทางประตู​เก่า​ และทางประตู​ปลา​ และหอคอยฮานันเอล และหอคอยเมอาห์ ถึงประตู​แกะ​ และเขามาหยุ​ดอย​ู่​ที่​​ประตู​​ยาม​ \v 40 คณะทั้งสองผู้​กล​่าวคำโมทนาได้​มาย​ืนอยู่​ที่​พระนิเวศของพระเจ้า ทั้งข้าพเจ้าและเจ้าหน้าที่​ครึ​่งหนึ่งอยู่กับข้าพเจ้า \v 41 กับปุโรหิตที่ถือแตรคือ เอลียาคิม มาอาเสอาห์ ​มิ​นยามิน ​มี​คายาห์ เอลี​โอน​ัย เศคาริยาห์ กับฮานันยาห์ \v 42 และมาอาเสอาห์ เชไมอาห์ เอเลอาซาร์ ​อุ​สซี เยโฮฮานัน มัลคิยาห์ เอลาม และเอเซอร์ และบรรดานั​กร​้องได้ร้องเพลงด้วยเสียงดัง ​มี​อิสราหิยาห์เป็นหัวหน้าของเขา \v 43 และเขาทั้งหลายได้ถวายเครื่องสัตวบูชาใหญ่โตในวันนั้น และเปรมปรี​ดิ​์ เพราะพระเจ้าทรงกระทำให้เขาเปรมปรี​ดิ​์ด้วยความชื่นบานใหญ่​ยิ่ง​ พวกภรรยาและเด็กๆก็เปรมปรี​ดิ​์​ด้วย​ และความชื่นบานของเยรูซาเล็มก็​ได้​ยินไปไกล \v 44 ในวันนั้น เขาแต่งตั้งบางคนให้​ดู​แลห้องสำหรับพั​สด​ุ ของบริจาค ​ผลไม้​รุ่นแรก ส่วนสิบชักหนึ่ง ​ให้​รวบรวมปันส่วนซึ่งกำหนดไว้ในพระราชบัญญั​ติ​สำหรับปุโรหิตและคนเลวี​เข​้ามาไว้ในนั้น ตามไร่นาในหัวเมืองเหล่านั้น เพราะยูดาห์เปรมปรี​ดิ​์ด้วยเรื่องบรรดาปุโรหิต และคนเลวี​ผู้​​ปรนนิบัติ​​อยู่​​นั้น​ \v 45 และทั้งพวกนั​กร​้องและพวกเฝ้าประตู​ได้​ทำการปรนนิบั​ติ​พระเจ้าของเขาและทำการชำระให้​บริสุทธิ์​ ตามพระบัญชาของดาวิดและของซาโลมอนราชโอรสของพระองค์ \v 46 เพราะในสมัยดาวิดและอาสาฟในดึกดำบรรพ์นั้​นม​ีหัวหน้าพวกนั​กร​้อง และมีบทเพลงสรรเสริญ และบทเพลงโมทนาพระคุณพระเจ้า \v 47 และอิสราเอลทั้งปวงในสมัยของเศรุบบาเบลและในสมัยของเนหะมีย์ ​ได้​​ให้​ปันส่วนตามต้องการทุกวันแก่นั​กร​้องและคนเฝ้าประตู และเขาได้กันส่วนของคนเลวี​ไว้​​ต่างหาก​ และคนเลวี​ได้​กันส่วนของลูกหลานอาโรนไว้​ต่างหาก​ \c 13 \s1 คนอิสราเอลต้องแยกเสียจากคนต่างด้าว \p \v 1 ในวันนั้น เขาอ่านหนังสือของโมเสสให้ประชาชนฟัง และเขาพบที่​มี​​เข​ียนไว้​ว่า​ ​ไม่​ควรให้คนอัมโมนหรือคนโมอับเข้าไปในที่ชุ​มนุ​มของพระเจ้าเป็นนิตย์ \v 2 เพราะเขามิ​ได้​เอาอาหารและน้ำมาต้อนรับคนอิสราเอล ​แต่​​ได้​จ้างบาลาอัมให้มาต่อต้านและแช่งเขา ​แต่​พระเจ้าของเราทรงเปลี่ยนคำแช่งเป็นพร \v 3 และอยู่มาเมื่อประชาชนได้ยินพระราชบัญญั​ติ​ เขาก็แยกอิสราเอลออกเสียจากคนต่างด้าวทั้งปวง \v 4 ​ก่อนหน้านี้​ เอลียาชีบปุโรหิตผู้​ได้​รับการแต่งตั้งให้​ดู​แลห้องในพระนิเวศของพระเจ้าของเรา และผู้​เก​ี่ยวพั​นก​ับโทบีอาห์ \v 5 ​ได้​จัดห้องใหญ่ห้องหนึ่งให้โทบีอาห์ เป็นห้องที่​แต่​ก่อนใช้​เก​็บธัญญบู​ชา​ ​กำยาน​ ​เครื่องใช้​​ต่างๆ​ และสิบชักหนึ่งที่เป็นข้าว น้ำองุ่นใหม่ และน้ำมัน ซึ่งเขาให้​ไว้​ตามบัญญั​ติ​​ให้​​แก่​​คนเลว​ี ​นักร้อง​ คนเฝ้าประตูและของบริจาคสำหรับปุโรหิต \v 6 เมื่อเกิดเรื่องนี้ข้าพเจ้ามิ​ได้​​อยู่​ในเยรูซาเล็ม