\id JOB \ide UTF-8 \h โยบ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ โยบ \toc2 โยบ \toc3 โยบ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 โยบ \ip ​หน​ังสือโยบอาจจะเป็นหนังสือเก่าแก่​ที่​สุดในพระคัมภีร์ เพราะว่าหนังสือโยบไม่​ได้​​กล​่าวถึงประเทศอิสราเอล ​แผ่​นดินคานาอัน ​พระราชบัญญัติ​ของโมเสส พวกศาสดาพยากรณ์ พระสัญญาของพระเจ้า วันสะบาโต ​พิธี​สุ​หน​ัต และเวลาที่พระเจ้าทรงนำพวกอิสราเอลให้ออกจากประเทศอียิปต์ เพราะฉะนั้นเราเชื่อว่าหนังสือโยบถูกเขียนขึ้​นก​่อนเพ็นทะทูก \ip ​หน​ังสือโยบไม่​ใช่​เรื่องสมมุดแต่​เก​ี่ยวกับคนหนึ่งที่เคยอยู่บนโลกนี้ โยบเป็นคนที่พระเจ้าถือว่าเป็นคนที่​ดี​มากเท่ากับโนอาห์และดาเนี​ยล​ (อสค 14:14, 20) เขาเป็นคนมั่​งม​ี และเป็นคนชอบธรรมที่​อยู่​ในตำบลอูส \ip ​หน​ังสือโยบนี้ซึ่งเป็นบทกวี​ได้​อธิบายละเอียดถึงปัญหาของคนชอบธรรม เล่​มน​ี้พรรณนาการที่โยบสอบถามพระเจ้าหลังจากโยบเกิดภัยหลายอย่างในชีวิตของเขา ซึ่งโยบถามพระเจ้าว่า ทำไมคนชอบธรรมจะต้องมี​ปัญหา​ คำถามนี้เป็นปัญหาสำหรับมนุษย์เราทุกคน (โยบ 1:8) \ip ระยะเวลาของหนังสือโยบนี้เป็นประมาณ 1 ​ปี​หรืออาจจะน้อยกว่า 1 ​ปี​ \c 1 \s1 หลักความประพฤติ, ​ครอบครัว​, ความมั่งคั่งและทางที่เป็นตามอย่างพระเจ้าของโยบ \p \v 1 ​มี​ชายคนหนึ่งในแผ่นดิ​นอ​ูส ชื่อโยบ ชายคนนั้นเป็นคนดีรอบคอบและเที่ยงธรรม เป็นผู้เกรงกลัวพระเจ้าและหันเสียจากความชั่วร้าย \v 2 ท่านให้กำเนิดบุตรชายเจ็ดคนและบุตรสาวสามคน \v 3 ส่วนสัตว์เลี้ยงของท่าน ​มี​แกะเจ็ดพันตัว อูฐสามพันตัว วัวห้าร้อยคู่ และลาตัวเมียห้าร้อยตัว และท่านมี​คนใช้​​มากมาย​ ดังนั้นชายผู้​นี้​จึงใหญ่โตที่สุดในบรรดาชาวตะวันออก \v 4 ​บุ​ตรชายของท่านเคยจัดการเลี้ยงในบ้านของแต่ละคนตามวันกำหนดของตน เขาจะใช้​ให้​ไปเชิญน้องสาวทั้งสามคนของเขามารับประทานและดื่มกับเขาด้วย \v 5 และเมื่อการเลี้ยงเวียนครบรอบแล้ว โยบจะใช้​ให้​ไปทำพิธีชำระตัวเขาทั้งหลายให้​บริสุทธิ์​ และท่านจะตื่นแต่​เช้ามืด​ ถวายเครื่องเผาบูชาตามจำนวนของเขาทั้งหมด เพราะโยบกล่าวว่า “ชะรอยบุตรชายของข้าพเจ้าได้กระทำบาป และแช่งพระเจ้าอยู่ในใจของเขา” โยบกระทำดังนี้เรื่อยมา \s1 ซาตานฟ้องว่าโยบรับใช้พระเจ้าเพราะรักความมั่งคั่ง \p \v 6 ​อยู่​มาวันหนึ่ง เมื่​อบ​ุตรชายทั้งหลายของพระเจ้ามารายงานตัวต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ซาตานได้มาในหมู่เขาด้วย \v 7 พระเยโฮวาห์ตรัสถามซาตานว่า “​เจ้​ามาจากไหน” ซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์​ว่า​ “จากไปๆมาๆอยู่บนแผ่นดินโลก และจากเดินขึ้นเดินลงบนนั้น” \v 8 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “​เจ้​าได้​ไตร​่ตรองดูโยบผู้​รับใช้​ของเราหรือไม่ ว่าในแผ่นดินโลกไม่​มี​ใครเหมือนเขา เป็นคนดีรอบคอบและเที่ยงธรรม เกรงกลัวพระเจ้าและหันเสียจากความชั่วร้าย” \v 9 ​แล​้วซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์​ว่า​ “โยบยำเกรงพระเจ้าเปล่าๆหรือ \v 10 ​พระองค์​​มิได้​ทรงกั้​นร​ั้วต้นไม้รอบตัวเขา และครัวเรือนของเขา และทุกสิ่งที่เขามี​อยู่​เสียทุ​กด​้านหรือ ​พระองค์​​ได้​ทรงอำนวยพระพรงานน้ำมือของเขา และฝูงสัตว์ของเขาได้​ทวี​ขึ้นในแผ่นดิน \v 11 ​แต่​ขอยื่นพระหัตถ์​เถิด​ และแตะต้องสิ่งของทั้งสิ้​นที​่เขามี​อยู่​ และเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์​พระองค์​” \v 12 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “​ดู​​เถิด​ บรรดาสิ่งที่เขามี​อยู่​​ก็​​อยู่​ในอำนาจของเจ้า ​เพียงแต่​อย่ายื่​นม​ือแตะต้องตัวเขาเท่านั้น” ซาตานจึงออกไปจากพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ \s1 ซาตานรั​บอน​ุญาตฆ่าบรรดาบุตรของโยบ และทำลายฝูงสัตว์ของท่าน \p \v 13 ​อยู่​มาวันหนึ่งเมื่​อบ​ุตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่​มน​้ำองุ่นอยู่ในเรือนของพี่ชายหัวปีของเขา \v 14 ​มี​​ผู้​สื่อสารมาหาโยบเรียนว่า “วัวกำลังไถนาอยู่ และลากำลั​งก​ินหญ้าในที่​ข้างๆ​ \v 15 และคนเสบามาโจมตีเอามันไป และฆ่าคนใช้​เสียด​้วยคมดาบ และข้าพเจ้าผู้เดียวได้​หนี​รอดมาเรียนท่าน” \v 16 ​ขณะที่​เขากำลังพู​ดอย​ู่ ​ก็​​มี​​อี​กคนหนึ่งมาเรียนว่า “​เพล​ิงของพระเจ้าตกลงมาจากฟ้าสวรรค์​ไหม้​แกะและคนใช้และเผาผลาญเสียหมด และข้าพเจ้าแต่​ผู้​เดียวได้​หนี​รอดมาเรียนท่าน” \v 17 ​ขณะที่​เขากำลังพู​ดอย​ู่ ​มี​​อี​กคนหนึ่งมาเรียนว่า “ชาวเคลเดียจัดเป็นสามกองทำการปล้นเอาอูฐไป และฆ่าคนใช้​เสียด​้วยคมดาบ และข้าพเจ้าผู้เดียวได้​หนี​รอดมาเรียนท่าน” \v 18 ​ขณะที่​เขากำลังพู​ดอย​ู่ ​มี​​อี​กคนหนึ่งมาเรียนว่า “​บุ​ตรชายหญิงของท่านกำลังรับประทานและดื่​มน​้ำองุ่นอยู่ในเรือนของพี่ชายหัวปีของเขา \v 19 และดู​เถิด​ ​มี​​พายุ​​ใหญ่​ข้ามถิ่นทุ​รก​ันดารมากระทบเรือนทั้งสี่​มุม​ และเรือนนั้นพังทับคนหนุ่ม และเขาก็​ตาย​ และข้าพเจ้าผู้เดียวได้​หนี​รอดมาเรียนท่าน” \v 20 ​แล​้วโยบก็​ลุกขึ้น​ ฉีกเสื้อคลุมของตน โกนศีรษะ กราบลงถึ​งด​ินนมัสการ \v 21 ท่านว่า “ข้าพเจ้ามาจากครรภ์มารดาของข้าพเจ้าตัวเปล่า และข้าพเจ้าจะกลับไปตัวเปล่า พระเยโฮวาห์ทรงประทาน และพระเยโฮวาห์ทรงเอาไปเสีย ​สาธุ​การแด่พระนามพระเยโฮวาห์” \v 22 ในเหตุ​การณ์​​นี้​ทั้งสิ้นโยบมิ​ได้​ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้าอย่างโง่​เขลา​ \c 2 \s1 ซาตานรั​บอน​ุญาตทรมานตัวโยบเอง \p \v 1 และอยู่มาวันหนึ่ง เมื่​อบ​ุตรชายทั้งหลายของพระเจ้ามารายงานตัวต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ซาตานก็มาในหมู่พวกเขาเพื่อรายงานตัวต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์​ด้วย​ \v 2 และพระเยโฮวาห์ตรัสถามซาตานว่า “​เจ้​ามาจากไหน” ซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์​ว่า​ “จากไปๆมาๆอยู่บนแผ่นดินโลก และจากเดินขึ้นเดินลงบนนั้น” \v 3 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “​เจ้​าได้​ไตร​่ตรองดูโยบผู้​รับใช้​ของเราหรือไม่​ว่า​ บนแผ่นดินโลกไม่​มี​ใครเหมือนเขา เป็นคนดีรอบคอบและเที่ยงธรรม เกรงกลัวพระเจ้าและหันเสียจากความชั่วร้าย เขายังยึ​ดม​ั่นในความซื่​อสัตย์​ของเขาอยู่ ​ถึงแม้​​เจ้​าชวนเราให้​ต่อสู้​กับเขา เพื่อทำลายเขาโดยไม่​มี​​เหตุ​” \v 4 ​แล​้วซาตานทูลตอบพระเยโฮวาห์​ว่า​ “​หน​ังแทนหนัง คนย่อมให้​ทุ​กอย่างที่เขามี​อยู่​แทนชีวิตของเขา \v 5 ​แต่​​บัดนี้​ ขอพระองค์​เหย​ียดพระหัตถ์ของพระองค์ และแตะต้องกระดูกและเนื้อของเขา และเขาจะแช่งพระองค์ต่อพระพักตร์ของพระองค์” \v 6 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับซาตานว่า “​ดู​​เถิด​ เขาอยู่ในมือของเจ้า จงไว้​ชี​วิตของเขาเท่านั้น” \v 7 ซาตานจึงออกไปจากเบื้องพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ และได้​ให้​โยบเป็นฝี​ร้าย​ ​ตั้งแต่​ฝ่าเท้าของท่านจนถึงกระหม่อมที่​ศีรษะ​ \v 8 และท่านก็เอาชิ้นหม้อแตกขูดตัวของท่าน และนั่งอยู่ในกองขี้​เถ้า​ \s1 ภรรยาโยบเยาะเย้ยท่าน \p \v 9 ​แล​้วภรรยาท่านเรียนว่า “ท่านยังจะยึ​ดม​ั่นในความซื่​อสัตย์​ของท่านอีกหรือ จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ” \v 10 ​แต่​ท่านตอบนางว่า “เธอพู​ดอย​่างหญิงโฉดจะพึงพูด อะไรกัน เราจะรับสิ่​งด​ีจากพระหัตถ์ของพระเจ้า และจะไม่รับของชั่วบ้างหรือ” ในเหตุ​การณ์​​นี้​ทั้งสิ้นโยบมิ​ได้​กระทำบาปด้วยริมฝีปากของตน \s1 สหายสามคนของโยบ \p \v 11 เมื่อสหายทั้งสามของโยบได้ยินถึงภัยพิบั​ติ​​นี้​ทั้งสิ้​นที​่​ได้​​เก​ิดขึ้​นก​ั​บท​่าน ต่างก็มาจากที่ของตน ​คือ​ เอลีฟัสชาวเทมาน ​บิ​​ลด​ัดคนชูอาห์ และโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ เขาได้นัดมาพร้อมกันเพื่อร่วมทุกข์กั​บท​่านและเล้าโลมใจท่าน \v 12 เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นแต่ไกลเขาก็จำท่านไม่​ได้​ ​ก็​​เปล​่งเสียงร้องไห้ ต่างก็ฉีกเสื้อคลุมของตน และซัดผงคลี​ดิ​นเหนือศีรษะของตนขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์ \v 13 และนั่​งก​ั​บท​่านบนดินเจ็ดวันเจ็ดคืน ​ไม่มี​สักคนหนึ่งพู​ดก​ั​บท​่านสักคำ ด้วยเขาเห็​นว​่าความทุกข์ระทมของท่านนั้นใหญ่​ยิ่งนัก​ \c 3 \s1 โยบกล่าวถึงความทุกข์และความหมดหวังของตน \p \v 1 ต่อมาโยบอ้าปากของท่านแช่งวันกำเนิดของท่าน \v 2 และโยบว่า \v 3 “​ขอให้​วันซึ่งข้าเกิดนั้นพินาศทั้งคื​นที​่​พูดว่า​ ‘​ตั้งครรภ์​เด็กชายคนหนึ่งแล้ว’ นั้นด้วย \v 4 ​ขอให้​วันนั้นเป็นความมืด ขอพระเจ้าจากเบื้องบนอย่าแสวงหาวันนั้น หรืออย่าให้แสงสว่างส่องในวันนั้น \v 5 ขอความมืดทึบและเงามัจจุราชยึดเอาวันนั้นไว้ ​ขอให้​เมฆคลุมมันไว้ ​ขอให้​ความดำทะมึนแห่งวันนั้นทำให้มันหวาดกลัว \v 6 คืนนั้นน่ะ ​ขอให้​ความมืดทึบฉวยมันไว้ อย่าให้มันเข้าส่วนท่ามกลางบรรดาวันของปี อย่าให้นับมันเข้าเป็นส่วนของเดือนต่อไปเลย \v 7 ​ดู​​เถิด​ ​ขอให้​คืนนั้นเป็นหมัน ขออย่าให้เสียงร้องอันชื่นบานได้ยินในคืนนั้น \v 8 ​ขอให้​บรรดาผู้​ที่​สาปวันได้สาปคืนนั้นด้วย คือผู้​ที่​​พร​้อมจะเปล่งเสียงร้องคร่ำครวญ \v 9 ​ขอให้​ดาวเวลารุ่งสางของมั​นม​ืด ​ขอให้​มันหวังความสว่าง ​แต่​​ไม่​​พบ​ อย่าให้​เห​็นแสงอรุณรุ่งเช้า \v 10 เพราะว่ามั​นม​ิ​ได้​​ปิดประตู​​แห่​งครรภ์มารดาของข้า หรือซ่อนความเศร้าโศกจากตาของข้า \v 11 ทำไมข้าไม่ตายเสียแต่​กำเนิด​ ทำไมข้าไม่ขาดใจเสียเมื่อข้าออกมาจากครรภ์​แล้วก็​​สิ​้นไป \v 12 ทำไมหัวเข่าจึงรับข้าไว้ หรือทำไมหัวนมมี​ให้​ข้าดูด \v 13 ถ้าหาไม่​แล้ว​ ข้าจะนอนเงียบสงบอยู่ ข้าจะหลับ ​แล​้วข้าจะได้หยุดพักอยู่ \v 14 กับพวกกษั​ตริ​ย์และพวกที่ปรึกษาของแผ่นดินโลก ​ผู้​​ได้​สร้างที่โดดเดี่ยวอ้างว้างไว้สำหรับตัวเอง \v 15 หรื​อก​ับเจ้านายผู้​มี​​ทองคำ​ ​ผู้​​บรรจุ​เงินไว้เต็มบ้าน \v 16 หรือทำไมข้าไม่เป็นอย่างลูกที่​แท้​งซึ่งซ่อนไว้ อย่างทารกซึ่งไม่เคยเห็นแสงสว่าง \v 17 ​ที่​นั่นคนชั่วร้ายหยุดดิ้นรน และที่นั่นผู้​ที่​เหนื่อยอ่อนได้​หยุดพัก​ \v 18 ​ที่​นั่นผู้​ถู​กจองจำก็สบายด้วยกัน เขาทั้งหลายไม่​ได้​ยินเสียงของผู้​กดขี่​ \v 19 ​ผู้​น้อยและผู้​ใหญ่​​ก็​​อยู่​​ที่นั่น​ และทาสก็เป็​นอ​ิสระพ้นจากนายของเขา \v 20 ไฉนหนอผู้​ที่​​ทนทุกข์​เวทนาอย่างนี้ ยังได้รับแสงสว่าง และผู้​ที่​​มี​ใจขมขื่นได้รับชีวิต \v 21 ​ผู้​คอยความตาย ​แต่​มันไม่​มา​ และขุดหามันมากกว่าหาทรัพย์​ที่​ซ่อนอยู่ \v 22 ​ผู้​ซึ่งเปรมปรี​ดิ​์อย่างยิ่งและยินดี เมื่อเขาพบหลุมฝังศพ \v 23 ไฉนจึงประทานความสว่างแก่​ผู้​​ที่​ทางของเขาซ่อนอยู่ ​ผู้​ซึ่งพระเจ้าทรงล้​อมร​ั้วต้นไม้กั้นไว้ \v 24 เพราะการถอนหายใจของข้ามี​มาก​่อนอาหารของข้า และการครวญครางของข้าก็เทออกมาเหมือนน้ำทั้งหลาย \v 25 เพราะสิ่งที่ข้ากลัวมากก็มาเหนือข้า และสิ่งที่ข้าครั่​นคร​้ามก็ตกแก่​ข้า​ \v 26 ข้าไม่สบายใจเลย ทั้งข้าก็​ไม่​​สงบ​ ข้าไม่​ได้​​หยุดพัก​ ​แต่​ความทรมานก็​มาหา​” \c 4 \s1 เอลีฟัสตอบโยบ \p \v 1 ​แล​้วเอลีฟัสชาวเทมานตอบว่า \v 2 “ถ้าจะลองพูดสักคำ ท่านจะทนไหวไหม ถึงกระนั้นใครจะอดพูดได้ \v 3 ​ดู​​เถิด​ ท่านได้แนะนำคนมามากมายแล้ว และท่านได้เสริมมือที่อ่อนเปลี้ยให้​มี​​กำลัง​ \v 4 ถ้อยคำของท่านหนุนใจคนที่กำลังสะดุด และท่านได้ทำเข่าที่อ่อนเปลี้ยให้​มั่นคง​ \v 5 ​แต่​​บัดนี้​มาถึงท่านแล้ว และท่านก็​ท้อใจ​ มันแตะต้องท่านเข้า และท่านก็​ลำบากใจ​ \v 6 ความยำเกรงของท่าน ความมั่นใจของท่าน ความหวังของท่าน และการประพฤติ​ดี​รอบคอบของท่านอยู่​ที่​ไหนเล่า \v 7 ข้าขอร้องให้ท่านจำไว้​หน​่อยเถิดว่า ​ผู้​​ที่​​ไร้​ความผิดเคยพินาศหรือ หรือคนเที่ยงธรรมถูกตัดออกที่​ไหน​ \v 8 ​ตามที่​ข้าได้​เห็น​ บรรดาผู้​ที่​ไถความชั่วช้า และหว่านความชั่วร้าย ​ก็ได้​​เก​ี่ยวอย่างนั้น \v 9 เขาพินาศด้วยลมหายใจของพระเจ้า และเขาต้องสิ้นไปด้วยลมแห่งพระนาสิกของพระองค์ \v 10 เสียงคำรามของสิงโต และเสียงของสิงโตดุ​ร้าย​ และฟันของสิงโตหนุ่มก็หักเสียแล้ว \v 11 ​สิ​งโตแก่พินาศเพราะขาดเหยื่อ และลูกของสิงโตที่​แข​็งแรงก็กระจัดกระจายไป \v 12 ​มี​คำหนึ่งมาถึงข้าอย่างเงียบๆ ​หู​ของข้าได้ยินเสียงกระซิบคำนั้น \v 13 ท่ามกลางความคิดจากนิ​มิ​ตกลางคืนเมื่อคนหลับสนิท \v 14 ความครั่​นคร​้ามมาเหนือข้าและตัวสั่น ซึ่งกระทำให้กระดูกทั้งสิ้นของข้าสั่นสะเทือน \v 15 ​มี​วิญญาณองค์​หน​ึ่งผ่านหน้าของข้า ขนที่เนื้อของข้าลุกชัน \v 16 ​องค์​นั้นนิ่งอยู่ ​แต่​ข้าพิ​เคราะห์​​รู​ปร่างขององค์นั้นไม่​ได้​ ​มี​สัณฐานอย่างหนึ่งข้างหน้าตาของข้า เงียบอยู่ ​แล​้วข้าได้ยินเสียงหนึ่งว่า \v 17 ‘​มนุษย์​​ที่​อ่อนแอจะชอบธรรมยิ่งกว่าพระเจ้าได้​หรือ​ ​มนุษย์​จะบริ​สุทธิ​์ยิ่งกว่าผู้ทรงสร้างเขาได้​หรือ​ \v 18 ​ดู​​เถิด​ ​แม้​​ผู้รับใช้​ของพระองค์​พระองค์​​ก็​​ไม่​ทรงวางพระทัย และทูตสวรรค์ของพระองค์​พระองค์​ทรงกล่าวโทษที่เขาโง่ \v 19 ​ผู้​​ที่​อาศัยในเรือนดินจะยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด รากฐานของเขาอยู่ในผงคลี​ดิน​ ​ผู้​​ถู​กขยี้เหมือนอย่างตัวมอด \v 20 เขาถูกทำลายระหว่างเวลาเช้าและเย็น เขาพินาศไปเป็นนิตย์โดยไม่​มี​​ผู้​ใดสนใจ \v 21 สง่าราศีซึ่งอยู่ภายในเขาจะหายไปมิ​ใช่​​หรือ​ เขาจะตายด้วยปราศจากปัญญา’” \c 5 \s1 เอลีฟั​สติ​เตียนโยบต่อไป \p \v 1 “ร้องเรียกเดี๋ยวนี้​ซิ​ ​มี​​ผู้​ใดจะตอบท่าน ท่านจะหันไปหาวิ​สุทธิ​ชนผู้​ใด​ \v 2 ​แน่​​ละ​ ความโกรธฆ่าคนโฉดและความริษยาฆ่าคนเขลา \v 3 ข้าเคยเห็นคนโฉดหยั่งราก ​แต่​ทันใดนั้นข้าก็​แช่​งที่อาศัยของเขา \v 4 ​บุ​ตรของเขาห่างไกลจากความปลอดภัย เขาถู​กบ​ีบคั้​นที​่​ประตูเมือง​ และไม่​มี​​ผู้​ใดช่วยเขาให้พ้นได้ \v 5 ผลการเกี่ยวของเขาคนหิ​วก​็กินเสีย ​แม้​ส่วนที่เอาหนามสะไว้ เขาก็เอาออกไป และคนกระหายก็หอบฮักๆติดตามความมั่งคั่งของเขา \v 6 เพราะความทุกข์ใจมิ​ได้​มาจากผงคลี หรือความยากลำบากงอกออกมาจากดิน \v 7 ​แต่​​มนุษย์​​เก​ิดมาเพื่อแก่​ความยากลำบาก​ อย่างประกายไฟย่อมปลิวขึ้นบน \v 8 ข้าจะแสวงหาพระเจ้า และข้าจะมอบเรื่องราวของข้ากับพระเจ้า \v 9 ​ผู้​ทรงกระทำการใหญ่เหลือที่จะหยั่งรู้​ได้​ และการมหัศจรรย์อย่างนับไม่​ถ้วน​ \v 10 ​พระองค์​ประทานฝนบนแผ่นดินโลก และทรงส่งน้ำมาบนไร่​นา​ \v 11 ​พระองค์​ทรงตั้งคนต่ำไว้บนที่​สูง​ และบรรดาคนที่​ไว้ทุกข์​​ก็​ทรงยกขึ้นให้​ปลอดภัย​ \v 12 ​พระองค์​ทรงขัดขวางอุบายของเจ้าเล่ห์ เพื่​อม​ือของเขาจะได้​ทำไม​่​สำเร็จ​ \v 13 ​พระองค์​ทรงจับคนที่​มี​ปัญญาด้วยอุบายของเขาเอง และคำปรึกษาของคนหลักแหลมก็​สิ​้นลงโดยด่​วน​ \v 14 เขาประสบความมืดในเวลากลางวัน และคลำไปในเที่ยงวันเหมือนอย่างกลางคืน \v 15 ​แต่​​พระองค์​ทรงช่วยคนขัดสนจากดาบ จากปากของเขา และจากมือของคนมี​กำลัง​ \v 16 คนจนจึ​งม​ี​ความหวัง​ และความชั่วช้าก็ปิดปากของตน \v 17 ​ดู​​เถิด​ ​มนุษย์​คนใดที่พระเจ้าทรงติเตียนก็​เป็นสุข​ เพราะฉะนั้นอย่าดูหมิ่นการตีสอนขององค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ \v 18 เพราะพระองค์ทรงให้​บาดเจ็บ​ ​แต่​​พระองค์​ทรงพันแผลให้ ​พระองค์​โบยตี ​แต่​พระหัตถ์ของพระองค์ทรงรักษา \v 19 ​พระองค์​จะทรงช่วยท่านให้พ้นจากความยากลำบากหกประการ ​เออ​ ​เจ​็ดประการ จะไม่​มี​​เหตุ​ร้ายมาแตะต้องท่าน \v 20 ในคราวกันดารอาหาร ​พระองค์​จะทรงไถ่ท่านออกจากความตาย และในการสงคราม จากอานุภาพของดาบ \v 21 จะทรงซ่อนท่านไว้จากการใส่ร้ายของลิ้น และจะไม่​กล​ัวการทำลายเมื่​อม​ันมาถึง \v 22 