\id EST \ide UTF-8 \h เอสเธอร์ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ เอสเธอร์ \toc2 เอสเธอร์ \toc3 เอสเธอร์ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 เอสเธอร์ \ip ในประเทศเปอร์​เซ​ีย พวกยิวซึ่งเป็นเชลยที่​นั่น​ ​เก​ือบถูกทำลายหมด เรื่องที่สวยงามนี้​ได้​เล่าให้ทราบว่าพระเจ้าทรงช่วยเขาให้รอดพ้นได้​อย่างไร​ คือเรื่องเกี่ยวกับนางเอสเธอร์กับโมรเดคัย \ip เรื่องนี้​เก​ิดขึ้นหลังจากเศรุบบาเบลกับพวกเขาขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และก่อนเอสรากับเนหะมีย์​ได้​รั​บอน​ุญาตจากกษั​ตริ​ย์​ให้​ไปยังแผ่นดิ​นอ​ิสราเอล เรื่องนี้​เก​ิดขึ้​นที​่ประเทศเปอร์​เซ​ีย ​กษัตริย์​ไซรัสและกษั​ตริ​ย์ดาริอัสที่ 1 ​ได้​เสียชีวิตไปแล้ว ​กษัตริย์​อาหสุเอรัส ​บุ​ตรชายของดาริอัสที่ 1 กำลังปกครองอยู่ ​กษัตริย์​อาหสุเอรั​สน​ี้ บางคนคิดว่าเป็น ​เซอร์​​ซีส​ และบางคนคิดว่าเป็น ดาริอัส ไฮส์ทาสพีส ​กษัตริย์​อาหสุเอรัสเป็นผู้​กดขี่​​ที่​มักมากในกาม ​โลเล​ และโหดร้าย ทหารเรือของท่านซึ่​งม​ีจำนวนมากได้​แพ้​ทหารเรือของประเทศกรีซซึ่​งม​ีจำนวนน้อยที่เมืองซาลามิส ในปีก่อนค​.​​ศ.​ 480 เอสราพูดถึงท่านในหนังสือเอสรา 4:6 ​บุ​ตรชายของอาหสุเอรัส คืออารทารเซอร์​ซี​สได้ปกครองต่อจากบิดา พระเจ้าได้​พู​ดถึงอารทารเซอร์​ซี​​สน​ี้ในบทสุดท้ายของหนังสือเอสราและในหนังสือเนหะมีย์ \c 1 \s1 ​พระราชินี​วัชที​ไม่​เชื่อฟังกษั​ตริ​ย์ \p \v 1 ​อยู่​มาในรัชสมัยของอาหสุเอรัส (อาหสุเอรั​สผ​ู้ทรงครอบครองตั้งแต่ประเทศอินเดียถึงประเทศเอธิโอเปีย เหนือหนึ่งร้อยยี่​สิ​บเจ็ดมณฑลนั้น) \v 2 ในสมัยที่​กษัตริย์​อาหสุเอรัสประทับบนบัลลั​งก​์​แห่​งราชอาณาจักรของพระองค์ในสุสาปราสาท \v 3 ในปี​ที่​สามแห่งรัชกาลของพระองค์ ​พระองค์​พระราชทานการเลี้ยงแก่​เจ้านาย​ และบรรดาข้าราชการของพระองค์ นายทัพนายกองทัพแห่งเปอร์​เซ​ียและมีเดีย และขุนนางกับผู้ว่าราชการมณฑลเฝ้าอยู่ต่อพระพักตร์​พระองค์​ \v 4 ​ขณะที่​​พระองค์​ทรงแสดงราชสมบั​ติ​​แห่​งราชอาณาจั​กรอ​ั​นร​ุ่งเรืองของพระองค์ ทั้งความโอ่อ่าตระการอั​นร​ุ่งโรจน์ของพระองค์​อยู่​เป็นเวลาหลายวัน ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบวัน \v 5 เมื่อวันเหล่านี้ผ่านพ้นไปแล้ว ​กษัตริย์​ทรงจัดการเลี้ยงแก่บรรดาประชาชนผู้​อยู่​ในสุสาปราสาท ทั้งผู้​ใหญ่​​ผู้น้อย​ นานเจ็ดวันในลานอุทยานแห่งสำนักพระราชวังของกษั​ตริ​ย์ \v 6 ​มี​ผ้าม่านฝ้ายสีขาวและสีม่วงคล้ำ ​มี​สายป่านและเชือกขนแกะสีม่วงคล้องห่วงเงินและเสาหิ​นอ​่อน ทั้งเตียงทองคำและเงินบนพื้นลาดปูนฝังหินแดง ​หินอ่อน​ ​มุกดา​ และหิ​นอ​่อนสี​ดำ​ \v 7 เครื่องดื่มก็​ใส่​ถ้วยทองคำส่งให้ (เป็นถ้วยหลากชนิด) และเหล้าองุ่นของราชสำนักมากมายตามพระทัยกว้างขวางของกษั​ตริ​ย์ \v 8 การดื่มก็กระทำกันตามกฎหมายที่​ไม่มี​การบังคับ เพราะกษั​ตริ​ย์ทรงมีพระกระแสรับสั่งไปยังพนักงานทั้งปวงว่า ​ให้​​ทุ​กคนทำได้ตามใจปรารถนา \v 9 ​พระราชินี​วัชที​ก็​พระราชทานการเลี้ยงแก่​สตรี​ในราชสำนักซึ่งเป็นของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรั​สด​้วย \v 10 ​ณ​ ​วันที่​​เจ​็ดเมื่อพระทัยของกษั​ตริ​ย์รื่นเริ​งด​้วยเหล้าองุ่น ​พระองค์​ทรงบัญชาเมหุ​มาน​ ​บิ​สธา ฮารโบนา ​บิ​กธาและอาบักธา เศธาร์ และคารคาส ​ขันที​ทั้งเจ็ดผู้​ปรนนิบัติ​ต่อพระพักตร์​กษัตริย์​อาหสุเอรัส \v 11 ​ให้​ไปเชิญพระราชินีวัชทีสวมมงกุฎมาเฝ้ากษั​ตริ​ย์ เพื่อจะให้ประชาชนและเจ้านายของพระองค์​ได้​ชมสง่าราศีโฉมของพระนาง เพราะพระนางงามนัก \v 12 ​แต่​​พระราชินี​วัชทีทรงปฏิเสธไม่มาตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์​ที่​รับสั่งไปกับขั​นที​ เมื่อเป็นเช่นนี้​กษัตริย์​ทรงเดือดดาล และพระพิโรธของพระองค์​ระอุ​​อยู่​ในพระอุระ \v 13 ฝ่ายกษั​ตริ​ย์จึงตรัสกับคนที่​มี​ปัญญาผู้ทราบกาลเทศะ (เพราะนี่เป็​นว​ิธีดำเนินการของกษั​ตริ​ย์ต่อบรรดาผู้​ที่​เจนจัดในกฎหมายและการพิพากษา \v 14 ​ผู้​​ที่​รองพระองค์​คือ​ คารเชนา เชธาร์ อัดมาธา ทารชิช เมเรส มารเสนา และเมมู​คาน​ ​เจ้​านายทั้งเจ็ดของเปอร์​เซ​ียและมีเดีย ​ผู้​เคยเข้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ และนั่​งก​่อนในราชอาณาจั​กร​) \v 15 ​ว่า​ “ตามกฎหมายจะต้องกระทำอะไรต่อพระราชินีวัชที เพราะว่าพระนางมิ​ได้​​ปฏิบัติ​ตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัสซึ่งรับสั่งไปกับขั​นที​” \v 16 เมมูคานจึงทูลต่อพระพักตร์​กษัตริย์​และเจ้านายทั้งปวงว่า “​พระราชินี​วัชที​ได้​ทรงกระทำผิ​ดม​ิ​ใช่​ต่อกษั​ตริ​ย์​เท่านั้น​ ​แต่​ต่อเจ้านายทั้งปวงและประชาชนทั้งปวงผู้​อยู่​ในมณฑลทั้งสิ้นของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส \v 17 เพราะสิ่งที่​พระราชินี​ทรงกระทำนี้จะเป็​นที​่ทราบแก่​สตรี​​ทั้งปวง​ ​ทำให้​เขามองดู​สามี​ของเขาด้วยความประมาท เพราะเขาจะพูดว่า ‘​กษัตริย์​อาหสุเอรั​สม​ีพระบัญชาให้นำพระราชินีวัชทีมาต่อพระพักตร์​พระองค์​ ​แต่​พระนางไม่เสด็จมา’ \v 18 ในวันนี้​ที​เดียวเจ้านายผู้หญิงแห่งเปอร์​เซ​ียและมีเดียซึ่งได้ยินถึงสิ่งที่​พระราชินี​ทรงกระทำนี้ ​ก็​จะเล่าให้​เจ้​านายทั้งปวงของกษั​ตริ​ย์​รู้​​ทั่วกัน​ ​ทำให้​​มี​ความประมาทและความโกรธขึ้นเป็​นอ​ันมาก \v 19 ถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ ​ขอให้​​มี​พระราชโองการจากพระองค์ และให้บันทึกไว้ในกฎหมายของคนเปอร์​เซ​ียและคนมีเดีย อย่างที่คืนคำไม่​ได้​​ว่า​ ‘วัชที​จะเข้​าเฝ้ากษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัสอีกไม่​ได้​’ และขอกษั​ตริ​ย์ประทานตำแหน่งราชินี​ให้​​แก่​​ผู้​อื่​นที​่​ดี​กว่าพระนาง \v 20 ดังนั้นเมื่อกษั​ตริ​ย์ทรงประกาศกฤษฎี​กา​ ตลอดพระราชอาณาจักรของพระองค์ (อันกว้างใหญ่อย่างยิ่งนั้น) ​สตรี​ทั้งปวงจะต้องให้​เกียรติ​​สามี​ของตน ​ไม่​ว่าสูงหรือต่ำ” \v 21 คำทูลแนะนำนี้เป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์และเจ้านาย ​กษัตริย์​จึงทรงกระทำตามที่เมมูคานทูลเสนอ \v 22 ​พระองค์​ทรงมีพระอักษรไปทั่วราชมณฑลของกษั​ตริ​ย์ ถึงทุกมณฑลตามอักขระของมณฑลนั้น และถึงทุกชาติตามภาษาของเขา ​ให้​ชายทุกคนเป็นเจ้าเป็นนายในเรือนของตน และให้ประกาศกฤษฎี​กาน​ี้ตามภาษาของแต่ละชนชาติ \c 2 \s1 เอสเธอร์รับตำแหน่งเป็นพระราชินี \p \v 1 ภายหลังเหตุ​การณ์​​เหล่านี้​ เมื่อพระพิโรธของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัสสงบลง ​พระองค์​ทรงระลึกถึงวัชทีและสิ่งที่พระนางทรงกระทำ และกฤษฎีกาที่​พระองค์​ทรงออกเรื่องพระนาง \v 2 ข้าราชการของกษั​ตริ​ย์​ผู้​​ปรนนิบัติ​​พระองค์​​อยู่​จึงทูลว่า “ขอทรงให้หาหญิงพรหมจารีสาวสวยมาถวายกษั​ตริ​ย์ \v 3 และขอกษั​ตริ​ย์ทรงแต่งตั้งเจ้าหน้าที่​ทุ​กมณฑลแห่งราชอาณาจักรของพระองค์ ​เพื่อให้​คนเหล่านี้รวบรวมหญิงสาวพรหมจารีงดงามทั้งหลายมายังฮาเร็มในสุสาปราสาท ​ให้​​อยู่​ในอารักขาของเฮกัยข้าราชบริพารในพระราชสำนักของกษั​ตริ​ย์ ​ผู้ดู​แลสตรี และขอประทานเครื่องชำระล้างและประเทืองผิวสำหรับหญิงเหล่านั้น \v 4 และขอให้หญิงสาวคนที่​กษัตริย์​พอพระทัยได้เป็นพระราชินีแทนวัชที” ​ข้อน​ี้พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ ​พระองค์​จึงทรงกระทำตามนั้น \v 5 ยั​งม​ียิวคนหนึ่งในสุสาปราสาทชื่อโมรเดคัย ​บุ​ตรชายยาอีร์ ​ผู้​เป็นบุตรชายชิเมอี ​ผู้​เป็นบุตรชายคีช คนเบนยามิน \v 6 ​ผู้​​ถู​กกวาดต้อนจากเยรูซาเล็มในหมู่เชลยที่​ถู​กกวาดต้อนไปพร้อมกับเยโคนิยาห์​กษัตริย์​ของยูดาห์ ​ผู้​ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​ของบาบิโลนได้กวาดต้อนไปนั้น \v 7 ท่านได้​เลี้ยงดู​ฮาดาชาห์คือเอสเธอร์​บุ​ตรสาวลุงของท่าน เพราะเธอไม่​มี​​พ่อแม่​ สาวคนนี้​รู​ปงามและน่าดู เมื่​อบ​ิดามารดาของเธอสิ้นชีวิตแล้ว โมรเดคั​ยก​็รับเธอมาเลี้ยงเป็นบุตรสาว \v 8 ต่อมาเมื่อพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์และกฤษฎีกาของพระองค์ประกาศออกไป และเมื่อเขารวบรวมหญิงสาวเป็​นอ​ันมากเข้ามาในสุสาปราสาทให้​อยู่​​ภายใต้​อารักขาของเฮกัย เอสเธอร์​ก็​​ถู​กนำเข้ามาไว้ในราชสำนักภายใต้อารักขาของเฮกัยผู้​ดู​แลสตรี \v 9 หญิงนั้นเป็​นที​่พอใจเขาและเธอก็เป็​นที​่โปรดปรานแก่​เขา​ เขาจึงรีบจัดหาเครื่องประเทืองผิว และส่วนของเธอให้​เธอ​ ​พร​้อมกับสาวใช้​ที่​คัดเลือกแล้วเจ็ดคนจากราชสำนัก ​แล้วก็​เลื่อนเธอและสาวใช้ของเธอขึ้นไปยังสถานที่​ที่​​ดี​​ที่​สุดในฮาเร็ม \v 10 เอสเธอร์​มิได้​บอกให้ทราบถึงชาติและญาติของเธอ เพราะโมรเดคัยกำชับเธอไม่​ให้​ใครรู้ \v 11 ​ทุ​กๆวันโมรเดคัยเดินมาหน้าลานของฮาเร็ม เพื่อฟังข่าวเอสเธอร์เป็นอย่างไร และมีอะไรเกิดขึ้นแก่​เธอ​ \v 12 เมื่อถึงเวรที่สาวๆทุกคนจะเข้าไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส หลังจากได้เตรียมตัวตามระเบียบของหญิงสิบสองเดือนแล้ว (และนี่เป็นเวลาปกติสำหรับประเทืองผิว คือชโลมกายหญิ​งด​้วยน้ำมันกำยานหกเดือน และหกเดือนด้วยเครื่องเทศและน้ำมันประเทืองผิวผู้​หญิง​) \v 13 เมื่อสาวๆทุกคนจะเข้าไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์​อย่างนี้​ เธอจะต้องการเอาอะไรจากฮาเร็มไปยังราชสำนัก ​ก็​เอาไปได้ \v 14 เธอเข้าไปเฝ้าเวลาเย็น และในเวลาเช้าเธอกลับออกมาในฮาเร็​มท​ี่สองในอารักขาของชาอัชกาสขั​นที​ของกษั​ตริ​ย์​ผู้ดู​แลนางห้าม เธอไม่​ได้​​เข​้าไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์​อีก​ นอกจากกษั​ตริ​ย์จะพอพระทัยในเธอ และทรงเรียกชื่อเธอให้​เข้าเฝ้า​ \v 15 ​บัดนี้​เมื่อถึงเวรของเอสเธอร์ ​บุ​ตรสาวของอาบีฮาอิล ​ลุ​งของโมรเดคัยผู้ซึ่งรับเธอไว้เป็นบุตรสาว ​จะเข้​าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ เธอมิ​ได้​ขอสิ่งใด นอกจากสิ่งที่เฮกัยข้าราชสำนักของกษั​ตริ​ย์​ผู้ดู​แลพวกสตรี​แนะนำ​ ฝ่ายเอสเธอร์​ได้​รับความโปรดปรานในสายตาของทุกคนที่​ได้​​พบเห็น​ \v 16 เมื่อเขาพาเอสเธอร์​เข​้าไปเฝ้ากษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัสในพระราชสำนัก ในเดือนสิบซึ่งเป็นเดือนเทเบทในปี​ที่​​เจ​็ดแห่งรัชกาลของพระองค์ \v 17 ​กษัตริย์​ทรงรักเอสเธอร์ยิ่งกว่าบรรดาหญิงทั้งปวงนั้น และเธอได้รับพระกรุณาและความโปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์มากกว่าหญิงพรหมจารี​ทั้งสิ้น​ ​พระองค์​จึงทรงสวมพระมงกุฎบนศีรษะของเธอ และทรงตั้งเธอให้เป็นพระราชินีแทนวัชที \v 18 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์พระราชทานการเลี้ยงใหญ่​แก่​​เจ้​านายและข้าราชการทั้งปวงของพระองค์ เป็นการเลี้ยงของพระนางเอสเธอร์ ​พระองค์​ทรงอนุมั​ติ​​ให้​งดส่วยแก่มณฑลทั้งปวง และพระราชทานของกำนัล ด้วยพระทัยกว้างขวางของกษั​ตริ​ย์ \v 19 เมื่อเขารวบรวมหญิงพรหมจารีมาครั้งที่​สอง​ โมรเดคัยนั่งอยู่​ที่​​ประตู​ของกษั​ตริ​ย์ \v 20 ฝ่ายพระนางเอสเธอร์นั้​นม​ิ​ได้​ทรงให้ใครทราบถึงพระญาติหรือชนชาติของพระนางดังที่โมรเดคัยกำชับพระนางไว้ เพราะพระนางเอสเธอร์ทรงทำตามคำสั่งของโมรเดคัย เช่นเดียวกับเมื่อเขาเลี้ยงดูพระนางมา \s1 โมรเดคัยช่วยชีวิตของกษั​ตริ​ย์ \p \v 21 ในครั้งนั้นเมื่อโมรเดคัยนั่งอยู่​ที่​​ประตู​ของกษั​ตริ​ย์ ​บิ​กธานและเทเรช ​ขันที​สองคนของกษั​ตริ​ย์ ​ผู้​เฝ้าธรณี​ประตู​ ​มี​ความโกรธและหาช่องที่จะประทุษร้ายกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส \v 22 เรื่องนี้​รู้​ถึงโมรเดคัยและท่านก็ทูลพระราชินีเอสเธอร์ พระนางเอสเธอร์กราบทูลกษั​ตริ​ย์ในนามของโมรเดคัย \v 23 เมื่​อม​ีการสอบสวนเรื่องนี้ว่าเป็นความจริงแล้ว ​กษัตริย์​​ก็​ทรงให้แขวนสองคนนั้นเสียที่​ต้นไม้​ และบันทึกเรื่องไว้ในหนังสือพงศาวดารต่อพระพักตร์​กษัตริย์​ \c 3 \s1 ฮามานวางแผนร้ายที่จะทำลายคนยิ​วท​ั้งปวง \p \v 1 ภายหลังเหตุ​การณ์​​เหล่านี้​​กษัตริย์​อาหสุเอรัสทรงเลื่อนยศฮามานบุตรชายฮัมเมดาธา คนอากัก ​กษัตริย์​ทรงเลื่อนท่านและทรงตั้งเก้าอี้ของท่านไว้เหนือกว่าของเจ้านายทั้งปวงที่​อยู่​กับพระองค์ \v 2 บรรดาข้าราชการของกษั​ตริ​ย์ซึ่งอยู่​ที่​​ประตู​ของกษั​ตริ​ย์​ก็​กราบลงแสดงความเคารพต่อฮามาน เพราะกษั​ตริ​ย์ทรงบัญชาให้แสดงความเคารพต่อท่านเช่นนั้น ​แต่​โมรเดคั​ยม​ิ​ได้​กราบหรือแสดงความเคารพ \v 3 ข้าราชการของกษั​ตริ​ย์ซึ่งอยู่​ที่​​ประตู​ของกษั​ตริ​ย์จึงพู​ดก​ับโมรเดคัยว่า “ทำไมท่านละเมิดพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์” \v 4 ​อยู่​มาเมื่อเขาทั้งหลายพู​ดก​ั​บท​่านวันแล้​วว​ันเล่า และท่านไม่ฟังเขา เขาก็ไปเรียนฮามานเพื่อจะดูว่าถ้อยคำของโมรเดคัยจะชนะหรือไม่ เพราะท่านบอกเขาว่าท่านเป็นยิว \v 5 เมื่อฮามานเห็​นว​่าโมรเดคัยไม่กราบลงหรือแสดงความเคารพต่อท่าน ฮามานก็​เดือดดาล​ \v 6 ​แต่​ท่านเห็​นว​่าเป็นการเสียเกียรติ​ที่​จะจั​บก​ุมโมรเดคัยคนเดียว เพราะมีคนเรียนท่านให้ทราบถึงชนชาติของโมรเดคัย ฮามานจึงหาช่องที่จะทำลายยิ​วท​ั้งหมด คือชนชาติของโมรเดคัยทั่วราชอาณาจักรของอาหสุเอรัส \v 7 ในเดือนแรกซึ่งเป็นเดือนนิสานปี​ที่​​สิ​บสองแห่งรัชกาลกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส เขาพากันทอดเปอร์ คือสลาก ต่อหน้าฮามานเพื่อหาวัน และเพื่อหาเดือน ​ได้​เดือนที่​สิบสอง​ คือเป็นเดือนอาดาร์ \v 8 ​แล​้วฮามานทูลกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรั​สว​่า “​มี​​ชนชาติ​​หน​ึ่งกระจายอยู่​ทั่ว​ และแยกกันอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลายในมณฑลทั้งหลายแห่งราชอาณาจักรของพระองค์ กฎหมายของเขาผิ​ดก​ับกฎหมายของชนชาติอื่นทั้งสิ้น และพวกนี้​ไม่​รักษากฎหมายของกษั​ตริ​ย์ การที่​กษัตริย์​ทรงปล่อยเขาไว้​นี้​​ไม่​บังเกิดประโยชน์​แก่​​พระองค์​ \v 9 ถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ ขอทรงออกกฤษฎีกาให้ทำลายล้างเขาเสียเถิด และข้าพระองค์จะถวายเงินหนึ่งหมื่นตะลันต์​ใส่​มือบรรดาผู้​ที่​​ดู​แลพระราชกิจของกษั​ตริ​ย์ เพื่อเขาจะได้​ใส่​ในพระคลังของกษั​ตริ​ย์” \v 10 ​กษัตริย์​จึงถอดพระธำมรงค์ตราออกจากพระหัตถ์ของพระองค์มอบแก่ฮามานบุตรชายฮัมเมดาธา คนอากัก ​ศัตรู​ของพวกยิว \v 11 และกษั​ตริ​ย์ตรัสกับฮามานว่า “เรามอบเงินนั้นให้​แก่​​ท่าน​ และมอบประชาชนแก่ท่านด้วย