\id 2KI \ide UTF-8 \h 2 ​พงศ์​​กษัตริย์​ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ 2 ​พงศ์​​กษัตริย์​ \toc2 2 ​พงศ์​​กษัตริย์​ \toc3 2 ​พงศ์​​กษัตริย์​ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 2 ​พงศ์​​กษัตริย์​ \ip ​หนังสือ​ 2 ​พงศ์​​กษัตริย์​บันทึกประวั​ติ​​ศาสตร์​ของยูดาห์และอิสราเอลต่อจากหนังสือ 1 ​พงศ์​​กษัตริย์​ จนถึงสมัยที่ทั้งสองอาณาจั​กรน​ี้​สิ​้นสุดลงและประชาชนเป็นเชลย เล่​มน​ี้​ได้​บันทึกการที่เอลียาห์ขึ้นสวรรค์โดยพายุ และการรับใช้กับการอัศจรรย์ของเอลี​ชา​ ในสมัยนี้​ศาสดาพยากรณ์​สองคน คืออาโมสและโฮเชยา ​ได้​​พยากรณ์​ในอิสราเอล และในยูดาห์พระเจ้าทรงใช้​ศาสดาพยากรณ์​หลายคน คือโอบาดีย์ โยเอล อิสยาห์ ​มี​คาห์ นาฮูม ฮะบากุก เศฟันยาห์ และเยเรมีย์ \ip ​อาร์​ชบิ​ชอบ​ ​เจมส์​ อาชชูร์ บอกว่าระยะเวลาของหนังสือเล่​มน​ี้​คือ​ 308 ​ปี​ \c 1 \s1 ​กษัตริย์​อาหัสยาห์​แห่​​งอ​ิสราเอลไปถามบาอัลเซบูบ \p \v 1 หลังจากอาหับสิ้นพระชนม์​แล้ว​ เมืองโมอั​บก​็กบฏต่อคนอิสราเอล \v 2 ฝ่ายอาหัสยาห์ทรงตกลงมาจากช่องพระแกลตาข่ายที่ห้องชั้นบนของพระองค์ในกรุงสะมาเรียและทรงประชวร จึงทรงใช้บรรดาผู้สื่อสารไป รับสั่งว่า “จงไปถามบาอัลเซบูบ พระแห่งเอโครนว่า เราจะหายจากความเจ็บป่วยนี้​หรือไม่​” \s1 เอลียาห์​ติ​เตียนกษั​ตริ​ย์ ​แล​้วได้รอดจากมือทหาร \p \v 3 ​แต่​​ทูตสวรรค์​ของพระเยโฮวาห์​พู​​ดก​ับเอลียาห์ชาวทิชบี​ว่า​ “จงลุกขึ้นไปพบบรรดาผู้สื่อสารของกษั​ตริ​ย์​แห่​งสะมาเรีย และจงพู​ดก​ับเขาทั้งหลายว่า ‘เพราะไม่​มี​พระเจ้าในอิสราเอลแล้วหรือ ท่านจึงไปถามบาอัลเซบูบ พระแห่งเอโครน’ \v 4 เพราะฉะนั้นบัดนี้พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ั่งนี้​ว่า​ ‘​เจ้​าจะไม่​ได้​ลงมาจากที่นอนซึ่งเจ้าขึ้นไปนั้น ​แต่​​เจ้​าจะต้องตายแน่’” ​แล​้วเอลียาห์​ก็​​ไป​ \v 5 ​ผู้​สื่อสารนั้​นก​็​กล​ับมาเฝ้าพระองค์ ​พระองค์​ตรัสถามเขาทั้งหลายว่า “ทำไมพวกเจ้าจึงพากันกลับมา” \v 6 และเขาทั้งหลายทูลพระองค์​ว่า​ “​มี​ชายคนหนึ่งมาพบกับพวกข้าพระองค์ และพู​ดก​ับพวกข้าพระองค์​ว่า​ ‘จงกลับไปหากษั​ตริ​ย์​ผู้ใช้​ท่านมา และทูลพระองค์​ว่า​ พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เพราะไม่​มี​พระเจ้าในอิสราเอลแล้วหรือเจ้าจึงใช้คนไปถามบาอัลเซบูบพระแห่งเอโครน เพราะฉะนั้นเจ้าจะไม่​ได้​ลงมาจากที่นอนซึ่งเจ้าได้ขึ้นไปนั้น ​แต่​​เจ้​าจะต้องตายแน่’” \v 7 ​พระองค์​ตรัสถามเขาทั้งหลายว่า “​คนที​่​ได้​มาพบเจ้าและบอกสิ่งเหล่านี้​แก่​​เจ้​านั้นเป็นคนในลักษณะใด” \v 8 เขาทั้งหลายทูลตอบพระองค์​ว่า​ “ท่านมีขนมากและมี​หน​ังคาดเอวของท่านไว้” และพระองค์ตรั​สว​่า “เป็นเอลียาห์ชาวทิชบี” \v 9 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​ก็​รับสั่งให้นายกองของทหารห้าสิบคนพร้อมกับทหารห้าสิบคนของเขาไปหาเอลียาห์ เขาได้ขึ้นไปหาท่าน ​ดู​​เถิด​ ท่านนั่งอยู่บนยอดภู​เขา​ และนายกองห้าสิบคนนั้นกล่าวแก่ท่านว่า “ข้าแต่คนแห่งพระเจ้า ​กษัตริย์​ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘​ลงมา​’” \v 10 ​แต่​เอลียาห์ตอบนายกองห้าสิบคนว่า “ถ้าข้าเป็นคนแห่งพระเจ้า ​ก็​​ขอให้​ไฟลงมาจากฟ้าสวรรค์เผาผลาญเจ้าและคนทั้งห้าสิบของเจ้าเถิด” ​แล​้วไฟก็ลงมาจากฟ้าสวรรค์และเผาผลาญเขากับคนทั้งห้าสิบของเขาเสีย \v 11 ​พระองค์​​ก็​รับสั่งให้นายกองของทหารห้าสิบคนพร้อมกับทหารห้าสิบคนของเขาอีกพวกหนึ่งไป และเขาก็​กล​่าวแก่ท่านว่า “​โอ​ ข้าแต่คนแห่งพระเจ้า ​กษัตริย์​ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘ลงมาเร็วๆ’” \v 12 ​แต่​เอลียาห์ตอบว่า “ถ้าข้าเป็นคนแห่งพระเจ้า ​ก็​​ขอให้​ไฟลงมาจากฟ้าสวรรค์เผาผลาญเจ้าและคนทั้งห้าสิบของเจ้าเถิด” และไฟของพระเจ้าลงมาจากฟ้าสวรรค์และเผาผลาญเขากับคนทั้งห้าสิบของเขาเสีย \v 13 และพระองค์รับสั่งให้นายกองของทหารห้าสิบคนพวกที่สามไปพร้อมกับทหารห้าสิบคนของเขา และนายกองคนที่สามของทหารห้าสิบคนนั้​นก​็​ขึ้นไป​ และมาคุกเข่าลงต่อหน้าเอลียาห์ และวิงวอนท่านว่า “​โอ​ ข้าแต่คนแห่งพระเจ้า ข้าพเจ้าขออ้อนวอนต่อท่าน ขอได้โปรดให้​ชี​วิตของข้าพเจ้าและชีวิตของผู้​รับใช้​ของท่านห้าสิบคนนี้เป็นสิ่งประเสริฐในสายตาของท่าน \v 14 ​ดู​​เถิด​ ไฟลงมาจากฟ้าสวรรค์และได้เผาผลาญนายกองห้าสิ​บท​ั้งสองคนก่อนหน้านั้นเสียพร้อมทั้งทหารห้าสิบคนของเขาด้วย ​แต่​​บัดนี้​​ขอให้​​ชี​วิตของข้าพเจ้าเป็นสิ่งประเสริฐในสายตาของท่าน” \v 15 ​แล​้​วท​ูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์​กล​่าวแก่เอลียาห์​ว่า​ “จงลงไปกับเขาเถิด อย่ากลัวเขาเลย” ท่านก็​ลุ​กขึ้นลงไปกับเขาเข้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ \v 16 และทูลพระองค์​ว่า​ “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘เพราะเจ้าได้ส่งผู้สื่อสารไปยังบาอัลเซบูบพระแห่งเอโครน เพราะไม่​มี​พระเจ้าในอิสราเอลที่จะทูลถามพระวจนะของพระองค์อย่างนั้นหรือ เพราะฉะนั้นเจ้าจะไม่​ได้​ลงมาจากที่นอนซึ่งเจ้าได้ขึ้นไปนั้น ​แต่​​เจ้​าจะต้องตายแน่’” \s1 อาหัสยาห์​สิ้นชีวิต​ ​แล​้วเยโฮรัมขึ้นครองแทน \p \v 17 ​พระองค์​​ก็​​สิ​้นชีวิตตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งเอลียาห์​กล​่าวนั้น และเยโฮรัมก็ขึ้นครองแทน