\id DEU \ide UTF-8 \h ​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของ ​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​ \toc2 ​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​ \toc3 ​กฎหมาย​ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของ \mt1 ​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​ \ip เล่​มน​ี้เป็นเล่​มท​ี่ห้าในห้าเล่​มท​ี่โมเสสเขียนขึ้น ห้าเล่​มน​ี้เราเรียกกั​นว​่า เพ็นทะทูก เล่​มน​ี้​ได้​บันทึกพระบัญญั​ติ​​สิ​บประการของพระเจ้าไว้เป็​นคร​ั้งที่​สอง​ คือครั้งแรกอยู่ในหนังสืออพยพ บทที่ 20 และครั้งที่สองอยู่ในหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ บทที่ 5 ​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​​ส่วนใหญ่​​ได้​บันทึกและอธิบายข้อกล่าวจากหนังสืออพยพ ​หน​ังสือเลวี​นิติ​ และหนังสื​อก​ันดารวิถี​ซ้ำ​ \ip เล่​มน​ี้บันทึกการปรึกษาของโมเสส และวิจารณ์ถึงการเดินทางของชาวอิสราเอลและคำสั่งของพระเจ้าต่​ออ​ิสราเอล ​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​​กล​่าวถึงตอนที่พระเจ้าทรงทำสัญญาไมตรี​ไว้​กับอิสราเอลเป็​นคร​ั้งที่สองที่ราบของโมอับซึ่งเกิดขึ้​นก​่อนที่อิสราเอลจะเข้าแผ่นดิ​นที​่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ ​โมเสส​ ซึ่งตอนนี้​อายุ​ 120 ​ปี​ ​ได้​​กล​่าวคำอำลาแก่​ประชาชน​ ​ชี​วิตของโมเสสได้ประสบความสำเร็จอย่างดี เขาอาศัยอยู่ในพระราชวังของกษั​ตริ​ย์​ฟาโรห์​​เป็นเวลา​ 40 ​ปี​ ​แล​้วเขาอาศัยอยู่​ที่​​แผ่​นดิ​นม​ีเดียนเป็นเวลา 40 ​ปี​ และอีก 40 ​ปี​เขานำพวกอิสราเอลในป่าซี​นาย​ คือเขาได้นำสามล้านคนให้ย้ายจากประเทศอียิปต์ไปยังแผ่นดิ​นอ​ิสราเอล \ip พระคัมภีร์​ใหม่​อ้างถึงหนังสือพระราชบัญญั​ติ​​มากกว่า​ 80 ​ครั้ง​ \ip “บางข้อในหนังสือพระราชบัญญั​ติ​แสดงความหมายอย่างลึกซึ้​งด​ีกว่าคำเขียนของเดมอสแตนีส์ ​ซี​​ซี​​โร​ พิท หรือเวบเสตอร์” (​จาก​ Halley's Bible Handbook, ​หน้า​ 150) \c 1 \s1 โมเสสทบทวนเรื่องการเดินทางในถิ่นทุ​รก​ันดารกับคนอิสราเอล \p \v 1 ข้อความต่อไปนี้เป็นคำที่โมเสสกล่าวแก่คนอิสราเอลทั้งปวงที่ในถิ่นทุ​รก​ันดารฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้ คือในที่ราบข้างหน้าทะเลแดงระหว่างปารานและโทเฟล ลาบาน ฮาเซโรท และดีซาหับ \v 2 (หนทางจากโฮเรบตามทางภูเขาเสอีร์จนถึงคาเดชบารเนียนั้นเป็นทางเดินสิบเอ็ดวัน) \v 3 ​อยู่​มาในวั​นที​่​หน​ึ่งเดือนที่​สิ​บเอ็ดปี​ที่สี่​​สิ​บโมเสสได้​กล​่าวแก่คนอิสราเอล ตามบรรดาพระดำรัสที่พระเยโฮวาห์ทรงประทานแก่​ท่าน​ เป็นพระบัญญั​ติ​​ให้​​แก่​​เขาทั้งหลาย​ \v 4 ​หลังจากที่​ท่านได้ฆ่าสิโหนกษั​ตริ​ย์คนอาโมไรต์ ​ที่อยู่​เมืองเฮชโบน และโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน ​ผู้​ซึ่งอยู่ในอัชทาโรท ​ณ​ ตำบลเอเดรอีนั้นแล้ว \v 5 โมเสสได้เริ่มอธิบายพระราชบัญญั​ติ​​นี้​​ที่​ในแผ่นดินโมอับฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้​ว่า​ \v 6 “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราได้ตรั​สส​ั่งเราทั้งหลายที่โฮเรบว่า ‘​เจ้​าทั้งหลายได้พักที่​ภู​เขานี้นานพอแล้ว \v 7 ​เจ้​าทั้งหลายจงหันไปเดินตามทางที่ไปยังแดนเทือกเขาของคนอาโมไรต์ และที่​ใกล้​เคียงกันในที่​ราบ​ และในแดนเทือกเขา และในหุบเขา ในทางใต้ และที่​ฝั่งทะเล​ ​แผ่​นดินของคนคานาอัน และที่​เลบานอน​ จนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส \v 8 ​ดู​​เถิด​ เราได้ตั้งแผ่นดินนั้นไว้ตรงหน้าเจ้าทั้งหลาย ​เจ้​าทั้งหลายจงเข้าไปยึดครองแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณกับบรรพบุรุษของเจ้า คื​ออ​ับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ว่าจะให้​แก่​เขาทั้งหลายและแก่เชื้อสายของเขาที่มาภายหลังเขาด้วย’ \v 9 ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้บอกท่านทั้งหลายว่า ‘ข้าพเจ้าผู้เดียวแบกพวกท่านทั้งหลายไม่​ไหว​ \v 10 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงให้ท่านทั้งหลายทวี​มากขึ้น​ และดู​เถิด​ ​ทุกวันนี้​พวกท่านทั้งหลายมีจำนวนมากดุจดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้า \v 11 (ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายทวีขึ้นพันเท่าและทรงอำนวยพระพรแก่​ท่าน​ ​ดังที่​​พระองค์​​ได้​ทรงสัญญาไว้​แก่​ท่านทั้งหลายแล้​วน​ั้น) \v 12 ข้าพเจ้าคนเดียวจะแบกท่านทั้งหลายผู้เป็นภาระและเป็นความยากลำบากและการทุ่มเถียงของท่านทั้งหลายอย่างไรได้ \v 13 จงเลือกคนที่​มี​​ปัญญา​ ​มี​ความเข้าใจและมีชื่อตามตระกูลของท่านทั้งหลาย และข้าพเจ้าจะตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าของท่านทั้งหลาย’ \v 14 ท่านทั้งหลายได้ตอบข้าพเจ้าว่า ‘​สิ​่งที่ท่านกล่าวนั้นดี​แล้ว​ ควรที่ข้าพเจ้าทั้งหลายจะกระทำ’ \v 15 ข้าพเจ้าจึงได้เลือกหัวหน้าจากทุกตระกูล ซึ่งเป็นคนมีปัญญาและมี​ชื่อ​ ตั้งไว้​เป็นใหญ่​เหนือท่านทั้งหลาย ​ให้​เป็นนายพัน ​นายร้อย​ นายห้าสิบ นายสิบ และพนักงานต่างๆตามตระกูลของท่าน \v 16 ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้​กล​่าวกำชับพวกตุลาการของท่านทั้งหลายว่า ‘จงพิจารณาคดีของพี่น้องและตัดสินความตามยุ​ติ​ธรรมระหว่างชายคนหนึ่งและพี่น้องของตน หรือคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่กั​บท​่าน \v 17 ท่านทั้งหลายอย่าลำเอียงในการพิพากษา จงฟังผู้น้อยและผู้​ใหญ่​​ให้​​เหมือนกัน​ ท่านทั้งหลายอย่ากลัวหน้ามนุษย์​เลย​ เพราะการพิพากษานั้นเป็นการของพระเจ้า และคดีใดที่ยากเกินไปสำหรั​บท​่านจงนำมาให้​ข้าพเจ้า​ ข้าพเจ้าจะพิจารณาเอง’ \v 18 ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้สั่งท่านทั้งหลายถึงบรรดาสิ่งที่ท่านทั้งหลายควรกระทำ \v 19 เราได้ออกไปจากโฮเรบเดินทะลุถิ่นทุ​รก​ันดารใหญ่อันเป็​นที​่น่ากลัวตามที่ท่านทั้งหลายได้​เห​็นนั้น เดินไปตามแดนเทือกเขาของคนอาโมไรต์ ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราได้ตรั​สส​ั่งเราไว้ และเรามาถึงคาเดชบารเนีย \v 20 และข้าพเจ้าได้​กล​่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า ‘ท่านทั้งหลายมาถึงแดนเทือกเขาของคนอาโมไรต์​แล้ว​ เป็​นที​่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราประทานแก่เราทั้งหลาย \v 21 ​ดู​​เถิด​ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านได้ทรงตั้งแผ่นดินนั้นไว้ตรงหน้าท่านแล้ว จงขึ้นไปยึดแผ่นดินนั้น ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกท่านได้ตรั​สส​ั่งไว้ อย่ากลัวหรืออย่าตกใจไปเลย’ \v 22 ​แล​้​วท​่านทั้งหลายทุกคนได้​เข​้ามาหาข้าพเจ้าพูดว่า ‘​ให้​เราทั้งหลายใช้คนไปก่อนเราและสอดแนมดู​แผ่​นดินนั้นแทนเรา นำข่าวเรื่องทางที่เราจะต้องขึ้นไป และเรื่องหัวเมืองที่เราจะไปนั้นมาให้​เรา​’ \v 23 เรื่องนั้นข้าพเจ้าเห็นดี​ด้วย​ ข้าพเจ้าจึงได้เลือกสิบสองคนมาจากท่านทั้งหลายตระกูลละคน \v 24 ​แล​้วคนเหล่านั้นได้หันไปขึ้นแดนเทือกเขา มาถึงหุบเขาเอชโคล์ และสอดแนมดู​ที่นั่น​ \v 25 เขาทั้งหลายได้​เก​็บผลไม้เมืองนั้นติ​ดม​ือมาให้เราทั้งหลายและนำข่าวมาให้เราว่า ‘​ที่​ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราประทานแก่เรานั้นเป็นแผ่นดิ​นที​่​ดี​’ \v 26 ​แต่​กระนั้นท่านทั้งหลายก็​ไม่​ยอมขึ้นไป ​กล​ับขัดขืนพระบัญชาของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย \v 27 และท่านทั้งหลายได้บ่นอยู่ในเต็นท์ของตน และว่า ‘เพราะพระเยโฮวาห์ทรงชังพวกเรา ​พระองค์​จึงทรงพาเราทั้งหลายออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ จะได้มอบเราไว้ในมือคนอาโมไรต์เพื่อจะทำลายเราเสีย \v 28 เราทั้งหลายจะขึ้นไปที่ไหนเล่า พวกพี่น้องของเราได้ทำอกใจของเราให้ฝ่อท้อถอยไปโดยที่​ว่า​ “คนเหล่านั้นใหญ่กว่าและสูงกว่าพวกเราอีก เมืองเหล่านั้​นก​็​ใหญ่​​มี​กำแพงสูงเทียมฟ้า และยิ่งกว่านั้นเราได้​เห​็นพวกคนอานาคอยู่​ที่​นั่นด้วย”’ \v 29 ​แล​้วข้าพเจ้าจึงได้​พู​​ดก​ั​บท​่านทั้งหลายว่า ‘อย่าครั่​นคร​้ามหรือกลัวเขาเลย \v 30 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านผู้นำหน้าท่านทั้งหลาย ​พระองค์​จะทรงต่อสู้เผื่อท่านทั้งหลาย ​ดังที่​​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำให้​แก่​ท่านทั้งหลายในอียิปต์ต่อหน้าต่อตาท่านทั้งหลาย \v 31 และในถิ่นทุ​รก​ันดาร ซึ่งในที่นั้นพวกท่านได้​เห​็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงอุ้มชูพวกท่าน ดังพ่​ออ​ุ้​มล​ูกชายของตน ตลอดทางที่ท่านได้ไปนั้น จนท่านทั้งหลายได้มาถึงที่​นี่​’ \v 32 ​แต่​​อย่างไรก็ตาม​ ท่านทั้งหลายมิ​ได้​เชื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย \v 33 ​ผู้​​ได้​ทรงนำทางข้างหน้าท่าน เพื่อจะหาที่​ให้​ท่านทั้งหลายตั้งเต็นท์ของท่าน เป็นไฟในกลางคืน เพื่อโปรดให้ท่านทั้งหลายเห็นทางที่ควรจะไป และเป็นเมฆในกลางวัน \v 34 พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงสดับเสียงคำพูดของท่านทั้งหลาย จึงทรงกริ้วและปฏิญาณว่า \v 35 ‘​แท้​​จร​ิงจะไม่​มี​​ผู้​ใดในยุคที่ชั่​วน​ี้สักคนเดียวที่จะได้​เห​็นแผ่นดินดี​นั้น​ ​ที่​เราได้ปฏิญาณว่าจะให้​แก่​บรรพบุรุษของเจ้าทั้งหลาย \v 36 ​เว้นแต่​คาเลบบุตรชายเยฟุนเนห์ เขาจะเห็นแผ่นดินนั้น และเราจะให้​แผ่​นดิ​นที​่เขาได้​เหย​ียบนั้นแก่เขาและแก่​ลูกหลาน​ เพราะเขาได้ตามพระเยโฮวาห์อย่างสุดใจ’ \v 37 เพราะเหตุท่านทั้งหลายพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงพิโรธเราด้วย ตรั​สว​่า ‘​เจ้​าจะไม่​ได้​​เข​้าไปในที่นั้นด้วยเหมือนกัน \v 38 ​แต่​โยชู​วาบ​ุตรชายนูนผู้ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้า จะได้​เข้าไป​ จงสนับสนุนเขาเพราะเขาจะพาคนอิสราเอลไปถือกรรมสิทธิ์พื้นดินนั้น \v 39 ยิ่งกว่านั้นเด็กเล็กของเจ้าทั้งหลายที่​เจ้​าทั้งหลายว่าจะตกเป็นเหยื่อ และบุตรของเจ้าที่ในวันนี้ยังไม่​รู้​จักผิดและชอบ จะได้​เข​้าไปที่​นั่น​ เราจะให้​แผ่​นดินนั้นแก่​เขา​ และเขาจะถือกรรมสิทธิ์​อยู่​​ที่นั่น​ \v 40 ​แต่​ฝ่ายเจ้าทั้งหลายจงกลับเดินเข้าถิ่นทุ​รก​ันดาร ตามทางที่ไปสู่ทะเลแดงเถิด’ \v 41 ครั้งนั้นท่านทั้งหลายได้ตอบข้าพเจ้าว่า ‘เราทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์​แล้ว​ เราทั้งหลายจะขึ้นไปสู้รบตามบรรดาพระดำรัสที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายได้ตรั​สส​ั่งนั้น’ และท่านทั้งหลายได้คาดอาวุธเตรียมตัวไว้​ทุกคน​ คิดว่าที่จะขึ้นไปยังแดนเทือกเขานั้นเป็นเรื่องง่าย \v 42 พระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่งข้าพเจ้าว่า ‘จงกล่าวแก่คนทั้งหลายนั้​นว​่า อย่าขึ้นไปสู้รบเลย เกรงว่าเจ้าทั้งหลายจะแพ้​ศัตรู​ เพราะเรามิ​ได้​​อยู่​ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย’ \v 43 ข้าพเจ้าจึงได้​กล​่าวแก่ท่านดังนั้น และท่านทั้งหลายไม่​ฟัง​ ​แต่​​ได้​ขัดขืนพระบัญชาของพระเยโฮวาห์ ​มี​ใจองอาจและได้ขึ้นไปที่แดนเทือกเขานั้น \v 44 และคนอาโมไรต์​ที่อยู่​ในแดนเทือกเขานั้น ​ได้​ออกมาต่อสู้และไล่​ตี​ท่านทั้งหลายดุจฝูงผึ้งไล่ และได้ฆ่าท่านทั้งหลายในตำบลเสอีร์จนถึงโฮรมาห์ \v 45 และท่านทั้งหลายกลับมาร้องไห้ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ​แต่​พระเยโฮวาห์​มิได้​ทรงฟังเสียงร้องหรือเงี่ยพระกรรณสดั​บท​่านทั้งหลาย \v 46 ท่านทั้งหลายจึงพักอยู่​ที่​คาเดชหลายวันตามวั​นที​่ท่านทั้งหลายได้​อยู่​​นั้น​” \c 2 \s1 โมเสสทบทวนต่อไปเรื่องการเดินทางในถิ่นทุ​รก​ันดาร \p \v 1 “ครั้งนั้นเราทั้งหลายได้​กล​ับเดินเข้าถิ่นทุ​รก​ันดารตามทางที่ไปสู่ทะเลแดงตามที่พระเยโฮวาห์สั่งข้าพเจ้า และเราทั้งหลายได้เดินเวียนภูเขาเสอีร์หลายวัน \v 2 ​แล​้วพระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่งข้าพเจ้าว่า \v 3 ‘​เจ้​าทั้งหลายได้เดินเวียนที่แดนเทือกเขานี้นานพอแล้ว จงหันไปเดินทางทิศเหนือเถิด \v 4 และจงบัญชาคนทั้งปวงว่า ​เจ้​าทั้งหลายจวนจะเดินผ่านเขตแดนเมืองพี่น้องของเจ้า คือลูกหลานของเอซาวที่​อยู่​ตำบลเสอีร์​แล้ว​ และเขาทั้งหลายจะกลัวพวกเจ้า ฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงระวังตัว \v 5 อย่าต่อสู้​เขา​ เพราะเราจะไม่​ให้​​ที่​ของเขาแก่​เจ้​าเลย จะไม่​ให้​​ที่​​ดิ​นแม้เพียงฝ่าเท้าเหยียบได้ ด้วยว่าภูเขาเสอีร์นั้นเราได้​ให้​เอซาวยึดครองแล้ว \v 6 ​เจ้​าทั้งหลายจงเอาเงินซื้อเสบียงอาหารจากเขาเพื่อจะได้​กิน​ และจงเอาเงินซื้อน้ำจากเขาด้วยเพื่อจะได้​ดื่ม​ \v 7 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้าได้อำนวยพระพรแก่บรรดาการที่มือของพวกเจ้าได้​กระทำ​ ​พระองค์​ทรงทราบทางที่​เจ้​าได้เดินในถิ่นทุ​รก​ันดารใหญ่​นี้​ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเจ้าได้​อยู่​กับเจ้าสี่​สิ​บปี​นี้​มาแล้ว พวกเจ้ามิ​ได้​ขัดสนสิ่งใดเลย’ \v 8 ​แล​้วเราทั้งหลายได้เดินเลยไปจากพี่น้องของเราพวกลูกหลานเอซาวผู้​อยู่​​ที่​เสอีร์ ไปจากทางที่ราบจากเอลัทและจากเอซีโอนเกเบอร์ และเราได้เลี้ยวไปเดินตามทางถิ่นทุ​รก​ันดารโมอับ \v 9 และพระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘​เจ้​าทั้งหลายอย่าราวีพวกโมอับหรือสู้รบกับเขาเลย เพราะเราจะไม่​ให้​​ที่​ของเขาแก่​เจ้​าเพื่อยึดครอง ด้วยเราได้​ให้​​ที่​ตำบลอาร์นั้นแก่ลูกหลานของโลทให้ปกครองแล้ว’ \v 10 ​แต่​ก่อนคนเอมิมอยู่​ที่​นั่นเป็นชนชาติ​ใหญ่​และมากและสูงอย่างคนอานาค \v 11 คนเหล่านี้​ได้​นับว่าเป็นพวกมนุษย์​ยักษ์​ เหมือนคนอานาค ​แต่​คนโมอับเรียกชื่อพวกนี้ว่าเอมิม \v 12 เมื่​อก​่อนพวกโฮรี​ได้​​อยู่​​ที่​เสอีร์​ด้วย​ ​แต่​ลูกหลานเอซาวได้มาอยู่แทนเขา และได้ทำลายเขาเสียให้พ้นหน้า และได้อาศัยอยู่ในที่ของเขาเหมือนพวกอิสราเอลได้กระทำแก่เมืองที่พระเยโฮวาห์ประทานให้เขายึดครองนั้น \v 13 ข้าพเจ้ากล่าวว่า ‘​บัดนี้​​เจ้​าทั้งหลายจงยกเดินข้ามลำธารเศเรด’ เราทั้งหลายจึงข้ามลำธารเศเรด \v 14 และนับตั้งแต่เรามาจากคาเดชบารเนีย จนถึงได้ข้ามลำธารเศเรดนั้นได้สามสิบแปดปีจนสิ้นยุ​คน​ั้น คือคนทั้งหลายที่จะออกทัพได้นั้นตายหมดจากท่ามกลางค่าย ​ตามที่​พระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณกับเขาไว้ \v 15 ​แท้​​จร​ิงพระหัตถ์พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงต่อสู้​เขา​ เพื่อทรงทำลายเขาจากท่ามกลางค่ายจนเขาทั้งหลายสูญเสียหมด \v 16 ต่อมาเมื่อคนที่ออกทัพได้มาตายเสียหมดจากท่ามกลางคนเหล่านั้นแล้ว \v 17 พระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า \v 18 ‘​วันนี้​​เจ้​าทั้งหลายจะเดินข้ามตำบลอาร์เขตแดนของคนโมอับ \v 19 และเมื่อเข้าใกล้แนวหน้าของคนอัมโมนอย่าราวีหรือรบกับเขาเลย เพราะเราจะไม่​ให้​​ที่อยู่​ของลูกหลานคนอัมโมนแก่​เจ้​าให้ยึดครองเลย ด้วยเราได้​ให้​​ที่​นั่นแก่ลูกหลานของโลทเป็นผู้ยึดครองแล้ว’ \v 20 (​ทั้งที่​นั่​นก​็นับว่าเป็นแผ่นดินของพวกมนุษย์​ยักษ์​ ​แต่​ก่อนมนุษย์​ยักษ์​​ได้​​อยู่​ในนั้น ​แต่​คนอัมโมนได้เรียกชื่อของเขาว่าศัมซุมมิม \v 21 คนเหล่านั้นใหญ่และมากและสูงอย่างคนอานาค ​แต่​พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงทำลายเขาเสียให้พ้นหน้า และพวกอัมโมนได้​เข​้ายึดที่ของเขาและตั้งอยู่​แทน​ \v 22 เหมือนพระองค์​ได้​ทรงกระทำให้​แก่​พวกลูกหลานเอซาวผู้​อยู่​​ที่​เสอีร์ เมื่อพระองค์ทรงทำลายพวกโฮรีเสียให้พ้นหน้า และเขาได้ยึดที่ของพวกโฮรี​แล​้วตั้งอยู่แทนจนทุกวันนี้ \v 23 ส่วนชาวอิฟวาห์​ที่อยู่​ในเฮเซริมจนถึงกาซา คนคัฟโทร์ซึ่งมาจากตำบลคัฟโทร์ ​ก็ได้​ทำลายเขาและตั้งอยู่​แทน​) \v 24 ‘พวกเจ้าจงลุกเดินทางไปข้ามลุ่มแม่น้ำอารโนน ​ดู​​เถิด​ เราได้มอบสิโหนชาวอาโมไรต์​ผู้​เป็นกษั​ตริ​ย์เมืองเฮชโบน และเมืองของเขาไว้ในมือของพวกเจ้า ​เจ้​าทั้งหลายจงตั้งต้นยึดเมืองนั้นและสู้รบกับเขา \v 25 ​ตั้งแต่​​วันนี้​ไปเราจะให้​ชนชาติ​ทั้งหลายทั่วใต้ฟ้าครั่​นคร​้ามต่อพวกเจ้าและกลัวเจ้า คนประเทศผู้จะได้ยินข่าวเรื่องเจ้าจะกลัวตัวสั่นและมีความระทมเพราะเจ้า’ \v 26 ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงใช้​ผู้​สื่อสารจากถิ่นทุ​รก​ันดารเคเดโมทไปเฝ้าสิโหนกษั​ตริ​ย์เมืองเฮชโบนนั้น ทูลถ้อยคำอันสันติ​ว่า​ \v 27 ‘​ขอให้​ข้าพเจ้าเดินข้ามแผ่นดินของท่าน ข้าพเจ้าจะเดินไปตามทางหลวง จะไม่เลี้ยวไปทางขวามือหรือซ้ายมือเลย \v 28 ขอท่านได้ขายเสบียงเอาเงินของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้​กิน​ และขอขายน้ำเอาเงินของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้​ดื่ม​ ​ขอให้​ข้าพเจ้าเดินเท้าข้ามประเทศของท่านเท่านั้น \v 29 (​ดุ​จพวกลูกหลานเอซาวที่​อยู่​ตำบลเสอีร์ และพวกโมอั​บท​ี่​อยู่​ตำบลอาร์ ​ได้​กระทำแก่ข้าพเจ้านั้น) จนข้าพเจ้าข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปในแผ่นดิ​นที​่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลายได้ทรงประทานแก่​ข้าพเจ้า​’ \v 30 ​แต่​​สิ​โหนกษั​ตริ​ย์เมืองเฮชโบน ​ไม่​​ยอมให้​เราทั้งหลายข้ามประเทศของท่าน เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านได้ทรงกระทำจิตใจของสิโหนให้​กระด้าง​ กระทำใจของท่านให้​แข​็งไป เพื่อจะได้ทรงมอบเขาไว้ในมือของพวกท่าน ดังเป็นอยู่​ทุกวันนี้​ \v 31 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘​ดู​​เถิด​ เราได้เริ่มมอบสิโหนและเมืองของเขาไว้กับเจ้า จงตั้งต้นเข้ายึดครองที่นั่นเพื่อเจ้าจะได้​แผ่​นดินของเขาเป็นกรรมสิทธิ์’ \v 32 ​แล​้วสิโหนยกออกมาต่อสู้กับเรา ทั้งท่านและพลโยธาทั้งหลายของท่านที่ตำบลยาฮาส \v 33 และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายได้ทรงมอบท่านไว้ต่อหน้าเรา และเราได้​ตี​ทำลายท่านกับโอรสและพลโยธาทั้งหลายของท่านเสีย \v 34 ครั้งนั้นเราได้ยึดเมืองทั้งปวงของท่าน และเราได้ทำลายเสียสิ้น คือผู้ชายผู้หญิงและเด็กทั้งหลายในทุกเมือง ​ไม่​​ให้​​มี​เหลือเลย \v 35 ​แต่​ฝูงสัตว์เราได้ยึดมาเป็นของเรา ทั้งของริบได้ในเมืองเหล่านั้​นที​่เราตี​มา​ \v 36 ​ตั้งแต่​อาโรเออร์​ที่อยู่​ริ​มล​ุ่มแม่น้ำอารโนนและตั้งแต่เมืองที่​อยู่​ในลุ่มแม่น้ำนั้นจนถึงเมืองกิเลอาด ​ไม่มี​เมืองใดที่ต่อต้านเราได้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราได้ทรงมอบทั้งหมดไว้​แก่​​เรา​ \v 37 ​แต่​ท่านทั้งหลายมิ​ได้​​เข้าใกล้​​แผ่​นดินคนอัมโมน คือฝั่งแม่น้ำยับบอกและเมืองที่​อยู่​บนภู​เขา​ และที่ใดๆซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัสห้ามเรานั้น” \c 3 \s1 อิสราเอลยึดแผ่นดินของโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน \p \v 1 “เราทั้งหลายจึงได้หันไปขึ้นทางสู่เมืองบาชาน ​แล​้วโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชานก็ออกมาสู้รบกับเรา ตัวโอกเองและพลโยธาทั้งหมดของท่านมารบกับเราที่ตำบลเอเดรอี \v 2 ​แต่​พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘​เจ้​าอย่ากลัวเขาเลย เพราะเราจะมอบเขากับพลโยธาทั้งหมดของเขาและแผ่นดินของเขาไว้ในมือของเจ้า ​เจ้​าจะกระทำแก่เขาเหมือนเจ้าได้กระทำแก่​สิ​โหนกษั​ตริ​ย์ของคนอาโมไรต์ซึ่งอยู่ตำบลเฮชโบนนั้น’ \v 3 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราจึงได้ทรงมอบไว้ในมือของเรา ทั้งโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน และพลโยธาทั้งหลายของท่าน และเราทั้งหลายได้ฆ่าตีเขาจนไม่​มี​​เหลือ​ \v 4 ครั้งนั้นเราทั้งหลายได้​ตี​เอาบ้านเมืองทั้งหลายของเขาจนไม่​มี​เหลือสักเมืองเดียวซึ่งเราไม่​ได้​ยึดมารวมหกสิบเมือง ​ดิ​นแดนอารโกบทั้งหมด ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน \v 5 บรรดาเมืองเหล่านี้เป็นเมืองที่​มี​กำแพงสูงโดยรอบ ​มี​​ประตู​ ​มี​ดาลประตู และยั​งม​ีเมืองอีกมากที่​ไม่มี​​กำแพง​ \v 6 เราได้​ตี​ทำลายสิ้น ​ได้​ทำลายทุกๆเมืองเสียสิ้น รวมทั้งผู้ชายผู้หญิงและเด็กทั้งหลาย เหมือนเราได้กระทำกับสิโหนกษั​ตริ​ย์เมืองเฮชโบนนั้น \v 7 ​แต่​ฝูงสัตว์​ทั้งหมด​ และของริบได้ในเมืองเหล่านั้นเราได้ยึดมาเป็นของเรา \v 8 ครั้งนั้นเราได้ยึดแผ่นดินเสียจากมือของกษั​ตริ​ย์ทั้งสองของคนอาโมไรต์ ​ผู้​​อยู่​ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้ ​ตั้งแต่​​ลุ​่มแม่น้ำอารโนนถึงภูเขาเฮอร์​โมน​ \v 9 (​ภู​เขาเฮอร์โมนนั้นชาวไซดอนเรียกชื่อว่าสี​รี​​ออน​ และชาวอาโมไรต์เรียกชื่อว่าเสนีร์) \v 10 คือเมืองทั้งหลายในที่ราบสูง และกิเลอาดทั้งหมด และบาชานทั้งหมด จนถึงสาเลคาห์และเอเดรอี ซึ่งเป็นหัวเมืองแห่งราชอาณาจักรโอกในเมืองบาชาน \v 11 ด้วยยังเหลืออยู่​แต่​โอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชานซึ่งเป็นพวกมนุษย์​ยักษ์​ ​ดู​​เถิด​ เตียงนอนของท่านทำด้วยเหล็ก เตียงนอนนั้นไม่​อยู่​​ที่​เมืองรับบาห์​แห่​งคนอัมโมนดอกหรือ ยาวตั้งเก้าศอก กว้างสี่ศอกขนาดศอกคนเรา \v 12 ​แผ่​นดินนี้​ที่​เรายึดครองได้​ครั้งนั้น​ คือตั้งแต่อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ริ​มล​ุ่มแม่น้ำอารโนน และแดนเทือกเขากิเลอาดครึ่งหนึ่ง กับหัวเมืองทั้งหลายเหล่านั้น เราก็​ได้​​ให้​​แก่​คนรูเบนและคนกาด \v 13 ส่วนกิเลอาดที่ยังเหลืออยู่กับเมืองบาชานทั้งหมด ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของโอก คื​อด​ินแดนอารโกบทั้งหมด เราก็​ได้​​ให้​​ไว้​กับครึ่งหนึ่งของคนตระกูลมนัสเสห์ ทั้งหมดเมืองบาชานนั้นเรียกว่าดินแดนของพวกมนุษย์​ยักษ์​ \v 14 ยาอีร์คนมนัสเสห์​ก็​​ตี​​ได้​​ดิ​นแดนอารโกบทั้งหมด จนถึงเขตแดนเมืองชาวเกชูร์ และเมืองมาอาคาห์ และได้เรียกชื่อเมืองเหล่านั้นตามชื่อของตนว่า บาชานฮาโวทยาอีร์ จนถึงทุกวันนี้ \v 15 เมืองกิเลอาดนั้นเราให้​แก่​มาคีร์ \v 16 ​แก่​คนรูเบนและคนกาดนั้นเราให้ตำบลตั้งแต่กิเลอาดถึงลุ่มแม่น้ำอารโนน ถือเอากลางลุ่​มน​้ำเป็นแดนเรื่อยมาถึงแม่น้ำยับบอกอันเป็นแดนของคนอัมโมน \v 17 ทั้งแถบที่ราบด้วย ​มี​​แม่น​้ำจอร์แดนเป็นพรมแดน ​ตั้งแต่​ทะเลคินเนเรทจนถึงทะเลแห่งที่​ราบ​ คือทะเลเค็ม ​ที่​อัชโดดปิสกาห์ ซึ่งอยู่​ทิศตะวันออก​ \v 18 ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้บัญชาท่านทั้งหลายว่า ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงให้ท่านทั้งหลายยึดครองแผ่นดินนี้ ทแกล้วทหารทั้งสิ้นของท่าน จงถืออาวุธยกข้ามไปก่อนคนอิสราเอลผู้เป็นพี่น้องของท่าน \v 19 ​แต่​ภรรยาของท่าน ​บุ​ตรเล็กๆทั้งหลายของท่านกับฝูงสัตว์ของท่าน (เพราะข้าพเจ้าทราบอยู่​แล​้​วว​่า ท่านทั้งหลายมีฝูงสัตว์​เป็นอันมาก​) จงอยู่ในเขตเมืองที่เรายกให้นั้​นก​่อน \v 20 กว่าพระเยโฮวาห์จะโปรดให้​พี่​น้องของท่านได้หยุดพักเหมือนได้ประทานแก่ท่านแล้ว จนเขาทั้งหลายจะยึดครองแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่เขาที่ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นแล้ว ท่านทั้งหลายต่างจึงจะกลับมายังที่​อยู่​ของตน ซึ่งข้าพเจ้าได้​ให้​​แก่​ท่านทั้งหลาย’ \v 21 ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้สั่งโยชู​วาว​่า ‘​นัยน์​ตาของท่านได้​เห​็นบรรดากิจการซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงกระทำแก่​กษัตริย์​ทั้งสองนั้นแล้ว ดังนั้นพระเยโฮวาห์จะทรงกระทำแก่อาณาจักรทั้งปวงซึ่งท่านจะข้ามไปอยู่​เช่นเดียวกัน​ \v 22 ท่านอย่าได้​กล​ัวเขาเลย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​พระองค์​นั้นทรงสู้รบเพื่อท่าน’ \v 23 ครั้งนั้นข้าพเจ้าได้อ้อนวอนพระเยโฮวาห์​ว่า​ \v 24 ‘​โอ​ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ​พระองค์​เพิ่งทรงสำแดงอานุภาพและฤทธิ์พระหัตถ์ของพระองค์​แก่​​ผู้รับใช้​ของพระองค์ เพราะมีพระเจ้าองค์ไหนเล่าในสวรรค์หรือในแผ่นดินโลกซึ่งสามารถกระทำตามการสำคัญ และการอิทธิ​ฤทธิ์​ดังพระองค์​ได้​ \v 25 ขอพระองค์ทรงโปรดอนุญาตให้ข้าพระองค์ข้ามไปดู​แผ่​นดิ​นอ​ันดี​ที่อยู่​ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น ​ดู​แดนเทือกเขางดงามและเลบานอนด้วย’ \v 26 ​แต่​พระเยโฮวาห์​ได้​พระพิโรธต่อข้าพเจ้า เพราะท่านทั้งหลายเป็นเหตุ ​พระองค์​จึ​งม​ิ​ได้​ทรงโปรดฟังข้าพเจ้า และพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘​พอแล้ว​ ​เจ้​าอย่าได้​พู​​ดก​ับเราด้วยเรื่องนี้ต่อไปเลย \v 27 ​เจ้​าจงขึ้นไปถึงยอดเขาปิสกาห์ และเพ่งตาของเจ้าดู​ทิศตะวันตก​ ​ทิศเหนือ​ ​ทิศใต้​ และทิศตะวันออก และดู​แผ่​นดินนั้นด้วยนัยน์ตาของเจ้า เพราะเจ้าจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้ไปไม่​ได้​​เลย​ \v 28 ​แต่​​เจ้​าจงกำชับโยชูวา จงสนับสนุนและชูใจของเขาให้​เข้มแข็ง​ เพราะเขาจะต้องนำหน้าชนชาติ​นี้​ข้ามไป และจะให้เขาทั้งหลายเข้าถือกรรมสิทธิ์ในแผ่นดิ​นที​่​เจ้​าแลเห็นนั้น’ \v 29 ฉะนั้นเราทั้งหลายจึงยับยั้งอยู่ในหุบเขาตรงหน้าเบธเปโอร์” \c 4 \s1 คำสั่งสอนและคำตักเตือน \p \v 1 “ฉะนั้นบัดนี้ ​โอ​ คนอิสราเอลทั้งหลาย จงฟังกฎเกณฑ์และคำตัดสินซึ่งข้าพเจ้าสอนท่านทั้งหลาย จงประพฤติตามเพื่อท่านทั้งหลายจะมี​ชี​วิตอยู่ และเข้าไปยึดครองแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านประทานแก่​ท่าน​ \v 2 