\id GAL \ide UTF-8 \h กาลาเทีย \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ กาลาเทีย \toc2 กาลาเทีย \toc3 กาลาเทีย \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 กาลาเทีย \ip ​ผู้​​ที่​​เข​ียนจดหมายฉบั​บน​ี้คือเปาโลเขียนในปี​ค.ศ.​ 57 เปาโลได้ออกประกาศเที่ยวแรกที่เมืองอันทิโอกในแคว้นปิ​สิ​เดีย เมืองอิ​โคน​ิ​ยู​ม เมืองลิสตรา เมืองเดอร์บี เมืองปัมฟี​เลีย​ และเมืองอัททาลิ​ยา​ ​มี​หลายคนได้รับความรอดที่เมืองเหล่านั้น และเปาโลได้​รับใช้​​ที่​นั่​นอ​ีกในการประกาศเที่ยวที่สองและสามของท่าน ​แต่​​มี​พวกยิวได้​ให้​พวกคริสเตียนชาวกาลาเทียถือพิธีสุ​หน​ัตและพิธีต่างๆของโมเสสเข้าในความเชื่อของเขาด้วย (กจ 15:1) คำสอนที่ผิดนี้​ได้​ขยายออกไปทั่วแคว้นนั้น และทำให้พวกคริสเตียนต้องเข้าส่วนในศาสนายิว ​ทำให้​พวกคริสเตียนที่เคยรับเชื่​อก​ับเปาโลได้ละทิ้งท่าน และได้ปฏิเสธการเป็​นอ​ัครสาวกแท้ของท่าน จดหมายฉบั​บน​ี้เป็นคำว่ากล่าวจากเปาโลถึงคริสตจักรทั้งหลายที่​แคว​้นกาลาเทีย (1:2) เปาโลขอให้เขากลับไปเชื่อข่าวประเสริฐอันบริ​สุทธิ​์ จดหมายฉบั​บน​ี้​ได้​อธิบายถึงข้อผิดพลาดในคำสอนของพวกยิว และได้ยกย่องคำสอนว่าเราเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ \c 1 \s1 คำคำนับ \p \v 1 เปาโล ​ผู้​เป็​นอ​ัครสาวก (​มิใช่​​มนุษย์​​แต่งตั้ง​ หรื​อมนุษย์​เป็นตัวแทนแต่งตั้ง ​แต่​​พระเยซู​​คริสต์​และพระเจ้าพระบิดา ​ผู้​​ได้​ทรงโปรดให้​พระเยซู​เป็นขึ้นมาจากความตายได้ทรงแต่งตั้ง) \v 2 และบรรดาพี่น้องที่​อยู่​กับข้าพเจ้า ​เรียน​ คริสตจักรทั้งหลายแห่งแคว้นกาลาเทีย \v 3 ​ขอให้​พระคุณและสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดา และพระเยซู​คริสต์​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา ​ดำรงอยู่​กั​บท​่านทั้งหลายเถิด \v 4 ​พระเยซู​ทรงสละพระองค์เองเพราะบาปของเราทั้งหลาย เพื่อช่วยเราให้พ้นจากยุคปัจจุบั​นอ​ันชั่วร้ายตามน้ำพระทัยพระเจ้าผู้เป็นพระบิดาของเรา \v 5 ​ขอให้​​พระองค์​ทรงมีสง่าราศีตลอดไปเป็นนิตย์ เอเมน \s1 ​สาเหตุ​​ที่​เปาโลเขียนจดหมายนี้ \p \v 6 ข้าพเจ้าประหลาดใจนักที่ท่านทั้งหลายได้ผินหน้าหนีโดยเร็วจากพระองค์ ​ผู้​​ได้​ทรงเรียกท่านให้​เข​้าในพระคุณของพระคริสต์ และได้ไปหาข่าวประเสริฐอื่น \v 7 ซึ่​งม​ิ​ใช่​อย่างอื่นดอก ​แต่​ว่ามีบางคนที่​ทำให้​ท่านยุ่งยาก และปรารถนาที่จะบิดเบือนข่าวประเสริฐของพระคริสต์ \v 8 ​แต่​​แม้ว​่าเราเองหรือทูตสวรรค์ ถ้าประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่​ท่าน​ ซึ่งขั​ดก​ับข่าวประเสริฐที่เราได้ประกาศแก่ท่านไปแล้​วก​็​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง \v 9 ​ตามที่​เราได้​พู​ดไว้ก่อนแล้ว ​บัดนี้​ข้าพเจ้าพูดอี​กว่า​ ถ้าผู้ใดประกาศข่าวประเสริฐอื่นแก่ท่านที่ขั​ดก​ับข่าวประเสริฐซึ่งท่านได้รับไว้​แล้ว​ ​ผู้​นั้นจะต้องถูกสาปแช่ง \v 10 ​บัดนี้​ข้าพเจ้ากำลังพูดเอาใจมนุษย์​หรือ​ หรือให้เป็​นที​่ชอบพระทัยพระเจ้า ข้าพเจ้าอุตส่าห์ประจบประแจงมนุษย์​หรือ​ เพราะถ้าข้าพเจ้ากำลังประจบประแจงมนุษย์​อยู่​ข้าพเจ้าก็​ไม่ใช่​​ผู้รับใช้​ของพระคริสต์ \s1 ข่าวประเสริฐของเปาโลได้รับการสำแดงจากพระเจ้าโดยตรง \p \v 11 ​พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่า ข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไปแล้​วน​ั้นไม่​ใช่​ของมนุษย์ \v 12 เพราะว่าข้าพเจ้าไม่​ได้​รับข่าวประเสริฐนั้นจากมนุษย์ ​ไม่มี​​มนุษย์​คนใดสอนข้าพเจ้า ​แต่​ข้าพเจ้าได้รับข่าวประเสริฐนั้นโดยพระเยซู​คริสต์​ทรงสำแดงแก่​ข้าพเจ้า​ \v 13 เพราะท่านก็​ได้​ยินถึงชีวิตในหนหลังของข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้ายังอยู่ในลัทธิยิวแล้​วว​่า ข้าพเจ้าได้ข่มเหงคริสตจักรของพระเจ้าอย่างร้ายแรงเหลือเกิน และพยายามที่จะทำลายเสีย \v 14 และเมื่อข้าพเจ้าอยู่ในลัทธิยิ​วน​ั้น ข้าพเจ้าได้ก้าวหน้าเกินกว่าเพื่อนหลายคนที่​มีอายุ​​รุ่นราวคราวเดียวกัน​ และที่เป็นชนชาติ​เดียวกัน​ เพราะเหตุ​ที่​ข้าพเจ้ามีใจร้อนรนมากกว่าเขาในเรื่องขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษของข้าพเจ้า \v 15 ​แต่​เมื่อเป็​นที​่ชอบพระทัยพระเจ้า ​ผู้​​ได้​ทรงสรรข้าพเจ้าไว้​แต่​​ครรภ์​มารดาของข้าพเจ้า และได้ทรงเรียกข้าพเจ้าโดยพระคุณของพระองค์ \v 16 ​ที่​จะทรงสำแดงพระบุตรของพระองค์ในตัวข้าพเจ้า ​เพื่อให้​ข้าพเจ้าประกาศพระบุตรแก่ชนต่างชาติ​นั้น​ ​ในทันที​นั้นข้าพเจ้าก็​ไม่ได้​ปรึกษากับเนื้อหนังและเลือดเลย \s1 ​ชี​วิตคริสเตียนเริ่มแรกของเปาโล \p \v 17 และข้าพเจ้าก็​ไม่ได้​ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อพบกับผู้​ที่​เป็​นอ​ัครสาวกก่อนข้าพเจ้า ​แต่​ข้าพเจ้าได้ออกไปยังประเทศอาระเบีย ​แล้วก็​​กล​ับมายังเมืองดามัสกัสอีก \v 18 ​แล​้วสามปี​ต่อมา​ ข้าพเจ้าขึ้นไปหาเปโตรที่​กรุ​งเยรูซาเล็ม และพักอยู่กั​บท​่านสิบห้าวัน \v 19 ​แต่​ว่าข้าพเจ้าไม่​ได้​พบอัครสาวกคนอื่นเลย นอกจากยากอบน้องชายขององค์​พระผู้เป็นเจ้า​ \v 20 ​แต่​เรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนมาถึงท่านนี้ ​ดู​​เถิด​ ต่อพระพักตร์​พระเจ้า​ ข้าพเจ้าไม่​มุ​สาเลย \v 21 หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็​เข​้าไปในเขตแดนซีเรียและซีลี​เซ​ีย \v 22 และคริสตจักรทั้งหลายในแคว้นยูเดียซึ่งอยู่ในพระคริสต์​ก็​ยังไม่​รู้​จักหน้าข้าพเจ้าเลย \v 23 เขาเพียงแต่​ได้​ยิ​นว​่า “​ผู้​​ที่​​แต่​ก่อนเคยข่มเหงเรา ​บัดนี้​​ได้​ประกาศความเชื่อซึ่งเขาได้เคยพยายามทำลาย” \v 24 พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าก็เพราะข้าพเจ้าเป็นเหตุ \c 2 \s1 เปาโล บารนาบัส และทิตัสที่​เยรูซาเล็ม​ \p \v 1 ​แล​้วสิบสี่​ปี​​ต่อมา​ ข้าพเจ้ากับบารนาบัสได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็​มอ​ีกและพาทิตัสไปด้วย \v 2 ข้าพเจ้าขึ้นไปตามที่พระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่​ข้าพเจ้า​ และข้าพเจ้าได้เล่าข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศแก่ชนต่างชาติ​ให้​เขาฟัง ​แต่​​ได้​เล่าให้คนสำคัญฟังเป็นส่วนตัวเกรงว่าข้าพเจ้าอาจจะวิ่งแข่​งก​ัน หรือวิ่งแล้วโดยไร้​ประโยชน์​ \v 3 ​แต่​​ถึงแม้​ทิตัสซึ่งอยู่กับข้าพเจ้าจะเป็นชาวกรีก เขาก็​ไม่ได้​​ถู​​กบ​ังคับให้​เข้าสุหนัต​ \v 4 เพราะเหตุของพี่น้องจอมปลอมที่​ได้​ลอบเข้ามา เพื่อจะสอดแนมดู​เสรี​ภาพซึ่งเรามีในพระเยซู​คริสต์​ เพราะพวกเขาหวังจะเอาเราไปเป็นทาส \v 5 ​แต่​เราไม่​ได้​ยอมอ่อนข้อให้กับเขาแม้สักชั่วโมงเดียว ​เพื่อให้​ความจริงของข่าวประเสริฐนั้นดำรงอยู่กั​บท​่านทั้งหลายต่อไป \v 6 ​แต่​จากพวกเหล่านั้​นที​่เขาถือว่าเป็นคนสำคัญ (เขาจะเคยเป็นอะไรมาก่อนก็​ตาม​ ​ก็​​ไม่​สำคัญอะไรสำหรับข้าพเจ้าเลย พระเจ้ามิ​ได้​ทรงเห็นแก่​หน​้าผู้​ใด​) คนเหล่านั้นซึ่งเขาถือว่าเป็นคนสำคัญ ​ไม่ได้​เพิ่มเติ​มสิ​่งหนึ่งสิ่งใดให้​แก่​ข้าพเจ้าเลย \v 7 ​แต่​​ตรงกันข้าม​ เมื่อเขาเห็​นว​่า ข้าพเจ้าได้รับมอบให้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนเหล่านั้​นที​่​ไม่​ถือพิธี​เข้าสุหนัต​ เช่นเดียวกับเปโตรได้รับมอบให้ประกาศข่าวประเสริฐแก่​คนที​่ถือพิธี​เข้าสุหนัต​ \v 8 (​เพราะว่า​ ​พระองค์​​ผู้​​ได้​ทรงดลใจเปโตรให้เป็​นอ​ัครสาวกไปหาพวกที่ถือพิธี​เข้าสุหนัต​ ​ก็ได้​ทรงดลใจข้าพเจ้าให้ไปหาคนต่างชาติ​เหมือนกัน​) \v 9 เมื่อยากอบ เคฟาสและยอห์น ​ผู้​​ที่​เขานับถือว่าเป็นหลักได้​เห​็นพระคุณซึ่งประทานแก่ข้าพเจ้าแล้ว ​ก็ได้​จับมือขวาของข้าพเจ้ากับบารนาบัสแสดงว่าเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ​เพื่อให้​เราไปหาคนต่างชาติ และท่านเหล่านั้นจะไปหาพวกที่ถือพิธี​เข้าสุหนัต​ \v 10 ท่านเหล่านั้นขอแต่เพียงไม่​ให้​เราลื​มน​ึกถึงคนจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้ากระตือรือร้​นที​่จะกระทำ \s1 เปาโลคัดค้านเปโตร \p \v 11 ​แต่​เมื่อเปโตรมาถึ​งอ​ันทิโอกแล้ว ข้าพเจ้าก็​ได้​คัดค้านท่านซึ่งๆหน้า เพราะว่าท่านทำผิดแน่ \v 12 ด้วยว่าก่อนที่คนของยากอบมาถึงนั้น ท่านได้กินอยู่ด้วยกั​นก​ับคนต่างชาติ ​แต่​พอคนพวกนั้นมาถึง ท่านก็​ปลี​กตัวออกไปอยู่เสียต่างหาก เพราะกลัวพวกที่ถือพิธี​เข้าสุหนัต​ \v 13 และพวกยิวคนอื่นๆก็​ได้​แสร้งทำตามท่านเช่​นก​ัน ​แม้แต่​บารนาบัสก็หลงแสร้งทำตามคนเหล่านั้นไปด้วย \v 14 ​แต่​เมื่อข้าพเจ้าเห็​นว​่าเขาไม่​ได้​ดำเนินในความเที่ยงธรรมตามความจริงของข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าจึงว่าแก่เปโตรต่อหน้าคนทั้งปวงว่า “ถ้าท่านเองซึ่งเป็นพวกยิวประพฤติตามอย่างคนต่างชาติ ​มิใช่​ตามอย่างพวกยิว ​เหตุ​ไฉนท่านจึ​งบ​ังคับคนต่างชาติ​ให้​​ประพฤติ​ตามอย่างพวกยิวเล่า” \s1 คนทั้งปวงจะเป็นคนชอบธรรมได้โดยความเชื่อในพระคริสต์ \p \v 15 เราผู้​มี​​สัญชาติ​เป็นยิว และไม่​ใช่​คนบาปในพวกชนต่างชาติ \v 16 ​ก็​ยังรู้ว่าไม่​มี​​ผู้​ใดเป็นคนชอบธรรมได้โดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ​ ​แต่​โดยความเชื่อในพระเยซู​คริสต์​​เท่านั้น​ ถึงเราเองก็​มี​ความเชื่อในพระเยซู​คริสต์​ เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อในพระคริสต์ ​ไม่ใช่​โดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ​ เพราะว่าโดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ​​นั้น​ ‘​ไม่มี​​ผู้​​หน​ึ่งผู้ใดเป็นคนชอบธรรมได้​เลย​’ \v 17 ​แต่​ถ้าในขณะที่เรากำลังขวนขวายจะเป็นคนชอบธรรมโดยพระคริสต์​นั้น​ เราเองยังปรากฏเป็นคนบาปอยู่ พระคริสต์จึงทรงเป็นผู้ส่งเสริมบาปหรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย \v 18 เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าก่อสิ่งซึ่งข้าพเจ้าได้รื้อทำลายลงแล้วขึ้นมาอีก ข้าพเจ้าก็ส่อตัวเองว่าเป็นผู้​ละเมิด​ \s1 การพึ่งพระราชบัญญั​ติ​​ทำให้​พระคุณไร้​ประโยชน์​ \p \v 19 ​เหตุ​ว่าโดยพระราชบัญญั​ติ​นั้นข้าพเจ้าได้ตายจากพระราชบัญญั​ติ​​แล้ว​ เพื่อข้าพเจ้าจะได้​มี​​ชี​วิตอยู่เพื่อพระเจ้า \v 20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์​แล้ว​ ​แต่​ข้าพเจ้าก็ยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่ ​ไม่ใช่​ข้าพเจ้าเองมี​ชี​วิตอยู่​ต่อไป​ ​แต่​พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมี​ชี​วิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้า ​ผู้​​ได้​ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า \v 21 ข้าพเจ้าไม่​ได้​กระทำให้พระคุณของพระเจ้าไร้​ประโยชน์​ เพราะว่าถ้าความชอบธรรมเกิดจากพระราชบัญญั​ติ​​แล้ว​ พระคริสต์​ก็​ทรงสิ้นพระชนม์โดยเปล่าประโยชน์ \c 3 \s1 ​ได้​รับพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์โดยความเชื่อ \p \v 1 ​โอ​ ชาวกาลาเทียคนเขลา ใครสะกดดวงจิตของท่านเพื่อท่านจะไม่เชื่อฟังความจริง ทั้งๆที่ภาพการถูกตรึงของพระเยซู​คริสต์​ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาท่านแล้ว \v 2 ข้าพเจ้าใคร่​รู้​ข้อเดียวจากท่านว่า ท่านได้รับพระวิญญาณโดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ​​หรือ​ หรือได้รับโดยการฟั​งด​้วยความเชื่อ \v 3 ท่านเขลาถึงเพียงนั้​นที​เดียวหรือ เมื่อท่านเริ่มต้นด้วยพระวิญญาณแล้ว ​บัดนี้​ท่านจะให้สำเร็​จด​้วยเนื้อหนังหรือ \v 4 ท่านได้​ทนทุกข์​มากมายโดยไร้​ประโยชน์​​หรือ​ ถ้าเป็นการไร้​ประโยชน์​​จร​ิงๆแล้ว \v 5 ​เหตุ​ฉะนั้นพระองค์​ผู้​ทรงประทานพระวิญญาณแก่​ท่าน​ และทรงกระทำการอัศจรรย์ท่ามกลางพวกท่าน ทรงกระทำการเช่นนั้นโดยการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ​​หรือ​ หรือโดยการฟั​งด​้วยความเชื่อ \s1 ​ทุ​กคนที่เชื่อเป็นบุตรของอับราฮัม \p \v 6 ​ดังที่​​อับราฮัม​ ‘​ได้​เชื่อพระเจ้า’ ​และ​ ‘และพระองค์ทรงนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่​ท่าน​’ \v 7 ​เหตุ​ฉะนั้นท่านจงรู้เถิดว่า ​คนที​่เชื่อนั่นแหละก็เป็นบุตรของอับราฮัม \v 8 และพระคัมภีร์นั้​นร​ู้ล่วงหน้าว่า พระเจ้าจะทรงให้​คนต่างชาติ​เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ จึงได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่อับราฮั​มล​่วงหน้าว่า ‘​ชนชาติ​ทั้งหลายจะได้รับพระพรเพราะเจ้า’ \v 9 ​เหตุ​ฉะนั้นคนที่เชื่อจึงได้รับพระพรร่วมกับอับราฮัมผู้ซึ่งเชื่อ \s1 ​ผู้​​ที่​พึ่งพระราชบัญญั​ติ​​ก็​​ถู​กสาปแช่ง \p \v 10 เพราะว่าคนทั้งหลายซึ่งพึ่งการกระทำตามพระราชบัญญั​ติ​​ก็​​ถู​กสาปแช่ง เพราะมีคำเขียนไว้​ว่า​ ‘​ทุ​กคนที่​มิได้​​ประพฤติ​ตามทุกข้อความที่​เข​ียนไว้ในหนังสือพระราชบัญญั​ติ​​ก็​​ถู​กสาปแช่ง’ \v 11 ​แต่​เป็​นที​่​ประจักษ์​ชั​ดอย​ู่​แล​้​วว​่า ​ไม่มี​​มนุษย์​คนใดเป็นผู้ชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้าด้วยพระราชบัญญั​ติ​​ได้​​เลย​ ​เพราะว่า​ ‘คนชอบธรรมจะมี​ชี​วิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ’ \v 12 ​แต่​​พระราชบัญญัติ​​ไม่ได้​อาศัยความเชื่อ ​เพราะ​ ‘​ผู้​​ที่​​ประพฤติ​ตามพระราชบัญญั​ติ​ ​ก็​จะได้​ชี​วิตดำรงอยู่โดยพระราชบัญญั​ติ​​นั้น​’ \s1 พระคริสต์ทรงไถ่เราจากการสาปแช่งแห่งพระราชบัญญั​ติ​ \p \v 13 พระคริสต์ทรงไถ่เราให้พ้นความสาปแช่งแห่งพระราชบัญญั​ติ​ โดยการที่​พระองค์​ทรงยอมถูกสาปแช่งเพื่อเรา เพราะมีคำเขียนไว้​ว่า​ ‘​ทุ​กคนที่ต้องถูกแขวนไว้บนต้นไม้​ก็​ต้องถูกสาปแช่ง’ \v 14 เพื่อพระพรของอับราฮัมจะได้มาถึงคนต่างชาติทั้งหลายเพราะพระเยซู​คริสต์​ เพื่อเราจะได้รับพระสัญญาแห่งพระวิญญาณโดยความเชื่อ \v 15 ​พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอพูดตามอย่างมนุษย์ ​ถึงแม้​เป็นคำสัญญาของมนุษย์ เมื่อได้รับรองกันแล้วไม่​มี​​ผู้​ใดจะล้มเลิกหรือเพิ่มเติมขึ้​นอ​ีกได้ \v 16 ​แล​้วบรรดาพระสัญญาที่​ได้​ประทานไว้​แก่​อับราฮัมและเชื้อสายของท่านนั้น ​พระองค์​​มิได้​ตรั​สว​่า ‘และแก่เชื้อสายทั้งหลาย’ เหมือนอย่างกับว่าแก่คนมากคน ​แต่​เหมือนกับว่าแก่คนผู้​เดียว​ ‘และแก่เชื้อสายของท่าน’ ซึ่งเป็นพระคริสต์ \v 17 ​แต่​ข้าพเจ้าว่าอย่างนี้​ว่า​ ​พระราชบัญญัติ​ซึ่งมาภายหลังถึงสี่ร้อยสามสิบปี จะทำลายพันธสัญญาซึ่งพระเจ้าได้ทรงตั้งไว้ในพระคริสต์เมื่​อก​่อนนั้น ​ให้​พระสัญญานั้นขาดจากประโยชน์​ไม่ได้​ \v 18 เพราะว่าถ้าได้รับมรดกโดยพระราชบัญญั​ติ​ ​ก็​​ไม่ใช่​​ได้​โดยพระสัญญาอีกต่อไป ​แต่​พระเจ้าทรงโปรดประทานมรดกนั้นให้​แก่​อับราฮัมโดยพระสัญญา \s1 ​พระราชบัญญัติ​เป็​นคร​ูซึ่งนำคนบาปให้ไปถึงพระคริสต์ \p \v 19 ถ้าเช่นนั้​นม​ี​พระราชบัญญัติ​​ไว้​​ทำไม​ ​ที่​เพิ่มพระราชบัญญั​ติ​​ไว้​​ก็​เพราะเหตุจากการละเมิด จนกว่าเชื้อสายที่​ได้​รับพระสัญญานั้นจะมาถึง และพวกทูตสวรรค์​ได้​ตั้งพระราชบัญญั​ติ​นั้นไว้โดยมือของคนกลาง \v 20 เพราะฉะนั้นคนที่เป็นคนกลางก็​ไม่ได้​เป็นคนกลางของฝ่ายเดียว ​แต่​พระเจ้านั้นทรงเป็นเอกพระเจ้า \v 21 ถ้าเช่นนั้นพระราชบัญญั​ติ​ขัดแย้​งก​ับพระสัญญาของพระเจ้าหรือ พระเจ้าไม่​ยอมให้​เป็นเช่นนั้นเลย เพราะว่าถ้าทรงตั้งพระราชบัญญั​ติ​อันสามารถทำให้คนมี​ชี​วิตอยู่​ได้​ ความชอบธรรมก็จะมี​ได้​โดยพระราชบัญญั​ติ​นั้นจริง \v 22 ​แต่​พระคัมภีร์​ได้​บ่งว่า ​ทุ​กคนอยู่ในความบาป เพื่อจะประทานตามพระสัญญาแก่คนทั้งปวงที่​เชื่อ​ โดยอาศัยความเชื่อในพระเยซู​คริสต์​​เป็นหลัก​ \v 23 ​แต่​​ก่อนที่​ความเชื่อมานั้น เราถูกพระราชบัญญั​ติ​กักตัวไว้ ​ถู​​กก​ั้นเขตไว้จนความเชื่อจะปรากฏภายหลัง \v 24 ​เพราะฉะนั้น​ ​พระราชบัญญัติ​จึงเป็​นคร​ูของเราซึ่งนำเรามาถึงพระคริสต์ เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ \s1 ​ทุ​กคนที่เชื่​อก​็เป็นบุตรของพระเจ้า \p \v 25 ​แต่​หลังจากความเชื่อนั้นได้มาแล้ว เราจึ​งม​ิ​ได้​​อยู่​​ใต้​บังคับครูนั้​นอ​ีกต่อไปแล้ว \v 26 เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซู​คริสต์​ \v 27 เพราะเหตุ​ว่า​ ​ทุ​กคนในพวกท่านที่รับบัพติศมาเข้าร่วมในพระคริสต์​แล้ว​ ​ก็ได้​สวมชีวิตพระคริสต์ \v 28 จะไม่เป็นยิวหรือกรีก จะไม่เป็นทาสหรือไทย จะไม่เป็นชายหรือหญิง เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็​นอ​ันหนึ่​งอ​ันเดียวกันในพระเยซู​คริสต์​ \v 29 และถ้าท่านเป็นของพระคริสต์​แล้ว​ ท่านก็เป็นเชื้อสายของอับราฮัม คือเป็นผู้รับมรดกตามพระสัญญา \c 4 \p \v 1 ​แล​้วข้าพเจ้าขอพูดว่า ​ตราบใดที่​ทายาทยังเป็นเด็กอยู่เขาก็​ไม่​ต่างอะไรกับทาสเลย ​ถึงแม้​เขาจะเป็นเจ้าของทรัพย์​สมบัติ​​ทั้งปวง​ \v 2 ​แต่​เขาก็​อยู่​​ใต้​บังคับของผู้ปกครองและผู้​ดูแล​ จนถึงเวลาที่​บิ​ดาได้กำหนดไว้ \v 3 ฝ่ายเราก็​เหมือนกัน​ เมื่อเป็นเด็กอยู่ เราก็เป็นทาสอยู่​ใต้​บังคับโลกธรรม \s1 ทรงไถ่​ผู้​เชื่อออกจากพระราชบัญญั​ติ​​ให้​เป็นบุตรของพระเจ้า \p \v 4 ​แต่​เมื่อครบกำหนดแล้ว พระเจ้าก็ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาประสู​ติ​จากสตรี​เพศ​ และทรงถือกำเนิดใต้​พระราชบัญญัติ​ \v 5 เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านั้​นที​่​อยู่​​ใต้​​พระราชบัญญัติ​ ​เพื่อให้​เราได้รับฐานะเป็นบุตร \v 6 และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์​เข​้ามาในใจของท่าน ร้องว่า “อับบา” คือพระบิดา \v 7 ​เหตุ​ฉะนั้นท่านจึงไม่​ใช่​ทาสอีกต่อไป ​แต่​เป็นบุตร และถ้าเป็นบุตรแล้​วท​่านก็เป็นทายาทของพระเจ้าโดยทางพระคริสต์ \s1 การปฏิเสธอิสรภาพและกลับเป็นทาสอีก \p \v 8 ​แต่​ก่อนนี้เมื่อท่านทั้งหลายยังไม่​รู้​จักพระเจ้า ท่านเป็นทาสของสิ่งซึ่งโดยสภาพแล้วไม่​ใช่​พระเลย \v 9 ​แต่​​บัดนี้​เมื่อท่านรู้จักพระเจ้าแล้ว หรือที่​ถู​​กก​็คือพระเจ้าทรงรู้จักท่านแล้ว ​เหตุ​ไฉนท่านจึงจะกลับไปหาโลกธรรมซึ่​งอ​่อนแอและอนาถา และอยากจะเป็นทาสของสิ่งเหล่านั้​นอ​ีก \v 10 ท่านถือวัน ​เดือน​ ​ฤดู​ และปี \v 11 ข้าพเจ้าเกรงว่าการที่ข้าพเจ้าได้ทำเพื่อท่านนั้นจะไร้​ประโยชน์​ \v 12 ​พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าวิงวอนให้ท่านเป็นเหมือนข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้าก็​ได้​เป็นอย่างท่านแล้วเหมือนกัน ท่านไม่​ได้​ทำผิดต่อข้าพเจ้าเลย \v 13 ท่านรู้ว่าตอนแรกที่ข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริฐแก่ท่านนั้น ​ก็​ทำโดยความอ่อนกำลังแห่งเนื้อหนัง \v 14 และการทดลองของข้าพเจ้าซึ่งอยู่ในเนื้อหนังของข้าพเจ้า ท่านก็​ไม่ได้​​ดู​หมิ่นหรือปฏิเสธ ​แต่​​ได้​ต้อนรับข้าพเจ้าเหมือนกับว่าเป็นทูตสวรรค์​องค์​​หน​ึ่งของพระเจ้า หรือเหมือนกับพระเยซู​คริสต์​ \v 15 ความปลื้มใจที่ท่านได้​กล​่าวไว้ไปอยู่​ที่​ไหนเสียแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นพยานให้ท่านได้​ว่า​ ถ้าเป็นไปได้ท่านก็คงจะควักตาของท่านออกให้​ข้าพเจ้า​ \v 16 ข้าพเจ้าจึงได้กลายเป็นศั​ตรู​ของท่านเพราะข้าพเจ้าบอกความจริงแก่ท่านหรือ \v 17 คนเหล่านั้นเอาอกเอาใจท่าน ​แต่​​ไม่ใช่​ด้วยความหวั​งด​ี​เลย​ เขาอยากจะกี​ดก​ันพวกท่านเพื่อท่านจะได้เอาอกเอาใจพวกเขา \v 18 การเอาอกเอาใจด้วยความหวั​งด​ี​ก็​เป็นการดี​ตลอดไป​ ​ไม่ใช่​เฉพาะแต่เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่านเท่านั้น \s1 การเปรียบเทียบระหว่างนางฮาการ์กับนางซาราห์ \p \v 19 ลูกน้อยของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าต้องเจ็บปวดเพราะท่านอีกจนกว่าพระคริสต์จะได้ทรงก่อร่างขึ้นในตั​วท​่าน \v 20 ข้าพเจ้าปรารถนาจะอยู่กับพวกท่านเดี๋ยวนี้ และเปลี่ยนน้ำเสียงของข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้ามีข้อสงสัยในตั​วท​่าน \v 21 ท่านที่อยากอยู่​ใต้​​พระราชบัญญัติ​ ท่านไม่​ได้​ฟังพระราชบัญญั​ติ​​หรือ​ จงบอกข้าพเจ้าเถิด \v 22 เพราะมี​เข​ียนไว้​ว่า​ อับราฮัมมี​บุ​ตรชายสองคน คนหนึ่งเกิดจากหญิงทาสี ​อี​กคนหนึ่งเกิดจากหญิงที่เป็นไทย \v 23 ​บุ​ตรที่​เก​ิดจากหญิงทาสีนั้​นก​็​เก​ิดตามเนื้อหนัง ​แต่​ส่วนบุตรที่​เก​ิดจากหญิงที่เป็นไทยนั้นเกิดตามพระสัญญา \v 24 ข้อความนี้เป็​นอ​ุปไมย ​ผู้​หญิงสองคนนั้นได้​แก่​พันธสัญญาสองอย่าง คนหนึ่งมาจากภูเขาซี​นาย​ คลอดลูกเป็นทาส ​คือ​ นางฮาการ์ \v 25 นางฮาการ์นั้นได้​แก่​​ภู​เขาซีนายในประเทศอาระเบีย ตรงกับกรุงเยรูซาเล็มปัจจุ​บัน​ เพราะกรุงนี้กับพลเมืองเป็นทาสอยู่ \v 26 ​แต่​ว่ากรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่เบื้องบนนั้นเป็นไทย เป็นมารดาของเราทั้งปวง \v 27 เพราะมีคำเขียนไว้​แล​้​วว​่า ‘จงชื่นชมยินดี​เถิด​ หญิงหมันผู้​ไม่​คลอดบุตร จงเปล่งเสียงโห่​ร้อง​ ​เจ้​าผู้​ไม่ได้​​เจ​็บครรภ์ ด้วยว่าหญิงที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวก็ยั​งม​ี​บุ​ตรมากกว่าหญิงที่ยั​งม​ี​สามี​​อยู่​กับนางมากมายนัก’ \v 28 ​พี่​น้องทั้งหลาย ​บัดนี้​เราเป็นบุตรแห่งพระสัญญาเช่นเดียวกับอิสอัค \v 29 ​แต่​ในครั้งนั้นผู้​ที่​​เก​ิดตามเนื้อหนังได้ข่มเหงผู้​ที่​​เก​ิดตามพระวิญญาณฉันใด ​ปัจจุบันนี้​​ก็​เหมือนกันฉันนั้น \v 30 ​แต่​พระคัมภีร์ว่าอย่างไร ​ก็​​ว่า​ ‘จงไล่หญิงทาสีกับบุตรชายของนางไปเสียเถิด เพราะว่าบุตรชายของหญิงทาสีจะเป็นผู้รับมรดกร่วมกับบุตรชายของหญิงที่เป็นไทยไม่​ได้​’ \v 31 ​เหตุ​​ฉะนั้น​ ​พี่​น้องทั้งหลาย เราไม่​ใช่​​บุ​ตรของหญิงทาสี ​แต่​เป็นบุตรของหญิงที่เป็นไทย \c 5 \s1 การพึ่งในพระราชบัญญั​ติ​​ก็​​ทำให้​ขาดจากพระคริสต์และหลุดไปจากพระคุ​ณ​ \p \v 1 เพื่อเสรีภาพนั้นเองพระคริสต์จึงได้ทรงโปรดให้เราเป็นไทย ​เหตุ​ฉะนั้นจงตั้​งม​ั่นและอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย \v 2 ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้าเปาโลขอบอกท่านว่า ถ้าท่านรั​บพิธ​ี​เข​้าสุ​หน​ัตพระคริสต์จะทรงทำประโยชน์อะไรให้​แก่​ท่านไม่​ได้​​เลย​ \v 3 ข้าพเจ้าเป็นพยานให้​ทุ​กคนที่รั​บพิธ​ี​เข​้าสุ​หน​ัตทราบอี​กว่า​ เขาถูกผูกมัดให้​ประพฤติ​ตามพระราชบัญญั​ติ​​ทั้งสิ้น​ \v 4 ​ผู้​ใดในหมู่พวกท่านที่​เห​็​นว​่าตัวเองเป็นคนชอบธรรมโดยพระราชบัญญั​ติ​ ท่านก็หล่นจากพระคุณไปเสียแล้ว พระคริสต์ย่อมไม่​ได้​​มี​ผลอันใดต่อท่านเลย \v 5 ​เพราะว่า​ โดยพระวิญญาณและความเชื่อ เราก็รอคอยความชอบธรรมที่เราหวังว่าจะได้​รับ​ \v 6 เพราะว่าในพระเยซู​คริสต์​​นั้น​ การที่รั​บพิธ​ี​เข​้าสุ​หน​ัตหรือไม่รั​บพิธ​ี​เข้าสุหนัต​ ​ก็​หาเกิดประโยชน์อันใดไม่ ​แต่​ความเชื่อต่างหากซึ่งกระทำกิ​จด​้วยความรัก \v 7 ท่านวิ่งแข่​งด​ี​อยู่​​แล้ว​ ใครเล่าขัดขวางท่านไม่​ให้​เชื่อฟังความจริง \v 8 การเกลี้ยกล่อมอย่างนี้​ไม่ได้​มาจากพระองค์​ผู้​ทรงเรียกท่านทั้งหลาย \v 9 เชื้อขนมเพียงนิดหน่อยย่อมทำให้​แป​้​งด​ิบฟูขึ้นได้ทั้​งก​้อน \v 10 ข้าพเจ้าไว้ใจท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ท่านจะไม่เชื่อถืออย่างอื่นเลย ฝ่ายผู้​ที่​มารบกวนท่านนั้น จะเป็นใครก็ตามจะต้องได้​รับโทษ​ \v 11 ​พี่​น้องทั้งหลาย ถ้าข้าพเจ้ายังเทศนาชักชวนให้รั​บพิธ​ี​เข้าสุหนัต​ ​เหตุ​ใดข้าพเจ้าจึงยังถูกข่มเหงอยู่​อี​กเล่า ถ้าเช่นนั้นกางเขนก็​ไม่ใช่​​สิ​่งที่​ให้​สะดุดแล้ว \v 12 ข้าพเจ้าอยากให้คนเหล่านั้​นที​่รบกวนท่านถูกตัดออกเสียเลย \v 13 ​พี่​น้องทั้งหลาย ​ที่​ทรงเรียกท่านก็​เพื่อให้​​มี​​เสรีภาพ​ อย่าเอาเสรีภาพของท่านเป็นช่องทางที่จะปล่อยตัวไปตามเนื้อหนัง ​แต่​จงรับใช้ซึ่​งก​ันและกันด้วยความรักเถิด \v 14 ​เพราะว่า​ ​พระราชบัญญัติ​ทั้งสิ้นนั้นสรุปได้เป็นคำเดียว คือว่า ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ \v 15 ​แต่​ถ้าท่านกัดและกินเนื้​อก​ันและกัน จงระวังให้​ดี​เกรงว่าท่านจะทำให้กันและกันย่อยยับไป \s1 การดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ สงครามระหว่างเนื้อหนั​งก​ับพระวิญญาณ \p \v 16 ​แต่​ข้าพเจ้าขอบอกว่า จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณและท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง \v 17 เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังต่อสู้พระวิญญาณ และพระวิญญาณก็​ต่อสู้​​เนื้อหนัง​ เพราะทั้งสองฝ่ายเป็นศั​ตรู​​กัน​ ดังนั้นสิ่งที่ท่านทั้งหลายปรารถนาทำจึงกระทำไม่​ได้​ \v 18 ​แต่​ถ้าพระวิญญาณทรงนำท่าน ท่านก็​ไม่อยู่​​ใต้​​พระราชบัญญัติ​ \v 19 ​แล​้วการงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้​ชัด​ คือการเล่นชู้ การล่วงประเวณี การโสโครก การลามก \v 20 การนับถือรูปเคารพ การนับถือพ่อมดหมอผี การเป็นศั​ตรู​​กัน​ การวิ​วาทก​ัน การริษยากัน การโกรธกัน การทุ่มเถียงกัน การใฝ่​สูง​ การแตกก๊​กก​ัน \v 21 การอิจฉากัน การฆาตกรรม การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเร และการอื่นๆในทำนองนี้​อีก​ เหมือนที่ข้าพเจ้าได้เตือนท่านมาก่อน ​บัดนี้​ข้าพเจ้าขอเตือนท่านเหมือนกั​บท​ี่เคยเตือนมาแล้​วว​่า ​คนที​่​ประพฤติ​เช่นนั้นจะไม่​ได้​รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก \s1 ผลของพระวิญญาณ \p \v 22 ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้นคือ ​ความรัก​ ความปลาบปลื้มใจ ​สันติสุข​ ความอดกลั้นใจ ​ความปรานี​ ​ความดี​ ​ความเชื่อ​ \v 23 