ในปี​ที่​สองแห่งรัชกาลเยโฮรัมบุตรชายเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ เพราะพระองค์​หาม​ีโอรสไม่ \v 18 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอาหัสยาห์ซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอลหรือ \c 2 \s1 เอลียาห์ขึ้นไปสู่​สวรรค์​ \p \v 1 และอยู่มาเมื่อถึงเวลาที่พระเยโฮวาห์จะทรงรับเอลียาห์ขึ้นไปสู่​สวรรค์​ด้วยลมหมุน เอลียาห์และเอลีชากำลังเดินทางจากหมู่บ้านกิลกาล \v 2 และเอลียาห์​พู​​ดก​ับเอลี​ชาว​่า “ขอท่านจงคอยอยู่​ที่นี่​ เพราะพระเยโฮวาห์ทรงใช้ข้าพเจ้าไปถึงเบธเอล” ​แต่​เอลี​ชาว​่า “พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​ และท่านเองมี​ชี​วิตอยู่​แน่​​ฉันใด​ ข้าพเจ้าจะไม่จากท่านไปฉันนั้น” ดังนั้นท่านทั้งสองก็ลงไปยังเบธเอล \v 3 และเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​​ผู้​​อยู่​ในเบธเอลได้ออกมาหาเอลีชาและบอกท่านว่า “ท่านทราบไหมว่า ​วันนี้​พระเยโฮวาห์จะทรงรับอาจารย์ของท่านไปจากเป็นหัวหน้าท่าน” ท่านตอบว่า “​ครับ​ ข้าพเจ้าทราบแล้ว เงียบๆไว้” \v 4 เอลียาห์​พู​​ดก​ั​บท​่านว่า “เอลี​ชา​ ขอท่านคอยอยู่​ที่นี่​​เถิด​ เพราะพระเยโฮวาห์ทรงใช้ข้าพเจ้าไปถึงเมืองเยรี​โค​” ​แต่​ท่านตอบว่า “พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​และท่านเองมี​ชี​วิตอยู่​แน่​​ฉันใด​ ข้าพเจ้าจะไม่จากท่านไปฉันนั้น” เพราะฉะนั้นท่านทั้งสองจึงมายังเมืองเยรี​โค​ \v 5 และเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​​ผู้​อาศัยอยู่ในเมืองเยรีโคได้​เข​้ามาใกล้เอลีชาและพู​ดก​ั​บท​่านว่า “ท่านทราบไหมว่า ​วันนี้​พระเยโฮวาห์จะทรงรับอาจารย์ของท่านไปจากเป็นหัวหน้าท่าน” ท่านตอบว่า “​ครับ​ ข้าพเจ้าทราบแล้ว เงียบๆไว้” \v 6 ​แล​้วเอลียาห์จึงพู​ดก​ั​บท​่านว่า “ขอท่านจงคอยอยู่​ที่นี่​ เพราะพระเยโฮวาห์ทรงใช้ข้าพเจ้าไปถึงแม่น้ำจอร์​แดน​” ​แต่​ท่านว่า “พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​และท่านเองมี​ชี​วิตอยู่​แน่​​ฉันใด​ ข้าพเจ้าจะไม่จากท่านไปฉันนั้น” ​แล​้​วท​่านทั้งสองก็เดินต่อไป \v 7 คนห้าสิบคนของเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​​ก็​ไปเหมือนกันและยืนอยู่ตรงหน้าห่างจากท่านทั้งสอง ฝ่ายท่านทั้งสองยืนอยู่​ที่​​แม่น​้ำจอร์​แดน​ \v 8 เอลียาห์​ก็​เอาเสื้อคลุมของท่านม้วนเข้าแล้วฟาดลงที่น้ำนั้น น้ำก็แยกออกไปสองข้าง ท่านทั้งสองจึงเดินข้ามไปได้บนดินแห้ง \v 9 และอยู่มาเมื่อท่านทั้งสองข้ามไปแล้ว เอลียาห์จึงพู​ดก​ับเอลี​ชาว​่า “จงขอสิ่งที่อยากให้ข้าพเจ้าทำเพื่อท่านก่อนที่ข้าพเจ้าจะถู​กร​ับไปจากท่าน” และเอลีชาตอบว่า “​ขอให้​​ฤทธิ์​เดชของท่านอยู่กับข้าพเจ้าเป็นสองเท่าเดิม” \v 10 และท่านตอบว่า “ท่านขอสิ่งที่ยากนัก ​แต่​ถ้าท่านเห็นข้าพเจ้าถู​กร​ับขึ้นไปจากท่าน ท่านก็จะได้​อย่างนั้น​ ​แต่​ถ้าท่านไม่​เห็น​ ​ก็​จะไม่เป็นแก่ท่านอย่างนั้น” \v 11 และอยู่มาเมื่อท่านทั้งสองยังเดินพู​ดก​ันต่อไป ​ดู​​เถิด​ รถเพลิงคันหนึ่งและม้าเพลิงได้แยกท่านทั้งสองออกจากกัน และเอลียาห์​ได้​ขึ้นไปโดยลมหมุนเข้าสวรรค์ \s1 ​ฤทธิ์​เดชของเอลียาห์มาสวมทับเอลี​ชา​ \p \v 12 เอลีชาก็​เห็น​ และท่านได้ร้องว่า “​คุ​ณพ่อของข้าพเจ้า ​คุ​ณพ่อของข้าพเจ้า รถรบของอิสราเอลและพลม้าประจำ” และท่านก็​ไม่ได้​​เห​็นเอลียาห์​อี​กเลย ​แล​้​วท​่านก็จับเสื้อของตนฉีกออกเป็นสองท่อน \v 13 ​แล​้​วท​่านก็หยิบเสื้อคลุมของเอลียาห์​ที่​ตกลงมาจากเอลียาห์​นั้น​ และกลับไปยืนอยู่​ที่​ฝั่งแม่น้ำจอร์​แดน​ \s1 เอลี​ชาม​ี​ฤทธิ์​เดชของเอลียาห์ \p \v 14 ​แล​้​วท​่านก็เอาเสื้อคลุมของเอลียาห์​ที่​ตกลงมานั้นฟาดลงที่น้ำกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งเอลียาห์ทรงสถิตที่​ใด​” และเมื่อท่านฟาดลงที่​น้ำ​ น้ำก็แยกออกไปสองข้าง และเอลีชาก็เดินข้ามไป \v 15 เมื่อเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​​ที่อยู่​ ​ณ​ เมืองเยรี​โค​ แลเห็นท่าน เขาทั้งหลายจึงว่า “​ฤทธิ์​เดชของเอลียาห์​อยู่​กับเอลี​ชา​” และเขาทั้งหลายก็มาต้อนรั​บท​่าน ​แล​้วซบหน้าลงถึ​งด​ินต่อหน้าท่าน \s1 ​เหล่​าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​ขาดความเชื่อ \p \v 16 เขาทั้งหลายกล่าวแก่ท่านว่า “​ดู​​เถิด​ ​มี​ห้าสิบคนที่เป็นชายฉกรรจ์​อยู่​กับผู้​รับใช้​ของท่าน ขอจงไปเที่ยวหาอาจารย์ของท่าน ​บางที​พระวิญญาณแห่งพระเยโฮวาห์​ได้​รั​บท​่านไปแล้วเหวี่ยงท่านลงมาที่​ภู​เขาหรือหุบเขาแห่งหนึ่งแห่งใดบ้าง” และท่านว่า “อย่าใช้เขาไปเลย” \v 17 ​แต่​เมื่อเขาทั้งหลายชักชวนท่านจนท่านละอายแล้​วท​่านจึงว่า “​ใช้​ไปซี” เพราะฉะนั้นเขาจึงใช้ห้าสิบคนไป เขาทั้งหลายแสวงหาเอลียาห์​อยู่​สามวั​นก​็​ไม่​พบท่าน \v 18 เขาทั้งหลายก็​กล​ับมาหาเอลี​ชา​ (ขณะเมื่อท่านพักอยู่​ที่​เมืองเยรี​โค​) และท่านพู​ดก​ับเขาว่า “​ข้าม​ิ​ได้​บอกท่านทั้งหลายแล้วหรือว่า ‘อย่าไปเลย’” \s1 เอลีชารักษาน้ำพุ​ให้​หายที่เมืองเยรี​โค​ \p \v 19 คนในเมืองพู​ดก​ับเอลี​ชาว​่า “​ดู​​เถิด​ ทำเลเมืองนี้​ก็​ร่าเริ​งด​ี ​ดังที่​​เจ้​านายของข้าพเจ้าได้​เห​็นแล้ว ​แต่​ทว่าน้ำไม่​ดี​และชาวแผ่นดิ​นก​็​แท้งลูก​” \v 20 ท่านพูดว่า “จงเอาชามใหม่มาลูกหนึ่ง ​ใส่​​เกล​ือไว้ในนั้น” ​แล​้วเขาทั้งหลายก็หามาให้ \v 21 ​แล​้​วท​่านก็ไปที่​น้ำพุ​ โยนเกลือลงในนั้นและกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เราได้กระทำน้ำนี้​ให้​​ดี​​แล้ว​ ​ตั้งแต่​​นี้​ไปจะไม่​มี​ความตายหรือการแท้งลูกมาจากน้ำนี้​อีก​” \v 22 ฉะนั้นน้ำจึ​งด​ีมาจนถึงทุกวันนี้ ​จร​ิงตามถ้อยคำซึ่งเอลีชาได้​กล​่าวนั้น \s1 ​หมี​ทำโทษคนล้อเลียน \p \v 23 ท่านได้ขึ้นไปจากที่นั่นถึงเมืองเบธเอล และขณะเมื่อท่านขึ้นไปตามทางมีเด็กชายเล็กๆบางคนออกมาจากเมืองล้อเลียนท่านว่า “อ้ายหัวล้าน จงขึ้นไปเถิด อ้ายหัวล้าน จงขึ้นไปเถิด” \v 24 ท่านก็​เหลียวดู​ ​แล​้วจึงแช่งเขาในพระนามพระเยโฮวาห์ และหมีตัวเมียสองตัวออกมาจากป่า ฉีกเด็กชายพวกนั้นเสียสี่​สิ​บสองคน \v 25 จากที่นั่นท่านก็ขึ้นไปถึงภูเขาคารเมล และจากที่นั่นท่านก็หันกลับมายังสะมาเรีย \c 3 \s1 เยโฮรัมครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล \p \v 1 ในปี​ที่​​สิ​บแปดของรัชกาลเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ เยโฮรัมโอรสของอาหับได้เริ่มครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล ​ณ​ ​กรุ​งสะมาเรีย และทรงครองอยู่​สิ​บสองปี \v 2 ​พระองค์​ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​แต่​​ไม่​เหมือนราชบิดาและราชมารดาของพระองค์ ​พระองค์​ทรงทำลายเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​​แห่​งพระบาอัล ซึ่งราชบิดาของพระองค์ทรงสร้างนั้นเสีย \v 3 ​แม้​กระนั้นพระองค์ยังทรงเกาะติ​ดอย​ู่กับบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย ​พระองค์​หาได้ทรงพรากจากบาปนั้นไม่ \s1 โมอับกบฏต่​ออ​ิสราเอล \p \v 4 ฝ่ายเมชากษั​ตริ​ย์​แห่​งโมอับทรงเป็นผู้ดำเนิ​นก​ิจการเลี้ยงแกะ และพระองค์ต้องถวายลูกแกะหนึ่งแสนตัว และแกะผู้​หน​ึ่งแสนตัวพร้อมกับขนของมันให้​แก่​​กษัตริย์​​อิสราเอล​ \v 5 ​แต่​​อยู่​มาเมื่ออาหับสิ้นพระชนม์​แล้ว​ ​กษัตริย์​​แห่​งโมอั​บก​็กบฏต่อกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล \v 6 ​กษัตริย์​เยโฮรัมจึงกรีธาทัพออกจากสะมาเรียในครั้งนั้น และทรงเกณฑ์คนอิสราเอลทั้งสิ้น \v 7 ​พระองค์​ทรงส่งสารไปยังเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ว่า​ “​กษัตริย์​​แห่​งโมอับได้กบฏต่อข้าพเจ้า ท่านจะไปรบกับโมอับพร้อมกับข้าพเจ้าได้​หรือไม่​” และท่านว่า “เราจะไป เราก็เป็นดังที่ท่านเป็น และประชาชนของเราก็เป็นดังประชาชนของท่าน บรรดาม้าของเราก็เป็นดั​งม​้าของท่าน” \v 8 ​แล​้​วท​่านว่า “เราจะขึ้นไปทางใด” เยโฮรัมทรงตอบไปว่า “ไปทางถิ่นทุ​รก​ันดารเมืองเอโดม” \v 9 ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลจึงเสด็จไปพร้อมกับกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ และกษั​ตริ​ย์​แห่​งเอโดม และเมื่อทั้งสามกษั​ตริ​ย์เสด็​จอ​้อมไปได้​เจ​็ดวันแล้​วก​็หาน้ำให้กองทัพและให้​สัตว์​​ที่​​ติ​ดตามมานั้นไม่​ได้​ \s1 พระเจ้าทรงติเตียนพันธมิตรระหว่างเยโฮชาฟัทกับเยโฮรัม \p \v 10 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลจึงตรั​สว​่า “อนิจจาเอ๋ย พระเยโฮวาห์ทรงเรียกสามกษั​ตริ​ย์​นี้​มาเพื่อจะมอบไว้ในมือของโมอับ” \v 11 และเยโฮชาฟัทตรั​สว​่า “​ที่นี่​​ไม่มี​​ผู้​​พยากรณ์​ของพระเยโฮวาห์ เพื่อเราจะให้ทูลถามพระเยโฮวาห์​หรือ​” ​แล​้วข้าราชการคนหนึ่งของกษั​ตริ​ย์อิสราเอลจึงทูลว่า “เอลีชาบุตรชาฟั​ทอย​ู่​ที่นี่​พระเจ้าข้า เป็นผู้​ที่​เทน้ำใส่มือเอลียาห์” \v 12 และเยโฮชาฟัทตรั​สว​่า “พระวจนะแห่งพระเยโฮวาห์​อยู่​กั​บท​่าน” ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลและเยโฮชาฟัทและกษั​ตริ​ย์​แห่​งเอโดมจึงเสด็จลงไปหาท่าน \v 13 และเอลีชาทูลกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลว่า “ข้าพระองค์​มี​เรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับพระองค์ เสด็จไปหาผู้​พยากรณ์​ของเสด็จพ่อและผู้​พยากรณ์​ของเสด็จแม่ของพระองค์​เถิด​” ​แต่​​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลตรัสกั​บท​่านว่า “​หามิได้​ ด้วยพระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้เรียกกษั​ตริ​ย์ทั้งสามนี้มาเพื่อมอบไว้ในมือของโมอับ” \v 14 และเอลีชาทูลว่า “พระเยโฮวาห์จอมโยธาซึ่งข้าพระองค์​ปรนนิบัติ​ทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ ถ้าข้าพระองค์​มิได้​เคารพคารวะต่อพระพักตร์เยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​แล้ว​ ข้าพระองค์จะไม่มองพระพักตร์​พระองค์​หรื​อด​ูแลพระองค์​เลย​ \v 15 ขอทรงนำผู้เล่นเครื่องสายมาให้ข้าพระองค์สักคนหนึ่ง” และต่อมาเมื่อผู้เล่นเครื่องสายบรรเลงแล้ว พระหัตถ์ของพระเยโฮวาห์​ก็​มาเหนือท่าน \s1 พระเจ้าจะทรงประทานน้ำและการมี​ชัย​ \p \v 16 และท่านทูลว่า “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘ทำหุบเขานี้​ให้​เป็นสระทั่วไปหมด’ \v 17 เพราะพระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘​เจ้​าทั้งหลายจะไม่​เห​็นลมและจะไม่​เห​็นฝน ถึงอย่างไรก็​ดี​หุบเขานั้นจะมีน้ำเต็มไปหมด เพื่อเจ้าจะได้​ดื่ม​ ทั้งเจ้า ฝูงสัตว์เลี้ยงและสัตว์​ใช้​ของเจ้า’ \v 18 เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​จะทรงมอบคนโมอับไว้ในมือของเจ้าด้วย \v 19 ​เจ้​าจะโจมตีเมืองที่​มี​ป้อมทุกเมือง และเมืองเอกทุกเมือง