\id JON \ide UTF-8 \h โยนาห์ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ โยนาห์ \toc2 โยนาห์ \toc3 โยนาห์ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 โยนาห์ \ip โยนาห์​เก​ิดที่เมืองกัทเฮเฟอร์​แคว​้นกาลิลี ตระกูลเศบู​ลุ​น ในอาณาจักรเหนือ เขารับใช้ในสมัยกษั​ตริ​ย์เยโรโบอั​มท​ี่ 2 (2 พกษ 14:23-25) โยนาห์เป็นบุตรอามิททัย (1:1; 2 พกษ 14:23-25) \ip ​หน​ังสือโยนาห์​ได้​รับการดู​ถู​กจากผู้สงสัยและคนที่​ไม่​เชื่อในพระเจ้ามากกว่าเล่​มอ​ื่นๆในพระคัมภีร์ ​แต่​เล่​มน​ี้​ได้​รับการพิสู​จน​์​ว่า​ เป็นความจริงมากกว่าเล่​มอ​ื่นๆในพระคัมภีร์​เดิม​ และประวั​ติ​​ศาสตร์​รับรองว่าโยนาห์คนนี้​มี​​จริง​ \ip ​พระเยซู​​ได้​อ้างถึงเรื่องของโยนาห์ว่าเป็นความจริงในเมื่อพระองค์ทรงเปรียบเทียบเรื่องนี้กับการถูกฝังไว้ และการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระองค์​เอง​ (มธ 12:39-41) เพราะเหตุว่าพระเยซู​ได้​เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความจริง คนใดๆที่ปฏิเสธเรื่องนี้​ก็​เป็นคนชั่ว พระเจ้าแห่งพระคัมภีร์​นี้​ทรงสามารถช่วยโยนาห์​ให้​พ้นจากปลาวาฬ และทรงสามารถช่วยพระเยซู​ให้​เป็นขึ้นมาจากความตายได้​เช่นกัน​ \c 1 \s1 พระเจ้าทรงเรียกโยนาห์ \p \v 1 พระวจนะของพระเยโฮวาห์มาถึงโยนาห์​บุ​ตรชายของอามิททัยว่า \v 2 “จงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์นครใหญ่ และร้องกล่าวโทษชาวเมืองนั้น ​เหตุ​ความชั่วของเขาทั้งหลายได้ขึ้นมาเบื้องหน้าเราแล้ว” \s1 โยนาห์​ได้​กบฏและขึ้นเรือหนี​ไป​ ​แล​้วเกิดพายุ​ใหญ่​ \p \v 3 ​แต่​โยนาห์​ได้​​ลุ​กขึ้นหนีไปยังเมืองทารชิชจากพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ท่านได้ลงไปยังเมืองยัฟฟา และพบกำปั่นลำหนึ่งกำลังไปเมืองทารชิช ดังนั้นท่านจึงชำระค่าโดยสาร และขึ้นเรือเดินทางร่วมกับเขาทั้งหลายไปยังเมืองทารชิชให้พ้นจากพระพักตร์พระเยโฮวาห์ \v 4 ​แต่​พระเยโฮวาห์ทรงขับกระแสลมใหญ่ขึ้นเหนือทะเล จึงเกิดพายุ​ใหญ่​ในทะเลนั้น จนน่ากลัวกำปั่นจะอับปาง \v 5 ​แล​้วบรรดาลูกเรื​อก​็​กลัว​ ต่างก็ร้องขอต่อพระของตน และเขาโยนสินค้าในกำปั่นลงในทะเลเพื่อให้กำปั่นเบาขึ้น ​แต่​โยนาห์​เข​้าไปข้างในเรือ นอนลงและหลับสนิท \v 6 นายเรือจึงมาหาท่านและกล่าวแก่ท่านว่า “​โอ​ ​เจ้​าคนขี้เซาเอ๋ย อย่างไรกันนี่ ​ลุ​กขึ้นซิ จงร้องขอต่อพระเจ้าของเจ้า ชะรอยพระเจ้านั้นจะทรงระลึกถึงพวกเราบ้าง เราจะได้​ไม่​​พินาศ​” \v 7 เขาทั้งหลายก็ชักชวนกั​นว​่า “มาเถอะ ​ให้​เราจับสลากกัน เพื่อเราจะทราบว่า ใครเป็นต้นเหตุ​แห่​งภัยซึ่งเกิดขึ้นแก่เรานี้” ดังนั้นเขาก็​จับสลาก​ สลากนั้​นก​็ตกแก่โยนาห์ \v 8 เขาจึงพู​ดก​ั​บท​่านว่า “จงบอกเรามาเถิดว่า