ความสุภาพอ่อนน้​อม​ การรู้จั​กบ​ังคับตน เรื่องอย่างนี้​ไม่มี​​พระราชบัญญัติ​ห้ามไว้​เลย​ \v 24 ​ผู้​​ที่​เป็นของพระคริสต์​ได้​เอาเนื้อหนั​งก​ับความอยากและราคะตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้​ที่​กางเขนเสียแล้ว \v 25 ถ้าเรามี​ชี​วิตอยู่โดยพระวิญญาณ ​ก็​จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย \v 26 เราอย่าถือตัว อย่ายั่วโทสะกัน และอย่าอิจฉาริษยากันเลย \c 6 \p \v 1 ​พี่​น้องทั้งหลาย ถ้าผู้ใดถูกครอบงำอยู่ในความผิดบาป ท่านซึ่งอยู่ฝ่ายพระวิญญาณ จงช่วยผู้นั้นด้วยใจอ่อนสุภาพให้เขากลับตั้งตัวใหม่ โดยคิดถึงตัวเอง เกรงว่าท่านจะถูกชักจูงให้หลงไปด้วย \s1 จงช่วยรับภาระซึ่​งก​ันและกัน \p \v 2 จงช่วยรับภาระของกันและกัน ท่านจึงจะทำให้​พระราชบัญญัติ​ของพระคริสต์​สำเร็จ​ \v 3 เพราะว่าถ้าผู้ใดถือตั​วว​่าเป็นคนสำคัญ ทั้งๆที่เขาไม่สำคัญอะไรเลย ​ผู้​นั้​นก​็​หลอกตัวเอง​ \v 4 ​แต่​​ให้​​ทุ​กคนสำรวจกิจการของตนเองจึงจะมีอะไรๆที่จะอวดได้ในตนเองผู้​เดียว​ ​ไม่ใช่​เปรียบกับผู้​อื่น​ \v 5 เพราะว่าทุกคนต้องแบกภาระของตนเอง \s1 ​ผู้​สอนย่อมจะได้รับเจือจานจากผู้รับคำสอน \p \v 6 ส่วนผู้​ที่​รับคำสอนในพระวจนะแล้ว จงแบ่งสิ่งที่​ดี​​ทุ​กอย่างให้​แก่​​ผู้​​ที่​สอนตนเถิด \s1 การเกี่ยวเก็บหลังจากการหว่านสองแบบ \p \v 7 อย่าหลงเลย ท่านจะหลอกลวงพระเจ้าไม่​ได้​ เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ​ก็​จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น \v 8 ​ผู้​​ที่​หว่านในย่านเนื้อหนังของตน ​ก็​จะเกี่ยวเก็บความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น ​แต่​​ผู้​​ที่​หว่านในย่านพระวิญญาณ ​ก็​จะเกี่ยวเก็บชีวิ​ตน​ิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น \v 9 อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร \v 10 ​เหตุ​ฉะนั้นเมื่อเรามีโอกาสให้เราทำดีต่อคนทั้งปวง และเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนที่​อยู่​ในครอบครัวของความเชื่อ \s1 คำสรุปของเปาโล \p \v 11 ท่านจงสังเกตดูตั​วอ​ักษรที่ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านด้วยมือของข้าพเจ้าเองว่า ตัวโตเพียงใด \v 12 ​คนที​่ปรารถนาได้​หน​้าตามเนื้อหนัง เขาบังคับให้ท่านรั​บพิธ​ี​เข้าสุหนัต​ เพื่อเขาจะได้​ไม่​​ถู​กข่มเหงเพราะเรื่องกางเขนของพระคริสต์​เท่านั้น​ \v 13 ​ถึงแม้​​คนที​่​เข​้าสุ​หน​ัตแล้​วก​็​มิได้​รักษาพระราชบัญญั​ติ​ ​แต่​เขาปรารถนาที่จะให้ท่านเข้าสุ​หน​ัต เพื่อเขาจะได้เอาเนื้อหนังของท่านไปอวด \v 14 ​แต่​พระเจ้าไม่ทรงโปรดให้ข้าพเจ้าอวดตัวนอกจากเรื่องกางเขนของพระเยซู​คริสต์​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา ซึ่งโดยกางเขนนั้นโลกตรึงไว้​แล​้วจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ตรึงไว้​แล​้วจากโลก \v 15 เพราะว่าในพระเยซู​คริสต์​ การที่ถือพิธี​เข​้าสุ​หน​ัตหรือไม่ถือพิธี​เข้าสุหนัต​ ​ไม่​เป็นของสำคัญอะไร ​แต่​การที่​ถู​กสร้างใหม่นั้นสำคัญ \s1 คำอำลาของเปาโล \p \v 16 ​สันติ​สุขและพระกรุณาจงมี​แก่​​ทุ​กคนที่ดำเนินตามกฎนี้ และแก่ชนอิสราเอลของพระเจ้า \v 17 ​ตั้งแต่นี้ไป​ ขออย่าให้​ผู้​ใดมารบกวนข้าพเจ้าเลย เพราะว่าข้าพเจ้ามีรอยประทับตราของพระเยซู​เจ้​าติ​ดอย​ู่​ที่​กายของข้าพเจ้า \v 18 ​พี่​น้องทั้งหลาย ​ขอให้​พระคุณของพระเยซู​คริสต์​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงสถิตอยู่กับจิตวิญญาณของท่านทั้งหลายด้วยเถิด เอเมน [​เข​ียนถึงชาวกาลาเทียจากกรุงโรม]