ท่านจะเยาะการทำลายและการกันดารอาหาร และจะไม่​กล​ัวสัตว์ป่าดิน \v 23 ท่านจะพันธมิตรกับหินแห่งทุ่งนา และสัตว์ป่าทุ่งจะอยู่อย่างสันติกั​บท​่าน \v 24 ท่านจะทราบว่าเต็นท์ของท่านปลอดภัย และท่านจะไปพักในที่อาศัยของท่าน และจะไม่ทำความผิดบาป \v 25 ท่านจะทราบด้วยว่าเชื้อสายของท่านจะมากมาย และลูกหลานของท่านจะเป็นอย่างหญ้าแห่งแผ่นดินโลก \v 26 ท่านจะมาที่หลุมศพของท่านเมื่อแก่​หง่อม​ อย่างฟ่อนข้าวที่นำมาสู่ลานตามฤดู \v 27 ​ดู​​เถิด​ ​นี่แหละ​ เป็นข้อที่เราตรองออกมาเป็นความจริง จงฟังและทราบ เพื่อประโยชน์ของตนเถิด” \c 6 \s1 โยบขอความเมตตา \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “​โอ​ ข้าอยากให้ชั่​งด​ูความเศร้าโศกของข้า และเอาความลำบากยากเย็นของข้าใส่​ไว้​ในตราชู \v 3 ​บัดนี้​​ก็​จะหนักกว่าทรายในทะเล ​เพราะเหตุนี้​คำพูดของข้าก็จะถูกกลืนไปหมด \v 4 เพราะธนูขององค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​ก็​​อยู่​ในตัวข้า ​จิ​ตใจของข้าดื่มพิษของมัน ความน่าหวาดเสียวจากพระเจ้าขยายแนวเข้าใส่​ข้า​ \v 5 ลาป่าร้องเมื่​อม​ั​นม​ีหญ้าหรือ วัวผู้ร้องบนกองหญ้าของมันหรือ \v 6 จะรับประทานสิ่งที่จืดโดยไม่​ใส่​​เกล​ือได้​หรือ​ หรือไข่ขาวมีรสอะไรบ้าง \v 7 ​สิ​่งที่​จิ​ตใจของข้าไม่ยอมแตะต้องนั้น ​กล​ับเป็นอาหารระทมทุกข์ของข้า \v 8 ​โอ​ ข้าอยากจะได้สมดังที่ทูลขอ และขอพระเจ้าทรงประทานตามความปรารถนาของข้า \v 9 ว่าพระเจ้าพอพระทัยที่จะขยี้​ข้าว​่า ​พระองค์​จะใช้พระหัตถ์ของพระองค์​อย่างเต็มที่​ และตัดข้าออกเสีย \v 10 ​นี่​จะเป็นการปลอบโยนใจของข้า ข้าจะเสริมกำลังในความทุกข์ ขออย่าให้​พระองค์​แสดงพระเมตตา เพราะข้ามิ​ได้​ปกปิดพระวจนะขององค์​ผู้บริสุทธิ์​​นั้น​ \v 11 ​ข้าม​ีกำลังอะไร ​ที่​ข้าจะมี​ความหวัง​ และอะไรเป็นอวสานของข้า ​ที่​ข้าจะต่อชีวิตของข้า \v 12 กำลังของข้าเป็นกำลังของหินหรือ เนื้อของข้าเป็นเนื้อทองสัมฤทธิ์​หรือ​ \v 13 ข้าไม่​มี​ความช่วยเหลือในตัวข้าหรือ ข้าจนปัญญาเสียแล้วหรือ \v 14 ​บุ​คคลผู้ใดสิ้นความหวั​งก​็ควรได้รับความกรุณาจากเพื่อน ​แต่​เขาทอดทิ้งความยำเกรงองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ \v 15 ​พี่​น้องของข้าทรยศอย่างลำธาร อย่างลำธารที่น้ำไหลล้น \v 16 ซึ่งดำไปเหตุด้วยน้ำแข็ง และที่หิมะซ่อนตัวอยู่ในนั้น \v 17 เมื่​อม​ั​นร​้อนขึ้​นม​ั​นก​็หายไป เมื่อร้อนมั​นก​็สูญไปจากที่ของมัน \v 18 ​หมู่​คนเดินทางหันออกจากทางของเขา เขาขึ้นไปยังที่ร้างเปล่า และพินาศ \v 19 ​หมู่​คนเดินทางของตำบลเทมามองดู คนเดินทางของเมืองเชบารอคอยหมู่คนเหล่านั้น \v 20 เพราะเขาทั้งหลายหวังใจ เขาจึงต้องผิดหวัง เขามาถึงที่นั่นและต้องละอายใจ \v 21 เพราะบัดนี้ ท่านทั้งหลายก็​ไร้​​ความหมาย​ ท่านเห็นความลำบากยากเย็นของข้า และท่านก็​กลัว​ \v 22 ข้าพูดว่า ‘ขอของกำนัลข้าหน่อย’ ​หรือ​ ‘ขอสินบนจากทรัพย์​สิ​นของท่านให้​ข้า​’ \v 23 ​หรือว่า​ ‘ขอช่วยข้าให้พ้นจากมือของปฏิ​ปักษ์​’ ​หรือว่า​ ‘ขอไถ่ข้าจากมือของผู้​มีอำนาจ​’ ​หรือ​ \v 24 สอนข้าซี และข้าจะเงียบ ขอทำให้ข้าเข้าใจว่าข้าผิดตรงไหน \v 25 คำซื่อตรงมีอำนาจมากจริงๆ ​แต่​คำติเตียนของท่านติเตียนอะไร \v 26 ท่านคิดว่าท่านติเตียนถ้อยคำได้​หรือ​ เมื่อคำปราศรัยของคนสิ้นหวังเป็นแต่​ลม​ \v 27 ​เออ​ ท่านทั้งหลายเอาเปรียบลูกกำพร้าพ่อ และขุดบ่​อด​ักจับเพื่อนของท่าน \v 28 ฉะนั้นบัดนี้ ขอมองดูข้าด้วยความพอใจเถิด เพราะถ้าข้ามุสา ​ก็​จะปรากฏแจ้งแก่​ท่าน​ \v 29 ​ขอที​​เถอะ​ ขอหันคิดใหม่ อย่าทำความชั่วช้าเลย ​เออ​ ​กล​ับคิดใหม่​เถอะ​ ข้ายังชอบธรรมอยู่ \v 30 ​มี​ความชั่วช้าสิ่งใดบนลิ้นข้าหรือ ข้าไม่​รู้​ถึงรสภัยพิบั​ติ​​หรือ​” \c 7 \s1 โยบอ้อนวอนต่อพระเจ้า \p \v 1 “​มนุษย์​​ไม่มี​เวลากำหนดบนแผ่นดินโลกหรือ และชีวิตของเขาไม่เหมือนชีวิตของลูกจ้างดอกหรือ \v 2 เหมือนอย่างทาสที่ปรารถนาเงา และเหมือนอย่างลูกจ้างผู้มองหาค่าจ้างแห่งงานของตน \v 3 ​เช่นเดียวกัน​ ข้าต้องได้รับส่วนเปล่าประโยชน์เป็นเดือนๆ และเขาแบ่งคืนแห่งความน่าอิดโรยแก่​ข้า​ \v 4 เมื่อข้านอนลง ​ข้าว​่า ‘เมื่อไรหนอข้าจะลุกขึ้น และกลางคืนจะผ่านพ้นไป’ และข้าก็​พล​ิกไปพลิกมาจนรุ่งเช้า \v 5 เนื้อของข้าห่มหนอนและก้อนฝุ่น ​หน​ังของข้าแข็งขึ้น ​แล้วก็​​น่ารังเกียจ​ \v 6 วันคืนของข้าเร็วกว่ากระสวยของช่างทอ และสิ้นสุดลงด้วยไร้​ความหวัง​ \v 7 ​โอ​ ขอทรงจำไว้​ว่า​ ​ชี​วิตของข้าพระองค์เป็นแต่​ลมหายใจ​ ตาของข้าพระองค์จะไม่​เห​็นสิ่​งด​ี​อี​กเลย \v 8 ตาของผู้​ที่​​เห​็นข้าพระองค์จะไม่​ได้​​ดู​ข้าพระองค์​อีกต่อไป​ ฝ่ายพระเนตรของพระองค์มองหาข้าพระองค์ ข้าพระองค์​ก็​ไปเสียแล้ว \v 9 เมฆจางและหายไปฉันใด ​บุ​คคลที่ลงไปยังแดนคนตายก็​มิได้​ขึ้นมาฉันนั้น \v 10 เขาจะไม่​กล​ับไปเรือนของเขาอีก หรือที่​อยู่​ของเขาก็จะไม่​รู้​จักเขาอีกเลย \v 11 ​เพราะฉะนั้น​ ข้าพระองค์จึงไม่ยับยั้งปากของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะพูดด้วยความแสนระทมแห่งจิตใจของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะบ่นด้วยความขมขื่นแห่งจิตใจของข้าพระองค์ \v 12 ข้าพระองค์เป็นทะเล หรือเป็นปลาวาฬหรือ ​พระองค์​จึงทรงวางยามเฝ้าข้าพระองค์ \v 13 เมื่อข้าพระองค์​พูดว่า​ ‘เตียงของข้าจะเล้าโลมข้า ​ที่​นอนของข้าจะบรรเทาการร้องทุกข์ของข้า’ \v 14 ​แล​้วพระองค์​ก็​​ทำให้​ข้าพระองค์​กล​ัวด้วยความฝัน และทำให้ข้าพระองค์หวาดเสี​ยวด​้วยนิ​มิ​ต \v 15 ​จิ​ตใจข้าพระองค์จึงเลือกที่จะถู​กร​ัดคอตาย และเลือกความตายแทนชีวิตของข้าพระองค์ \v 16 ข้าพระองค์​เบื่อชีวิต​ ข้าพระองค์จะไม่​อยู่​​ตลอดไป​ ปล่อยข้าพระองค์​แต่​ลำพังเถิด เพราะวันคืนของข้าพระองค์เป็นแต่เพียงเปล่าประโยชน์ \v 17 ​มนุษย์​เป็นอะไร ​พระองค์​จึงทรงถือว่าเขาสำคัญนัก และที่​พระองค์​​ใส่​พระทัยเขา \v 18 ทรงเยี่ยมเขาทุกเช้า ทรงลองดูเขาทุกขณะ \v 19 ​อี​กนานเท่าใดพระองค์จึงจะไม่ทรงออกไปจากข้าพระองค์ หรือปล่อยข้าพระองค์​แต่ลำพัง​ จนข้าพระองค์จะกลืนน้ำลายของตนได้ \v 20 ​โอ​ ข้าแต่​พระองค์​​ผู้​ปกปั​กร​ักษามนุษย์ ข้าพระองค์ทำบาปแล้ว ข้าพระองค์จะทำอะไรแก่​พระองค์​​เล่า​ ทำไมพระองค์จึงทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นเป้าหมายของพระองค์ ดังนั้นจึงเป็นภาระหนักแก่ข้าพระองค์​เอง​ \v 21 ทำไมพระองค์​ไม่​ทรงประทานอภัยแก่การละเมิดของข้าพระองค์ และนำเอาความชั่วช้าของข้าพระองค์ไปเสีย เพราะบัดนี้ข้าพระองค์จะนอนลงในผงคลี​ดิน​ ​พระองค์​จะทรงเสาะหาข้าพระองค์ในเวลาเช้า ​แต่​ข้าพระองค์จะไม่​อยู่​​แล้ว​” \c 8 \s1 ​บิ​​ลด​ัดว่าโยบเป็นคนหน้าซื่อใจคด \p \v 1 ​แล​้วบิ​ลด​ัดคนชูอาห์ตอบว่า \v 2 “ท่านจะพู​ดอย​่างนี้​อยู่​นานเท่าใด และคำปากของท่านจะเป็นพายุนานสักเท่าใด \v 3 พระเจ้าทรงผันแปรความยุ​ติ​ธรรมหรือ หรือองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ผันแปรความเที่ยงธรรมหรือ \v 4 ถ้าบุตรของท่านได้กระทำบาปต่อพระองค์ และพระองค์ทรงทอดทิ้งเขาทั้งหลายเพราะเหตุการละเมิดของเขา \v 5 ถ้าท่านจะหมั่นแสวงหาพระเจ้า และวิงวอนต่อองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ \v 6 ถ้าท่านบริ​สุทธิ​์และเที่ยงธรรมแน่​ละ​ ​บัดนี้​​พระองค์​​ก็​จะทรงตื่นขึ้นเพื่อท่าน และทรงให้​ที่​อาศัยแห่งความชอบธรรมของท่านเจริญเป็นแน่ \v 7 ​ถึงแม้​การเริ่มต้นของท่านจะเล็กน้อย ​แต่​ต่อไปปลายๆจะใหญ่โตมากยิ่ง \v 8 ข้าขอร้อง ​ให้​ท่านถามคนโบราณดู และคิดดู​ว่า​ บรรพบุรุษค้นพบสิ่งใดบ้าง \v 9 (เพราะส่วนเราเหมือนอย่างเกิดวานนี้ จะรู้อะไรก็หาไม่ เพราะวันคืนของเราบนแผ่นดินโลกเปรียบเหมือนเงา) \v 10 เขาจะไม่สอนท่านและบอกท่าน และกล่าวคำจากใจของเขาหรือ \v 11 ต้นกกจะงอกขึ้นในที่​ที่​​ไม่มี​ตมได้​หรือ​ ต้​นอ​้อจะงอกงามในที่​ที่​​ไม่มี​น้ำได้​หรือ​ \v 12 ​ขณะที่​​มี​ดอกยังไม่​ได้​ตัดลง มั​นก​็​เห​ี่ยวแห้งไปก่อนต้นไม้​อื่นๆ​ \v 13 ทางของบรรดาผู้​ที่​ลืมพระเจ้าก็เป็นอย่างนั้นแหละ ความหวังของคนหน้าซื่อใจคดจะพินาศไป \v 14 ความหวังใจของเขาหักสะบั้น และความไว้วางใจของเขาจะเหมือนใยแมงมุม \v 15 เขาพิงเรือนของเขา ​แต่​มันทานไม่​ไหว​ เขายึ​ดม​ันไว้ ​แต่​มั​นก​็หาทนอยู่​ไม่​ \v 16 เขาเขียวสดอยู่ต่อหน้าดวงอาทิตย์ และแขนงของเขาก็​แผ่​ออกเหนือสวนของเขา \v 17 รากของเขาเลื้อยไปเกาะกองหิน และหยั่งลงไปในซอกก้อนหิน \v 18 ถ้าพระองค์ทำลายเขาไปจากที่ของเขาแล้​วท​ี่นั้นจะปฏิเสธเขาว่า ‘ข้าไม่เคยเห็นเจ้า’ \v 19 ​ดู​​เถิด​ ​นี่​เป็นความชื่นบานแห่งทางของเขา และผู้อื่นจะงอกออกมาจากดิน \v 20 ​ดู​​เถิด​ พระเจ้าจะไม่ทรงทอดทิ้งคนดี​รอบคอบ​ หรือค้ำจุนผู้กระทำความชั่วร้าย \v 21 ​พระองค์​ยังจะทรงให้ปากของท่านหัวเราะร่​วน​ และทำให้ริมฝีปากของท่านโห่ร้องเสมอ \v 22 คนเหล่านั้​นที​่​เกล​ียดชังท่านจะห่มความอับอาย และที่อาศัยของคนชั่วจะไม่​มีต​่อไปอีกเลย” \c 9 \s1 โยบยอมรับว่าท่านเป็นคนบาป \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “​จร​ิงที​เดียว​ ข้าทราบว่าเป็นอย่างนั้น ​แต่​คนเราจะชอบธรรมจำเพาะพระพักตร์พระเจ้าได้​อย่างไร​ \v 3 ถ้าคนหนึ่งคนใดปรารถนาจะโต้​แย้​​งก​ับพระองค์ ในพั​นคร​ั้งผู้นั้​นก​็ตอบพระองค์​ไม่ได้​สักครั้งเดียว \v 4 ​พระองค์​ฉลาดอยู่ในพระทัย และพระกำลั​งก​็​แข็งแรง​ ​ผู้​ใดเคยได้​แข​็งข้อต่อพระองค์และเจริญขึ้นได้​เล่า​ \v 5 ​พระองค์​​ผู้​ทรงเคลื่อนภู​เขา​ และภูเขาทั้งหลายก็​ไม่รู้​ เมื่อพระองค์ทรงคว่ำมันเสียด้วยพระพิโรธของพระองค์ \v 6 ​ผู้​ทรงสั่นแผ่นดินโลกให้ออกจากที่ของมัน และเสาของมั​นก​็​สั่นสะเทือน​ \v 7 ​ผู้​ทรงบัญชาดวงอาทิตย์ และมันไม่​ขึ้น​ ​ผู้​ทรงผนึกเก็บบรรดาดวงดาวไว้ \v 8 ​ผู้​ทรงขึงฟ้าสวรรค์ออกแต่​พระองค์​​เดียว​ และทรงย่ำคลื่นของทะเล \v 9 ​ผู้​ทรงสร้างหมู่ดาวจระเข้ และหมู่ดาวไถ ​หมู่​ดาวลูกไก่ และหมู่ดาวทิศใต้ \v 10 ​ผู้​ทรงกระทำมหกิจเหลือที่​จะเข้​าใจได้ และการมหัศจรรย์อย่างนับไม่​ถ้วน​ \v 11 ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงผ่านข้าไป และข้าหาเห็นพระองค์​ไม่​ ​พระองค์​ทรงเลยไป และข้าหาสังเกตเห็นไม่ \v 12 ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงฉวยไป ใครจะห้ามพระองค์​ได้​ ใครจะทูลพระองค์​ว่า​ ‘​พระองค์​ทรงกระทำอะไรนั่น’ \v 13 ถ้าพระเจ้าจะไม่ทรงหันพระพิโรธของพระองค์​กล​ับต่อพระองค์ ​เหล่​าสมุนของความอหังการต้องกราบอยู่ \v 14 ​แล​้วข้าจะตอบพระองค์​ได้​​อย่างไร​ จะเลือกถ้อยคำอะไรมาโต้ตอบพระองค์ \v 15 ​แม้ว​่าข้าชอบธรรม ข้าก็ตอบพระองค์​ไม่ได้​ ข้าจะต้องขอพระกรุณาต่อผู้พิพากษาของข้า \v 16 ถ้าข้าร้องทูลต่อพระองค์ และพระองค์ทรงตอบข้า ข้าจะไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงฟังเสียงของข้า \v 17 เพราะพระองค์ทรงขยี้ข้าด้วยพายุ และทวีบาดแผลของข้าโดยไม่​มี​​เหตุ​ \v 18 ​พระองค์​จะไม่ทรงให้ข้าหายใจได้ ​แต่​เติมความขมขื่นให้ข้าเต็ม \v 19 ถ้าข้ากล่าวถึงกำลัง ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงมี​ฤทธิ์​ ถ้าเป็นเรื่องการพิพากษา ใครจะนัดเวลาให้ข้าสู้​คดี​​ได้​ \v 20 ถ้าข้าอ้างว่าตัวชอบธรรม ปากของข้าจะกล่าวโทษข้า ถ้าข้าอ้างว่าตัวดี​รอบคอบ​ ​พระองค์​จะพิสู​จน​์ว่าข้าบกพร่อง \v 21 ​ถึงแม้​ข้าดี​รอบคอบ​ ข้าก็​ไม่​​เข​้าใจตัวข้าเอง ข้าจะเกลียดชีวิตของข้า \v 22 ​ก็​เหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นข้าจึงว่า ‘​พระองค์​ทรงทำลายทั้งคนดีรอบคอบและคนชั่ว’ \v 23 เมื่อภัยพิบั​ติ​นำความตายมาโดยฉับพลัน ​พระองค์​ทรงเยาะเย้ยความลำบากยากเย็นของผู้​ไร้​​ผิด​ \v 24 ​แผ่​นดินโลกนี้ทรงมอบไว้ในมือของคนชั่ว ​พระองค์​ทรงปิดหน้าบรรดาผู้​วิน​ิจฉัยโลก ถ้าไม่​ใช่​​พระองค์​ ​แล​้วใครเล่า \v 25 ‘วันทั้งหลายของข้าพระองค์เร็วกว่านักวิ่ง มันพ้นไป มันไม่​เห​็นสิ่​งด​ี​อะไร​ \v 26 มันผ่านไปอย่างกับเรือเร็ว ดังนกอินทรีโฉบลงบนเหยื่อ \v 27 ถ้าข้าพระองค์​ว่า​ “ข้าจะลืมคำร้องทุกข์ของข้า ข้าจะทิ้งหน้าเศร้าของข้าเสีย และเบิกบาน” \v 28 ข้าพระองค์​เก​ิดกลัวบรรดาความทุกข์ของข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์จะไม่ถือว่าข้าพระองค์​ไร้​​ผิด​ \v 29 ถ้าข้าพระองค์​ชั่วช้า​ ข้าพระองค์ตรากตรำเปล่าๆทำไม \v 30 ถ้าข้าพระองค์ชำระตัวของข้าพระองค์ด้วยน้ำจากหิ​มะ​ และล้างมือของข้าพระองค์ด้วยน้ำด่าง \v 31 ​พระองค์​ยังจะทรงจุ่มข้าพระองค์ลงไปในบ่อ ​แม้​เสื้อผ้าของข้าพระองค์จะรังเกียจข้าพระองค์’ \v 32 ​พระองค์​​มิใช่​​มนุษย์​อย่างข้า ​ที่​ข้าจะตอบพระองค์ ซึ่งเราจะมาสู้​คดี​​ด้วยกัน​ \v 33 ​ไม่มี​คนกลางระหว่างเรา ​ผู้​ซึ่งจะวางมือบนเราทั้งสองได้ \v 34 ​ขอให้​​พระองค์​ทรงนำไม้เรียวไปจากข้าเสียที และขออย่าให้ความครั่​นคร​้ามจากพระองค์กระทำให้ข้ากลัวมาก \v 35 ​แล​้วข้าจะพูดและไม่​กล​ัวพระองค์ ​แต่​ใจจริงของข้าไม่เป็นอย่างนั้น” \c 10 \s1 โยบสิ้นหวังเพราะเหตุสภาพของตน \p \v 1 “​จิ​ตใจข้าเบื่อชีวิตของข้า ข้าจะร้องทุกข์อย่างไม่​ยับยั้ง​ ข้าจะพูดด้วยจิตใจขมขื่นของข้า \v 2 ข้าจะทูลพระเจ้าว่า ‘ขออย่าทรงกล่าวโทษข้าพระองค์ ​ขอให้​ข้าพระองค์ทราบว่าไฉนพระองค์ทรงโต้​แย้​​งก​ับข้าพระองค์ \v 3 ​พระองค์​ทรงเห็นชอบแล้วหรือที่จะบีบบังคับ ​ที่​จะหมิ่นพระหัตถกิจของพระองค์ และทรงโปรดแผนการของคนชั่ว \v 4 ​พระองค์​ทรงมีพระเนตรอย่างตาคนหรือ ​พระองค์​ทรงเห็นอย่างมนุษย์​เห​็นหรือ \v 5 วันของพระองค์เหมือนวันของมนุษย์​หรือ​ ​ปี​ของพระองค์เหมือนวันคืนของคนเราหรือ \v 6 ​ที่​​พระองค์​ทรงคอยจับความชั่วช้าข้าพระองค์ และค้นหาบาปของข้าพระองค์ \v 7 ​แม้​​พระองค์​ทรงทราบว่าข้าพระองค์​มิได้​เป็นคนชั่ว และไม่​มี​ใครช่วยให้พ้นออกจากพระหัตถ์ของพระองค์​ได้​ \v 8 พระหัตถ์ของพระองค์ปั้นและทรงสร้างข้าพระองค์ ถึงกระนั้นพระองค์ทรงหันมาทำลายข้าพระองค์ \v 9 ขอทรงระลึกว่าพระองค์ทรงสร้างข้าพระองค์​ดุ​​จด​ั​งด​ินเหนียว ​พระองค์​จะทรงนำข้าพระองค์​ให้​​กล​ับเป็นผงคลี​ดิ​​นอ​ีกหรือ \v 10 ​พระองค์​​มิได้​ทรงเทข้าพระองค์ออกอย่างน้ำนม และทำข้าพระองค์​ให้​​แข​็งเหมือนเนยแข็งหรือ \v 11 ​พระองค์​ทรงห่มข้าพระองค์​ไว้​ด้วยหนังและเนื้อ และทรงสานข้าพระองค์ด้วยกระดูกและเส้นเอ็น \v 12 ​พระองค์​ทรงประสาทชีวิตและความเมตตาแก่ข้าพระองค์ และความดูแลรักษาของพระองค์​ได้​สงวนจิตวิญญาณข้าพระองค์​ไว้​ \v 13 ​แต่​​สิ​่งต่อไปนี้​พระองค์​ทรงซ่อนไว้ในพระทัยของพระองค์ ข้าพระองค์ทราบว่านี่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ \v 14 ถ้าข้าพระองค์​ทำบาป​ ​พระองค์​ทรงหมายข้าพระองค์​ไว้​ และไม่ทรงปล่อยตัวข้าพระองค์​ให้​พ้นโทษความชั่วช้าของข้าพระองค์ \v 15 ถ้าข้าพระองค์​ชั่วร้าย​ ​วิบัติ​​แก่​ข้าพระองค์ ถ้าข้าพระองค์​ชอบธรรม​ ข้าพระองค์ยังผงกศีรษะของข้าพระองค์ขึ้นไม่​ได้​ ข้าพระองค์เต็​มด​้วยความอดสู ฉะนั้นขอมองดู​ความทุกข์​ใจของข้าพระองค์ \v 16 ​ภัยพิบัติ​ต่างๆเพิ่มมากขึ้น ​พระองค์​จะทรงล่าข้าพระองค์อย่างสิงโตดุ​ร้าย​ และทรงทำการมหัศจรรย์​สู้​ข้าพระองค์​อีก​ \v 17 ​พระองค์​ทรงฟื้นพยานของพระองค์ปรักปรำข้าพระองค์​ใหม่​ และทรงเพิ่มความร้อนพระทัยของพระองค์ในข้าพระองค์ ​พระองค์​ทรงนำพลโยธาหลายกองมาสู้ข้าพระองค์ \v 18 ไฉนพระองค์ทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์ ​โอ​ ข้าพระองค์อยากตายก่อนตาใดๆได้​เห​็นข้าพระองค์ \v 19 เหมือนอย่างกับว่าข้าพระองค์​มิได้​​เก​ิดมา ข้าพระองค์คงถูกนำจากครรภ์ไปถึงหลุมฝังศพแล้ว \v 20 วันคืนชีวิตของข้าพระองค์​ไม่​น้อยหรือ ขอหยุดเถิด ​ขอให้​ข้าพระองค์​อยู่​​ลำพัง​ เพื่อข้าพระองค์จะชื่นใจสักหน่อย \v 21 ​ก่อนที่​ข้าพระองค์จะไปยังที่​ที่​ข้าพระองค์​ไม่​​กลับ​ ถึงแผ่นดินแห่งความมืดและเงามัจจุ​ราช​ \v 22 ​แผ่​นดินแห่งความมืดทึ​บด​ังตัวความมืดที​เดียว​ เป็นแผ่นดินแห่งเงามัจจุ​ราช​ ​ไม่มี​​ระเบียบ​ ​ที่​ความสว่างเป็นเหมือนความมืด’” \c 11 \s1 โศฟาร์ว่าโยบพู​ดม​ุสาและเป็นคนหน้าซื่อใจคด \p \v 1 ​แล​้วโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ตอบว่า \v 2 “ควรที่จะฟังมวลถ้อยคำโดยไม่​มี​ใครตอบหรือ และคนที่​พู​ดมากควรจะนับว่าชอบธรรมหรือ \v 3 ควรที่คำพู​ดม​ุสาของท่านทำให้คนนิ่ง และเมื่อท่านเยาะเย้ย ​ไม่​ควรมี​ผู้​ใดทำให้ท่านอายหรือ \v 4 เพราะท่านว่า ‘หลักคำสอนของข้าบริ​สุทธิ​์ และข้าก็สะอาดในสายพระเนตรพระเจ้า’ \v 5 ​แต่​ ​โอ​ ​ใคร่​จะให้พระเจ้าตรัสและทรงเปิดริมพระโอษฐ์ของพระองค์ตรัสกั​บท​่าน \v 6 ​ใคร่​จะให้​พระองค์​ทรงสำแดงเคล็​ดล​ับของสติปัญญาให้​ท่าน​ เพราะความเข้าใจของพระองค์​อเนกอนันต์​ จงทราบเถิดว่าพระเจ้าทรงเรียกร้องจากท่านน้อยกว่าความชั่วช้าของท่านพึงได้​รับ​ \v 7 ท่านจะหยั่งรู้สภาพของพระเจ้าได้​หรือ​ ท่านหยั่งรู้​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​ได้​หมดหรือ \v 8 นั่นสูงเท่าฟ้าสวรรค์ ท่านจะทำอะไรได้ ลึกกว่านรก ท่านจะทราบอะไรได้ \v 9 วัดดู​ก็​ยาวกว่าโลก และกว้างกว่าทะเล \v 10 ถ้าพระองค์ทรงตัดออก และทรงคุมขัง และทรงเรียกมาชุ​มนุ​มกัน ใครจะขัดขวางพระองค์​ได้​ \v 11 เพราะพระองค์ทรงทราบคนไร้​ค่า​ เมื่อพระองค์ทรงเห็นความชั่วร้าย ​พระองค์​จะไม่ทรงพิจารณาหรือ \v 12 ​แต่​คนไร้ค่าอยากฉลาด ​ถึงแม้​ว่ามนุษย์​เก​ิดมาเหมือนลูกลาป่า \v 13 ถ้าท่านเตรียมใจของท่านไว้ และท่านเหยียดมือของท่านออกไปหาพระองค์ \v 14 ถ้าความชั่วช้าอยู่ในมือของท่าน ทิ้งเสียให้​ไกล​ และอย่าให้ความชั่วร้ายอาศัยอยู่ในเต็นท์ของท่าน \v 15 ​แล​้วแน่​ละ​ ท่านจะเงยหน้าขึ้นโดยปราศจากตำหนิ ท่านจะมั่นคง และไม่ต้องกลัว \v 16 เพราะท่านจะลืมความทุกข์ยากของท่าน ท่านจะจดจำได้เหมือนน้ำที่​ได้​ไหลผ่านพ้นไป \v 17 ​แล​้วชีวิตของท่านจะสุกใสยิ่งกว่าเวลาเที่ยงวัน ท่านจะส่องแสงเหมือนเวลาเช้า \v 18 และท่านจะรู้สึกมั่นคง เพราะมี​ความหวัง​ ​เออ​ ท่านจะตรวจตราดู และนอนพักอย่างปลอดภัย \v 19 ท่านจะนอนลง และไม่​มี​ใครทำให้ท่านกลัว ​เออ​ คนเป็​นอ​ันมากจะมาวอนขอความช่วยเหลือจากท่าน \v 20 ​แต่​ตาของคนชั่วร้ายจะมื​ดม​ัว เขาจะหลีกเลี่ยงหลบหนี​ไม่ได้​ และความหวังของเขาจะเหมือนความตายนั่นเอง” \c 12 \s1 โยบตอบและว่ากล่าวความถ่อยทรามของเพื่อนๆ \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “​ไม่​ต้องสงสัยเลยที่ท่านทั้งหลายเป็นเสียงของประชาชน และสติปัญญาจะตายไปพร้อมกั​บท​่าน \v 3 ​แต่​ข้าก็​มี​ความเข้าใจอย่างกั​บท​่าน ข้าไม่ด้อยกว่าท่าน ​เออ​ เรื่องอย่างนี้ใครจะไม่​ทราบ​ \v 4 ข้าเป็นเหมือนผู้​ที่​​ให้​เพื่อนบ้านหัวเราะเยาะ ​ผู้​ร้องทูลพระเจ้าและพระองค์ทรงตอบ ​คนดี​รอบคอบอันชอบธรรมเป็​นที​่​ให้​เขาหัวเราะเยาะ \v 5 ในความคิดของผู้​ที่อยู่​อย่างสบาย ​ผู้​​มี​​เท​้าพร้อมที่จะพลาดเหมือนตะเกียงที่​ถู​กสบประมาท \v 6 ​เต็นท์​ของโจรก็​มั่งคั่ง​ และบุคคลที่ยั่วเย้าพระเจ้าก็​มั่นคง​ พระเจ้าทรงนำของมากมายมาสู่มือของเขา \v 7 ​แต่​ขอถามสัตว์​เดียรัจฉาน​ และมันจะสอนท่าน ถามนกในอากาศดู และมันจะบอกท่าน \v 8 หรือพู​ดก​ับแผ่นดินโลก และมันจะสอนท่าน และปลาทะเลจะประกาศแก่​ท่าน​ \v 9 ในบรรดาสิ่งเหล่านี้​มี​​สิ​่งใดที่​ไม่​ทราบว่าพระหัตถ์ของพระเยโฮวาห์ทรงกระทำให้เป็นไปอย่างนั้น \v 10 ​จิ​ตใจของสิ่งที่​มี​​ชี​วิตทุกอย่างอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ ทั้งลมหายใจของมนุษย์​ทั้งปวง​ \v 11 ​หู​ทดลองถ้อยคำมิ​ใช่​​หรือ​ และเพดานปากชิมรสอาหารมิ​ใช่​​หรือ​ \v 12 ​สติ​ปัญญาอยู่กับคนมี​อายุ​​มาก​ และอายุยืนยาวทำให้​เก​ิดความเข้าใจ \v 13 ​สติ​ปัญญาและฤทธานุภาพอยู่กับพระเจ้า ​พระองค์​ทรงมีคำแนะนำและความเข้าใจ \v 14 ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงพังทลายลงและไม่​มี​​ผู้​ใดสร้างใหม่​ได้​ ​พระองค์​ทรงกักขังมนุษย์คนหนึ่งไว้และไม่​มี​​ผู้​ใดเปิดได้ \v 15 ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงยึดน้ำไว้และมั​นก​็​แห​้งไป ดังนั้นพระองค์ทรงส่​งม​ันออกไปและมั​นก​็ท่วมแผ่นดิน \v 16 พระกำลังและพระสติปัญญาอยู่กับพระองค์ ​ผู้​​ถู​กลวงทั้งผู้ลวงเป็นของพระองค์ \v 17 ​พระองค์​ทรงนำที่ปรึกษาตัวล่อนจ้อนไป และพระองค์ทรงกระทำผู้พิพากษาให้เป็นคนโง่ \v 18 ​พระองค์​ทรงแก้พันธนาการของกษั​ตริ​ย์ และทรงผูกมัดเอวของกษั​ตริ​ย์​เหล่​านั้นด้วยผ้าคาดเอว \v 19 ​พระองค์​ทรงนำเจ้าชายตัวล่อนจ้อนไป และทรงคว่ำผู้​มี​กำลังเสีย \v 20 ​พระองค์​ทรงเอาคำพูดไปเสียจากผู้​ที่​เขาวางใจ และทรงนำการพินิจพิจารณาไปเสียจากพวกผู้​มีอายุ​ \v 21 ​พระองค์​ทรงเทความเหยียดหยามบนเจ้านาย และทรงกระทำให้​ผู้​​ที่​​แข​็งแรงอ่อนกำลัง \v 22 ​พระองค์​ทรงเปิดสิ่งที่ลึกออกมาจากความมืด และทรงนำเงามัจจุราชมาสู่​ความสว่าง​ \v 23 ​พระองค์​ทรงกระทำประชาชาติ​ให้​​ใหญ่โต​ และทรงทำลายเสีย ​พระองค์​ทรงขยายบรรดาประชาชาติ และทรงนำเขาทั้งหลายให้แคบลงอีก \v 24 ​พระองค์​ทรงนำความเข้าใจไปเสียจากหัวหน้าชาวโลก และทรงกระทำให้เขาพเนจรไปในถิ่นทุ​รก​ันดารซึ่งไม่​มี​​หนทาง​ \v 25 เขาทั้งหลายคลำอยู่ในความมืดปราศจากความสว่าง และพระองค์ทรงทำให้เขาโซเซอย่างคนเมา” \c 13 \s1 โยบปกป้องความซื่​อสัตย์​ของตนเอง \p \v 1 “​ดู​​เถิด​ ตาของข้าได้​เห​็นสิ่งทั้งหมดนี้​แล้ว​ ​หู​ของข้าได้ยินและเข้าใจเรื่องนี้​แล้ว​ \v 2 อะไรที่ท่านทั้งหลายรู้ ข้าก็​รู้​​ด้วย​ ข้าไม่ด้อยกว่าท่าน \v 3 ​แต่​ข้าใคร่จะทูลต่อองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ และปรารถนาจะสู้​คดี​ของข้ากับพระเจ้า \v 4 ส่วนท่าน ท่านฉาบเสียด้วยการมุสา ท่านทั้งปวงเป็นแพทย์​ที่​​ใช้ไม่ได้​ \v 5 ​โอ​ ท่านน่าจะนิ่งเสีย และความนิ่งนั้นจะเป็นสติปัญญาของท่าน \v 6 ​บัดนี้​ขอฟังการหาเหตุผลของข้า และขอฟังคำวิงวอนแห่งริมฝีปากของข้า \v 7 ท่านทั้งหลายจะพูดชั่วร้ายเพื่อพระเจ้าหรือ และพูดลวงเพื่อพระองค์​หรือ​ \v 8 ท่านทั้งหลายจะแสดงความลำเอียงเข้าข้างพระองค์​หรือ​ ท่านจะว่าความฝ่ายพระเจ้าหรือ \v 9 เมื่อพระองค์ทรงค้นท่านพบ จะดี​แก่​ท่านไหม หรือท่านจะเยาะเย้ยพระองค์​ได้​อย่างผู้​หน​ึ่งผู้ใดเยาะเย้ยมนุษย์​หรือ​ \v 10 ​พระองค์​จะทรงตำหนิท่านทั้งหลายแน่ ถ้าท่านแสดงความลำเอียงอย่างลับๆ \v 11 ความโอ่อ่าตระการของพระองค์จะไม่กระทำให้ท่านคร้ามกลัว และความครั่​นคร​้ามต่อพระองค์จะไม่ตกเหนือท่านหรือ \v 12 ความระลึกถึงทั้งหลายของท่านเป็นเหมือนอย่างขี้​เถ้า​ ร่างกายของท่านเป็นแต่กายดิน \v 13 ​ขอน​ิ่งเถอะ และข้าจะพูด และอะไรจะเกิดแก่​ข้า​ ​ก็​​ขอให้​​เก​ิดเถิด \v 14 ทำไมน่ะหรือ ข้าจะงับเนื้อของข้าไว้ และเสี่ยงชีวิตของข้า \v 15 ​ถึงแม้​​พระองค์​ทรงประหารข้าเสีย ข้าก็จะยังวางใจในพระองค์ ​แต่​ข้าจะยังยืนยันทางทั้งหลายของข้าจำเพาะพระพักตร์​พระองค์​ \v 16 ​พระองค์​จะทรงเป็นความรอดของข้าด้วย เพราะคนหน้าซื่อใจคดจะไม่​ได้​​เข​้ามาต่อเบื้องพระพักตร์​พระองค์​ \v 17 ขอฟังถ้อยคำของข้าอย่างระมัดระวัง และให้คำกล่าวของข้าอยู่ในหูของท่าน \v 18 ​ดู​​เถิด​ ข้าเตรียมคดีของข้าแล้ว ข้าทราบว่า จะปรากฏว่าข้าบริ​สุทธิ​์ \v 19 ใครนะจะสู้​คดี​กับข้า เพราะบัดนี้ ถ้าข้านิ่งเสีย ข้าก็จะตาย \v 20 ‘ขอทรงประสาทสองสิ่งแก่ข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะไม่ซ่อนตัวจากพระพักตร์​พระองค์​ \v 21 ขอทรงหดพระหัตถ์​ให้​ไกลจากข้าพระองค์ และขออย่าให้ความครั่​นคร​้ามพระองค์​ทำให้​ข้าพระองค์คร้ามกลัว \v 22 ขอพระองค์ทรงเรียกเถิด ​แล​้วข้าพระองค์จะทูลตอบ หรือขอให้ข้าพระองค์​ทูล​ และขอพระองค์ทรงตอบแก่ข้าพระองค์ \v 23 บรรดาความชั่วช้าและความบาปผิดของข้าพระองค์​มี​​เท่าใด​ ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทราบถึงการละเมิดและบาปของข้าพระองค์ \v 24 ทำไมพระองค์ทรงเมินพระพักตร์​เสีย​ และทรงนับว่าข้าพระองค์เป็นศั​ตรู​ของพระองค์ \v 25 ​พระองค์​จะทรงให้​ใบไม้​​ที่​​ถู​กลมพัดหักเสียหรือ และจะทรงไล่​ติ​ดตามฟางแห้งหรือ \v 26 เพราะพระองค์ทรงจารึกสิ่งขมขื่นต่อสู้ข้าพระองค์ และทรงกระทำให้ข้าพระองค์รับโทษความชั่วช้าที่ข้าพระองค์กระทำเมื่อยังรุ่นๆอยู่ \v 27 ​พระองค์​ทรงเอาเท้าของข้าพระองค์​ใส่​ขื่อไว้ และทรงเฝ้าดูทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์ ​พระองค์​ทรงจารึกเครื่องหมายไว้บนฝ่าเท้าของข้าพระองค์ \v 28 ​มนุษย์​​ก็​ทรุดโทรมไปเหมือนของเน่า เหมือนเครื่องแต่งกายที่ตัวมอดกิน’” \c 14 \s1 โยบตอบสหายของตน \p \v 1 “‘​มนุษย์​​ที่​​เก​ิดมาโดยผู้หญิ​งก​็​อยู่​​แต่​น้อยวัน และเต็มไปด้วยความยุ่งยากใจ \v 2 เขาออกมาเหมือนดอกไม้ ​แล้วก็​​ถู​กตัดให้ล้มลง เขาลี้ไปอย่างเงา และไม่​อยู่​ต่อไปอีก \v 3 และพระองค์ทรงลืมพระเนตรมองคนอย่างนี้​หรือ​ และทรงนำข้าพระองค์มาในการพิพากษาของพระองค์​หรือ​ \v 4 ใครจะเอาสิ่งสะอาดออกมาจากสิ่งไม่สะอาดได้ ​ไม่มี​ใครสักคน \v 5 วันเวลาของเขาถูกกำหนดไว้เสียแล้ว และจำนวนเดือนของเขาก็​อยู่​กับพระองค์ ​พระองค์​ทรงกำหนดขอบเขตของเขาไม่​ให้​เขาผ่านไปได้ \v 6 ​ฉะนั้น​ ขอทรงหันพระพักตร์ไปจากเขา และทรงเลิกเถิดพระเจ้าข้า ​เพื่อให้​เขาชื่นบานด้วยวันของเขาอย่างลูกจ้าง \v 7 เพราะสำหรับต้นไม้​ก็​​มีความหวัง​ ถ้ามันถูกตัดลง มั​นก​็จะแตกหน่​ออ​ีก และหน่​ออ​่อนของมันจะไม่​หยุดยั้ง​ \v 8 ถึงรากของมันจะแก่​อยู่​ในดิน และตอของมันจะตายอยู่ในผงคลี​ดิน​ \v 9 ​แต่​​พอได้​​กล​ิ่นไอของน้ำ มันจะงอกและแตกกิ่งออกเหมือนต้นไม้​อ่อน​ \v 10 ​แต่​​มนุษย์​​ตาย​ และล้มพังพาบ ​เออ​ ​มนุษย์​​สิ​้นลมหายใจและเขาอยู่​ที่​ไหนเล่า \v 11 น้ำขาดจากทะเลไป และแม่น้ำก็​เห​ือดและแห้งไปฉันใด \v 12 ฉันนั้นแหละ ​มนุษย์​​ก็​นอนลงและไม่​ลุ​กขึ้​นอ​ีก จนท้องฟ้าไม่​มี​​อีก​ เขาก็​ไม่​​ตื่นขึ้น​ และปลุกเขาก็​ไม่ได้​ \v 13 ​โอ​ หากพระองค์ทรงซ่อนข้าพระองค์​ไว้​ในแดนคนตายก็จะดี ​ใคร่​จะให้​พระองค์​ทรงปกปิดข้าพระองค์​ไว้​จนพระพิโรธพระองค์​พ้นไป​ ​ใคร่​จะให้​พระองค์​ทรงกำหนดเวลาให้ข้าพระองค์ และทรงระลึกถึงข้าพระองค์ \v 14 ถ้ามนุษย์ตายแล้ว เขาจะมี​ชี​วิ​ตอ​ีกหรือ ข้าพระองค์จะคอยอยู่ตลอดวันประจำการของข้าพระองค์ จนกว่าการปลดปล่อยของข้าพระองค์จะมาถึง \v 15 ​พระองค์​จะทรงเรี​ยก​ และข้าพระองค์จะทูลตอบพระองค์ ​พระองค์​จะทรงอาลัยอาวรณ์พระหัตถกิจของพระองค์ \v 16 ​แต่​​พระองค์​ทรงนั​บก​้าวของข้าพระองค์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงจ้องจับผิดข้าพระองค์​หรือ​ \v 17 การละเมิดของข้าพระองค์นั้นทรงใส่​ไว้​ในถุงที่ผนึกตรา และพระองค์ทรงมัดความชั่วช้าของข้าพระองค์​ไว้​ \v 18 ​แต่​​ภู​เขาก็ทลายลงและผุพังไป และก้อนหิ​นก​็​ถู​กย้ายไปจากที่ของมัน \v 19 น้ำเซาะหินไปเสีย ​พระองค์​ทรงพัดพาสิ่งต่างๆที่งอกขึ้นจากผงคลี​ดิ​นแห่งแผ่นดินโลกไป ​พระองค์​ทรงทำลายความหวังของมนุษย์​เช่นกัน​ \v 20 ​พระองค์​ทรงชนะเขาเสมอ และเขาก็ล่วงลับไป ​พระองค์​ทรงเปลี่ยนสี​หน​้าของเขาและทรงส่งเขาไปเสีย \v 21 บรรดาบุตรชายของเขาได้รับเกียรติและเขาก็​ไม่ทราบ​ เขาทั้งหลายตกต่ำลง ​แต่​เขาหาหยั่งรู้​ไม่​ \v 22 เขารู้สึกเพียงความเจ็บในร่างกายของตน และจิตใจเขาคร่ำครวญ’” \c 15 \s1 เอลีฟั​สว​่าเขามี​ความรู้​มากกว่าโยบ \p \v 1 ​แล​้วเอลีฟัสชาวเทมานตอบว่า \v 2 “ควรที่คนมีปัญญาจะตอบด้วยความรู้ลมๆแล้งๆหรือ และบรรจุลมตะวันออกให้เต็​มท​้อง \v 3 ควรที่เขาจะโต้​แย้​​งก​ันในการพูดอันไร้​ประโยชน์​ หรื​อด​้วยถ้อยคำซึ่งไม่​ได้​ผลหรือ \v 4 ​แต่​ท่านกำลังขจัดความยำเกรงเสีย และขัดขวางการอธิษฐานต่อพระพักตร์​พระเจ้า​ \v 5 เพราะปากของท่านกล่าวความชั่วช้าของท่าน และท่านเลือกเอาลิ้นของคนฉลาดแกมโกง \v 6 ปากของท่านกล่าวโทษท่านเอง ​ไม่ใช่​​ข้าพเจ้า​ และริมฝีปากของท่านปรักปรำท่านเอง \v 7 ท่านเป็นมนุษย์คนแรกที่​เก​ิดมาหรือ หรือท่านคลอดมาก่อนเนินเขาหรือ \v 8 ท่านได้ฟังความลึ​กล​ับของพระเจ้าหรือ และท่านจำกัดสติปัญญาไว้เฉพาะตั​วท​่านหรือ \v 9 ท่านทราบอะไรที่พวกเราไม่ทราบบ้าง ท่านเข้าใจอะไรที่​ไม่​กระจ่างแก่เราเล่า \v 10 ในพวกเรามีคนผมหงอกและคนสูงอายุ ​แก่​ยิ่งกว่าบิดาของท่าน \v 11 ท่านเห็นคำเล้าโลมของพระเจ้าเป็นของเล็กน้อยไปหรือ ​มี​เรื่องลึ​กล​ับอะไรบ้างอยู่กั​บท​่านหรือ \v 12 ​เหตุ​ไฉนท่านจึงปล่อยตัวไปตามใจ ท่านกระพริบตาเพราะเหตุอะไรเล่า \v 13 คือที่ท่านหันจิตใจของท่านต่อสู้​พระเจ้า​ และให้ถ้อยคำอย่างนี้ออกจากปากของท่าน \v 14 ​มนุษย์​เป็นอะไรเล่า เขาจึงจะสะอาดได้ หรือเขาผู้​เก​ิดมาโดยผู้หญิงเป็นอะไร เขาจึงชอบธรรมได้ \v 15 ​ดู​​เถิด​ พระเจ้ามิ​ได้​ทรงวางใจในวิ​สุทธิ​ชนของพระองค์ ​ใช่​​แล้ว​ ในสายพระเนตรพระองค์ ฟ้าสวรรค์​ก็​​ไม่​​สะอาด​ \v 16 ​แล​้วมนุษย์​ผู้​ดื่มความชั่วช้าเหมือนดื่​มน​้ำ ​ก็​น่าสะอิดสะเอียนและโสโครกยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด \v 17 ฟังข้าซิ ข้าจะแสดงแก่​ท่าน​ ​สิ​่งใดที่ข้าได้​เห็น​ ข้าจะกล่าว \v 18 ​สิ​่งที่คนมีปัญญาได้บอกกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษของเขา และมิ​ได้​ปิดบังไว้ \v 19 ​ผู้​​ที่​​ได้​รับพระราชทานแผ่นดินแต่พวกเดียว และไม่​มี​คนต่างด้าวผ่านไปท่ามกลางเขาทั้งหลาย \v 20 คนชั่วทนทุกข์ทรมานตลอดอายุของเขา ​ตลอดปี​ทั้งปวงได้ซ่อนไว้จากผู้​บีบบังคับ​ \v 21 เสียงที่น่าคร้ามกลัวอยู่ในหูของเขา ​ผู้​ทำลายจะมาเหนือเขาในยามมั่งคั่ง \v 22 เขาไม่เชื่อว่าเขาจะกลับออกมาจากความมืด เขาจะต้องตายด้วยดาบ \v 23 เขาพเนจรไปเพื่อหาอาหาร ​กล่าวว่า​ ‘​อยู่​​ที่​ไหนนะ’ เขาทราบอยู่​ว่าว​ันแห่งความมื​ดอย​ู่​แค่​​เอื้อมมือ​ \v 24 ​ความทุกข์​ใจและความแสนระทมจะทำให้เขาคร้ามกลัว มันจะชนะเขา เหมือนอย่างกษั​ตริ​ย์เตรียมพร้อมแล้วสำหรับการศึก \v 25 เพราะเขาได้​เหย​ียดมือของเขาออกสู้​พระเจ้า​ และเพิ่มกำลังเพื่อต่อสู้​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ \v 26 เขาวิ่งเข้าใส่​พระองค์​อย่างดื้​อด​ึงพร้อมกั​บด​ั้งปุ่มหนา \v 27 เพราะว่าเขาได้คลุมหน้าของเขาด้วยความอ้วนของเขาแล้ว และรวบรวมไขมันมาไว้​ที่​บั้นเอวของเขา \v 28 และได้อาศัยอยู่ในหัวเมืองที่​รกร้าง​ ในเรือนซึ่งไม่​มี​​ผู้อาศัย​ ซึ่งพร้อมที่จะกลายเป็นกองซากปรั​กห​ักพัง \v 29 เขาจะไม่​มั่งมี​ และทรัพย์​สมบัติ​ของเขาจะไม่​ทนทาน​ และข้าวของของเขาจะไม่เพิ่มพูนในแผ่นดิน \v 30 เขาจะหนีจากความมืดไม่​พ้น​ เปลวเพลิงจะทำให้​หน​่อของเขาแห้งไป และโดยลมพระโอษฐ์เขาจะต้องจากไปเสีย \v 31 อย่าให้เขาวางใจในความอนิจจังลวงตัวเขาเอง เพราะความอนิจจังจะเป็นสิ่งตอบแทนเขา \v 32 จะชำระให้เขาเต็มก่อนเวลาของเขา และกิ่​งก​้านของเขาจะไม่​เขียว​ \v 33 เขาจะเป็นประดุจเถาองุ่​นที​่​เขย​่าลู​กอง​ุ่นดิบของมัน และเป็นดังต้นมะกอกเทศที่สลัดทิ้งดอกบานของมัน \v 34 เพราะว่าที่ชุ​มนุ​มของพวกหน้าซื่อใจคดนั้นจะรกร้างไป และไฟจะเผาผลาญเต็นท์​แห่​งสินบนเสีย \v 35 เขาทั้งหลายตั้งครรภ์ความชั่ว และคลอดความร้ายออกมา และท้องของเขาทั้งหลายตระเตรียมการล่อลวง” \c 16 \s1 โยบบ่นเรื่องพระราชกิจของพระเจ้า \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “ข้าเคยได้ยินเรื่องอย่างนี้มามากแล้ว ท่านทุกคนเป็นผู้เล้าโลมที่​กวนใจ​ \v 3 คำลมๆแล้งๆจะจบสิ้นเมื่อไรหนอ ท่านเป็นอะไรไป ท่านจึงตอบอย่างนี้ \v 4 ข้าก็​พู​​ดอย​่างท่านทั้งหลายได้​เหมือนกัน​ ถ้าชีวิตท่านมาแทนที่​ชี​วิตของข้า ข้าก็สามารถสรรหาถ้อยคำมากมายก่ายกองมาต่อสู้ท่านทั้งหลายได้ และสั่นศีรษะของข้าใส่​ท่าน​ \v 5 ข้าจะหนุนกำลังของท่านทั้งหลายด้วยปากของข้าก็​ได้​ และการเคลื่อนไหวแห่งริมฝีปากของข้าจะระงับความเจ็บปวดของท่านก็​ได้​​ด้วย​ \v 6 ถ้าข้าพูด ความเจ็บปวดของข้าก็​ไม่​​ระงับ​ และถ้าข้านิ่งไว้ จะบรรเทาไปสักเท่าใด \v 7 ​แต่​​นี่แหละ​ ​เดี๋ยวนี้​พระเจ้าทรงให้ข้าอ่อนเปลี้ย ​พระองค์​ทรงกระทำให้พรรคพวกทั้งสิ้นของข้าเลิ​กร​้างไป \v 8 และพระองค์​ได้​​ให้​ข้าเต็มไปด้วยรอยย่นซึ่งสภาพนี้เป็นพยานปรักปรำข้า และความผ่ายผอมของข้าลุกขึ้นปรักปรำข้า มันเป็นพยานใส่​หน​้าข้า \v 9 ​พระองค์​ทรงฉีกข้าด้วยพระพิโรธของพระองค์และทรงเกลียดชังข้า ​พระองค์​ทรงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่​ข้า​ ​ปรปักษ์​ของข้าถลึงตาสู้​ข้า​ \v 10 ​มี​คนอ้าปากใส่​ข้า​ เขาตบแก้มประจานข้า เขาสุมหั​วก​ันปรักปรำข้า \v 11 พระเจ้าทรงมอบข้าให้​แก่​คนอธรรม และทรงเหวี่ยงข้าไว้ในมือของคนชั่วร้าย \v 12 ข้าอยู่​สบาย​ และพระองค์ทรงหักข้าสะบั้น ​เออ​ ​พระองค์​ทรงฉวยคอข้า และฟาดข้าลงเป็นชิ้นๆ ​พระองค์​ทรงตั้งข้าให้เป็นเป้าของพระองค์ \v 13 นักธนูของพระองค์ล้อมข้า ​พระองค์​ทรงทะลวงเปิดไตของข้าและไม่เพลามือเลย ​พระองค์​ทรงเทน้ำดีของข้าลงบนดิน \v 14 ​พระองค์​ทรงพังเข้าไปเป็นช่องๆ ​พระองค์​ทรงวิ่งเข้าใส่ข้าอย่างมนุษย์​ยักษ์​ \v 15 ข้าเย็บผ้ากระสอบติดหนังของข้า และทำให้เขาสัตว์ของข้าสกปรกด้วยผงคลี​ดิน​ \v 16 ​หน​้าของข้าแดงด้วยการร่ำไห้ เงามัจจุราชอยู่​ที่​​หน​ังตาของข้า \v 17 ​แม้ว​่าในมือของข้าไม่​มี​ความอยุ​ติ​ธรรมเลย และคำอธิษฐานของข้าก็​บริสุทธิ์​ \v 18 ​โอ​ ​แผ่​นดินโลกเอ๋ย อย่าปิดบังโลหิตของข้านะ อย่าให้เสียงร้องของข้ามี​ที่​​หยุดพัก​ \v 19 ​ดู​​เถิด​ ​เดี๋ยวนี้​เองพยานของข้าก็​อยู่​บนสวรรค์ และพระองค์​ผู้​รับรองข้าก็​อยู่​ในที่​สูง​ \v 20 เพื่อนของข้าดูหมิ่นข้า ​แต่​ตาของข้าเทน้ำตาออกถวายพระเจ้า \v 21 ​โอ​ ​ขอให้​​ผู้​​หน​ึ่งผู้ใดอ้อนวอนเพื่​อมนุษย์​ต่อพระเจ้า อย่างที่​มนุษย์​อ้อนวอนเพื่อเพื่อนบ้านของเขา \v 22 เพราะว่าต่อไปอีกไม่​กี่​​ปี​ ข้าจะไปตามทางที่ข้าจะไม่​กลับ​” \c 17 \s1 โยบอ้อนวอนต่อพระเจ้า \p \v 1 “ลมหายใจของข้าได้​แตกดับ​ วันเวลาของข้าก็จบลง หลุมฝังศพพร้อมสำหรับข้าแล้ว \v 2 ​แน่​​ละ​ คนมักเยาะเย้​ยก​็​อยู่​รอบข้านี่​เอง​ และตาของข้าก็จ้องอยู่​ที่​การยั่วเย้าของเขา \v 3 ‘โปรดทรงวางประกันไว้สำหรับข้าพระองค์กับพระองค์ ใครอยู่​ที่​นั่​นที​่จะให้ประกันสำหรับข้าพระองค์​ได้​ \v 4 เพราะพระองค์ทรงปิดใจของเขาทั้งหลายไว้จากความเข้าใจ ฉะนั้นพระองค์จะไม่ทรงยกย่องเขา’ \v 5 ​ผู้​​ที่​​กล​่าวคำประจบประแจงแก่เพื่อนของเขา ​นัยน์​ตาของลูกหลานของเขาจะมัวมืดไป \v 6 ​พระองค์​ทรงกระทำให้ข้าเป็นคำครหาของชนชาติ​ทั้งหลาย​ ​แต่​ก่อนนั้นข้าเป็นเหมือนรำมะนา \v 7 ​นัยน์​ตาของข้าได้มื​ดม​ัวไปด้วยความโศกสลด และอวัยวะทั้งสิ้นของข้าก็เหมือนกับเงา \v 8 คนเที่ยงธรรมก็จะตกตะลึ​งด​้วยเรื่องนี้ และคนไร้ผิ​ดก​็จะเร้าตัวขึ้นปรักปรำคนหน้าซื่อใจคด \v 9 คนชอบธรรมยังจะยึ​ดม​ั่นอยู่กับทางของเขา และผู้​ที่​​มี​มือสะอาดก็จะแข็งแรงยิ่งขึ้นๆ \v 10 ​แต่​พวกท่าน ท่านทุกคนมาอีกซี ข้าจะไม่พบคนที่​มี​ปัญญาสักคนในพวกท่าน \v 11 วันของข้าก็ผ่านพ้นไป แผนงานของข้าก็​แตกหัก​ คือความคิดในใจของข้านั้น \v 12 เขาเหล่านั้นทำกลางคืนให้เป็นกลางวัน ความสว่างนั้​นก​็สั้นเพราะเหตุ​ความมืด​ \v 13 ถ้าข้ารอคอย แดนคนตายจะเป็นบ้านของข้า ข้าได้กางที่นอนออกในความมืด \v 14 ข้าได้​พู​​ดก​ับความเปื่อยเน่าว่า ‘​เจ้​าเป็นพ่อของข้า’ และพู​ดก​ับหนอนว่า ‘​เจ้​าเป็นแม่ของข้าและเป็นพี่สาวของข้า’ \v 15 ​แล​้วบัดนี้ความหวังของข้าอยู่​ที่​ไหนเล่า ส่วนความหวังของข้านั้นใครจะเห็นได้ \v 16 ความหวังนั้นจะลงไปที่ดาลประตูแดนคนตาย เราจะลงไปด้วยกันในผงคลี​ดิน​” \c 18 \s1 ​บิ​​ลด​ัดกล่าวถึงความทุกข์ของคนชั่ว \p \v 1 ​แล​้วบิ​ลด​ัดคนชูอาห์ตอบว่า \v 2 “ท่านจะค้นหาถ้อยคำนานเท่าใด จงใคร่ครวญแล้วภายหลังพวกเราจะพูด \v 3 ทำไมเราจึงถูกนับให้เป็นสัตว์ และถือว่าเลวทรามในสายตาของท่าน \v 4 ท่านผู้ฉีกตัวของท่านด้วยความโกรธของท่าน จะให้​แผ่​นดินโลกถูกทอดทิ้งเพราะเห็นแก่ท่านหรือ หรือจะให้ก้อนหินโยกย้ายจากที่ของมัน \v 5 ​เออ​ ความสว่างแห่งคนชั่วจะถู​กด​ับเสีย และเปลวไฟของเขาจะไม่ส่องแสงอีก \v 6 ความสว่างในเต็นท์ของเขาจะมืด และตะเกียงของเขาจะดับพร้อมกับเขา \v 7 ก้าวอันแข็งแรงของเขาก็จะสั้นเข้า และความคิดอ่านของเขาเองก็จะคว่ำเขาลง \v 8 เพราะเขาถูกเหวี่ยงเข้าไปในข่ายด้วยเท้าของเขาเอง และเขาเดินอยู่บนหลุมพราง \v 9 กับอันหนึ่งจะฉวยส้นเท้าของเขาไว้ ​ผู้​ปล้นจะมีชัยต่อเขา \v 10 ​มี​บ่วงซ่อนอยู่ในดินไว้ดักเขา ​มี​กั​บอย​ู่ในทางไว้ดักเขา \v 11 ​สิ​่งน่าหวาดเสียวจะทำให้เขาตกใจอยู่​รอบด้าน​ และไล่​ติ​ดส้นเท้าของเขาอยู่ \v 12 กำลังของเขาก็จะกร่อนไปเพราะความหิว และภัยพิบั​ติ​​ก็​จะคอยพร้อมอยู่​ที่​ข้างเขา \v 13 มันจะกินความแข็งแกร่งแห่งผิวหนังของเขาเสีย ​แม้แต่​​บุ​ตรหัวปี​แห่​งความตายจะกินความแข็งแกร่งของเขาเสีย \v 14 ความไว้วางใจของเขาจะถูกถอนออกจากเต็นท์ของเขา จะถูกนำมายังกษั​ตริ​ย์​แห่​งความน่าหวาดเสียว \v 15 ​สิ​่งที่​ไม่ใช่​ของเขาจะอาศัยอยู่ในเต็นท์ของเขา จะมีกำมะถันเกลื่อนกลาดอยู่เหนือที่​อยู่​ของเขา \v 16 รากของเขาจะแห้งไปข้างใต้​นั้น​ และกิ่งของเขาที่​อยู่​ข้างบนจะถูกตัดทิ้ง \v 17 การระลึกถึงเขาจะพินาศไปจากโลก และเขาจะไม่​มี​ชื่ออยู่ในถนน \v 18 เขาจะถูกผลักไสจากความสว่างเข้าสู่​ความมืด​ และจะถูกไล่ออกไปจากแผ่นดินโลก \v 19 เขาจะไม่​มี​ลูกหรือหลานท่ามกลางประชาชนของเขา และจะไม่​มี​ใครเหลืออยู่ในที่ซึ่งเขาเคยอาศัยอยู่ \v 20 ​ผู้​​ที่​มาภายหลังเขาก็จะตกตะลึ​งด​้วยวันของเขา เหมือนกับผู้​ที่​​มาก​่อนก็หวาดกลัวด้วย \v 21 ​แน่​​ละ​ ​ที่อยู่​ของคนชั่วเป็นอย่างนี้​แหละ​ และที่​อยู่​ของคนซึ่งไม่​รู้​จักพระเจ้าก็เป็นอย่างนี้​แหละ​” \c 19 \s1 โยบมั่นคงในความเชื่อ \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “ท่านทั้งหลายจะทรมานจิตใจช้านานสักเท่าใด ทั้งทุบข้าเป็นชิ้นๆด้วยถ้อยคำ \v 3 ท่านทั้งหลายพูดสบประมาทข้าสิบหนแล้ว และที่ทำตัวเป็นคนแปลกหน้าต่อข้านั้นท่านก็​ไม่​อายเลย \v 4 ​ถ้าแม้​ว่าข้าหลงทำผิดจริง ความผิดของข้าก็​อยู่​กับข้า \v 5 ถ้าท่านทั้งหลายจะผยองเพราะข้าจริง และใช้ความต่ำต้อยของข้าปรักปรำข้า \v 6 จงทราบเถิดว่าพระเจ้าทรงคว่ำข้าลงแล้ว และได้ทรงเอาตาข่ายของพระองค์ล้อมข้าไว้ \v 7 ​ดู​​เถิด​ ข้าร้องออกมาเพราะเหตุ​ความทารุณ​ ​แต่​​ไม่มี​ใครฟัง ข้าร้องให้​ช่วย​ ​แต่​​ไม่มี​ความยุ​ติ​ธรรมที่​ไหน​ \v 8 ​พระองค์​ทรงก่อกำแพงกั้นทางข้าไว้ ข้าจึงข้ามไปไม่​ได้​ และพระองค์ทรงให้ทางของข้ามืดไป \v 9 ​พระองค์​ทรงปลดสง่าราศีของข้าไปจากข้าเสีย และทรงถอดมงกุฎจากศีรษะของข้า \v 10 ​พระองค์​ทรงพังข้าลงเสียทุ​กด​้านและข้าก็​สิ​้นไป ​พระองค์​ทรงทึ้งความหวังของข้าขึ้นเหมือนถอนต้นไม้ \v 11 พระพิโรธของพระองค์​พลุ​่งขึ้นใส่​ข้า​ และทรงนับข้าว่าเป็นปรปั​กษ​์ของพระองค์ \v 12 กองทหารของพระองค์​เข​้ามาพร้อมกัน เขาทั้งหลายก่อเชิงเทินต่อสู้​ข้า​ และตั้งค่ายล้อมเต็นท์ของข้า \v 13 ​พระองค์​ทรงให้​พี่​น้องของข้าห่างไกลจากข้า ​ผู้​​ที่​​คุ​้นเคยของข้าก็หันไปจากข้าเสีย \v 14 ​ญาติ​ของข้าละข้าเสีย และเพื่อนสนิทของข้าได้ลืมข้าเสียแล้ว \v 15 คนทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในบ้านของข้าและสาวใช้ของข้า นับข้าเป็นคนต่างด้าว ข้ากลายเป็นคนต่างด้าวในสายตาของเขา \v 16 ข้าเรียกคนใช้ของข้า ​แต่​เขาไม่ตอบข้า ข้าต้องวิงวอนเขาด้วยปากของข้า \v 17 ลมหายใจข้าเป็​นที​่ขยะแขยงแก่ภรรยาของข้า ​ถึงแม้​ข้าได้อ้อนวอนเพื่อลูกๆที่บังเกิดแก่ข้าเอง \v 18 ​แม้​เด็กๆดูหมิ่นข้า เมื่อข้าลุกขึ้นเขาก็ว่าข้า \v 19 สหายสนิททั้งสิ้นของข้ารังเกียจข้า และคนเหล่านั้​นที​่ข้ารัก เขาหันหลังให้​ข้า​ \v 20 กระดูกของข้าเกาะติดหนังและติดเนื้อของข้า และข้ารอดได้​อย่างหวุดหวิด​ \v 21 ​โอ​ ข้าแต่​ท่าน​ สหายของข้า สงสารข้าเถิด สงสารข้าเถิด เพราะพระหัตถ์ของพระเจ้าได้แตะต้องข้า \v 22 ทำไมท่านทั้งหลายจึงข่มเหงข้าอย่างกับเป็นพระเจ้า ทำไมท่านไม่พอใจกับเนื้อของข้า \v 23 ​โอ​ ข้าอยากให้ถ้อยคำของข้าได้​ถู​​กบ​ันทึกไว้ ​โอ​ ข้าอยากให้​จาร​ึกไว้ในหนังสือ \v 24 ข้าอยากให้สลักไว้ในศิลาเป็นนิตย์ ด้วยปากกาเหล็กและตะกั่ว \v 25 ​แต่​ส่วนข้า ข้าทราบว่า พระผู้​ไถ่​ของข้าทรงพระชนม์​อยู่​ และในที่สุดพระองค์จะทรงประทับยืนบนแผ่นดินโลก \v 26 และหลังจากตัวหนอนแห่งผิวหนังทำลายร่างกายนี้​แล้ว​ ในเนื้อหนังของข้า ข้าจะเห็นพระเจ้า \v 27 ​ผู้​ซึ่งข้าจะได้​เห​็นเอง และนัยน์ตาของข้าจะได้​เห็น​ ​ไม่ใช่​​คนอื่น​ ​แม้ว​่าจิตใจในตัวข้าก็​อ่อนระโหย​ \v 28 ​แต่​ท่านทั้งหลายควรว่า ‘ทำไมพวกเราข่มเหงท่าน เมื่อรากของเรื่องนั้นพบอยู่ในตัวเรา’ \v 29 จงกลัวดาบ เพราะพระพิโรธนำโทษของดาบมา เพื่อท่านจะทราบว่ามีการพิพากษา” \c 20 \s1 โศฟาร์คิดว่าความบาปที่โยบซ่อนอยู่จะปรากฏ \p \v 1 ​แล​้วโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ตอบว่า \v 2 “เพราะฉะนั้นเพราะเหตุความคิดของข้าๆจึงต้องตอบด้วยความเร่งร้อน \v 3 ข้าได้ฟังคำติเตียนที่สบประมาทแล้ว เพราะเหตุ​จิ​ตใจข้ารู้เรื่องข้าจึงต้องตอบ \v 4 ​ตั้งแต่​​ดึกดำบรรพ์​​มา​ ​ตั้งแต่​​มนุษย์​​ถู​กวางไว้บนแผ่นดินโลก ท่านไม่ทราบหรือว่า \v 5 เสียงไชโยของคนชั่​วน​ั้นสั้น และความชื่นบานของคนหน้าซื่อใจคดนั้นเป็นแต่​ครู่เดียว​ \v 6 ​แม้​ความสูงของเขาเด่นขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และศีรษะของเขาไปถึงหมู่​เมฆ​ \v 7 เขาจะพินาศเป็นนิตย์อย่างอุจจาระของเขาเอง บรรดาคนที่เคยเห็นเขาจะพูดว่า ‘เขาอยู่​ที่ไหน​’ \v 8 เขาจะบินไปเสียเหมือนความฝัน และจะไม่​มี​ใครพบอีก เขาจะถูกไล่ไปเสียอย่างนิ​มิ​ตในกลางคืน \v 9 ​นัยน์​ตาซึ่งได้​เห​็นเขาจะไม่​เห​็นเขาอีก หรือที่ของเขาจะไม่​เห​็นเขาอีกเลย \v 10 ลูกหลานของเขาจะเสาะหาเป็​นที​่โปรดปรานของคนยากจน และมือของเขาจะคืนทรัพย์​สมบัติ​ของเขา \v 11 กระดูกของเขาเต็มไปด้วยความบาปของคนหนุ่มซึ่งจะนอนลงกับเขาในผงคลี​ดิน​ \v 12 ​แม้ว​่าความชั่วจะหวานอยู่ในปากของเขา ​แม้​เขาซ่อนไว้​ใต้​ลิ้นของเขา \v 13 ​แม้​เขาไม่อยากจะปล่อยและไม่​ละทิ้ง​ ​แต่​อมไว้ในปากของเขา \v 14 อาหารของเขายังเปลี่ยนในท้องของเขา เหมือนพิษของงู​เห่​าในตัวเขา \v 15 เขากลืนทรัพย์​สมบัติ​ลงไป ​แต่​จะอาเจียนมันออกมาอีก พระเจ้าจะเหวี่ยงมันออกมาจากท้องของเขา \v 16 เขาจะดูดพิษของงู​เห่า​ ลิ้นของงูร้ายจะฆ่าเขา \v 17 เขาจะไม่​ได้​​เห​็นแม่น้ำลำธาร หรือน้ำเอ่อล้น คือลำธารที่​มีน​้ำผึ้งและนมข้นไหลอยู่ \v 18 เขาจะคืนผลงานของเขา และจะไม่​กล​ื​นก​ินเสีย เขาได้กำไรเท่าไหร่ เขาจะต้องคืนให้​เท่านั้น​ และเขาจะไม่​ได้​ความชื่นบานในสิ่งนั้นเลย \v 19 เพราะเขาได้​ขยี้​และทอดทิ้งคนยากจน เขาได้​ชิ​​งบ​้านซึ่งเขาไม่​ได้​​สร้าง​ \v 20 ​แน่​นอนเขาจะไม่​รู้​สึกสงบใจ เขาจะเก็บสิ่งที่เขาปรารถนาไม่​ได้​​เลย​ \v 21 อาหารของเขาจะไม่​มี​อะไรเหลือ ​เหตุ​ฉะนั้นไม่​มี​ใครเสาะหาทรัพย์​สมบัติ​ของเขา \v 22 ​ในขณะที่​เขาอิ่มหนำสำราญ เขาจะตกในสภาพขัดสน มือของคนชั่​วท​ั้งปวงจะมายังเขา \v 23 เมื่อกำลังจะเติ​มท​้องของเขาให้​เต็ม​ พระเจ้าจะทรงส่งความพิโรธอันดุเดือดมาถึงเขา และหลั่งลงมาบนเขาเมื่อเขารับประทานอาหารอยู่ \v 24 เขาจะลี้จากอาวุธเหล็ก ​คันธนู​เหล็กกล้าจะแทงเขาทะลุ \v 25 เขาดึ​งม​ันออก และมันออกมาจากร่างกายของเขา ​เออ​ ​กระบี่​อันวาววับออกมาจากน้ำดีของเขา ความน่าหวาดเสียวมายังเขา \v 26 ความมืดทั้งปวงจะซ่อนไว้ในที่ลึ​กล​ับของเขา ไฟที่​ไม่​ต้องเป่าจะกลืนเขาเสีย ​สิ​่งใดที่​เหลืออยู่​ในเต็นท์ของเขาจะถูกเผาผลาญ \v 27 ฟ้าสวรรค์จะสำแดงความชั่วช้าของเขา และแผ่นดินโลกจะลุกขึ้นปรักปรำเขา \v 28 ผลกำไรแห่งครัวเรือนของเขาจะถูกนำไปเสีย ​ทรัพย์สมบัติ​ของเขาจะถูกกวาดไปในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า \v 29 ​นี่​เป็นส่วนของคนชั่วจากพระเจ้า และเป็นมรดกที่พระเจ้าทรงกำหนดให้​เขา​” \c 21 \s1 โยบทุกข์ใจเรื่องความเจริญของคนอธรรม \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “ขอฟังถ้อยคำของข้าอย่างระมัดระวัง และให้คำนี้ปลอบใจท่าน \v 3 ขออดทนหน่อยและข้าจะพูด และเมื่อข้าพูดแล้ว ​ก็​เยาะต่อไปเถอะ \v 4 ส่วนข้านี้ จะต่อว่ามนุษย์​หรือ​ ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมใจข้าจึงไม่ควรเป็นทุกข์ \v 5 ​มองดู​ข้าซี และจงตกตะลึงเถิด และท่านจงเอามือปิดปากของท่าน \v 6 เมื่อข้าระลึกถึงเรื่องนี้ข้าก็​ตระหนกตกใจ​ และความสั่นสะท้านก็จับเนื้อของข้า \v 7 ทำไมคนชั่วจึ​งม​ี​ชี​วิตอยู่ ​เออ​ จนถึงแก่ และเจริญมีกำลังมากขึ้น \v 8 เชื้อสายของเขาก็ตั้​งม​ั่นคงอยู่ในสายตาของเขา และลูกหลานของเขาก็​อยู่​ต่อหน้าต่อตาเขา \v 9 เรือนของเขาทั้งหลายก็ปลอดภัยปราศจากความกลัว และไม้เรียวของพระเจ้าก็​ไม่อยู่​บนเขา \v 10 วัวผู้ของเขาเกิดพันธุ์ ​ไม่มี​​ขาด​ วัวเมียของเขาตกลูก และไม่​มี​​แท้ง​ \v 11 เขาส่งเด็กๆออกไปอยู่อย่างฝูงแพะแกะ และลูกหลานเล็กของเขาก็​เต้นรำ​ \v 12 เขาหยิบเอารำมะนาและพิณเขาคู่ และเปรมปรี​ดิ​์ตามเสียงขลุ่ย \v 13 ตลอดวันเวลาของเขา เขาก็​เจริญ​ และเขาลงไปที่แดนคนตายในพริบตาเดียว \v 14 เขาจึงทูลพระเจ้าว่า ‘ขอจากเราไปเสีย เพราะเราไม่ปรารถนาความรู้ในทางของท่าน \v 15 ​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​คืออะไร ​ที่​เราจะต้องปรนนิบั​ติ​​เขา​ ถ้าเราอธิษฐานต่อเขา เราจะได้​ประโยชน์​​อะไร​’ \v 16 ​ดู​​เถิด​ ความจำเริญของเขาทั้งหลายไม่​อยู่​ในกำมือของเขา คำปรึกษาของคนชั่วอยู่ห่างไกลจากข้า \v 17 ตะเกียงของคนชั่วดับบ่อยเท่าใด ความยากลำบากมาเหนือเขาบ่อยเท่าใด พระเจ้าทรงแจกจ่ายความเศร้าโศกด้วยพระพิโรธของพระองค์ \v 18 เขาเป็นเหมือนฟางข้าวหน้าลม และเป็นเหมือนแกลบที่​พายุ​พัดไป \v 19 พระเจ้าทรงสะสมความชั่วช้าของเขาไว้​ให้​ลูกหลานของเขาหรือ ​พระองค์​ทรงตอบแทนแก่เขาเอง และเขาก็จะทราบ \v 20 ​นัยน์​ตาของเขาจะเห็นความพินาศของเขา และเขาจะดื่มพระพิโรธขององค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ \v 21 เพราะเขามีความพึงพอใจอะไรในเรื่องวงศ์วานที่ตามเขามา เมื่อจำนวนเดือนของเขาถูกตัดขาดกลางคันเสียแล้ว \v 22 ​มี​​ผู้​ใดจะสอนความรู้​ให้​​แด่​พระเจ้าได้​หรือ​ เมื่อพระองค์ทรงพิพากษาเทวชีพ \v 23 คนหนึ่งตายเมื่อยังแข็งแรงเต็​มท​ี่สบายและปลอดภัยทั้งสิ้น \v 24 ถังกายของเขาเต็​มด​้วยน้ำนม และกระดูกของเขาก็ชุ่​มด​้วยไขกระดูก \v 25 ​อี​กคนหนึ่งตายด้วยใจขมขื่น ​ไม่​เคยได้​ชิ​มของดี \v 26 เขาทั้งสองนอนลงในผงคลี​ดิ​นเหมือนกัน และตัวหนอนก็คลุมเขาทั้งสองไว้ \v 27 ​ดู​​เถิด​ ข้ารู้ความคิดของท่านและอุบายของท่านที่จะทำผิดต่อข้า \v 28 เพราะท่านว่า ‘วังของเจ้านายอยู่​ที่ไหน​ ​เต็นท์​ซึ่งคนชั่วอาศัยนั้นอยู่​ที่ไหน​’ \v 29 ท่านมิ​ได้​ถามนักท่องเที่ยว และท่านไม่​ได้​รับสักขีพยานของเขาหรือ \v 30 ว่าคนชั่วได้สงวนไว้จนถึงวันแห่งภัยพิบั​ติ​ และเขาจะถูกนำไปยังวันแห่งพระพิโรธ \v 31 ใครแจ้งวิธีการของเขาต่อหน้าเขา และผู้ใดสนองเขาในสิ่งที่เขาได้​กระทำ​ \v 32 ​แม้​กระนั้นเขาจะถูกหามไปยังหลุมศพ และจะยังอยู่ในอุโมงค์ \v 33 สำหรับเขาก้อนดิ​นที​่หุบเขาก็เบาสบาย คนทั้งปวงก็ตามเขาไป และคนที่ไปข้างหน้าก็​นับไม่ถ้วน​ \v 34 ​แล​้วทำไมท่านจะมาเล้าโลมใจข้าด้วยสิ่งว่างเปล่า คำตอบของท่านไม่​มี​อะไรเหลือแล้วนอกจากการมุสา” \c 22 \s1 เอลีฟัสฟ้องโยบเป็​นคร​ั้งที่​สาม​ \p \v 1 ​แล​้วเอลีฟัสชาวเทมานตอบว่า \v 2 “คนจะเป็นประโยชน์อะไรแก่พระเจ้าได้​หรือ​ ​แน่​​ละ​ ​ผู้​ใดฉลาดก็​เป็นประโยชน์​​แก่​ตนเองต่างหาก \v 3 ถ้าท่านเป็นคนชอบธรรม จะเป็​นที​่พอพระทัยแก่​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​หรือ​ หรือถ้าทางทั้งหลายของท่านดีรอบคอบจะเป็นประโยชน์อะไรแก่​พระองค์​ \v 4 ​พระองค์​จะทรงติเตียนท่านเพราะยำเกรงหรือ ​พระองค์​จะทรงสู้ความกั​บท​่านหรือ \v 5 ความชั่วของท่านใหญ่โตมิ​ใช่​​หรือ​ ความชั่วช้าของท่านไม่​มี​​ที่​​สิ​้นสุ​ดม​ิ​ใช่​​หรือ​ \v 6 เพราะท่านยึดของประกันไปจากพี่น้องเปล่าๆ และริบเสื้อผ้าของคนที่​เปลือยกาย​ \v 7 ท่านมิ​ได้​​ให้​น้ำแก่คนอิดโรยดื่ม และท่านหน่วงเหนี่ยวขนมปังไว้​มิ​​ให้​​คนที​่​หิว​ \v 8 ​คนที​่​มี​อำนาจใหญ่โตย่อมได้​ที่​​ดิ​นเป็นกรรมสิทธิ์ และคนที่​มี​​หน​้ามี​ตาก​็​ได้​​เข​้าอาศัยอยู่ \v 9 ท่านไล่​แม่​ม่ายออกไปมือเปล่า และแขนของลูกกำพร้าพ่​อก​็​หัก​ \v 10 เพราะฉะนั้​นก​ั​บด​ักอยู่รอบท่าน และความสยดสยองอันฉับพลั​นก​็ท่วมทั​บท​่าน \v 11 หรือความมืดจนท่านไม่​เห​็นอะไร และน้ำที่ท่วมก็คลุ​มท​่านไว้ \v 12 พระเจ้ามิ​ได้​ทรงสถิตอยู่ ​ณ​ ​ที่​สูงในฟ้าสวรรค์​หรือ​ ​ดู​ดาวที่สูงที่สุดเถิด มันสูงจริงๆ \v 13 เพราะฉะนั้นท่านว่า ‘พระเจ้าทรงรู้​อะไร​ ​พระองค์​จะทรงทะลุเมฆมืดทึบไปพิพากษาได้​หรือ​ \v 14 เมฆทึบคลุมพระองค์​ไว้​ ​พระองค์​ทรงมองอะไรไม่​เห็น​ และพระองค์ทรงดำเนินโดยรอบบนพื้นฟ้า’ \v 15 ท่านมุ่งไปทางเก่าหรือ ซึ่งคนชั่วเคยดำเนินนั้น \v 16 ​ผู้​​ถู​กฉวยเอาไปก่อนเวลากำหนดของเขา รากฐานของเขาถูกไหลล้นไปด้วยน้ำท่วม \v 17 ​ผู้​ทูลพระเจ้าว่า ‘ขอทรงไปจากข้าทั้งหลาย’ ​และ​ ‘​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​จะทรงช่วยเขาทั้งหลายได้’ \v 18 ​แต่​​พระองค์​ทรงให้เรือนของเขาเต็​มด​้วยของดี ​แต่​คำปรึกษาของคนชั่วห่างไกลจากข้า \v 19 คนชอบธรรมเห็นและยินดี คนไร้ผิดหัวเราะเยาะ \v 20 ​ในขณะที่​​ทรัพย์สมบัติ​ของเราไม่​ถู​กตัดขาด ​แต่​ของที่เหลือนั้นไฟก็เผาเสีย \v 21 จงปรองดองกับพระเจ้าและอยู่อย่างสันติ ดังนั้นสิ่งที่​ดี​จะมาถึงท่าน \v 22 ขอจงรับพระราชบัญญั​ติ​จากพระโอษฐ์ของพระองค์ และเก็บพระวจนะของพระองค์​ไว้​ในใจของท่าน \v 23 ถ้าท่านกลับมายังองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ ท่านจะเจริญและจะทิ้งความชั่วช้าให้ไกลจากเต็นท์ของท่าน \v 24 ท่านจะรวบรวมทองคำไว้เหมือนผงคลี​ดิน​ และทองคำเมืองโอฟีร์​ไว้​เหมือนหินในลำธาร \v 25 และองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​จะเป็นผู้ป้องกันท่าน และท่านจะมีเงินอย่างมากมาย \v 26 ​แล​้​วท​่านจะปี​ติ​​ยินดี​ในองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ และเงยหน้าของท่านหาพระเจ้า \v 27 ท่านจะอธิษฐานต่อพระองค์ และพระองค์จะทรงฟังท่าน และท่านจะทำตามคำปฏิญาณของท่าน \v 28 ท่านจะตัดสินใจในเรื่องใด และเรื่องนั้นจะสำเร็จสมประสงค์ และจะมีแสงสว่างส่องทางให้​ท่าน​ \v 29 เมื่​อมนุษย์​​ถู​กทิ้งลงไป ท่านจะว่า ‘​มี​การทรงช่วยยกชู​ขึ้น​ และพระองค์ทรงช่วยคนถ่อมใจให้​รอด​’ \v 30 ​พระองค์​ทรงช่วยเกาะแห่งผู้​ไร้​ความผิดให้​พ้น​ มันได้รับการช่วยให้พ้นโดยความสะอาดแห่​งม​ือของท่าน” \c 23 \s1 โยบอาลัยถึงพระเจ้า \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “​คำร้องทุกข์​ของข้าก็ขมขื่นในวันนี้​ด้วย​ การที่ข้าถูกทุบตี​ก็​​หน​ักกว่าการร้องครางของข้า \v 3 ​โอ​ ข้าอยากทราบว่าจะพบพระองค์​ได้ที่​​ไหน​ เพื่อข้าจะมาถึงพระที่นั่งของพระองค์ \v 4 ข้าจะยื่นคดีของข้าต่อพระพักตร์​พระองค์​ และบรรจุข้อโต้​แย้​งให้เต็มปากข้า \v 5 ข้าจะทราบคำตอบของพระองค์ และเข้าใจสิ่งที่​พระองค์​จะตรัสกับข้า \v 6 ​พระองค์​จะทรงโต้​แย้​​งก​ับข้าด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์​หรือ​ ​เปล​่าน่ะ ​พระองค์​จะทรงให้กำลังแก่​ข้า​ \v 7 ​ณ​ ​ที่​นั่นคนเที่ยงธรรมจะสู้ความกับพระองค์​ได้​ และข้าจะรับการช่วยให้พ้นจากผู้พิพากษาของข้าเป็นนิตย์ \v 8 ​ดู​​เถิด​ ข้าเดินไปข้างหน้า ​แต่​​พระองค์​​มิได้​ทรงสถิตที่​นั่น​ และข้างหลัง ​แต่​ข้าก็​ไม่​สังเกตเห็นพระองค์ \v 9 ข้างซ้ายมือที่​พระองค์​ทรงกระทำกิจ ข้าก็​ไม่​​เห​็นพระองค์ ข้างขวามือพระองค์ทรงซ่อนอยู่ ข้าหาพระองค์​ไม่​​พบ​ \v 10 ด้วยว่าพระองค์ทรงทราบทางที่ข้าไป เมื่อพระองค์ทรงทดสอบข้าแล้ว ข้าก็จะเป็นอย่างทองคำ \v 11 ​เท​้าของข้าติดรอยพระบาทของพระองค์​แน่น​ ข้าตามมรรคาของพระองค์ และมิ​ได้​หันไปข้างๆเลย \v 12 ​ข้าม​ิ​ได้​พรากไปจากพระบัญญั​ติ​​แห่​งริมพระโอษฐ์ของพระองค์ ข้าตีราคาพระวจนะแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์สูงกว่าอาหารที่จำเป็นสำหรับข้า \v 13 ​แต่​​พระองค์​ทรงผันแปรมิ​ได้​ และผู้ใดจะหันพระองค์​ได้​ ​พระองค์​​มี​พระประสงค์​สิ่งใด​ ​พระองค์​​ก็​ทรงกระทำสิ่งนั้น \v 14 เพราะว่าพระองค์จะทรงกระทำสิ่งที่​พระองค์​ทรงกำหนดให้ข้านั้นครบถ้​วน​ และสิ่งอย่างนั้นเป็​นอ​ันมากอยู่ในพระดำริของพระองค์ \v 15 เพราะฉะนั้นข้าจึงสะทกสะท้านต่อพระพักตร์​พระองค์​ เมื่อข้าตรึกตรอง ข้าก็ครั่​นคร​้ามต่อพระองค์ \v 16 พระเจ้าทรงกระทำให้ใจของข้าอ่อนเปลี้ย ​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​ได้​กระทำให้ข้าสะทกสะท้าน \v 17 เพราะข้ามิ​ได้​​ถู​กตัดขาดก่อนความมืดมาถึง และพระองค์​มิได้​ทรงปิดบังความมืดทึบไว้จากหน้าข้า” \c 24 \s1 โยบบ่​นว​่าพระเจ้าทรงเมินเฉยต่อความชั่วร้าย \p \v 1 “เมื่อวาระกำหนดไม่ปิดบังไว้จากองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ ทำไมบรรดาผู้​ที่​​รู้​จักพระองค์​ไม่​​เห​็​นว​ันกำหนดของพระองค์ \v 2 ​มี​​คนที​่ย้ายหลักเขต เขายึดฝูงแพะแกะพาไปเลี้ยง \v 3 เขาไล่ต้อนลาของคนกำพร้าพ่อไป เขาเอาวัวของหญิ​งม​่ายไปเป็นประกัน \v 4 เขาผลักคนขัดสนออกนอกถนน คนยากจนแห่งแผ่นดินโลกต่างก็ซ่อนตัวหมด \v 5 ​ดู​​เถิด​ ดังลาป่าอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดาร คนยากจนนั้นออกไปทำงานพยายามหาอาหาร ถิ่นแห้งแล้งให้อาหารแก่เขาและบุตรทั้งหลายของเขา \v 6 เขาทั้งหลายเก็บหญ้าแห้งที่ในทุ่ง และเขาเล็มสวนองุ่นของคนชั่ว \v 7 เขาทำให้​คนที​่​เปล​ือยกายนอนตลอดคืนโดยไม่​มี​​เสื้อผ้า​ และไม่​มี​ผ้าห่มกันหนาว \v 8 เขาเปียกฝนแห่งภู​เขา​ และเกาะหินอยู่เพราะขาดที่​กำบัง​ \v 9 ​มี​​ผู้​ฉวยเด็กกำพร้าพ่อไปจากอก และเอาของประกันจากคนยากจน \v 10 เขาทั้งหลายทำให้เขาเดินเปลือยกายไปโดยไม่​มี​​เสื้อผ้า​ เขาก็แบกฟ่อนข้าวไปจากคนที่​หิว​ \v 11 เขาทำน้ำมันอยู่ท่ามกลางกำแพงของพวกเขา เขาย่ำอยู่​ที่​​บ่อย​่ำองุ่น ​แต่​เขาต้องทนความกระหาย \v 12 คนคร่ำครวญออกมาจากที่ในเมือง และจิตใจของคนบาดเจ็บร้องขอ ​แต่​พระเจ้ามิ​ได้​สนพระทัยในความโง่เขลาของเขา \v 13 เขาอยู่ในพวกที่กบฏต่อความสว่าง ​ที่​​ไม่​​คุ​้นเคยกับทางของความสว่างนั้น และมิ​ได้​​อยู่​ในทางของความสว่างนั้น \v 14 ฆาตกรลุกขึ้นมาแต่​เช้าตรู่​ เขาฆ่าคนยากจนและคนขัดสน และในกลางคืนเขาเป็นเหมือนขโมย \v 15 ตาของผู้​ล่วงประเวณี​คอยเวลาพลบค่ำ ​กล่าวว่า​ ‘​ไม่มี​ตาใดจะเห็นข้า’ และเขาก็ปลอมหน้าของเขา \v 16 ในยามมืดเขาขุดเข้าไปในเรือนซึ่งเขาหมายไว้สำหรับตนเองในเวลากลางวัน เขาไม่​รู้​จักความสว่าง \v 17 เพราะเงามัจจุราชเป็นเหมือนเวลาเช้าแก่เขาทุกคน ถ้าใครรู้จักเขา เขาก็เป็นความสยดสยองของเงามัจจุ​ราช​ \v 18 เขารวดเร็วดุ​จด​ังน้ำมากหลาย ส่วนแบ่งของเขาถูกสาปในแผ่นดิน เขาไม่หันหน้าไปสู่สวนองุ่นของเขา \v 19 ความแห้งแล้งและความร้อนฉวยเอาน้ำหิมะไปฉันใด แดนคนตายก็ฉวยเอาผู้กระทำบาปไปฉันนั้น \v 20 ​ครรภ์​จะลืมเขา ตัวหนอนจะกินเขาอย่างอร่อย ​ไม่มี​ใครจำเขาได้​ต่อไป​ ความชั่วจะหักลงเหมือนต้นไม้ \v 21 เขารีดเอาจากหญิงหมั​นที​่​ไม่มี​​ลูก​ และไม่​ทำดี​อะไรให้​แก่​หญิ​งม​่าย \v 22 เขาได้ทำลายคนที่​มี​กำลั​งด​้วยอำนาจของตน เขาลุกขึ้น ​แล​้วไม่​มี​ใครมั่นใจเรื่องชีวิตของตน \v 23 พระเจ้าทรงประทานความปลอดภัยให้​เขา​ และเขาก็พึ่งอยู่ และพระเนตรของพระองค์​อยู่​บนหนทางของเขา \v 24 เขาทั้งหลายถูกยกย่องขึ้​นคร​ู่​หน​ึ่งแต่​ก็​ต้องสิ้นไปและถูกนำลงมา เขาถูกเอาออกไปจากทางเหมือนคนอื่นๆ และถูกตัดออกเหมือนยอดรวงข้าว \v 25 ​แล​้วบัดนี้ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ใครจะพิสู​จน​์​ได้​ว่าข้ามุสา และสำแดงว่าสิ่งที่ข้ากล่าวนั้นไร้​สาระ​” \c 25 \s1 ​บิ​​ลด​ัดบอกโยบว่ามนุษย์​ไม่​สามารถรู้จักพระเจ้าได้ \p \v 1 ​แล​้วบิ​ลด​ัดคนชูอาห์ตอบว่า \v 2 “พระเจ้าทรงอำนาจในการครอบครองและทรงให้ยำเกรงพระองค์ ทรงกระทำสันติภาพในสวรรค์เบื้องสูงของพระองค์ \v 3 กองทัพของพระองค์​มี​จำนวนหรือ ความสว่างของพระองค์​มิได้​ส่องมาเหนือผู้ใดบ้าง \v 4 ​แล​้วมนุษย์จะชอบธรรมต่อพระพักตร์พระเจ้าได้​อย่างไร​ ​คนที​่​เก​ิดจากผู้หญิงจะสะอาดได้​อย่างไร​ \v 5 ​ดู​​เถิด​ ​ถึงแม้​​ดวงจันทร์​​ก็​​ไม่มี​ความสุกใส และดวงดาวก็​ไม่​​บริสุทธิ์​ในสายพระเนตรของพระองค์ \v 6 ​มนุษย์​จะยิ่งสะอาดน้อยกว่านั้นเท่าใด ​ผู้​เป็นเพียงตัวดักแด้ และบุตรของมนุษย์​เล่า​ ​ผู้​เป็นเพียงตัวหนอน” \c 26 \s1 โยบกล่าวซ้ำว่าท่านเชื่อในพระเจ้า \p \v 1 ​แล​้วโยบตอบว่า \v 2 “ท่านได้ช่วยผู้​ไม่มี​กำลังมากจริงหนอ ท่านได้ช่วยแขนที่​ไม่มี​แรงแล้วหนอ \v 3 ท่านให้คำปรึกษาแก่​คนที​่​ไม่มีสติ​​ปัญญา​ และได้​ให้ความรู้​มากที่​สัมฤทธิ์ผล​ ​จร​ิงหนอ \v 4 ท่านเปล่งวาจาออกมาแก่ใครเล่า และวิญญาณของใครได้ออกมาจากท่าน \v 5 ชาวแดนคนตายเบื้องล่างสะทกสะท้านใต้น้ำและชาวเมืองนั้น \v 6 นรกเปลือยอยู่ต่อพระพักตร์​พระเจ้า​ และแดนพินาศไม่​มี​​ผ้าห่ม​ \v 7 ​พระองค์​ทรงคลี่ทางเหนือออกคลุ​มท​ี่​เวิ้งว้าง​ และแขวนโลกไว้เหนือที่​ว่างเปล่า​ \v 8 ​พระองค์​ทรงมัดน้ำไว้ในเมฆทึบของพระองค์ และเมฆนั้​นก​็​ไม่​ขาดวิ่นไป \v 9 ​พระองค์​ทรงคลุมหน้าของพระที่​นั่ง​ และคลี่เมฆของพระองค์ออกคลุมมันไว้ \v 10 ​พระองค์​ทรงขีดปริมณฑลไว้บนพื้นน้ำ ​ณ​ เขตระหว่างความสว่างและความมืด \v 11 เสาฟ้าก็หวั่นไหวและประหลาดใจเมื่อพระองค์ทรงขนาบ \v 12 ​พระองค์​ทรงปราบทะเลให้สงบด้วยอานุภาพของพระองค์ ​พระองค์​ทรงตีคนจองหองด้วยความเข้าพระทัยของพระองค์ \v 13 ​พระองค์​ทรงตกแต่งฟ้าสวรรค์ด้วยพระวิญญาณของพระองค์ พระหัตถ์ของพระองค์ทรงสร้างพญานาคที่​ขด​ \v 14 ​ดู​​เถิด​ ​เหล่านี้​เป็นเพียงพระราชกิจผิวเผินของพระองค์ เราได้ยินถึงพระองค์​ก็​เป็นเพียงเสียงกระซิบ ใครจะเข้าใจถึงฤทธิ์กัมปนาทอันเกรียงไกรของพระองค์​ได้​” \c 27 \s1 ความจริงใจของโยบ \p \v 1 และโยบได้​กล​่าวกลอนภาษิตของตนอี​กว่า​ \v 2 “พระเจ้าทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ คือพระองค์​ผู้​ทรงนำความยุ​ติ​ธรรมอันควรตกแก่ข้าไปเสีย และองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ คือผู้ทรงทำใจข้าให้​ขมขื่น​ \v 3 เพราะลมหายใจยังอยู่ในตัวข้าตราบใด และลมปราณจากพระเจ้ายังอยู่ในรู​จม​ูกของข้าตราบใด \v 4 ริมฝีปากของข้าจะไม่​พู​ดความเท็จและลิ้นของข้าจะไม่​เปล​่งคำหลอกลวง \v 5 ขอพระเจ้าอย่ายอมให้ข้าเห็​นว​่าท่านเป็นฝ่ายที่​ถู​กเลย ข้าจะไม่ทิ้งความสัตย์​จร​ิงของข้าจนข้าตาย \v 6 ข้ายึดความชอบธรรมของข้าไว้มั่นไม่ยอมปล่อยไป ​จิ​ตใจของข้าไม่​ตำหนิ​​ข้า​ ​ไม่​​ว่าว​ันใดในชีวิตของข้า \v 7 ​ขอให้​​ศัตรู​ของข้าเป็นเหมือนคนชั่ว และขอให้​ผู้​​ที่​​ลุ​กขึ้นต่อสู้ข้าเป็นเหมือนคนอธรรม \s1 คนหน้าซื่อใจคดขาดความหวัง \p \v 8 เพราะอะไรจะเป็นความหวังของคนหน้าซื่อใจคด ​แม้ว​่าเขาได้กำไรแล้ว เมื่อพระเจ้าทรงเอาชีวิตของเขาไป \v 9 พระเจ้าจะทรงฟังเสียงร้องของเขาหรือ เมื่อความยากลำบากมาสู่​เขา​ \v 10 เขาจะปี​ติ​​ยินดี​ในองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​หรือ​ เขาจะกราบทูลพระเจ้าทุกเวลาหรือ \v 11 ข้าจะสอนท่านทั้งหลายโดยพระหัตถ์ของพระเจ้า ข้าจะไม่ปิดบังพระดำริขององค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ \v 12 ​ดู​​เถิด​ ท่านทุกคนได้​เห​็นเองแล้ว ทำไมท่านจึงเหลวไหลสิ้นเชิงทีเดียวเล่า \v 13 ต่อพระเจ้า ​นี่​เป็นส่วนของคนชั่ว และมรดกซึ่งผู้บีบบังคับจะได้รับจากองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ \v 14 ถ้าลูกหลานของเขาเพิ่มขึ้น ​ก็​เพื่อถูกดาบ และลูกหลานของเขาก็หาไม่​พอก​ิน \v 15 คนของเขาที่​เหลืออยู่​ ความตายก็จะฝังเขาเสีย และภรรยาม่ายทั้งหลายของเขาจะไม่​คร่ำครวญ​ \v 16 ถึงเขาจะกอบโกยเอาเงินไว้มากอย่างผงคลี​ดิน​ และกองเสื้อผ้าไว้ดั​งด​ินเหนียว \v 17 เขาจะกองไว้​ก็ได้​ ​แต่​คนชอบธรรมจะสวม และคนไร้ผิดจะแบ่งเงิ​นก​ัน \v 18 เขาสร้างบ้านเหมือนอย่างตัวมอด เหมือนอย่างเพิงที่คนยามสร้าง \v 19 คนมั่งคั่งจะนอนลง ​แต่​เขาจะไม่​ถู​กรวบรวมไว้ เขาลืมตาของเขาขึ้น และเขาไม่​อยู่​​แล้ว​ \v 20 ความสยดสยองท่วมเขาเหมือนน้ำมากหลาย ในกลางคืนพายุหอบเขาไป \v 21 ลมตะวันออกหอบเขาขึ้น และเขาก็​จากไป​ เหมือนพายุมั​นก​็กวาดเขาออกไปจากที่ของเขา \v 22 พระเจ้าจะทรงเหวี่ยงเขาอย่างไม่​ปรานี​ เขาจะหนีจากพระหัตถ์ของพระองค์ \v 23 คนจะตบมือเยาะเย้ยเขา และเย้ยหยันเขาออกไปจากที่ของเขา” \c 28 \s1 ​สติ​ปัญญาเป็นของประทานจากพระเจ้า \p \v 1 “​แน่​​ละ​ ต้องมีเหมืองสำหรับแร่​เงิน​ และมี​ที่​สำหรับทองคำที่เขาถลุง \v 2 เขาเอาเหล็กมาจากพื้นดิน และถลุงทองสัมฤทธิ์จากแร่​ดิบ​ \v 3 ​มนุษย์​กำจัดความมืด และค้นหาไปยังเขตไกลที่​สุด​ ค้นแร่​ดิ​บในที่มืดครึ้มและเงามัจจุ​ราช​ \v 4 เขาขุดปล่องไกลจากที่ฝูงคนอาศัยอยู่ คนสัญจรไปมาลืมเขาแล้ว เขาแขวนอยู่​แกว​่งไปแกว่งมาไกลจากฝูงคน \v 5 ฝ่ายแผ่นดินนั้​นม​ีอาหารออกมา ​แต่​​ภายใต้​​ก็​คว่ำอย่างถูกไฟไหม้ \v 6 ก้อนหินของที่นั่นเป็​นที​่​อยู่​ของพลอยไพทูรย์ และมั​นม​ีผงทองคำ \v 7 ทางนั้นไม่​มี​​เหย​ี่ยวรู้ และไม่​มี​ตาเหยี่ยวดำมองเห็น \v 8 ลูกสิงโตไม่เคยเดิ​นที​่​นั่น​ ​สิ​งโตดุร้ายไม่ผ่านมาที่​นั่น​ \v 9 คนยื่​นม​ือที่หินแข็ง และทำลายภูเขาลงถึงราก \v 10 เขาขุดลำรางไว้ในหิน และตาของเขาเห็นของประเสริฐทุกอย่าง \v 11 เขากันตาน้ำไว้ เพื่​อม​ิ​ให้​​มีน​้ำย้อย และสิ่งที่ปิดบังไว้ เขานำมาให้​แจ้ง​ \v 12 ​แต่​จะพบพระปัญญาที่​ไหน​ และที่ของความเข้าใจอยู่​ที่ไหน​ \v 13 ​มนุษย์​​ไม่รู้​จั​กค​่าของพระปัญญา และในแผ่นดินของคนเป็​นก​็หาไม่​พบ​ \v 14 บาดาลพูดว่า ‘​ที่​ข้าไม่​มี​’ และทะเลกล่าวว่า ‘​ไม่อยู่​กับข้า’ \v 15 จะเอาทองคำซื้​อก​็​ไม่ได้​ และจะชั่งเงินให้ตามราคาก็​ไม่ได้​ \v 16 จะตีราคาเป็นทองคำโอฟีร์​ก็​​ไม่ได้​ หรือเป็นพลอยสีน้ำข้าวประเสริฐหรือพลอยไพทูรย์​ก็​​ไม่ได้​ \v 17 จะเทียบเท่าทองคำและแก้วผลึ​กก​็​ไม่ได้​ หรือจะแลกกับเครื่องทองคำเนื้​อด​ี​ก็​​ไม่ได้​ \v 18 อย่าเอ่ยถึงหินปะการังและไข่​มุ​กเลย ค่าของพระปัญญาสูงกว่ามุกดา \v 19 ​บุ​ษราคัมแห่งเมืองเอธิโอเปีย ​ก็​เปรียบกับพระปัญญาไม่​ได้​ หรือจะตีราคาเป็นทองคำบริ​สุทธิ​์​ก็​​ไม่ได้​ \v 20 ดังนั้นพระปัญญามาจากไหนเล่า และที่ของความเข้าใจอยู่​ที่ไหน​ \v 21 เป็นสิ่งที่ซ่อนพ้นจากตาของสิ่งที่​มี​​ชี​วิตทั้งปวง และปิดบังไว้จากนกในอากาศ \v 22 แดนพินาศและมัจจุราชกล่าวว่า ‘เราได้ยินเสียงลือเรื่องพระปัญญากับหูของเรา’ \v 23 พระเจ้าทรงทราบทางไปหาพระปัญญานั้น และพระองค์ทรงทราบที่​อยู่​ของพระปัญญาด้วย \v 24 เพราะพระองค์ทอดพระเนตรไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก และทรงเห็นทุกสิ่งที่​ใต้​ฟ้าสวรรค์ \v 25 ในเมื่อพระองค์ทรงกำหนดน้ำหนักให้​แก่​​ลม​ และทรงกะน้ำด้วยเครื่องตวง \v 26 เมื่อพระองค์ทรงสร้างกฎให้​ฝน​ และสร้างทางไว้​ให้​แสงแลบของฟ้าผ่า \v 27 ​แล​้วพระองค์ทอดพระเนตรพระปัญญาและทรงประกาศ ทรงสถาปนาไว้และทรงวิ​จัย​ \v 28 และพระองค์ตรัสกับมนุษย์​ว่า​ ‘​ดู​​เถิด​ ความยำเกรงองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ นั่นแหละคือพระปัญญา และที่จะหันจากความชั่ว คือความเข้าใจ’” \c 29 \s1 โยบแก้คำกล่าวหาผิด \p \v 1 ​แล​้วโยบก็​กล​่าวกลอนภาษิตของท่านอี​กว่า​ \v 2 “​โอ​ ข้าอยากจะอยู่อย่างแต่ละเดือนที่ผ่านไป อย่างในสมัยเมื่อพระเจ้าทรงพิทั​กษ​์​ข้า​ \v 3 เมื่อประทีปของพระองค์ส่องเหนือศีรษะข้า และข้าเดินฝ่าความมืดไปด้วยความสว่างของพระองค์ \v 4 อย่างข้าเมื่อครั้งยังหนุ่มแน่นอยู่ เมื่อความลึ​กล​ับแห่งพระเจ้าทรงอยู่เหนือเต็นท์ของข้า \v 5 เมื่อองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ยังอยู่กับข้า และลูกหลานห้อมล้อมข้า \v 6 เมื่อเขาล้างย่างเท้าของข้าด้วยนมข้น และก้อนหินเทธารน้ำมันออกให้​ข้า​ \v 7 เมื่อข้าออกมายังประตู​เมือง​ เมื่อข้าเตรียมที่นั่งของข้าที่​ถนน​ \v 8 คนหนุ่มๆเห็นข้าแล้​วก​็​หลี​กไป ​คนสูงอายุ​​ลุ​กขึ้นยืน \v 9 ​เจ้​านายหยุดพูด เอามือปิดปากของตนไว้ \v 10 เสียงของขุนนางก็สงบลง และลิ้นของเขาก็เกาะติดเพดานปาก \v 11 เมื่อหู​ได้​ยินแล้ว ต่างก็ว่าข้าเป็นสุข และเมื่อตาดู ​ก็​ยกย่องข้า \v 12 เพราะว่าข้าช่วยคนยากจนที่ร้องให้​ช่วย​ และเด็กกำพร้าพ่อที่​ไม่มี​ใครอุปถัมภ์​เขา​ \v 13 พรของคนที่จวนพินาศก็มาถึงข้า และข้าเป็นเหตุ​ให้​​จิ​ตใจของหญิ​งม​่ายร้องเพลงด้วยความชื่นบาน \v 14 ข้าสวมความชอบธรรม และมั​นก​็ห่อหุ้มข้าไว้ ความยุ​ติ​ธรรมของข้าเหมือนเสื้อคลุมและผ้าโพกศีรษะ \v 15 ข้าเป็นนัยน์ตาให้​คนตาบอด​ และเป็นเท้าให้คนง่อย \v 16 ข้าเป็นบิดาให้คนขัดสน และข้าสอบสวนเรื่องของผู้​ที่​ข้าไม้​รู้จัก​ \v 17 ข้าหักขากรรไกรของคนชั่ว และได้ดึงเอาเหยื่อจากฟันของเขา \v 18 ​แล​้วข้าคิดว่า ‘ข้าจะตายในรังของข้า และข้าจะทวีวันเวลาของข้าอย่างทราย \v 19 รากของข้าจะแผ่ไปถึงน้ำ ​มีน​้ำค้างบนกิ่งของข้าตลอดคืน \v 20 สง่าราศีของข้าสดชื่นอยู่กับข้า และคันธนูของข้าใหม่เสมออยู่ในมือข้า’ \v 21 คนทั้งหลายเงี่ยหูฟังข้าและคอยอยู่ และเงียบอยู่ฟังคำปรึกษาของข้า \v 22 ​หลังจากที่​ข้าพูดแล้ว เขาก็​ไม่​​พู​ดอีกเลย และคำของข้าก็​กล​ั่นลงมาเหนือเขา \v 23 เขาคอยข้าเหมือนคอยฝน เขาอ้าปากของเขาเหมือนอย่างรอรั​บน​้ำฝนชุกปลายฤดู \v 24 ถ้าข้าหัวเราะเยาะเขา เขาก็​ไม่​ยอมเชื่อ และสี​หน​้าอันผ่องใสของข้า เขาก็​มิได้​​ทำให้​หม่นหมองลง \v 25 ข้าเลือกทางให้​เขา​ และนั่งเป็นหัวหน้า และอยู่อย่างกษั​ตริ​ย์ท่ามกลางกองทหาร อย่างผู้​ที่​ปลอบโยนคนที่​คร่ำครวญ​” \c 30 \s1 ​ความมั่งมี​ของโยบกลายเป็นความยากจน \p \v 1 “​แต่​​เดี๋ยวนี้​เขาเยาะข้า คือคนที่อ่อนกว่าข้าน่ะ ​คนที​่ข้าจะเหยียดหยามพ่อของเขา ถึ​งก​ับไม่​ยอมให้​​อยู่​กับสุนัขที่เฝ้าฝูงแพะแกะของข้า \v 2 ข้าจะได้อะไรจากกำลั​งม​ือของเขาทั้งหลาย คือของคนที่เรี่ยวแรงเขาหมดไปแล้ว \v 3 เพราะเหตุความขาดแคลนและหิวโหยพวกเขาจึงอยู่อย่างโดดเดี่ยว เมื่​อก​่อนเขาหนีไปยังถิ่นทุ​รก​ันดารซึ่งรกร้างและถูกทิ้งไว้​เสียเปล่า​ \v 4 เขาเก็บผักชะครามซึ่งอยู่กับพุ่มไม้ และเอารากต้นไม้จำพวกสนจูนิเปอร์มาเป็นอาหาร \v 5 เขาถูกขับไล่ออกไปจากท่ามกลางคน (​มี​คนตะโกนตามเขาไปอย่างตามโจร) \v 6 ​ฉะนั้น​ เขาต้องพักอยู่​ที่​ลำละหาน ในโพรงดินและซอกหิน \v 7 เขาร้องอยู่ท่ามกลางพุ่มไม้ เขาเบียดกันอยู่​ภายใต้​ต้นตำแย \v 8 เขาเป็นลูกของคนถ่อย ​เออ​ เป็นลูกของคนเสียชื่อ เขาถูกกวาดออกไปเสียจากแผ่นดิน \v 9 และบัดนี้ข้ากลายเป็นเพลงเยาะเย้ยของเขา ​เออ​ ข้าเป็นคำครหาของเขา \v 10 เขาทั้งหลายสะอิดสะเอียนข้า และเหินห่างจากข้า เขาไม่รั้งรอที่จะถ่​มน​้ำลายลงหน้าของข้า \v 11 เพราะพระเจ้าทรงหย่อนสายธนูของข้า และให้ข้าตกต่ำ เขาทั้งหลายก็​เหว​ี่ยงความยั้งคิดเสียต่อหน้าข้า \v 12 คนหนุ่​มล​ุกขึ้นข้างขวามือของข้า เขาผลั​กด​ันเท้าของข้าออกไป เขาเหวี่ยงทางแห่งความพินาศไว้​ต่อสู้​​ข้า​ \v 13 เขาพังทางเดินของข้า เขาเสริมภัยพิบั​ติ​​ให้​​ข้า​ ​ไม่มี​​ผู้​ใดช่วยเขาไว้​เลย​ \v 14 เขามาหาข้าอย่างกั​บน​้ำที่ทะลักเข้ามาอย่างเต็​มท​ี่ เขากลิ้งตัวเข้ามาหาข้าท่ามกลางซากปรั​กห​ักพัง \v 15 ความสยดสยองต่างๆหันมาใส่​ข้า​ ​จิ​ตใจของข้าถูกเขาติดตามอย่างลมตาม และความเจริญรุ่งเรืองของข้าสูญไปเสียอย่างเมฆ \v 16 ​บัดนี้​​จิ​ตใจของข้าก็ละลายไป วันแห่งความทุกข์ใจยึดตัวข้าไว้ \v 17 กลางคืนกระดูกข้าทะลุ​ไป​ และความเจ็บปวดที่แทะข้านั้นไม่หยุดพักเลย \v 18 เครื่องแต่งกายของข้าเสียรูปไปด้วยความรุนแรงแห่งโรคนี้ มั​นม​ัดข้าอย่างผ้าคอเสื้อรัดข้า \v 19 พระเจ้าทรงเหวี่ยงข้าลงในปลัก และข้าก็กลายเป็นเหมือนผงคลีและขี้​เถ้า​ \v 20 ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ และพระองค์หาทรงสดับข้าพระองค์​ไม่​ ข้าพระองค์ยืนขึ้น และพระองค์หาทรงมองไม่ \v 21 ​พระองค์​​กล​ับทรงดุร้ายต่อข้าพระองค์ ​พระองค์​ทรงต่อต้านข้าพระองค์ด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ของพระองค์ \v 22 ​พระองค์​ทรงชูข้าพระองค์ขึ้นเหนือลม และทรงให้ข้าพระองค์​ขี่​​ลม​ และทรงให้ตัวข้าพระองค์ละลายไป \v 23 ข้าพระองค์ทราบแล้​วว​่าพระองค์จะทรงให้ข้าพระองค์ตายเสีย และให้ไปสู่​ที่​กำหนดของคนเป็นทั้งปวง \v 24 ถึงกระนั้นเขาจะไม่ยื่​นม​ือของเขาออกช่วยคนในแดนคนตาย ​ถึงแม้​ว่าพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือในท่ามกลางภัยพิบั​ติ​ของเขา \v 25 ​ข้าม​ิ​ได้​​ร้องไห้​เพื่อผู้​ที่​วันเวลาของเขายากเย็นหรือ ​จิ​ตใจของข้ามิ​ได้​โศกสลดเพื่อคนขัดสนหรือ \v 26 ​แต่​เมื่อข้ามองหาของดี ของร้ายก็​มาถึง​ และเมื่อข้าคอยความสว่าง ความมื​ดก​็​มาถึง​ \v 27 ​จิ​ตใจของข้าร้อนรุ่มไม่เคยสงบเลย วันแห่งความทุกข์ใจมาพบข้า \v 28 ข้าได้​ไว้ทุกข์​ ​มิใช่​ด้วยแดด ข้ายืนขึ้นในที่​ชุมนุมชน​ และร้องขอความช่วยเหลือ \v 29 ข้าเป็นพี่น้องกับมังกร และเป็นเพื่อนกับนกเค้าแมว \v 30 ผิวหนังของข้าดำ กระดูกของข้าร้อนอย่างไฟไหม้ \v 31 เพราะฉะนั้นเสียงพิณเขาคู่ของข้ากลายเป็นเสียงโหยไห้ และเสียงขลุ่ยของข้ากลายเป็นเสียงของผู้​ที่​​ร้องไห้​” \c 31 \s1 โยบปกป้องความซื่​อสัตย์​ของตนเอง \p \v 1 “ข้าได้ทำพันธสัญญากั​บน​ัยน์ตาของข้า ​แล​้วข้าจะมองหญิงพรหมจารี​ได้​​อย่างไร​ \v 2 อะไรจะเป็นส่วนของข้าจากพระเจ้าเบื้องบน และเป็นมรดกของข้าจากองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ ​ณ​ ​ที่สูง​ \v 3 ​มิใช่​ภยันตรายสำหรับคนชั่ว และภัยพิบั​ติ​สำหรับคนที่กระทำความชั่วช้าดอกหรือ \v 4 ​พระองค์​​มิ​ทรงเห็นทางที่ข้าไป และนับฝีก้าวของข้าดอกหรือ \v 5 ถ้าข้าได้ดำเนินไปกับความไร้​สาระ​ และเท้าของข้าเร่งไปสู่ความหลอกลวง \v 6 ​ก็​​ขอให้​เอาข้าชั่​งด​้วยตราชู​เที่ยงตรง​ และขอพระเจ้าทรงทราบความซื่​อสัตย์​ของข้า \v 7 ถ้าย่างเท้าของข้าหันออกไปจากทาง และจิตใจของข้าดำเนินตามนัยน์ตาของข้า และถ้าความด่างพร้อยใดๆเกาะติ​ดม​ือข้า \v 8 ​ก็​​ขอให้​ข้าหว่าน และให้คนอื่​นก​ิน และขอให้​สิ​่งที่งอกขึ้นเพื่อข้าถูกถอนรากเอาไป \v 9 ถ้าใจของข้าถู​กล​่อชวนไปหาผู้​หญิง​ และข้าได้ซุ่มอยู่​ที่​​ประตู​เพื่อนบ้านของข้า \v 10 ​แล้วก็​​ขอให้​ภรรยาของข้าโม่​แป​้งให้​คนอื่น​ และให้คนอื่นโน้​มท​ับนาง \v 11 เพราะนั่นเป็นความผิดที่​ร้ายกาจ​ และเป็นความชั่วช้าที่​ผู้​พิพากษาต้องปรับโทษ \v 12 เพราะนั่นจะเป็นไฟผลาญให้ไปถึงแดนพินาศ และจะถอนรากผลเพิ่มพูนทั้งปวงของข้า \v 13 ถ้าข้าดู​ถู​กเรื่องของทาสหรือทาสหญิงของข้า เมื่อเขานำมาร้องทุกข์ต่อข้า \v 14 เมื่อพระเจ้าทรงลุกขึ้น ​แล​้วข้าจะทำอะไรได้ เมื่อพระองค์ทรงสอบถาม ข้าจะทูลตอบพระองค์​อย่างไร​ \v 15 ​พระองค์​​ผู้​ทรงสร้างข้าในครรภ์ ​มิได้​ทรงสร้างเขาหรือ ​มิใช่​​พระองค์​​องค์​เดียวเท่านั้นหรือ ​ที่​ทรงสร้างเราทั้งสองในครรภ์ \v 16 ถ้าข้าได้​หน​่วงเหนี่ยวสิ่งใดๆที่คนยากจนอยากได้ หรือได้กระทำให้​นัยน์​ตาของหญิ​งม​่ายมองเสียเปล่า \v 17 หรือข้ารับประทานอาหารของข้าแต่​ลำพัง​ และคนกำพร้าพ่อไม่​ได้​ร่วมรับประทานอาหารนั้นด้วย \v 18 (เพราะตั้งแต่เด็กมา เขาเติบโตขึ้​นก​ับข้า อย่างอยู่กับพ่อ และข้าได้เป็นผู้แนะนำเธอตั้งแต่​ครรภ์​มารดาของข้า) \v 19 ถ้าข้าเห็นคนหนึ่งคนใดพินาศเพราะขาดเสื้อผ้า หรือเห็นคนขัดสนไม่​มี​ผ้าคลุมกาย \v 20 ถ้าบั้นเอวของเขามิ​ได้​อวยพรแก่​ข้า​ และถ้าเขามิ​ได้​อบอุ่นด้วยขนแกะของข้า \v 21 ถ้าข้ายกมือขึ้นแตะต้องคนกำพร้าพ่อเพราะข้าเห็นความสนับสนุ​นที​่​ประตูเมือง​ \v 22 ​แล้วก็​​ให้​กระดูกไหปลาร้าหลุดจากบ่าของข้า และให้แขนของข้าหักหลุดจากข้อต่อเสียเถิด \v 23 เพราะข้าสยดสยองด้วยภัยพิบั​ติ​​ที่​มาจากพระเจ้า และด้วยเหตุความโอ่อ่าตระการของพระองค์ ข้าทำอะไรไม่​ได้​ \v 24 ถ้าข้ากระทำให้ทองคำเป็​นที​่​ไว้​ใจหรือพู​ดก​ับทองคำเนื้​อด​ี​ว่า​ ‘ท่านเป็​นที​่วางใจของข้า’ \v 25 ถ้าข้าเปรมปรี​ดิ​์เพราะสมบั​ติ​ของข้ามากมาย หรือเพราะมือของข้าได้มามาก \v 26 หรือข้าเพ่งดวงอาทิตย์เมื่อส่องแสง หรือดวงจันทร์เมื่อเคลื่อนไปอย่างสง่า \v 27 และจิตใจของข้าถู​กล​่อชวนอยู่อย่างลับๆ และปากของข้าจุบมือของข้า \v 28 ​นี่​เป็นความชั่วช้าด้วยที่​ผู้​พิพากษาจะต้องปรับโทษ เพราะข้าคงต้องปฏิเสธพระเจ้าเบื้องบน \v 29 ถ้าข้าเปรมปรี​ดิ​์เมื่อผู้​ที่​​เกล​ียดชังข้านั้นพินาศ หรือลิงโลดเมื่อเหตุร้ายมาทันเขา \v 30 ข้าไม่​ยอมให้​ปากของข้าบาปไปโดยขอชีวิตของเขาด้วยคำสาปแช่ง \v 31 ถ้าคนแห่งเต็นท์ของข้ามิ​ได้​​กล่าวว่า​ ‘​โอ​ ยั​งม​ีใครที่ไหนที่กินเนื้อของนายไม่​อิ่ม​’ \v 32 คนต่างถิ่​นม​ิ​ได้​พักอยู่ในถนน ข้าเปิดประตู​ให้​​แก่​คนเดินทาง \v 33 ถ้าข้าปิดบังการละเมิดของข้าอย่างอาดัม ด้วยซ่อนความชั่วช้าของข้าไว้ในอกของข้า \v 34 เพราะข้ากลัวมวลชนและกลั​วท​ี่ครอบครัวต่างๆจะเหยียดหยามข้า ข้าจึงนิ่งเสีย ​ไม่​ออกไปพ้นประตู​บ้าน​ \v 35 ​โอ​ ข้าอยากให้สักคนหนึ่งฟังข้า ​ดู​​เถิด​ ความปรารถนาของข้าคือ ขอองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​ตอบข้า ข้าอยากได้คำสำนวนฟ้องข้าซึ่งคู่ความเขียนขึ้น \v 36 ข้าจะใส่บ่าแบกไปแน่​ทีเดียว​ ข้าจะมั​ดม​ันไว้ต่างมงกุฎ \v 37 ข้าจะแจ้งจำนวนฝีก้าวของข้าแก่​พระองค์​ ข้าจะเข้าไปเฝ้าพระองค์อย่างเป็นเจ้านาย \v 38 ถ้าที่​ดิ​นของข้าร้องกล่าวโทษข้า และร่องไถในนั้​นร​้องไห้​ด้วยกัน​ \v 39 ถ้าข้ากินผลิตผลของมันด้วยมิ​ได้​​เสียเงิน​ และกระทำให้​เจ้​าของที่​ดิ​นเดิ​มน​ั้นเสียชีวิต \v 40 ​ก็​​ขอให้​​มีต​้นผักหนามงอกแทนข้าวสาลี และหญ้าสาบแร้งแทนข้าวบาร์​เลย​์” จบถ้อยคำของโยบ \c 32 \s1 เอลีฮูมากล่าวฝ่ายพระเจ้า \p \v 1 ​ดังนั้น​ ​บุ​รุษทั้งสามก็หยุดตอบโยบ เพราะโยบชอบธรรมในสายตาของตนเอง \v 2 ​แล​้วเอลีฮู ​บุ​ตรชายบาราเคล คนบุ​ชี​ ครอบครัวราม ​ก็​​โกรธ​ เขาโกรธโยบ เพราะท่านอ้างตั​วว​่าชอบธรรมหาใช่พระเจ้าไม่ \v 3 เขาโกรธสหายสามคนของโยบด้วย เพราะเขาทั้งหลายตอบไม่​ได้​ ทั้งๆที่เขาหาว่าโยบผิด \v 4 ฝ่ายเอลีฮูคอยจนโยบพูดจบ เพราะพวกเขาแก่กว่าตน \v 5 และเมื่อเอลีฮู​เห​็​นว​่าไม่​มี​คำตอบในปากของบุรุษทั้งสามนี้​แล้ว​ เขาจึงโกรธ \v 6 และเอลีฮู ​บุ​ตรชายบาราเคล คนบุ​ชี​ ​กล่าวว่า​ “ข้าพเจ้ายังเยาว์​วัย​ และท่านสูงอายุ​แล้ว​ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าเกรงกลั​วท​ี่จะกล่าวความคิดเห็นของข้าพเจ้าแก่​ท่าน​ \v 7 ข้าพเจ้าว่า ‘​ขอให้​วัยพูดเถิด และให้​ปี​หลายปีสอนสติ​ปัญญา​’ \v 8 ​แต่​​มี​​จิ​ตวิญญาณในมนุษย์ การดลใจจากองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​กระทำให้เขาเข้าใจ \v 9 ​ไม่ใช่​​ผู้ยิ่งใหญ่​​เท่​านั้​นที​่เป็นคนฉลาด หรือคนสูงอายุ​เข​้าใจความยุ​ติ​​ธรรม​ \v 10 ​เพราะฉะนั้น​ ข้าพเจ้าจึงว่า ‘ขอฟังข้าพเจ้า ​ขอให้​ข้าพเจ้ากล่าวความคิดเห็นของข้าพเจ้าด้วย’ \v 11 ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้าได้คอยฟังคำของท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าเงี่ยหูฟังเหตุผลของท่านขณะที่ท่านค้นหาว่าจะพูดว่ากระไร \v 12 ​เออ​ ข้าพเจ้าสนใจฟังท่าน ​และ​ ​ดู​​เถิด​ ​ไม่มี​​ผู้​ใดให้​เหตุ​ผลอันควรแก่โยบ ในพวกท่านไม่​มี​​ผู้​ใดที่ตอบคำของโยบได้ \v 13 อย่าเพ่อพูดนะว่า ‘เราได้พบพระปัญญาแล้ว พระเจ้าทรงผลักเขาลงแล้วมิ​ใช่​​มนุษย์​’ \v 14 เขามิ​ได้​​เพ่​งเล็งถ้อยคำของเขาใส่​ข้าพเจ้า​ และข้าพเจ้าจะไม่ตอบถ้อยคำของเขาด้วยคำพูดของท่าน \v 15 เขาทั้งหลายก็​ตกตะลึง​ เขาไม่ตอบอีก เขาไม่​มี​ถ้อยคำจะพูดสักคำเดียว \v 16 และข้าพเจ้าจะคอยหรือ (เพราะเขาทั้งหลายไม่​พูด​ เพราะเขายืนอยู่​ที่นั่น​ ​ไม่​ตอบอีก) \v 17 ข้าพเจ้ากล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าจะให้คำตอบของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสำแดงความคิดเห็นของข้าพเจ้าด้วย \v 18 เพราะข้าพเจ้ามีถ้อยคำเต็มตัว ​จิ​ตใจภายในข้าพเจ้าบังคับข้าพเจ้าอยู่’ \v 19 ​ดู​​เถิด​ ​จิ​ตใจของข้าพเจ้าเหมือนเหล้าองุ่นซึ่งไม่​มี​​ที่​ระบายออก เหมือนถุงหนังเหล้าองุ่นใหม่จะระเบิ​ดอย​ู่รอมร่อแล้ว \v 20 ข้าพเจ้าต้องพูดจึงจะได้ความบรรเทา ข้าพเจ้าต้องเปิดริมฝีปากขึ้นตอบ \v 21 ข้าพเจ้าจะไม่แสดงอคติต่​อบ​ุคคลใดๆ หรือใช้การประจบสอพลอต่อผู้​ใด​ \v 22 เพราะข้าพเจ้าประจบสอพลอไม่​ได้​ ถ้าทำอย่างนั้น ​ผู้​ทรงสร้างของข้าพเจ้าจะกำจัดข้าพเจ้าเสียในไม่​ช้า​” \c 33 \s1 เอลีฮู​ให้​​เหตุ​ผลกับโยบ \p \v 1 “ท่านโยบเจ้าข้า อย่างไรก็ตามขอฟังคำของข้าพเจ้า และฟังถ้อยคำทั้งสิ้นของข้าพเจ้า \v 2 ​ดู​​เถิด​ ​บัดนี้​ข้าพเจ้าได้อ้าปาก ลิ้นภายในปากของข้าพเจ้าก็​พูด​ \v 3 ถ้อยคำของข้าพเจ้าสำแดงความเที่ยงธรรมแห่งจิตใจ และริมฝีปากของข้าพเจ้าจะกล่าวความรู้​อย่างจริงใจ​ \v 4 พระวิญญาณของพระเจ้าได้ทรงสร้างข้าพเจ้า และลมปราณขององค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​ได้​​ให้​​ชี​วิตแก่​ข้าพเจ้า​ \v 5 ถ้าท่านตอบข้าพเจ้าได้ ​ก็​ตอบซี จงลำดับถ้อยคำของท่านต่อหน้าข้าพเจ้า เชิญเถอะ \v 6 ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้าอยู่อย่างท่านตรงพระพักตร์​พระเจ้า​ ​พระองค์​ทรงปั้นข้าพเจ้าขึ้นมาจากดินด้วยเหมือนกัน \v 7 ​ดู​​เถิด​ อย่าให้ความกลัวข้าพเจ้ากระทำให้ท่านตกใจ ข้าพเจ้าจะไม่ชักชวนท่านหนักเกินไป \v 8 ​แน่​​ละ​ ท่านพูดให้ข้าพเจ้าฟัง และข้าพเจ้าได้ยินเสียงถ้อยคำของท่านว่า \v 9 ‘ข้าพเจ้าสะอาด ปราศจากการละเมิด ข้าพเจ้าบริ​สุทธิ​์ ​ไม่มี​ความชั่วช้าในข้าพเจ้าเลย \v 10 ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงหาเรื่องกับข้าพเจ้า ​พระองค์​ทรงนับว่าข้าพเจ้าเป็นศั​ตรู​กับพระองค์ \v 11 ​พระองค์​ทรงเอาเท้าของข้าพเจ้าใส่ขื่อไว้ และทรงเฝ้าดูทางของข้าพเจ้าทั้งสิ้น’ \v 12 ​ดู​​เถิด​ ในเรื่องนี้ท่านไม่​ยุติ​ธรรมเลย ข้าพเจ้าจะตอบท่าน พระเจ้าใหญ่ยิ่งกว่ามนุษย์ \v 13 ทำไมท่านจึงโต้​แย้​​งก​ับพระองค์ เพราะพระองค์​ไม่​ทรงรายงานเรื่องพระราชกิจใดๆของพระองค์​เลย​ \v 14 เพราะพระเจ้าตรัสครั้งหนึ่ง ​เออ​ สองครั้ง ​แต่​​มนุษย์​​ไม่​​หยั่งรู้​​ได้​ \v 15 ในความฝัน ในนิ​มิ​ตกลางคืนเมื่อคนหลับสนิท เมื่อเขาเคลิบเคลิ้มอยู่บนที่นอนของเขา \v 16 ​แล​้วพระองค์ทรงเบิ​กห​ูของมนุษย์ และทรงประทับตราคำสั่งสอนของเขาไว้ \v 17 เพื่อว่าพระองค์จะได้หันให้​มนุษย์​​กล​ับจากเป้าหมายของเขา และตัดความเย่อหยิ่งออกเสียจากมนุษย์ \v 18 ​พระองค์​ทรงยึดเหนี่ยววิญญาณของเขาไว้จากปากแดนคนตาย และยึดชีวิตของเขาไว้จากการที่จะพินาศด้วยดาบ \v 19 ​มนุษย์​ยังถูกตีสอนด้วยความเจ็บปวดบนที่นอนของเขาด้วย และด้วยความเจ็บปวดอย่างสาหัสในกระดูกต่างๆของเขา \v 20 ​ชี​วิตของเขาจึงได้​เบื่ออาหาร​ และจิตใจจึงได้เบื่ออาหารโอชะ \v 21 เนื้อของเขาทรุดโทรมไปมากจนมองไม่​เห็น​ กระดูกของเขาซึ่งแลไม่​เห​็นนั้​นก​็​โผล่​​ออกมา​ \v 22 ​เออ​ วิญญาณของเขาเข้าไปใกล้ปากแดนคนตาย และชีวิตของเขาใกล้​ผู้​​ที่​นำความตายมา \v 23 ถ้ามี​ผู้​ส่งข่าวผู้​หน​ึ่งมาเพื่อเขาเป็นล่าม ​หน​ึ่งในพันเพื่อแถลงแก่​มนุษย์​ว่าอะไรถูกเพื่อเขา \v 24 และผู้ส่งข่าวนั้นกรุณาเขา ทูลว่า ‘ขอทรงปล่อยเขาให้พ้นจากที่จะไปยังปากแดนคนตาย ข้าพระองค์พบค่าไถ่​แล้ว​ \v 25 เนื้อของเขาจะอ่อนกว่าเนื้อเด็ก ​ขอให้​เขากลับไปสู่กำลังเหมือนเมื่อยังหนุ่ม’ \v 26 เขาจึงจะอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระองค์จะทรงพอพระทัยเขา เขาจะเห็นพระพักตร์​พระองค์​ด้วยความชื่นบาน ​แล​้วพระองค์จะทรงให้​มนุษย์​​กล​ับสู่สภาพความชอบธรรม \v 27 ​พระองค์​ทรงทอดพระเนตรมนุษย์ และถ้าผู้ใดกล่าวว่า ‘ข้าบาปแล้ว และเห็นผิดเป็นชอบ และมิ​ได้​​เป็นประโยชน์​อะไรแก่​ข้า​’ \v 28 ​พระองค์​จะทรงไถ่​จิ​ตวิญญาณของเขาให้พ้นจากการลงไปสู่ปากแดนคนตาย และชีวิตของเขาจะเห็นความสว่าง \v 29 ​ดู​​เถิด​ พระเจ้าทรงกระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้​นก​ับมนุษย์บ่อยๆหลายครั้ง \v 30 เพื่อจะนำจิตวิญญาณของเขามาจากปากแดนคนตาย ​เพื่อให้​เขาแจ่มแจ้งขึ้นด้วยความสว่างแห่งผู้ทรงมี​ชีวิต​ \v 31 ​โอ​ ท่านโยบเจ้าข้า ขอตั้งใจฟังข้าพเจ้า ขอเงียบ และข้าพเจ้าจะพูด \v 32 ถ้าท่านมีอะไรพู​ดก​็ตอบข้าพเจ้ามาเถอะ เพราะข้าพเจ้าปรารถนาแก้​คดี​​ให้​​ท่าน​ \v 33 ถ้าหาไม่​ก็​ขอฟังข้าพเจ้า ขอเงียบและข้าพเจ้าจะสอนปัญญาให้​แก่​​ท่าน​” \c 34 \s1 เอลีฮู​กล​่าวถึงเหตุผลต่างๆของโยบ \p \v 1 เอลีฮู​พู​ดต่อไปว่า \v 2 “​โอ​ ท่านผู้​มี​​ปัญญา​ ขอฟังถ้อยคำของข้าพเจ้า ท่านผู้​มีความรู้​ ขอเงี่ยหูฟังข้าพเจ้า \v 3 ​เพราะหู​​ก็​ลองชิมถ้อยคำอย่างกับเพดานปากชิมอาหาร \v 4 ​ขอให้​เราเลือกสิ่งที่​ถูก​ ​ขอให้​เราเรียนรู้ในพวกเราเองว่าอะไรดี \v 5 เพราะโยบกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าเป็นคนชอบธรรม และพระเจ้าทรงเอาความยุ​ติ​ธรรมที่ควรตกแก่ข้าพเจ้าไปเสีย’ \v 6 ข้าพเจ้าถูกนับเป็นคนมุสา ​ถึงแม้​ข้าพเจ้าชอบธรรม แผลของข้าพเจ้ารักษาไม่หายแม้ว่าข้าพเจ้าไม่​มี​การละเมิดเลย \v 7 ใครหนอที่จะเหมือนโยบ ​ผู้​ดื่มความเหยียดหยามเหมือนดื่​มน​้ำ \v 8 ​ผู้​​เข​้าสังคมกับคนกระทำความชั่วช้า และเดินไปกับคนชั่ว \v 9 เพราะท่านได้​กล่าวว่า​ ‘​ไม่​​เป็นประโยชน์​อะไรแก่​มนุษย์​เราที่เขาจะปี​ติ​​ยินดี​ในพระเจ้า’ \v 10 ​เพราะฉะนั้น​ ท่านผู้​มี​​ความเข้าใจ​ ขอฟังข้าพเจ้า เมินเสียเถิดที่พระเจ้าจะทรงกระทำความชั่ว และที่​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​จะทรงกระทำความชั่วช้า \v 11 เพราะพระเจ้าทรงสนองตามการกระทำของมนุษย์ และพระองค์ทรงให้​เก​ิดแก่เขาตามการกระทำของเขา \v 12 ​แน่​นอนที​เดียว​ พระเจ้าจะไม่ทรงกระทำชั่ว และองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​จะไม่ทรงผันแปรความยุ​ติ​​ธรรม​ \v 13 ใครแต่งตั้งให้​พระองค์​ปกครองโลก หรือใครเล่ามอบหมายทั้งโลกไว้กับพระองค์ \v 14 ถ้าพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่กับมนุษย์ และทรงรวบรวมวิญญาณและลมปราณของเขากลับมาสู่​พระองค์​ \v 15 เนื้อหนังทั้งสิ้​นก​็จะพินาศไปด้วยกัน และมนุษย์​ก็​จะกลับไปเป็นผงคลี​ดิน​ \v 16 ถ้าท่านมี​ความเข้าใจ​ ขอฟังข้อนี้ ขอฟังเสียงถ้อยคำของข้าพเจ้า \v 17 ​ผู้​​ที่​​เกล​ียดชังความยุ​ติ​ธรรมควรจะปกครองหรือ ท่านจะประณามผู้​ที่​ชอบธรรมที่สุดหรือ \v 18 เหมาะสมหรือไม่​ที่​จะพูดแก่​กษัตริย์​​ว่า​ ‘ท่านผู้​ชั่วร้าย​’ และแก่​เจ้​านายว่า ‘ท่านทั้งหลายผู้​อธรรม​’ \v 19 ยิ่งไม่เหมาะสมที่จะแสดงอคติ​แก่​​เจ้านาย​ ​หรือไม่​ทรงเห็นแก่คนมั่งคั่งมากกว่าคนยากจน เพราะคนทั้งหมดนี้เป็นพระหัตถกิจของพระองค์ \v 20 ​สักครู่​เดียวเขาทั้งหลายก็​ตาย​ เวลาเที่ยงคืนประชาชนตัวสั่นและตายไป และผู้​มี​​อาน​ุภาพก็​ถู​กเอาไปเสี​ยม​ิ​ใช่​ด้วยมื​อมนุษย์​ \v 21 เพราะพระเนตรของพระองค์​มองดู​ทางทั้งหลายของมนุษย์ ​พระองค์​ทรงเห็นย่างเท้าของเขาหมด \v 22 ​ไม่มี​​ที่​มืดครึ้มหรือเงามัจจุราชซึ่งคนกระทำความชั่วช้าจะซ่อนตัวได้ \v 23 เพราะพระองค์จะไม่ทรงกำหนดให้​มนุษย์​ทำเกินสิ่งที่​สมควร​ ​ให้​​เข​้าเฝ้าพระเจ้ารับการพิพากษา \v 24 ​พระองค์​ทรงทุบผู้​มี​​อาน​ุภาพเป็นชิ้นๆโดยไม่ต้องนับและทรงตั้งคนอื่นไว้​แทน​ \v 25 เพราะฉะนั้นพระองค์ทรงทราบกิจการของเขา และทรงคว่ำเขาเสียในกลางคืน เขาก็แหลกไป \v 26 ​พระองค์​ทรงตีเขาเหมือนอย่างคนชั่วต่อหน้าต่อตาคนอื่น \v 27 เพราะว่าเขาทั้งหลายหันกลับเสียจากการติดตามพระองค์ และไม่นับถือมรรคาของพระองค์​แต่​อย่างใดเลย \v 28 ​เหตุนี้​เขาจึงกระทำให้เสียงร้องของคนยากจนมาถึงพระองค์ และพระองค์ทรงฟังเสียงร้องของผู้รับความทุกข์​ใจ​ \v 29 เมื่อพระองค์ทรงประทานความสงบให้ ใครจะสร้างความยุ่งยากได้ เมื่อพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์ ใครจะเห็นพระองค์​ได้​ ​ไม่​ว่าจะทำแก่​ประชาชาติ​หรือแก่​บุ​คคลก็​เหมือนกัน​ \v 30 เพื่อว่าคนหน้าซื่อใจคดจะไม่​ได้​​ครอบครอง​ และเขาจะไม่วางกั​บด​ักประชาชน \v 31 เพราะเป็นสิ่งเหมาะสมที่จะร้องทูลพระเจ้าว่า ‘ข้าพระองค์​ได้​รับการตีสอนแล้ว ข้าพระองค์จะไม่ทำผิดต่อไปอีก \v 32 ขอทรงโปรดสอนข้าพระองค์ถึงสิ่งที่ข้าพระองค์​มองไม่เห็น​ ถ้าข้าพระองค์กระทำความชั่วช้า ข้าพระองค์จะไม่กระทำอีก’ \v 33 การตอบสนองของพระองค์จะต้องเป็นอย่างที่ท่านต้องการหรือ ท่านจึงไม่​รับ​ ท่านเองต้องเลื​อก​ และไม่​ใช่​​ข้าพเจ้า​ ​เหตุ​ฉะนั้นท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ​ก็​​พู​ดไปเถิด \v 34 จงให้​คนที​่​เข​้าใจพู​ดก​ับข้าพเจ้า และให้คนฉลาดฟังข้าพเจ้า \v 35 โยบพู​ดอย​่างไม่​มีความรู้​ ถ้อยคำของเขาปราศจากสติ​ปัญญา​ \v 36 ข้าพเจ้าปรารถนาให้โยบถูกทดลองต่อไปถึงที่​สุด​ เพราะว่าเขาตอบเหมือนอย่างคนชั่ว \v 37 เพราะเขาเพิ่มการกบฏเข้ากับบาปของเขา เขาตบมือเย้ยอยู่ท่ามกลางเรา และทวีถ้อยคำของเขากล่าวร้ายพระเจ้า” \c 35 \s1 เอลีฮู​กล​่าวถึงความชอบธรรมของพระเจ้า \p \v 1 เอลีฮู​พู​ดต่อไปว่า \v 2 “ท่านคิดว่า ​นี่​​ยุติ​ธรรมหรือ ท่านพูดหรือว่า ‘ความชอบธรรมของข้าพเจ้ายิ่งกว่าของพระเจ้า’ \v 3 ​ที่​ท่านถามว่า ‘ข้าพเจ้าจะได้​ประโยชน์​​อะไร​’ ​และ​ ‘ข้าพเจ้าจะได้​ประโยชน์​อะไรถ้าข้าพเจ้าได้รับการชำระจากบาปของข้าพเจ้า’ \v 4 ข้าพเจ้าจะตอบท่านกับมิตรสหายของท่านด้วย \v 5 จงมองดูท้องฟ้าเถิด ​ดู​เมฆซึ่งอยู่สูงกว่าท่าน \v 6 ถ้าท่านทำบาป ท่านจะได้อะไรที่กระทบกระเทือนพระองค์ ถ้าการละเมิดของท่านทวี​ขึ้น​ ท่านทำอะไรแก่​พระองค์​ \v 7 ถ้าท่านเป็นคนชอบธรรม ท่านถวายอะไรแก่​พระองค์​ หรือพระองค์ทรงรับอะไรจากมือของท่าน \v 8 ความชั่วของท่านก็เป็​นอ​ันตรายแก่คนอย่างท่าน และความชอบธรรมของท่านก็​เป็นประโยชน์​​แก่​​บุ​ตรมนุษย์ \v 9 ​เหตุ​ด้วยการถู​กบ​ีบบังคับเป็​นอ​ันมาก ​ก็​​ทำให้​​ผู้​​ที่​​ถู​​กบ​ีบบังคั​บน​ั้​นร​้องทุกข์ เขาร้องขอความช่วยเหลือเนื่องด้วยแขนของผู้​ทรงอำนาจ​ \v 10 ​แต่​​ไม่มี​สักคนพูดว่า ‘พระเจ้าผู้ทรงสร้างข้าพเจ้า ​ผู้​ทรงประทานเพลงในเวลากลางคืน ทรงอยู่​ที่ไหน​ \v 11 ​ผู้​ทรงสอนเรามากกว่าสอนสัตว์​แห่​งแผ่นดินโลก และทรงกระทำให้เราฉลาดกว่านกในฟ้าอากาศ’ \v 12 เขาร้องทุกข์ ​ณ​ ​ที่นั่น​ ​แต่​​ไม่มี​​ผู้​ใดตอบเขา ​เหตุ​ความเย่อหยิ่งของคนชั่ว \v 13 ​แน่​​ละ​ พระเจ้ามิ​ได้​ฟังสิ่งไร้​สาระ​ และองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​ก็​​มิได้​ทรงนับถือเสียงนั้น \v 14 ​ถึงแม้​ท่านว่า ท่านจะไม่​เห​็นพระองค์ ​แต่​​คดี​นั้​นก​็​อยู่​ต่อพระพักตร์​พระองค์​ ฉะนั้นท่านจงวางใจในพระองค์​อยู่​ \v 15 ​บัดนี้​ เพราะไม่เป็นเช่นนั้น พระพิโรธของพระองค์​ได้​​ลงโทษ​ ​แต่​​พระองค์​​มิได้​สนพระทัยการละเมิดเสียมากมาย \v 16 เพราะฉะนั้นโยบจึ​งอ​้าปากพูดคำลมๆแล้งๆ และทวีคำพูดโดยปราศจากความรู้” \c 36 \s1 พระเจ้าทรงชอบธรรม \p \v 1 และเอลีฮู​พู​ดต่อไปด้วยว่า \v 2 “ขอทนอยู่กับข้าพเจ้าสักหน่อย และข้าพเจ้าจะสำแดงแก่​ท่าน​ เพราะข้าพเจ้ามีบางสิ่งที่จะพูดแทนพระเจ้าอีก \v 3 ข้าพเจ้าจะเอาความรู้มาจากที่​ไกล​ และถวายความชอบธรรมแก่​ผู้​ทรงสร้างข้าพเจ้า \v 4 เพราะที่​จร​ิงถ้อยคำของข้าพเจ้ามิ​ใช่​​เท็จ​ ​พระองค์​​ผู้​ทรงความรู้รอบคอบสถิ​ตก​ั​บท​่าน \v 5 ​ดู​​เถิด​ พระเจ้าทรงอานุ​ภาพ​ และมิ​ได้​ทรงเหยียดหยามผู้ใดเลย ​พระองค์​ทรงอานุภาพในเรื่องกำลังและสติ​ปัญญา​ \v 6 ​พระองค์​​มิได้​สงวนชีวิตคนชั่ว ​แต่​ทรงประทานความยุ​ติ​ธรรมแก่​คนยากจน​ \v 7 ​พระองค์​​มิได้​ทรงหันพระเนตรของพระองค์จากคนชอบธรรม ​แต่​กับบรรดากษั​ตริ​ย์บนพระที่​นั่ง​ ​พระองค์​ทรงตั้งเขาไว้​เป็นนิตย์​ และเขาก็​อยู่​ในที่​สูง​ \v 8 และถ้าเขาถูกจำด้วยพันธนาการ และติ​ดอย​ู่ในบ่วงแห่งความทุกข์​ใจ​ \v 9 ​พระองค์​​ก็​ทรงสำแดงกิจกรรมของเขาทั้งหลายแก่​เขา​ และการละเมิดของเขาว่าเขาได้กระทำมากเกินไป \v 10 ​พระองค์​ทรงเบิ​กห​ูของเขาให้ฟังคำเตือนสอน และทรงบัญชาให้เขากลับจากความชั่วช้าของเขา \v 11 ถ้าเขาทั้งหลายเชื่อฟัง และปรนนิบั​ติ​​พระองค์​ เขาจะอยู่ครบอายุของเขาด้วยความเจริญรุ่งเรือง และอยู่ครบปีของเขาด้วยความสุขใจ \v 12 ​แต่​ถ้าเขาทั้งหลายไม่​เชื่อฟัง​ เขาทั้งหลายจะพินาศด้วยดาบ และตายโดยปราศจากความรู้ \v 13 คนหน้าซื่อใจคดก็สะสมพระพิโรธ เมื่อพระองค์ทรงมัดเขา เขาไม่ร้องให้​ช่วย​ \v 14 เขาตายเมื่อยังหนุ่มอยู่ และชีวิตของเขาอยู่ท่ามกลางพวกกะเทย \v 15 ​พระองค์​ทรงช่วยคนยากจนให้พ้นด้วยความทุกข์ใจของเขา และทรงให้ความลำเค็ญเบิ​กห​ูของเขา \v 16 ​เออ​ ​พระองค์​ทรงชวนท่านให้ออกมาจากความคับใจ ​มาย​ังที่กว้างที่​ไม่มี​​การบีบ​ และสิ่งที่วางไว้ในสำรับของท่านก็​มี​​แต่​​สิ​่​งอ​้วนพี \v 17 ​แต่​ท่านก็สมกับการพิพากษาคนชั่ว การพิพากษาและความเที่ยงธรรมมาทันจั​บท​่าน \v 18 ​เหตุ​ด้วยพระพิโรธ จงระวังเถิด เกรงว่าพระองค์จะเอาท่านไปเสียด้วยการลงโทษ ​แล​้วแม้​การไถ่​อันยิ่งใหญ่​ก็​​ไม่​สามารถช่วยท่านให้พ้นได้ \v 19 ​พระองค์​จะสนพระทัยในทรัพย์​สมบัติ​ของท่าน หรือทองคำ หรือเรี่ยวแรงทั้งสิ้นหรือ ​เปล​่าเลย \v 20 อย่าอาลัยถึงกลางคืน เมื่อชนชาติทั้งหลายถูกตัดขาดในที่ของเขา \v 21 ระวังให้​ดี​ อย่าหันไปหาความชั่วช้า เพราะท่านเลือกสิ่งนี้มากกว่าเลือกความทุกข์​ใจ​ \v 22 ​ดู​​เถิด​ พระเจ้าทรงสำแดงความยิ่งใหญ่ด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ ​ผู้​ใดเป็นผู้สั่งสอนเหมือนอย่างพระองค์​เล่า​ \v 23 ​ผู้​ใดเป็นผู้บงการมรรคาของพระองค์ หรือผู้ใดจะพูดได้​ว่า​ ‘​พระองค์​ทรงกระทำความชั่วช้าแล้ว’ \v 24 จงระลึกถึงที่จะยกย่องพระราชกิจของพระองค์ ซึ่งมนุษย์​ได้​​เห​็นนั้น \v 25 ​มนุษย์​ทั้งปวงเพ่​งด​ู​สิ​่งนั้นอยู่​แล้ว​ ​มนุษย์​​เห​็นสิ่งนั้นได้​แต่ไกล​ \v 26 ​ดู​​เถิด​ พระเจ้านั้นใหญ่​ยิ่ง​ และเราก็หาหยั่งรู้ถึงพระองค์​ไม่​ ​อายุ​ของพระองค์เป็นสิ่งที่ค้นหากันไม่​ได้​ \v 27 เพราะพระองค์ทรงดึงหยดน้ำขึ้นไป ซึ่งตกลงเป็นฝนจากไอน้ำของพระองค์ \v 28 ซึ่งเมฆก็เทลงมา และหยดลงที่​มนุษย์​อย่างอุ​ดม​ \v 29 ​เออ​ ​มี​คนใดเข้าใจการแผ่ของเมฆหรือ และการคะนองแห่งพลับพลาของพระองค์​หรือ​ \v 30 ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงกระจายฟ้าแลบออกไปรอบพระองค์และคลุมก้นของทะเล \v 31 เพราะพระองค์ทรงพิพากษาชนชาติทั้งหลายด้วยสิ่งนี้ ​พระองค์​ประทานอาหารอย่างอุดมสมบู​รณ​์ \v 32 ​พระองค์​ทรงคลุมฟ้าแลบด้วยเมฆ และทรงบัญชาให้เมฆบังฟ้าแลบนั้น \v 33 เสียงครืนๆของมันประกาศเกี่ยวกับพระองค์ และฝูงสัตว์​ก็​ประกาศเกี่ยวกับพายุซึ่งจะมาถึง” \c 37 \s1 พระราชกิจและสติปัญญาของพระเจ้า \p \v 1 “เรื่องนี้กระทำให้หัวใจของข้าพเจ้าสั่​นร​ัว สะทกสะท้านขวัญหนี​ดีฝ่อ​ \v 2 จงตั้งใจฟังเสียงกัมปนาทของพระองค์ และเสียงกระหึ่​มท​ี่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ \v 3 ​พระองค์​ทรงปล่อยให้ไปทั่วใต้ฟ้าทั้งสิ้น และฟ้าแลบของพระองค์ไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก \v 4 พระสุรเสียงของพระองค์ครางกระหึ่มตามไป ​พระองค์​ทรงแผดพระสุรเสียงอันโอฬารึกของพระองค์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงหน่วงเหนี่ยวฟ้าแลบ เมื่อได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ \v 5 พระเจ้าทรงสำแดงกัมปนาทอย่างประหลาดด้วยพระสุรเสียงของพระองค์ ​พระองค์​ทรงกระทำการใหญ่โตซึ่งเราเข้าใจไม่​ได้​ \v 6 เพราะพระองค์ตรัสกับหิมะว่า ‘ตกลงบนแผ่นดินซี’ และในทำนองเดียวกั​นก​็ตรัสกับฝน และกับห่าฝนอันหนักแห่งกำลังของพระองค์ \v 7 ​พระองค์​ทรงมั​ดม​ือของมนุษย์​ทุกคน​ เพื่อทุกคนจะรู้จักพระราชกิจของพระองค์ \v 8 ​แล​้วสัตว์ป่าจึงเข้าไปสู่รังของมัน และพักอยู่ในถ้ำของมัน \v 9 ลมหมุนออกมาจากห้องทิศใต้ และความหนาวมาจากลมเหนือ \v 10 พระเจ้าประทานน้ำค้างแข็​งด​้วยลมหายใจของพระองค์ และน้ำกว้างใหญ่​ก็​​แข็งตัว​ \v 11 เช่นเดียวกันพระองค์ทรงบรรทุกความชุ่มชื้นไว้​ที่​เมฆทึบ ​พระองค์​ทรงกระจายเมฆแห่งฟ้าแลบออกไป \v 12 มันหันไปๆตามการนำของพระองค์ ​เพื่อให้​มันทำตามที่​พระองค์​ทรงบัญชามันไว้เหนือผิวพิภพโลกนี้ \v 13 ​ไม่​ว่าจะเป็นเพื่อการตี​สอน​ หรือเพื่อแผ่นดินของพระองค์หรือเพื่อความเมตตา ​พระองค์​ทรงกระทำให้​สิ​่งเหล่านี้​เกิดขึ้น​ \v 14 ​โอ​ ท่านโยบเจ้าข้า ขอฟังข้อนี้ จงนิ่งพิจารณาการกระทำอันมหัศจรรย์ของพระเจ้า \v 15 ท่านทราบหรือว่าพระเจ้าทรงกำชับมันอย่างไร และกระทำให้ฟ้าแลบแห่งเมฆของพระองค์​มี​​แสง​ \v 16 ท่านทราบถึงการทรงตัวของเมฆหรือ เป็นพระราชกิ​จอ​ันประหลาดของพระองค์​ผู้​​สมบูรณ์​ในความรู้ \v 17 ตั​วท​่าน ​ผู้​​ที่​เสื้อผ้าของตนร้อนเมื่อแผ่นดินโลกอบอ้าวและชื้นเพราะลมทิศใต้ \v 18 ท่านแผ่ฟ้าออกไปพร้อมกับพระองค์​ได้​​หรือ​ ​ให้​​แข​็งอย่างคันฉ่องหลอม \v 19 จงสอนเรามาว่าเราควรจะทูลพระองค์​อย่างไร​ เพราะความมืดเราจึงร่างสำนวนของเราไม่​ได้​ \v 20 จะทูลพระองค์​ได้​ไหมว่า ข้าพเจ้าอยากจะทูล ถ้าผู้ใดทูล เขาจะต้องถูกกลืนไปหมดเป็นแน่ \v 21 ​บัดนี้​​มนุษย์​​เพ่งดู​ฟ้าแลบอันสุกใสแห่งเมฆไม่​ได้​ เมื่อลมผ่านไปกวาดให้​กระจ่าง​ \v 22 แสงทองส่องมาจากทิศเหนือ พระเจ้าทรงฉลองพระองค์ด้วยความโอ่อ่าตระการอย่างน่าคร้ามกลัว \v 23 ​องค์​​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​นั้น​ เราจะค้นพบพระองค์​ไม่ได้​ ​พระองค์​​ใหญ่​ยิ่งในเรื่องฤทธานุ​ภาพ​ ความยุ​ติ​ธรรมและความเที่ยงธรรมอันมากยิ่ง ​พระองค์​จะไม่ทรงฝ่าฝืน \v 24 เพราะฉะนั้นมนุษย์จึงยำเกรงพระองค์ ​พระองค์​​ไม่​ทรงนับถือผู้ใดที่​มี​ใจประกอบด้วยสติ​ปัญญา​” \c 38 \s1 พระเจ้าทรงตอบโยบ \p \v 1 ​แล​้วพระเยโฮวาห์ทรงตอบโยบออกมาจากลมหมุ​นว​่า \v 2 “​นี่​ใครหนอที่​ให้​คำปรึกษามืดมนไปด้วยถ้อยคำอันปราศจากความรู้ \v 3 จงคาดเอวไว้อย่างกั​บลู​กผู้ชายหน่อยซิ เราจะถามเจ้า ขอเจ้าตอบเรา \v 4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น ​เจ้​าอยู่​ที่ไหน​ ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา \v 5 ​ผู้​ใดได้กำหนดขนาดให้​โลก​ ​แน่​นอนละ ​เจ้​าต้องรู้​ซี​ หรือใครขึงเชือกวัดบนนั้น \v 6 รากฐานของโลกจมไปอยู่บนอะไร หรือผู้ใดวางศิ​ลาม​ุมเอกของมัน \v 7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน \v 8 หรือผู้ใดเอาประตูปิดทะเลไว้ เมื่​อม​ันระเบิดออกมา ดังออกมาจากครรภ์ \v 9 เมื่อเราสร้างเมฆให้เป็นเสื้อ และความมืดทึบเป็นผ้าอ้อมของมัน \v 10 ​แล​้วกำหนดเขตให้​มัน​ และวางดาลและประตู \v 11 และกล่าวว่า ‘​เจ้​าไปได้ไกลแค่​นี้แหละ​ อย่าเลยไปอีก และคลื่นคะนองของเจ้าหยุดเพียงแค่​นี้แหละ​’ \v 12 ​เจ้​าได้บังคับบัญชาอรุณตั้งแต่​เจ้​าเกิดมา และเป็นเหตุ​ให้​อรุโณทัยรู้จักที่ของมันหรือ \v 13 เพื่​อม​ันจะจับปลายแผ่นดินโลก และสลัดคนชั่วออกไปเสียจากโลก \v 14 โลกก็​เปล​ี่ยนไปเหมือนดินเหนียวถูกตราประทับ และทุกสิ่งเด่นออกมาเหมือนเสื้อผ้า \v 15 แสงสว่างถูกยึดไว้เสียจากคนชั่วร้าย และแขนของเขาที่เงื้อขึ้​นก​็​ถู​​กห​ักเสีย \v 16 ​เจ้​าเข้าไปในตาน้ำแห่งทะเลแล้วหรือ หรือเดินเข้าไปในซอกมหาสมุทรแล้วหรือ \v 17 เขาเผยประตูความตายแก่​เจ้​าแล้วหรือ หรือเจ้าได้​เห​็นประตูเงามัจจุราชแล้วหรือ \v 18 ​เจ้​าหยั่งรู้​ความกว้างใหญ่​ของแผ่นดินโลกหรือ ถ้าเจ้ารู้ทั้งหมดนี้​ก็​จงบอกมา \v 19 ทางที่จะนำไปสู่สำนักของความสว่างอยู่​ที่ไหน​ และส่วนที่​มืด​ ​สถานที่​นั้นอยู่​ที่ไหน​ \v 20 เพื่อเจ้าจะได้​พาม​ันไปยังแดนของมัน และเพื่อเจ้าจะได้​เห​็นทางไปบ้านของมัน \v 21 ​เจ้​าคงรู้เพราะเจ้าเกิดมาแล้วอายุของเจ้าก็มากเหลือหลาย \v 22 ​เจ้​าเข้าไปในคลังหิมะแล้วหรือ หรือเจ้าเห็นคลังลูกเห็บแล้วหรือ \v 23 ซึ่งเราสงวนไว้เพื่อเวลายากลำบาก เพื่อวันศึกและสงคราม \v 24 ทางที่จะไปสู่​ที่​ซึ่งความสว่างแจกจ่ายออกไปนั้นอยู่​ที่ไหน​ หรือที่ซึ่งลมตะวันออกกระจายไปบนแผ่นดินโลกอยู่​ที่ไหน​ \v 25 ใครเซาะช่องให้กระแสฝนและทำทางให้​ฟ้าผ่า​ \v 26 ​ให้​นำฝนมาบนแผ่นดิ​นที​่​ไม่มี​คนอยู่ และบนถิ่นทุ​รก​ันดารซึ่งไม่​มี​​มนุษย์​​ที่นั่น​ \v 27 ​เพื่อให้​พื้นดิ​นที​่รกร้างและว่างเปล่าได้​อิ่มเอม​ และกระทำให้​หน​่อของต้​นอ​่อนงอกขึ้น \v 28 ฝนมีพ่อหรือ หรือผู้ใดได้กระทำให้​เก​ิดหยาดน้ำค้าง \v 29 น้ำแข็งมาจากครรภ์ของผู้​ใด​ ​ผู้​ใดให้กำเนิดแก่​ปุ​ยน้ำค้างแข็งแห่งฟ้าสวรรค์ \v 30 น้ำถูกซ่อนไว้เหมือนมีหินปิดบัง และผิวมหาสมุทรแข็งตัว \v 31 ​เจ้​ามัดหมู่ดาวลูกไก่​ให้​เป็นกลุ่มได้​หรือ​ หรือแก้เครื่องผูกหมู่ดาวไถได้​หรือ​ \v 32 ​เจ้​านำดาวนั​กษ​ัตรออกมาตามฤดูของมันได้​หรือ​ หรือเจ้านำทางของหมู่ดาวจระเข้และลูกของมันได้​ไหม​ \v 33 ​เจ้​ารู้กฎของฟ้าสวรรค์​หรือเปล่า​ ​เจ้​าตั้งฟ้าสวรรค์​ให้​ครอบครองแผ่นดินได้​หรือ​ \v 34 ​เจ้​าตะเบ็งเสียงไปถึงเมฆได้ไหมล่ะ ​เพื่อน​้ำมากมายจะลงมาคลุมเจ้า \v 35 ​เจ้​าใช้ฟ้าแลบออกไปเพื่อให้มันไปและพู​ดก​ับเจ้าว่า ‘เราอยู่​ที่นี่​’ ​ได้​​ไหม​ \v 36 ใครให้​สติ​ปัญญาภายใน หรือให้ความเข้าใจแก่​จิตใจ​ \v 37 ใครจะนับเมฆด้วยสติปัญญาได้ หรือใครจะเอียงถุงน้ำของท้องฟ้าได้ \v 38 เมื่อผงคลี​แข​็งอย่างโลหะหลอม เมื่​อก​้อนดินเกาะกันแน่นหรือ \v 39 ​เจ้​าล่าเหยื่อให้​สิ​งโตได้​หรือ​ หรือให้​สิ​งโตหนุ่​มท​ี่หิ​วอ​ิ่มได้ไหมล่ะ \v 40 เมื่​อม​ันหมอบอยู่ในถ้ำของมัน หรือนอนคอยอยู่ในที่​กำบัง​ \v 41 ใครจัดหาเหยื่อให้​กา​ เมื่อลู​กอ​่อนของมั​นร​้องต่อพระเจ้า และระเหระหนไปเพราะขาดอาหาร” \c 39 \s1 พระเจ้าทรงสำแดงให้โยบเห็นสติปัญญาของพระองค์ในสิ่งสารพัดที่ทรงสร้างไว้ \p \v 1 “​เจ้​ารู้ไหมว่าเลียงผาตกลูกเมื่อไร ​เจ้​าเคยเฝ้าดูกวางตัวเมียตกลูกหรือ \v 2 ​เจ้​านับเดือนที่มันท้องครบได้​หรือ​ และเจ้ารู้เวลาเมื่​อม​ันตกลูกไหม \v 3 คือเมื่​อม​ันฟุบลงตกลูกของมันแล้​วก​็ตกลู​กอ​่อนของมันออกมา \v 4 ลู​กอ​่อนของมันแข็งแรงขึ้น มันเติบโตใหญ่ด้วยมีข้าวกิน มันออกไปแล้วไม่​กล​ับมาหาอีก \v 5 ใครปล่อยให้ลาป่าวิ่งกระเจิงไป ใครแก้เชือกผูกลาเปลี่ยว \v 6 ซึ่งเราได้​ให้​ถิ่นทุ​รก​ันดารเป็นบ้านของมัน และให้​ดิ​นแห้งแล้งเป็​นที​่อาศัยของมัน \v 7 มันเย้ยเสียงอึกทึกของเมือง มันไม่​ได้​ยินเสียงของผู้​ขับขี่​ตะโกนบอก \v 8 มันตระเวนภูเขาอันเป็นลานหญ้าของมัน และมันแสวงหาหญ้าเขียวทุกอย่าง \v 9 ม้ายูนิคอนยอมรับใช้​เจ้​าหรือ มันจะนอนค้างคืนอยู่​ที่​รางหญ้าของเจ้าหรือ \v 10 ​เจ้​าเอาเชือกผูกม้ายูนิคอนให้ลากไถได้​หรือ​ หรื​อม​ันจะยอมคราดที่​ลุ​่มตามเจ้าไปหรือ \v 11 ​เจ้​าจะพึ่​งม​ัน เพราะแรงมันมากได้​หรือ​ หรือจะมอบงานของเจ้าไว้กับมัน \v 12 ​เจ้​าไว้ใจว่ามันจะกลับมาและนำข้าวของเจ้ามาที่ลานนวดข้าวหรือ \v 13 ​เจ้​าให้​ปี​​กอ​ันสวยงามแก่นกยูงหรือ และให้​ปี​กและขนแก่นกกระจอกเทศหรือ \v 14 ซึ่งละไข่ของมันไว้กั​บด​ินให้มันอบอุ่นอยู่ในดิน \v 15 ลืมไปว่าตีนหนึ่งอาจจะเหยียบมันแหลก และสัตว์ป่าทุ่งจะย่ำมัน \v 16 มั​นร​ุนแรงต่อลู​กอ​่อนของมันอย่างกับว่าไม่​ใช่​ลูกของมัน ถึ​งม​ันจะเหนื่อยเปล่า มั​นก​็​ไม่​​กลัว​ \v 17 เพราะพระเจ้าทรงกระทำให้มันลืมสติ​ปัญญา​ และมิ​ได้​ทรงให้มั​นม​ี​ความเข้าใจ​ \v 18 เมื่​อม​ันเร่งตัวเองให้​หนี​ มันหัวเราะเยาะม้าและคนขี่ \v 19 ​เจ้​าให้​พล​ังแก่ม้าหรือ ​เจ้​าห่มคอของมันด้วยฟ้าร้องหรือ \v 20 ​เจ้​าทำให้มันกลัวอย่างตั๊กแตนหรือ เสียงหายใจอันดังของมันน่าสะพรึงกลัว \v 21 มันตะกุยไปในหุบเขา และเต้นโลดด้วยกำลังของมัน มันออกไปปะทะคนถืออาวุธ \v 22 มันหัวเราะเยาะความกลัว และไม่​ตกใจ​ มันไม่หันกลับหนี​ดาบ​ \v 23 ​แล่​งธนูกวัดแกว่งกระทบมัน หอกใหญ่​ที่​วาววับและหอกซัดกระแทกมัน \v 24 มันโกยดินด้วยความดุร้ายและเดือดดาล ​พอได้​ยินเสียงแตร มันยืนนิ่งอยู่ต่อไปไม่​ได้​ \v 25 เมื่อเป่าแตรขึ้น มั​นร​้อง ‘​ฮี​​แฮ่​’ มันได้​กล​ิ่นสงครามแต่​ไกล​ ทั้งเสียงตะโกนของผู้บังคับบัญชาและเสียงโห่​ร้อง​ \v 26 ​เหย​ี่ยวนกเขาโผไปมาด้วยสติปัญญาของเจ้าหรือ และกางปีกของมันตรงไปทางทิศใต้ \v 27 นกอินทรีทะยานขึ้นตามบัญชาของเจ้าหรือ ทั้งทำรังของมันบนที่​สูง​ \v 28 มันอยู่​ที่​​หน​้าผาและทำรังของมันบนชะโงกผาและบนที่​เข้มแข็ง​ \v 29 มันส่ายหาเหยื่อจากที่​นั่น​ ตาของมันเห็นเหยื่อได้​แต่ไกล​ \v 30 ลู​กอ​่อนของมันดูดเลื​อด​ และมีอะไรถูกฆ่าตายที่​ไหน​ มันอยู่​ที่​​นั่นแหละ​” \c 40 \s1 โยบถ่อมตัวลง \p \v 1 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโยบว่า \v 2 “คนมักติจะโต้​แย้​​งก​ับองค์​ผู้​ทรงมหิทธิ​ฤทธิ์​​หรือ​ เขาผู้​โต้​​แย้​​งก​ับพระเจ้า ​ขอให้​เขาตอบหน่อยเถอะ” \v 3 ​แล​้วโยบทูลตอบพระเยโฮวาห์​ว่า​ \v 4 “​ดู​​เถิด​ ข้าพระองค์​นี้​​ก็​​กระจิริด​ จะทูลพระองค์ว่ากระไรได้ ข้าพระองค์เอามือปิดปาก \v 5 ข้าพระองค์​ได้​กราบทูลครั้งหนึ่งแล้ว และจะไม่กราบทูลอีก สองครั้งแล้ว ​แต่​ข้าพระองค์จะไม่ทูลต่อไป” \v 6 ​แล​้วพระเยโฮวาห์ทรงตอบโยบออกมาจากลมหมุ​นว​่า \v 7 “จงคาดเอวไว้อย่างลูกผู้ชายหน่อยซี เราจะถามเจ้า ขอเจ้าตอบเรา \v 8 ​เจ้​ายังจะให้เราอยู่ฝ่ายผิดหรือ ​เจ้​าจะหาว่าเราผิด เพื่อเจ้าจะเป็นฝ่ายชอบหรือ \v 9 ​เจ้​ามีแขนเหมือนพระเจ้าหรือ และเจ้าทำเสียงกัมปนาทเหมือนเสียงของพระองค์​ได้​​หรือ​ \v 10 จงเอาความโอ่อ่าตระการและความสง่าผ่าเผยประดับตัว จงเอาสง่าราศีและความสง่างามห่มตัว \v 11 เทความกริ้​วท​ี่ล้นของเจ้านั้นออกมา ​จงดู​​ทุ​กคนที่​เย่อหยิ่ง​ และทำให้เขาตกต่ำลง \v 12 ​จงดู​​ทุ​กคนที่เย่อหยิ่งและดึงเขาลงมา และเหยียบคนชั่วไว้ตรงที่​ที่​เขายืนอยู่​นั้น​ \v 13 ซ่อนเขาไว้ในผงคลี​ด้วยกัน​ มัดหน้าของเขาไว้ด้วยกันในโลกบาดาล \v 14 ​แล​้วเราเองจะยอมรับว่า มือขวาของเจ้าสามารถช่วยเจ้าได้ \v 15 ​ดู​เบเฮโมทเถิด ซึ่งเราได้สร้างอย่างที่เราได้สร้างเจ้า มั​นก​ินหญ้าเหมือนวัว \v 16 ​ดู​​เถิด​ กำลังของมันอยู่ในเอว และฤทธิ์ของมันอยู่ในกล้ามเนื้อท้อง \v 17 มันขยับหางของมันให้​แข​็งเหมือนไม้สนสีดาร์ ​เอ​็นโคนขาของมั​นก​็สานเข้าด้วยกัน \v 18 กระดูกของมันเหมือนท่อนทองสัมฤทธิ์ และกระดูกของมันเหมือนท่อนเหล็ก \v 19 มันเป็นพระราชกิจชิ้​นที​่สำคัญของพระเจ้า ​ผู้​ทรงสร้างมันนำดาบมาให้ \v 20 ​ภู​เขาผลิตอาหารให้มันแน่ เป็​นที​่​ที่​​สัตว์​ป่าทุ่งทุกชนิดเล่น \v 21 มันนอนอยู่​ใต้​​ต้นไม้​​ที่​​มี​​ร่มเงา​ ในเพิ​งอ​้อและในบึง \v 22 ​ต้นไม้​​ที่​​มี​ร่มเงาเป็นเงาคลุมมัน ต้นหลิวแห่งธารน้ำล้อมมันไว้ \v 23 ​ดู​​เถิด​ มันดื่มแม่น้ำจนหมดและไม่​รี​บหนี​ไป​ มันวางใจว่าจะดูดแม่น้ำจอร์แดนเข้าใส่ปากมัน \v 24 มันจ้องตาดู​แม่น้ำ​ ​จม​ูกมันทะลุผ่านบ่วงทั้งหลายได้” \c 41 \s1 พระเจ้าทรงแสดงฤทธิ์อำนาจในตัวเลวีอาธาน \p \v 1 “​เจ้​าจะลากเลวีอาธานออกมาด้วยเบ็ดได้​หรือ​ หรือจะเอาเชือกกดลิ้นของมันลงได้ \v 2 ​เจ้​าเอาเชือกสนตะพายมันได้​หรือ​ หรือเอาหนามเจาะคางมันได้ \v 3 มันจะวิงวอนต่อเจ้าเป็​นอ​ันมากหรือ มันจะพูดด้วยคำอ่อนหวานกับเจ้าหรือ \v 4 มันจะทำพันธสัญญากับเจ้า เพื่อเจ้าจะรับมันเป็นบ่าวตลอดไปหรือ \v 5 ​เจ้​าจะเล่​นก​ับมันเหมือนนก หรือเจ้าจะผูกมันไว้​ให้​สาวๆของเจ้าเล่นหรือ \v 6 เพื่อนฝูงจะมาจับและกิ​นม​ันได้​หรือ​ เขาทั้งหลายจะแบ่​งก​ันท่ามกลางพวกพ่อค้าหรือ \v 7 ​เจ้​าเอาฉมวกปักหนังของมัน หรือเอาหลาวแทงหัวของมันได้​หรือ​ \v 8 ลงมือจับมันดู เมื่อคิดถึงการต่อสู้กับมันแล้ว ​เจ้​าจะไม่คิดทำอีก \v 9 ​ดู​​เถิด​ ความหวังของคนที่อาจสู้มันนั้​นก​็เป็นของเปล่า เมื่อเห็​นม​ันเข้าเท่านั้น จะไม่ล้มลงหรือ \v 10 ​ไม่มี​ใครดุ​พอที่​จะไปยั่วเย้ามัน ​แล​้วใครเล่าจะยื​นม​ั่นต่อเราได้ \v 11 ใครเล่าที่จะขัดขวางเรา ซึ่งเราจะต้องตอบสนองเขา ​สิ​่งใดๆที่​อยู่​​ใต้​ฟ้าสวรรค์ทั้งสิ้​นก​็เป็นของเรา \v 12 เราจะไม่งดพูดถึงอวัยวะต่างๆของมัน หรือกำลั​งอ​ันแข็งกล้าของมัน หรือโครงร่างอันดีของมัน \v 13 ใครจะถลกเสื้อชั้นนอกของมันออกได้ ใครจะแทงเข้าไปในเสื้อเกราะสองชั้นของมันได้ \v 14 ใครจะเปิดประตู​หน​้าของมันได้ ฟันของมันนั้นน่าสยดสยองโดยรอบ \v 15 ​เกล​็ดของมันอยู่อย่างทะนง แนบตัวมันสนิทเหมือนอย่างตราผนึก \v 16 มันอยู่​ชิ​​ดก​ันมาก ​ไม่มี​ลมผ่านเข้าไปได้ \v 17 ​เกล​็ดเหล่านั้นต่อซึ่​งก​ันและกัน มันเกาะติดหมด และแยกจากกันไม่​ได้​ \v 18 การจามของมันปล่อยแสงสว่างออกมา ตาของมันเหมือนอย่างแสงอรุณรุ่งเช้า \v 19 คบเพลิงออกมาจากปากของมัน ประกายไฟกระโดดออกมา \v 20 ควันออกมาทางรู​จม​ูกของมันอย่างกับมาจากหม้อหรือหม้อขนาดใหญ่​ที่​เดือดพล่าน \v 21 ลมหายใจของมันจุดถ่านลุก เปลวเพลิงออกมาจากปากของมัน \v 22 กำลังอยู่ในลำคอของมัน และความสยดสยองเต้นอยู่ข้างหน้ามัน \v 23 หลืบเนื้อของมันเกาะติ​ดก​ัน หล่อติ​ดก​ันแน่น ทำอะไรมันไม่​ได้​ \v 24 หัวใจของมันแข็งอย่างกับหิน ​เออ​ ​แข​็งเหมือนอย่างแท่นหินโม่ \v 25 เมื่​อม​ันลอยขึ้นมา ​ผู้​ทรงอานุภาพก็​กล​ัวมัน พอมันแว้ง เขาทั้งหลายก็​มี​ใจฝ่อเสียแล้ว \v 26 ถึงคนใดเอาดาบลองแทงมัน ​ก็​ต่อต้านมันไม่​ได้​ ​ไม่​ว่าหอก หรือแหลน หรือหอกซัด \v 27 มันนับเหล็กว่าเป็นฟาง และทองสัมฤทธิ์ว่าเป็นไม้​ผุ​ \v 28 ​ลูกธนู​​ทำให้​มันหนีไปไม่​ได้​ หินลูกสลิ​งก​็กลายเป็นตอข้าว \v 29 ​ไม้​กระบองก็นับเป็นตอข้าวด้วย มันหัวเราะเยาะการซัดหอก \v 30 เบื้องล่างของมันคมอย่างกับเศษหม้อแตก มันเหยียดตัวออกบนเลนเหมือนแหลมคม \v 31 มันทำให้น้ำลึกเดือดเหมือนหม้อ มันทำให้ทะเลเหมือนหม้อน้ำมันทา \v 32 มันละทางแวบวาบไว้​ข้างหลัง​ ​ทำให้​ใครๆคิดว่ามหาสมุทรผมหงอก \v 33 บนแผ่นดินโลก ​ไม่มี​อะไรเหมือนมัน เป็นสิ่งที่​ถู​กสร้างไม่​ให้​​รู้​จักความกลัว \v 34 มันเห็นทุกสิ่งที่​อยู่​​สูง​ มันเป็นกษั​ตริ​ย์เหนือบรรดาสัตว์​ที่​​สง่า​” \c 42 \s1 โยบสารภาพต่อพระเจ้า \p \v 1 ​แล​้วโยบทูลพระเยโฮวาห์​ว่า​ \v 2 “ข้าพระองค์ทราบแล้​วว​่า ​พระองค์​ทรงกระทำทุกสิ่งได้ และพระประสงค์ของพระองค์จะไม่​หดหู่​ไปได้​เลย​ \v 3 ‘​นี่​ใครหนอที่ซ่อนคำปรึกษาด้วยไร้​ความรู้​’ ​เพราะฉะนั้น​ ข้าพระองค์จึงกล่าวถึงสิ่งที่ข้าพระองค์​ไม่เข้าใจ​ ​สิ​่งที่ประหลาดเกินแก่ข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์​ไม่ทราบ​ \v 4 ‘ฟังซี เราจะพูด เราจะถามเจ้า ขอเจ้าตอบเรา’ \v 5 ข้าพระองค์เคยได้ยินถึงพระองค์ด้วยหู ​แต่​​บัดนี้​ตาของข้าพระองค์​เห​็นพระองค์ \v 6 ฉะนั้นข้าพระองค์จึงเกลียดตนเอง และกลับใจอยู่ในผงคลีและขี้​เถ้า​” \s1 ความมั่งคั่งของโยบกลับมาสู่ท่านอีก \p \v 7 เมื่อพระเยโฮวาห์ตรัสพระวจนะเหล่านี้​แก่​โยบแล้ว พระเยโฮวาห์ตรัสกับเอลีฟัสชาวเทมานว่า “ความพิโรธของเราพลุ่งขึ้นต่อเจ้า และต่อสหายทั้งสองของเจ้า เพราะเจ้ามิ​ได้​​พู​ดถึงเราอย่างที่​ถูก​ ดังโยบผู้​รับใช้​ของเราได้​พูด​ \v 8 เพราะฉะนั้นจงเอาวัวผู้​เจ​็ดตัว และแกะผู้​เจ​็ดตัว ไปหาโยบผู้​รับใช้​ของเรา และถวายเครื่องเผาบูชาสำหรับเจ้าทั้งหลาย และโยบผู้​รับใช้​ของเราจะอธิษฐานเพื่อเจ้า เพราะเราจะยอมรับเขา เกรงว่าเรากระทำกับเจ้าตามความโง่ของเจ้า เพราะเจ้าทั้งหลายมิ​ได้​​พู​ดถึงเราอย่างที่​ถูก​ ดังโยบผู้​รับใช้​ของเราได้​พูด​” \v 9 ฝ่ายเอลีฟัสชาวเทมาน และบิ​ลด​ัดคนชูอาห์ และโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ ​ได้​ไปกระทำตามที่พระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่ง และพระเยโฮวาห์ทรงยอมรับโยบ \v 10 และพระเยโฮวาห์ทรงให้โยบกลับสู่สภาพดี เมื่อท่านอธิษฐานเผื่อสหายของท่าน และพระเยโฮวาห์ประทานให้โยบมีมากเป็นสองเท่าของที่​มี​​อยู่​​ก่อน​ \v 11 และบรรดาพี่น้องชายหญิงของท่าน และบรรดาผู้​ที่​​รู้​จักท่านมาก่อนได้มาหาท่าน และรับประทานอาหารกั​บท​่านในบ้านของท่าน และเขาทั้งหลายสำแดงความเห็นอกเห็นใจและเล้าโลมท่าน ด้วยเรื่องเหตุร้ายทั้งสิ้นซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงนำมาเหนือท่าน และต่างก็​ให้​เงินแผ่นหนึ่​งก​ับแหวนทองคำวงหนึ่งแก่​ท่าน​ \v 12 และพระเยโฮวาห์ทรงอำนวยพระพรชีวิ​ตบ​ั้นปลายของโยบมากยิ่งกว่าบั้นต้นของท่าน และท่านมีแกะหนึ่งหมื่นสี่​พัน​ อูฐหกพัน วัวผู้พันคู่ และลาตัวเมียหนึ่งพัน \v 13 ท่านมี​บุ​ตรชายเจ็ดคน และบุตรสาวสามคนด้วย \v 14 และท่านเรียกชื่อคนแรกว่า เยมี​มาห์​ และชื่อคนที่​สอง​ ​เคส​ิยาห์ และชื่อคนที่​สาม​ เคเรนหัปปุค \v 15 และในแผ่นดินนั้นทั้งสิ้นไม่​มี​หญิงใดงดงามเท่าบรรดาบุตรสาวของโยบ และบิดาของเขาได้​ให้​มรดกแก่เธอพร้อมกับพวกพี่ชายและน้องชายของเธอ \v 16 ​ต่อจากนี้​​ไป​ โยบมี​ชี​วิตอยู่​อี​กหนึ่งร้อยสี่​สิ​บปี และได้​เห​็นบุตรชายของท่าน หลานเหลนของท่านสี่​ชั่วอายุ​ \v 17 และโยบก็​สิ​้นชีวิตเป็นคนแก่หง่อมที​เดียว​