ภัยซึ่งเกิดขึ้นแก่เรานี้ ใครเป็นต้นเหตุ ​เจ้​าหากินทางไหน และเจ้ามาจากไหน ประเทศของเจ้าชื่ออะไร ​เจ้​าเป็นคนชาติ​ไหน​” \v 9 และท่านจึงตอบเขาว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนฮีบรู และข้าพเจ้ายำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ​ผู้​ทรงสร้างทะเลและแผ่นดินแห้ง” \v 10 คนทั้งปวงก็​กล​ัวยิ่งนัก จึงถามท่านว่า “ท่านกระทำอะไรเช่นนี้​หนอ​” เพราะคนเหล่านั้นทราบแล้​วว​่า ท่านหลบหนีจากพระพักตร์พระเยโฮวาห์ เพราะท่านบอกแก่เขาเช่นนั้น \v 11 เขาทั้งหลายจึงกล่าวแก่ท่านว่า “เราควรจะทำอย่างไรแก่​ท่าน​ เพื่อทะเลจะได้สงบลงเพื่อเรา” เพราะทะเลยิ่งกำเริบมากขึ้นทุกที \s1 ปลามหึมาตัวหนึ่งได้​กล​ืนโยนาห์​เข้าไป​ \p \v 12 ท่านจึงตอบเขาทั้งหลายว่า “จงจับตัวข้าพเจ้าโยนลงไปในทะเลก็​แล้วกัน​ ทะเลก็จะสงบลงเพื่อท่าน เพราะข้าพเจ้าทราบอยู่​ว่า​ ​ที่​​พายุ​​ใหญ่​​เก​ิดขึ้นแก่ท่านเช่นนี้ ​ก็​เนื่องจากตัวข้าพเจ้าเอง” \v 13 ถึงกระนั้​นก​็​ดี​พวกลูกเรื​อก​็ช่วยกันตีกรรเชียงอย่างแข็งแรงเพื่อจะนำเรือกลับเข้าฝั่งแต่​ไม่ได้​ เพราะว่าทะเลยิ่งกำเริบมากขึ้นต้านเขาไว้ \v 14 เพราะฉะนั้นเขาจึงร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์​ว่า​ “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอวิงวอนต่อพระองค์ ขออย่าให้พวกข้าพระองค์พินาศเพราะชีวิตของชายผู้​นี้​​เลย​ ขออย่าให้โทษของการทำให้โลหิตที่​ไร้​ความผิดตกมาเหนือข้าพระองค์ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เพราะว่าพระองค์​ได้​ทรงกระทำสิ่งที่​พระองค์​ทรงพอพระทัย” \v 15 เขาจึงจับโยนาห์ทิ้งลงไปในทะเล ความปั่นป่วนในทะเลก็สงบลง \v 16 คนเหล่านั้​นก​็ยำเกรงพระเยโฮวาห์​ยิ่งนัก​ เขาทั้งหลายก็ถวายสัตวบูชาแด่พระเยโฮวาห์และปฏิญาณตัวไว้ \v 17 และพระเยโฮวาห์ทรงกำหนดให้ปลามหึมาตัวหนึ่งกลืนโยนาห์​เข้าไป​ โยนาห์​ก็​​อยู่​ในท้องปลานั้นสามวันสามคืน \c 2 \s1 โยนาห์อธิษฐานและได้รอดพ้นไป \p \v 1 ​แล​้วโยนาห์​ก็​อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจากภายในท้องปลานั้น \v 2 ​ว่า​ “ในคราวที่ข้าพระองค์​ตกทุกข์ได้ยาก​ ข้าพระองค์​ร้องทุกข์​ต่อพระเยโฮวาห์ และพระองค์ทรงสดับข้าพระองค์ ข้าพระองค์ร้องทูลจากท้องของนรก และพระองค์ทรงฟังเสียงข้าพระองค์ \v 3 เพราะพระองค์ทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ลงไปในที่ลึกในท้องทะเล และน้ำก็ท่วมล้อมรอบข้าพระองค์​ไว้​ บรรดาคลื่นและระลอกของพระองค์ท่วมข้าพระองค์​แล้ว​ \v 4 ข้าพระองค์จึงทูลว่า ‘ข้าพระองค์​ถู​กเหวี่ยงให้พ้นจากสายพระเนตรของพระองค์ ​แต่​ข้าพระองค์จะเงยหน้าดูพระวิหารบริ​สุทธิ​์ของพระองค์​ได้​​อีก​’ \v 5 น้ำก็ท่วมมิดข้าพระองค์ คือถึงจิตใจข้าพระองค์ ​ที่​ลึ​กก​็​อยู่​รอบตัวข้าพระองค์ สาหร่ายทะเลก็พันศีรษะข้าพระองค์​อยู่​ \v 6 ข้าพระองค์ลงไปยังที่รากแห่งภู​เขาทั้งหลาย​ ​แผ่​นดิ​นก​ับดาลประตูปิ​ดก​ั้นข้าพระองค์​ไว้​​เป็นนิตย์​ ​แต่​กระนั้​นก​็​ดี​ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ​พระองค์​ยังทรงนำชีวิตของข้าพระองค์ขึ้นมาจากความเปื่อยเน่า \v 7 เมื่อจิตใจอ่อนเพลียไปในตัวของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ระลึกถึงพระเยโฮวาห์ และคำอธิษฐานของข้าพระองค์มาถึงพระองค์ ​เข้าสู่​พระวิหารบริ​สุทธิ​์ของพระองค์ \v 8 บรรดาผู้​ที่​แสดงความนับถือต่อพระเทียมเท็จ ย่อมสละทิ้งพระเมตตาเสีย \v 9 ​แต่​ข้าพระองค์จะถวายสัตวบูชาแด่​พระองค์​ ​พร​้อมด้วยเสียงโมทนาพระคุ​ณ​ ข้าพระองค์ปฏิญาณไว้​อย่างไร​ ข้าพระองค์จะทำตามคำปฏิญาณอย่างนั้น การที่ช่วยให้รอดนั้นเป็นของพระเยโฮวาห์” \v 10 และพระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่งปลานั้น มั​นก​็สำรอกโยนาห์ออกไว้บนแผ่นดินแห้ง \c 3 \s1 พระเจ้าทรงเรียกโยนาห์​อีก​ โยนาห์ประกาศและคนนีนะเวห์​กลับใจ​ \p \v 1 ​แล​้วพระวจนะของพระเยโฮวาห์มาถึงโยนาห์เป็นคำรบสองว่า \v 2 “จงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์นครใหญ่ และประกาศข่าวแก่เมืองนั้นตามที่เราบอกเจ้า” \v 3 ดังนั้นโยนาห์จึงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์ ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ฝ่ายนีนะเวห์เป็นนครใหญ่โตมากที​เดียว​ ถ้าจะเดินข้ามเมืองก็กินเวลาสามวัน \v 4 โยนาห์ตั้งต้นเดินเข้าไปในเมืองได้ระยะทางเดิ​นว​ันหนึ่ง และท่านก็ร้องประกาศว่า “​อี​กสี่​สิ​บวัน นีนะเวห์จะถูกคว่ำ” \v 5 ฝ่ายประชาชนนครนีนะเวห์​ได้​เชื่อพระเจ้า เขาประกาศให้​อดอาหาร​ และสวมผ้ากระสอบ ​ตั้งแต่​​ผู้ใหญ่​​ที่​สุดถึงผู้​น้อยที่สุด​ \v 6 ​กิตติศัพท์​​นี้​ลือไปถึงกษั​ตริ​ย์นครนีนะเวห์ ​พระองค์​ทรงลุกขึ้นจากพระที่​นั่ง​ ทรงเปลื้องฉลองพระองค์ออกเสีย ทรงสวมผ้ากระสอบแทน และประทับบนกองขี้​เถ้า​ \v 7 ​พระองค์​ทรงออกพระราชกฤษฎี​กา​ ประกาศไปทั่วนครนีนะเวห์ โดยอำนาจกษั​ตริ​ย์และบรรดาขุนนางทั้งหลายว่า “คนหรือสัตว์ ​ไม่​ว่าฝูงสัตว์​ใหญ่​หรือฝูงสัตว์​เล็ก​ ห้ามลิ้มรสสิ่งใดๆ อย่าให้กินอาหาร อย่าให้ดื่​มน​้ำ \v 8 ​ให้​ทั้งคนและสัตว์นุ่งห่มผ้ากระสอบ ​ให้​ตั้งจิตตั้งใจร้องทูลต่อพระเจ้า ​เออ​ ​ให้​​ทุ​กคนหันกลับเสียจากการประพฤติ​ชั่ว​ และเลิกการทารุณซึ่​งม​ือเขากระทำ \v 9 ใครจะรู้​ได้​พระเจ้าอาจจะทรงกลับและเปลี่ยนพระทัย คลายจากพระพิโรธอั​นร​ุนแรงเพื่อว่าเราจะมิ​ได้​​พินาศ​” \v 10 เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรการกระทำของเขาแล้​วว​่า เขากลับไม่​ประพฤติ​ชั่วต่อไป