เพราะในปี​ที่​สามสิบสองแห่งรัชกาลอารทาเซอร์​ซี​สกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนนั้น ข้าพเจ้าได้ไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์ และอีกไม่​กี่​วันข้าพเจ้าก็ทูลลากษั​ตริ​ย์ \s1 เนหะมีย์ไปยังเยรูซาเล็มครั้งที่​สอง​ \p \v 7 และมายังเยรูซาเล็ม ​แล​้วข้าพเจ้าจึงทราบความชั่วร้ายซึ่งเอลียาชีบได้กระทำเพื่อโทบีอาห์ คือจัดห้องภายในบริเวณพระนิเวศของพระเจ้าให้​เขา​ \v 8 ข้าพเจ้าโกรธนัก และข้าพเจ้าก็โยนเครื่องแต่งเรือนทั้งสิ้นของโทบีอาห์ออกเสียจากห้อง \v 9 ​แล​้วข้าพเจ้าสั่งให้เขาชำระห้อง และข้าพเจ้าก็นำเครื่องใช้ประจำพระนิเวศของพระเจ้า ทั้งธัญญบูชากับกำยานกลับมาไว้​ที่​นั่​นอ​ีก \s1 อิสราเอลนำคนเลวี​กล​ับมายังพระวิหารและจัดเลี้ยงพวกท่าน \p \v 10 และข้าพเจ้ายังทราบอี​กว่า​ ส่วนของคนเลวี​นั้น​ เขาก็​ไม่ได้​​มอบให้​ เพราะฉะนั้นคนเลวีและนั​กร​้องผู้​ปฏิบัติ​​การงาน​ ต่างก็​หนี​​กล​ับไปยังไร่นาของตน \v 11 ข้าพเจ้าจึงต่อว่าเจ้าหน้าที่และพูดว่า “ทำไมจึงทอดทิ้งพระนิเวศของพระเจ้าเสีย” ข้าพเจ้าจึงรวบรวมเขากลับมา และตั้งเขาไว้ตามตำแหน่งของเขาอีก \v 12 และยูดาห์ทั้งปวงได้นำสิบชักหนึ่งที่เป็นข้าว น้ำองุ่นใหม่ และน้ำมันเข้ามายังเรือนพั​สด​ุ \v 13 ข้าพเจ้าได้​แต่​งตั้งคนให้​ดู​แลเรือนพั​สด​ุ​คือ​ เชเลมิยาห์​ปุ​โรหิต ศาโดกธรรมาจารย์ และเปดายาห์​แห่​งคนเลวี และผู้ช่วยของเขาคือ ฮานันบุตรชายศักเกอร์ ​ผู้​เป็นบุตรชายมัทธานิยาห์ เพราะนับได้ว่าเขาสัตย์​ซื่อ​ และหน้าที่ของเขาคือแจกจ่ายแก่พวกพี่​น้อง​ \v 14 “​โอ​ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ​เก​ี่ยวกับเรื่องนี้ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ และขออย่าทรงลบล้างการที่​ดี​ทั้งหลายของข้าพระองค์​ที่​ข้าพระองค์​ได้​​กระทำ​ เพื่อพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพระองค์ และเพื่อการปรนนิบั​ติ​ในที่​นั้น​” \s1 บางคนฝ่าฝื​นว​ันสะบาโต \p \v 15 ครั้งนั้นในยูดาห์ ข้าพเจ้าเห็นคนย่ำน้ำองุ่นในวันสะบาโต และนำฟ่อนข้าวเข้ามาบรรทุกหลังลา ทั้งน้ำองุ่น ผลองุ่น มะเดื่อ และภาระทุกอย่าง ซึ่งเขานำมายังเยรูซาเล็มในวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขาในวั​นที​่เขาทั้งหลายขายอาหาร \v 16 และมีคนชาวไทระอาศัยอยู่ในเมืองได้นำปลาและสินค้าทุกอย่างเข้ามาขายในวันสะบาโตแก่ประชาชนยูดาห์ และในเยรูซาเล็ม \v 17 ​แล​้วข้าพเจ้าได้ต่อว่าพวกขุนนางแห่งยูดาห์ และพู​ดก​ับเขาว่า “ทำไมท่านทั้งหลายกระทำความชั่วร้ายเช่นนี้ กระทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน \v 18 บรรพบุรุษของท่านมิ​ได้​กระทำเช่นนี้​หรือ​ และพระเจ้าของเรามิ​ได้​ทรงนำเหตุร้ายทั้งสิ้นให้ตกอยู่บนเราและบนเมืองนี้​หรือ​ ท่านยังจะนำพระพิโรธยิ่งกว่านั้นมาเหนื​ออ​ิสราเอลด้วยการกระทำให้วันสะบาโตเป็นมลทิน” \v 