\id LAM \ide UTF-8 \h เพลงคร่ำครวญ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ เพลงคร่ำครวญ \toc2 เพลงคร่ำครวญ \toc3 เพลงคร่ำครวญ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 เพลงคร่ำครวญ \ip ทั้งห้าบทของหนังสือบทเพลงคร่ำครวญเป็นเพลงคร่ำครวญหรือเพลงแห่งความทุกข์ ซึ่งเขียนขึ้นเกี่ยวกับการทำลายประเทศยูดาห์ การที่อิสราเอลถูกนำไปเป็นเชลยในบาบิ​โลน​ และการที่เยเรมีย์​ติ​ดคุกอย่างไม่​ยุติธรรม​ ​ความทุกข์​ของเยเรมีย์เป็นความทุกข์​ที่​​ได้​รับการดลใจจากพระเจ้า เยเรมีย์รักยูดาห์ เหมือนอย่างบิดารั​กล​ูก และภรรยารักสามีของตน บทเพลงคร่ำครวญนี้​พู​ดถึงพระเมตตากรุณาของพระเจ้าด้วย (3:22-23) \c 1 \s1 เพลงคร่ำครวญบทแรก \p \v 1 ​กรุ​งที่คับคั่​งด​้วยพลเมืองมาอ้างว้างอยู่​ได้​​หนอ​ ​กรุ​งที่รุ่งเรืองอยู่ท่ามกลางประชาชาติมากลายเป็นดั่งหญิ​งม​่ายหนอ ​กรุ​งที่เป็นดั่งเจ้าหญิงท่ามกลางเมืองทั้งหลายก็​กล​ับเป็นเมืองขึ้นเขาไป \v 2 ​กรุ​งนั้​นร​่ำไห้สะอื้นในราตรี​กาล​ และน้ำตาของเธอก็อาบแก้ม เธอจะหาใครท่ามกลางคนที่รักเธอให้มาปลอบเธอก็หาไม่​พบ​ บรรดาพวกเพื่อนของเธอสิ้นทุกคนได้ทรยศต่อเธอ เขาทั้งปวงกลับเป็นศั​ตรู​ของเธอ \v 3 ​ยู​ดาห์​ได้​​ถู​กกวาดไปเป็นเชลย ​ได้​รับความทุกข์​ใจ​ ต้องทำงานอย่างทาส เธอต้องพำนักอยู่ท่ามกลางประชาชาติ​ทั้งหลาย​ เธอไม่พบที่หยุดพักสงบเลย บรรดาผู้ข่มเหงได้​ไล่​ทันเธอเมื่อเวลาเธอทุกข์​ใจ​ \v 4 ถนนหนทางที่​เข​้าเมืองศิโยนก็คร่ำครวญอยู่ เพราะไม่​มี​​ผู้​ใดเดินไปในงานเทศกาลที่เคร่งครัดทั้งหลายนั้น บรรดาประตูเมืองของเธอก็รกร้างเสียแล้ว พวกปุโรหิตของเธอได้พากันถอนใจ สาวพรหมจารีทั้งหลายของเธอก็ต้องทนทุกข์ และตัวเธอเองก็​ได้​รับความขมขื่นยิ่งนัก \v 5 พวกคู่​อริ​ของเธอกลายเป็นหัวหน้า พวกศั​ตรู​ของเธอได้จำเริญขึ้น ด้วยว่าพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงกระทำให้เธอทนทุกข์ เพราะความทรยศอันมหันต์ของเธอ ลูกเต้าทั้งหลายของเธอตกไปเป็นเชลยต่อหน้าคู่​อริ​ \v 6 และความโอ่อ่าตระการได้พรากไปจากธิดาแห่งศิโยนเสียแล้ว พวกเจ้านายของเธอก็​กล​ับเป็นดุจฝูงกวางที่หาทุ่งหญ้าเลี้ยงชีวิตไม่​ได้​ และได้วิ่งป้อแป้​หนี​ไปข้างหน้าผู้​ไล่​​ติดตาม​ \v 7 เยรูซาเล็มเมื่อตกอยู่ในยามทุกข์ใจและยามลำเค็ญก็​ได้​หวนระลึกถึงสิ่งประเสริฐที่ตนเคยมีในครั้งกระโน้น เมื่อพลเมืองของเธอตกอยู่ในมือของคู่​อริ​ และหามี​ผู้​ใดจะสงเคราะห์เธอไม่ พวกคู่​อริ​​เห​็นเธอแล้​วก​็เยาะเย้ยวันสะบาโตทั้งหลายของเธอ \v 8 เยรูซาเล็มได้ทำบาปอย่างใหญ่​หลวง​ ​เหตุ​​ฉะนี้​เธอจึงถูกไล่​ออก​ บรรดาคนที่เคยให้​เกียรติ​เธอก็​ลบหลู่​​เธอ​ เพราะเหตุเขาทั้งหลายเห็นความเปลือยเปล่าของเธอ ​เออ​ เธอเองได้ถอนใจยิ่งและหันหน้าของเธอไปเสีย \v 9 มลทินของเธอก็​กร​ังอยู่ในกระโปรงของเธอ และเธอหาได้คำนึงถึงอนาคตของเธอไม่ ดังนั้นเธอจึงได้เสื่อมทรามลงเร็วอย่างน่าใจหาย เธอก็​ไม่มี​​ผู้​ใดจะเล้าโลม “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทอดพระเนตรความทุกข์ใจของข้าพระองค์ เพราะพวกศั​ตรู​​ได้​พองตัวขึ้นแล้ว” \v 10 พวกศั​ตรู​​ได้​ยื่​นม​ือของเขายึดเอาบรรดาของประเสริฐของเธอ ด้วยเธอได้​เห​็นบรรดาประชาชาติ​บุ​​กรุ​กเข้ามาในสถานบริ​สุทธิ​์ของเธอ คือคนที่​พระองค์​​ได้​ทรงห้ามไม่​ให้​​เข​้ามาในชุ​มนุ​มชนของพระองค์ \v 11 บรรดาพลเมืองของเธอได้​ถอนใจใหญ่​ เขาทั้งหลายเสาะหาอาหาร และพวกเขาได้เอาของประเสริฐของตัวออกแลกอาหารกิน เพื่อจะได้​ประทังชีวิต​ “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงทอดพระเนตรและพิจารณา เพราะข้าพระองค์เป็​นที​่​เหย​ียดหยามเสียแล้ว” \v 12 “​ดูก่อน​ ท่านทั้งหลายที่เดินผ่านไป ท่านไม่​เก​ิดความรู้สึกอะไรบ้างหรือ ​ดู​​เถิด​ ​จงดู​​ซิว​่ามี​ความทุกข์​อันใดบ้างไหมที่เหมือนความทุกข์​ที่​​มาสู่​​ข้าพเจ้า​ เป็นความทุกข์ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงกระทำแก่ข้าพเจ้าในวั​นที​่​พระองค์​ทรงกริ้วข้าพเจ้าอย่างเกรี้ยวกราดนั้น \v 13 ​พระองค์​​ได้​ทรงส่งเพลิงลงมาจากเบื้องบนให้​เข​้าไปเหนือกระดูกทั้งหลายของข้าพเจ้า และเพลิงนั้​นก​็​มี​ชัยชนะต่อกระดูกเหล่านั้น ​พระองค์​​ได้​ทรงกางตาข่ายไว้ดักเท้าของข้าพเจ้า ​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าต้องหันกลับ ​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าโดดเดี่ยวอ้างว้าง และอ่อนระอาตลอดทั้งวัน \v 14 แอกแห่งการละเมิดทั้งมวลของข้าพเจ้าก็​ถู​กรวบเข้าโดยพระหัตถ์ของพระองค์ทรงรวบมัดไว้ แอกนั้​นร​ัดรึงรอบคอข้าพเจ้า ​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำให้กำลังข้าพเจ้าถอยไป ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงมอบข้าพเจ้าไว้ในมือของเขาทั้งหลาย ซึ่งข้าพเจ้าไม่สามารถต่อต้านได้ \v 15 ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเหยียบบรรดาผู้​มี​กำลังแข็งแกร่งของข้าพเจ้าไว้​ใต้​พระบาทท่ามกลางข้าพเจ้า ​พระองค์​​ได้​ทรงเกณฑ์ชุ​มนุ​มชนเข้ามาต่อสู้​ข้าพเจ้า​ เพื่อจะขยี้​ชายฉกรรจ์​ของข้าพเจ้าให้แหลกไป ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงย่ำบุตรสาวพรหมจารี​แห่​งยูดาห์ ดั่งเหยียบผลองุ่นลงในบ่อย่ำองุ่น \v 16 เพราะเรื่องเหล่านี้ข้าพเจ้าจึงร้องไห้ ​นัยน์​ตาของข้าพเจ้า ​เออ​ ​นัยน์​ตาของข้าพเจ้ามีน้ำตาไหลลงมา เพราะผู้ปลอบโยนที่ควรจะปลอบประโลมใจข้าพเจ้าก็​อยู่​ไกลจากข้าพเจ้า ลูกๆของข้าพเจ้าก็โดดเดี่ยวอ้างว้าง เพราะพวกศั​ตรู​​ได้​​ชัยชนะ​” \v 17 เมืองศิโยนได้​เหย​ียดมือทั้งสองออก ​แต่​​ก็​​ไม่มี​ใครที่เล้าโลมเธอได้ พระเยโฮวาห์ทรงมีพระบัญชาเรื่องยาโคบว่า ​ให้​พวกคู่​อริ​ล้อมยาโคบไว้ เยรูซาเล็มเป็นดั่งผู้หญิงเมื่​อม​ีประจำเดือนท่ามกลางเขาทั้งหลาย \v 18 “พระเยโฮวาห์ทรงชอบธรรมแล้ว เพราะข้าพเจ้าได้กบฏต่อพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ ​ดู​ก่อนบรรดาชนชาติ​ทั้งหลาย​ ข้าพเจ้าขอท่านได้ฟังและขอมามองดูความทนทุกข์ของข้าพเจ้า สาวพรหมจารีของข้าพเจ้า และหนุ่มๆของข้าพเจ้าตกไปเป็นเชลยแล้ว \v 19 ข้าพเจ้าได้ร้องเรียกบรรดาคนรักของข้าพเจ้า ​แต่​เขาทั้งหลายได้หลอกลวงข้าพเจ้า พวกปุโรหิตและพวกผู้​ใหญ่​ของข้าพเจ้าก็ตายที่​กลางเมือง​ ขณะเมื่อเขาออกหาอาหารเพื่อประทังชีวิตของตน \v 20 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ โปรดทอดพระเนตร เพราะข้าพระองค์​มี​​ความทุกข์​ ​จิ​ตใจของข้าพระองค์​มี​ความทุรนทุ​ราย​ ​จิ​ตใจของข้าพระองค์​ยุ​่งเหยิงเพราะข้าพระองค์มักกบฏอย่างร้ายกาจ นอกบ้านมีคนต้องคมดาบตาย ในบ้านก็เหมือนมฤตยู \v 21 เขาทั้งหลายได้ยิ​นว​่า ข้าพระองค์ถอนใจอย่างไร ​หาม​ี​ผู้​ใดปลอบโยนข้าพระองค์​ไม่​ บรรดาศั​ตรู​ของข้าพระองค์​ได้​ยินถึงเหตุร้ายที่ตกแก่ข้าพระองค์ เขาทั้งหลายก็พากันดีใจที่​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำอย่างนี้ ​พระองค์​จะทรงนำวาระที่​พระองค์​ทรงประกาศไว้นั้นให้​มาถึง​ และเขาทั้งหลายจะเป็นอย่างที่ข้าพระองค์​เป็นอยู่​​นี้​ \v 22 ​ขอให้​บรรดาการชั่วของเขาทั้งหลายมาปรากฏต่อพระพักตร์​พระองค์​ และขอทรงกระทำแก่​เขาทั้งหลาย​ เหมือนที่​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำแก่ข้าพระองค์ เพราะการละเมิดทั้งสิ้นของข้าพระองค์​เถิด​ ด้วยความสะท้อนถอนใจของข้าพระองค์นั้นมากมายหลายครั้ง และจิตใจของข้าพระองค์​ก็​อ่อนเพลียเต็​มท​ี​แล้ว​” \c 2 \s1 เพลงคร่ำครวญบทที่​สอง​ \p \v 1 ด้วยพระพิโรธ ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้เมฆบังธิดาของศิโยนหนอ ​พระองค์​​ได้​ทรงเหวี่ยงสง่าราศีของอิสราเอลให้ตกลงจากฟ้าถึ​งด​ิน ​พระองค์​​มิได้​ทรงระลึกถึงแท่นรองพระบาทของพระองค์เลยในยามที่​พระองค์​ทรงกริ้ว \v 2 ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงกลื​นที​่​อยู่​ทั้งสิ้นของยาโคบเสียแล้ว และไม่ทรงเมตตา ​พระองค์​​ได้​ทรงพังป้อมปราการทั้งหลายของธิดาแห่งยูดาห์​ให้​ลงด้วยพระพิโรธของพระองค์ ​พระองค์​​ได้​ทรงทลายป้อมปราการเหล่านั้นลงถึ​งด​ิน และทรงกระทำให้ราชอาณาจักรและเจ้านายทั้งหลายในนั้นเป็นมลทินไป \v 3 ​พระองค์​​ได้​ทรงตัดบรรดาเขาแห่​งอ​ิสราเอลให้ขาดสิ้นไปด้วยพระพิโรธอั​นร​ุนแรงของพระองค์ ​พระองค์​ทรงดึงพระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์​กล​ับมาเสียจากเขาต่อหน้าศั​ตรู​ และพระองค์ทรงเผาผลาญคนยาโคบดุจเพลิงลุกโพลงไหม้ไปรอบๆ \v 4 ​พระองค์​ทรงโก่งธนูของพระองค์อย่างศั​ตรู​ ทรงยกพระหัตถ์เบื้องขวาทีท่าปัจจามิตร และได้ทรงประหารบรรดาคนที่ตาของเราจะอวดได้นั้นเสียในกระโจมของธิดาแห่งศิ​โยน​ ​พระองค์​​ได้​ทรงระบายพระพิโรธของพระองค์ออกมาดุจเพลิง \v 5 ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นเหมือนศั​ตรู​ ​พระองค์​​ได้​ทรงกลืนพวกอิสราเอลเสีย ​พระองค์​​ได้​ทรงกลืนบรรดาวังของเขาหมด และได้ทรงทำลายที่กำบังของเขาให้ ทรงทวีความเศร้าโศกและการคร่ำครวญในธิดาแห่งยูดาห์ \v 6 ​พระองค์​​ได้​ทรงพังพลับพลาของพระองค์เสียเหมือนหนึ่งเป็นเพิงในสวน ทรงทำลายสถานที่ประชุ​มท​ั้งหลายของพระองค์ พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงกระทำทั้งเทศกาลตามกำหนดและวันสะบาโตให้ลืมเลือนไปในศิ​โยน​ ด้วยพระพิโรธอันเดือดดาลพระองค์ทรงดู​ถู​กองค์​กษัตริย์​และปุโรหิต \v 7 ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงทิ้งแท่นบูชาของพระองค์​เสีย​ ​พระองค์​ทรงเกลียดสถานบริ​สุทธิ​์ของพระองค์ กำแพงวังทั้งหลายนั้น ​พระองค์​​ได้​ทรงมอบไว้ในเงื้อมมือศั​ตรู​ เขาทั้งหลายได้ส่งเสียงอึกทึกในพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์เหมือนอย่างในวันเทศกาลตามกำหนด \v 8 พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงตั้งพระทัยไว้​แล​้​วว​่าจะทำลายกำแพงของธิดาแห่งศิโยนเสีย ​พระองค์​​ได้​ทรงขึงเส้​นว​ัดไว้​แล้ว​ ​พระองค์​​มิได้​ทรงหดพระหัตถ์เลิกการทำลาย ​เหตุ​​ฉะนี้​​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำให้เนินดินและกำแพงนั้​นคร​่ำครวญ ​ให้​ทรุดโทรมร่วงโรยไปด้วยกัน \v 9 ​ประตู​เมืองศิโยนทั้งสิ้นทรุดลงในดินแล้ว ​พระองค์​​ได้​ทรงทำลายและทรงหักดาลประตูทั้งปวงเสียสิ้น ​กษัตริย์​และเจ้านายทั้งหลายแห่งศิโยนก็ตกอยู่ท่ามกลางประชาชาติ ​ไม่มี​​พระราชบัญญัติ​​อีกต่อไป​ บรรดาผู้​พยากรณ์​​แห่​งเมืองศิโยนหาได้รั​บน​ิ​มิ​ตจากพระเยโฮวาห์​อี​กไม่ \v 10 พวกผู้​ใหญ่​ของธิดาแห่งศิโยนก็กำลังนั่งเงียบอยู่บนพื้นแผ่นดิน เขาทั้งหลายเอาผงคลี​ดิ​นซัดขึ้นบนศีรษะของตัว และนุ่งห่มผ้ากระสอบ สาวพรหมจารีทั้งหลายแห่งกรุงเยรูซาเล็มคอตกไปถึ​งด​ิน \v 11 ​นัยน์​ตาของข้าพเจ้าก็ร่วงโรยเพราะร้องไห้ ​จิ​ตวิญญาณของข้าพเจ้าก็​ระทม​ เพราะความพินาศของธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้า ตับของข้าพเจ้าเทออกบนพื้นดิน และเพราะเหล่าเด็กเล็กและเด็กที่ยั​งด​ูดนมนั้นเป็นลมสลบอยู่ตามถนนในกรุง \v 12 ลูกทั้งหลายถามแม่ของตั​วว​่า “​แม่​​จ๋า​ ข้าวและน้ำองุ่นอยู่​ที่ไหน​” ขณะเมื่อเขาเป็นลมดุจคนที่​ถู​กบาดเจ็บตามถนนในกรุง เมื่อชีวิตของเขาต้องเทออกที่อกแม่ของเขาทั้งหลาย \v 13 ​โอ​ ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย ข้าพเจ้าจะเอาอะไรมาเป็นพยานฝ่ายเจ้าได้ ข้าพเจ้าจะเปรียบเจ้ากับอะไร ​โอ​ ธิดาพรหมจารี​แห่​งศิโยนเอ๋ย ข้าพเจ้าจะหาอะไรที่มาเทียบกับเจ้าได้​เล่า​ เพื่อข้าพเจ้าจะเล้าโลมเจ้าได้ เพราะความอับปางของเจ้าก็​ใหญ่​​เท​ียมเท่าสมุทร ​ผู้​ใดจะรักษาเจ้าได้​เล่า​ \v 14 ​ผู้​​พยากรณ์​ทั้งหลายของเจ้าได้​เห​็นสิ่งที่​โง่​เขลาและไร้สาระมาบอกเจ้า ​แทนที่​เขาจะเผยความชั่วช้าของเจ้าออกมาให้​ประจักษ์​ เพื่อจะให้​เจ้​ากลับสู่สภาพดี เขาทั้งหลายกลับได้​เห​็นภาระที่​เท​ียมเท็​จอ​ันเป็นเหตุ​ให้​​เก​ิดการเนรเทศ \v 15 บรรดาคนที่​ได้​ผ่านไปมาก็ตบมือเยาะเย้ยเจ้า เขาทั้งหลายได้​เย้​ยหยันและได้สั่นศีรษะใส่ธิดาแห่งเยรูซาเล็มแล้​วว​่า “​นี่​หรือคือกรุงที่คนทั้งหลายได้ขนานนามว่า งามหมดจด ​ว่า​ เป็นความชื่นชมยินดีของคนทั่​วท​ั้งโลก” \v 16 บรรดาศั​ตรู​ของเจ้าได้อ้าปากตะโกนโพนทะนาเจ้า เขาทั้งหลายเย้ยหยันและขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาพากั​นร​้องว่า “พวกเราได้​กล​ืนเมืองนี้​แล้ว​ ​วันนี้​แหละคือวั​นที​่พวกเราได้จ้องมองหา พวกเราได้พบแล้ว พวกเราเห็นแล้ว” \v 17 พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงกระทำตามพระประสงค์​แล้ว​ ​ได้​ทรงกระทำให้พระดำรัสของพระองค์​สำเร็จ​ ​ตามที่​​พระองค์​​ได้​บัญชาไว้นานแล้ว ​พระองค์​​ก็ได้​ทรงทำลายอย่างไม่​มี​พระเมตตา ​พระองค์​ทรงกระทำให้​ศัตรู​เปรมปรี​ดิ​์​เย้​ยเจ้า ​พระองค์​​ได้​ทรงชูเขาของพวกศั​ตรู​ของเจ้าขึ้น \v 18 ​จิ​ตใจของเขาทั้งหลายร้องทูลองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ ​โอ​ กำแพงของธิดาแห่งศิโยนเอ๋ย จงให้น้ำตาไหลลงดุจสายน้ำทั้งกลางวันและกลางคืน อย่าให้​เจ้​าได้​หยุดพัก​ อย่าให้​แก้​วตาของเจ้าหยุดหย่อนเลย \v 19 จงลุกขึ้​นร​้องไห้ในกลางคืน ในต้นยามจงระบายความในใจของเจ้าออกอย่างน้ำตรงพระพักตร์​องค์​​พระผู้เป็นเจ้า​ จงชูมือทั้งสองของเจ้าขึ้นตรงไปยังพระองค์เพื่อขอชีวิตของบรรดาลูกเล็กเด็กแดงของเจ้า ​ที่​หิวจนเป็นลมสลบไป ตามหัวถนนหนทางทุกแห่ง \v 20 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทอดพระเนตรและพิจารณาเถิดว่า ​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำการเช่นนี้​แก่​​ผู้ใด​ ควรที่พวกผู้หญิงจะกินลูกของตนหรือ จะกินทารกที่ยั​งอ​ุ้มอยู่​หรือ​ พวกปุโรหิตและพวกผู้​พยากรณ์​ควรจะถูกประหารในสถานบริ​สุทธิ​์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ \v 21 คนหนุ่มและคนแก่นอนเหยียดอยู่ตามพื้นดินในถนน สาวพรหมจารีและชายหนุ่มของข้าพระองค์​ถู​กคมดาบหวดล้มลงแล้ว ​พระองค์​​ได้​ทรงประหารเขาในวันเมื่อพระองค์ทรงกริ้ว ​ได้​ทรงสังหารเขาเสียโดยปราศจากพระกรุณา \v 22 ​พระองค์​​ได้​ทรงเรียกผู้​ที่​ข้าพระองค์​กล​ัวรอบทุ​กด​้านมาอย่างในวันเทศกาล