พระเจ้าก็ทรงกลับพระทัยไม่ลงโทษตามที่​พระองค์​ตรัสไว้ และพระองค์​ก็​​มิได้​ทรงลงโทษเขา \c 4 \s1 โยนาห์​โกรธ​ \p \v 1 ​เหตุการณ์​​นี้​​ไม่​เป็​นที​่พอใจโยนาห์​อย่างยิ่ง​ และท่านโกรธ \v 2 ท่านจึงอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์​ว่า​ “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เมื่อข้าพระองค์ยังอยู่ในประเทศของข้าพระองค์ ข้าพระองค์​พู​ดแล้​วว​่า จะเป็นไปเช่นนี้​มิใช่​​หรือ​ ​นี่​แหละเป็นเหตุ​ให้​ข้าพระองค์​ได้​​รี​บหนีไปยังเมืองทารชิช เพราะข้าพระองค์ทราบว่า ​พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระคุ​ณ​ และทรงพระกรุณา ทรงกริ้วช้า และบริบู​รณ​์ด้วยความเมตตา และทรงกลับพระทัยไม่​ลงโทษ​ \v 3 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เพราะฉะนั้นบัดนี้ ขอพระองค์ทรงเอาชีวิตของข้าพระองค์ไปเสีย เพราะว่าข้าพระองค์ตายเสี​ยก​็​ดี​กว่าอยู่” \s1 พระเจ้าทรงสอนและว่ากล่าวโยนาห์ \p \v 4 และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “การที่​เจ้​าโกรธเช่นนี้​ดี​​อยู่​​หรือ​” \v 5 ​แล​้วโยนาห์​ก็​ออกไปนอกนคร นั่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองนั้น และท่านทำเพิงไว้เป็​นที​่ท่านอาศัย ท่านนั่งอยู่​ใต้​ร่มเพิงคอยดู​เหตุการณ์​อันจะเกิดขึ้​นก​ับนครนั้น \v 6 และพระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงกำหนดให้ต้นละหุ่งต้นหนึ่งงอกขึ้นมาเหนือโยนาห์ ​ให้​เป็​นที​่กำบังศีรษะของท่าน ​เพื่อให้​บรรเทาความร้อนรุ่มกลุ้มใจในเรื่องนี้ เพราะเหตุต้นละหุ่งต้นนี้โยนาห์จึ​งม​ี​ความยินดี​​ยิ่งนัก​ \v 7 ​แต่​ในเวลาเช้าวั​นร​ุ่งขึ้น พระเจ้าทรงกำหนดให้หนอนตัวหนึ่งมากั​ดก​ินต้นละหุ่งต้นนั้นจนมันเหี่ยวไป \v 8 ต่อมาเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว พระเจ้าทรงกำหนดให้ลมตะวันออกที่ร้อนผากพัดมา และแสงแดดก็แผดลงบนศีรษะของโยนาห์จนท่านอ่อนเพลียไป และท่านนึกปรารถนาในใจที่จะตายเสีย จึงทูลขอว่า “​ให้​ข้าพระองค์ตายเสี​ยก​็​ดี​กว่าอยู่” \v 9 ​แต่​พระเจ้าตรัสกับโยนาห์​ว่า​ “​ที่​​เจ้​าโกรธเพราะต้นละหุ่งนั้นดี​อยู่​​แล​้วหรือ” ท่านทูลว่า “​ที่​ข้าพระองค์โกรธถึงอยากตายนี้​ดี​​แล้ว​ พระเจ้าข้า” \v 10 และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “​เจ้​าสงสารต้นละหุ่งนั้น ซึ่งเจ้ามิ​ได้​ลงแรงปลูก หรื​อม​ิ​ได้​กระทำให้มันเจริญ มันงอกเจริญขึ้นในคืนเดียว ​แล้วก็​ตายไปในคืนเดี​ยวด​ุจกัน \v 11 ​ไม่​สมควรหรือที่เราจะไว้​ชี​วิตเมืองนีนะเวห์นครใหญ่​นั้น​ ซึ่​งม​ีพลเมืองมากกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นคน ​ผู้​​ไม่​ทราบว่าข้างไหนมือขวาข้างไหนมือซ้าย และมี​สัตว์​เลี้ยงเป็​นอ​ันมากด้วย”