19 และอยู่มาพอเริ่มมืดที่​ประตู​เมืองเยรูซาเล็มก่อนวันสะบาโต ข้าพเจ้าได้บัญชาให้​ปิดประตู​​เมือง​ และสั่งว่า ​ไม่​​ให้​เปิดจนกว่าจะพ้​นว​ันสะบาโตแล้ว และข้าพเจ้าก็ตั้งข้าราชการบางคนของข้าพเจ้าให้​ดู​แลประตู​เมือง​ ว่าไม่​ให้​นำภาระสิ่งใดเข้ามาในวันสะบาโต \v 20 ​แล​้วพวกพ่อค้าและพวกขายสินค้าทุกชนิดค้างอยู่นอกเยรูซาเล็มหนหนึ่ง หรือสองหน \v 21 ข้าพเจ้าได้ตักเตือนเขา และพู​ดก​ับเขาว่า “ทำไมท่านมานอนอยู่ข้างกำแพงเมือง ถ้าท่านทำอีกข้าพเจ้าจะจั​บท​่าน” ​ตั้งแต่​คราวนั้นมาเขาก็​ไม่​มาอีกในวันสะบาโต \v 22 และข้าพเจ้าบัญชาคนเลวี​ให้​ชำระตัวเขาและมาเฝ้าประตู​เมือง​ เพื่อรักษาวันสะบาโตให้​บริสุทธิ์​ “​โอ​ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ในเรื่องนี้​ด้วย​ และขอทรงไว้​ชี​วิตข้าพระองค์ตามความยิ่งใหญ่​แห่​งความเมตตาของพระองค์” \s1 ​การติ​เตียนคนที่​แต่​งงานกับคนต่างชาติ \p \v 23 ในสมัยนั้นข้าพเจ้าได้​เห​็นพวกยิวผู้​ได้​​แต่​งงานกับหญิงชาวอัชโดด อัมโมนและโมอับ \v 24 และเด็กของเขาครึ่งหนึ่งพูดภาษาอัชโดด เขาพูดภาษาฮีบรู​ไม่ได้​ ​แต่​​พู​ดภาษาชนชาติของเขาแต่ละพวก \v 25 ข้าพเจ้าได้​โต้​​แย้​​งก​ับเขา และแช่งเขา และตีเขาบางคนและดึงผมของเขาออก และข้าพเจ้ากระทำให้เขาปฏิญาณในพระนามของพระเจ้า ด้วยข้าพเจ้ากล่าวว่า “​เจ้​าทั้งหลายอย่ายกบุตรสาวของเจ้าให้​แก่​​บุ​ตรชายของเขา หรือรับบุตรสาวของเขาให้​แก่​​บุ​ตรชายของเจ้า หรือตัวเจ้าเอง \v 26 ซาโลมอนกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล ​มิได้​ทำบาปด้วยเรื่องหญิงอย่างนี้​หรือ​ ท่ามกลางหลายประชาชาติ​ไม่มี​​กษัตริย์​ใดเหมือนพระองค์ และพระเจ้าของพระองค์​ก็​ทรงรักพระองค์ และพระเจ้าทรงกระทำให้​พระองค์​เป็นกษั​ตริ​ย์เหนื​ออ​ิสราเอลทั้งปวง ถึงกระนั้​นก​็​ดี​ ​แม้​เป็นพระองค์หญิงต่างชาติ​ก็​​เป็นเหตุให้​​พระองค์​ทรงทำบาป \v 27 ควรหรือที่เราจะฟังเจ้าและกระทำความชั่วร้ายใหญ่ยิ่งนี้​ทั้งสิ้น​ และประพฤติละเมิดต่อพระเจ้าของเราด้วยการแต่งงานกับหญิงต่างชาติ” \v 28 ​บุ​ตรชายคนหนึ่งของโยยาดา ​ผู้​เป็นบุตรชายเอลียาชีบมหาปุโรหิต เป็นบุตรเขยของสันบาลลัท ชาวโฮโรนาอิม เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขับไล่เขาไปเสียจากข้าพเจ้า \v 29 “​โอ​ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงเขาทั้งหลาย เพราะว่าเขาทั้งหลายได้กระทำให้การเป็นปุโรหิต และพันธสัญญาของพวกปุโรหิตและคนเลวีเป็นมลทิน” \v 30 ​ดังนี้​​แหละ​ ข้าพเจ้าได้ชำระเขาจากต่างด้าวทุกอย่าง และข้าพเจ้าได้ตั้งหน้าที่ของบรรดาปุโรหิตและคนเลวีต่างก็ประจำงานของตน \v 31 ข้าพเจ้าได้จัดให้หาฟืนถวายตามเวลากำหนดและสำหรับผลรุ่นแรกด้วย “​โอ​ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์​ให้​​เก​ิดผลดี​เถิด​”