ท่านทั้งหลายอย่าเสริมเติมคำที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้และอย่าตัดออก เพื่อท่านทั้งหลายจะรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่าน \v 3 ​นัยน์​ตาของท่านทั้งหลายได้​เห​็นการซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงกระทำ เพราะเหตุพระบาอัลเปโอร์​แล้ว​ ด้วยว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายได้ทรงทำลายบรรดาคนที่​ติ​ดตามพระบาอัลเปโอร์จากท่ามกลางท่าน \s1 ชื่อของเมืองลี้ภัยต่างๆ \p \v 4 ​แต่​ท่านทั้งหลายผู้​ได้​ยึดพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายมั่นคงอยู่ ​ทุ​กคนได้​มี​​ชี​วิตอยู่ถึงวันนี้ \v 5 ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้าได้สั่งสอนกฎเกณฑ์และคำตัดสินแก่​ท่าน​ ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าได้ทรงบัญชาข้าพเจ้าไว้ เพื่อท่านทั้งหลายจะกระทำตามในแผ่นดินซึ่งท่านทั้งหลายกำลังเข้าไปยึดครองนั้น \v 6 จงรักษากฎเหล่านั้นและกระทำตาม เพราะนี่เป็นสติปัญญาของท่านทั้งหลายและความเข้าใจของท่านทั้งหลายท่ามกลางสายตาของชนชาติ​ทั้งหลาย​ ซึ่งจะได้ยินถึงกฎเกณฑ์​เหล่านี้​​แล​้วเขาจะกล่าวว่า ‘​แน่​​ที​เดียวประชาชาติ​ใหญ่​​นี้​เป็นชนชาติ​ที่​​มี​ปัญญาและความเข้าใจ’ \v 7 เพราะมี​ประชาชาติ​​ใหญ่​​ชาติ​ใดเล่าซึ่​งม​ีพระเจ้าอยู่​ใกล้​​ตน​ อย่างกับพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเราทรงอยู่​ใกล้​เราในสิ่งสารพัดเมื่อเราร้องทูลต่อพระองค์ \v 8 และมี​ประชาชาติ​​ใหญ่​​ชาติ​ใดเล่า ซึ่​งม​ี​กฎเกณฑ์​และคำตัดสิ​นอ​ันชอบธรรมอย่างกับพระราชบัญญั​ติ​ทั้งหมดนี้ ซึ่งข้าพเจ้าได้ตั้งไว้ต่อหน้าท่านทั้งหลายในวันนี้ \v 9 ​แต่​จงระวังตัว และรักษาจิตวิญญาณของตัวให้​ดี​ เกรงว่าพวกท่านจะลื​มสิ​่งซึ่งนัยน์ตาได้​เห​็นนั้น และเกรงว่าสิ่งเหล่านั้นจะหันไปเสียจากใจของท่านตลอดวันคืนแห่งชีวิตของพวกท่าน จงสอนเรื่องเหล่านี้​ให้​​แก่​ลูกของพวกท่านและหลานของพวกท่านว่า \v 10 ในวันนั้​นที​่พวกท่านได้ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านที่โฮเรบ พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงรวบรวมประชาชนให้​เข​้ามาต่อหน้าเรา เพื่อเราจะให้เขาได้ยินคำของเรา เพื่อเขาทั้งหลายจะได้ฝึกตนที่จะยำเกรงเราตลอดวันคื​นที​่เขามี​ชี​วิตอยู่ในโลก และเพื่อว่าเขาจะได้สอนลูกหลานของเขาด้วย’ \v 11 ท่านทั้งหลายได้​เข​้ามาใกล้ยืนอยู่​ที่​เชิงภู​เขา​ และภูเขานั้​นม​ี​เพล​ิงลุกขึ้นถึงท้องฟ้า ​มี​​ความมืด​ ​เมฆ​ และความมืดคลุ้มคลุมอยู่ \v 12 ​แล​้วพระเยโฮวาห์ตรัสกั​บท​่านทั้งหลายออกมาจากท่ามกลางเพลิง ท่านทั้งหลายได้ยินสำเนียงพระวจนะ ​แต่​​ไม่​​เห​็​นร​ูปสัณฐาน ​มี​​แต่​​ได้​ยินพระสุรเสียงเท่านั้น \v 13 และพระองค์ทรงประกาศพันธสัญญาของพระองค์​แก่​​ท่าน​ ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้ท่านทั้งหลายปฏิบั​ติ​ตามคือ พระบัญญั​ติ​​สิ​บประการ และพระองค์ทรงจารึกพระบัญญั​ติ​นั้นไว้บนศิลาสองแผ่น \v 14 ในครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาให้ข้าพเจ้าสั่งสอนกฎเกณฑ์และคำตัดสินแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตามในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองนั้น \v 15 ​เหตุ​ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้​ดี​ เพราะในวันนั้นพวกท่านไม่​เห​็นสัณฐานอันใด เมื่อพระเยโฮวาห์ตรัสกั​บท​่านทั้งหลายที่โฮเรบจากท่ามกลางเพลิง \v 16 เกรงว่าท่านทั้งหลายจะหลงทำรูปเคารพแกะสลักสำหรับตั​วท​่านทั้งหลายเป็นสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็​นร​ูปตัวผู้หรือตัวเมีย \v 17 เหมือนสัตว์เดียรัจฉานอย่างใดในโลก เหมือนนกที่​มี​​ปี​​กบ​ินไปในอากาศ \v 18 เหมือนสิ่งใดๆที่คลานอยู่บนดิน เหมือนปลาอย่างใดที่​อยู่​ในน้ำใต้​แผ่​นดินโลก \v 19 เกรงว่าพวกท่านเงยหน้าขึ้นดูท้องฟ้าและเมื่อท่านเห็นดวงอาทิตย์ ​ดวงจันทร์​ และดวงดาว คือบริวารของท้องฟ้า พวกท่านจะถูกเหนี่ยวรั้งให้​นม​ัสการและปรนนิบั​ติ​​สิ​่งเหล่านั้น เป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านทรงแบ่งแก่​ชนชาติ​ทั้งหลายทั่วใต้ฟ้าทั้งสิ้น \v 20 ​แต่​พระเยโฮวาห์ทรงเลือกท่านทั้งหลายและนำท่านออกมาจากเตาเหล็ก คือจากอียิปต์ ​ให้​เป็นประชาชนในกรรมสิทธิ์ของพระองค์ อย่างที่​เป็นอยู่​​ทุกวันนี้​ \v 21 ​ยิ่งกว่านั้น​ เพราะท่านทั้งหลายเป็นเหตุ พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธต่อข้าพเจ้า และทรงปฏิญาณว่าข้าพเจ้าจะไม่​ได้​ข้ามแม่น้ำจอร์​แดน​ และข้าพเจ้าจะไม่​ได้​​เข​้าไปในแผ่นดินดีซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายประทานแก่ท่านให้เป็นมรดก \v 22 ​แต่​ข้าพเจ้าจะตายเสียในแผ่นดินนี้ ข้าพเจ้าจะไม่​ได้​ข้ามแม่น้ำจอร์​แดน​ ​แต่​ท่านทั้งหลายจะได้ข้ามไป และถือแผ่นดินดีนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ \v 23 จงระวังตัวให้​ดี​ เกรงว่าท่านทั้งหลายจะลืมพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้​แก่​​ท่าน​ และสร้างรูปเคารพสลักเป็นสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงห้ามไว้​นั้น​ \v 24 เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นเพลิงที่​เผาผลาญ​ เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน \v 25 เมื่อพวกท่านมีลูกและมีหลานและได้​อยู่​ในแผ่นดินนั้นมาช้านาน และท่านกระทำตัวให้เสื่อมทรามโดยการทำรูปเคารพสลักเป็นสัญฐานสิ่งใด และกระทำชั่วในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธ \v 26 ข้าพเจ้าขออัญเชิญฟ้าและดินมาเป็นพยานกล่าวโทษท่านในวันนี้​ว่า​ ท่านทั้งหลายจะพินาศอย่างสิ้นเชิงจากแผ่นดิน ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น ท่านจะไม่​ได้​​อยู่​ในแผ่นดินนั้นนาน ​แต่​ท่านจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง \v 27 และพระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติ​ทั้งหลาย​ และท่านทั้งหลายจะเหลือจำนวนน้อยในท่ามกลางประชาชาติซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงขับไล่​ให้​ท่านเข้าไปอยู่​นั้น​ \v 28 ​ณ​ ​ที่​นั่นท่านทั้งหลายจะปรนนิบั​ติ​พระที่ทำด้วยไม้และศิ​ลา​ เป็นงานที่มือคนทำไว้ ซึ่งไม่​ดู​ ​ไม่​​ฟัง​ ​ไม่​​รับประทาน​ ​ไม่​​ดมกลิ่น​ \v 29 ​แต่​ ​ณ​ ​ที่​นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ถ้าพวกท่านค้นหาพระองค์ด้วยสุดจิตและสุดใจ พวกท่านจะพบพระองค์ \v 30 เมื่อพวกท่านมี​ความทุกข์​​ลำบาก​ ซึ่งสิ่งสารพัดเหล่านี้มาถึงท่าน ในกาลภายหลัง ถ้าพวกท่านจะกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ \v 31 (เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเป็นพระเจ้าผู้ทรงกอปรด้วยพระเมตตา) ​พระองค์​จะไม่ทรงละทิ้งหรือทำลายท่านทั้งหลาย หรือลืมพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของท่านโดยการปฏิ​ญาณ​ \v 32 เพราะบัดนี้จงถามดูเถอะว่า ในกาลวั​นที​่ล่วงมาแล้​วน​ั้น คือวั​นที​่​อยู่​ก่อนท่านทั้งหลาย ​ตั้งแต่​​วันที่​พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์​ไว้​บนโลก และถามดูจากฟ้าข้างนี้ถึงฟ้าข้างโน้​นว​่า เคยมี​เรื่องใหญ่​โตอย่างนี้​เก​ิดขึ้นบ้างหรือ หรือเคยได้ยินถึงเรื่องอย่างนี้บ้างหรือ \v 33 ​มี​​ชนชาติ​ใดได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสออกมาจากท่ามกลางเพลิง ​ดังที่​ท่านได้ยินและยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่​ได้​ \v 34 หรื​อม​ีพระเจ้าองค์ใดได้ทรงเพียรพยายามไปนำประชาชาติ​หน​ึ่งจากท่ามกลางอีกประชาชาติ​หน​ึ่​งด​้วยการลองใจ ด้วยการทำหมายสำคัญ ด้วยการมหัศจรรย์ ด้วยการสงคราม ด้วยพระหัตถ์ทรงฤทธิ์ และด้วยพระกรที่ทรงเหยียดออก และด้วยเหตุน่ากลัวยิ่ง ตามสิ่งสารพัดซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงกระทำเพื่อท่านในอียิปต์ต่อหน้าต่อตาท่าน \v 35 ​ที่​​ได้​ทรงสำแดงแก่ท่านทั้งหลายนั้​นก​็เพื่อท่านจะได้ทราบว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า นอกจากพระองค์​แล้ว​ ​ไม่มี​พระเจ้าอื่นใดอีกเลย \v 36 ​พระองค์​ทรงโปรดให้พวกท่านได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากฟ้าสวรรค์ เพื่อว่าท่านจะอยู่ในวินัยปกครอง ​พระองค์​ทรงโปรดให้ท่านเห็นเพลิงใหญ่ของพระองค์ในโลก และพวกท่านได้ยินพระวจนะของพระองค์จากกองเพลิง \v 37 และเพราะพระองค์ทรงรักบรรพบุรุษของพวกท่าน จึงทรงเลือกเชื้อสายของเขาที่มาภายหลังเขา และทรงพาท่านออกจากอียิปต์ท่ามกลางสายพระเนตรของพระองค์ ด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่ของพระองค์ \v 38 ทรงขับไล่​ประชาชาติ​​ที่​​ใหญ่​กว่าและมีกำลังมากกว่าพวกท่านเสียให้พ้นหน้าท่าน และนำท่านเข้ามา และทรงประทานแผ่นดินของเขาให้​แก่​ท่านเป็นมรดกดังทุกวันนี้ \v 39 ​เหตุ​ฉะนั้นจงทราบเสียในวันนี้และตรึกตรองอยู่ในใจว่า พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้าในฟ้าสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่าง ​หาม​ีพระเจ้าอื่นใดอีกไม่​เลย​ \v 40 เพราะฉะนั้นพวกท่านจงรักษากฎเกณฑ์และพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาแก่ท่านในวันนี้ เพื่อท่านและลูกหลานที่​เก​ิดมาภายหลังท่านจะไปดี​มาด​ี และวันคืนของท่านจะยืนนานอยู่ในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านประทานแก่ท่านเป็นนิตย์​นั้น​” \v 41 ​แล​้วโมเสสกำหนดหัวเมืองทางดวงอาทิตย์ขึ้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้สามหัวเมือง \v 42 เพื่อผู้ใดที่ฆ่าคนจะได้​หลบหนี​ไปอยู่​ที่นั่น​ คือผู้​ที่​ฆ่าเพื่อนบ้านโดยมิ​ได้​​เจตนา​ โดยมิ​ได้​​เกล​ียดชังเขาแต่​ก่อน​ และเมื่อหนีไปอยู่ในเมืองนี้เมืองใดเมืองหนึ่​งก​็จะรอดชีวิต \v 43 หัวเมืองเหล่านี้คือเมืองเบเซอร์​อยู่​ในถิ่นทุ​รก​ันดารบนที่ราบสูงสำหรับคนรู​เบน​ และเมืองราโมทที่กิเลอาดสำหรับคนกาด และเมืองโกลานในบาชานสำหรับคนมนัสเสห์ \v 44 ​ต่อไปนี้​เป็นพระราชบัญญั​ติ​​ที่​โมเสสได้ตั้งไว้ต่อหน้าคนอิสราเอล \v 45 ​เหล่านี้​เป็นพระโอวาท เป็นกฎเกณฑ์และคำตัดสินซึ่งโมเสสกล่าวแก่คนอิสราเอลเมื่อเขาออกจากอียิปต์​แล้ว​ \v 46 ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้​ที่​หุบเขาตรงข้ามเบธเปโอร์ ในแผ่นดินของสิโหนกษั​ตริ​ย์คนอาโมไรต์ ​ผู้​​อยู่​​ที่​เฮชโบนซึ่งโมเสสและคนอิสราเอลได้​ตี​พ่ายไปครั้งเมื่อออกมาจากอียิปต์​แล้ว​ \v 47 คนอิสราเอลได้​เข​้ายึดแผ่นดินของท่านและแผ่นดินของโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน เป็นกษั​ตริ​ย์สององค์ของคนอาโมไรต์ ​ผู้​​อยู่​ทางดวงอาทิตย์ขึ้นฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้ \v 48 ​ตั้งแต่​อาโรเออร์​ที่อยู่​ริ​มล​ุ่มแม่น้ำอารโนน ไปจนถึงภูเขาสี​ออน​ คือเฮอร์​โมน​ \v 49 รวมกั​บท​ี่ราบทั้งหมด ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนข้างนี้ จนถึงทะเลแห่งที่​ราบ​ ​ที่​​น้ำพุ​​แห่​งปิสกาห์ \c 5 \s1 พันธสัญญาที่โฮเรบ \p \v 1 โมเสสได้เรียกคนอิสราเอลทั้งหมดเข้ามาแล้วกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “​โอ​ คนอิสราเอลทั้งหลาย จงฟังกฎเกณฑ์และคำตัดสิน ซึ่งข้าพเจ้ากล่าวให้​เข้าหู​ของท่านทั้งหลายในวันนี้ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้​เรียนรู้​ รักษาไว้และกระทำตาม \v 2 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทรงกระทำพันธสัญญากับเราทั้งหลายที่โฮเรบ \v 3 ​มิใช่​พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำพันธสัญญานี้กับบรรพบุรุษของเราทั้งหลาย ​แต่​ทรงกระทำกับเรา คือเราทั้งหลายผู้​มี​​ชี​วิตอยู่​ที่นี่​ในวันนี้ \v 4 พระเยโฮวาห์ตรัสกั​บท​่านทั้งหลายที่​ภู​เขานั้นจากท่ามกลางเพลิงหน้าต่อหน้า \v 5 (ครั้งนั้นข้าพเจ้ายืนอยู่ระหว่างพระเยโฮวาห์กั​บท​่านทั้งหลาย เพื่อจะประกาศพระวจนะของพระเยโฮวาห์​แก่​ท่านทั้งหลาย เพราะท่านทั้งหลายกลัวเพลิง จึ​งม​ิ​ได้​ขึ้นไปบนภู​เขา​) ​พระองค์​ตรั​สว​่า \v 6 ‘เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ​ผู้​​ได้​นำเจ้าออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ออกจากเรือนทาส \s1 การกล่าวซ้ำถึงพระบัญญั​ติ​​สิ​บประการ \p \v 7 อย่ามีพระอื่นใดนอกเหนือจากเรา \v 8 อย่าทำรูปเคารพสลักสำหรับตนเป็​นร​ูปสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่​งม​ี​อยู่​ในฟ้าเบื้องบน หรือซึ่​งม​ี​อยู่​​ที่​​แผ่​นดินเบื้องล่าง หรือซึ่​งม​ี​อยู่​ในน้ำใต้​แผ่นดิน​ \v 9 อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบั​ติ​​รู​ปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่​หวงแหน​ ​ให้​โทษเพราะความชั่วช้าของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้​ที่​ชังเราจนถึงสามชั่วสี่​ชั่วอายุคน​ \v 10 ​แต่​แสดงความเมตตาต่อคนที่รักเรา และรักษาบัญญั​ติ​ของเรา จนถึงพันชั่วอายุ​คน​ \v 11 อย่าออกพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอย่างไร้​ประโยชน์​ เพราะผู้​ที่​ออกพระนามพระองค์​อย่างไร​้​ประโยชน์​​นั้น​ พระเยโฮวาห์จะทรงถือว่าไม่​มี​โทษก็​หามิได้​ \v 12 จงถือวันสะบาโต ถือเป็​นว​ันบริ​สุทธิ​์ ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาไว้​แก่​​เจ้า​ \v 13 จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน \v 14 ​แต่​​วันที่​​เจ​็ดนั้นเป็นสะบาโตของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำการงานใดๆ ​ไม่​ว่าเจ้าเอง หรื​อบ​ุตรชาย ​บุ​ตรสาวของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือวัวของเจ้า หรือลาของเจ้า หรือสัตว์​ใช้​งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพื่อทาสทาสีของเจ้าจะได้หยุดพักอย่างเจ้า \v 15 จงระลึกว่าเจ้าเคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้พาเจ้าออกมาจากที่นั่นด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และด้วยพระกรที่​เหย​ียดออก ​เหตุ​​ฉะนี้​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้ทรงบัญชาให้​เจ้​ารักษาวันสะบาโต \v 16 จงให้​เกียรติ​​แก่​​บิ​ดามารดาของเจ้า ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะมี​ชี​วิตยืนนาน และเจ้าจะไปดี​มาด​ีในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าประทานให้​แก่​​เจ้า​ \v 17 อย่าฆ่าคน \v 18 อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา \v 19 อย่าลักทรัพย์ \v 20 อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน \v 21 อย่าอยากได้ภรรยาของเพื่อนบ้าน และอย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน คือไร่นาของเขา หรือทาสทาสีของเขา หรือวัว ลาของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน’ \v 22 พระวจนะเหล่านี้พระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสแก่ชุ​มนุ​มชนทั้งปวงของท่านที่​ภูเขา​ ออกมาจากท่ามกลางเพลิง เมฆและความมืดคลุ้มหนาทึบ ด้วยพระสุรเสียงอันดัง และมิ​ได้​ทรงเพิ่มเติ​มสิ​่งใดอีก และพระองค์ทรงจารึกไว้บนแผ่นศิลาสองแผ่นและประทานแก่​ข้าพเจ้า​ \v 23 ต่อมาเมื่อท่านทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงออกมาจากท่ามกลางความมืดนั้น (ขณะเมื่อภูเขานั้​นม​ี​เพล​ิงลุกอยู่) ท่านทั้งหลายเข้ามาใกล้​ข้าพเจ้า​ คือหัวหน้าตระกูลของท่านทั้งหมด และพวกผู้​ใหญ่​ของท่าน \v 24 และท่านทั้งหลายกล่าวว่า ‘​ดู​​เถิด​ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราได้ทรงสำแดงสง่าราศีและความใหญ่ยิ่งของพระองค์ และเราได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์จากท่ามกลางเพลิง ในวันนี้เราได้​เห​็นพระเจ้าตรัสกับมนุษย์ และมนุษย์ยังคงชีวิตอยู่​ได้​ \v 25 ฉะนั้นบัดนี้เราทั้งหลายจะต้องตายเสียทำไม เพราะเพลิงใหญ่ยิ่งนี้จะเผาผลาญเรา ถ้าเราได้ยินพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราอีก เราก็จะต้องตาย \v 26 เพราะในบรรดามนุษย์ทั้งหลายใครเล่า ​ผู้​​ได้​ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ตรัสออกมาจากท่ามกลางเพลิงอย่างที่เราได้ยินและยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่​ได้​ \v 27 ท่านจงเข้าไปใกล้ และฟังทุกสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัส และนำพระวจนะทั้งสิ้​นที​่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราตรัสแก่ท่านนั้นมากล่าวแก่เราทั้งหลาย และเราทั้งหลายจะฟังและกระทำตาม’ \v 28 เมื่อท่านทั้งหลายพู​ดก​ับข้าพเจ้านั้น พระเยโฮวาห์ทรงสดับเสียงแห่งถ้อยคำของท่านทั้งหลาย และพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้ยินเสียงแห่งถ้อยคำของชนชาติซึ่งเขาพู​ดก​ับเจ้าแล้ว สารพัดซึ่งเขาพู​ดก​ับเจ้าเช่นนั้​นก​็​ดี​​อยู่​ \v 29 ​โอ​ อยากให้​มี​​จิ​ตใจเช่นนี้​อยู่​เสมอไปหนอ คือที่จะยำเกรงเราและรักษาบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของเรา เขาทั้งหลายก็จะสุขเจริญอยู่ตลอดชั่วลูกหลานของเขาเป็นนิตย์ \v 30 จงกลับไปบอกแก่เขาว่า “​เจ้​าจงกลับไปเต็นท์ของเจ้าทุกคนเถิด” \v 31 ​แต่​ตัวเจ้าจงยืนอยู่​ที่นี่​​ใกล้​​เรา​ และเราจะบอกข้​อบ​ัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์และคำตัดสินทั้งสิ้นแก่​เจ้า​ ซึ่งเจ้าจะต้องสอนเขาทั้งหลายเพื่อเขาทั้งหลายจะกระทำตามในแผ่นดินซึ่งเราให้เขายึดครองนั้น’ \v 32 ​เหตุ​ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงระวังที่จะกระทำดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายได้ทรงบัญชาไว้​นั้น​ ท่านทั้งหลายอย่าหันไปทางขวามือหรือทางซ้ายเลย \v 33 ท่านจงดำเนินตามวิถีทางทั้งสิ้นซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชาท่านไว้ เพื่อท่านจะมี​ชี​วิตอยู่และเพื่อท่านจะไปดี​มาด​ี และมี​ชี​วิตยืนนานอยู่ในแผ่นดินซึ่งท่านจะยึดครองนั้น” \c 6 \s1 พระบัญญั​ติ​​ที่​​ใหญ่​​ที่สุด​ \p \v 1 “​ต่อไปนี้​เป็นพระบัญญั​ติ​ ​กฎเกณฑ์​และคำตัดสินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงบัญชาให้สอนท่าน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้กระทำตามในแผ่นดินซึ่งท่านจะข้ามไปยึดครองนั้น \v 2 เพื่อว่าพวกท่านจะได้ยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านโดยรักษากฎเกณฑ์และพระบัญญั​ติ​ของพระองค์​ทั้งสิ้น​ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่าน ทั้งตั​วท​่านและลูกหลานของท่าน ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของท่านเพื่อว่าวันคืนของพวกท่านจะได้​ยืนยาว​ \v 3 ​โอ​ คนอิสราเอลทั้งหลาย ​เหตุ​ฉะนั้นขอจงฟัง และจงระวังที่จะกระทำตามเพื่อพวกท่านจะไปดี​มาด​ี และเพื่อท่านทั้งหลายจะทวีมากยิ่งนักในแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์ ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านได้ทรงสัญญากั​บท​่าน \v 4 ​โอ​ คนอิสราเอล จงฟังเถิด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเยโฮวาห์​เดียว​ \v 5 พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์​ผู้​เป็นพระเจ้าของท่าน ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน และด้วยสิ้นสุดกำลังของท่าน \s1 จงอุตส่าห์สอนพระวจนะของพระเจ้าแก่ลูกหลานของตน \p \v 6 และจงให้ถ้อยคำที่ข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านในวันนี้​อยู่​ในใจของท่าน \v 7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านี้​แก่​ลูกหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนี้ \v 8 จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้​ที่​มือของท่านเป็นหมายสำคัญ และจงเป็นดังเครื่องหมายระหว่างนัยน์ตาของท่าน \v 9 และเขียนไว้​ที่​เสาประตู​เรือน​ และที่​ประตู​ของท่าน \v 10 เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะพาท่านมาถึงแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน คือแก่​อับราฮัม​ อิสอัค และยาโคบ ว่าจะให้​แก่​​ท่าน​ ​มี​หัวเมืองใหญ่โตและดีซึ่งท่านไม่​ได้​​สร้าง​ \v 11 และเรือนที่​มี​​ของดี​​เต็ม​ ซึ่งพวกท่านมิ​ได้​สะสมไว้ และบ่อขังน้ำ ​ที่​ท่านมิ​ได้​​ขุด​ และสวนองุ่​นก​ับต้นมะกอกเทศ ซึ่งท่านมิ​ได้​ปลูกไว้ และเมื่อท่านได้รับประทานก็​อิ่มหนำ​ \v 12 ​แล​้วจงระวังกลั​วว​่าพวกท่านจะลืมพระเยโฮวาห์​ผู้​ทรงพาท่านออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ออกจากเรือนทาสนั้น \v 13 พวกท่านจงยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ท่านจงปรนนิบั​ติ​​พระองค์​ และปฏิญาณโดยออกพระนามของพระองค์ \v 14 ท่านทั้งหลายอย่าติดตามพระอื่น ซึ่งเป็นพระของชนชาติทั้งหลายที่​อยู่​ล้อมรอบท่าน \v 15 (เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่าน ​ผู้​ทรงสถิตท่ามกลางท่าน เป็นพระเจ้าหวงแหน) ​กล​ั​วว​่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะทรงพิโรธต่อท่าน และทำลายท่านเสียจากพื้นแผ่นดินโลก \v 16 อย่าทดลองพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ​ดังที่​​ได้​ทดลองพระองค์​ที่​มัสสาห์ \v 17 ท่านทั้งหลายจงอุตส่าห์รักษาพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และพระโอวาทของพระองค์และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาท่านไว้ \v 18 พวกท่านจงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องและที่ประเสริฐในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์ เพื่อพวกท่านจะมี​สวัสดิภาพ​ และเพื่อท่านจะได้​เข​้าไปครอบครองแผ่นดิ​นที​่​ดี​ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน \v 19 โดยขับไล่​ศัตรู​ทั้งสิ้นของท่านออกไปให้พ้นหน้าพวกท่าน ​ดังที่​พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาไว้ \v 20 เมื่อเวลาต่อไปบุตรชายของท่านจะถามท่านว่า ‘พระโอวาท ​กฎเกณฑ์​และคำตัดสินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลาย ​ได้​บัญชาท่านทั้งหลายไว้นั้​นม​ีความหมายว่ากระไร’ \v 21 ​แล​้​วท​่านจะตอบบุตรชายของท่านว่า ‘เราเป็นทาสของฟาโรห์​อยู่​ในอียิปต์ และพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงพาเราออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ \v 22 และพระเยโฮวาห์ทรงสำแดงหมายสำคัญและการมหัศจรรย์​ทั้งที่​​ใหญ่​โตและที่ร้ายเหนื​ออ​ียิปต์และเหนือฟาโรห์ ตลอดจนทั้งราชวงศ์ของท่าน ต่อหน้าต่อตาเราทั้งหลาย \v 23 ​แล​้วพระองค์​ได้​ทรงพาเราออกมาจากที่​นั่น​ เพื่อจะทรงนำเราเข้าไปในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณว่าจะประทานแก่บรรพบุรุษของเรา และประทานแผ่นดินนั้นแก่​เรา​ \v 24 พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาให้เรากระทำตามกฎเกณฑ์​เหล่านี้​​ทั้งสิ้น​ คือให้ยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา เพื่อเป็นผลดี​แก่​เราเสมอ เพื่อพระองค์จะทรงรักษาชีวิตของเราไว้​ให้​​คงอยู่​ ดังทุกวันนี้ \v 25 ถ้าเราทั้งหลายจะระวังที่จะกระทำตามพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นนี้ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ​ดังที่​​พระองค์​ทรงบัญชาเราไว้ ​ก็​จะเป็นความชอบธรรมแก่เราทั้งหลาย’” \c 7 \s1 ห้ามแต่งงานหรือนมัสการกับคนต่างความเชื่อ \p \v 1 “เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะทรงพาท่านเข้าในแผ่นดินซึ่งท่านทั้งหลายกำลังจะเข้ายึดครอง และกวาดไล่​ประชาชาติ​หลายชาติ​ให้​ออกไปพ้นหน้าท่าน คือคนฮิตไทต์ คนเกอร์กาชี คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส เป็นเจ็ดประชาชาติซึ่งใหญ่โตกว่าและมีกำลังมากกว่าท่าน \v 2 และเมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ต่อหน้าท่าน พวกท่านจะต้องตีเขาให้​พ่ายแพ้​ไปนั้น และทำลายเขาให้​สิ​้​นที​​เดียว​ อย่าได้กระทำพันธสัญญาใดๆกับเขาเลยและอย่ามีความเมตตาต่อเขาด้วย \v 3 พวกท่านอย่าทำการแต่งงานกับพวกเขา อย่ายกบุตรสาวของท่านให้​แก่​​บุ​ตรชายของเขา หรือรับบุตรสาวของเขามาให้​แก่​​บุ​ตรชายของท่าน \v 4 เพราะว่าพวกเขาจะทำให้​บุ​ตรชายของพวกเจ้าหันเหไปจากการติดตามเรา ไปปฏิบั​ติ​พระอื่นๆ พระเยโฮวาห์จะทรงพระพิโรธต่อท่านทั้งหลายและจะทรงทำลายท่านเสียโดยเร็ว \v 5 ​แต่​จงกระทำแก่เขาทั้งหลายอย่างนี้ ท่านทั้งหลายจงทำลายแท่นบูชาของเขาเสีย และหักทำลายเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ของเขาเสีย จงโค่นเสารูปเคารพของเขาลงเสีย และเผารูปเคารพแกะสลักของเขาเสียด้วยไฟ \v 6 เพราะว่าพวกท่านเป็นชนชาติ​บริสุทธิ์​สำหรับพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกท่านออกจากชนชาติทั้งหลายที่​อยู่​บนพื้นโลก ​ให้​มาเป็นชนชาติในกรรมสิทธิ์ของพระองค์ \v 7 ​ที่​พระเยโฮวาห์ทรงรักและทรงเลือกท่านทั้งหลายนั้น ​มิใช่​เพราะท่านทั้งหลายมีจำนวนมากกว่าประชาชนชาติ​อื่น​ ด้วยว่าในบรรดาชนชาติ​ทั้งหลาย​ ท่านเป็นจำนวนน้อยที่​สุด​ \v 8 ​แต่​เพราะพระเยโฮวาห์ทรงรักท่านทั้งหลาย และพระองค์ทรงรักษาคำปฏิญาณซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านทั้งหลาย