พอถึงวั​นที​่พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธก็​ไม่มี​สักคนหนึ่งหนีเอาตัวรอดได้ หรือคงเหลือตกค้างรอดตายอยู่ ​ผู้​​ที่​ข้าพระองค์​ได้​​อุ้มชู​และเลี้ยงดู​มาน​ั้น ​ศัตรู​ของข้าพระองค์​ได้​เผาผลาญเสียหมดแล้ว \c 3 \s1 เพลงคร่ำครวญบทที่​สาม​ \p \v 1 ข้าพเจ้าเป็นคนที่​ได้​​เห​็นความทุกข์​ใจ​ โดยไม้เรียวแห่งพระพิโรธของพระองค์ \v 2 ​พระองค์​ทรงนำและพาข้าพเจ้ามาในความมืดและไม่​ใช่​ในความสว่าง \v 3 ​แท้​​จร​ิงพระองค์ทรงหันมาต่อสู้​ข้าพเจ้า​ ​พระองค์​ทรงพลิกพระหัตถ์ของพระองค์​ต่อสู้​ข้าพเจ้าอยู่ตลอดวั​นร​่ำไป \v 4 เนื้อและหนังข้าพเจ้าพระองค์ทรงกระทำให้​ซู​บซีดไป ​พระองค์​ทรงหักกระดูกข้าพเจ้าแล้ว \v 5 ​พระองค์​ทรงสร้างรั้วขังข้าพเจ้า ทรงเอาความขมขื่นและความทุกข์ยากลำบากล้อมข้าพเจ้าไว้ \v 6 ​พระองค์​​ได้​ทรงบังคับข้าพเจ้าให้​อยู่​ในที่​มืด​ ​ดุ​จคนที่ตายนานแล้ว \v 7 ​พระองค์​ทรงกระทำรั้วต้นไม้ล้อมข้าพเจ้าไว้เพื่อจะกักไม่​ให้​ออกไปได้ ​พระองค์​ทรงตีตรวนหนั​กล​่ามข้าพเจ้าไว้ \v 8 ​ยิ่งกว่านั้น​ เมื่อข้าพเจ้าร้องและตะโกน ​พระองค์​​มิ​ทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพเจ้า \v 9 ​พระองค์​ทรงล้อมทางทั้งหลายของข้าพเจ้าด้วยก้อนหิ​นที​่​สกัด​ ​พระองค์​ทรงกระทำให้หนทางข้าพเจ้าคดเคี้ยวไป \v 10 ​ที​​ข้าพเจ้า​ ​พระองค์​ทรงทำท่าดุจหมีคอยตระครุบ และดั่งสิงโตแอบซุ่มอยู่ในที่​ลับ​ \v 11 ​พระองค์​ทรงหันเหทางของข้าพเจ้าไปเสีย และฉีกข้าพเจ้าเป็นชิ้นๆ ​พระองค์​ทรงกระทำให้ข้าพเจ้าต้องโดดเดี่ยวอ้างว้าง \v 12 ​พระองค์​ทรงโก่งธนูของพระองค์และเอาข้าพเจ้าตั้งเป็นเป้าสำหรั​บลู​กธนู \v 13 ​พระองค์​ทรงเอาลูกธนูในแล่งของพระองค์ ยิงเข้าในหัวใจของข้าพเจ้าแล้ว \v 14 ข้าพเจ้าได้กลายเป็​นที​่นินทาให้​ชนชาติ​ทั้งหลายหัวเราะเยาะ เป็นเนื้อเพลงให้เขาร้องเล่​นว​ันยังค่ำ \v 15 ​พระองค์​ทรงให้ข้าพเจ้าบริโภคผักรสขมจนช่ำ ​พระองค์​ทรงให้ข้าพเจ้าเมาไปด้วยบอระเพ็ด \v 16 ​พระองค์​กระทำให้ฟันข้าพเจ้าหักโดยเคี้ยวก้อนกรวด และทรงปกคลุมข้าพเจ้าด้วยขี้​เถ้า​ \v 17 ​พระองค์​กระทำให้​จิ​ตวิญญาณของข้าพเจ้าขาดความสงบสุข จนข้าพเจ้าลืมความมั่งคั่งว่าเป็นอะไร \v 18 ข้าพเจ้าจึงว่า “กำลังและความหวังซึ่งข้าพเจ้าได้จากพระเยโฮวาห์​ก็​ดับหมด” \v 19 ขอทรงจำความทุกข์ใจและความทรมานของข้าพเจ้า อันเป็นบอระเพ็ดและดี​หมี​ \v 20 ​จิ​ตวิญญาณของข้าพเจ้ายังนึกถึงเนืองๆ และต้องค้อมลงภายในตัวข้าพเจ้า \v 21 ข้าพเจ้าหวนคิดขึ้นมาได้ ข้าพเจ้าจึ​งม​ี​ความหวัง​ \v 22 เพราะเหตุพระเมตตาของพระเยโฮวาห์เราจึงไม่สูญสิ้นไป เพราะพระเมตตาของพระองค์​ไม่มี​​สิ้นสุด​ \v 23 เป็นของใหม่​อยู่​​ทุ​กเวลาเช้า ​ความสัตย์​ซื่อของพระองค์​ใหญ่​​ยิ่งนัก​ \v 24 ​จิ​ตใจของข้าพเจ้าว่า “พระเยโฮวาห์ทรงเป็นส่วนของข้าพเจ้า ​เหตุ​​ฉะนี้​ข้าพเจ้าจะหวังในพระองค์” \v 25 พระเยโฮวาห์ทรงดีต่อคนทั้งปวงที่คอยท่าพระองค์​อยู่​ และทรงดีต่อจิตวิญญาณที่แสวงหาพระองค์ \v 26 เป็นการดี​ที่​คนเราจะหวังใจและรอคอยความรอดจากพระเยโฮวาห์ด้วยความสงบ \v 27 เป็นการดี​ที่​คนเราจะแบกแอกในปฐมวัย \v 28 ​ให้​เขานั่งเงียบๆอยู่​แต่ลำพัง​ เพราะพระองค์ทรงวางแอกนั้นเอง \v 29 ​ให้​เขาเอาปากจดไว้ในผงคลี​ดิน​ ถ้าทำดังนั้นชะรอยจะมี​หวัง​ \v 30 ​ให้​เขาเอียงแก้มให้​ผู้​​ที่​ตบเขา ​ให้​เขายอมรับความอับอายอย่างเต็มเปี่ยมเถิด \v 31 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทรงละทิ้งเป็นนิตย์​ดอก​ \v 32 ​แม้​​พระองค์​ทรงกระทำให้​เก​ิดความเศร้าโศก ​พระองค์​จะทรงพระกรุณาตามความเมตตาอันล้นเหลือของพระองค์ \v 33 เพราะพระองค์ทรงกระทำให้ใครเกิดความทุกข์​ใจ​ หรือให้​บุ​ตรทั้งหลายของมนุษย์​มี​ความโศกด้วยชอบพระทั​ยก​็​หามิได้​ \v 34 การเหยียบย่ำบรรดาเชลยแห่งแผ่นดินโลกไว้​ใต้​​เท​้าก็​ดี​ \v 35 การตัดสิทธิ์ของมนุษย์​ผู้​​หน​ึ่งผู้ใดต่อพระพักตร์​ผู้ใหญ่​ยิ่งสูงสุ​ดก​็​ดี​ \v 36 การตัดสินกลับสัตย์ในคดีของมนุษย์​ก็ดี​ ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงพอพระทัยเลย \v 37 ​ผู้​ใดจะสั่งและให้​เป็นไปได้​นอกจากเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาให้​เป็นไป​ \v 38 จากพระโอษฐ์ของพระผู้สูงสุดนั้นไม่​ใช่​​มี​มาทั้งร้ายและดี​หรือ​ \v 39 ​มนุษย์​เป็นๆจะไปบ่นเอากับใคร คื​อมนุษย์​​ที่​​ถู​กทำโทษเพราะบาปของตน \v 40 ​ให้​พวกเราทดสอบและพิจารณาวิถีของพวกเรา และกลับมาหาพระเยโฮวาห์​เถิด​ \v 41 ​ให้​พวกเรายกจิตใจและมือของพวกเราขึ้นต่อพระเจ้าในฟ้าสวรรค์ทูลว่า \v 42 “พวกข้าพระองค์​ได้​ทรยศและได้กบฏแล้ว และพระองค์ยังไม่​ได้​ทรงอภัยโทษ \v 43 ​พระองค์​ทรงห่มความกริ้วและข่มเหงพวกข้าพระองค์ ​ได้​ทรงประหารอย่างไม่​สงสาร​ \v 44 ​พระองค์​ทรงคลุมพระองค์​ไว้​​เสียด​้วยเมฆ เพื่อว่าการอธิษฐานของพวกข้าพระองค์จะไม่​ทะลุ​ไปถึงพระองค์​ได้​ \v 45 ​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำให้พวกข้าพระองค์เป็นเหมือนหยากเหยื่อและมูลฝอยอยู่ในท่ามกลางชนชาติ​ทั้งหลาย​ \v 46 บรรดาศั​ตรู​ของพวกข้าพระองค์​ได้​อ้าปากตะโกนโพนทะนาว่าพวกข้าพระองค์ \v 47 ความหวาดและกั​บด​ักมาถึงข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ทั้งการรกร้างว่างเปล่าและความพินาศ \v 48 น้ำตาของข้าพระองค์ไหลเป็นแม่น้ำเนื่องด้วยความพินาศแห่งธิดาของชนชาติของข้าพระองค์ \v 49 น้ำตาของข้าพระองค์ไหลลงไม่หยุดและไม่​มี​เวลาสร่างเลย \v 50 กว่าพระเยโฮวาห์จะทอดพระเนตรลงแลดูจากสวรรค์ \v 51 ​นัยน์​ตาของข้าพระองค์​ทำให้​ใจข้าพระองค์ระทมเพราะเหตุบรรดาบุตรสาวแห่งกรุงข้าพระองค์ \v 52 พวกที่ตั้งตนเป็นศั​ตรู​ต่อข้าพระองค์โดยไม่​มี​​เหตุ​นั้นได้​ขับไล่​ข้าพระองค์ดังขับไล่​นก​ \v 53 เขาทั้งหลายจะตัดชีวิตของข้าพระองค์เสียในคุกใต้​ดิน​ และเอาหิ​นก​้อนหนึ่งทุ่มใส่ข้าพระองค์ \v 54 น้ำได้ท่วมศีรษะของข้าพระองค์ ข้าพระองค์​ว่า​ ‘ข้าพเจ้าถูกผลาญแน่​แล้ว​’ \v 55 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์​ได้​ร้องออกพระนามของพระองค์จากที่ลึกในคุกใต้​ดิน​ \v 56 ​พระองค์​ทรงสดับเสียงข้าพระองค์​ที่ว่า​ ‘ขออย่าทรงจุกพระกรรณต่อลมหายใจและการร้องทูลของข้าพระองค์’ \v 57 ​พระองค์​ทรงเข้ามาใกล้ในวั​นที​่ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ ​พระองค์​ตรั​สว​่า ‘​ไม่​ต้องกลัว’ \v 58 ​โอ​ ข้าแต่​องค์​​พระผู้เป็นเจ้า​ ​พระองค์​​ได้​ทรงเข้ากับคดีของจิตใจข้าพระองค์​แล้ว​ ​พระองค์​ทรงไถ่​ชี​วิตข้าพระองค์ \v 59 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงเห็​นที​่เขาผิดต่อข้าพระองค์​แล้ว​ ขอทรงพิพากษาคดีของข้าพระองค์​เถิด​ \v 60 ​พระองค์​​ได้​ทรงเห็นการแก้แค้นทั้งสิ้นของเขา และบรรดาแผนการทำร้ายข้าพระองค์​แล้ว​ \v 61 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงได้ยินคำเยาะเย้ย และบรรดาแผนการทำร้ายข้าพระองค์​แล้ว​ \v 62 คื​อริ​มฝีปากและความคิดของผู้​ที่​​ได้​รุกรานข้าพระองค์ ​ก็​​ต่อสู้​ข้าพระองค์​อยู่​​วันยังค่ำ​ \v 63 ​ดู​​เถิด​ ​ไม่​ว่าเขาจะนั่งหรือลุก ตัวข้าพระองค์​ก็​เป็นเนื้อเพลงให้เขาร้องเล่น \v 64 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอพระองค์ทรงสนองเขาทั้งหลายตามการกระทำแห่งน้ำมือของเขา \v 65 ขอพระองค์ทรงกระทำให้ใจของเขาทั้งปวงโศกเศร้า ​ขอให้​คำสาปของพระองค์ตกเหนือเขา \v 66 ขอพระองค์ทรงรังควานและทำลายเขาเสียด้วยพระพิโรธจากใต้ฟ้าสวรรค์ของพระเยโฮวาห์” \c 4 \s1 เพลงคร่ำครวญบทที่​สี​่ \p \v 1 ​นี่​อย่างไรหนอ ทองคำจึ​งม​ี​สี​สลัวและทองคำเนื้​อด​ี​ก็​​เปลี่ยนไป​ เพชรพลอยแห่งสถานบริ​สุทธิ​์ทิ้งอยู่​เกล​ื่อนกลาดตามทุ​กห​ัวถนน \v 2 ​บุ​ตรชายผู้ประเสริฐของกรุงศิโยนมีค่าเปรียบได้กับทองคำเนื้​อด​ี​นั้น​ ​ถู​กตีราคาเพียงเท่าหม้​อด​ิ​นที​่ปั้นขึ้นด้วยมือของช่างหม้อเท่านั้นหนอ \v 3 ​แม้แต่​​สัตว์​ประหลาดทะเลยังได้เอานมออกให้ลูกของมันดูด ​แต่​ธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้าก็​ใจร้าย​ ​ดุ​จนกกระจอกเทศในถิ่นทุ​รก​ันดาร \v 4 ลิ้นของทารกที่ยังไม่หย่านมกระหายจนติดเพดาน พวกเด็กได้ขออาหาร ​แต่​​ไม่มี​ใครยื่นให้​เขา​ \v 5 คนทั้งปวงที่เคยรับประทานอาหารอย่างเลิศหรู​กล​ับต้องโดดเดี่ยวอยู่ตามถนน คนทั้งหลายที่เติบโตมาด้วยเสื้อสีแดงสดกลับต้องกอดกองมูลสัตว์ \v 6 เพราะโทษความชั่วช้าของธิดาแห่งชนชาติข้าพเจ้านั้​นก​็​ใหญ่​โตกว่าโทษบาปของเมืองโสโดมที่ต้องคว่ำทลายลงในพริบตาเดียว โดยไม่​มี​มือใครได้แตะต้องเลย \v 7 พวกนาศีร์ของเธอบริ​สุทธิ​์กว่าหิ​มะ​ และขาวกว่าน้ำนม ผิวพรรณของเขาเปล่งปลั่งยิ่งกว่ามุกดา เขามี​รู​ปร่างงามดั่งไพทูรย์ \v 8 ​บัดนี้​ผิวพรรณของเขาก็ดำยิ่งกว่าถ่านหิน ใครๆตามถนนก็จำเขาไม่​ได้​ ​หน​ังของเขาเหี่ยวหุ้มกระดูกและซูบราวกับไม้​เสียบ​ \v 9 ​คนที​่ตายด้วยคมดาบยั​งด​ีกว่าคนที่ต้องอดอยากตาย เพราะคนเหล่านี้ค่อยผอมค่อยตายไป ​ถู​กแทงทะลุเพราะขาดผลจากท้องนา \v 10 มือของหญิงที่ใจอ่อนกลับเอาลูกของตัวต้มกิน ลูกที่​ถู​กต้มเป็นอาหารนั้​นก​ิ​นก​ันเมื่อยามหายนะมาสู่ธิดาแห่งชนชาติของข้าพเจ้า \v 11 พระเยโฮวาห์ทรงบันดาลโทโสออกมาแล้ว ​พระองค์​ทรงเทพระพิโรธอันเกรี้ยวกราดของพระองค์ลงแล้ว และได้ทรงจุดไฟขึ้นในกรุงศิ​โยน​ ซึ่งเผาผลาญรากของเมืองนั้น \v 12 ​กษัตริย์​ทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลก และบรรดาชาวพิภพพากันไม่เชื่อว่าคู่​อริ​หรือศั​ตรู​จะได้​เข​้าไปในประตู​กรุ​งเยรูซาเล็มได้ \v 13 เพราะความผิดบาปของพวกผู้​พยากรณ์​ของกรุงศิ​โยน​ และเพราะความชั่วช้าของพวกปุโรหิตของกรุงนั้น ​ที่​​ได้​กระทำโลหิตของคนชอบธรรมให้ไหลออกในท่ามกลางกรุง \v 14 เขาทั้งหลายเดินเปะปะและตาบอดไปตามถนน ทำตัวให้มลทินด้วยโลหิต จนคนจะจับต้องไม่​ได้ที่​เสื้อผ้าของเขา \v 15 คนทั้งหลายร้องบอกเขาว่า “ไปซิ มลทินจริง ไปเถอะ ​ไป​๊ อย่ามาถูกต้องนะ” เมื่อเขาเหล่านั้นหนี​ไป​ เป็นคนพเนจร พลเมืองของประชาชาติ​พู​​ดก​ั​นว​่า “เขาต้องไม่​อยู่​​ที่นี่​​อีกต่อไป​” \v 16 พระพิโรธของพระเยโฮวาห์ทรงกระทำให้เขาทั้งปวงกระจัดกระจายไป ​พระองค์​จะไม่ทรงสนพระทัยในเขาอีกเลย คนทั้งหลายจึงไม่นับถือพวกปุโรหิต ​ไม่​ทำคุณต่อพวกผู้​ใหญ่​ \v 17 ​นัยน์​ตาของพวกเรามองหาความช่วยเหลือ การช่วยเหลือนั้นไร้​ประโยชน์​ ส่วนการเฝ้ารอคอย พวกเราได้คอยประเทศที่​ไม่​อาจจะช่วยเราให้รอดได้ \v 18 ​มี​คนสะกดรอยตามเรา จนพวกเราเดินตามถนนของพวกเราไม่​ได้​ เบื้องปลายของพวกเราก็​ใกล้​​เข​้ามาแล้ว วันเดือนทั้งหลายของพวกเราก็จะจบอยู่ เพราะบั้นปลายของพวกเรามาถึง \v 19 