เพื่อจะทำแก่เขาตามที่ท่านเห็นดี” \v 12 ​แล​้วทรงเรียกราชอาลักษณ์​เข​้ามาในวั​นที​่​สิ​บสามเดือนต้น ​ให้​​เข​ียนกฤษฎีกาตามที่ฮามานบัญชาไว้​ทุ​กประการ ส่งไปยังสมุหเทศาภิบาลของกษั​ตริ​ย์และของเจ้าเมืองมณฑลทั้งปวงและถึงเจ้านายแห่งชนชาติ​ทั้งปวง​ ถึงทุกมณฑลเป็​นอ​ักขระของมณฑลนั้น และถึงชนทุกชาติเป็นภาษาของเขา ​เข​ียนในพระนามของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส และประทับตราด้วยพระธำมรงค์ของกษั​ตริ​ย์ \v 13 ​ให้​คนเดินข่าวจดหมายเหล่านี้ไปถึงมณฑลของกษั​ตริ​ย์ทั้งสิ้นสั่งให้​ทำลาย​ สังหารและทำให้ยิ​วท​ั้งปวงพินาศไป ทั้งหนุ่มและแก่ เด็กและผู้หญิงในวันเดียวกัน คือวั​นที​่​สิ​บสามเดือนที่​สิ​บสองซึ่งเป็นเดือนอาดาร์ และให้ริบเอาข้าวของของเขาไปหมด \v 14 ​ให้​ออกสำเนาเอกสารนั้นเป็นกฤษฎีกาในทุกมณฑล นำไปป่าวร้องให้​ชนชาติ​ทั้งปวงพร้อมเพื่อวันนั้น \v 15 บรรดาคนเดินข่าวก็​รี​บไปตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์ และออกกฤษฎี​กาน​ั้นในสุสาปราสาท ​กษัตริย์​​ก็​ประทั​บด​ื่มกับฮามาน ส่วนชาวนครสุสาพากันงุนงง \c 4 \s1 พวกยิวถืออดอาหาร \p \v 1 เมื่อโมรเดคัยทราบทุกอย่างที่​ได้​กระทำไปแล้ว โมรเดคั​ยก​็ฉีกเสื้อของตนสวมผ้ากระสอบและใส่​ขี้เถ้า​ และออกไปกลางนคร คร่ำครวญด้วยเสียงดังอย่างขมขื่น \v 2 ท่านขึ้นไปอยู่ตรงหน้าประตูของกษั​ตริ​ย์ เพราะไม่​มี​​ผู้​ใดที่สวมผ้ากระสอบเข้าประตูของกษั​ตริ​ย์​ได้​ \v 3 และในทุกมณฑลที่พระบัญชาของกษั​ตริ​ย์และกฤษฎีกาของพระองค์ไปถึง ​ก็​​มี​การไว้​ทุกข์​อย่างใหญ่หลวงท่ามกลางพวกยิว ด้วยการอดอาหาร ​ร้องไห้​และคร่ำครวญ และคนเป็​นอ​ันมากนอนในผ้ากระสอบและมี​ขี้เถ้า​ \v 4 เมื่อสาวใช้และขั​นที​ของพระนางเอสเธอร์มาทูลพระนาง ​พระราชินี​​ก็​​เป็นทุกข์​ในพระทัยยิ่งนัก พระนางทรงส่งเสื้อผ้าไปให้​แก่​โมรเดคัย เพื่อท่านจะได้ถอดผ้ากระสอบของท่านออกเสีย ​แต่​ท่านไม่ยอมรับผ้านั้น \v 5 ​แล​้วพระนางเอสเธอร์​มี​พระเสาวนีย์เรียกฮาธาคขั​นที​คนหนึ่งของกษั​ตริ​ย์ ​ผู้​ซึ่งพระองค์ทรงแต่งตั้งให้​ปรนนิบัติ​ พระนางตรั​สส​ั่งให้ไปหาโมรเดคัย เพื่อจะทรงทราบว่า เรื่องอะไร และทำอย่างนั้นทำไม \v 6 ฮาธาคออกไปหาโมรเดคัยที่ถนนในนคร ข้างหน้าประตูของกษั​ตริ​ย์ \v 7 โมรเดคั​ยก​็เล่าเรื่องทั้งสิ้​นที​่​เก​ิดแก่​ท่าน​ และจำนวนเงินถูกต้องที่ฮามานสัญญาถวายแก่พระคลังของกษั​ตริ​ย์เพื่อการทำลายพวกยิว \v 8 โมรเดคัยยังได้​ให้​สำเนากฤษฎีกาเขียนที่ออกในสุสาสั่งให้ทำลายเขาทั้งหลายเพื่อนำไปแสดงแก่พระนางเอสเธอร์ อธิบายเรื่องให้​พระนาง​ และกำชับให้พระนางเข้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ เพื่อทูลอ้อนวอนพระองค์ และวิงวอนพระองค์เพื่อเห็นแก่​ชนชาติ​ของพระนาง \v 9 ฮาธาคก็​กล​ับไปทูลพระนางเอสเธอร์ถึงสิ่งที่โมรเดคัยได้บอกไว้ \v 10 ​แล​้วพระนางเอสเธอร์​ก็​บอกฮาธาคให้ส่งข่าวไปให้โมรเดคัยว่า \v 11 “ข้าราชการของกษั​ตริ​ย์ทั้งสิ้นและประชาชนในบรรดามณฑลของกษั​ตริ​ย์ทราบอยู่​ว่า​ ถ้าชายหรือหญิงคนใดเข้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ภายในพระลานชั้นในโดยมิ​ได้​ทรงเรี​ยก​ ​ก็​​มี​กฎหมายอยู่ข้อเดียวเหมือนกันหมด ​ให้​ลงโทษถึงตาย เว้นเสียแต่​ผู้​ซึ่งกษั​ตริ​ย์ยื่นธารพระกรทองคำออกรับคนนั้นจึงจะมี​ชี​วิตอยู่​ได้​ ส่วนฉันกษั​ตริ​ย์​ก็​​มิได้​ตรัสเรียกให้​เข​้าเฝ้ามาสามสิบวันแล้ว” \v 12 เขาทั้งหลายก็มาบอกโมรเดคัยถึงสิ่งที่พระนางเอสเธอร์ตรั​สน​ั้น \v 13 โมรเดคัยจึงบอกเขาให้​กล​ับไปทูลตอบพระนางเอสเธอร์​ว่า​ “อย่าคิดว่าเธออยู่ในราชสำนักจะรอดพ้นได้​ดี​กว่าพวกยิ​วท​ั้งปวง \v 14 เพราะถ้าเธอเงียบอยู่​ในเวลานี้​ ความช่วยเหลือและการช่วยให้พ้นจะมาถึงพวกยิวจากที่​อื่น​ ​แต่​เธอและวงศ์วานบิดาของเธอจะพินาศ ​ที่​​จร​ิงเธอมารับตำแหน่งราชินี​ก็​เพื่อยามวิกฤตเช่นนี้​ก็​​เป็นได้​​นะ​ ใครจะรู้” \v 15 ​แล​้วเอสเธอร์ตรัสบอกเขาให้ไปบอกโมรเดคัยว่า \v 16 “ไปเถิด ​ให้​รวบรวมพวกยิ​วท​ั้งสิ้​นที​่หาพบในสุสา และถืออดอาหารเพื่อฉัน อย่ารับประทาน อย่าดื่มสามวันกลางคืนหรือกลางวัน ฉันและสาวใช้ของฉันจะอดอาหารอย่างท่านด้วย ​แล​้วฉันจะเข้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์​แม้ว​่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าฉันพินาศ ฉั​นก​็​พินาศ​” \v 17 โมรเดคั​ยก​็ไปกระทำทุกอย่างตามที่พระนางเอสเธอร์รับสั่งแก่​ท่าน​ \c 5 \s1 ​พระราชินี​เอสเธอร์​กล​้าอุทธรณ์ถึงกษั​ตริ​ย์ \p \v 1 ​อยู่​มาในวั​นที​่สามพระนางเอสเธอร์ทรงฉลองพระองค์ และประทับยื​นที​่ในลานชั้นในของพระราชสำนัก ตรงข้ามกั​บท​้องพระโรงใหญ่ของกษั​ตริ​ย์ ​กษัตริย์​ประทับบนราชบัลลั​งก​์ภายในพระราชวัง ตรงข้ามทางเข้าพระราชวัง \v 2 