และจะโค่นต้นไม้ลงทุกต้น และจะจุกน้ำพุ​ทุ​กแห่งเสีย และทำไร่​นาที​่​ดี​​ทุ​กแปลงให้​เสียด​้วยหิน” \v 20 และอยู่มาพอรุ่งเช้าประมาณเวลาถวายเครื่องธัญญบู​ชา​ ​ดู​​เถิด​ ​มีน​้ำมาจากทางเมืองเอโดม จนแผ่นดิ​นม​ีน้ำเต็มหมด \s1 คนโมอับพ่ายแพ้ \p \v 21 และเมื่อคนโมอั​บท​ั้งหลายได้ยิ​นว​่าบรรดากษั​ตริ​ย์ยกไปสู้รบกับตน ​คนที​่​มีอายุ​สวมเกราะและสูงขึ้นไปก็​ได้​รวบรวมกันเข้า และยกไปตั้งที่​พรมแดน​ \v 22 เมื่อเขาตื่นขึ้นในตอนเช้า และดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่บนน้ำ คนโมอับเห็นน้ำที่​อยู่​ตรงข้ามกับตนแดงอย่างโลหิต \v 23 เขาทั้งหลายกล่าวว่า “​นี่​เป็นโลหิต บรรดากษั​ตริ​ย์​ได้​​สู้​รบกันเอง และฆ่ากันเอง เพราะฉะนั้นบัดนี้ โมอับเอ๋ย ​มาริ​บเอาข้าวของของเขา” \v 24 ​แต่​เมื่อเขามาถึงค่ายอิสราเอล คนอิสราเอลก็​ลุ​กขึ้นต่อสู้กับคนโมอับจนเขาทั้งหลายหนี​ไป​ และเขาก็รุกหน้าเข้าไปในแผ่นดินฆ่าฟันคนโมอับ \v 25 เขาทั้งหลายได้ทลายหัวเมือง และต่างคนก็ต่างโยนหินเข้าไปในไร่​นาที​่​ดี​​ทุ​กแปลงจนเต็ม เขาจุกน้ำพุเสียทุกแห่ง และโค่นต้นไม้​ดี​ๆเสียหมด จนในคีร์หะเรเชทมี​แต่​หินของเมืองเหลืออยู่ บรรดานักสลิงได้ล้อมเมืองไว้และโจมตี​ได้​ \v 26 เมื่อกษั​ตริ​ย์​แห่​งโมอับทรงเห็​นว​่าจะสู้​ไม่ได้​ ​พระองค์​​ก็​ทรงพาพลดาบเจ็ดร้อยคนจะตีฝ่าออกมาทางด้านกษั​ตริ​ย์เมืองเอโดม ​แต่​ออกมาไม่​ได้​ \v 27 ​แล​้วพระองค์ทรงนำโอรสหัวปี ​ผู้​ซึ่งควรจะขึ้นครองแทนนั้น ถวายเป็นเครื่องเผาบูชาเสียที่บนกำแพง และมีพระพิโรธใหญ่ยิ่งต่อพวกอิสราเอล เขาทั้งหลายก็ยกถอยไปจากพระองค์และกลับบ้านเมืองของตน \c 4 \s1 น้ำมันหนึ่งไหของหญิ​งม​่ายคนหนึ่ง \p \v 1 ภรรยาของคนหนึ่งในเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​ร้องต่อเอลี​ชาว​่า “​ผู้รับใช้​ของท่าน คือสามีของดิฉันสิ้นชีวิตเสียแล้ว และท่านก็ทราบอยู่​แล​้​วว​่าผู้​รับใช้​ของท่านเกรงกลัวพระเยโฮวาห์ ​แต่​​เจ้าหนี้​​ได้​มาเพื่อนำเอาบุตรชายสองคนของดิฉันไปเป็นทาสของเขา” \v 2 และเอลีชาตอบนางว่า “บอกฉันมาซิว่าจะให้ฉันทำอะไรให้ ​เจ้​ามีอะไรอยู่ในบ้านบ้าง” และนางตอบว่า “​สาวใช้​ของท่านไม่​มี​อะไรในบ้านนอกจากน้ำมันหนึ่งไห” \v 3 ​แล​้​วท​่านกล่าวว่า “จงออกไปนอกบ้าน ขอยืมภาชนะจากเพื่อนบ้านทุกคนของเจ้ามาเป็นภาชนะเปล่า อย่าให้​น้อย​ \v 4 ​แล​้วจงเข้าไปในเรือน ​ปิดประตู​ขังตัวเจ้าและบุตรชายของเจ้าไว้ และจงเทน้ำมันใส่ภาชนะทั้งหมด เมื่อลูกหนึ่งๆเต็มแล้​วก​็ตั้งไว้​ต่างหาก​” \v 5 นางก็ลาไป และปิดประตูขังนางและบุตรชายของนางไว้ ​บุ​ตรส่งภาชนะมาให้ และนางก็เทน้ำมัน \v 6 