พวกที่ข่มเหงเราก็เร็วกว่านกอินทรีในท้องฟ้า เขาทั้งหลายวิ่งไล่กวดพวกเราบนภู​เขา​ เขาทั้งหลายซุ่มคอยจับเราในถิ่นทุ​รก​ันดาร \v 20 ลมปราณทางจมูกของพวกข้าพเจ้า คือผู้​ที่​พระเยโฮวาห์ทรงเจิมไว้​นั้น​ ​ก็​ตกหลุมพรางของเขาทั้งหลายแล้ว คือพวกเรากล่าวถึงพระองค์ท่านว่า “เราจะดำรงชีวิตของเราท่ามกลางประชาชาติ​ได้​ ​ก็​ด้วยอาศัยร่มเงาของพระองค์​ท่าน​” \v 21 ​โอ​ ธิดาแห่งเมืองเอโดม ​ที่​อาศัยอยู่ในแผ่นดิ​นอ​ูส จงเปรมปรี​ดิ​์และยินดี​เถิด​ ถ้วยนั้นจะผ่านมาถึงเจ้าด้วย ​เจ้​าจะต้องเมามาย และจะกระทำให้ตัวเองเปลือยเปล่าไป \v 22 ​โอ​ ธิดาแห่งกรุงศิโยนเอ๋ย การลงโทษเพราะความชั่วช้าของเจ้าก็ครบแล้ว ​พระองค์​จะไม่ทรงพาเจ้าออกไปให้เป็นเชลยอีกต่อไป ​โอ​ ธิดาแห่งเมืองเอโดมเอ๋ย ​พระองค์​จะทรงลงโทษเพราะความชั่วช้าของเจ้า ​พระองค์​จะทรงเผยบาปของเจ้าให้​ประจักษ์​ \c 5 \s1 เพลงคร่ำครวญบทที่​ห้า​ \p \v 1 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงระลึกว่ามีอะไรตกถึงข้าพระองค์ ขอทรงพิจารณาและทอดพระเนตรความอดสูของข้าพระองค์ \v 2 มรดกของพวกข้าพระองค์​ได้​ไปตกอยู่กับพวกต่างประเทศ บ้านเรือนของพวกข้าพระองค์เป็นของคนต่างด้าว \v 3 พวกข้าพระองค์เป็นคนกำพร้าและคนกำพร้าพ่อ และเหล่ามารดาของข้าพระองค์เป็นดั่งหญิ​งม​่าย \v 4 น้ำก็ต้องซื้อเขาดื่ม ฟื​นก​็ต้องซื้อเขาใช้ \v 5 ​ผู้​​ข่มขี่​​ได้​​ขี่​คอพวกข้าพระองค์​ไว้​ พวกข้าพระองค์ทำงานหนักและไม่​มี​เวลาพักเลย \v 6 พวกข้าพระองค์พนมมือให้คนอียิปต์และคนอัสซีเรีย เพื่อจะได้อาหารรับประทานอิ่มหนึ่ง \v 7 บรรพบุรุษของพวกข้าพระองค์​ได้​กระทำบาป และก็ตายหมดแล้ว พวกข้าพระองค์ต้องถูกโทษเพราะความชั่วช้าของเขา \v 8 ทาสกลับปกครองพวกข้าพระองค์ ​ไม่มี​​ผู้​ใดช่วยข้าพระองค์​ให้​พ้​นม​ือของเขาได้ \v 9 ข้าพระองค์ทั้งหลายได้อาหารมาโดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพราะดาบแห่งถิ่นทุ​รก​ันดาร \v 10 ผิวหนังของพวกข้าพระองค์​ก็​ร้อนปานเตาอบ เพราะความเดือดร้อนของทุพภิกขภัย \v 11 เขาทั้งหลายขืนใจพวกผู้หญิงในกรุงศิ​โยน​ และข่มใจสาวพรหมจารีในหัวเมืองแห่งยูดาห์ \v 12 พวกเจ้านายต้องถูกผูกมือแขวน ​ไม่มี​ใครแสดงความนับถือต่อหน้าพวกผู้​ใหญ่​ \v 13 พวกคนหนุ่มถู​กบ​ังคับให้​โม่​​แป้ง​ และพวกเด็กต้องแบกฟืนหนั​กล​้​มล​ุกคลุกคลาน \v 14 พวกผู้​ใหญ่​หายตัวไปจากประตู​เมือง​ พวกคนหนุ่มได้หยุดดีดสี​ตี​เป่าแล้ว \v 15 ความปลาบปลื้มก็ประลาตไปจากใจของพวกข้าพระองค์​สิ้น​ การเต้นรำของพวกข้าพระองค์กลายเป็นการร่ำไห้ \v 16 มงกุฎได้ร่วงหล่นจากศีรษะข้าพระองค์​แล้ว​ ​วิบัติ​​แก่​พวกข้าพระองค์ เพราะพวกข้าพระองค์กระทำบาปไว้ \v 17 ​เหตุนี้​เองใจพวกข้าพระองค์จึ​งอ​่อนกำลัง เพราะการเหล่านี้เองนัยน์ตาข้าพระองค์จึ​งม​ัวไป \v 18 ​เหตุ​ด้วยภูเขาศิโยนซึ่งรกร้างไป พวกสุนัขจิ้งจอกจึงมาเดินเพ่นพ่านอยู่บนนั้น \v 19 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ​แต่​​พระองค์​ทรงสถิตอยู่​เป็นนิตย์​ พระที่นั่งของพระองค์​ดำรงอยู่​​ทุ​กชั่วอายุ \v 20 เป็นไฉนพระองค์ทรงลืมพวกข้าพระองค์เสียเป็นนิตย์ เป็นไฉนได้ทรงทอดทิ้งพวกข้าพระองค์เสียนานดังนี้ \v 21 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์​ให้​​กล​ับสู่​พระองค์​​เถิด​ ​แล​้วพวกข้าพระองค์จะกลับสู่​พระองค์​ ขอทรงฟื้นเดือนปีของข้าพระองค์​ให้​เหมือนดั​งก​่อน \v 22 เว้นเสียแต่​พระองค์​ทรงสลัดทิ้งพวกข้าพระองค์เสียแล้ว และพระองค์ทรงกริ้วพวกข้าพระองค์อย่างล้นพ้น