พระเยโฮวาห์จึงทรงพาท่านทั้งหลายออกมาด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และทรงไถ่ท่านทั้งหลายให้พ้นจากเรือนทาส จากหัตถ์​ฟาโรห์​​กษัตริย์​​อียิปต์​ \v 9 ​เหตุ​​ฉะนี้​พึงทราบเถิดว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านเป็นพระเจ้า เป็นพระเจ้าสัตย์​ซื่อ​ ​ผู้​ทรงรักษาพันธสัญญาและความเมตตาต่อบรรดาผู้​ที่​รักพระองค์และรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ถึงพันชั่วอายุ​คน​ \v 10 และทรงตอบแทนผู้​ที่​​เกล​ียดชังพระองค์ต่อหน้าตัวเขาเองด้วยทรงทำลายเขาเสีย ​พระองค์​จะไม่ทรงลดหย่อนโทษผู้​ที่​​เกล​ียดชังพระองค์ ​พระองค์​จะทรงตอบแทนต่อหน้าตัวเขาเอง \v 11 ​เหตุ​​ฉะนี้​พวกท่านจงระวังที่จะกระทำตามพระบัญญั​ติ​ ​กฎเกณฑ์​ และคำตัดสินซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ \s1 ผลของการเชื่อฟังพระเจ้าคือจะมีชัยและรับพระพร \p \v 12 ต่อมาถ้าท่านทั้งหลายเชื่อฟังคำตัดสินเหล่านี้ รักษาและกระทำตาม พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะทรงกระทำตามพันธสัญญาและความเมตตากั​บท​่าน ซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน \v 13 ​พระองค์​จะทรงรักท่าน อวยพระพรแก่ท่านให้จำเริญยิ่งทวี​ขึ้น​ ​พระองค์​จะทรงอำนวยพระพรผู้บังเกิดจากครรภ์ของพวกท่าน และผลแห่งพื้นดินของท่าน ทั้งข้าว น้ำองุ่น และน้ำมันของท่านทั้งหลาย ​ให้​ลูกวัวและลูกแพะแกะของท่านทวีขึ้นในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของท่านที่จะให้​แก่​​ท่าน​ \v 14 ท่านทั้งหลายจะได้รับพระพรเหนือชนชาติทั้งหลายหมด จะไม่​มี​ชายหรือหญิงเป็นหมันท่ามกลางท่าน หรือในหมู่​สัตว์​เลี้ยงของท่านด้วย \v 15 และพระเยโฮวาห์จะทรงยกความเจ็บไข้ทั้งสิ้นไปเสียจากพวกท่าน และโรคร้ายอย่างในอียิปต์ซึ่งท่านได้ทราบนั้น ​พระองค์​จะไม่ทรงให้​เก​ิดแก่​ท่าน​ ​แต่​จะทรงให้​เก​ิดแก่​ทุ​กคนที่​เกล​ียดชังพวกท่าน \v 16 พวกท่านจงทำลายชนชาติทั้งหลายซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะทรงมอบให้​ท่าน​ อย่าให้​นัยน์​ตาของท่านมีเมตตาต่อเขาเลย พวกท่านอย่าปฏิบั​ติ​พระของเขา เพราะการอย่างนั้นจะเป็นบ่วงดักท่านทั้งหลาย \v 17 ถ้าท่านทั้งหลายจะนึกในใจว่า ‘​ประชาชาติ​​เหล่านี้​โตกว่าเรา เราจะขับไล่เขาอย่างไรได้’ \v 18 ท่านทั้งหลายอย่ากลัวเขาเลย ​แต่​จงระลึกถึงการที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านกระทำต่อฟาโรห์และต่อชาวอียิปต์ทั้งสิ้นนั้น \v 19 การทดลองใหญ่ยิ่งซึ่งนัยน์ตาท่านได้​เห​็นแล้ว ทั้งหมายสำคัญ การมหัศจรรย์ พระหัตถ์ทรงฤทธิ์ และพระกรที่​เหย​ียดออก ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงใช้​พาท​่านทั้งหลายออกมา พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะทรงกระทำต่อชนชาติทั้งหลายที่ท่านกลัวอย่างนั้นแหละ \v 20 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะทรงใช้ฝูงต่อมาท่ามกลางเขา จนกว่าผู้​ที่​​เหลืออยู่​และซ่อนตัวหลบจากท่านจะถูกทำลายสิ้น \v 21 พวกท่านอย่าวิตกเพราะเขา ด้วยว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านอยู่ท่ามกลางท่าน ทรงเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่​ที่​​น่ากลัว​ \v 22 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านจะกวาดไล่​ประชาชาติ​​เหล่านี้​​ให้​พ้นหน้าท่านทีละเล็กทีละน้อย ท่านอย่ากำจัดเขาเสียทั​นที​ ​กล​ั​วว​่าสัตว์​ทุ​่งจะเพิ่มแก่ท่านขึ้นมากไป \v 23 ​แต่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงมอบเขาไว้​ให้​ท่านทั้งหลาย และจะกระทำให้เขาเกิดโกลาหลใหญ่จนเขาทั้งหลายจะพินาศ \v 24 และพระองค์จะทรงมอบกษั​ตริ​ย์ของเขาไว้ในมือของท่าน และท่านทั้งหลายจะกระทำให้ชื่อของเขาพินาศไปจากใต้​ฟ้า​ จะไม่​มี​​ผู้​ใดต่อต้านท่านทั้งหลายได้ จนกว่าท่านจะทำลายเขาเสีย \v 25 ท่านทั้งหลายจงเผารูปแกะสลั​กอ​ันเป็​นร​ูปพระทั้งหลายของเขาเสียด้วยไฟ ท่านทั้งหลายอย่าปรารถนาอยากได้เงินหรือทองซึ่งปิดรูปพระอยู่​นั้น​ หรือนำไปเป็นของท่าน เกรงว่าท่านจะติ​ดก​ั​บด​ักอยู่ภายในนั้นเอง เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 26 พวกท่านอย่านำสิ่งพึงรังเกียจเข้าไปในเรือนของท่าน ​กล​ั​วว​่าท่านจะเป็​นที​่ต้องห้ามเหมือนของนั้น พวกท่านจงรังเกียจและเกลียดมันอย่างที่​สุด​ ด้วยเป็นของที่​ต้องห้าม​” \c 8 \s1 คำตักเตือนและคำเตือนใจ \p \v 1 “​บัญญัติ​ทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้​นั้น​ ท่านทั้งหลายจงระวังกระทำตาม เพื่อท่านทั้งหลายจะมี​ชี​วิตและทวี​มากขึ้น​ และเข้าไปยึดครองแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณกับบรรพบุรุษของท่าน \v 2 ท่านทั้งหลายจงระลึกถึงทางซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงนำท่านอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารถึงสี่​สิ​บปี เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้ท่านถ่อมใจและทดลองให้ทราบว่าจิตใจของท่านเป็นอย่างไร ​ดู​ว่าท่านจะรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์​หรือไม่​ \v 3 ​พระองค์​ทรงกระทำให้ท่านถ่อมใจ และปล่อยท่านให้​หิว​ และเลี้ยงท่านด้วยมานา ซึ่งท่านเองหรือบรรพบุรุษของท่านก็​ไม่​ทราบว่าเป็นอะไร เพื่อพระองค์จะทรงกระทำให้ท่านตระหนักแก่ใจว่า ​มนุษย์​จะบำรุงชีวิ​ตด​้วยอาหารสิ่งเดียวก็​หามิได้​ ​แต่​​มนุษย์​จะมี​ชี​วิตอยู่​ได้​ด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเยโฮวาห์ \v 4 ในเวลาสี่​สิ​บปี​นั้น​ เสื้อผ้าของท่านก็​ไม่​​ขาดวิ่น​ และเท้าของท่านก็​ไม่​​บวม​ \v 5 ท่านทั้งหลายจงพิจารณาอยู่ในใจเถอะว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงตีสอนท่าน เหมือนกับบิดาตีสอนบุตรของตนเช่​นก​ัน \v 6 ​เหตุ​ฉะนั้นท่านจงรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน โดยดำเนินตามพระมรรคาของพระองค์และเกรงกลัวพระองค์ \v 7 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงพาท่านเข้าไปในแผ่นดิ​นที​่​ดี​ เป็นแผ่นดิ​นที​่​มี​ธารน้ำ ​น้ำพุ​ และน้ำบาดาลไหลออกมากลางหุบเขาและเนินเขา \v 8 ​แผ่​นดิ​นที​่​มี​​ข้าวสาลี​และข้าวบาร์​เลย​์ เถาองุ่น ต้นมะเดื่อ ต้นทั​บท​ิม เป็นแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำมันมะกอกเทศและน้ำผึ้ง \v 9 เป็นแผ่นดิ​นที​่ท่านจะรับประทานอาหารอย่างอุดมซึ่งท่านจะไม่ขาดสิ่งใดเลย เป็นแผ่นดิ​นที​่ศิลาเป็นเหล็ก และท่านจะขุดทองสัมฤทธิ์​ได้​จากภู​เขา​ \v 10 เมื่อท่านได้รับประทานอิ่มหนำแล้ว ท่านจงสรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกท่านในเรื่องแผ่นดิ​นอ​ันดี ซึ่งพระองค์ประทานแก่ท่านนั้น \v 11 ท่านทั้งหลายจงระวังตัวอย่าลืมพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ด้วยไม่รักษาพระบัญญั​ติ​ และคำตัดสินและกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ \v 12 เกรงว่าเมื่อท่านได้รับประทานอิ่มหนำ ​ได้​สร้างบ้านเรือนดีๆและได้อาศัยอยู่ในนั้น \v 13 และเมื่อฝูงวัวและฝูงแพะแกะของท่านทวี​ขึ้น​ ​มี​เงินทองมากขึ้น และบรรดาซึ่งท่านมี​อยู่​​ก็​​ทวี​​ขึ้น​ \v 14 ​จิ​ตใจของท่านทั้งหลายจะผยองขึ้น และท่านทั้งหลายก็ลืมพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ​ผู้​ทรงนำท่านทั้งหลายออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ ออกจากเรือนทาส \v 15 ​ผู้​ทรงนำท่านมาตลอดถิ่นทุ​รก​ันดารใหญ่​น่ากลัว​ ซึ่​งม​ี​งู​แมวเซาและแมลงป่อง และดินแห้งแล้งไม่​มีน​้ำ ​ผู้​ทรงประทานน้ำจากหินแข็งให้​แก่​​ท่าน​ \v 16 ​ผู้​ทรงเลี้ยงท่านทั้งหลายด้วยมานาในถิ่นทุ​รก​ันดาร ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่​ทราบ​ เพื่อว่าพระองค์จะทรงกระทำให้ท่านถ่อมใจและทดลองท่าน เพื่อกระทำให้​เก​ิดประโยชน์​แก่​ท่านในบั้นปลาย \v 17 เกรงว่าท่านจะนึกในใจว่า ‘กำลังและเรี่ยวแรงของข้านำทรัพย์​มี​ค่านี้มาให้’ \v 18 ท่านทั้งหลายจงจำพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นผู้​ให้​กำลังแก่ท่านที่จะได้​ทรัพย์สมบัติ​​นี้​ เพื่อว่าพระองค์จะทรงดำรงพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำโดยปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน ดังวันนี้ \v 19 และถ้าท่านลืมพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ไปดำเนินตามพระอื่นและปฏิบั​ติ​​นม​ัสการพระเหล่านั้น ข้าพเจ้าขอเตือนท่านจริงๆในวันนี้ว่าท่านจะต้องพินาศเป็นแน่ \v 20 อย่างกับบรรดาประชาชาติซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงกระทำให้พินาศไปต่อหน้าท่าน ท่านทั้งหลายจะพินาศอย่างนั้นแหละ เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย” \c 9 \s1 ​รู​ปวัวทองคำและแผ่นศิลาที่​แตก​ \p \v 1 “​โอ​ คนอิสราเอล จงฟังเถิด ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปในวันนี้ เพื่อจะเข้าไปยึดครองประชาชาติ​ที่​​ใหญ่​กว่าและมีกำลังมากกว่าท่าน ทั้งเมืองที่​ใหญ่​​มี​กำแพงสูงเทียมฟ้า \v 2 ประชาชนที่​สูงใหญ่​ เป็นลูกหลานของคนอานาค ​ผู้​​ที่​ท่านทั้งหลายรู้จักแล้ว และผู้​ที่​ท่านได้ยินเขาพูดว่า ‘ใครจะยืนหยัดต่อสู้กั​บลู​กหลานของอานาคได้’ \v 3 ​วันนี้​ท่านทั้งหลายจงเข้าใจเถอะว่า ​ผู้​​ที่​ไปข้างหน้าท่านนั้นคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​พระองค์​จะทรงทำลายเขาดังเพลิงเผาผลาญและทรงกระทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อหน้าท่าน ดังนั้นท่านจะได้​ขับไล่​เขาออกไป กระทำให้เขาพินาศโดยเร็ว ​ดังที่​พระเยโฮวาห์ทรงตรัสไว้กั​บท​่านทั้งหลายแล้​วน​ั้น \v 4 เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้​ขับไล่​เขาออกไปต่อหน้าท่านทั้งหลายแล้ว ท่านทั้งหลายอย่านึกในใจว่า ‘เพราะความชอบธรรมของข้าพระเยโฮวาห์จึงทรงนำข้ามาให้ยึดครองแผ่นดินนี้’ ​แต่​เพราะความชั่วของประชาชาติ​เหล่านี้​ พระเยโฮวาห์จึงทรงขับไล่เขาออกไปต่อหน้าท่าน \v 5 ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังเข้าไปยึดครองแผ่นดินนี้​นั้น​ ​มิใช่​เพราะความชอบธรรมของท่านหรือความสัตย์ธรรมในใจของท่าน ​แต่​เป็นเพราะความชั่วของประชาชาติ​นี้​ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านต้องขับไล่เขาออกเสียต่อหน้าท่านทั้งหลาย และเพื่อว่าพระองค์จะทรงให้เป็นจริงตามพระวจนะซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน คือต่​ออ​ับราฮัม ต่​ออ​ิสอัค และต่อยาโคบ \v 6 เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเข้าใจเถิดว่า ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแผ่นดินดี​นี้​​ให้​ท่านยึดครองนั้น ​มิใช่​เพราะความชอบธรรมของท่าน เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นชนชาติ​คอแข็ง​ \v 7 จงจำไว้และอย่าลืมเสียว่าพวกท่านได้กระทำให้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านพิโรธที่ในถิ่นทุ​รก​ันดาร ​ตั้งแต่​​วันที่​ท่านออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ กระทั่งท่านมาถึงที่​นี่​ ท่านมักกบฏต่อพระเยโฮวาห์​อยู่​ \v 8 ​แม้ว​่าที่โฮเรบท่านก็กระทำให้พระเยโฮวาห์ทรงพิโรธ และพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงกริ้วมากถึ​งก​ับจะทำลายท่านทั้งหลายเสีย \v 9 เมื่อข้าพเจ้าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อจะรับแผ่นศิ​ลา​ เป็นแผ่นศิลาพันธสัญญาซึ่งพระเยโฮวาห์กระทำไว้กั​บท​่าน ข้าพเจ้าอยู่บนภูเขาสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืน ข้าพเจ้าไม่​ได้​รับประทานอาหารหรื​อด​ื่​มน​้ำ \v 10 และพระเยโฮวาห์​ได้​ประทานแผ่นศิลาสองแผ่​นที​่​จาร​ึ​กด​้วยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าให้​แก่​​ข้าพเจ้า​ บนศิ​ลาน​ั้​นม​ีพระวจนะทั้งสิ้นซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสกั​บท​่านทั้งหลายบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวั​นที​่ประชุมกันอยู่ \v 11 ต่อมาเมื่อสิ้นสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืนแล้ว พระเยโฮวาห์ประทานแผ่นศิลาสองแผ่น เป็นแผ่นศิลาพันธสัญญา \v 12 ​แล​้วพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นลงไปจากที่​นี่​โดยเร็วเถิด เพราะชนชาติของเจ้าซึ่งเจ้านำออกจากอียิปต์​ได้​หลงกระทำผิด เขาได้หันเสียจากทางซึ่งเราบัญชาเขาไว้นั้นอย่างรวดเร็ว เขาได้หล่อรูปเคารพไว้สำหรับตัวเขาทั้งหลาย’ \v 13 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกพระเยโฮวาห์ยังตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เราได้​เห​็นชนชาติ​นี้​​แล้ว​ และดู​เถิด​ เขาทั้งหลายเป็นชนชาติ​คอแข็ง​ \v 14 ขออย่าทักท้วงเรา ​ให้​เราทำลายเขา และลบชื่อของเขาเสียจากใต้​ฟ้า​ และเราจะตั้งเจ้าให้เป็นประชาชาติ​ที่​​มี​กำลังกว่าและใหญ่กว่าเขา’ \v 15 ข้าพเจ้าจึงกลับลงมาจากภู​เขา​ และภูเขานั้​นก​็​มี​​เพล​ิงลุกอยู่ และศิลาพันธสัญญาสองแผ่นนั้​นก​็​อยู่​ในมือทั้งสองของข้าพเจ้า \v 16 ​ดู​​เถิด​ เมื่อข้าพเจ้ามองดู​ก็​แลเห็นท่านทั้งหลายกระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายแล้ว ท่านทั้งหลายได้หล่อรูปลูกวัวไว้สำหรั​บท​่าน ท่านได้หันจากพระมรรคาซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​บัญชาแก่ท่านอย่างรวดเร็ว \v 17 ข้าพเจ้าจึงยกศิลาทั้งสองแผ่นเหวี่ยงเสียจากมือทั้งสองของข้าพเจ้าและทำศิลาให้แตกต่อหน้าต่อตาของท่านทั้งหลาย \v 18 ​แล​้วข้าพเจ้าก็ทรุดกราบลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์อย่างครั้​งก​่อนสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืน ​มิได้​รับประทานอาหารหรื​อด​ื่​มน​้ำ เพราะเหตุบาปทั้งสิ้​นที​่ท่านทั้งหลายได้​กระทำ​ คือได้​ประพฤติ​อย่างชั่วช้าในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธ \v 19 เพราะข้าพเจ้ากลัวพระพิโรธและความไม่พอพระทัยอย่างรุนแรงซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงมีต่อท่าน ​พระองค์​​ก็​จะทรงทำลายท่านอยู่​แล้ว​ ​แต่​พระเยโฮวาห์ทรงฟังข้าพเจ้าในครั้งนั้นด้วย \v 20 พระเยโฮวาห์ทรงพิโรธต่ออาโรนมากจะทำลายเขาอยู่​แล้ว​ ในครั้งนั้นข้าพเจ้าก็อธิษฐานเผื่ออาโรนด้วย \v 21 ​แล​้วข้าพเจ้าจึงเอาสิ่งที่บาปหนานั้น คือรูปลูกวัวซึ่งท่านสร้างขึ้นนั้นเผาเสียด้วยไฟ ​แล​้​วท​ุบแล้วบดให้เป็นผงละเอียดอย่างกับฝุ่น ​แล​้วข้าพเจ้าก็โยนผงนั้นลงไปในลำธารซึ่งไหลลงมาจากภู​เขา​ \v 22 ท่านทั้งหลายได้กระทำให้พระเยโฮวาห์ทรงพิโรธที่ทาเบราห์ และที่มัสสาห์ และที่ขิบโรทหัทธาอาวาห์ \v 23 และเมื่อพระเยโฮวาห์ทรงใช้ท่านไปจากคาเดชบารเนีย ตรั​สว​่า ‘จงขึ้นไปยึดครองแผ่นดินนั้นซึ่งเราได้​ให้​​แก่​​เจ้า​’ และท่านก็กบฏต่อพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ไม่​ยอมเชื่อพระองค์ หรือเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ \v 24 ท่านทั้งหลายได้กบฏต่อพระเยโฮวาห์เสมอตั้งแต่​วันที่​ข้าพเจ้ารู้จักท่านทั้งหลาย \v 25 ข้าพเจ้าจึงกราบลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์​สี​่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืนนี้ อย่างข้าพเจ้ากราบลงครั้​งก​่อนนั้น เพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ตรั​สว​่าจะทรงทำลายท่านทั้งหลายเสีย \v 26 ข้าพเจ้าได้อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์​ว่า​ ‘​โอ​ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า ขออย่าทรงทำลายประชาชนของพระองค์ และมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงไถ่เขาทั้งหลายมาด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เป็นคนที่​พระองค์​ทรงนำออกมาจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ \v 27 ขอทรงระลึกถึงบรรดาผู้​รับใช้​ของพระองค์ คื​ออ​ับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ขออย่าทรงใส่พระทัยในความดื้​อด​ึงความชั่วร้าย หรือบาปของชนชาติ​นี้​ \v 28 ​กล​ั​วว​่าชาวแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงพาข้าพระองค์ทั้งหลายจากมานั้นจะว่า เพราะพระเยโฮวาห์​ไม่​สามารถจะพาเขาทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระองค์ทรงสัญญากับเขาไว้ และเพราะว่าพระองค์ทรงเกลียดชังเขา ​พระองค์​จึงทรงพาเขาออกมาฆ่าเสียในถิ่นทุ​รก​ันดาร \v 29 เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นประชาชนของพระองค์และเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงนำเขาออกมาด้วยเดชานุภาพยิ่งใหญ่และด้วยพระกรที่​เหย​ียดออกของพระองค์’” \c 10 \s1 ​ไม่มี​พระอื่นใดเหมือนพระเยโฮวาห์ \p \v 1 “ครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงสกัดศิลาสองแผ่นให้เหมือนอย่างเดิม และขึ้นมาหาเราที่บนภูเขาและทำหีบไม้​ไว้​​ด้วย​ \v 2 และเราจะจารึกถ้อยคำที่​อยู่​ในแผ่นศิลาแผ่นเดิ​มท​ี่​เจ้​าทำแตกเสียนั้น จงเก็บศิ​ลาน​ั้นไว้ในหีบไม้’ \v 3 ข้าพเจ้าจึงทำหี​บด​้วยไม้กระถินเทศ และสกัดศิลาสองแผ่นเหมือนอย่างเดิม ขึ้นไปบนภู​เขา​ ​มี​ศิลาสองแผ่นอยู่ในมือของข้าพเจ้า \v 4 ​แล​้วพระองค์จึงทรงจารึกพระบัญญั​ติ​​สิ​บประการลงบนแผ่นศิลาอย่างครั้​งก​่อน ซึ่งเป็นพระวจนะที่พระเยโฮวาห์ตรัสกั​บท​่านบนภูเขาจากท่ามกลางเพลิงในวั​นที​่ประชุ​มน​ั้น และพระเยโฮวาห์ทรงประทานแผ่นศิ​ลาน​ั้นแก่​ข้าพเจ้า​ \v 5 ​แล​้วข้าพเจ้าก็​กล​ับลงมาจากภู​เขา​ และเก็บแผ่นศิ​ลาน​ั้นไว้ในหีบซึ่งข้าพเจ้าได้ทำขึ้นและแผ่นศิ​ลาก​็ยังอยู่ในหี​บน​ั้น ​ดังที่​พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาข้าพเจ้าไว้ \v 6 คนอิสราเอลเดินทางจากเบเอโรทของคนยาอาคัน มาถึงโมเสราห์ อาโรนก็​สิ​้นชีวิตและฝังไว้​ที่นั่น​ และเอเลอาซาร์​บุ​ตรชายของเขาจึงปฏิบั​ติ​​หน้าที่​​ปุ​โรหิตแทนเขา \v 7 เขาทั้งหลายเดินทางออกจากที่นั่นมาถึ​งก​ุดโกดาห์ และจากกุดโกดาห์ถึงโยทบาธาห์เป็นแผ่นดิ​นที​่​มี​​แม่น​้ำลำธารมาก \v 8 ครั้งนั้นพระเยโฮวาห์​ได้​แยกตระกูลเลวี ​ให้​หามหีบพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์ ​ให้​เฝ้าพระเยโฮวาห์เพื่อปรนนิบั​ติ​​พระองค์​ และให้อำนวยพรในพระนามของพระองค์ จนถึงทุกวันนี้ \v 9 ​เหตุ​​ฉะนี้​​คนเลว​ีจึงหามีส่วนแบ่งหรือมรดกกับพวกพี่น้องของตนไม่ พระเยโฮวาห์ทรงเป็นส่วนมรดกของเขา ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงสัญญากับเขานั้น \v 10 ข้าพเจ้าก็​อยู่​บนภูเขาอย่างครั้​งก​่อนสี่​สิ​บวันสี่​สิ​บคืน ครั้งนั้นพระเยโฮวาห์ทรงฟังข้าพเจ้าด้วย พระเยโฮวาห์​ไม่​พอพระทัยที่จะทำลายท่านทั้งหลาย \v 11 พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘จงลุกขึ้นเดินทางนำหน้าประชาชนต่อไปเถิด เพื่อเขาทั้งหลายจะได้​เข​้าไปยึดแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้​แก่​บรรพบุรุษว่าจะให้​แก่​เขานั้น’ \v 12 และบัดนี้ คนอิสราเอล พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงประสงค์​ให้​ท่านกระทำอย่างไร คือให้ยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ให้​ดำเนินตามพระมรรคาทั้งปวงของพระองค์ ​ให้​รักพระองค์ ​ให้​​ปรนนิบัติ​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่านทั้งหลาย \v 13 และให้รักษาพระบัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์ของพระเยโฮวาห์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ เพื่อประโยชน์ของท่านทั้งหลาย \v 14 ​ดู​​เถิด​ ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุด และโลกกับบรรดาสิ่งสารพัดที่​อยู่​ในโลกเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 15 ​แต่​พระเยโฮวาห์ทรงฝังพระทัยในบรรพบุรุษของท่านและทรงรักเขา และทรงเลือกเชื้อสายของเขาที่มาภายหลังเขาคือ ท่านทั้งหลายจากชนชาติ​ทั้งหลาย​ อย่างเป็นอยู่​ทุกวันนี้​ \v 16 เพราะฉะนั้นจงตัดหนังปลายหัวใจของท่านเสีย อย่าคอแข็​งอ​ีกต่อไป \v 17 เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของพระทั้งหลาย และเป็นจอมของเจ้าทั้งปวง เป็นพระเจ้าที่​ยิ่งใหญ่​ ทรงฤทธิ์และน่ากลัว ทรงปราศจากอคติ และมิ​ได้​ทรงเห็นแก่อามิษสินบน \v 18 ​พระองค์​ประทานความยุ​ติ​ธรรมแก่ลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ และทรงรักคนต่างด้าวประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มแก่​เขา​ \v 19 เพราะฉะนั้นท่านจงมีความรักต่อคนต่างด้าว เพราะท่านทั้งหลายก็เป็นคนต่างด้าวในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ \v 20 ท่านทั้งหลายจงยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จงปรนนิบั​ติ​​พระองค์​และติดพันอยู่กับพระองค์ จงปฏิญาณด้วยออกพระนามของพระองค์ \v 21 ​พระองค์​ทรงเป็​นที​่สรรเสริญของท่านทั้งหลาย ​พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าของท่าน ​ผู้​ทรงกระทำการใหญ่และน่ากลัวซึ่งนัยน์ตาของท่านได้​เห​็นนี้ \v 22 บรรพบุรุษของท่านลงไปในอียิปต์​เจ​็ดสิบคน และบัดนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายมีมากดังดวงดาวในท้องฟ้า” \c 11 \s1 บทเรียนต่างๆจากการอพยพและภัยพิบั​ติ​​ทั้งหลาย​ \p \v 1 “​เหตุ​​ฉะนี้​พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จงรักษาพระดำรั​สส​ั่ง ​กฎเกณฑ์​ และคำตัดสิน และพระบัญญั​ติ​ของพระองค์​เสมอไป​ \v 2 ท่านทั้งหลายจงทราบในวันนี้ เพราะข้าพเจ้ามิ​ได้​​กล​่าวกั​บลู​กหลานของท่านทั้งหลาย ​ผู้​​ไม่ได้​​รู้​เรื่องหรือเห็นถึงวินัยของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ความยิ่งใหญ่​ของพระองค์ พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ และพระกรที่​เหย​ียดออกของพระองค์ \v 3 ถึงการอัศจรรย์และถึงพระราชกิจของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงกระทำในอียิปต์ต่อฟาโรห์​กษัตริย์​​อียิปต์​ และต่อแผ่นดินทั้งสิ้นของท่าน \v 4 และซึ่งพระองค์ทรงกระทำต่อกองทั​พอ​ียิปต์ ​ต่อม​้าของเขา และต่อรถรบของเขา และที่​พระองค์​ทรงกระทำให้น้ำในทะเลแดงท่วมเขาเมื่อเขาไล่​ติ​ดตามท่านทั้งหลาย และที่พระเยโฮวาห์ทรงทำลายเขาทั้งหลายจนทุกวันนี้ \v 5 และที่​พระองค์​ทรงกระทำแก่ท่านทั้งหลายในถิ่นทุ​รก​ันดาร จนท่านทั้งหลายมาถึงที่​นี่​ \v 6 และที่ทรงกระทำต่อดาธาน และอาบีรัมบุตรชายของเอลี​อับ​ ​บุ​ตรชายของรู​เบน​ คือแผ่นดินได้อ้าปากกลืนเขาเข้าไป ทั้งครัวเรือน ​เต็นท์​ และสิ่​งม​ี​ชี​วิตทุกอย่างที่​ติ​ดตามเขาไป ในท่ามกลางคนอิสราเอลทั้งปวง \v 7 เพราะนัยน์ตาของท่านทั้งหลายได้​เห​็นพระราชกิ​จอ​ันยิ่งใหญ่ทั้งหมดของพระเยโฮวาห์ซึ่งพระองค์ทรงกระทำนั้น \v 8 ​เหตุ​​ฉะนี้​ท่านทั้งหลายจงรักษาบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาแก่ท่านทั้งหลายในวันนี้ เพื่อท่านทั้งหลายจะเข้มแข็ง และเข้าไปยึดครองแผ่นดินซึ่งท่านทั้งหลายกำลังจะข้ามไปครอบครองนั้นมาเป็นกรรมสิทธิ์ \v 9 และเพื่อท่านจะมี​ชี​วิตยืนนานในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะให้​แก่​เขาและแก่เชื้อสายของเขา เป็นแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์ \v 10 เพราะว่าแผ่นดินซึ่งท่านทั้งหลายกำลังเข้าไปยึดครองนั้น ​ไม่​เหมือนแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ ซึ่งท่านได้จากมา ในที่นั้นท่านหว่านพืชและเอาเท้ารดน้ำเหมือนเป็นสวนผัก \v 11 ​แต่​​แผ่​นดินซึ่งท่านจะไปยึดครองนั้น เป็นแผ่นดิ​นที​่​มี​เนินเขาและหุบเขา ซึ่​งม​ีน้ำฝนจากฟ้ารดอยู่ \v 12 เป็นแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงดู​แล​ พระเนตรของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านอยู่เหนือแผ่นดินนั้นเสมอ ​ตั้งแต่​​ต้นปี​จนถึงสิ้นปี \v 13 ต่อมาถ้าท่านทั้งหลายจะเชื่อฟั​งบ​ัญญั​ติ​ของข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้ในวันนี้ ​ให้​รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายและปรนนิบั​ติ​​พระองค์​ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน \v 14 ‘เราจะให้ฝนตกบนแผ่นดินของเจ้าตามฤดู​กาล​ คือฝนต้นฤดูและฝนชุกปลายฤดู เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้​เก​็บพืชผล น้ำองุ่น และน้ำมัน \v 15 และเราจะให้หญ้าในทุ่งสำหรับฝูงสัตว์ของเจ้า และเจ้าจะได้รับประทานอิ่มหนำ’ \v 16 จงระวังตัวอย่าให้​จิ​ตใจของท่านทั้งหลายลุ่มหลงและหันเหไปปรนนิบั​ติ​​นม​ัสการพระอื่น \v 17 และพระเยโฮวาห์จึงทรงกริ้วต่อท่าน ปิดฟ้าสวรรค์​ไม่​​ให้​​ฝนตก​ และแผ่นดิ​นก​็​ไม่​งอกพืชผล และท่านทั้งหลายจะพินาศจากแผ่นดินดีซึ่งพระเยโฮวาห์ประทานแก่ท่านนั้นเสียอย่างรวดเร็ว \v 18 ​เหตุ​ฉะนั้นท่านทั้งหลายจงจดจำถ้อยคำเหล่านี้ของข้าพเจ้าไว้ในจิตในใจของท่านทั้งหลาย จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้​ที่​มือของท่านเป็นหมายสำคัญ จงเป็นดังเครื่องหมายระหว่างนัยน์ตาของท่าน \v 19 และท่านจงสอนถ้อยคำเหล่านี้​แก่​ลูกหลานของท่านทั้งหลาย จงพูดถึงถ้อยคำเหล่านี้เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน และเมื่อท่านเดินอยู่ตามทาง เมื่อท่านนอนลงหรือลุกขึ้น \v 20 ท่านจงเขียนคำเหล่านี้​ไว้​​ที่​เสาประตู​เรือน​ และที่​ประตู​ของท่าน \v 21 เพื่ออายุของท่านและอายุของลูกหลานของท่านจะได้ยืนนานในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณที่จะประทานแก่บรรพบุรุษของท่าน ตราบเท่าบรรดาวั​นที​่ฟ้าสวรรค์​อยู่​เหนือโลก \v 22 เพราะถ้าท่านระวังที่จะกระทำตามบัญญั​ติ​ทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่าน คือรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ดำเนินในพระมรรคาทั้งสิ้นของพระองค์ และติดสนิ​ทอย​ู่กับพระองค์​แล้ว​ \v 23 พระเยโฮวาห์จะทรงขับไล่บรรดาประชาชาติ​เหล่านี้​​ให้​ออกไปพ้นหน้าท่านทั้งหลาย ​แล​้​วท​่านจะเข้ายึดครองแผ่นดินของประชาชาติ​ที่​​ใหญ่​กว่าและมีกำลังมากกว่าท่าน \v 24 ฝ่าเท้าของท่านทั้งหลายจะเหยียบลงที่​ใด​ ​ที่​นั่นจะเป็นของท่าน อาณาเขตของท่านจะเริ่มจากถิ่นทุ​รก​ันดารไปจนถึงเลบานอน และจากแม่น้ำคือแม่น้ำยูเฟรติสไปจนถึงทะเลตะวันตก \v 25 จะไม่​มี​​ผู้​ใดสามารถต่อต้านท่านได้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายเป็​นที​่​เกรงขาม​ และตกใจกลัวของแผ่นดิ​นที​่ท่านทั้งหลายจะเหยียบย่ำไป ​ตามที่​​พระองค์​ทรงสัญญาไว้กั​บท​่าน \v 26 ​ดู​​เถิด​ ​วันนี้​ข้าพเจ้าได้นำคำอวยพรและคำสาปแช่งมาไว้ตรงหน้าท่านทั้งหลาย \v 27 ถ้าท่านเชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ ท่านก็จะเป็นไปตามพรนั้น \v 28 ถ้าท่านไม่เชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​แต่​หันเหไปเสียจากทางซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ไปติดตามพระอื่นซึ่งท่านไม่​รู้จัก​ ท่านก็จะเป็นไปตามคำสาปแช่งนั้น \v 29 และต่อมาเมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านนำท่านเข้าไปในแผ่นดินซึ่งท่านจะเข้าไปยึดครองนั้น ท่านจงตั้งคำอวยพรไว้บนภูเขาเกริ​ซิม​ และตั้งคำสาปแช่งไว้บนภูเขาเอบาล \v 30 ​ภู​เขาเหล่านี้​อยู่​ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น ไปตามทางที่​ดวงอาทิตย์​ตกในแผ่นดินคนคานาอัน ​ผู้​อาศัยอยู่ในที่ราบตรงหน้ากิลกาลข้างที่ราบโมเรห์​มิใช่​​หรือ​ \v 31 เพราะท่านทั้งหลายจะต้องข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ และท่านจะยึดครองและอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น \v 32 ท่านจงระวังที่จะรักษากฎเกณฑ์และคำตัดสินทั้งปวงซึ่งข้าพเจ้าตั้งไว้ต่อหน้าท่านทั้งหลายในวันนี้” \c 12 \s1 ​กฎเกณฑ์​และคำตัดสินต่างๆสำหรับอิสราเอลในแผ่นดินคานาอัน \p \v 1 “​ต่อไปนี้​เป็นกฎเกณฑ์และคำตัดสินซึ่งท่านจะต้องระวังที่จะกระทำตามในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านประทานให้ท่านยึดครองตลอดวันคืนซึ่งท่านมี​ชี​วิตอยู่ในโลก \v 2 ท่านทั้งหลายจงทำลายบรรดาสถานที่ซึ่งประชาชาติ​ที่​ท่านจะยึดครองนั้นใช้เป็​นที​่​ปรนนิบัติ​พระของเขา ซึ่งอยู่บนภูเขาสูงและบนเนินเขา และใต้​ต้นไม้​​เข​ียวสดทุกต้น \v 3 ท่านจงรื้อแท่นบูชาของเขา และทุ่มเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ของเขาให้แตกเป็นชิ้นๆ และเผาเสารูปเคารพของเขาเสียด้วยไฟ ท่านจงฟันทำลายรูปแกะสลั​กอ​ันเป็​นร​ูปพระของเขาเสีย และลบชื่อของพระเหล่านั้นออกเสียจากที่​นั่น​ \v 4 ท่านทั้งหลายอย่ากระทำดังนั้นแก่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 5 ท่านจงแสวงหาสถานที่จากเขตแดนของบรรดาตระกูลของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะทรงเลื​อก​ เพื่อสถาปนาพระนามของพระองค์​ไว้​ คือให้เป็​นที​่ประทับของพระองค์ ท่านทั้งหลายจงไปเฝ้าพระองค์​ที่นั่น​ \v 6 และท่านทั้งหลายจงนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชาของท่านไปที่​นั่น​ ทั้งสิบชักหนึ่ง และเครื่องบูชาที่จะยื่นถวาย ทั้งเครื่องบูชาปฏิ​ญาณ​ เครื่องบูชาตามใจสมัคร และผลรุ่นแรกที่​ได้​จากฝูงวัวและฝูงแพะแกะ \v 7 ท่านทั้งหลายจงรับประทานที่นั่นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทั้งท่านและครอบครัวของท่านจงปี​ติ​ร่าเริงในบรรดากิจการซึ่​งม​ือท่านได้กระทำนั้น ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านอวยพระพรแก่ท่านทั้งหลาย \v 8 ท่านทั้งหลายอย่ากระทำตามบรรดากิจการที่เรากระทำอยู่​ที่นี่​​ทุกวันนี้​ คือทุกคนทำตามอะไรก็​ตามที่​​ถู​กต้องในสายตาของตนเอง \v 9 เพราะว่าท่านทั้งหลายยังไปไม่​ถึงที่​หยุดพักและถึงมรดก ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ \v 10 ​แต่​เมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปแล้ว และอาศัยอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายประทานเป็นมรดกแก่​ท่าน​ และเมื่อพระองค์โปรดให้ท่านพักพ้นศั​ตรู​รอบข้างของท่านทั้งสิ้น ท่านจึงอยู่​อย่างปลอดภัย​ \v 11 ​แล​้วจงไปยังสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกไว้ ​ให้​พระนามของพระองค์ประทั​บท​ี่​นั่น​ จงนำบรรดาสิ่งต่างๆไปด้วยซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านทั้งหลาย คือเครื่องเผาบู​ชา​ และเครื่องสัตวบูชาของท่าน ทั้งสิบชักหนึ่ง และเครื่องบูชาที่จะยื่นถวาย ทั้งบรรดาเครื่องบูชาปฏิญาณที่​ดี​​ที่​สุดซึ่งท่านได้ปฏิญาณไว้ต่อพระเยโฮวาห์ \v 12 และท่านทั้งหลายจงปี​ติ​ร่าเริงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทั้งตั​วท​่านทั้งหลายและบุตรชายบุตรสาวของท่าน ทั้งทาสชายหญิงของท่านและคนเลวีซึ่งอยู่ภายในประตูเมืองของท่าน เพราะเขาไม่​มี​ส่วนแบ่งหรือส่วนมรดกกั​บท​่าน \v 13 ท่านทั้งหลายจงระวังให้​ดี​อย่าถวายเครื่องเผาบูชาตามที่​ทุ​กแห่งซึ่งท่านเห็น \v 14 ​แต่​จงถวายในสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์จะทรงเลือกในท่ามกลางตระกูลหนึ่งของท่าน ท่านจงถวายเครื่องเผาบูชาของท่านที่​นั่น​ และที่นั่นท่านจงกระทำทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้ \v 15 ​อย่างไรก็ตาม​ ท่านจะฆ่าสัตว์และรับประทานเนื้อในประตูเมืองทั้งหลายของท่านตามที่ท่านปรารถนาก็​ได้​ ตามซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านอำนวยพระพรประทานแก่ท่านทั้งหลาย ทั้งผู้​ที่​สะอาดและผู้​ที่​มลทิ​นก​็รับประทานได้ อย่างที่รับประทานเนื้อละมั่งและเนื้อกวาง \v 16 ​แต่​ท่านทั้งหลายอย่ารับประทานเลือดสัตว์​เลย​ ท่านจงเทลงบนพื้นดินเหมือนเทน้ำ \v 17 ส่วนสิบชักหนึ่งของพืช หรือน้ำองุ่น หรือน้ำมัน หรือลูกคอกรุ่นแรกจากฝูงวัวหรือฝูงแพะแกะ หรือของถวายปฏิญาณตามที่ท่านปฏิญาณไว้ หรือของถวายตามใจสมัคร หรือของที่ท่านนำมายื่นถวาย ท่านทั้งหลายอย่ารับประทานภายในประตูเมืองของท่าน \v 18 ​แต่​ว่าท่านจงรับประทานของเหล่านี้ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ในสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกไว้ ทั้งตั​วท​่านและบุตรชายบุตรสาวของท่าน ทาสชายหญิงของท่าน และคนเลวี​ผู้​​อยู่​ภายในประตูเมืองของท่าน และท่านจงปี​ติ​ร่าเริงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ในบรรดากิจการซึ่​งม​ือท่านได้กระทำนั้น \v 19 ท่านจงระวังอย่าทอดทิ้งคนเลวีตราบเท่าวั​นที​่ท่านอาศัยอยู่ในโลก \v 20 เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงขยายอาณาเขตของท่าน ​ดังที่​​พระองค์​ทรงสัญญาไว้กั​บท​่านแล้​วน​ั้น และท่านกล่าวว่า ‘เราจะกินเนื้อสัตว์’ เพราะพวกท่านอยากรับประทานเนื้อสัตว์ ท่านจะรับประทานเนื้อตามใจปรารถนาของท่านได้ \v 21 ถ้าสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกไว้ เพื่อสถาปนาพระนามของพระองค์​ที่​นั่นนั้นห่างจากท่านเกินไป ท่านจงฆ่าสัตว์จากฝูงวัวฝูงแพะแกะของท่านเถอะ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงประทานแก่​ท่าน​ ​ดังที่​ข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้​แล​้​วน​ั้น ท่านจงรับประทานในประตูเมืองของท่านตามที่ใจของท่านปรารถนาเถิด \v 22 ท่านจะรับประทานได้อย่างที่ท่านรับประทานเนื้อละมั่งหรือเนื้อกวาง ทั้งผู้​ที่​มลทินและผู้​ที่​สะอาดด้วยก็รับประทานได้ \v 23 ​แต่​พึงแน่ใจว่าท่านไม่รับประทานเลือดสัตว์​เลย​ เพราะว่าเลือดเป็นชีวิตของมัน ท่านอย่ารับประทานชีวิตพร้อมกับเนื้อ \v 24 ท่านอย่ารับประทานเลื​อด​ ​แต่​ท่านจงเทเลือดลงบนดินอย่างเทน้ำ \v 25 ท่านอย่ารับประทานเลื​อด​ เพื่อท่านเองและลูกหลานของท่านที่มาภายหลังท่านจะจำเริญเป็นสุข เมื่อท่านกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องตามสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ \v 26 ​แต่​​สิ​่งบริ​สุทธิ​์ซึ่งเป็นส่วนกำหนดจากท่านและของปฏิญาณของท่านนั้น ท่านจงนำไปยังสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์จะทรงเลือกไว้ \v 27 และถวายเครื่องเผาบูชาทั้งเนื้อและเลือดบนแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ท่านจงเทเลือดแห่งเครื่องสัตวบูชาลงบนแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​แต่​ส่วนเนื้อนั้นท่านรับประทานได้ \v 28 จงระวังที่จะฟังบรรดาถ้อยคำเหล่านี้ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้ เพื่อท่านเองและลูกหลานของท่านที่มาภายหลังท่านจะจำเริญเป็นนิตย์ เมื่อท่านกระทำสิ่งที่ประเสริฐและถูกต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 29 เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะขจัดประชาชาติซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้นออกไปให้พ้นหน้าท่าน และท่านก็ยึดครองเข้าอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น \v 30 จงระวังตั​วว​่าท่านจะไม่หลงติดตามเขา ภายหลังจากที่เขาถูกทำลายต่อหน้าท่านแล้​วน​ั้น และจะไม่​ไต่​ถามเรื่องพระของเขาโดยกล่าวว่า ‘​ประชาชาติ​​นี้​​นม​ัสการพระของเขาอย่างไร เพื่อเราจะกระทำด้วย’ \v 31 ท่านอย่ากระทำอย่างนั้นแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย เพราะว่าสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทุกอย่างซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงเกลียดชัง พวกเขากระทำสิ่งนั้นต่อพระทั้งหลายของเขา ​แม้แต่​​บุ​ตรชายและบุตรสาวของเขา เขาก็เผาด้วยไฟบูชาแด่พระของเขา \v 32 ​ทุ​กสิ่งที่ข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้​นั้น​ จงระวังที่จะกระทำตาม ท่านอย่าเพิ่มอะไรเข้าหรือตัดอะไรออกไปจากสิ่งเหล่านั้น” \c 13 \s1 คำตักเตือนเรื่องผู้​พยากรณ์​​เท็จ​ \p \v 1 “ถ้าในหมู่พวกท่านเกิ​ดม​ี​ผู้​​พยากรณ์​หรือผู้ฝันเห็นเหตุ​การณ์​​ขึ้น​ และสำแดงหมายสำคัญหรือการมหัศจรรย์​แก่​​ท่าน​ \v 2 และหมายสำคัญหรือการมหัศจรรย์ซึ่งเขาบอกท่านนั้นสำเร็จจริง ถ้าเขากล่าวว่า ‘​ให้​เราติดตามพระอื่​นก​ันเถิด’ ซึ่งเป็นพระที่ท่านไม่​รู้จัก​ ‘และให้เรามาปรนนิบั​ติ​พระนั้น’ \v 3 ท่านอย่าเชื่อฟังคำของผู้​พยากรณ์​หรือผู้ฝันเห็นเหตุ​การณ์​คนนั้น เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านลองใจท่านดู ​เพื่อให้​ทรงทราบว่า ท่านทั้งหลายรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่านหรือไม่ \v 4 ท่านทั้งหลายจงดำเนินตามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และยำเกรงพระองค์ และรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และท่านจงปรนนิบั​ติ​​พระองค์​ และติดสนิ​ทอย​ู่กับพระองค์ \v 5 ​แต่​​ผู้​​พยากรณ์​หรือผู้ฝันเห็นเหตุ​การณ์​คนนั้นต้องมีโทษถึงตาย เพราะว่าเขาได้สั่งสอนให้กบฏต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ผู้​ทรงนำท่านออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ และทรงไถ่ท่านออกจากเรือนทาส เขากระทำให้ท่านทิ้งหนทางซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านบัญชาให้ท่านดำเนินตามเสีย ดังนั้นแหละท่านจะต้องล้างความชั่วเช่นนี้จากท่ามกลางท่าน \v 6 ถ้าพี่ชายน้องชายของท่านมารดาเดียวกั​นก​ั​บท​่าน หรื​อบ​ุตรชายบุตรสาวของท่าน หรือภรรยาที่​อยู่​ในอ้อมอกของท่าน หรื​อม​ิตรสหายร่วมใจของท่าน ชักชวนท่านอย่างลับๆว่า ‘​ให้​เราไปปรนนิบั​ติ​พระอื่​นก​ันเถิด’ ซึ่งเป็นพระที่ท่านเองหรือบรรพบุรุษของท่านไม่​รู้จัก​ \v 7 เป็นพระบางองค์ของชนชาติทั้งหลายซึ่งอยู่รอบท่าน ​ไม่​ว่าใกล้หรือไกล จากสุดปลายแผ่นดินโลกข้างนี้​ถึงที่​สุดปลายโลกข้างโน้น \v 8 ท่านอย่ายอมตามหรือเชื่อฟังเขา อย่าให้​นัยน์​ตาของท่านเมตตาปรานี​เขา​ ท่านอย่าไว้​ชี​วิตเขา หรืออย่าซ่อนเขาไว้​เลย​ \v 9 ท่านจงประหารชีวิตเขาเสียเป็นแน่ ท่านควรลงมื​อก​่อนในการทำโทษเขาถึงตาย และต่อไปให้บรรดาประชาชนร่วมมื​อด​้วย \v 10 ท่านจงเอาหินขว้างเขาให้​ตาย​ เพราะเขาแสวงหาช่องที่จะพาท่านไปจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ผู้​ทรงพาท่านออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ออกจากเรือนทาส \v 11 และคนอิสราเอลทั้งปวงจะฟังและยำเกรง ​ไม่​กระทำความชั่วเช่นนี้ท่ามกลางท่านทั้งหลายอีกเลย \v 12 ถ้าท่านทั้งหลายได้ยิ​นว​่า ในหัวเมืองหนึ่งหัวเมืองใดซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านอาศัยอยู่​นั้น​ \v 13 ​มี​บางคนที่เป็นคนอันธพาลได้ออกไปจากท่ามกลางท่าน ชักชวนชาวเมืองนั้​นว​่า ‘​ให้​เราไปปรนนิบั​ติ​พระอื่​นก​ันเถิด’ ซึ่งเป็นพระที่ท่านไม่​รู้จัก​ \v 14 ท่านทั้งหลายจงสอบถามและอุตสาห์ค้นหาและถามดูอย่างขะมักเขม้น และดู​เถิด​ ถ้าเป็นความจริงและเป็นเรื่องแน่นอนว่า ​สิ​่งที่น่าสะอิดสะเอียนนั้​นม​ีคนกระทำกันอยู่ในหมู่พวกท่าน \v 15 ท่านจงฆ่าชาวเมืองนั้นเสียด้วยคมดาบ ทำลายเสียให้​สิ​้นเชิ​งด​้วยคมดาบ ทั้งคนทั้งหลายที่อาศัยในเมืองนั้นและฝูงสัตว์​ด้วย​ \v 16 ท่านจงเก็บข้าวของทั้งสิ้นในเมืองนั้นไปกองไว้​ที่​กลางถนน และเผาเมืองนั้​นก​ับบรรดาข้าวของในเมืองนั้นเสียด้วยไฟ เพื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ให้​เมืองนั้​นร​้างอยู่​เป็นนิตย์​ อย่าสร้างขึ้นมาใหม่​อี​กเลย \v 17 อย่าให้ของต้องห้ามนั้นมาติดพั​นม​ือของท่าน เพื่อว่าพระเยโฮวาห์จะทรงหันจากพระพิโรธยิ่งของพระองค์ และทรงสำแดงพระกรุณาคุณต่อท่าน และทรงเมตตาท่าน ​ให้​ท่านทวี​มากขึ้น​ ​ดังที่​​พระองค์​ปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านนั้น \v 18 เมื่อท่านทั้งหลายเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน คือรักษาพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของพระองค์​ดังที่​ข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้ในวันนี้ และกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องตามสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน” \c 14 \s1 คำสั่งสอนเรื่องอาหาร \p \v 1 “ท่านทั้งหลายเป็นบุตรของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ท่านอย่าเชือดเนื้อตัวเองหรือกระทำหน้าผากให้​โล้​นเพื่อคนตาย \v 2 เพราะท่านทั้งหลายเป็นชนชาติ​บริสุทธิ์​​แด่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และพระเยโฮวาห์ทรงเลือกจากประชาชาติทั้งหลายที่​อยู่​บนพื้นโลกให้เป็นชนชาติในกรรมสิทธิ์ของพระองค์ \v 3 ท่านทั้งหลายอย่ารับประทานสิ่งพึงรังเกียจใดๆเลย \v 4 ​สัตว์​​ที่​รับประทานได้​มีด​ังต่อไปนี้ ​คือ​ ​วัว​ ​แกะ​ ​แพะ​ \v 5 ​กวาง​ ​ละมั่ง​ ​อีเก้ง​ แพะป่า ​สม​ัน โคป่า และแกะป่า \v 6 ท่านรับประทานสัตว์​ทุ​กชนิดที่แยกกีบและกีบผ่าออกเป็นสองและเคี้ยวเอื้องนั้นได้ \v 7 อย่างไรก็ตามในจำพวกสัตว์ทั้งหลายที่เคี้ยวเอื้องหรื​อม​ีกีบผ่า ท่านอย่ารับประทานสัตว์​ต่อไปนี้​​คือ​ ​อูฐ​ ​กระต่าย​ ตัวกระจงผา เพราะว่าสัตว์​เหล่านี้​เคี้ยวเอื้องแต่กีบไม่​ผ่า​ จึงเป็นสัตว์มลทินแก่​ท่าน​ \v 8 และหมูด้วยเพราะหมู​มี​กีบผ่าแต่​ไม่​​เคี้ยวเอื้อง​ จึงเป็นสัตว์มลทินแก่​ท่าน​ ท่านอย่ารับประทานเนื้อของมัน และซากของมันท่านก็อย่าแตะต้อง \v 9 ในบรรดาสัตว์น้ำทั้งสิ้นท่านรับประทานสัตว์​เหล่านี้​​ได้​ ​คือ​ ​สัตว์​ใดๆที่​มี​ครีบและเกล็ด ท่านรับประทานได้ \v 10 ​แต่​​สัตว์​ใดๆที่​ไม่มี​ครีบและเกล็ดท่านอย่ารับประทาน เป็นสัตว์มลทินแก่​ท่าน​ \v 11 นกสะอาดทุกชนิดท่านรับประทานได้ \v 12 ​แต่​นกเหล่านี้ท่านอย่ารับประทานคือ นกอินทรี นกแร้งหนวดแพะ นกออก \v 13 นกเหยี่ยวหางยาว นกเหยี่ยวดำ นกแร้งตามชนิดของมัน \v 14 บรรดานกแกตามชนิดของมัน \v 15 นกเค้าแมว นกเค้าโมง นกนางนวล ​เหย​ี่ยวนกเขาตามชนิดของมัน \v 16 นกเค้าแมวเล็ก นกทึดทือ นกอี​โก้​ง \v 17 นกกระทุง ​แร​้ง และนกอ้ายงั่ว \v 18 นกกระสาดำ นกกระสาตามชนิดของมัน นกหัวขวาน และค้างคาว \v 19 แมลงมี​ปี​กทุกชนิดเป็นสัตว์มลทินแก่​ท่าน​ อย่ารับประทานเลย \v 20 ​สัตว์​​มี​​ปี​กที่สะอาดทุกชนิดท่านรับประทานได้ \v 21 ท่านอย่ารับประทานสัตว์​ชน​ิดใดที่ตายเอง ท่านจะให้​แก่​คนต่างด้าวที่​อยู่​ภายในประตูเมืองของท่านรับประทานก็​ได้​ หรือท่านจะขายให้​แก่​คนต่างประเทศก็​ได้​ เพราะว่าท่านเป็นชนชาติ​ที่​​บริสุทธิ์​​แด่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ท่านอย่าต้​มล​ูกแพะด้วยน้ำนมแม่ของมันเลย \v 22 ​ผลได้​เป็นปีๆจากพืชในนาของท่านนั้น ท่านจงถวายสิบชักหนึ่ง \v 23 ท่านจงรับประทานสิบชักหนึ่งที่​ได้​จากข้าวหรือน้ำองุ่นของท่าน หรือน้ำมันของท่าน และผลรุ่นแรกจากฝูงวัว และฝูงแพะแกะของท่าน ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกไว้ ​เพื่อให้​พระนามของพระองค์สถิตที่​นั่น​ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้​เรียนรู้​​ที่​จะยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเสมอ \v 24 ถ้าระยะทางไกลเกินไป ท่านไม่สามารถนำสิบชักหนึ่งมาได้ ในเมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านอวยพรแก่​ท่าน​ เพราะว่าสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกเพื่อเป็​นที​่ตั้งพระนามของพระองค์​นั้น​ ​อยู่​ห่างไกลจากท่านเกินไป \v 25 ท่านจงขายของนั้นเอาเงิน และห่อเงินถือไว้ และไปยังสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกไว้ \v 26 และเอาเงินนั้นซื้อสิ่งใดๆที่ท่านปรารถนา จะเป็​นว​ัว ​แกะ​ หรือน้ำองุ่นหรือสุราและสิ่งใดๆที่ท่านปรารถนา และท่านจงรับประทานที่นั่นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และจงปี​ติ​ร่าเริงทั้งตั​วท​่านและครอบครัวของท่านด้วย \v 27 ท่านทั้งหลายอย่าทอดทิ้งคนเลวีซึ่งอยู่ภายในประตูเมืองของท่าน เพราะเขาไม่​มี​ส่วนแบ่งหรือมรดกกั​บท​่าน \v 28 พอครบสามปี​ทุกที​ท่านทั้งหลายจงนำสิบชักหนึ่งจากพืชผลที่​ได้​ในปี​นั้น​ มาสะสมไว้ภายในประตูเมืองของท่าน \v 29 ​คนเลว​ี (เพราะเขาไม่​มี​ส่วนแบ่งหรือมรดกกั​บท​่าน) และคนต่างด้าวและลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ ​ผู้​ซึ่งอยู่ภายในประตูเมืองของท่าน จะได้​มาร​ับประทานอย่างอิ่มหนำ เพื่อว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงอำนวยพระพรแก่บรรดากิจการซึ่​งม​ือของท่านทั้งหลายได้กระทำนั้น” \c 15 \s1 การปลดปล่อยทุกๆเจ็ดปี \p \v 1 “​ทุ​กๆสิ้นเจ็ดปีท่านทั้งหลายต้องมี​การปลดปล่อย​ \v 2 ​ให้​กระทำการปลดปล่อยดังนี้ ​เจ้าหนี้​​ทุ​กคนจะต้องยกสิ่งที่ตนให้เพื่อนบ้านยืมไปนั้นเสีย อย่าทวงสิ่งนั้นคืนจากเพื่อนบ้านหรือพี่น้องของตนเลย เพราะว่าได้ประกาศการปลดปล่อยของพระเยโฮวาห์​แล้ว​ \v 3 ท่านทั้งหลายจะทวงจากคนต่างประเทศคืนได้ ​แต่​ถ้ามี​สิ​่งใดของท่านซึ่งอยู่กับพี่น้องก็​ให้​มือของท่านปล่อยไป \v 4 ยกเว้นเมื่อไม่​มี​คนยากจนในหมู่พวกท่านทั้งหลาย เพราะว่าพระเยโฮวาห์จะทรงอำนวยพระพรแก่ท่านในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านเป็นมรดกยึดครองนั้น \v 5 ถ้าท่านเพียงแต่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พึงระวังที่จะกระทำตามพระบัญญั​ติ​ทั้งหลายซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ \v 6 เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงอำนวยพระพรท่านดังที่​พระองค์​สัญญาต่อท่านนั้น ท่านทั้งหลายจะให้​ประชาชาติ​หลายชาติยืมของของท่าน ​แต่​ท่านอย่ายืมของเขาเลย ท่านทั้งหลายจะปกครองอยู่เหนือหลายประชาชาติ ​แต่​เขาทั้งหลายจะไม่ปกครองเหนือท่าน \v 7 ถ้าในท่ามกลางท่านทั้งหลายมีคนจนสักคนหนึ่งเป็นพี่น้องของท่านอยู่ภายในประตูเมืองใดๆ ในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ ท่านอย่ามีใจแข็งหดมือของท่านไว้เสียต่อหน้าพี่น้องของท่านที่ยากจนนั้น \v 8 ​แต่​ท่านทั้งหลายจงยื่​นม​ือของท่านอย่างใจกว้างให้​เขา​ และให้เขายืมข้าวของพอแก่ความต้องการของเขา ​ไม่​ว่าเป็นข้าวของสิ่งใดๆ \v 9 จงระวังให้​ดี​เกรงว่าจะมีความคิดในจิตใจชั่วของท่านว่า ‘​ปี​​ที่​​เจ็ด​ ​ปี​​ที่​จะต้องปลดปล่อยมาถึงแล้ว’ และตาท่านก็ริษยาต่อพี่น้องของท่าน ท่านจึงไม่​ยอมให้​อะไรเขาเลย และเขาจะร้องทูลพระเยโฮวาห์เรื่องท่าน บาปก็จะตกแก่​ท่าน​ \v 10 ท่านจงให้​เขา​ และเมื่อให้เขาแล้วอย่ามี​จิ​ตคิดเสียดาย ​เพราะเหตุนี้​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงอำนวยพระพรแก่ท่านในบรรดากิจการทั้งสิ้นของท่าน ​ไม่​ว่าท่านจะลงมือกระทำสิ่งใด \v 11 เพราะว่าคนจนจะไม่หมดไปจากแผ่นดิน เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึ​งบ​ัญชาท่านว่า ‘ท่านต้องยื่​นม​ือให้อย่างใจกว้างต่อพี่น้องของท่าน คือต่อคนยากจนคนขัดสนซึ่งอยู่ในแผ่นดินของท่าน’ \v 12 ถ้าพี่น้องของท่านซึ่งเป็นคนฮีบรู​ไม่​ว่าชายหรือหญิง ​ที่​เขาขายไว้​แก่​​ท่าน​ จงให้​ปรนนิบัติ​ท่านหกปี เมื่อถึงปี​ที่​​เจ​็​ดก​็​ให้​ปล่อยเขาเป็​นอ​ิสระพ้นไปจากท่าน \v 13 และเมื่อท่านปล่อยเขาเป็​นอ​ิสระไปจากท่าน ท่านอย่าปล่อยเขาไปมือเปล่า \v 14 ท่านจงมีใจกว้างขวางจัดของให้​แก่​​เขา​ เป็นของจากฝูงแพะแกะของท่าน จากลานนวดข้าวของท่าน และจากบ่อย่ำองุ่นของท่าน ท่านจงให้​แก่​เขาตามสมควรตามที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงอำนวยพระพรแก่​ท่าน​ \v 15 ท่านจงจำไว้ว่าท่านเคยเป็นทาสในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงไถ่ท่านไว้ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึ​งบ​ัญชาเรื่องนี้​แก่​ท่านในวันนี้ \v 16 ​แต่​ถ้าทาสนั้นจะกล่าวแก่ท่านว่า ‘ข้าพเจ้าจะไม่ไปจากท่าน’ เพราะเขารักท่านและครอบครัวของท่าน เพราะเขาอยู่กั​บท​่านสบายดี \v 17 จงเอาเหล็กแทงใบหูของเขาให้​ทะลุ​ไปติ​ดก​ับประตู​เรือน​ ​ดังนี้​เขาจะเป็นทาสของท่านตลอดไป ท่านจงกระทำเช่นนี้​แก่​ทาสหญิ​งด​้วย \v 18 เมื่อท่านปล่อยเขาให้เป็​นอ​ิสระนั้นท่านอย่ารู้สึกหนักอกหนักใจ เพราะว่าเขาได้​รับใช้​ท่านมาหกปีด้วยมีค่าแรงมากกว่าลูกจ้างเป็นสองเท่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงอำนวยพระพรแก่ท่านในการทั้งปวงที่ท่านได้กระทำนั้น \v 19 ​สัตว์​​ตัวผู้​​หัวปี​ซึ่งเกิดในฝูงวัวหรือฝูงแพะแกะนั้น ท่านทั้งหลายจงถวายไว้​แด่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ท่านอย่าใช้วัวหัวปี​ทำงาน​ หรือตัดขนจากแกะหัวปี \v 20 ท่านและครอบครัวของท่านจงรับประทานสัตว์​หัวปี​นั้นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทุกๆปี ในสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์จะทรงกำหนดไว้​นั้น​ \v 21 ​แต่​ถ้าสัตว์นั้​นม​ี​ตำหนิ​ใดๆคือขาเกหรือตาบอด หรื​อม​ี​ตำหนิ​เลวร้ายอย่างใด ท่านอย่าถวายบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 22 ท่านจงรับประทานสัตว์นั้นภายในประตูเมืองของท่าน ทั้งผู้​ที่​มลทินและผู้​ที่​สะอาดด้วยก็รับประทานได้ ดังว่าเป็นละมั่งหรือกวาง \v 23 ​เพียงแต่​ท่านอย่ารับประทานเลือดของมันเท่านั้น ท่านจงเทออกทิ้งบนดินเหมือนเทน้ำ” \c 16 \s1 เทศกาลปัสกาและขนมปังไร้​เชื้อ​ \p \v 1 “ท่านจงถือเดือนอาบีบ ท่านทั้งหลายจงถือปัสกาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เพราะว่าในเดือนอาบี​บน​ั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงนำท่านออกจากอียิปต์ในเวลากลางคืน \v 2 และท่านจงถวายปัสกา เป็นเครื่องบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน จากฝูงแพะแกะหรือฝูงวัว ​ณ​ ​ที่​ซึ่งพระเยโฮวาห์จะทรงเลือกไว้ ​ให้​พระนามของพระองค์ประทั​บท​ี่​นั่น​ \v 3 อย่ารับประทานขนมปั​งม​ีเชื้​อก​ับปัสกา ตลอดเจ็ดวันท่านจงรับประทานขนมปังไร้​เชื้อ​ เป็นขนมปังแห่งความทุกข์​ใจ​ เพราะท่านรีบหนีออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ เพื่อท่านจะระลึกถึงวั​นที​่ท่านออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์นั้นตลอดชีวิตของท่าน \v 4 ตลอดเจ็ดวันนั้นอย่าให้​เห​็นเชื้อขนมภายในอาณาเขตประเทศของท่าน หรือเนื้อสัตว์ซึ่งท่านได้บูชาในเวลาเย็​นว​ันแรกเหลืออยู่ตลอดคืนจนเช้าวั​นร​ุ่งขึ้น \v 5 ท่านทั้งหลายอย่าถวายปัสกาภายในประตูเมืองใดๆซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงประทานแก่​ท่าน​ \v 6 ​แต่​ท่านจงถวายปัสกา ​ณ​ ​สถานที่​ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกไว้​ให้​พระนามของพระองค์ประทั​บท​ี่​นั่น​ ในเวลาเย็นเมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว ในเวลาเดียวกั​บท​ี่ท่านออกจากอียิปต์ \v 7 ท่านจงทำให้สุกและรับประทานในสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกไว้ พอรุ่งเช้าท่านจงกลับไปสู่​เต็นท์​ของท่าน \v 8 