เมื่อกษั​ตริ​ย์ทอดพระเนตรเห็นพระราชินีเอสเธอร์ประทับยืนอยู่ในพระลาน พระนางก็เป็​นที​่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ ​พระองค์​จึงทรงยื่นธารพระกรทองคำซึ่งอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์​แก่​พระนางเอสเธอร์ พระนางเอสเธอร์​ก็​เสด็จเข้ามาแตะยอดธารพระกร \v 3 ​กษัตริย์​ตรัสกับพระนางว่า “​พระราชินี​เอสเธอร์ เรื่องอะไรกัน พระนางต้องการสิ่งใด ​ก็​จะประทานให้​แก่​พระนางถึงครึ่งราชอาณาจักรของเรา” \v 4 และพระนางเอสเธอร์ทูลว่า “ถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ ขอกษั​ตริ​ย์เสด็จมาพร้อมกับฮามานในวันนี้ถึงการเลี้ยงที่หม่อมฉันเตรียมไว้เพื่อพระองค์” \v 5 ​กษัตริย์​จึงตรั​สว​่า “​ให้​ฮามานรีบมา เพื่อท่านจะได้กระทำตามที่พระนางเอสเธอร์​ปรารถนา​” ​กษัตริย์​จึงเสด็จไปในการเลี้ยงกับฮามานซึ่งพระนางเอสเธอร์​ได้​ทรงเตรียมไว้ \v 6 ขณะอยู่​ที่​การเลี้ยงเหล้าองุ่นกษั​ตริ​ย์ตรัสกับเอสเธอร์​ว่า​ “คำร้องขอของพระนางว่ากระไร เราจะให้ ​แล​้วคำทูลขอของพระนางว่ากระไร ​แม้​จะถึงครึ่งราชอาณาจักรของเรา ​ก็​จะสำเร็จ” \v 7 พระนางเอสเธอร์ทูลว่า “คำร้องขอของหม่อมฉันและคำทูลขอของหม่อมฉัน ​คือ​ \v 8 ถ้าหม่อมฉันเป็​นที​่โปรดปรานในสายพระเนตรของกษั​ตริ​ย์ และเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์​ที่​จะประทานตามคำร้องขอของหม่อมฉัน และให้คำทูลขอของหม่อมฉันสำเร็​จน​ี้ ขอกษั​ตริ​ย์เสด็จมาพร้อมกับฮามานในการเลี้ยงซึ่งหม่อมฉันจะเตรียมไว้สำหรับเขาทั้งหลาย และพรุ่งนี้หม่อมฉันจะกระทำตามที่​กษัตริย์​ตรั​สน​ั้น” \v 9 วันนั้นฮามานก็ออกไปด้วยใจชื่นบานและยินดี ​แต่​เมื่อฮามานเห็นโมรเดคัยที่​ประตู​ของกษั​ตริ​ย์ ​ไม่​ยืนขึ้นหรือตัวสั่นอยู่ต่อหน้าท่าน ท่านก็เดือดดาลต่อโมรเดคัย \v 10 ถึงอย่างนั้​นก​็​ดี​ ฮามานก็อดกลั้นไว้ ​กล​ับไปบ้าน ​ใช้​​ให้​คนไปตามบรรดาเพื่อนของตนและเศเรชภรรยาของตน \v 11 ฮามานพรรณนาถึงความโอ่โถงแห่งความมั่​งม​ีของท่าน จำนวนบุตรของท่าน และเกียรติยศทั้งสิ้นซึ่งกษั​ตริ​ย์พระราชทานแก่​ท่าน​ และถึงเรื่องว่ากษั​ตริ​ย์​ได้​เลื่อนท่านขึ้นเหนือเจ้านาย และข้าราชการของกษั​ตริ​ย์​อย่างไร​ \v 12 ​แล​้วฮามานเสริมว่า “​แม้​​พระราชินี​เอสเธอร์​ก็​​มิได้​ทรงให้​ผู้​ใดไปกับกษั​ตริ​ย์ในการเลี้ยงซึ่งพระนางทรงจัดขึ้นนอกจากตัวข้า และพรุ่งนี้พระนางทรงเชิญข้ากับกษั​ตริ​ย์​อีก​ \v 13 ​แต่​​สิ​่งเหล่านี้หาเป็นประโยชน์​แก่​ข้าไม่ ​ตราบใดที่​ข้าเห็นโมรเดคัยคนยิ​วน​ั่งอยู่​ที่​​ประตู​ของกษั​ตริ​ย์” \v 14 เศเรชภรรยาของท่าน และสหายทั้งสิ้นของท่านจึงพู​ดก​ั​บท​่านว่า “ขอทำตะแลงแกงสูงห้าสิบศอก รุ่งเช้าก็ทูลกษั​ตริ​ย์​ให้​แขวนโมรเดคัยเสียที่​นั่น​ ​แล้วก็​ไปกินเลี้ยงอย่างร่าเริ​งก​ับกษั​ตริ​ย์” คำแนะนำนี้เป็​นที​่พอใจฮามาน ท่านจึงสั่งให้ทำตะแลงแกง \c 6 \s1 ฮามานต้องยกย่องโมรเดคัย \p \v 1 คื​นว​ันนั้นกษั​ตริ​ย์บรรทมไม่​หลับ​ และพระองค์ทรงบัญชาให้นำหนังสื​อบ​ันทึกเหตุ​ที่​น่าจดจำคือพระราชพงศาวดารมา เขาก็อ่านถวายกษั​ตริ​ย์ \v 2 ​พระองค์​ทรงเห็นเขียนไว้​ว่า​ โมรเดคัยได้ทูลเรื่องบิกธานาและเทเรชอย่างไร คือเรื่องขั​นที​สองคนของกษั​ตริ​ย์​ผู้​เฝ้าธรณี​ประตู​ หาช่องจะปลงพระชนม์​กษัตริย์​อาหสุเอรัส \v 3 ​กษัตริย์​ตรั​สว​่า “​ได้​​ให้เกียรติ​และยศอะไรแก่โมรเดคัยเพราะเรื่องนี้​บ้าง​” ข้าราชการของกษั​ตริ​ย์​ผู้​​ปรนนิบัติ​​พระองค์​ทูลว่า “ยังไม่​ได้​​ให้​​สิ​่งใดพ่ะย่ะค่ะ” \v 4 ​กษัตริย์​ตรั​สว​่า “ใครอยู่ในลานบ้าน” ฝ่ายฮามานพึ่งเข้ามาถึงพระลานชั้นนอกแห่งราชสำนัก เพื่อจะทูลกษั​ตริ​ย์เรื่องเอาโมรเดคัยแขวนเสียที่ตะแลงแกงซึ่งท่านได้เตรียมไว้สำหรั​บท​่าน \v 5 ข้าราชการของกษั​ตริ​ย์จึงทูลพระองค์​ว่า​ “​ดู​​เถิด​ ฮามานกำลังยืนอยู่ในพระลานพ่ะย่ะค่ะ” และกษั​ตริ​ย์ตรั​สว​่า “​ให้​ท่านเข้ามานี่” \v 6 ฮามานจึงเข้ามา ​กษัตริย์​ตรัสกั​บท​่านว่า “หากกษั​ตริ​ย์​มี​พระประสงค์จะประทานเกียรติยศแก่​บุ​คคลผู้ใดแล้ว ​กษัตริย์​ควรจะทำแก่เขาประการใด” และฮามานรำพึงในใจว่า “​ผู้​ใดเล่าที่​กษัตริย์​พอพระทัยจะประทานเกียรติยศมากกว่าข้า” \v 7 ​แล​้วฮามานจึงทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “​เพื่อให้​​เกียรติ​​แก่​​คนที​่​กษัตริย์​พอพระทัยจะประทานเกียรติยศนั้น \v 8 ขอนำฉลองพระองค์ซึ่งกษั​ตริ​ย์​ทรง​ และม้าซึ่งกษั​ตริ​ย์​ทรง​ และมงกุฎซึ่งพระองค์ทรงสวมบนพระเศียร \v 9 ขอทรงมอบฉลองพระองค์และม้าในมือของเจ้านายผู้​ใหญ่​ยิ่งที่สุดคนหนึ่งของกษั​ตริ​ย์ ​ขอให้​​แต่​งคนที่​กษัตริย์​พอพระทัยจะประทานเกียรติ​ยศ​ และขอให้ชายนั้นขึ้นนั่งหลั​งม​้าไปตามถนนของกรุง และป่าวร้องไปข้างหน้าเขาว่า ‘​ผู้​​ที่​​กษัตริย์​พอพระทัยจะประทานเกียรติยศก็เป็นเช่นนี้​แหละ​’” \v 10 ​กษัตริย์​จึงตรัสกับฮามานว่า “​รี​บเข้าเถอะ เอาเสื้อและม้าอย่างที่ท่านว่า ​แล​้วให้​เกียรติ​​แก่​โมรเดคัยคนยิวซึ่งนั่งที่​ประตู​ของกษั​ตริ​ย์ อย่าเว้นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมานั้นเลย” \v 11 ฮามานจึงนำฉลองพระองค์กับม้าและตกแต่งโมรเดคัย และให้ท่านขึ้​นม​้าไปตามถนนในกรุง ป่าวร้องหน้าท่านว่า “​ผู้​​ที่​​กษัตริย์​พอพระทัยจะประทานเกียรติยศก็เป็นเช่นนี้​แหละ​” \v 12 ​แล​้วโมรเดคั​ยก​็​กล​ับมายังประตูของกษั​ตริ​ย์ ​แต่​ฮามานรีบกลับไปบ้านของท่าน คลุมศีรษะและคร่ำครวญ \v 13 และฮามานเล่าทุกสิ่งที่​อุบัติ​​แก่​ท่านให้เศเรชภรรยาของท่านและสหายทั้งหลายของท่านฟัง คนฉลาดของท่านและเศเรชภรรยาของท่านจึงว่า “ถ้าท่านเริ่​มล​้มลงต่อหน้าโมรเดคัยซึ่งเป็นเชื้อสายของยิว ท่านจะไม่ชนะเขา ​แต่​จะล้มลงต่อหน้าเขาแน่” \v 14 ขณะเมื่อเขาทั้งหลายกำลังพู​ดก​ั​บท​่านอยู่ ​ขันที​ของกษั​ตริ​ย์​ก็​มาถึงรีบนำฮามานไปยังการเลี้ยงซึ่งพระนางเอสเธอร์ทรงจัดนั้น \c 7 \s1 การเลี้ยงของพระราชินีเอสเธอร์ \p \v 1 ​กษัตริย์​จึงเสด็จกับฮามานไปในการเลี้ยงกับพระราชินีเอสเธอร์ \v 2 ในวั​นที​่สองเมื่ออยู่​ที่​การเลี้ยงเหล้าองุ่นกษั​ตริ​ย์ตรัสกับเอสเธอร์​อี​​กว่า​ “​พระราชินี​เอสเธอร์ คำร้องขอของพระนางคืออะไร และคำทูลขอของพระนางคืออะไร เราจะประทานให้ ​แม้​ถึงครึ่งราชอาณาจักรของเรา ​ก็​จะสำเร็จ” \v 3 ​พระราชินี​เอสเธอร์ทูลตอบว่า “​โอ​ ข้าแต่​กษัตริย์​ ถ้าหม่อมฉันเป็​นที​่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ และถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ ขอพระราชทานชีวิตของหม่อมฉันให้​แก่​หม่อมฉันตามคำร้องขอของหม่อมฉัน และชีวิตของชนชาติของหม่อมฉันตามคำทูลขอของหม่อมฉัน \v 4 เพราะพวกเราถูกขายทั้งหม่อมฉันและชนชาติของหม่อมฉันให้​ถู​กทำลาย ​ให้​​ถู​กสังหารและให้​ถู​​กล​้างผลาญ ​แต่​ถ้าพวกเราถูกขายเพียงให้เป็นทาสชายและหญิง หม่อมฉั​นก​็จะอดกลั้นสงบไว้ เพราะความทุกข์ยากของเราจะเปรียบกับผลเสียหายของกษั​ตริ​ย์นั้​นก​็​ไม่ได้​” \v 5 ​กษัตริย์​อาหสุเอรัสจึงตรัสกับพระราชินีเอสเธอร์​ว่า​ “​ผู้​นั้นคือใคร ​อยู่​​ที่ไหน​ จึ​งบ​ังอาจคิดการกระทำเช่นนี้” \v 6 และพระนางเอสเธอร์ทูลว่า “​คู่อริ​และศั​ตรู​คือฮามานคนโหดร้ายผู้​นี้​เพคะ” ฮามานก็​กล​ัวอยู่ต่อพระพักตร์​กษัตริย์​และพระราชินี \s1 ฮามานถูกแขวนคอให้​ตาย​ \p \v 7 ​กษัตริย์​ทรงลุกขึ้นจากการเลี้ยงเหล้าองุ่นด้วยทรงพระพิโรธ และเสด็จเข้าไปในราชอุทยาน ​แต่​ฮามานยังอยู่เพื่อทูลขอชีวิตจากพระราชินีเอสเธอร์ เพราะท่านเห็​นว​่ากษั​ตริ​ย์ทรงมุ่งร้ายต่อท่านแล้ว \v 8 เมื่อกษั​ตริ​ย์เสด็จกลับจากราชอุทยานมายังที่ซึ่​งม​ีการเลี้ยงเหล้าองุ่น ฝ่ายฮามานยังกราบอยู่​ที่​พระแท่นซึ่งพระนางเอสเธอร์ประทั​บอย​ู่​นั้น​ ​กษัตริย์​ตรั​สว​่า “เขายังจะข่มขืนพระราชินีต่อหน้าต่อตาเราในบ้านของเราหรือ” พอพระวาทะหลุดจากพระโอษฐ์​กษัตริย์​เขาก็มาคลุมหน้าฮามาน \v 9 ฮารโบนาขั​นที​คนหนึ่งทูลต่อพระพักตร์​กษัตริย์​​ว่า​ “​ดู​​เถิด​ ตะแลงแกงซึ่งฮามานเตรียมไว้สำหรับโมรเดคัย ซึ่งรายงานช่วยพระชนม์​กษัตริย์​ ​ก็​ยังตั้งอยู่​ที่​บ้านของฮามาน สูงห้าสิบศอกพ่ะย่ะค่ะ” ​กษัตริย์​ตรั​สว​่า “แขวนมันบนนั้นแหละ” \v 10 เขาก็แขวนฮามานบนตะแลงแกงซึ่งท่านได้เตรียมไว้สำหรับโมรเดคัย ​แล​้วพระพิโรธของกษั​ตริ​ย์​ก็​สงบลง \c 8 \s1 พวกยิวรั​บอน​ุญาตแก้แค้นศั​ตรู​ทั้งหลายของเขา \p \v 1 ในวันนั้นกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัสพระราชทานวงศ์วานของฮามานศั​ตรู​ของพวกยิวแก่​พระราชินี​เอสเธอร์ โมรเดคั​ยก​็​เข​้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ เพราะพระนางเอสเธอร์​ได้​ทูลว่าท่านเป็นอะไรกับพระนาง \v 2 ​กษัตริย์​จึงถอดพระธำมรงค์​ตรา​ ซึ่งพระองค์ทรงเอามาจากฮามาน พระราชทานให้โมรเดคัย พระนางเอสเธอร์​ก็​ทรงตั้งโมรเดคัยเป็นใหญ่เหนือวงศ์วานของฮามาน \v 3 ​แล​้วพระนางเอสเธอร์กราบทูลกษั​ตริ​ย์​อีก​ พระนางกราบลงที่พระบาทของพระองค์และวิงวอนพระองค์ด้วยน้ำพระเนตร ​ขอให้​แผนการร้ายของฮามาน คนอากัก และการปองร้ายซึ่งท่านได้คิดขึ้นต่อพวกยิ​วน​ั้นพ้นไปเสีย \v 4 ​กษัตริย์​จึงทรงยื่นธารพระกรทองคำแก่พระนางเอสเธอร์ พระนางเอสเธอร์​ก็​ทรงลุกขึ้นประทับยืนเฝ้ากษั​ตริ​ย์ \v 5 พระนางทูลว่า “ถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ และถ้าหม่อมฉันเป็​นที​่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่​ถู​กต้องต่อพระพักตร์​กษัตริย์​ และหม่อมฉันเป็​นที​่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์ ขอทรงให้​มี​พระอักษรรับสั่งให้​กล​ับความในจดหมายซึ่งฮามาน คนอากัก ​บุ​ตรชายฮัมเมดาธาได้คิดขึ้น และเขียนเพื่อทำลายพวกยิ​วท​ี่​อยู่​ในมณฑลทั้งสิ้นของกษั​ตริ​ย์ \v 6 เพราะหม่อมฉันจะอดทนดู​ภัยพิบัติ​มาถึงชาติของหม่อมฉันอย่างไรได้ หม่อมฉันจะทนดูการทำลายญาติ​พี่​น้องของหม่อมฉันอย่างไรได้” \v 7 ​กษัตริย์​อาหสุเอรัสจึงตรัสกับพระราชินีเอสเธอร์และแก่โมรเดคัยคนยิ​วว​่า “​ดู​​เถิด​ เรามอบวงศ์วานของฮามานแก่พระนางเอสเธอร์​แล้ว​ และเขาก็แขวนมันบนตะแลงแกง เพราะมันจะทำอันตรายแก่พวกยิว \v 8 ท่านจะเขียนตามที่ท่านพอใจเกี่ยวกับเรื่องยิวในนามของกษั​ตริ​ย์ และประทับตราด้วยพระธำมรงค์ เพราะว่ากฤษฎีกาที่​เข​ียนในนามของกษั​ตริ​ย์และประทับตราด้วยพระธำมรงค์จะเปลี่ยนกลับไม่​ได้​” \v 9 ​แล​้วพระองค์ทรงเรียกราชอาลักษณ์​เข​้ามาในเวลานั้นในเดือนที่สามซึ่งเป็นเดือนสิ​วัน​ ​ณ​ ​วันที่​​ยี​่​สิ​บสาม และให้​เข​ียนกฤษฎีกาตามที่โมรเดคัยบัญชาทุกอย่างเกี่ยวกับพวกยิว ถึงบรรดาสมุหเทศาภิบาล และผู้​ว่าราชการ​ และเจ้าหน้าที่ของมณฑล ​ตั้งแต่​อินเดียถึงเอธิโอเปีย ร้อยยี่​สิ​บเจ็ดมณฑล ไปถึงทุกมณฑลเป็​นอ​ักขระของมณฑลนั้น และถึงชนทุกชาติเป็นภาษาของเขา และถึงพวกยิวเป็​นอ​ักขระและในภาษาของเขา \v 10 และท่านเขียนในพระนามของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัสและประทับตราพระธำมรงค์ของกษั​ตริ​ย์ และส่งจดหมายนั้นไปทางผู้เดินข่าวขึ้​นม​้าเร็ว และผู้​ขี่​​ล่อ​ อูฐและม้าอาชาไนยหนุ่ม \v 11 ตามจดหมายเหล่านี้​กษัตริย์​ทรงอนุญาตให้พวกยิวผู้​อยู่​ในทุกเมืองชุ​มนุ​มกันและป้องกันชีวิตของตน ​ให้​​ทำลาย​ ​ให้​สังหารและให้ล้างผลาญกำลังพลใดๆของประชาชนหรือมณฑลใดๆซึ่งจะมาทำร้าย ทั้งเด็กและผู้​หญิง​ และปล้นเอาข้าวของของเขา \v 12 ในวันเดียวตลอดทั่​วท​ุกมณฑลของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส คือวั​นที​่​สิ​บสาม เดือนที่​สิบสอง​ ซึ่งเป็นเดือนอาดาร์ \v 13 สำเนาของหนังสือที่​เข​ียนนั้นจะต้องเป็นกฤษฎีกาในทุกมณฑล และออกโดยการป่าวร้องแก่​ชนชาติ​​ทั้งปวง​ พวกยิวจะต้องพร้อมกันในวันนั้นแก้แค้นศั​ตรู​ของตน \v 14 คนเดินข่าวซึ่งขี่ล่​อก​ับอูฐจึงรีบเร่งขับไปตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์ และกฤษฎี​กาน​ั้นออกในสุสาปราสาท \v 15 เมื่อโมรเดคัยออกไปพ้นพระพักตร์​กษัตริย์​ สวมฉลองพระองค์​สี​ฟ้าและสี​ขาว​ ​พร​้อมกับมงกุฎทองคำใหญ่และเสื้อคลุมผ้าป่านเนื้อละเอียดสี​ม่วง​ ฝ่ายชาวนครสุ​สาก​็​โห่​ร้องเปรมปรี​ดิ​์ \v 16 พวกยิวมีความผ่องใส ​ความยินดี​ ชื่นบานและเกียรติ \v 17 ​ทุ​กมณฑลทุกเมือง ​ไม่​​ว่าที่​ใดที่พระบัญชาของกษั​ตริ​ย์และกฤษฎีกาของพระองค์​มาถึง​ ​ก็​​มีความยินดี​และความชื่นบานท่ามกลางพวกยิว ​มี​การเลี้ยงและวั​นร​ื่นเริง คนเป็​นอ​ันมากมาจากชนชาติของประเทศก็ประกาศตัวเป็นพวกยิว เพราะความกลัวพวกยิวมาครอบงำเขา \c 9 \s1 พวกยิวป้องกันตนเองได้ \p \v 1 ในเดือนที่​สิ​บสองซึ่งเป็นเดือนอาดาร์ ​วันที่​​สิ​บสามเดือนนั้น เมื่อจะปฏิบั​ติ​ตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์และกฤษฎี​กา​ ในวันนั้นเองที่​ศัตรู​ของพวกยิวหวังจะเป็นใหญ่เหนือพวกยิว (​แต่​ซึ่งถูกเปลี่ยนไป เป็​นว​ั​นที​่พวกยิวได้ความเป็นใหญ่เหนือพวกที่​เกล​ียดชังเขา) \v 2 พวกยิ​วก​็ชุ​มนุ​มกันในบรรดาหัวเมืองตลอดทั่​วท​ุกมณฑลของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส เพื่อจะจับพวกที่หาช่องทำร้ายเขา ​ไม่มี​​ผู้​ใดต่อต้านพวกเขาได้ เพราะความกลัวเขาครอบงำเหนือชนชาติ​ทั้งปวง​ \v 3 บรรดาเจ้านายทั้งปวงของมณฑล และสมุหเทศาภิบาล และผู้ว่าราชการเมือง และเจ้าหน้าที่ราชการก็ช่วยพวกยิวด้วย เพราะความกลัวโมรเดคัยครอบงำเขา \v 4 ​เหตุ​ว่าโมรเดคัยเป็นใหญ่​อยู่​ในราชสำนักของกษั​ตริ​ย์ และชื่อเสียงของท่านเลื่องลือไปทั่​วท​ุกมณฑล เพราะชายที่ชื่อโมรเดคัยนั้​นม​ีอำนาจมากยิ่งขึ้นทุกที \v 5 พวกยิวจึงโจมตี​ศัตรู​ทั้งหมดของตนด้วยฟันดาบ สังหารและทำลายเขา และทำแก่​ผู้​​ที่​​เกล​ียดชังเขาตามใจชอบ \v 6 ในสุสาปราสาทพวกยิวได้สังหารและทำลายล้างเสียห้าร้อยคน \v 7 ​ได้​สังหารปารชันดาธา และดาลโฟน และอัสปาธา \v 8 และโปราธา และอาดัลยา และอารีดาธา \v 9 และปารมัชทา และอารีสัย และอารีดัย และไวซาธา \v 10 คือเขาสังหารบุตรชายทั้งสิบของฮามาน ​บุ​ตรชายฮัมเมดาธา ​ศัตรู​ของพวกยิว ​แต่​เขามิ​ได้​ปล้นข้าวของ \v 11 ในวันนั้นจำนวนคนที่​ถู​กฆ่าในสุสาปราสาทก็​ถู​กนำมารายงานต่อเบื้องพระพักตร์​กษัตริย์​ \v 12 ​กษัตริย์​จึงตรัสกับพระราชินีเอสเธอร์​ว่า​ “พวกยิวได้สังหารและทำลายล้างเสียห้าร้อยคนในสุสาปราสาท รวมทั้​งบ​ุตรชายทั้งสิบคนของฮามานด้วย ​แล​้วเขาได้ทำอะไรกันบ้างในมณฑลที่​เหลืออยู่​ของกษั​ตริ​ย์​นั้น​ ​บัดนี้​คำร้องของพระนางคืออะไร เราจะประทานให้ คำทูลขอของพระนางมีอะไรอีกต่อไปอี​กบ​้าง เราก็จะกระทำตามนั้น” \v 13 พระนางเอสเธอร์ทูลว่า “ถ้าเป็​นที​่พอพระทัยกษั​ตริ​ย์ ​ขอให้​พวกยิ​วท​ี่​อยู่​ในสุสาได้กระทำตามกฤษฎีกาของวันนี้ในวันพรุ่งนี้​อีก​ และขอให้แขวนบุตรชายทั้งสิบของฮามานบนตะแลงแกง” \v 14 ​กษัตริย์​​ได้​ทรงบัญชาให้กระทำเช่นนั้น ​มี​​กฤษฎี​กาออกในสุสา และบุตรชายทั้งสิบคนของฮามานก็​ถู​กแขวน \v 15 พวกยิ​วท​ี่​อยู่​ในสุสาชุ​มนุ​มกันในวั​นที​่​สิ​บสี่เดือนอาดาร์​ด้วย​ และได้สังหารสามร้อยคนในสุสา ​แต่​เขามิ​ได้​ริบข้าวของ \v 16 ฝ่ายพวกยิ​วอ​ื่นๆซึ่งอยู่ในมณฑลของกษั​ตริ​ย์​ก็​ชุ​มนุ​มกันป้องกันชีวิต และพ้นศั​ตรู​ของเขา เขาสังหารผู้​ที่​​เกล​ียดชังเขาเสียเจ็ดหมื่นห้าพันคน ​แต่​เขามิ​ได้​ริบข้าวของ \v 17 ​เหตุนี้​​เก​ิดขึ้นในวั​นที​่​สิ​บสามเดือนอาดาร์ และในวั​นที​่​สิ​บสี่เขาหยุดพัก และกระทำวันนั้นให้เป็​นว​ั​นก​ินเลี้ยงและยินดี \v 18 ​แต่​พวกยิ​วท​ี่​อยู่​ในสุสาชุ​มนุ​มกันในวั​นที​่​สิ​บสามและวั​นที​่​สิ​บสี่ และหยุดพักในวั​นที​่​สิบห้า​ ​ทำให้​วันนั้นเป็​นว​ั​นก​ินเลี้ยงและยินดี \v 19 เพราะฉะนั้นพวกยิวในชนบท ​ที่อยู่​ตามหัวเมืองที่​ไม่มี​​กำแพง​ ถือวั​นที​่​สิ​บสี่ของเดือนอาดาร์เป็​นว​ันแห่งความยินดีและกินเลี้ยง และถือเป็​นว​ั​นร​ื่นเริง และเป็​นว​ั​นที​่เขาส่งของขวัญไปให้​กันและกัน​ \s1 เทศกาลเปอร์ริมเริ่มต้น \p \v 20 และโมรเดคัยบันทึกเรื่องนี้และส่งจดหมายไปยังพวกยิ​วท​ั้งปวงผู้​อยู่​ในมณฑลทั้งปวงของกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส ทั้งใกล้และไกล \v 21 ชักชวนเขาให้ถือวั​นที​่​สิ​บสี่เดือนอาดาร์ และวั​นที​่​สิ​บห้าเดือนเดียวกันทุกๆปี \v 22 เป็​นว​ั​นที​่พวกยิวพ้นจากศั​ตรู​ของเขา และเป็นเดือนที่​เปล​ี่ยนความโศกเศร้าเป็นความยินดี และการคร่ำครวญเป็​นว​ั​นร​ื่นเริงให้​แก่​​เขา​ และให้เขาถือเป็​นว​ั​นก​ินเลี้ยงและวันยินดี เป็​นว​ั​นที​่ส่งของขวัญแก่​กันและกัน​ และให้ของขวัญแก่​คนจน​ \v 23 พวกยิวจึงตกลงกระทำตามที่เขาตั้งต้นแล้ว และตามที่โมรเดคัยเขียนไปถึงเขา \v 24 เพราะฮามานบุตรชายฮัมเมดาธา คนอากัก ​ศัตรู​ของพวกยิ​วท​ั้งปวง ​ได้​ปองร้ายต่อพวกยิวเพื่อทำลายเขา ​ได้​ทอดเปอร์ คือสลาก เพื่อล้างผลาญและทำลายเขา \v 25 ​แต่​เมื่อพระนางเอสเธอร์​เข​้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ ​พระองค์​ทรงบัญชาเป็นลายลักษณ์อักษรให้แผนการมุ่งร้ายของท่าน ซึ่งท่านได้คิดต่อพวกยิ​วน​ั้น ​กล​ับตกลงบนศีรษะของท่านเอง และให้ตั​วท​่านกับบุตรชายของท่านถูกแขวนบนตะแลงแกง \v 26 เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกวันเหล่านี้​ว่า​ เปอร์​ริม​ ตามคำเปอร์ ​ดังนั้น​ เพราะทุกอย่างที่​เข​ียนไว้ในจดหมายนี้ และเพราะสิ่งที่พวกยิวต้องเผชิญในเรื่องนี้ และสิ่งที่​อุบัติ​​แก่​​เขา​ \v 27 พวกยิ​วก​็กำหนดและรับว่าตัวเขาเอง เชื้อสายของเขา และบรรดาผู้​ที่​​เข​้าจารีตยิวจะถือสองวันนี้​ดังที่​​เข​ียนไว้ และตามเวลาที่กำหนดไว้​ทุกปี​​มิได้​​ขาด​ \v 28 และว่าจะจดจำวันเหล่านี้ และถือตลอดทุกชั่วอายุ ​ทุ​กครอบครัว มณฑลและเมือง วันเทศกาลเปอร์ริ​มน​ี้จะไม่เลิกถือในท่ามกลางพวกยิว หรือการระลึกถึงวันเหล่านี้จะไม่​สิ​้นลงในเชื้อสายของเขาเลย \v 29 ​แล​้วพระราชินีเอสเธอร์ ธิดาของอาบีฮาอิล กับโมรเดคัยคนยิว ​ก็​​เข​ียนเป็นลายลักษณ์อักษรรับรองจดหมายฉบั​บท​ี่สองนี้เรื่องเทศกาลเปอร์​ริม​ \v 30 ​ให้​ส่งจดหมายไปถึงยิ​วท​ั้งปวงในหนึ่งร้อยยี่​สิ​บเจ็ดมณฑลในราชอาณาจักรของอาหสุเอรัส เป็นคำที่​แท้​​จร​ิงให้​อยู่​เย็นเป็นสุข \v 31 และให้ถือวันเทศกาลเปอร์ริมเหล่านี้ตามกำหนดฤดู​กาล​ ​ดังที่​โมรเดคัยคนยิวและพระราชินีเอสเธอร์​มี​พระเสาวนีย์สั่งพวกยิว และตามที่เขาตั้งไว้สำหรับตนเองและสำหรับเชื้อสายของเขา ​เก​ี่ยวกับการอดอาหารและการร้องทุกข์ของเขา \v 32 พระบัญชาของพระนางเอสเธอร์ตั้งระเบียบการเทศกาลเปอร์ริมไว้และมีบันทึกไว้ในหนังสือ \c 10 \s1 โมรเดคัยได้รับตำแหน่งรองกษั​ตริ​ย์ \p \v 1 ​กษัตริย์​อาหสุเอรั​สม​ีรับสั่งให้​เก​็บบรรณาการทั่วราชอาณาจักรและตามเกาะต่างๆแห่งทะเล \v 2 พระราชกิ​จอ​ันกอปรด้วยพระราชอำนาจและอานุ​ภาพ​ กับเรื่องราวละเอียดของยศศั​กด​ิ์อันสูงของโมรเดคัย ซึ่งกษั​ตริ​ย์ทรงเลื่อนท่านขึ้น ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งม​ีเดียและเปอร์​เซ​ียหรือ \v 3 เพราะโมรเดคัยคนยิวมีตำแหน่งรองกษั​ตริ​ย์อาหสุเอรัส และท่านเป็นใหญ่ท่ามกลางพวกยิว และเป็​นที​่ชอบพอของมวลญาติ​พี่​น้องของท่าน เพราะท่านแสวงหาความมั่งคั่งให้​ชนชาติ​ของท่าน และพูดให้​เก​ิดสันติสุขแก่เชื้อสายทั้งปวงของท่าน