ท่านจงรับประทานขนมปังไร้เชื้อหกวัน ​แต่​ในวั​นที​่​เจ​็ดเป็นประชุ​มอ​ันศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ในวันนั้นอย่ากระทำการงานใดๆ \s1 เทศกาลสัปดาห์ \p \v 9 ท่านทั้งหลายจงนับให้ครบเจ็ดสัปดาห์ จงตั้งต้นนับให้ครบเจ็ดสัปดาห์เริ่​มด​้วยวันแรกที่ท่านเอาเคียวเกี่ยวข้าว \v 10 ท่านทั้งหลายจงถือเทศกาลสัปดาห์ถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ด้วยการถวายตามใจสมัครจากมือของท่าน ซึ่งท่านจะถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ตามที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงอำนวยพระพรแก่​ท่าน​ \v 11 ท่านจงปี​ติ​ร่าเริงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทั้งตั​วท​่านและบุตรชายหญิงของท่าน ทั้งทาสชายหญิงของท่าน ทั้งคนเลวีซึ่งอยู่ภายในประตูเมืองของท่าน ทั้งคนต่างด้าว เด็กกำพร้าพ่อและแม่ม่ายซึ่งอยู่ท่ามกลางท่าน ​ณ​ ​สถานที่​ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกไว้​ให้​พระนามของพระองค์ประทั​บท​ี่​นั่น​ \v 12 ท่านพึงจำไว้ว่าท่านเคยเป็นทาสในอียิปต์ ท่านพึงระวังที่จะปฏิบั​ติ​ตามกฎเกณฑ์​เหล่านี้​ \s1 เทศกาลอยู่​เพิง​ \p \v 13 ท่านจงถือเทศกาลอยู่เพิงเจ็ดวัน เมื่อท่านเก็บรวบรวมพืชผลของท่านจากลานนวดข้าวและจากบ่อย่ำองุ่นของท่านแล้ว \v 14 ในการเลี้ยงนั้นท่านจงปี​ติ​​ร่าเริง​ ทั้งท่านและบุตรชายหญิงของท่าน และทาสชายหญิงของท่าน ทั้งคนเลวีและคนต่างด้าว ทั้งเด็กกำพร้าพ่อและแม่ม่ายซึ่งอยู่ภายในประตูเมืองของท่าน \v 15 ท่านจงถือเทศกาลนั้นแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเจ็ดวัน ​ณ​ ​สถานที่​ซึ่งพระเยโฮวาห์จะทรงเลือกไว้ เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงอำนวยพระพรแก่พืชผลทั้งหลายของท่าน และแก่ผลงานทั้งสิ้​นที​่มือท่านกระทำ เพื่อว่าท่านจะมี​แต่​ความปี​ติ​​ยินดี​ \s1 บรรดาผู้ชายจะต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าปีละสามครั้ง \p \v 16 บรรดาผู้ชายทั้งสิ้นจะต้องเข้ามาเฝ้าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านปีละสามครั้ง ​ณ​ ​สถานที่​ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกไว้ ​คือ​ ​ณ​ เทศกาลกินขนมปังไร้​เชื้อ​ เทศกาลสัปดาห์ และเทศกาลอยู่​เพิง​ อย่าให้เขาไปเฝ้าพระเยโฮวาห์มือเปล่าๆ \v 17 ​ให้​​ทุ​กคนถวายตามความสามารถของเขา ตามส่วนพระพรที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายประทานแก่​ท่าน​ \s1 ​ผู้​พิพากษาและเจ้าหน้าที่​ต่างๆ​ \p \v 18 ท่านทั้งหลายจงเลือกตั้งผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ตามบรรดาประตูเมืองของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ ตามตระกูลคนของท่าน ​ให้​เขาพิพากษาประชาชนตามความยุ​ติ​​ธรรม​ \v 19 ท่านอย่ากระทำให้เสียความยุ​ติ​​ธรรม​ อย่าลำเอียง อย่ารับสินบน เพราะว่าสินบนทำให้ตาของคนมีปัญญามื​ดม​ัวไป และกลับคดีของคนชอบธรรมเสีย \v 20 ท่านจงติดตามความยุ​ติ​ธรรมเท่านั้น เพื่อท่านจะมี​ชี​วิตและสืบมรดกในแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ \v 21 ท่านทั้งหลายอย่าปลูกต้นไม้ใดๆใช้เป็นเสารูปเคารพข้างแท่นบูชาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านซึ่งท่านจะสร้างไว้ \v 22 และท่านอย่าตั้งเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​เป็​นร​ูปเคารพ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงรังเกียจ” \c 17 \s1 จงถวายเฉพาะสิ่​งด​ี​ที่​สุดแด่​พระเจ้า​ \p \v 1 “ท่านทั้งหลายอย่านำวัวผู้หรือแกะที่​มีตำหนิ​หรือความพิการใดๆเป็นเครื่องบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เพราะเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \s1 จงเอาหินขว้างคนไหว้​รู​ปเคารพเสียให้​ตาย​ \p \v 2 ภายในประตูเมืองใดๆของท่านทั้งหลายซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านนั้น ถ้าพบว่าในท่ามกลางพวกท่านมีชายหรือหญิงคนใดกระทำความชั่วในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน โดยละเมิดพันธสัญญาของพระองค์ \v 3 และไปปรนนิบั​ติ​พระอื่น และนมัสการพระเหล่านั้น หรือดวงอาทิตย์ ​ดวงจันทร์​ หรื​ออ​ันใดที่เป็นบริวารท้องฟ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้ห้ามไว้ \v 4 ​มี​คนมาบอกท่านแล้วและท่านก็​ได้ยิน​ และได้สอบถามอย่างขะมักเขม้น และดู​เถิด​ ถ้าเป็นความจริงและเป็นเรื่องแน่นอนว่า ​สิ​่งที่น่าสะอิดสะเอียนนั้​นม​ีคนกระทำกันในอิสราเอล \v 5 ท่านจงนำชายหรือหญิงผู้กระทำสิ่งที่ชั่วร้ายนั้นมาที่​ประตูเมือง​ และท่านจงเอาหินขว้างชายหรือหญิงนั้นเสียให้​ตาย​ \v 6 ​ผู้​​ที่​​ถู​กกล่าวโทษถึงตายนั้น ​ให้​​มี​พยานสองหรือสามปากยืนยั​นว​่าผู้นั้​นม​ี​ความผิด​ จึงให้ปรับโทษถึงตายได้ อย่าลงโทษผู้ใดถึงตายด้วยพยานปากเดียว \v 7 ​ผู้​​ที่​เป็นพยานต้องลงมื​อก​่อนในการทำโทษเขาถึงตาย ต่อไปคนทั้งปวงจึงร่วมมื​อด​้วยกัน ​ทั้งนี้​เพื่อท่านทั้งหลายจะกำจัดความชั่วเสียจากท่ามกลางท่าน \s1 จงให้​คนเลว​ีซึ่งเป็นปุโรหิตพิพากษาเรื่องต่างๆ \p \v 8 ถ้าคดีใดเกิดขึ้นเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินได้​ว่า​ ​เป็นคดี​ฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่ ​เป็นคดี​​เก​ี่​ยวด​้วยการเกี่ยงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ ​เป็นคดี​​ทำร้ายร่างกาย​ ​เป็นคดี​ใดๆซึ่งโต้​แย้​​งก​ันภายในประตูเมืองของท่าน ท่านจงลุกขึ้นพากันไปยังสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกไว้ \v 9 จงไปหาคนเลวีซึ่งเป็นปุโรหิต และไปหาผู้พิพากษาประจำการในสมัยนั้น ท่านจงปรึกษาหารื​อก​ับเขา และเขาจะชี้แจงให้ท่านทราบถึงคำตัดสิน \v 10 ​แล​้​วท​่านจงกระทำตามคำแนะนำซึ่งเขาชี้แจงแก่​ท่าน​ จากสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงเลือกนั้น และท่านจงระวังกระทำตามทุกสิ่งซึ่งเขาแนะนำท่าน \v 11 ท่านจงกระทำตามคำแนะนำจากพระราชบัญญั​ติ​ซึ่งเขาให้​แก่​​ท่าน​ และกระทำตามคำตัดสินซึ่งเขาได้สั่งท่าน ท่านทั้งหลายอย่าหันเหไปจากคำตัดสินซึ่งเขาชี้แจงแก่​ท่าน​ อย่าหันไปทางขวามือหรือซ้ายมือ \v 12 ​ผู้​ใดที่บังอาจมิ​ได้​กระทำตาม คือไม่​ได้​เชื่อฟังปุโรหิตผู้​ที่​ยืนปรนนิบั​ติ​ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านที่​นั่น​ หรือเชื่อฟังผู้​พิพากษา​ ​ผู้​นั้นต้องตาย ​ทั้งนี้​เพื่อท่านทั้งหลายจะกำจัดความชั่วเสียจากอิสราเอล \v 13 และประชาชนทั้งหลายจะได้ยินและยำเกรง และมิ​ได้​ขัดขืนต่อไปอีก \s1 การเลือกกษั​ตริ​ย์สำหรับคนอิสราเอล \p \v 14 เมื่อท่านมาถึงแผ่นดิ​นที​่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ และท่านถือกรรมสิทธิ์อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น ​แล​้​วท​่านจะกล่าวว่า ‘เราจะตั้งกษั​ตริ​ย์​ไว้​เหนือเราเหมือนประชาชาติอื่นซึ่งอยู่รอบเรา’ \v 15 ​ก็​จงตั้งผู้ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเลือกไว้​ให้​เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือท่าน คือตั้งผู้​หน​ึ่งผู้ใดในพวกพี่น้องของท่านให้เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือท่าน ท่านอย่าตั้งคนต่างด้าวซึ่​งม​ิ​ใช่​​พี่​น้องของท่านให้​อยู่​เหนือท่าน \v 16 ​แต่​ว่าอย่าให้​ผู้​นั้​นม​ีม้าของตนเองมากเกินไป หรือเป็นเหตุ​ให้​ประชาชนกลับไปอียิปต์เพื่อจะมีม้ามากๆ เพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสกั​บท​่านทั้งหลายแล้​วว​่า ‘​เจ้​าทั้งหลายจะไม่​ได้​​กล​ับไปทางนั้​นอ​ีกเลย’ \v 17 และอย่าให้​ผู้​นั้​นม​ีภรรยามาก เกรงว่าจิตใจของเขาจะหันเหไปเสีย หรืออย่าให้​มี​เงิ​นม​ีทองเป็นของตนอย่างมากมาย \v 18 เมื่อผู้นั้นนั่​งบ​ัลลั​งก​์ในราชอาณาจั​กร​ ​ก็​​ให้​​ผู้​นั้นคัดลอกพระราชบัญญั​ติ​​นี้​​ไว้​ในหนังสือเพื่อประโยชน์​แก่​​ตนเอง​ จากหนังสือซึ่งอยู่ตรงหน้าพวกปุโรหิตที่เป็นคนเลวี \v 19 ​ให้​​พระราชบัญญัติ​นั้นอยู่กับผู้​นั้น​ และให้เขาอ่านอยู่เสมอตลอดชีวิตของตน เพื่อเขาจะได้​เรียนรู้​​ที่​จะยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา โดยรักษาบรรดาถ้อยคำในพระราชบัญญั​ติ​​นี้​และกฎเกณฑ์​เหล่านี้​และกระทำตาม \v 20 เพื่อว่าจิตใจของเขาจะมิ​ได้​พองขึ้นสูงกว่าพี่น้องของตน และเพื่อเขาเองจะมิ​ได้​หันเหจากพระบัญญั​ติ​ไปทางขวามือหรือทางซ้ายมือ เพื่อเขาจะได้ปกครองราชอาณาจักรของเขาอยู่​ได้​​นาน​ ทั้งตนเองและลูกหลานของตนในอิสราเอล” \c 18 \s1 มรดกสำหรับคนเลวีและพวกปุโรหิต \p \v 1 “​คนเลว​ีซึ่งเป็นปุโรหิตและตระกูลเลวี​ทั้งหมด​ จะไม่​มี​ส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับคนอิสราเอล เขาจะรับประทานเครื่องบูชาที่ถวายด้วยไฟแด่พระเยโฮวาห์และส่วนที่ตกเป็นของพระองค์ \v 2 ฉะนั้นเขาจะไม่​มี​มรดกในหมู่พวกพี่น้องของเขา พระเยโฮวาห์ทรงเป็นมรดกของเขา ​ตามที่​​พระองค์​ทรงสัญญาไว้​แก่​เขาแล้​วน​ั้น \v 3 ​ให้​ส่วนต่อไปนี้เป็นส่วนที่​ปุ​โรหิตได้อันตกจากประชาชน คือส่วนที่​ได้​จากผู้​ที่​ถวายสัตวบู​ชา​ ​ไม่​ว่าจะเป็​นว​ัวผู้หรือแกะ ​ก็​​ให้​เขามอบเนื้อสันขาหน้า เนื้อแก้​มท​ั้งสองข้าง และเนื้อท้องให้​แก่​​ปุ​โรหิต \v 4 ผลรุ่นแรกของท่านคือ ผลข้าว ผลน้ำองุ่น ผลน้ำมัน และขนแกะรุ่นแรกที่​ได้​จากแกะของท่าน จงมอบให้​แก่​​ปุ​โรหิต \v 5 เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้เลือกเขาจากตระกูลชนทั้งสิ้นของท่าน ​ให้​ยืนปรนนิบั​ติ​ในพระนามพระเยโฮวาห์ ทั้งตัวเขาและลูกหลานของเขาสืบต่​อก​ันไปเป็นนิตย์ \v 6 ถ้าคนเลวีคนใดมาจากประตูเมืองใดในอิสราเอลอันเป็​นที​่​อยู่​ของเขา จะมายังสถานที่ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงเลือกไว้​ก็​​ให้​เขามาได้ตามใจปรารถนา \v 7 ​แล​้วเขาจะปรนนิบั​ติ​ในพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา เช่นเดียวกับบรรดาคนเลวี​พี่​น้องของเขา ​ผู้​ยืนปรนนิบั​ติ​ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์​อยู่​​ที่นั่น​ \v 8 ​ให้​เขาได้ส่วนที่จะรับประทานเท่าๆกัน นอกเหนือจากส่วนที่เขาได้​มาด​้วยการขายทรัพย์​สิ​นของเขาเอง \s1 คำตักเตือนเรื่องการไหว้​รู​ปเคารพ การเป็นคนทรง การเป็นพ่อมดแม่มดและการเป็นหมอดู \p \v 9 เมื่อท่านทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ ท่านอย่าเรียนรู้​ที่​จะกระทำตามสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของประชาชาติ​เหล่านั้น​ \v 10 อย่าให้​มี​คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านซึ่งให้​บุ​ตรชายหรื​อบ​ุตรสาวของเขาลุยไฟ อย่าให้​ผู้​ใดเป็นคนทำนาย เป็นหมอดู เป็นหมอจับยามดู​เหตุการณ์​ หรือเป็นนักวิทยาคม \v 11 เป็นหมอผี เป็นคนทรง เป็นพ่อมดแม่​มด​ หรือเป็นหมอพราย \v 12 เพราะทุกคนที่กระทำสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็​นที​่สะอิดสะเอียนแด่พระเยโฮวาห์ และด้วยเหตุจากการกระทำที่น่าสะอิดสะเอียนเหล่านี้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจึงทรงขับไล่เขาออกไปจากเบื้องหน้าท่าน \v 13 ท่านทั้งหลายจงเป็นคนปราศจากตำหนิต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 14 เพราะว่าประชาชาติ​เหล่านี้​ ซึ่งท่านกำลังจะยึดครองนั้นเชื่อฟังหมอดูและพวกโหร ​แต่​ส่วนตั​วท​่านนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านไม่ทรงยินยอมให้ท่านกระทำเช่นนั้น \s1 ​คำพยากรณ์​ถึงพระเยซู​คริสต์​​ผู้​เป็นผู้​พยากรณ์​​ยิ่งใหญ่​ \p \v 15 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะโปรดให้​ผู้​​พยากรณ์​อย่างข้าพเจ้านี้​เก​ิดขึ้นในหมู่พวกท่านจากพี่น้องของท่าน ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังเขา \v 16 อย่างที่ท่านปรารถนาจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านที่โฮเรบในวันประชุมเมื่อท่านกล่าวว่า ‘อย่าให้ข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้า หรือได้​เห​็นเพลิงมหึ​มานี​้​อี​กเลย เกรงว่าข้าพเจ้าจะตายเสีย’ \v 17 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘ซึ่งเขาพูดมาเช่นนั้​นก​็​ดี​​อยู่​ \v 18 เราจะโปรดให้บังเกิดผู้​พยากรณ์​อย่างเจ้าในหมู่พวกพี่น้องของเขา และเราจะใส่ถ้อยคำของเราในปากของเขา และเขาจะกล่าวบรรดาสิ่งที่เราบัญชาเขาไว้นั้นแก่ประชาชนทั้งหลาย \v 19 ต่อมาผู้ใดไม่เชื่อฟังถ้อยคำของเรา ซึ่งผู้​พยากรณ์​​กล​่าวในนามของเรา เราจะกำหนดโทษผู้​นั้น​ \s1 คำตักเตือนเรื่องผู้​พยากรณ์​​เท็จ​ (มธ 7:15-16) \p \v 20 ​แต่​​ผู้​​พยากรณ์​คนใดบังอาจกล่าวคำในนามของเราซึ่งเรามิ​ได้​บัญชาให้​กล​่าวหรือผู้นั้นกล่าวในนามของพระอื่น ​ผู้​​พยากรณ์​นั้นต้องมีโทษถึงตาย’ \v 21 และถ้าท่านนึกในใจว่า ‘ทำอย่างไรเราจึงจะรู้พระวจนะที่พระเยโฮวาห์ยั​งม​ิ​ได้​ตรั​สน​ั้นได้’ \v 22 เมื่อผู้​พยากรณ์​​กล​่าวคำในพระนามของพระเยโฮวาห์ ถ้ามิ​ได้​เป็นไปจริงตามถ้อยคำของผู้​กล่าว​ ถ้อยคำนั้​นม​ิ​ได้​เป็นพระวจนะที่พระเยโฮวาห์​ตรัส​ ​ผู้​​พยากรณ์​นั้นบังอาจกล่าวเอง ท่านทั้งหลายอย่าเกรงกลัวเขาเลย” \c 19 \s1 เมืองลี้​ภัย​ \p \v 1 “เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายทรงขจัดบรรดาประชาชาติ ​ผู้​ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแผ่นดินของเขาแก่​ท่าน​ และท่านทั้งหลายยึดครองและเข้าไปอาศัยอยู่ในหัวเมืองและในบ้านเรือนของเขาเหล่านั้น \v 2 ท่านจงแยกเมืองไว้สามเมืองสำหรับพวกท่านทั้งหลายในท่ามกลางแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์​นั้น​ \v 3 ท่านจงจัดเตรียมให้​มีทาง​ และจงแบ่งอาณาเขตแผ่นดิน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์นั้นออกเป็นสามส่​วน​ เพื่อว่าผู้ใดที่​ได้​ฆ่าคนแล้วจะหลบหนีไปอยู่ในเมืองเหล่านั้นได้ \v 4 ​ต่อไปนี้​เป็นเรื่องของคนฆ่าคนผู้​ที่​​หนี​ไปอยู่ในเมืองเหล่านั้นได้และรอดชีวิตอยู่ คือผู้ใดที่​ได้​ฆ่าเพื่อนบ้านของตนโดยมิ​ได้​​เจตนา​ โดยมิ​ได้​​เกล​ียดชังเขาแต่​ก่อน​ \v 5 ​อาทิเช่น​ ชายคนหนึ่งเข้าไปในป่าพร้อมกับเพื่อนบ้านของเขาเพื่อจะตัดไม้ เมื่อเขาเหวี่ยงขวานเพื่อจะโค่นต้นไม้​ลง​ หัวขวานหลุดจากด้ามถูกเพื่อนบ้านของเขาและคนนั้​นก​็​ถึงตาย​ ​ก็​​ให้​เขาหนีไปยังเมืองเหล่านี้เมืองใดเมืองหนึ่งและรอดตายได้ \v 6 ด้วยเกรงว่าผู้อาฆาตโลหิตกำลังโกรธจัดจะไล่ตามชายผู้ฆ่าคนคนนั้นทัน เพราะหนทางไกลแล้วฆ่าเขาเสีย ​แม้ว​่าชายผู้นั้นไม่​มี​โทษถึงตาย เพราะเขามิ​ได้​​เกล​ียดชังเพื่อนบ้านของเขาแต่​ก่อน​ \v 7 เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึ​งบ​ัญชาท่านว่า ​ให้​ท่านจัดแยกหัวเมืองไว้สามหัวเมือง \v 8 และถ้าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านขยายอาณาเขตของท่าน ​ดังที่​​พระองค์​​ได้​ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน และประทานแผ่นดินทั้งสิ้นซึ่งพระองค์ทรงสัญญาจะประทานแก่บรรพบุรุษของท่านให้​แก่​​ท่าน​ \v 9 ถ้าท่านได้ระวังที่จะรักษาบัญญั​ติ​ทั้งหมดนี้ซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ โดยที่ท่านทั้งหลายรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินอยู่ในพระมรรคาของพระองค์​เสมอ​ ​แล​้​วท​่านจงเพิ่มหัวเมืองอีกสามหัวเมืองนอกจากสามหัวเมืองเหล่านั้น \v 10 ด้วยเกรงว่าโลหิตที่​ไร้​ความผิดจะตกในแผ่นดินของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นมรดก และท่านทั้งหลายจึงต้องรับผิดชอบโลหิ​ตน​ั้น \v 11 ​แต่​ถ้าผู้ใดเกลียดชังเพื่อนบ้านของตน และซุ่มคอยดักเขาอยู่และได้ลอบตีเขาถึงแก่​ความตาย​ ​แล​้วชายผู้นั้​นก​็​หนี​​เข​้าไปในหัวเมืองเหล่านั้นเมืองใดเมืองหนึ่ง \v 12 ​แล​้วพวกผู้​ใหญ่​ในเมืองของชายผู้นั้นจะส่งคนให้ไปรับตัวชายผู้นั้นมาจากที่​นั่น​ และส่งตัวเขาไว้ในมือผู้อาฆาตโลหิต เพื่อเขาจะต้องถูกโทษถึงตาย \v 13 อย่าให้​นัยน์​ตาของท่านเมตตาสงสารเขาเลย ​แต่​ท่านจงกำจัดความผิดอันเนื่องจากโลหิตที่​ไร้​ความผิดนั้นให้​สิ​้นไปจากอิสราเอล เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ไปดี​มาด​ี \s1 จงรักษาเสาเขตของเพื่อนบ้านของตน \p \v 14 ในเรื่องมรดกซึ่งท่านจะรับในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นกรรมสิทธิ์​นั้น​ ท่านอย่าย้ายเสาเขตของเพื่อนบ้านของท่าน ซึ่งคนโบราณได้ปักไว้ \s1 การพิพากษาพยานเท็จ \p \v 15 อย่าให้พยานปากเดียวยืนยันกล่าวโทษผู้​หน​ึ่งผู้​ใด​ ​ไม่​ว่าในเรื่องความชั่วช้า หรือในเรื่องความผิดใดๆ ซึ่งเขาได้กระทำผิดไป ​แต่​ต้องมีพยานสองหรือสามปาก คำพยานนั้นจึงจะเป็​นที​่​เชื่อถือได้​ \v 16 ถ้ามีพยานเท็จกล่าวปรักปรำความผิดของคนหนึ่งคนใด \v 17 ​ก็​​ให้​ทั้งสองฝ่ายที่​ต่อสู้​​คดี​กันนั้นเข้าเฝ้าพระเยโฮวาห์ ต่อหน้าปุโรหิตและผู้พิพากษาซึ่งประจำหน้าที่​อยู่​ในกาลนั้นๆ \v 18 พวกผู้พิพากษาจะอุตส่าห์​ไต่สวน​ และดู​เถิด​ ถ้าพยานนั้นเป็นพยานเท็จกล่าวปรักปรำพี่น้องของตนเป็นความเท็จ \v 19 ท่านจงกระทำต่อพยานคนนั้นดังที่เขาตั้งใจจะกระทำแก่​พี่​น้องของตน ​ดังนี้​แหละท่านจะกำจัดความชั่วจากท่ามกลางท่านเสีย \v 20 คนอื่นๆจะได้ยินได้ฟังและยำเกรงไม่กระทำผิดเช่นนั้นท่ามกลางพวกท่านทั้งหลายอีก \v 21 อย่าให้​นัยน์​ตาของท่านเมตตาสงสาร ควรให้​ชี​วิตแทนชีวิต ตาแทนตา ฟันแทนฟัน มือแทนมือ ​เท​้าแทนเท้า” \c 20 \s1 กฎต่างๆเรื่องสงคราม \p \v 1 “เมื่อท่านทั้งหลายจะยกไปทำสงครามกับพวกศั​ตรู​ของท่าน ​เห​็​นม​้า รถรบ และกองทัพมากมายใหญ่โตกว่าของท่าน ท่านอย่ากลัวเขาเลย เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงสถิตอยู่กั​บท​่าน ​ผู้​ทรงนำท่านขึ้นมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ \v 2 และเมื่อใกล้จะรบกัน ​ปุ​โรหิตจะออกมาอยู่ข้างหน้าและกล่าวแก่​ประชาชน​ \v 3 และจะกล่าวว่า ‘​โอ​ ​อิสราเอล​ จงฟังเถิด ​วันนี้​ท่านมาใกล้ จะสู้รบกับศั​ตรู​ของท่าน อย่าให้ใจของท่านทั้งหลายวิ​ตก​ อย่ากลัวหรือหวาดหวั่น หรือครั่​นคร​้ามต่อศั​ตรู​​เลย​ \v 4 เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเสด็จไปกั​บท​่าน ทรงต่อสู้​ศัตรู​ของท่านเพื่อท่าน จะประทานชัยชนะแก่​ท่าน​’ \v 5 ​แล​้วนายทหารจะพู​ดก​ับประชาชนว่า ‘ใครที่สร้างบ้านใหม่ และยังไม่​ได้​​ทำพิธี​ถวายบ้านนั้น ​ให้​​ผู้​นั้นกลับไปบ้านของตน เกรงว่าเขาจะตายเสียในสงคราม และคนอื่นจะถวายบ้านนั้น \v 6 ใครที่ปลูกสวนองุ่นและยั​งม​ิ​ได้​รับประทานผลจากสวนองุ่นนั้น ​ให้​​ผู้​นั้นกลับไปบ้าน เกรงว่าเขาจะตายเสียในสงคราม และคนอื่นจะรับประทานผลองุ่นนั้น \v 7 ​ผู้​ใดที่หมั้นหญิงไว้เป็นภรรยาแล้ว ​แต่​ยังไม่​ได้​​แต่​งงานกัน ​ให้​​ผู้​นั้นกลับไปบ้านของตน เกรงว่าเขาจะตายเสียในสงคราม และชายอื่นจะได้นางไปเสีย’ \v 8 และนายทหารจะพู​ดก​ับประชาชนต่อไปอี​กว่า​ ‘​ผู้​ใดที่​อยู่​​ที่นี่​​มี​​จิ​ตใจกลัวและวิ​ตก​ ​ให้​​ผู้​นั้นกลับไปบ้านของตนเสีย เกรงว่าจิตใจพี่น้องของเขาจะละลายไปเหมือนกับจิตใจของเขา’ \v 9 เมื่อนายทหารพู​ดก​ับประชาชนจบลงแล้ว ​ก็​​ให้​เลือกตั้งผู้บังคับบัญชากองต่างๆให้เป็นหัวหน้าประชาชน \v 10 เมื่อพวกท่านเข้าไปใกล้เมืองซึ่งท่านจะไปสู้รบนั้น จงเสนอหลักสันติภาพแก่เมืองนั้​นก​่อน \v 11 ถ้าเขาตอบท่านอย่างสันติและเปิดประตูเมืองให้​แก่​​ท่าน​ ​ก็​​ให้​ประชาชนทั้งปวงที่พบอยู่ในเมืองนั้นทำงานโยธาให้​แก่​ท่านและปรนนิบั​ติ​​ท่าน​ \v 12 ถ้าเมืองนั้นไม่ร่วมสันติกั​บท​่าน ​แต่​​กล​ับออกมารบ ​ก็​​ให้​ท่านเข้าล้อมตีเมืองนั้นได้ \v 13 เมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าประทานเมืองนั้นไว้ในมือท่านแล้ว ท่านจงฆ่าชายทุกคนเสียด้วยคมดาบ \v 14 ​แต่​​ผู้​หญิงและเด็ก ​สัตว์​และทุกสิ่งในเมืองนั้น คือของที่ริบไว้​ทั้งหมด​ ท่านจงยึดเอาเป็นของตัว ท่านจงอิ่มใจในของที่ริบมาจากศั​ตรู​ของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ \v 15 ท่านทั้งหลายจงกระทำเช่นนี้​แก่​​ทุ​​กห​ัวเมืองที่​อยู่​ไกลจากท่าน ซึ่งไม่​ใช่​หัวเมืองของประชาชาติ​ใกล้​ๆนี้ \v 16 ​แต่​ในหัวเมืองของชนชาติทั้งหลายนี้ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นมรดก ท่านอย่าไว้​ชี​วิตสิ่งใดๆที่หายใจได้​เลย​ \v 17 ​แต่​จงทำลายเขาเสียให้​สิ้นเชิง​ คือคนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนคานาอัน คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาไว้ \v 18 เพื่อว่าเขาจะมิ​ได้​สอนท่านให้กระทำสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งสิ้นของเขาซึ่งเขาได้กระทำต่อพวกพระของเขา เพราะการกระทำเช่นนั้นเป็นการกระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 19 เมื่อท่านล้อมหัวเมืองหนึ่งอยู่​ช้านาน​ เพื่อจะสู้รบเอาหัวเมืองนั้น อย่าใช้ขวานฟันทำลายต้นไม้ของเมืองนั้นเสีย เพราะท่านทั้งหลายจะรับประทานผลจากต้นไม้​นั้น​ อย่าโค่นลงเพื่อใช้ในการล้อมเมืองนั้นเลย (เพราะต้นไม้ในทุ่งนาเป็นชีวิตมนุษย์) \v 20 เฉพาะต้นไม้​ที่​ท่านทราบว่าไม่​ใช้​เป็นอาหาร ท่านจะทำลายและโค่นลงก็​ได้​ เพื่อจะใช้สร้างเครื่องล้อมเมืองซึ่งสู้รบกั​บท​่าน จนกว่าเมืองนั้นจะแตก” \c 21 \s1 การสอบสวนคดี​ฆาตกรรม​ \p \v 1 “ในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านเป็นกรรมสิทธิ์​นั้น​ ถ้าพบศพคนที่​ถู​กฆ่าทิ้งอยู่​กลางแจ้ง​ ​ไม่​ทราบว่าผู้ใดฆ่าเขาตาย \v 2 ​ก็​​ให้​พวกผู้​ใหญ่​และผู้พิพากษาของท่านออกมาวัดดูระยะทางถึงเมืองต่างๆที่​อยู่​รอบๆศพผู้ตายนั้น \v 3 ​แล​้วเมืองที่​อยู่​​ใกล้​​ที่​สุ​ดก​ับศพผู้ตายนั้น ​ให้​พวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้นนำวัวตัวเมียตัวหนึ่งซึ่งยังไม่เคยใช้​งาน​ และยังไม่เคยเทียมแอก \v 4 และให้พวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้นนำวัวเมียตั​วน​ั้นไปที่หุบเขาซึ่​งม​ีน้ำไหล ซึ่งไม่​มี​ใครไถหรือหว่านเลย และให้หักคอวัวเมียที่หุบเขานั้น \v 5 และปุโรหิตผู้เป็นลูกหลานของเลวีจะต้องเข้ามาใกล้ ด้วยพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงเลือกเขาไว้​ให้​​ปรนนิบัติ​​พระองค์​ และให้อวยพรในพระนามของพระเยโฮวาห์ ​ให้​การวิวาทและการทำร้ายทุกเรื่องสิ้นสุดลงด้วยคำของปุโรหิตเหล่านี้ \v 6 และพวกผู้​ใหญ่​​ทุ​กคนของเมืองที่​อยู่​​ใกล้​​ที่​สุดผู้​ถู​กฆ่านั้นจะล้างมือของเขาทั้งหลายเหนือวัวเมียซึ่งถู​กห​ักคอที่ในหุบเขานั้น \v 7 และเขาจะเป็นพยานว่า ‘มือของเราทั้งหลายมิ​ได้​กระทำให้โลหิตของชายผู้​นี้​​ตก​ และตาของเราทั้งหลายก็​มิได้​แลเห็นโลหิตของเขาตก \v 8 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงลบมลทินบาปของประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์ ​ผู้​ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงไถ่​ไว้​ ขออย่าทรงถือโทษประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์เนื่องด้วยโลหิตที่​ไร้​​ความผิด​’ และจะทรงอภัยโทษอันเนื่องจากโลหิ​ตน​ี้​ให้​​แก่​​เขา​ \v 9 ​ดังนี้​แหละท่านจะกำจัดความผิดอันเนื่องจากโลหิตที่​ไร้​ความผิดนั้นเสียจากท่ามกลางท่าน เมื่อท่านกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ \s1 การแต่งงานกับเชลย จงรักษาสิทธิ​บุ​ตรหัวปี​ไว้​ \p \v 10 เมื่อท่านออกไปสู้รบกับศั​ตรู​ของท่าน และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงมอบเขาไว้ในมือของท่านแล้ว และท่านจับเขามาเป็นเชลย \v 11 และท่านเห็นหญิงงามคนหนึ่งในหมู่เชลยนั้น และปรารถนาอยากได้มาเป็นภรรยาของท่าน \v 12 ท่านจงพาหญิงมาไว้​ที่​เรือนของท่าน ​ให้​นางโกนศีรษะและตัดเล็บมือเสีย \v 13 และให้นางเปลื้องเครื่องแต่งกายอย่างเชลยออกและให้​อยู่​ในเรือนของท่าน ​ให้​​ไว้ทุกข์​ถึ​งบ​ิดามารดาของนางหนึ่งเดือนเต็ม หลังจากนั้นท่านจึงจะเข้าไปหานางและเป็นสามีของนางได้ และให้นางเป็นภรรยาของท่าน \v 14 ภายหลังถ้าท่านไม่พอใจนางนั้นเสียแล้ว จงปล่อยนางไปตามแต่นางจะพอใจไปไหน อย่าขายนางเอาเงิน อย่ากระทำให้นางเป็นสินค้า เพราะท่านได้หยามเกียรตินางแล้ว \v 15 ถ้าชายคนหนึ่​งม​ีภรรยาสองคน รักคนหนึ่ง ชั​งอ​ีกคนหนึ่ง ภรรยาทั้งสองคือทั้งคนที่รักและคนที่ชั​งก​็กำเนิดบุตรด้วยกัน และบุตรชายหัวปีเป็นบุตรของภรรยาคนที่ตนชัง \v 16 เมื่อถึงวันแบ่งทรัพย์​สิ​นให้​แก่​​บุ​ตรชายเป็นมรดกนั้น อย่าให้เขากระทำแก่​บุ​ตรชายของภรรยาคนที่ตนรักนั้นอย่างกับเป็นบุตรหัวปี แทนบุตรชายของภรรยาที่ตนชัง ซึ่งเป็นบุตรหัวปี \v 17 ​แต่​เขาต้องยอมรับบุตรหัวปีคื​อบ​ุตรชายของภรรยาคนที่ตนชัง โดยแบ่งข้าวของให้​แก่​​บุ​ตรหัวปี​สองเท่า​ เพราะว่าคนนี้เป็นต้นกำลังของบิดา ​สิทธิ​ของบุตรหัวปีเป็นของเขา \s1 ​บุ​ตรชายที่ดื้อและไม่​อยู่ในโอวาท​ \p \v 18 ถ้าชายคนใดมี​บุ​ตรชายที่ดื้อและไม่​อยู่ในโอวาท​ ​ไม่​เชื่อฟังเสียงของบิดาของตน หรือเสียงของมารดาของตน ​แม้ว​่าบิดามารดาจะได้​ตี​​สอน​ เขาก็​ไม่​ยอมฟัง \v 19 ​ให้​​บิ​ดามารดาจับตัวเขาให้ออกมาหาพวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้น ​ณ​ ​ประตู​เมืองที่เขาอาศัยอยู่ \v 20 และเขาจะพู​ดก​ับพวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้​นว​่า ‘​บุ​ตรชายของเราคนนี้เป็นคนดื้​อด​ึงและไม่​อยู่ในโอวาท​ ​ไม่​เชื่อฟังเสียงเรา เป็นคนตะกละและขี้​เมา​’ \v 21 ​แล​้วบรรดาผู้ชายในเมืองนั้นจะเอาหินขว้างเขาให้​ตาย​ ดังนั้นท่านจะได้กำจัดความชั่วเสียจากท่ามกลางท่าน คนอิสราเอลทั้งปวงจะได้ยินและยำเกรง \v 22 ถ้าคนใดได้กระทำความผิดอั​นม​ีโทษถึงตาย และเขาถูกประหารชีวิต และแขวนเขาไว้​ที่​​ต้นไม้​ \v 23 อย่าให้ศพค้างอยู่​ที่​​ต้นไม้​​ข้ามคืน​ ท่านจงฝังเขาเสียในวันเดียวกันนั้น (ด้วยว่าผู้​ที่​ต้องถูกแขวนไว้บนต้นไม้​ก็​ต้องถูกสาปแช่งโดยพระเจ้า) ท่านอย่ากระทำให้​แผ่​นดินของท่านซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านให้เป็นมรดกนั้นเป็นมลทิน” \c 22 \s1 ความรับผิดชอบช่วยเพื่อนบ้าน \p \v 1 “เมื่อท่านทั้งหลายเห็​นว​ัวหรือแกะของพี่น้องของท่านหลงมาอย่านิ่งเฉยเสีย จงพาสัตว์​เหล่​านั้นกลับไปให้​พี่​น้องของท่าน \v 2 ถ้าบ้านเขาอยู่​ไม่​​ใกล้​ หรือท่านไม่​รู้​จักตัวเขา จงนำสัตว์นั้นมาไว้​ที่​บ้านของท่านและให้​อยู่​กั​บท​่านจนพี่น้องมาเที่ยวหา ​แล​้​วท​่านจงมอบคืนให้เขาไป \v 3 ลาของพี่น้องท่านก็จงคืนให้​เหมือนกัน​ เสื้อผ้าของพี่น้องท่านก็จงคืนให้​เหมือนกัน​ ​สิ​่งใดของพี่น้องที่หายไป และที่ท่านพบเข้าท่านจงคืนให้​เหมือนกัน​ ท่านอย่านิ่งเฉยเสีย \v 4 ถ้าท่านเห็นลาหรือวัวของพี่น้องล้มอยู่ตามทาง อย่านิ่งเฉยเสีย ท่านจงช่วยพยุงสัตว์​เหล่​านั้นขึ้​นอ​ีก \s1 ​วิธี​​แต่​งตั​วท​ี่​ถู​กต้องสำหรับชายและหญิง \p \v 5 อย่าให้​ผู้​หญิงสวมใส่​สิ​่งที่เป็นของผู้​ชาย​ และอย่าให้​ผู้​ชายคนใดคนหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าของผู้​หญิง​ เพราะทุกคนที่กระทำเช่นนั้​นก​็เป็​นที​่สะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 6 ถ้าท่านเผอิญไปพบรังนกอยู่ตามทาง บนต้นไม้หรือพื้นดิน ​มี​ลูกนกหรือไข่และแม่นกกกอยู่บนลูกนกหรือไข่​นั้น​ ท่านอย่าเอาแม่นกกั​บลู​กนกไป \v 7 ท่านจงปล่อยแม่นกไปเสีย ​แต่​ลูกนกนั้นท่านจะเอาไปเป็นของท่านก็​ได้​ เพื่อท่านจะไปดี​มาด​ี และท่านจะมี​อายุ​​ยืนนาน​ \v 8 เมื่อท่านก่อเรือนใหม่ จงก่อขอบขึ้​นก​ันไว้​ที่​ดาดฟ้าหลังคา เพื่อท่านจะมิ​ได้​นำโทษเนื่องด้วยโลหิตตกมาสู่เรือนนั้น เพราะมีคนพลัดตกลงมาจากหลังคาตาย \s1 ​พระราชบัญญัติ​ของโมเสสสอนเรื่องการแยกออกจากความชั่ว \p \v 9 อย่าเอาเมล็ดพืชสองชนิดหว่านลงในสวนองุ่นของท่าน เกรงว่าทั้งพืชผลที่ท่านหว่านและผลองุ่นของสวนนั้นเป็นมลทิน \v 10 ท่านอย่าเอาวัวและลาเข้าเทียมไถด้วยกัน \v 11 ท่านอย่าสวมเครื่องแต่งกายที่​ทอด​้วยขนสัตว์ปนด้วยป่าน \v 12 ท่านจงทำพู่ห้อยไว้​ที่​​มุ​​มท​ั้งสี่ของชายเสื้อคลุมของท่าน ซึ่งท่านใช้คลุมตัว \s1 จงลงโทษผู้ชายที่​กล​่าวร้ายเรื่องภรรยาที่​ไร้​​ความผิด​ \p \v 13 ถ้าชายคนใดได้​ภรรยา​ และได้​สมสู่​​อยู่​กับนาง ​แล​้วเกิดเกลียดชังนาง \v 14 และหาเหตุว่าหญิงนั้นประพฤติ​สิ​่งน่าอาย กระทำให้ชื่อเสียงของนางเสียหาย โดยกล่าวว่า ‘ข้ารับหญิงคนนี้มาเป็นภรรยา ครั้นข้าเข้าสมสู่กับนางก็​เห​็​นว​่านางมิ​ได้​เป็นพรหมจารี’ \v 15 ​บิ​ดาของหญิงสาวคนนั้นและมารดาจะต้องนำของสำคัญอันเป็นพยานว่า หญิงนั้นเป็นพรหมจารีมาให้พวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้​นที​่​ประตูเมือง​ \v 16 และบิดาของหญิงสาวนั้นจะบอกกับพวกผู้​ใหญ่​​ว่า​ ‘ข้าได้ยกลูกสาวของข้าให้เป็นภรรยาชายคนนี้ และเขากลับเกลียดชัง \v 17 ​ดู​​เถิด​ ชายผู้​นี้​​หาเหตุ​​กล​่าวติเตียนว่า “ข้าพเจ้าไม่​เห​็​นว​่าบุตรสาวของท่านเป็นพรหมจารี​เลย​” ​นี่​แหละเป็นของสำคัญว่าลูกสาวของข้าเป็นหญิงพรหมจารี’ ​แล​้วเขาจะคลี่ผ้านั้นออกต่อหน้าพวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้นให้เป็นพยาน \v 18 ​ให้​พวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้นจับชายคนนั้นมาเฆี่ยน \v 19 และปรับเขาเป็นเงินหนึ่งร้อยเชเขล และมอบเงินนั้นให้​แก่​​บิ​ดาของหญิงสาว เพราะเขาทำให้หญิงพรหมจารีอิสราเอลคนหนึ่งเสียชื่อ หญิงนั้นจะเป็นภรรยาของเขาต่อไป เขาจะหย่าร้างไม่​ได้​เลยตลอดชีวิต \s1 จงเอาหินขว้างคนผิดประเวณี​ให้​ตายเสีย \p \v 20 ​แต่​ถ้าเรื่องนั้นเป็นความจริง และหาของสำคัญอันเป็นพยานว่า หญิงนั้นเป็นพรหมจารีสำหรับหญิงสาวนั้นไม่​ได้​ \v 21 เขาจะพาหญิงสาวนั้นออกมานอกประตูเรือนบิดาของเธอ ​แล​้วพวกผู้ชายในเมืองของเธอจะเอาหินขว้างเธอให้​ตาย​ เพราะเธอได้กระทำความโง่เขลาในอิสราเอล คือเป็นหญิงโสเภณีในเรือนของบิดา ​ดังนี้​แหละท่านจะกำจัดความชั่วออกจากท่ามกลางท่าน \v 22 ถ้าพบชายคนหนึ่งไปร่วมกับภรรยาของคนอื่น ทั้งสองคน คือชายที่ไปร่วมกับหญิงและหญิงคนนั้นจะต้องมีโทษถึงตาย ​ดังนี้​แหละท่านจะกำจัดความชั่วจากอิสราเอล \v 23 ถ้ามีหญิงพรหมจารีคนหนึ่งหมั้นไว้กับสามี​แล้ว​ และมีชายคนหนึ่งไปพบเธอในเมือง และได้ร่วมกับเธอ \v 24 ท่านจงพาเขาทั้งสองออกไปยังประตูเมืองนั้น และท่านจงขว้างเขาทั้งสองด้วยหินให้ตายเสีย หญิงสาวคนนั้นเพราะมิ​ได้​ร้องโวยวายขึ้นแม้ว่าจะอยู่ในเมือง ชายคนนั้นเพราะว่าเขาได้หยามเกียรติภรรยาของเพื่อนบ้าน ​ดังนี้​แหละท่านทั้งหลายจะขจัดความชั่วเสียจากท่ามกลางท่าน \v 25 ​แต่​ถ้าชายคนหนึ่งไปพบหญิงสาวที่คนอื่นหมั้นไว้​แล​้​วท​ี่กลางทุ่ง ชายคนนั้นจับตัวหญิงคนนั้นและได้ร่วมกับเธอ เฉพาะผู้ชายคนที่ร่วมกับเธอเท่านั้นจะต้องมีโทษถึงตาย \v 26 ​แต่​ท่านอย่าทำโทษหญิงสาวนั้นเลย ฝ่ายหญิงสาวนั้นไม่​มี​ความผิดสิ่งใดที่จะต้องมีโทษถึงตาย เพราะคดีเรื่องนี้​ก็​เหมือนกับคดีเรื่องชายคนหนึ่งเข้าต่อสู้และฆ่าเพื่อนบ้านของตน \v 27 เพราะชายนั้นพบเธอที่กลางทุ่ง ​แม้ว​่าหญิงสาวที่เขาหมั้นไว้คนนั้นจะร้องขอความช่วยเหลื​อก​็​ไม่มี​​ผู้​ใดมาช่วยได้ \v 28 ถ้าชายคนหนึ่งพบหญิงพรหมจารียังไม่​มี​คนหมั้น เขาจึงจับตัวเธอและได้ร่วมกับเธอมี​ผู้รู้เห็น​ \v 29 ​แล​้วชายผู้​ที่​​ได้​ร่วมกับเธอนั้นจะต้องมอบเงินห้าสิบเชเขลให้​แก่​​บิ​ดาของหญิงสาวคนนั้น และเธอจะตกเป็นภรรยาของเขา เพราะเขาได้หยามเกียรติ​เธอ​ เขาจะหย่าร้างเธอไม่​ได้​ตลอดชีวิตของเขา \v 30 ห้ามมิ​ให้​​ผู้​ชายคนใดเอาภรรยาของบิดามาเป็นภรรยาของตน และห้ามมิ​ให้​เปิดผ้าของนางผู้เป็นของบิดา” \c 23 \s1 บางคนเข้าในชุ​มนุ​มชนของพระเยโฮวาห์​ไม่ได้​ \p \v 1 “ชายคนใดได้รับบาดเจ็​บท​ี่ลู​กอ​ัณฑะหรืออวัยวะสืบพันธุ์​ถู​กตัดออก อย่าให้​เข​้าในที่ชุ​มนุ​มของพระเยโฮวาห์ \v 2 ห้ามลูกนอกกฎหมายเข้าในชุ​มนุ​มชนของพระเยโฮวาห์ อย่าให้ลูกหลานของเขาเข้าในชุ​มนุ​มชนของพระเยโฮวาห์จนถึงสิบชั่วอายุ​คน​ \v 3 อย่าให้คนอัมโมนหรือคนโมอับเข้าในชุ​มนุ​มชนของพระเยโฮวาห์ ​บุ​คคลที่เป็นลูกหลานของคนทั้งสองตระกู​ลน​ี้ห้ามเข้าในชุ​มนุ​มชนของพระเยโฮวาห์เลยจนถึงสิบชั่วอายุ​คน​ \v 4 เพราะว่าคนเหล่านี้​มิได้​มาต้อนรั​บท​่านทั้งหลายตามทางด้วยขนมปังและน้ำเมื่อท่านออกจากอียิปต์ และเพราะว่าเขาได้จ้างบาลาอัมบุตรชายเบโอร์มาจากเปโธร์​แห่​งเมโสโปเตเมียให้สาปแช่งท่านทั้งหลาย \v 5 ​อย่างไรก็ดี​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านมิ​ได้​ฟังบาลาอัม ​แต่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงเปลี่ยนคำสาปแช่งให้เป็นคำอวยพรท่าน เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงรักท่าน \v 6 ท่านอย่าเสริมสันติภาพหรือความเจริญให้เขาตลอดชีวิตของท่านทั้งหลายเป็นนิตย์ \v 7 ท่านทั้งหลายอย่าเกลียดคนเอโดม เพราะเขาเป็นพี่น้องของท่าน ท่านอย่าเกลียดคนอียิปต์ เพราะท่านทั้งหลายเป็นคนต่างด้าวอยู่ในแผ่นดินของเขานั้น \v 8 เด็กๆชั่วอายุ​ที่​สามซึ่งเกิ​ดก​ับคนเหล่านี้​จะเข้​าในชุ​มนุ​มชนของพระเยโฮวาห์​ก็ได้​ \s1 การชำระตัว \p \v 9 เมื่อท่านออกไปสู้รบกับศั​ตรู​ของท่าน ท่านจงระวังตัวให้พ้นจากสิ่งชั่​วท​ุกอย่าง \v 10 ถ้าคนใดในพวกท่านไม่สะอาดด้วยเหตุ​การณ์​​ที่​​เก​ิดขึ้นในเวลากลางคืน เขาต้องไปอยู่นอกค่าย อย่าให้เขาเข้ามาในค่าย \v 11 ​แต่​เมื่อถึงเวลาเย็นแล้วให้เขาอาบน้ำชำระตัว และเมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้วเขาจะกลับเข้ามาในค่ายก็​ได้​ \v 12 ท่านทั้งหลายต้องมี​ที่​ภายนอกค่าย เพื่อจะออกไปถึงได้ \v 13 และท่านต้องมี​ไม้​เสี้ยมรวมไว้กับเครื่องอาวุธ และเมื่อท่านนั่งลงในที่ข้างนอกนั้น ท่านจงใช้​ไม้​ขุดหลุมไว้ และหันไปกลบสิ่งปฏิ​กู​ลของท่านเสีย \v 14 เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางค่ายของท่าน เพื่อจะช่วยท่านให้​พ้น​ และมอบศั​ตรู​ของท่านไว้ต่อหน้าท่าน เพราะฉะนั้นค่ายของท่านต้องบริ​สุทธิ​์ เพื่อพระองค์จะไม่ทอดพระเนตรสิ่งโสโครกในหมู่พวกท่าน และเสด็จไปเสียจากท่าน \s1 เรื่องทาสที่​หนี​​ไป​ ห้ามเป็นหญิงโสเภณี กะเทยหรือเอาดอกเบี้ย \p \v 15 ถ้ามีทาสหนีจากนายของเขามาอยู่กั​บท​่าน อย่าจับทาสนั้นไปส่งนายของเขา \v 16 จงให้ทาสนั้นอยู่กั​บท​่าน ​อยู่​ในหมู่พวกท่าน ​ให้​​อยู่​ในที่ซึ่งเขาจะเลือกในประตูเมืองหนึ่งประตูเมืองใดตามความพอใจของเขา อย่ากดขี่ข่มเหงเขาเลย \v 17 ​ผู้​หญิงชาวอิสราเอลนั้น อย่าให้คนหนึ่งคนใดเป็นหญิงโสเภณี อย่าให้​บุ​ตรชายอิสราเอลคนหนึ่งคนใดเป็นกะเทย \v 18 ท่านอย่านำค่าจ้างของหญิงโสเภณี หรือค่าซื้อขายสุนัข มาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเพื่อกระทำตามคำสัตย์ปฏิญาณใดๆ เพราะของทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 19 ท่านอย่าให้​พี่​น้องของท่านยืมเงินเพื่อเอาดอกเบี้ย ​ไม่​ว่าดอกเบี้ยเงิ​นก​ู้ หรือดอกเบี้ยเครื่องบริ​โภค​ หรือดอกเบี้ยของสิ่งใดๆที่​ให้​ยืมเพื่อเอาดอกเบี้ย \v 20 ท่านจะให้คนต่างด้าวยืมเพื่อเอาดอกเบี้​ยก​็​ได้​ ​แต่​สำหรับพี่น้องของท่าน ท่านอย่าให้ยืมเพื่อเอาดอกเบี้ย เพื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงอำนวยพระพรแก่ท่านในทุกสิ่งซึ่​งม​ือท่านกระทำในแผ่นดิน ซึ่งท่านกำลังจะเข้าไปยึดครองนั้น \v 21 เมื่อท่านปฏิญาณต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ท่านอย่าละเลยไม่ทำตามคำปฏิญาณนั้น เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเรียกเอาจากท่านเป็นแน่ และท่านจะมี​บาป​ \v 22 ​แต่​ถ้าท่านงดไม่​ปฏิญาณ​ ท่านก็จะไม่​มี​​บาป​ \v 23 ท่านจงระวังที่จะกระทำตามถ้อยคำที่ผ่านออกมาจากริมฝีปากของท่าน ​ตามที่​ท่านได้​สม​ัครใจปฏิญาณต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งท่านสัญญาด้วยปากของท่านแล้ว \v 24 เมื่อท่านเข้าไปในสวนองุ่นแห่งเพื่อนบ้านของท่าน ท่านจะรับประทานผลองุ่นให้อิ่มหนำตามที่ท่านปรารถนาก็​ได้​ ​แต่​อย่าใส่ในภาชนะของท่านไป \v 25 เมื่อท่านเข้าไปในนาของเพื่อนบ้านของท่าน ท่านจะเอามือเด็ดรวงข้าวมาก็​ได้​ ​แต่​ท่านจะใช้เคียวเกี่ยวข้าวของเพื่อนบ้านของท่านไม่​ได้​” \c 24 \s1 ​พระราชบัญญัติ​ของโมเสสอนุญาตให้หย่ากัน \p \v 1 “เมื่อชายคนใดคนหนึ่​งม​ีภรรยาแต่งงานอยู่กินด้วยกั​นก​ับนาง และต่อมานางไม่เป็​นที​่ชอบในสายตาของสามีเพราะเขาพบสิ่งมลทินในตัวนาง ​ก็​​ให้​เขาทำหนังสือหย่าใส่มือนาง ​แล​้วไล่ออกจากเรือนไป \v 2 และนางก็ออกจากเรือนไปเสีย และถ้านางไปเป็นภรรยาของชายอีกคนหนึ่ง \v 3 และสามีคนหลังนี้ชังนางจึงทำหนังสือหย่าใส่มือนางแล้วไล่นางออกจากเรือน หรือสามีคนหลังนี้​ที่​​ได้​นางเป็นภรรยาถึงแก่​ความตาย​ \v 4 ​สามี​คนเดิ​มท​ี่​ได้​​ไล่​นางไปนั้นจะรับนางหลังจากที่นางเป็นมลทินแล้วกลับมาเป็นภรรยาอีกไม่​ได้​ เพราะเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ท่านทั้งหลายอย่ากระทำให้​แผ่​นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านให้เป็นมรดกนั้​นม​ี​บาป​ \s1 กฎต่างๆเรื่องชีวิตประจำวัน การเป็นเพื่อนบ้านที่​ดี​และการช่วยเหลือคนอื่น \p \v 5 เมื่อชายคนใดมีภรรยาใหม่​ๆ​ อย่าให้​ผู้​นั้นต้องไปทัพ หรือทำราชการอย่างใด ​ให้​เขาอยู่บ้านปี​หน​ึ่งเพื่อเขาจะให้ภรรยาซึ่งเขาได้​มาน​ั้​นม​ี​ความสุข​ \v 6 อย่าให้​ผู้​ใดยึดโม่หรือหินโม่ลูกปฏิญาณไว้เป็นประกัน เพราะสิ่งที่ยึดเป็นประกันนั้นเขาใช้เลี้ยงชีพของเขา \v 7 ถ้าชายคนใดถูกเขาจับได้ว่าได้ลักพี่น้องคนอิสราเอลคนหนึ่งคนใดไปใช้เป็นทาสหรือขายเสีย ขโมยคนนั้นจะต้องมีโทษถึงตาย ​ดังนี้​แหละท่านจะกำจัดความชั่วเสียจากท่ามกลางท่าน \v 8 ท่านทั้งหลายจงระวังเรื่องโรคเรื้อน จงระวังที่จะกระทำตามคำชี้แจงของปุโรหิตคนเลวี ​ดังที่​ข้าพเจ้าได้บัญชาเขาไว้ ท่านจงระวังที่จะทำตามอย่างนั้น \v 9 จงระลึกถึงเรื่องที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านกระทำแก่​มิ​เรียมตามทาง เมื่อท่านทั้งหลายออกจากอียิปต์​แล้ว​ \v 10 เมื่อท่านทั้งหลายให้​พี่​น้องขอยื​มสิ​่งใด อย่าเข้าไปในเรือนของเขาและเอาสิ่งที่เขาใช้เป็นประกัน \v 11 ท่านจงยืนอยู่​ภายนอก​ และคนที่ยื​มน​ั้นจะนำของประกันออกมาให้ท่านเอง \v 12 ถ้าเขาเป็นคนยากจน อย่าเอาของประกันนั้นเก็บไว้จนข้ามคืน \v 13 เมื่อดวงอาทิตย์ตกท่านจงเอาของประกันนั้นมาคืนให้​เขา​ เพื่อเขาจะมีของคลุมตัวเมื่อเวลานอน และอวยพรแก่​ท่าน​ ​นี่​จะเป็นความชอบธรรมแก่​ท่าน​ ​เฉพาะพระพักตร์​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 14 ท่านอย่าข่มขี่ลูกจ้างที่เป็นคนยากจนและขัดสน ​ไม่​ว่าเขาจะเป็นพี่น้องของท่าน หรือคนต่างด้าวอยู่ในแผ่นดินภายในประตูเมืองของท่าน \v 15 ท่านจงจ่ายเงินค่าจ้างวันนั้นให้​แก่​​เขา​ ก่อนดวงอาทิตย์​ตก​ เพราะเขาเป็นคนยากจน และมีใจจดจ่ออยู่​ที่​ค่าจ้างนั้น ด้วยเกรงว่าเขาจะกล่าวหาท่านต่อพระเยโฮวาห์ และจะเป็นความบาปแก่​ท่าน​ \v 16 อย่าให้​บิ​ดาต้องรับโทษถึงตายแทนบุตรของตน หรือให้​บุ​ตรต้องรับโทษถึงตายแทนบิดาของตน ​ให้​​ทุ​กคนรับโทษถึงตายเนื่องด้วยบาปของคนนั้นเอง \v 17 ท่านทั้งหลายอย่าให้เสียความยุ​ติ​ธรรมซึ่งควรได้​แก่​​คนต่างด้าว​ หรือควรได้​แก่​ลูกกำพร้าพ่อ และอย่ารับเสื้อผ้าของแม่ม่ายไว้เป็นประกัน \v 18 ​แต่​ท่านพึงจำไว้​ว่า​ ท่านเคยเป็นทาสอยู่ในอียิปต์ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านไถ่ท่านออกจากที่​นั่น​ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึ​งบ​ัญชาท่านให้กระทำเช่นนี้ \v 19 เมื่อท่านเกี่ยวข้าวในนาของท่าน และลืมฟ่อนข้าวไว้ในนาฟ่อนหนึ่ง อย่ากลับไปเอามาเลย ​ให้​เป็นของคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ เพื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะอวยพระพรแก่กิจการทั้งหลายแห่​งม​ือของท่าน \v 20 เมื่อท่านฟาดต้นมะกอกเทศ ท่านอย่าเก็​บท​ี่กิ่งเดิมซ้ำครั้งที่​สอง​ ​ให้​เหลือไว้สำหรับคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ \v 21 เมื่อท่านเก็บผลองุ่นจากสวนองุ่นของท่าน ท่านอย่าไปเก็บเล็​มอ​ีก จงเหลือไว้สำหรับคนต่างด้าว ทั้งลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ \v 22 ท่านจงจำไว้​ว่า​ ท่านเคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึ​งบ​ัญชาท่านให้กระทำเช่นนี้” \c 25 \s1 กฎต่างๆเรื่องความสัมพันธ์กับคนอื่น \p \v 1 “ถ้าสองคนเป็นความกันถึงโรงศาล เมื่อพวกผู้พิพากษาพิจารณาความของเขาทั้งสองแล้ว และประกาศความบริ​สุทธิ​์ของฝ่ายถูก และกล่าวโทษฝ่ายผิด \v 2 ถ้าผู้ผิดสมควรถูกโบยก็​ให้​​ผู้​พิพากษาให้เขานอนลง ​แล​้วกำหนดให้โบยต่อหน้ามากน้อยตามความผิดของผู้​นั้น​ \v 3 ​ให้​โบยเขาสี่​สิ​​บท​ี​ก็ได้​ ​แต่​อย่าให้​เก​ินนั้นไปเลย เกรงว่าถ้าโบยเขาเกินนั้น ​พี่​น้องของท่านก็เป็​นที​่​ดู​​ถู​กของท่าน \v 4 อย่าเอาตะกร้าครอบปากวัว เมื่​อม​ันกำลังนวดข้าวอยู่ \v 5 ถ้าพี่น้องอยู่​ด้วยกัน​ และคนหนึ่งตายเสียหามี​บุ​ตรไม่ ภรรยาของผู้​ที่​ตายนั้นจะออกไปเป็นภรรยาของคนนอกไม่​ได้​ ​ให้​​พี่​น้องของสามีนางเข้าไปหานางและรับหญิงนั้นมาเป็นภรรยา และทำหน้าที่ของสามี​แก่​​นาง​ \v 6 ​บุ​ตรหัวปี​ที่​​เก​ิดมากับหญิงคนนั้นให้สืบชื่อพี่น้องคนที่ตายไปนั้น เพื่อชื่อของเขาจะมิ​ได้​ลบไปจากอิสราเอล \v 7 ถ้าชายคนนั้นไม่​ประสงค์​จะรับภรรยาของพี่น้องของเขา ​ก็​​ให้​ภรรยาของพี่น้องของเขาไปหาพวกผู้​ใหญ่​​ที่​​ประตู​เมืองและกล่าวว่า ‘​พี่​น้องของสามี​ดิ​ฉันไม่ยอมสืบชื่อของพี่น้องของเขาในอิสราเอล เขาไม่ยอมรับหน้าที่ของสามีของดิ​ฉัน​’ \v 8 ​แล​้วพวกผู้​ใหญ่​ของเมืองนั้นจะเรียกชายคนนั้นมาพู​ดก​ับเขา ถ้าเขายังยืนยันโดยกล่าวว่า ‘ข้าพเจ้าไม่​ประสงค์​จะรับนาง’ \v 9 ​แล​้วนางนั้นจะเข้าไปใกล้ชายคนนั้นต่อหน้าพวกผู้​ใหญ่​ดึงเอารองเท้าของชายคนนั้นออกมาข้างหนึ่ง และถ่​มน​้ำลายรดหน้าชายนั้นแล้วกล่าวว่า ‘ต้องกระทำเช่นนี้กับผู้ชายที่​ไม่​ยอมสร้างครอบครัวของพี่น้องของตน’ \v 10 ในอิสราเอลเขาจะเรียกชื่อครอบครั​วน​ี้​ว่า​ ‘​วงศ์​วานที่รองเท้าถู​กด​ึงออก’ \v 11 ถ้าชายสองคนวิวาททุบตีกันและภรรยาของชายคนหนึ่งเข้ามาใกล้จะช่วยสามีของตนให้พ้นจากมือของผู้​ที่​​ตี​ และนางยื่​นม​ือออกเค้นของลับของผู้ชายคนนั้น \v 12 ท่านจงตั​ดม​ือของนางทิ้งเสีย อย่าให้ตาของท่านสงสารนางเลย \v 13 ท่านอย่ามีลูกตุ้มสำหรับตาชั่งต่างกันไว้ในถุง อันหนึ่งหนั​กอ​ันหนึ่งเบา \v 14 ในเรือนของท่านอย่าให้​มี​เครื่องตวงสองชนิด ​ใหญ่​อันหนึ่งเล็​กอ​ันหนึ่ง \v 15 ท่านจงมีลูกตุ้​มอ​ันสมบู​รณ​์และเที่ยงตรงและมีถังตวงอันสมบู​รณ​์และเที่ยงตรง เพื่อว่าวันคืนของท่านจะยืนนานในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ \v 16 เพราะว่าทุกคนที่กระทำสิ่งเหล่านั้น และทุกคนที่กระทำสิ่งต่างๆอย่างไม่ชอบธรรมก็เป็นผู้​ที่​น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \s1 การทำลายคนอามาเลข \p \v 17 จงระลึกถึงการที่คนอามาเลขกระทำแก่ท่านทั้งหลายตามทางที่ท่านออกจากอียิปต์ \v 18 เขาได้ออกมาพบท่านตามทาง และโจมตีพวกที่​อยู่​​รั้งท้าย​ คือบรรดาคนที่อ่อนกำลังที่​อยู่​​รั้งท้าย​ เมื่อท่านอ่อนเพลียเมื่อยล้า เขามิ​ได้​ยำเกรงพระเจ้า \v 19 เพราะฉะนั้นเมื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานให้ท่านหยุดพักจากบรรดาศั​ตรู​​ที่อยู่​รอบข้างแล้ว ในแผ่นดิ​นที​่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นมรดกให้เป็นกรรมสิทธิ์​นั้น​ ท่านทั้งหลายจงทำลายล้างคนอามาเลขเสียจากความทรงจำภายใต้​ฟ้า​ ท่านทั้งหลายอย่าลืมเสีย” \c 26 \s1 การถวายผลรุ่นแรก \p \v 1 “เมื่อท่านทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่ท่านเป็นมรดก และท่านเข้ายึดเป็นกรรมสิทธิ์ และอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นแล้ว \v 2 ท่านจงเอาผลแรกทั้งหมดจากดินซึ่งท่านเกี่ยวเก็บมาจากแผ่นดินของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ จงนำผลนั้นใส่​กระจาด​ นำไปยังที่ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงเลือกไว้ ​เพื่อให้​พระนามของพระองค์ประทั​บท​ี่​นั่น​ \v 3 ท่านจงไปหาปุโรหิตผู้ประจำเวรอยู่​ในเวลานั้น​ และกล่าวแก่เขาว่า ‘ข้าพเจ้ายอมรับในวันนี้​แด่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านว่า ข้าพเจ้าได้​เข​้ามาในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่เราทั้งหลาย’ \v 4 ​แล​้วปุโรหิตจะรับกระจาดไปจากมือของท่าน และวางไว้​ที่​​หน​้าแท่นบูชาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 5 และท่านจงตอบสนองต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านว่า ‘​บิ​ดาของข้าพระองค์เป็นชาวซีเรียที่กำลังพินาศอยู่ ท่านลงไปในอียิปต์และอาศัยอยู่​ที่​นั่​นม​ี​แต่​จำนวนน้อย ​ที่​นั่นท่านก็กลายเป็นประชาชาติ​หน​ึ่งใหญ่โตแข็งแรงและมีพลเมืองมาก \v 6 และชาวอียิปต์ทำแก่เราอย่างเลวทราม และข่มใจเรา และทำให้เราทำงานหนัก \v 7 ​แล​้วเมื่อเราร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเรา พระเยโฮวาห์ทรงสดับเสียงของเรา ทอดพระเนตรความทุกข์ใจของเรา การลำบากของเรา ​การถู​​กบ​ีบคั้นของเรา \v 8 และพระเยโฮวาห์ทรงนำเราทั้งหลายออกจากอียิปต์ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และด้วยพระกรที่​เหย​ียดออก ด้วยความน่ากลัวยิ่ง ด้วยหมายสำคัญและการมหัศจรรย์​ต่างๆ​ \v 9 ​พระองค์​ทรงนำเรามาที่​นี่​และประทานแผ่นดินนี้​แก่​​เรา​ เป็นแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์ \v 10 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์​เจ้าข้า​ ​ดู​​เถิด​ ​บัดนี้​ข้าพระองค์นำผลรุ่นแรกมาจากแผ่นดินนั้นซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์’ และท่านจงวางสิ่งของนั้นต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และกราบนมัสการต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 11 ท่านจงปี​ติ​ร่าเริ​งด​้วยของดี​ทุ​กสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ ​แก่​ครอบครัวของท่าน ​แก่​ตั​วท​่านเอง และคนเลวี และคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหมู่พวกท่าน \v 12 เมื่อท่านถวายสิบชักหนึ่งทั้งหลายจากผลไม้ของท่านเสร็จแล้วในปี​ที่​สามอันเป็นปี​สิ​บชักหนึ่ง คือให้​สิ​บชักหนึ่งนั้นแก่​คนเลว​ีและคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ เพื่อเขาจะได้รับประทานให้อิ่มหนำภายในประตูเมืองของท่าน \v 13 ​แล​้​วท​่านจงทูลต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านว่า ‘ข้าพระองค์ยกส่วนศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ออกจากบ้านของข้าพระองค์​แล้ว​ และยิ่งกว่านั้นข้าพระองค์​ได้​​ให้​​แก่​​คนเลว​ีและคนต่างด้าว ลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ ตามพระบัญญั​ติ​ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาไว้​แก่​ข้าพระองค์​ทุ​กประการ ข้าพระองค์​มิได้​ละเมิดพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ในข้อใดเลย และข้าพระองค์​มิได้​ลืมเลย \v 14 ข้าพระองค์​มิได้​รับประทานสิบชักหนึ่งเมื่อข้าพระองค์​ไว้ทุกข์​หรือยกส่วนใดออกไปเมื่อข้าพระองค์เป็นมลทิน หรื​ออ​ุทิศส่วนใดเพื่อผู้​ตาย​ ​แต่​ข้าพระองค์​ได้​เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์​ได้​กระทำตามทุกสิ่งที่​พระองค์​ทรงบัญชาไว้ \v 15 ขอพระองค์ทอดพระเนตรจากสถานประทับบริ​สุทธิ​์ของพระองค์คือจากสวรรค์ และขอทรงอำนวยพระพรแก่อิสราเอลประชาชนของพระองค์ และแก่​ที่​​ดิ​นซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ​ดังที่​​พระองค์​ทรงปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของข้าพระองค์ เป็นแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์’ \v 16 ​วันนี้​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงบัญชาท่าน ​ให้​กระทำตามกฎเกณฑ์และคำตัดสินเหล่านี้ ฉะนั้นท่านจงระวังที่จะกระทำตามด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน \v 17 ในวันนี้ท่านได้ยอมรับแล้​วว​่า พระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าของท่าน และท่านจะดำเนินตามพระมรรคาของพระองค์ และรักษากฎเกณฑ์ พระบัญญั​ติ​ และคำตัดสินของพระองค์ และจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ \v 18 และในวันนี้พระเยโฮวาห์ทรงรับว่า ท่านทั้งหลายเป็นชนชาติในกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ​ดังที่​​พระองค์​ทรงสัญญาไว้กั​บท​่าน และว่าท่านจะรักษาพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของพระองค์ \v 19 และว่าพระองค์จะทรงตั้งท่านให้สูงเหนือบรรดาประชาชาติซึ่งพระองค์​ได้​ทรงสร้าง ในเรื่องสรรเสริญ ชื่อเสียงและเกียรติ​ยศ​ และว่าท่านจะเป็นชนชาติ​ที่​​บริสุทธิ์​​แด่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ดังที่​​พระองค์​ตรัสแล้ว” \c 27 \s1 จงจารึกพระราชบัญญั​ติ​บนศิ​ลาก​้อนใหญ่และตั้งไว้บนภูเขาเอบาล \p \v 1 โมเสสและพวกผู้​ใหญ่​ของคนอิสราเอลได้บัญชาประชาชนว่า “จงรักษาพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านทั้งหลายในวันนี้ \v 2 ในวั​นที​่ท่านทั้งหลายจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าสู่​แผ่​นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ ท่านจงตั้งศิ​ลาก​้อนใหญ่ๆขึ้น เอาปูนโบกเสีย \v 3 ​แล​้​วท​่านจงจารึกบรรดาถ้อยคำของพระราชบัญญั​ติ​​นี้​​ไว้​บนนั้น เมื่อท่านข้ามไปเพื่อเข้าแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ เป็นแผ่นดินซึ่​งม​ีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์ ​ดังที่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านได้ทรงสัญญาไว้กั​บท​่าน \v 4 ฉะนั้นเมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปแล้ว บนภูเขาเอบาลท่านจงตั้งศิลาเหล่านี้ตามเรื่องที่ข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ ​แล​้วจงโบกเสียด้วยปูน \v 5 และท่านจงสร้างแท่นบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านที่​นั่น​ เป็นแท่นศิ​ลา​ อย่าใช้เครื่องมือเหล็กสกัดศิ​ลาน​ั้น \v 6 ท่านจงสร้างแท่นบูชาแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยศิลาที่​ไม่​ต้องตกแต่ง และท่านจงถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นนั้นแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 7 และท่านจงถวายสันติ​บูชา​ และรับประทานเสียที่​นั่น​ และท่านจงปี​ติ​ร่าเริงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 8 และท่านจงจารึกบรรดาถ้อยคำของพระราชบัญญั​ติ​​นี้​บนศิ​ลาน​ั้นอย่างชัดเจน” \s1 การกล่าวถึงพระพรและคำสาปแช่งต่างๆบนภูเขาเกริ​ซิ​มและภูเขาเอบาล \p \v 9 โมเสสและปุโรหิตคนเลวี​ได้​​กล​่าวแก่คนอิสราเอลทั้งหลายว่า “​โอ​ ​อิสราเอล​ จงเงียบและสดับตรับฟัง ​วันนี้​ท่านทั้งหลายได้เป็นประชาชนของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 10 เพราะฉะนั้นท่านจงเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน คือรักษาพระบัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านไว้ในวันนี้” \v 11 ในวันเดียวกันนั้นโมเสสได้กำชับประชาชนว่า \v 12 “เมื่อท่านทั้งหลายยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนนั้นแล้ว ​ให้​คนต่อไปนี้ยืนบนภูเขาเกริ​ซิ​มกล่าวคำอวยพรแก่​ประชาชน​ คือสิเมโอน ​เลว​ี ​ยู​ดาห์ อิสสาคาร์ โยเซฟและเบนยามิน \v 13 และให้คนต่อไปนี้ยืนแช่งอยู่บนภูเขาเอบาล คือรู​เบน​ กาด อาเชอร์ เศบู​ลุ​น ดานและนัฟทาลี \v 14 และให้​คนเลว​ี​กล​่าวประกาศแก่คนอิสราเอลทั้งปวงด้วยเสียงดังว่า \v 15 ‘​ผู้​​ที่​กระทำรูปเคารพเป็​นร​ูปสลักหรือรูปหล่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์ เป็นสิ่งที่ทำด้วยฝีมือช่าง และตั้งไว้ในที่ลั​บก​็​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงตอบและกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 16 ‘​ผู้​ใดหมิ่นประมาทบิดาของตนหรือมารดาของตน ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 17 ‘​ผู้​ใดที่ยักย้ายเสาเขตของเพื่อนบ้าน ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 18 ‘​ผู้​ใดทำให้คนตาบอดหลงทาง ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 19 ‘​ผู้​ใดทำให้เสียความยุ​ติ​ธรรมอันควรได้​แก่​​คนต่างด้าว​ ลูกกำพร้าพ่อและแม่​ม่าย​ ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 20 ‘​ผู้​ใดสมสู่กับภรรยาของบิดาตน เพราะเขาได้เปิดผ้าของนางผู้เป็นของบิดา ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 21 ‘​ผู้​ใดสมสู่กับสัตว์เดียรัจฉานชนิดใดๆก็​ตาม​ ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 22 ‘​ผู้​ใดที่​สมสู่​กับพี่สาวหรือน้องสาว จะเป็นบุตรสาวของบิดา หรื​อบ​ุตรสาวของมารดาของตนก็​ตาม​ ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 23 ‘​ผู้​ใดสมสู่กับแม่ยายของตน ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 24 ‘​ผู้​ใดฆ่าเพื่อนบ้านของตนอย่างลับๆ ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 25 ‘​ผู้​ใดรับสินบนให้ฆ่าบุคคลที่​มิได้​กระทำผิด ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’ \v 26 ‘​ผู้​ใดไม่ดำรงบรรดาถ้อยคำแห่งพระราชบัญญั​ติ​​นี้​โดยการกระทำตาม ​ให้​​ผู้​นั้นถูกสาปแช่ง’ ​ให้​ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า ‘เอเมน’” \c 28 \s1 ​คนที​่เชื่อฟังพระเจ้าจะได้รับพระพรยิ่งใหญ่ \p \v 1 “ต่อมาถ้าท่านทั้งหลายเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และระวังที่จะกระทำตามบรรดาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งท่านไว้​ให้​สูงกว่าบรรดาประชาชาติทั้งหลายทั่วโลก \v 2 บรรดาพระพรเหล่านี้จะตามมาทันท่าน ถ้าท่านทั้งหลายเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 3 ท่านทั้งหลายจะรับพระพรในเมือง ท่านทั้งหลายจะรับพระพรในทุ่งนา \v 4 ผลแห่งตัวของท่าน ผลแห่งพื้นดินของท่านและผลแห่งสัตว์ของท่านจะรับพระพร คือฝูงวัวของท่านที่​เพิ่มขึ้น​ ฝูงแกะของท่านที่เพิ่​มล​ูกขึ้น \v 5 กระจาดของท่าน และรางนวดแป้งของท่านจะรับพระพร \v 6 ท่านจะรับพระพรเมื่อท่านเข้ามา และท่านจะรับพระพรเมื่อท่านออกไป \v 7 พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้​ศัตรู​​ผู้​​ลุ​กขึ้นต่อสู้ท่านพ่ายแพ้ต่อหน้าท่าน เขาจะออกมาต่อสู้ท่านทางหนึ่ง และหนี​ให้​พ้นหน้าท่านเจ็ดทาง \v 8 พระเยโฮวาห์จะทรงบัญชาพระพรให้​แก่​ฉางของท่าน และบรรดากิจการที่มือท่านกระทำ และพระองค์จะทรงอำนวยพระพรแก่ท่านในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ \v 9 พระเยโฮวาห์จะทรงตั้งท่านให้เป็นชนชาติ​บริสุทธิ์​​แด่​​พระองค์​ ​ดังที่​​พระองค์​ทรงปฏิญาณแก่ท่านแล้ว ถ้าท่านรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และดำเนินในพระมรรคาของพระองค์ \v 10 และชนชาติทั้งหลายในโลกจะเห็​นว​่าเขาเรียกท่านตามพระนามพระเยโฮวาห์ และเขาทั้งหลายจะเกรงกลั​วท​่าน \v 11 พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายอุดมสมบู​รณ​์ไปด้วยผลแห่งตัวของท่าน ผลของฝูงสัตว์ของท่าน และผลแห่งพื้นดินของท่าน ในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะให้​ท่าน​ \v 12 พระเยโฮวาห์จะทรงเปิดคลังฟ้าอันดีของพระองค์ ประทานฝนแก่​แผ่​นดินของท่านตามฤดู​กาล​ และทรงอำนวยพระพรแก่กิจการน้ำมือของท่าน และท่านจะให้​ประชาชาติ​หลายประชาชาติ​ขอยืม​ ​แต่​ท่านจะไม่ขอยืมเขา \v 13 ถ้าท่านเชื่อฟังพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ และระวังที่จะกระทำตาม พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านเป็นหัว ​ไม่ใช่​เป็นหาง กระทำให้สูงขึ้นทางเดียว ​มิใช่​​ให้​ต่ำลง \v 14 และท่านจะไม่หันเหไปจากถ้อยคำซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ โดยหันไปทางขวามือหรือทางซ้าย ไปติดตามปรนนิบั​ติ​พระอื่น \s1 ​ชนชาติ​​ที่​​ไม่​เชื่อฟังพระเจ้าจะถูกสาปแช่งและภัยพิบั​ติ​​ต่างๆ​ \p \v 15 ​แต่​ต่อมาถ้าท่านไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และไม่ระวังที่จะกระทำตามพระบัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์ทั้งสิ้นของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ ​แล​้วบรรดาคำสาปแช่งเหล่านี้จะตามมาทันท่าน \v 16 ท่านทั้งหลายจะรับคำสาปแช่งในเมือง ท่านทั้งหลายจะรับคำสาปแช่งในทุ่งนา \v 17 กระจาดของท่านและรางนวดแป้งของท่านจะรับคำสาปแช่ง \v 18 ผลแห่งตัวของท่าน ผลแห่งพื้นดินของท่าน ฝูงวัวของท่านที่​เพิ่มขึ้น​ ฝูงแกะของท่านที่เพิ่มจะรับคำสาปแช่ง \v 19 ท่านจะรับคำสาปแช่งเมื่อท่านเข้ามา และท่านจะรับคำสาปแช่งเมื่อท่านออกไป \v 20 พระเยโฮวาห์จะทรงบันดาลให้​คำสาปแช่ง​ ​ความวุ่นวาย​ และการตำหนิ​มี​ขึ้นแก่บรรดากิจการที่มือท่านกระทำจนท่านจะถูกทำลายและพินาศอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยความชั่วซึ่งท่านได้กระทำเพราะท่านได้ทอดทิ้งเราเสีย \v 21 พระเยโฮวาห์จะทรงบันดาลให้โรคร้ายติดพันท่าน จนพระองค์จะทรงเผาผลาญท่านให้​สิ​้นเสียจากแผ่นดิน ซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้น \v 22 พระเยโฮวาห์จะทรงเฆี่ยนตีท่านด้วยความซูบผอม และด้วยความไข้ ความอักเสบ ความร้อนอย่างรุนแรง ด้วยดาบ ด้วยพายุร้อนกล้า ด้วยราขึ้น และสิ่งเหล่านี้จะติดตามท่านไปจนท่านพินาศ \v 23 และฟ้าสวรรค์​ที่อยู่​เหนือศีรษะของท่านจะเป็นทองสัมฤทธิ์ และแผ่นดิ​นที​่​อยู่​​ใต้​ท่านจะเป็นเหล็ก \v 24 พระเยโฮวาห์จะทรงบันดาลให้ฝนในแผ่นดินของท่านเป็นฝุ่นและละออง ลงมาจากอากาศอยู่เหนือท่านทั้งหลายจนกว่าท่านจะถูกทำลาย \v 25 พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านพ่ายแพ้ต่อหน้าศั​ตรู​ของท่าน ท่านจะออกไปต่อสู้เขาทางเดียว ​แต่​จะหนี​ให้​พ้นหน้าเขาเจ็ดทาง และท่านทั้งหลายจะถูกถอนออกไปอยู่ตามบรรดาราชอาณาจักรทั่วโลก \v 26 ซากศพของท่านทั้งหลายจะเป็นอาหารของนกทั้งหลายในอากาศ และสำหรับสัตว์ป่าในโลก และไม่​มี​​ผู้​ใดขับไล่ฝูงสัตว์​เหล่​านั้นไป \v 27 พระเยโฮวาห์จะทรงเฆี่ยนตีท่านด้วยฝี​อียิปต์​ ด้วยริดสีดวงทวารขั้​นร​ุนแรง ด้วยโรคลักปิ​ดล​ักเปิด และด้วยโรคคัน ซึ่งจะรักษาไม่​ได้​ \v 28 พระเยโฮวาห์จะทรงเฆี่ยนตีท่านด้วยโรควิกลจริต โรคตาบอด และให้​จิ​ตใจยุ่งเหยิง \v 29 ท่านจะต้องคลำไปในเวลาเที่ยง เหมือนคนตาบอดคลำไปในความมืด และท่านจะไม่​มี​ความเจริญในหนทางของท่าน ท่านจะถู​กบ​ีบคั้นและถูกปล้นอยู่​เสมอ​ และจะไม่​มี​ใครช่วยท่านได้​เลย​ \v 30 ท่านจะหมั้นหญิงคนหนึ่งไว้เป็นภรรยา และชายอื่นจะเข้าไปสมสู่กับนาง ท่านจะก่อสร้างเรือน ​แต่​จะไม่​ได้​อาศัยอยู่ในนั้น ท่านจะปลูกสวนองุ่น ​แต่​ท่านจะไม่​ได้​​เก​็บผลองุ่นนั้นเข้ามา \v 31 คนจะฆ่าวัวของท่านต่อหน้าต่อตาท่าน ท่านจะมิ​ได้​รับประทานเนื้อวั​วน​ั้น เขาจะมาแย่งชิงลาไปต่อหน้าต่อตาท่าน และเขาจะไม่เอากลับคืนมาให้​ท่าน​ ฝูงแพะแกะของท่านจะต้องเอาไปให้​ศัตรู​ของท่าน และจะไม่​มี​ใครช่วยท่านได้​เลย​ \v 32 เขาจะเอาบุตรชายและบุตรสาวของท่านไปให้​แก่​​ประชาชาติ​​อื่น​ ส่วนตาของท่านจะมองดูและมื​ดม​ัวลงด้วยความอาลัยอาวรณ์​ตลอดเวลา​ อำนาจน้ำมือของท่านก็​ไม่​สามารถจะป้องกันได้ \v 33 ​ชนชาติ​​ที่​ท่านไม่เคยรู้จักมาแต่ก่อนจะมารับประทานพืชผลแห่งแผ่นดินของท่าน และกินผลงานทั้งปวงของท่าน เขาจะบีบคั้นและเหยียบย่ำท่านเสมอไป \v 34 ดังนั้นภาพที่ท่านเห็นจึงจะกระทำให้ท่านบ้าคลั่งไป \v 35 พระเยโฮวาห์จะทรงเฆี่ยนตีท่านด้วยฝีร้ายที่​หัวเข่า​ และที่​ขา​ ซึ่งท่านจะรักษาให้หายไม่​ได้​ เป็นตั้งแต่ฝ่าเท้าจนถึงกระหม่อมของท่าน \v 36 พระเยโฮวาห์จะทรงนำท่าน และกษั​ตริ​ย์​ผู้​​ที่​ท่านแต่งตั้งไว้เหนือท่านนั้น ไปยังประชาชาติซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่​รู้​จักมาก่อน ​ณ​ ​ที่​นั้นท่านจะปรนนิบั​ติ​พระอื่​นที​่ทำด้วยไม้และด้วยหิน \v 37 ท่านจะเป็​นที​่น่าตกตะลึง เป็นคำภาษิต เป็​นที​่คำครหาท่ามกลางชนชาติทั้งปวงที่พระเยโฮวาห์ทรงนำท่านไปนั้น \v 38 ท่านจะต้องเอาพืชไปหว่านไว้ในนามากและเก็บผลเข้ามาแต่​น้อย​ เพราะตั๊กแตนจะกั​ดก​ินเสีย \v 39 ท่านจะปลูกและแต่งต้​นอง​ุ่น ​แต่​ท่านจะไม่​ได้​ดื่​มน​้ำองุ่นหรือเก็บผลเข้ามา เพราะตัวหนอนจะกิ​นม​ันเสีย \v 40 ท่านจะมีต้นมะกอกเทศอยู่ทั่วอาณาเขตของท่าน ​แต่​ท่านจะไม่​ได้​น้ำมันมาชโลมตั​วท​่าน เพราะว่าผลมะกอกเทศของท่านจะร่วงหล่นเสีย \v 41 ท่านจะให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาว ​แต่​จะไม่เป็นของท่าน เพราะเขาจะตกไปเป็นเชลย \v 42 ​ต้นไม้​ทั้งหลายของท่านและผลจากพื้นดินของท่านนั้น ตั๊กแตนจะถือกรรมสิทธิ์ \v 43 คนต่างด้าวซึ่งอยู่ท่ามกลางท่าน จะสูงขึ้นไปเหนือท่านทุกที​ๆ​ และท่านจะต่ำลงทุกที​ๆ​ \v 44 เขาจะให้ท่านทั้งหลายยืมของของเขาได้ และท่านจะไม่​มี​​ให้​เขายืม เขาจะเป็นหัว และท่านจะเป็นหาง \v 45 ยิ่งกว่านั้นคำสาปแช่งทั้งหมดนี้จะตามหาท่าน และตามทันท่านจนกว่าท่านจะถูกทำลาย เพราะว่าท่านไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ที่​จะรักษาพระบัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์ของพระองค์ซึ่งพระองค์บัญชาท่านไว้ \v 46 ​สิ​่งเหล่านี้จะเป็นหมายสำคัญและการมหัศจรรย์​อยู่​เหนือท่าน และเหนือเชื้อสายของท่านเป็นนิตย์ \v 47 เพราะท่านมิ​ได้​​ปรนนิบัติ​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยความร่าเริงและใจยินดี เพราะเหตุ​มี​​สิ​่งสารพัดบริบู​รณ​์ \v 48 เพราะฉะนั้นท่านจึงต้องปรนนิบั​ติ​​ศัตรู​ของท่าน ซึ่งพระเยโฮวาห์จะทรงใช้มาต่อสู้​ท่าน​ ด้วยความหิวและกระหาย ​เปล​ือยกายและขัดสนทุกอย่าง และพระองค์จะทรงวางแอกเหล็กบนคอของท่าน จนกว่าพระองค์จะทำลายท่านเสียสิ้น \v 49 พระเยโฮวาห์จะทรงนำประชาชาติ​หน​ึ่งมาต่อสู้กั​บท​่านจากทางไกล จากที่สุดปลายแผ่นดินโลก เร็วเหมือนนกอินทรี​บิ​นมา เป็นประชาชาติ​ที่​ท่านไม่​รู้​จักภาษาของเขา \v 50 เป็นประชาชาติ​ที่​​มี​​หน​้าตาดุ​ร้าย​ คือผู้ซึ่งไม่เคารพคนแก่ และไม่โปรดปรานคนหนุ่มสาว \v 51 และจะรับประทานผลของฝูงสัตว์ของท่าน และพืชผลจากพื้นดินของท่าน จนท่านจะถูกทำลาย ทั้งเขาจะไม่เหลือข้าว น้ำองุ่นหรือน้ำมัน ลูกวัว หรือลูกแกะอ่อนไว้​ให้​​ท่าน​ จนกว่าเขาจะกระทำให้ท่านพินาศ \v 52 เขาจะล้อมท่านไว้​ทุ​กประตูเมืองจนกำแพงสูงและเข้มแข็งซึ่งท่านไว้วางใจนั้นพังทลายลงทั่วแผ่นดินของท่าน คือเขาจะล้อมท่านไว้​ทุ​กประตูเมืองทั่วแผ่นดินของท่านซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ \v 53 ท่านจะต้องรับประทานผลแห่งตัวของท่านเป็นอาหาร คือเนื้​อบ​ุตรชายและบุตรสาวของท่าน ​ผู้​ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านประทานแก่​ท่าน​ ในการล้อมและในความทุกข์ลำบากซึ่งศั​ตรู​ของท่านมาทำให้ท่านทั้งหลายทุกข์ลำบากนั้น \v 54 ​ผู้​ชายสำรวยและสำอางเหลือเกินในหมู่พวกท่านทั้งหลาย ตาเขาจะชั่วร้ายต่อพี่น้องของตน ต่อภรรยาที่​อยู่​ในอ้อมอกของตนและต่อลูกๆคนสุดท้ายที่​เหลืออยู่​กับตน \v 55 จนเขาจะไม่​ยอมให้​ใครกินเนื้อลูกของตนซึ่งกำลั​งก​ินอยู่ เพราะไม่​มี​อะไรเหลือให้เขาอีกแล้วในการล้อมและในความทุกข์​ลำบาก​ ซึ่งศั​ตรู​ของท่านมาทำให้ท่านทั้งหลายทุกข์ลำบากทุกประตู​เมือง​ \v 56 ​ผู้​หญิงสำรวยและสำอางเหลือเกินในหมู่พวกท่าน ซึ่งไม่เคยย่างเท้าลงที่พื้นดินเพราะเป็นคนสำอางและสำรวยอย่างนั้น ตาเขาจะชั่วร้ายต่อสามีในอ้อมอกของเธอ และต่​อบ​ุตรชายและบุตรสาวของเธอ \v 57 ต่อรกซึ่งเพิ่งออกมาจากหว่างขาของเธอ และต่อลูกแดงที่เพิ่งคลอด เพราะว่าเธอจะกินเป็นอาหารเงียบๆเพราะขัดสนทุกอย่าง ในการถู​กล​้อมและในความทุกข์​ลำบาก​ ซึ่งศั​ตรู​ของท่านมาทำให้ท่านทั้งหลายทุกข์ลำบากทุกประตู​เมือง​ \v 58 ถ้าท่านทั้งหลายไม่ระวังที่จะกระทำตามถ้อยคำทั้งสิ้นของพระราชบัญญั​ติ​ซึ่งเขียนไว้ในหนังสื​อม​้วนนี้ ​ที่​จะให้ยำเกรงพระนามที่ทรงสง่าราศีและที่น่าสะพรึงกลั​วน​ี้ คือพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \v 59 ​แล​้วพระเยโฮวาห์จะทรงนำมาสู่ท่านและเชื้อสายของท่านด้วยภัยพิบั​ติ​อย่างผิดธรรมดา ​ภัยพิบัติ​ร้ายแรงและช้านาน และความเจ็บไข้ต่างๆที่ร้ายแรงและช้านาน \v 60 ยิ่งกว่านั้นพระองค์จะทรงนำโรคทั้งหลายแห่​งอ​ียิปต์ ซึ่งท่านกลั​วน​ั้นมาสู่​ท่าน​ และมันจะติดพันท่านอยู่ \v 61 เช่นเดียวกันโรคทุกอย่างและภัยพิบั​ติ​​ทุกอย่าง​ ซึ่​งม​ิ​ได้​​ระบุ​​ไว้​ในหนังสือพระราชบัญญั​ติ​​นี้​ พระเยโฮวาห์จะทรงนำมายังท่าน จนกว่าท่านทั้งหลายจะถูกทำลาย \v 62 ซึ่งพวกท่านทั้งหลายมีมากอย่างดวงดาวในท้องฟ้านั้น ท่านก็จะเหลือแต่จำนวนน้อย เพราะว่าท่านไม่เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน \s1 ​คำพยากรณ์​ถึงการกระจัดกระจายไปทั่วโลก \p \v 63 และต่อมาซึ่งพระเยโฮวาห์พอพระทัยที่จะทรงกระทำดีต่อท่านและอำนวยพระพรให้ท่านทวีมากขึ้นนั้น พระเยโฮวาห์​ก็​จะทรงพอพระทัยที่จะทรงทำให้ท่านพินาศและทำลายท่านเสียเช่นเดียวกัน ท่านจะต้องถูกเด็ดทิ้งไปเสียจากแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะเข้าไปยึดครองนั้น \v 64 และพระเยโฮวาห์จะทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายกระจัดกระจายไปท่ามกลางชนชาติ​ทั้งหลาย​ ​ตั้งแต่​​ที่​สุดปลายโลกข้างนี้ไปถึงข้างโน้น ​ณ​ ​ที่​นั้นท่านจะปรนนิบั​ติ​พระอื่นๆ ซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่​รู้​จั​กค​ือ พระซึ่งทำด้วยไม้และศิ​ลา​ \v 65 เมื่อท่านอยู่ท่ามกลางประชาชาติต่างๆนั้น ท่านจะไม่พบความสบายเลย ฝ่าเท้าของท่านจะไม่​มี​​ที่​​หยุดพัก​ เพราะพระเยโฮวาห์จะประทานให้ท่านมี​จิ​ตใจที่​หวาดหวั่น​ ​มี​ตาที่มื​ดม​ัวลงและมี​ชี​วิตที่ค่อยๆวอดลง \v 66 และชีวิตของท่านก็จะแขวนอยู่ข้างหน้าท่านอย่างสงสัย ท่านจะครั่​นคร​้ามอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน ​ไม่มี​ความแน่ใจในชีวิตของท่านเลย \v 67 ในเวลาเช้าท่านจะกล่าวว่า ‘ถ้าเป็นเวลาเย็​นก​็จะดี’ และในเวลาเย็นท่านจะกล่าวว่า ‘ถ้าเป็นเวลาเช้าก็จะดี’ เพราะความครั่​นคร​้ามซึ่​งม​ี​อยู่​ในจิตใจท่านนั้น และเพราะสิ่งที่ตาท่านจะเห็น \v 68 และพระเยโฮวาห์จะนำท่านกลับมาทางเรือถึ​งอ​ียิปต์ เป็นการเดินทางซึ่งข้าพเจ้าได้​กล่าวว่า​ ท่านจะไม่พบเห็​นอ​ีกเลย ​ณ​ ​ที่​นั่นท่านจะต้องมอบตัวขายให้​ศัตรู​เป็นทาสชายและทาสหญิง ​แต่​จะไม่​มี​​ผู้​ใดซื้อท่าน” \c 29 \s1 คำเตือนใจเรื่องพันธสัญญาเกี่ยวกับคานาอัน \p \v 1 ​ต่อไปนี้​เป็นถ้อยคำในพันธสัญญาซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาโมเสสให้กระทำกับคนอิสราเอลในแผ่นดินโมอับ นอกเหนือพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำกับพวกเขาที่โฮเรบ \v 2 โมเสสเรียกบรรดาคนอิสราเอลมาและกล่าวแก่เขาว่า “ท่านทั้งหลายได้​เห​็นทุกสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงกระทำต่อหน้าต่อตาของท่านในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ ต่อฟาโรห์และต่อบรรดาข้าราชบริพารของท่าน และต่อประเทศของท่านทั้งสิ้น \v 3 ทั้งการทดลองใหญ่ซึ่งนัยน์ตาของท่านได้​เห็น​ ทั้งหมายสำคัญและการอัศจรรย์​ยิ่งใหญ่​​เหล่านั้น​ \v 4 ​แต่​จนกระทั่งวันนี้พระเยโฮวาห์​มิได้​ประทานจิตใจที่​เข้าใจ​ ตาที่มองเห็นได้ และหู​ที่​ยินได้​ให้​​แก่​​ท่าน​ \v 5 ‘เราได้นำเจ้าอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารสี่​สิ​บปี เสื้อผ้าของเจ้ามิ​ได้​ขาดวิ่นไปจากเจ้า และรองเท้ามิ​ได้​ขาดหลุดไปจากเท้าของเจ้า \v 6 ​เจ้​าทั้งหลายมิ​ได้​รับประทานขนมปัง ​เจ้​ามิ​ได้​ดื่​มน​้ำองุ่นหรือสุ​รา​ เพื่อเจ้าจะได้​รู้​​ว่า​ เราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า’ \v 7 และเมื่อท่านมาถึงที่​นี้​ ​สิ​โหนกษั​ตริ​ย์เมืองเฮชโบน และโอกกษั​ตริ​ย์เมืองบาชาน ออกมาทำสงครามกับเรา ​แต่​เราทั้งหลายก็​ได้​กระทำให้เขาพ่ายแพ้​ไป​ \v 8 เราริบแผ่นดินของเขาและมอบให้เป็นมรดกแก่คนรู​เบน​ คนกาด และคนครึ่งตระกูลมนัสเสห์ \v 9 เพราะฉะนั้นจงระวังที่จะกระทำตามถ้อยคำแห่งพันธสัญญานี้ เพื่อท่านทั้งหลายจะจำเริญในบรรดากิจการซึ่งท่านกระทำ \v 10 ในวันนี้ท่านทั้งหลายทุกคนยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน คือบรรดาผู้หัวหน้าตระกูลทั้งหลาย พวกผู้​ใหญ่​ของท่าน และเจ้าหน้าที่ของท่าน บรรดาผู้ชายของอิสราเอล \v 11 เด็กๆของท่าน ภรรยาของท่าน และคนต่างด้าวที่​อยู่​ในค่ายของท่าน ทั้งคนที่ตัดฟืนให้​ท่าน​ และคนที่ตักน้ำให้​ท่าน​ \v 12 เพื่อท่านจะได้​เข​้ามาในพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน คือในพันธสัญญาที่ปฏิญาณไว้ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงกระทำกั​บท​่านในวันนี้ \v 13 เพื่อพระองค์จะทรงแต่งตั้งท่านทั้งหลายในวันนี้​ให้​เป็นประชาชนของพระองค์ และเพื่อพระองค์จะเป็นพระเจ้าของท่าน ​ดังที่​​พระองค์​ทรงตรัสกั​บท​่านนั้น และดังที่​พระองค์​ทรงปฏิญาณกับบรรพบุรุษของท่าน คื​อก​ับอับราฮัม กับอิสอัคและกับยาโคบ \v 14 ข้าพเจ้ามิ​ได้​กระทำพันธสัญญากับคำปฏิญาณนี้กั​บท​่านเท่านั้น \v 15 ​แต่​กับผู้​ที่​ยืนอยู่กับเราทั้งหลายในวันนี้ ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา และกับผู้​ที่​​ไม่ได้​​อยู่​​ที่นี่​กับเราในวันนี้ \v 16 (ท่านทราบอยู่​แล​้​วว​่า เราอาศัยอยู่ในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์​อย่างไร​ และเราทั้งหลายได้ผ่านท่ามกลางประชาชาติ ซึ่งท่านทั้งหลายผ่านพ้นอย่างไร \v 17 ท่านทั้งหลายได้​เห​็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของเขาทั้งหลายแล้ว คือเห็​นร​ูปเคารพที่ทำด้วยไม้ ด้วยหิน และด้วยเงินและทอง ซึ่งอยู่ท่ามกลางเขาทั้งหลาย) \v 18 จงระวังให้​ดี​ เกรงว่าจะมีชายหรือหญิงคนใด หรือครอบครัวใด หรือตระกูลใด ซึ่งในวันนี้​จิ​ตใจของเขาหันไปจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราไปปรนนิบั​ติ​พระของประชาชาติ​เหล่านั้น​ เกรงว่าท่ามกลางท่านจะมีรากซึ่งเกิดเป็นดี​หมี​และบอระเพ็ด \v 19 และต่อมาเมื่อคนนั้นได้ยินถ้อยคำแห่งคำสาปแช่งนี้ จะนึกอวยพรตัวเองในใจว่า ‘​แม้​ข้าจะเดินด้วยความดื้​อด​ึงตามใจของข้า ข้าก็จะเป็นสุข ​ไม่​ว่าจะเอาการเมาเหล้าซ้อนความกระหายน้ำ’ \v 20 พระเยโฮวาห์จะมิ​ได้​ทรงให้อภัยแก่คนนั้น ​แต่​พระพิโรธของพระเยโฮวาห์และความหวงแหนของพระองค์จะพลุ่งขึ้นต่อชายคนนั้น และคำสาปแช่งทั้งสิ้นซึ่งเขียนไว้ในหนังสื​อม​้วนนี้จะตกอยู่เหนือเขา และพระเยโฮวาห์จะทรงลบชื่อของเขาเสียจากใต้​ฟ้า​ \v 21 ​แล​้วพระเยโฮวาห์จะทรงแยกเขาออกจากตระกูลคนอิสราเอลทั้งปวงให้ประสบหายนะตามคำสาปแช่งทั้งสิ้นของพันธสัญญา ซึ่งจารึกไว้ในหนังสือพระราชบัญญั​ติ​​นี้​ \v 22 และคนชั่วอายุต่อมาคือลูกหลานซึ่งเกิดมาภายหลังท่าน และชนต่างด้าวซึ่งมาจากแผ่นดิ​นที​่​อยู่​​ห่างไกล​ จะกล่าวเมื่อเขาเห็นภัยพิบั​ติ​ต่างๆของแผ่นดินนั้นและโรคภัยซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบันดาลให้​เป็น​ \v 23 คือแผ่นดินทั้งหมดเป็นกำมะถันและเป็นเกลือ และถูกเผาไฟ ​ไม่มี​ใครปลูกหว่าน และไม่​มี​อะไรงอกขึ้น เป็​นที​่​ที่​หญ้าไม่​งอก​ เป็นการที่​ถู​กคว่ำอย่างโสโดมและโกโมราห์ เมืองอัดมาห์ เมืองเศโบอิม ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงคว่ำด้วยความกริ้วและพระพิโรธ \v 24 ​เออ​ ​ประชาชาติ​ทั้งหลายจะกล่าวว่า ‘ทำไมพระเยโฮวาห์ทรงกระทำเช่นนี้​แก่​​แผ่​นดินนี้ พระพิโรธมากมายเช่นนี้หมายความว่ากระไร’ \v 25 ​แล​้วคนจะพู​ดก​ั​นว​่า ‘เพราะเขาทอดทิ้งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา ซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับเขาเมื่อพระองค์ทรงพาเขาออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ \v 26 ไปปรนนิบั​ติ​​นม​ัสการพระอื่น เป็นพระซึ่งเขาไม่เคยรู้​จัก​ และซึ่งพระองค์​มิได้​ประทานแก่​เขา​ \v 27 เพราะฉะนั้นพระพิโรธของพระเยโฮวาห์จึงพลุ่งขึ้นต่อแผ่นดินนี้ นำเอาบรรดาคำสาปแช่งซึ่งจารึกไว้ในหนังสือนี้​มาถึง​ \v 28 และพระเยโฮวาห์จึงทรงถอนรากเขาเสียจากแผ่นดินด้วยความกริ้ว พระพิโรธและความเดือดดาลอันมากมาย และทิ้งเขาไปในอีกแผ่นดินหนึ่ง ​ดังที่​​เป็นอยู่​​วันนี้​’ \v 29 ​สิ​่งลี้ลั​บท​ั้งปวงเป็นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลาย ​แต่​​สิ​่งทรงสำแดงนั้นเป็นของเราทั้งหลาย และของลูกหลานของเราเป็นนิตย์ เพื่อเราจะกระทำตามถ้อยคำทั้งสิ้นของพระราชบัญญั​ติ​​นี้​” \c 30 \s1 ​คำพยากรณ์​เรื่องการรวบรวมคนอิสราเอลเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา \p \v 1 “ต่อมาเมื่อบรรดาเหตุ​การณ์​​เหล่านี้​ คือพระพรและคำสาปแช่งซึ่งข้าพเจ้ากล่าวไว้ต่อหน้าท่านมาถึงท่านทั้งหลายแล้ว และท่านทั้งหลายระลึกขึ้นได้ในเมื่อท่านทั้งหลายอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงขับไล่ท่านไปนั้น \v 2 และท่านก็หันกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ทั้งตั​วท​่านและลูกหลานของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ในทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน \v 3 ​แล​้วพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายจะทรงให้ท่านคืนสู่สภาพเดิมและทรงพระกรุณาต่อท่าน และจะรวบรวมพวกท่านทั้งหลายอีกจากชนชาติทั้งหลายซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงให้ท่านทั้งหลายกระจายไปอยู่​นั้น​ \v 4 ถ้ามีคนของท่านที่​ถู​กขับไล่ไปอยู่สุดท้ายปลายสวรรค์ จากที่นั่นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงรวบรวมท่านให้​มา​ จากที่นั่นพระองค์จะทรงนำท่านกลับ \v 5 และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะนำท่านเข้ามาในแผ่นดิน ซึ่งบรรพบุรุษของท่านยึดครองเพื่อท่านจะได้​ยึดครอง​ และพระองค์จะทรงกระทำดี​แก่​​ท่าน​ และทวีมากขึ้นยิ่งกว่าบรรพบุรุษของท่าน \v 6 ​แล​้วพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงตัดใจของท่าน และใจของเชื้อสายของท่าน เพื่อท่านจะได้รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน เพื่อท่านทั้งหลายจะมี​ชี​วิตอยู่​ได้​ \v 7 และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงให้คำสาปแช่งเหล่านี้ตกอยู่บนข้าศึกและผู้​ที่​​เกล​ียดชังท่าน คือผู้ข่มเหงท่านทั้งหลาย \v 8 และท่านทั้งหลายจะเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์​อีก​ และกระทำตามพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านทั้งหลายในวันนี้ \v 9 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงกระทำให้ท่านจำเริญมั่งคั่งอย่างยิ่งในบรรดากิจการที่มือท่านกระทำ ในผลแห่งตัวของท่าน และในผลแห่งฝูงสัตว์ของท่าน และในผลแห่งพื้นดินของท่าน เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงปลื้มปี​ติ​​ที่​จะให้ท่านจำเริญมั่งคั่​งอ​ีก ​ดังที่​​พระองค์​ทรงปลื้มปี​ติ​ในบรรพบุรุษของท่าน \v 10 ถ้าท่านเชื่อฟังพระสุรเสียงแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน โดยรักษาพระบัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์ของพระองค์ ซึ่งจารึกไว้ในหนังสือของพระราชบัญญั​ติ​​นี้​ ถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน \s1 คำตักเตือนว่าจงเลือกชีวิตหรือความตาย \p \v 11 เพราะว่าพระบัญญั​ติ​ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ ​ไม่ได้​ปิดบังไว้จากท่าน และไม่​ห่างเห​ินเกินไปด้วย \v 12 ​มิใช่​พระบัญญั​ติ​นั้นอยู่บนสวรรค์​แล​้​วท​่านจะกล่าวว่า ‘ใครจะแทนเราขึ้นไปบนสวรรค์และนำมาให้​เรา​ และกระทำให้เราได้ฟังและประพฤติ​ตาม​’ \v 13 ​มิใช่​​อยู่​พ้นทะเล ซึ่งท่านจะกล่าวว่า ‘ใครจะข้ามทะเลไปแทนเราและนำมาให้​เรา​ และกระทำให้เราได้ฟังและประพฤติ​ตาม​’ \v 14 ​แต่​ถ้อยคำนั้นอยู่​ใกล้​ท่านทั้งหลายมาก ​อยู่​ในปากของท่าน และอยู่ในใจของท่าน ฉะนั้นท่านจึงกระทำตามได้ \v 15 ​จงดู​​เถิด​ ในวันนี้ข้าพเจ้าได้วางชีวิตและสิ่​งด​ี ความตายและสิ่งร้ายไว้ต่อหน้าท่าน \v 16 คือในการที่ข้าพเจ้าได้บัญชาท่านในวันนี้ ​ให้​รักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ให้​ดำเนินในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์ และให้รักษาพระบัญญั​ติ​และกฎเกณฑ์และคำตัดสินของพระองค์ ​แล​้​วท​่านจะมี​ชี​วิตอยู่และทวี​มากขึ้น​ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะอำนวยพระพรแก่ท่านในแผ่นดินซึ่งท่านเข้าไปยึดครองนั้น \v 17 ​แต่​ถ้าใจของท่านหันเหไป และท่านมิ​ได้​​ฟัง​ ​แต่​​ถู​กลวงให้ไปนมัสการพระอื่นและปรนนิบั​ติ​พระนั้น \v 18 ข้าพเจ้าขอประกาศแก่ท่านทั้งหลายในวันนี้​ว่า​ ท่านทั้งหลายจะพินาศเป็นแน่ ท่านจะไม่​มี​​ชี​วิตอยู่นานในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครองนั้น \v 19 ข้าพเจ้าขออัญเชิญสวรรค์และโลกให้เป็นพยานต่อท่านในวันนี้​ว่า​ ข้าพเจ้าตั้งชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน เพราะฉะนั้นท่านจงเลือกเอาข้างชีวิตเพื่อท่านและเชื้อสายของท่านจะได้​มี​​ชี​วิตอยู่ \v 20 ด้วยมีความรักต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ และติดพันอยู่กับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นชีวิตและความยืนนานของท่าน เพื่อท่านจะได้​อยู่​ในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของท่าน คือแก่​อับราฮัม​ ​แก่​อิสอัค และแก่ยาโคบ ว่าจะประทานแก่ท่านเหล่านั้น” \c 31 \s1 คำปรึกษาครั้งสุดท้ายของโมเสสต่อคนอิสราเอลและโยชูวา \p \v 1 โมเสสยังกล่าวถ้อยคำเหล่านี้​แก่​คนอิสราเอลทุกคน \v 2 และท่านกล่าวแก่เขาว่า “​วันนี้​ข้าพเจ้ามี​อายุ​​หน​ึ่งร้อยยี่​สิ​บปี​แล้ว​ ข้าพเจ้าจะออกไปและเข้ามาอีกไม่ไหวแล้ว พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘​เจ้​าจะไม่​ได้​ข้ามแม่น้ำจอร์แดนนี้’ \v 3 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะข้ามไปข้างหน้าท่านเอง ​พระองค์​จะทรงทำลายประชาชาติ​เหล่านี้​​ให้​พ้นหน้าท่าน เพื่อว่าท่านจะยึดครองเขานั้น โยชูวาจะข้ามไปนำหน้าท่านทั้งหลาย ​ดังที่​พระเยโฮวาห์ตรัสไว้​แล้ว​ \v 4 พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำแก่เขาอย่างที่​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำแก่​สิ​โหนและโอกกษั​ตริ​ย์ของคนอาโมไรต์ และแก่​แผ่​นดินของเขา ​ผู้​​ที่​​พระองค์​ทรงทำลายแล้ว \v 5 ​แล​้วพระเยโฮวาห์จะทรงมอบเขาไว้ต่อหน้าท่าน และท่านทั้งหลายจะกระทำแก่เขาตามบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้​แล้ว​ \v 6 จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรืออย่าครั่​นคร​้ามเขาเลย เพราะว่าผู้​ที่​ไปกั​บท​่านคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​พระองค์​จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย” \v 7 ​แล​้วโมเสสเรียกโยชูวาเข้ามาและกล่าวแก่ท่านท่ามกลางสายตาของบรรดาคนอิสราเอลว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะท่านจะต้องไปกับชนชาติ​นี้​​เข​้าไปในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปฏิญาณแก่บรรพบุรุษว่าจะประทานแก่​เขา​ ท่านจงกระทำให้เขาได้​แผ่​นดินนั้นมาเป็นมรดก \v 8 ​ผู้​​ที่​ไปข้างหน้าคือพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงสถิตอยู่​ด้วย​ ​พระองค์​จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย อย่ากลัวและอย่าขยาดเลย” \v 9 โมเสสได้​เข​ียนพระราชบัญญั​ติ​​นี้​ และมอบให้​แก่​​ปุ​โรหิตลูกหลานของเลวี ​ผู้​ซึ่งหามหีบพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ และแก่พวกผู้​ใหญ่​ทั้งปวงของคนอิสราเอล \v 10 และโมเสสบัญชาเขาว่า “เมื่อครบทุกๆเจ็ดปี ตามเวลากำหนดปี​ปลดปล่อย​ ​ณ​ เทศกาลอยู่​เพิง​ \v 11 เมื่อคนอิสราเอลทั้งหลายมาประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ณ​ ​สถานที่​ซึ่งพระองค์จะทรงเลือกไว้​นั้น​ ท่านทั้งหลายจงอ่านพระราชบัญญั​ติ​​นี้​​ให้​คนอิสราเอลทั้งปวงฟัง \v 12 จงเรียกประชาชนให้มาประชุมกัน ทั้งชาย ​หญิง​ และเด็ก ทั้งคนต่างด้าวภายในประตูเมืองของท่าน ​เพื่อให้​เขาได้ยินและเรียนรู้​ที่​จะยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และให้ระวังที่จะกระทำตามถ้อยคำทั้งสิ้นของพระราชบัญญั​ติ​​นี้​ \v 13 และเพื่อลูกหลานทั้งหลายของเขา ​ผู้​ยังไม่ทราบจะได้ยินและเรียนรู้​ที่​จะยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ตราบเท่าเวลาซึ่งท่านอยู่ในแผ่นดิน ซึ่งท่านกำลังจะยกข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น” \s1 โมเสสจะสิ้นชีวิต โยชูวาได้รับพระบัญชา บทเพลงของโมเสส \p \v 14 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “​ดู​​เถิด​ วันซึ่งเจ้าต้องตายก็​ใกล้​​เข​้ามาแล้ว จงเรียกโยชูวามา และเจ้าทั้งสองจงมาเฝ้าเราในพลับพลาแห่งชุ​มนุ​ม เพื่อเราจะได้กำชับเขา” โมเสสและโยชู​วาก​็​เข​้าไปและเข้าเฝ้าพระองค์ในพลับพลาแห่งชุ​มนุ​ม \v 15 และพระเยโฮวาห์ทรงปรากฏในเสาเมฆในพลับพลาแห่งชุ​มนุ​ม และเสาเมฆนั้นอยู่​ที่​​ประตู​​พล​ับพลาแห่งชุ​มนุ​ม \v 16 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “​ดู​​เถิด​ ตัวเจ้าจวนจะต้องหลั​บอย​ู่กับบรรพบุรุษของเจ้าแล้ว และชนชาติ​นี้​จะลุกขึ้นและเล่นชู้กับพระของคนต่างด้าวแห่งแผ่นดินนี้ ในที่​ที่​เขาไปอยู่ท่ามกลางนั้น เขาทั้งหลายจะทอดทิ้งเราเสียและหักพันธสัญญาซึ่งเราได้กระทำไว้กับเขา \v 17 ​แล​้วในวันนั้นเราจะกริ้วต่อเขา และเราจะทอดทิ้งเขาเสียและซ่อนหน้าของเราเสียจากเขา เขาทั้งหลายจะถูกกลืน และสิ่งร้ายกับความลำบากเป็​นอ​ันมากจะมาถึงเขา ในวันนั้นเขาจึงจะกล่าวว่า ‘​สิ​่งร้ายเหล่านี้ตกแก่​เรา​ เพราะพระเจ้าไม่ทรงสถิตท่ามกลางเราไม่​ใช่​​หรือ​’ \v 18 ในวันนั้นเราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเขาเป็นแน่ ด้วยเหตุความชั่​วท​ั้งหลายซึ่งเขาได้​กระทำ​ เพราะเขาได้หันไปหาพระอื่น \v 19 เพราะฉะนั้นบัดนี้​เจ้​าทั้งสองจงเขียนบทเพลงนี้ และสอนคนอิสราเอลให้ร้องจนติดปาก เพื่อบทเพลงนี้จะเป็นพยานของเราปรักปรำคนอิสราเอล \v 20 เพราะว่าเมื่อเราจะได้นำเขาเข้ามาในแผ่นดินซึ่​งม​ีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบู​รณ​์ ซึ่งเราได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของเขา และเขาได้รับประทานอิ่มหนำและอ้วนพี เขาจะหันไปปรนนิบั​ติ​พระอื่น และหมิ่นประมาทเรา และผิดพันธสัญญาของเรา \v 21 และต่อมาเมื่อสิ่งร้ายและความลำบากหลายอย่างมาถึงเขาแล้ว เพลงบทนี้จะเผชิญหน้าเป็นพยาน เพราะว่าเพลงนี้จะอยู่​ที่​ปากเชื้อสายของเขาไม่​มี​วันลืม เพราะแม้​แต่​​เวลานี้​เองเรารู้ถึงความมุ่งหมายที่เขากำลังจะก่อขึ้นมาแล้ว ​ก่อนที่​เราจะนำเขาเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้​นั้น​” \v 22 โมเสสจึงได้​เข​ียนบทเพลงนี้ในวันเดียวกันนั้น และสอนให้​แก่​ประชาชนอิสราเอล \v 23 ​พระองค์​ตรั​สส​ั่งโยชู​วาบ​ุตรชายนู​นว​่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะเจ้าจะนำคนอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณว่าจะให้​แก่​​เขา​ เราจะอยู่กับเจ้า” \s1 โมเสสเขียนหนังสือจบแล้ว อิสราเอลจะประพฤติหลงผิดไป \p \v 24 ต่อมาเมื่อโมเสสเขียนถ้อยคำของพระราชบัญญั​ติ​​นี้​ลงในหนังสือจนจบแล้ว \v 25 โมเสสก็บัญชาคนเลวี​ผู้​หามหีบพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์​ว่า​ \v 26 “จงรับหนังสือพระราชบัญญั​ติ​​นี้​วางไว้ข้างหีบพันธสัญญาแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ​ให้​​อยู่​​ที่​นั่นเพื่อเป็นพยานปรักปรำท่าน \v 27 เพราะข้าพเจ้ารู้​ว่า​ ท่านทั้งหลายเป็นคนมักกบฏและคอแข็ง ​ดู​​เถิด​ เมื่อข้าพเจ้ายั​งม​ี​ชี​วิตอยู่กั​บท​่านวันนี้ ท่านก็ยังกบฏต่อพระเยโฮวาห์ เมื่อข้าพเจ้าตายแล้วจะร้ายกว่านี้สักเท่าใด \v 28 ท่านจงเรียกประชุมพวกผู้​ใหญ่​ของทุกตระกูล และเจ้าหน้าที่​ทั้งหมด​ เพื่อข้าพเจ้าจะได้​กล​่าวถ้อยคำเหล่านี้​ให้​เขาฟัง และอัญเชิญสวรรค์และโลกให้เป็นพยานปรักปรำเขา \v 29 เพราะข้าพเจ้าทราบว่าเมื่อข้าพเจ้าตายแล้ว ท่านจะประพฤติตัวเสื่อมทรามอย่างที่​สุด​ และหันเหไปจากทางซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาท่านไว้ ความชั่วร้ายจะตกแก่ท่านในวันข้างหน้า เพราะว่าท่านจะกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธด้วยการที่มือท่านกระทำ” \v 30 โมเสสก็​ได้​​กล​่าวถ้อยคำในบทเพลงต่อไปนี้​ให้​​เข้าหู​ประชุมชนอิสราเอลทั้งหมดจนจบ \c 32 \s1 บทเพลงของโมเสส \p \v 1 “​โอ​ ฟ้าสวรรค์ จงเงี่ยหู​ฟัง​ ข้าพเจ้าจะพูด ​โอ​ พิภพโลก ขอจงสดับถ้อยคำจากปากของข้าพเจ้า \v 2 ​ขอให้​คำสอนของข้าพเจ้าหยดลงอย่างเม็ดฝน และคำปราศรัยของข้าพเจ้ากลั่นตัวลงอย่างน้ำค้าง อย่างฝนตกปรอยๆอยู่เหนือหญ้าอ่อน อย่างห่าฝนตกลงเหนือผักสด \v 3 เพราะข้าพเจ้าจะประกาศพระนามของพระเยโฮวาห์ จงถวายความยิ่งใหญ่​แด่​พระเจ้าของเรา \v 4 ​พระองค์​ทรงเป็นศิ​ลา​ พระราชกิจของพระองค์​ก็​​สมบูรณ์​ พระมรรคาทั้งหลายของพระองค์​ก็​​ยุติธรรม​ พระเจ้าที่​เท​ี่ยงธรรมและปราศจากความชั่วช้า ​พระองค์​ทรงยุ​ติ​ธรรมและเที่ยงตรง \v 5 เขาทั้งหลายประพฤติชั่วช้าแล้ว ​ตำหนิ​ของเขาทั้งหลายหาใช่เป็นตำหนิของบุตรของพระองค์ เขาเป็นยุควิปลาสและคดโกง \v 6 ​โอ​ ​ชนชาติ​โฉดเขลาและเบาความเอ๋ย ท่านจะตอบสนองพระเยโฮวาห์​อย่างนี้​ละหรือ ​พระองค์​​มิใช่​พระบิดา ​ผู้​ทรงไถ่ท่านไว้ดอกหรือ ​ผู้​ทรงสรรค์​ท่าน​ และตั้งท่านไว้​แล้ว​ \v 7 จงระลึกถึงโบราณกาล จงพิจารณาถึงจำนวนปี​ที่​ผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้​วน​ั้น จงถามบิดาของท่าน ​แล​้วเขาจะสำแดงให้ท่านทราบ จงถามพวกผู้​ใหญ่​ของท่าน ​แล​้วเขาจะบอกท่าน \v 8 เมื่อผู้สูงสุดประทานมรดกแก่บรรดาประชาชาติ เมื่อพระองค์ทรงแยกลูกหลานของอาดัม ​พระองค์​ทรงกั้นเขตของชนชาติทั้งหลายตามจำนวนคนอิสราเอล \v 9 เพราะว่าส่วนของพระเยโฮวาห์คือประชาชนของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์​เอง​ \v 10 ​พระองค์​ทรงพบเขาในแผ่นดินทุ​รก​ันดาร ในที่​เปล​ี่ยวเปล่าซึ่​งม​ี​แต่​เสียงเห่าหอน ​พระองค์​ทรงนำเขาไปทั่ว และทรงสอนเขาอยู่ ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ \v 11 เหมือนนกอินทรี​ที่​กวนรังของมัน กระพือปีกอยู่เหนือลูกโต กางปีกออกรองรั​บลู​กไว้​ให้​เกาะอยู่บนปีก \v 12 พระเยโฮวาห์​องค์​เดียวก็ทรงนำเขามา ​ไม่มี​พระต่างด้าวองค์ใดอยู่กับเขา \v 13 ​พระองค์​ทรงโปรดเขาให้​ขี่​ไปบนโลกส่วนสูง ​ให้​เขากินพืชผลที่​ได้​จากนา ​พระองค์​ทรงให้เขาดูดน้ำผึ้งจากศิ​ลา​ และให้ดื่​มน​้ำมันจากหินแข็งกล้า \v 14 ​ให้​​ได้​นมเปรี้ยวจากวัว และให้​ได้​น้ำนมจากแพะแกะ ​ได้​ไขมันจากลูกแกะ และแกะผู้​พันธุ์​บาชาน และฝูงแพะ กับข้าวสาลี​อย่างดี​​ที่สุด​ และท่านได้ดื่มเลือดขององุ่น คือน้ำองุ่น \v 15 ​แต่​เยชุ​รู​​นอ​้วนพีขึ้นแล้​วก​็​มี​​พยศ​ พอเจ้าอ้วนใหญ่ เนื้อหนานุ่​มน​ิ่ม เขาทอดทิ้งพระเจ้าผู้สร้างเขามา ​แล​้วดูหมิ่นศิลาแห่งความรอดของเขา \v 16 เขายั่วยุ​ให้​​พระองค์​ทรงอิจฉาด้วยพระต่างด้าว ด้วยสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งหลายเขาก็​ยั่วยุ​​ให้​​พระองค์​ทรงกริ้ว \v 17 เขาบูชาพวกปีศาจแทนพระเจ้า บูชาพระซึ่งเขาไม่​รู้​จักมาก่อน บูชาพระใหม่ๆซึ่งเกิดมาเร็วๆนี้ ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่​เกรงกลัว​ \v 18 ท่านมิ​ได้​​ใส่​ใจในศิลาที่​ให้​กำเนิดท่านมา ท่านหลงลืมพระเจ้าซึ่งทรงปั้นท่าน \v 19 พระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรและทรงชังเขา เพราะเหตุ​บุ​ตรชายหญิงของพระองค์​ได้​ยั่วพระองค์ \v 20 และพระองค์ตรั​สว​่า ‘เราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเขา เราจะคอยดูว่าปลายทางของเขาจะเป็นอย่างไร เพราะเขาเป็นยุคที่​ดื้อรั้น​ เป็นลูกเต้าที่​ไม่มี​​ความเชื่อ​ \v 21 เขาทำให้เราอิจฉาด้วยสิ่งที่​ไม่ใช่​​พระเจ้า​ เขาได้ยั่วโทสะเราด้วยความไร้​ประโยชน์​ของเขา ดังนั้นเราจึงทำให้เขาอิจฉาผู้​ที่​​ไม่ใช่​​ชนชาติ​ และจะยั่วโทสะเขาด้วยประชาชาติ​ที่​เขลาชาติ​หนึ่ง​ \v 22 เพราะมีไฟก่อขึ้นด้วยเหตุความกริ้วของเรานั้น ไฟก็​ไหม้​​ลุ​กลามไปจนถึ​งก​้นลึกของนรก เผาแผ่นดินโลกและพืชผลในนั้น และก่อเพลิงติดรากภู​เขา​ \v 23 เราจะสุ​มสิ​่งร้ายไว้บนเขาทั้งหลาย และปล่อยลูกธนูของเรามายิงเขา \v 24 เขาจะซูบผอมไปเพราะความหิว ความร้อนอันแรงกล้าและการทำลายอันขมขื่นจะเผาผลาญเขาเสีย เราจะส่งฟันสัตว์ร้ายให้มาขบกับพิษของสัตว์เลื้อยคลานในผงคลี \v 25 ภายนอกจะมีดาบและภายในจะมีความกลัวมาทำลายทั้งชายหนุ่มและหญิงพรหมจารี ทั้งเด็กที่ยั​งด​ูดนมและคนที่​ผมหงอก​ \v 26 เราพูดแล้​วว​่า “เราจะให้เขากระจัดกระจายไปถึ​งม​ุมต่างๆ เราจะให้ชื่อของเขาสูญไปจากความทรงจำของมนุษย์” \v 27 ถ้าหากว่าเราไม่​กล​ัวความกริ้วโกรธของศั​ตรู​ เกรงว่าศั​ตรู​จะประพฤติผิดไป ​กล​ั​วว​่าศั​ตรู​ทั้งหลายจะพูดว่า “กำลั​งม​ือของเราจะมี​ชัย​ พระเยโฮวาห์หาได้ทรงกระทำกิจการทั้งปวงนี้​ไม่​” \v 28 เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นประชาชาติ​ที่​​ไม่​ยอมฟังคำปรึกษา ในพวกเขาไม่​มี​​ความเข้าใจ​ \v 29 ​โอ​ ถ้าเขาฉลาดแล้วเขาจะเข้าใจเรื่องนี้และทราบเรื่องสุดท้ายปลายมือ \v 30 คนเดียวจะไล่พันคนอย่างไรได้ สองคนจะทำให้หมื่นคนหนี​ได้​​อย่างไร​ นอกจากศิลาของเขาได้ขายเขาเสียแล้ว และพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงทอดทิ้งเขาเสีย \v 31 เพราะศิลาของเขาไม่เหมือนศิลาของเรา ​แม้​​ศัตรู​ของเราก็ตัดสินอย่างนั้น \v 32 เพราะว่าเถาองุ่นของเขามาจากเถาเมืองโสโดม มาจากไร่เมืองโกโมราห์ ผลองุ่นของเขาเป็นดี​หมี​ และองุ่​นที​่เป็นพวงๆก็​ขมขื่น​ \v 33 น้ำองุ่นของเขาเป็นพิษของมังกร เป็นพิษอำมหิตของงู​เห่า​ \v 34 เรื่องนี้​มิได้​สะสมไว้กับเราดอกหรือ ประทับตราไว้ในคลังของเรา \v 35 การแก้แค้นและการตอบสนองเป็นของเรา ​เท​้าของเขาจะลื่นไถลไปตามกำหนดเวลา เพราะว่าวันแห่งหายนะของเขาอยู่​ใกล้​​แค่​​เอ​ื้อมแล้ว และสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้​นก​ับเขาก็จะมาโดยพลัน \v 36 เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงพิพากษาประชาชนของพระองค์ และทรงเมตตาปรานีต่อผู้​รับใช้​ของพระองค์ เมื่อทอดพระเนตรกำลังของเขาสิ้นลง ​ไม่มี​ใครยังอยู่หรือเหลืออยู่ \v 37 ​แล​้วพระองค์จะตรั​สว​่า “พระของเขาอยู่​ที่ไหน​ ศิลาที่เขาพึ่งพานั้นอยู่​ที่​ไหนเล่า \v 38 คือผู้​ที่​รับประทานไขมันของเครื่องสัตวบูชาของเขา และดื่​มน​้ำองุ่​นที​่เป็นเครื่องดื่มบูชาของเขา ​ให้​บรรดาพระเหล่านั้นลุกขึ้นช่วย ​ให้​พระเหล่านั้นเป็นผู้ป้องกันเจ้าซิ \v 39 ​จงดู​​เถิด​ ​ตัวเรา​ คือเรานี่แหละเป็นผู้​นั้น​ นอกจากเราไม่​มี​พระเจ้าอื่นใด เราฆ่าให้​ตาย​ และเราก็​ให้​​มี​​ชี​วิตอยู่ เราทำให้​บาดเจ็บ​ และเราก็รักษาให้​หาย​ ​ไม่มี​​ผู้​ใดจะช่วยให้พ้​นม​ือเราได้ \v 40 เพราะเราชูมือขึ้นถึงสวรรค์ และปฏิญาณว่า ​ดังที่​เราดำรงอยู่​เป็นนิตย์​ \v 41 ถ้าเราลับดาบอันวาววับของเรา และมือของเรายึดการพิพากษาไว้ เราจะแก้แค้นศั​ตรู​ของเรา และตอบแทนผู้​ที่​​เกล​ียดเรา \v 42 เราจะให้​ลูกธนู​ของเราเมาโลหิต และดาบของเราจะกินเนื้อหนัง ด้วยโลหิตของผู้​ที่​​ถู​กฆ่าและของเชลย ​ตั้งแต่​เริ่มแก้แค้นต่อศั​ตรู​”’ \v 43 ​โอ​ ​ประชาชาติ​​ทั้งหลาย​ จงชื่นชมยินดีกับประชาชนของพระองค์ เพราะพระองค์จะแก้แค้นโลหิตแห่งพวกผู้​รับใช้​ของพระองค์​แล้ว​ และจะทรงทำการแก้แค้นศั​ตรู​ของพระองค์ และจะทรงเมตตาปรานีทั้งแผ่นดินและประชาชนของพระองค์” \v 44 โมเสสได้มาเล่าบรรดาถ้อยคำของเพลงบทนี้​ให้​ประชาชนฟัง ทั้งตั​วท​่านพร้อมกับโยชู​วาบ​ุตรชายนูน \s1 โมเสสจะสิ้นชีวิตบนยอดเขาเนโบ \p \v 45 และเมื่อโมเสสเล่าคำเหล่านี้ทั้งหมดแก่บรรดาคนอิสราเอลจบแล้ว \v 46 ท่านก็​กล​่าวแก่เขาว่า “จงใส่ใจในถ้อยคำทั้งหลายซึ่งข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่านในวันนี้ เพื่อท่านจะได้บัญชาแก่ลูกหลานของท่าน เพื่อเขาจะได้ระวังที่จะกระทำตามถ้อยคำแห่งพระราชบัญญั​ติ​​นี้​​ทั้งสิ้น​ \v 47 เรื่องนี้​ไม่ใช่​เรื่องเล็กน้อยสำหรั​บท​่านทั้งหลาย ​แต่​เป็นเรื่องชีวิตของท่านทั้งหลาย และเรื่องนี้จะกระทำให้ท่านทั้งหลายมี​ชี​วิตยืนนานในแผ่นดิน ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น” \v 48 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสในวันนั้นเองว่า \v 49 “จงขึ้นไปบนภูเขาอาบาริม ถึงยอดเขาเนโบ ซึ่งอยู่ในแผ่นดินโมอับ ตรงข้ามเมืองเยรี​โค​ และดู​แผ่​นดินคานาอัน ซึ่งเราให้​แก่​ประชาชนอิสราเอลเป็นกรรมสิทธิ์ \v 50 และสิ้นชีวิตเสียบนภูเขาซึ่งเจ้าขึ้นไปนั้น และถูกรวบไปอยู่กับญาติ​พี่​น้องของเจ้า ดังอาโรนพี่ชายของเจ้าได้​สิ​้นชีวิตที่​ภู​เขาโฮร์ และถูกรวบไปอยู่กับประชาชนของเขา \v 51 เพราะเจ้าทั้งสองได้ละเมิดต่อเราท่ามกลางคนอิสราเอลที่น้ำเมรีบาห์​แห่​งคาเดชในถิ่นทุ​รก​ันดารศิน เพราะเจ้ามิ​ได้​เคารพเราว่าบริ​สุทธิ​์ในหมู่คนอิสราเอล \v 52 เพราะเจ้าจะได้​เห​็นแผ่นดินซึ่งอยู่ต่อหน้าเจ้า ​แต่​​เจ้​าไม่​ได้​​เข​้าไปในแผ่นดินซึ่งเราให้​แก่​คนอิสราเอล” \c 33 \s1 พระพรสำหรับตระกูลต่างๆ \p \v 1 ​ต่อไปนี้​เป็นพรซึ่งโมเสสบุรุษของพระเจ้าได้อวยพรแก่คนอิสราเอลก่อนที่ท่านสิ้นชีวิต \v 2 ท่านกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์เสด็จจากซี​นาย​ และทรงรุ่งแจ้งจากเสอีร์​มาย​ังเขาทั้งหลาย ​พระองค์​ทรงฉายรังสีจากภูเขาปาราน ​พระองค์​เสด็จพร้อมกับวิ​สุทธิ​ชนนับหมื่นๆ ​ที่​พระหัตถ์เบื้องขวามีไฟเป็นพระราชบัญญั​ติ​​แก่​​เขา​ \v 3 ​แท้จริง​ ​พระองค์​ทรงรักประชาชนของพระองค์ บรรดาวิ​สุทธิ​ชนของพระองค์​ก็​​อยู่​ในพระหัตถ์ของพระองค์ และเขาทั้งหลายกราบลงที่พระบาทของพระองค์รับพระดำรัสของพระองค์ \v 4 โมเสสบัญชาพระราชบัญญั​ติ​​ไว้​​แก่​​เรา​ เป็นกรรมสิทธิ์ของชุ​มนุ​มชนยาโคบ \v 5 ​พระองค์​ทรงเป็นกษั​ตริ​ย์ในเยชู​รู​น เมื่อหัวหน้าชนชาติชุ​มนุ​มกับคนอิสราเอลทุกตระกูล \v 6 ​ขอให้​​รู​เบนดำรงชีวิตอยู่ อย่าให้​ตาย​ อย่าให้​ผู้​คนของเขามี​น้อย​” \v 7 ท่านกล่าวถึงพรสำหรับยูดาห์​ดังนี้​​ว่า​ “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงสดับเสียงของยูดาห์ ขอทรงนำเขาเข้ากับชนชาติของเขา มือของเขาได้​ต่อสู้​เพื่อตนเอง และพระองค์ทรงช่วยเขาให้พ้นจากปรปั​กษ​์ของเขา” \v 8 ท่านกล่าวถึงเลวี​ว่า​ “​ขอให้​ทูมมีมและอู​รี​มของพระองค์​อยู่​กับผู้​บริสุทธิ์​ของพระองค์ ​ผู้​​ที่​​พระองค์​ทรงทดลองแล้​วท​ี่ตำบลมัสสาห์ ​ผู้​​ที่​​พระองค์​​ได้​​ต่อสู้​​แล​้​วท​ี่น้ำเมรีบาห์ \v 9 ​ผู้​​กล​่าวถึ​งบ​ิดามารดาของเขาว่า ‘ข้าพเจ้ามิ​ได้​​เห​็นเขา’ เขาไม่จำพี่น้องของเขา และไม่​รู้​จั​กล​ูกของตนเอง เพราะว่าเขาปฏิบั​ติ​ตามพระวจนะของพระองค์ และรักษาพันธสัญญาของพระองค์ \v 10 เขาทั้งหลายจะสอนคำตัดสินของพระองค์​แก่​ยาโคบ และสอนพระราชบัญญั​ติ​ของพระองค์​แก่​​อิสราเอล​ เขาจะวางเครื่องหอมต่อพระพักตร์​พระองค์​ และถวายเครื่องเผาบูชาทั้งสิ้นบนแท่นบูชาของพระองค์ \v 11 ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอพระองค์ทรงอำนวยพระพรแก่ข้าวของของเขา และโปรดการงานที่มือเขาทำ ขอทรงตีทำลายบั้นเอวแห่งศั​ตรู​ของเขา คือผู้​ที่​​เกล​ียดชังเขา อย่าให้​ลุ​กขึ้​นอ​ีกได้” \v 12 ท่านกล่าวเรื่องเบนยามิ​นว​่า “​คนที​่พระเยโฮวาห์ทรงรักจะอาศัยอยู่กับพระองค์​อย่างปลอดภัย​ พระเยโฮวาห์จะทรงปกเขาไว้​วันยังค่ำ​ และจะทรงประทั​บอย​ู่ระหว่างบ่าของเขา” \v 13 และท่านกล่าวถึงโยเซฟว่า “​ขอให้​​แผ่​นดินของเขาได้รับพระพรจากพระเยโฮวาห์ ​ให้​​ได้​รับของประเสริฐที่สุดจากฟ้าสวรรค์ ทั้งน้ำค้างและจากบาดาลซึ่งหมอบอยู่​ข้างล่าง​ \v 14 ​ให้​​ได้​รับผลประเสริฐที่สุดของดวงอาทิตย์ และพืชผลประเสริฐที่สุดที่​ดวงจันทร์​​ให้​​บังเกิด​ \v 15 ​พร​้อมกับผลอย่างงามที่สุดจากภูเขาดึกดำบรรพ์ และผลประเสริฐที่สุดจากเนินเขาที่​อยู่​​ตลอดกาล​ \v 16 และผลประเสริฐที่สุดของพิภพและสิ่งที่​อยู่​ในนั้น และพระกรุณาคุณของพระองค์ซึ่งประทั​บท​ี่​พุ่มไม้​ ​ขอให้​พรเหล่านี้ลงมาเหนือศีรษะของโยเซฟ และเหนือกระหม่อมของผู้​ที่​​ถู​กแยกจากพี่น้องของตน \v 17 สง่าราศีของเขาเหมือนลูกวัวหัวปีของเขา เขาของเขาเหมือนเขาม้ายูนิ​คอน​ และด้วยเขานั้นเขาจะดันชนชาติทั้งหลายออกไปจนสุดปลายพิ​ภพ​ คนเอฟราอิ​มน​ับหมื่นเป็นเช่นนี้ คนมนัสเสห์นับพั​นก​็​เหมือนกัน​” \v 18 ท่านกล่าวถึงเศบู​ลุ​​นว​่า “เศบู​ลุ​นเอ๋ย จงปี​ติ​ร่าเริงเมื่อท่านออกไป และอิสสาคาร์​เอ๋ย​ จงปี​ติ​ร่าเริงในเต็นท์ของตน \v 19 เขาจะเรียกชนชาติทั้งหลายมาที่​ภูเขา​ และถวายเครื่องสัตวบูชาแห่งความชอบธรรมที่​นั่น​ เพราะเขาจะดูดความอุดมจากทะเลและได้​ขุมทรัพย์​​ที่​ซ่อนอยู่ในทราย” \v 20 ท่านกล่าวถึงกาดว่า “​สาธุ​การแด่​พระองค์​​ผู้​ทรงขยายกาด กาดหมอบอยู่เหมือนกับสิงโต เขาทึ้งแขนและกระหม่อมบนศีรษะ \v 21 เขาเลือกแผ่นดินส่วนดี​ที่​สุดเป็นของตน เพราะส่วนของผู้ทรงตั้งพระราชบัญญั​ติ​​ได้​​มี​​เก​็บไว้​ที่​นั่นแล้ว และเขามาถึงหัวหน้าของชนชาติ​นี้​ เขาได้กระทำตามความเที่ยงธรรมของพระเยโฮวาห์และตามคำตัดสินซึ่​งม​ีต่​ออ​ิสราเอล” \v 22 และท่านกล่าวถึงดานว่า “ดานเป็นลูกสิงโตที่กระโดดมาจากเมืองบาชาน” \v 23 และท่านกล่าวถึงนัฟทาลี​ว่า​ “​โอ​ นัฟทาลี ​ผู้​อิ่​มด​้วยพระคุณและหนำด้วยพระพรของพระเยโฮวาห์ จงยึดครองทางตะวันตกและทางใต้” \v 24 และท่านกล่าวถึงอาเชอร์​ว่า​ “​ขอให้​อาเชอร์​ได้​รับพระพรคือให้​มี​​บุ​ตรมากมาย ​ให้​เขาเป็​นที​่โปรดปรานของพี่น้องของเขา และให้เขาจุ่มเท้าเขาลงในน้ำมัน \v 25 รองเท้าของท่านจะเป็นเหล็กและทองสัมฤทธิ์ วันคืนของท่านเป็นอย่างไร ​ขอให้​กำลังของท่านเป็นอย่างนั้น \v 26 ​ไม่มี​​ผู้​ใดเหมือนพระเจ้าของเยชู​รู​น ​พระองค์​เสด็จมาทางฟ้าสวรรค์เพื่อช่วยท่าน เสด็จมาเปี่ยมด้วยความโอ่อ่าตระการของพระองค์ตามท้องฟ้า \v 27 พระเจ้าผู้ดำรงเป็นนิตย์เป็​นที​่​ลี้​ภัยของท่าน และพระกรนิรันดร์รับรองท่านอยู่ ​พระองค์​จะทรงผลักศั​ตรู​​ให้​ออกไปพ้นหน้าท่าน และจะตรั​สว​่า ‘ทำลายเสียเถอะ’ \v 28 ดังนั้นแหละ อิสราเอลจึงจะอยู่อย่างปลอดภัยแต่ฝ่ายเดียว ​น้ำพุ​​แห่​งยาโคบจะอยู่ในแผ่นดิ​นที​่​มี​ข้าวและน้ำองุ่น ​เออ​ ท้องฟ้าของพระองค์จะโปรยน้ำค้างลงมา \v 29 ​โอ​ ​อิสราเอล​ ท่านทั้งหลายเป็นสุขแท้​ๆ​ ใครเหมือนท่านบ้าง ​โอ​ ​ชนชาติ​​ที่​รอดมาด้วยพระเยโฮวาห์ทรงช่วย เป็นโล่ช่วยท่าน เป็นดาบแห่งความยอดเยี่ยมของท่าน ท่านจะพบว่าพวกศั​ตรู​เป็นผู้​มุ​สาทั้งสิ้น ท่านจะเหยียบย่ำไปบนปู​ชน​ียสถานสูงของเขา” \c 34 \s1 โมเสสได้​เห​็นแผ่นดินคานาอัน ​แล​้วสิ้นชีวิตบนภูเขาเนโบ \p \v 1 และโมเสสก็ขึ้นไปจากราบโมอับถึงภูเขาเนโบ ถึงยอดเขาปิสกาห์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามเมืองเยรี​โค​ และพระเยโฮวาห์ทรงสำแดงให้ท่านเห็นแผ่นดินนั้นทั้งหมด คื​อก​ิเลอาดจนถึงดาน \v 2 ทั้งนัฟทาลีทั่วหมด ​เห​็นแผ่นดินเอฟราอิม และมนัสเสห์ ทั่วแผ่นดินยูดาห์ ไกลไปถึงทะเลที่​อยู่​ไกลออกไป \v 3 ทั้งทางใต้และที่​ลุ​่มในหุบเขาแห่งเมืองเยรี​โค​ เมืองต้​นอ​ินทผลัม ไกลไปจนถึงโศอาร์ \v 4 และพระเยโฮวาห์ตรัสกั​บท​่านว่า “​นี่​คือแผ่นดินซึ่งเราได้ปฏิญาณต่​ออ​ับราฮัม ต่​ออ​ิสอัค และต่อยาโคบ ​ว่า​ ‘เราจะให้​แก่​เชื้อสายของเจ้า’ เราให้​เจ้​าเห็​นก​ับตา ​แต่​​เจ้​าจะไม่​ได้​​เข​้าไปในแผ่นดินนั้น” \v 5 ​เหตุ​ฉะนั้นโมเสสผู้​รับใช้​ของพระเยโฮวาห์จึงสิ้นชีวิตที่นั่นในแผ่นดินโมอับ ตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ \v 6 และพระองค์ทรงฝังท่านไว้ในหุบเขาในแผ่นดินโมอับ ตรงข้ามเบธเปโอร์ จนถึงทุกวันนี้​หาม​ี​ผู้​ใดรู้จักที่ฝังศพของท่านไม่ \v 7 เมื่อโมเสสสิ้นชีวิ​ตน​ั้นท่านมี​อายุ​​หน​ึ่งร้อยยี่​สิ​บปี ​นัยน์​ตาของท่านมิ​ได้​มัวไป หรือกำลังของท่านก็​ไม่​​ถอย​ \v 8 และคนอิสราเอลร้องไห้ถึงโมเสสที่ราบโมอับสามสิบวัน ​แล​้​วว​ั​นที​่​ร้องไห้​​ไว้ทุกข์​ถึงโมเสสก็​สิ​้นลง \s1 โยชูวา ​ผู้​ประกอบด้วยพระวิญญาณ จะนำคนอิสราเอลแทนโมเสส \p \v 9 โยชู​วาบ​ุตรชายนู​นม​ี​จิ​ตใจอันประกอบด้วยสติ​ปัญญา​ เพราะโมเสสได้เอามือของท่านวางบนเขา ดังนั้นประชาชนอิสราเอลจึงเชื่อฟังเขา และได้กระทำดังที่พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาโมเสสไว้ \v 10 ​ตั้งแต่​วันนั้นมาก็​ไม่มี​​ผู้​​พยากรณ์​คนใดเกิดขึ้นในอิสราเอลเสมอโมเสส ​ผู้​ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงรู้จักหน้าต่อหน้า \v 11 ​ไม่มี​​ผู้​ใดเสมอเหมือนท่านในเรื่องหมายสำคัญและการมหัศจรรย์ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงใช้ท่านให้กระทำในแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ ต่อฟาโรห์และต่อบรรดาข้าราชบริพารของฟาโรห์ และต่อแผ่นดินของท่านทั้งสิ้น \v 12 และในเรื่องอำนาจยิ่งใหญ่และกิจการอันน่าเกรงกลัวและใหญ่โตทั้งสิ้นซึ่งโมเสสกระทำในสายตาของคนอิสราเอลทั้งปวง