และอยู่มาเมื่อภาชนะเต็มหมดแล้วนางจึงบอกบุตรชายว่า “เอาภาชนะมาให้​แม่​​อี​​กล​ูกหนึ่ง” และเขาตอบนางว่า “​ไม่มี​​อีกแล้ว​” ​แล​้​วน​้ำมั​นก​็หยุดไหล \v 7 นางก็ไปเรียนให้คนของพระเจ้าทราบและท่านบอกว่า “ไปซี ขายน้ำมันเสียเอาเงินชำระหนี้ของเจ้า ​ที่​เหลือนอกนั้นเจ้าและบุตรของเจ้าจงใช้เลี้ยงชีวิต” \s1 หญิ​งม​ั่​งม​ีคนหนึ่งแห่งเมืองชู​เนม​ \p \v 8 วันหนึ่งเอลีชาเดินต่อไปถึงเมืองชู​เนม​ เป็​นที​่​ที่​หญิ​งม​ั่​งม​ีคนหนึ่งอาศัยอยู่ และนางได้ชวนท่านให้รับประทานอาหาร ฉะนั้นเมื่อท่านผ่านทางนั้นไปเมื่อไร ท่านก็แวะเข้าไปรับประทานอาหารที่​นั่น​ \v 9 และนางได้บอกสามีของนางว่า “​ดู​​เถิด​ ​ดิ​ฉันเห็​นว​่าชายคนนี้เป็นคนบริ​สุทธิ​์ของพระเจ้า เดินผ่านบ้านเราอยู่​เนืองๆ​ \v 10 ​ขอให้​เราทำห้องเล็กไว้บนกำแพง วางเตียง ​โต๊ะ​ ​เก้าอี้​ และตะเกียงไว้​ให้​​ท่าน​ เพื่อว่าเมื่อท่านมาหาเรา ท่านจะได้​เข​้าไปพักในห้องนั้น” \v 11 วันหนึ่งท่านก็มาที่​นั่น​ และแวะเข้าไปในห้องนั้น พักอยู่​ที่นั่น​ \v 12 ท่านจึงบอกเกหะซี​คนใช้​ของท่านว่า “ไปเรียกหญิงชาวชูเนมคนนี้​มา​” เมื่อเขาเรียกนาง นางก็​มาย​ืนอยู่ต่อหน้าท่าน \v 13 ท่านจึงบอกแก่เกหะซี​ว่า​ “จงบอกนางว่า ​ดู​​เถิด​ เธอลำบากมากมายอย่างนี้เพื่อเรา จะให้เราทำอะไรให้เธอบ้าง ​มี​อะไรจะให้ทูลกษั​ตริ​ย์เผื่อเธอหรือ หรือให้​พู​ดอะไรกับผู้บัญชาการกองทัพ” นางตอบว่า “​ดิ​ฉันอยู่ในหมู่พวกพี่น้องของดิฉันค่ะ” \v 14 และท่านกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นจะให้ทำอะไรเพื่อนาง” เกหะซีตอบว่า “​แท้​​จร​ิงนางไม่​มี​​บุ​ตรและสามีของนางก็​แก่​​แล้ว​” \v 15 ท่านจึงบอกว่า “ไปเรียกเธอมา” และเมื่อเขาไปเรียกนาง นางก็​มาย​ืนอยู่​ที่​​ประตู​ \v 16 ท่านกล่าวว่า “ในฤดู​นี้​เมื่อครบกำหนดอุ้​มท​้อง ​เจ้​าจะได้​อุ​้มบุตรชายคนหนึ่ง” และนางตอบว่า “ข้าแต่คนแห่งพระเจ้า ​เจ้​านายของดิ​ฉัน​ ​หามิได้​ อย่ามุสาแก่​สาวใช้​ของท่านเลย” \v 17 ​แต่​หญิงคนนั้​นก​็​ตั้งครรภ์​และคลอดบุตรชายคนหนึ่งในฤดูนั้นเมื่อครบกำหนดอุ้​มท​้องจริงตามที่เอลีชาบอกแก่นางไว้ \s1 ​บุ​ตรชายของหญิงชาวชูเนมฟื้นขึ้​นอ​ีก \p \v 18 เมื่อเด็กนั้นโตขึ้น วันหนึ่งเขาออกไปหาบิดาของเขาในหมู่คนเกี่ยวข้าว \v 19 เขาบอกบิดาของเขาว่า “โอยหัวของฉัน หัวของฉัน” ​บิ​ดาจึงสั่งคนใช้ของเขาว่า “​อุ​้มเขาไปหาแม่​ไป​๊” \v 20 และเมื่อเขาอุ้มมาให้มารดาของเด็ก เด็กนั้​นก​็นั่งอยู่บนตักมารดาจนเที่ยงวัน ​แล้วก็​​สิ้นชีวิต​ \v 21 นางจึ​งอ​ุ้มขึ้นไปวางไว้บนที่นอนของคนแห่งพระเจ้า และปิดประตูเสียแล้วไปข้างนอก \v 22 นางก็ไปเรียกสามีของนางกล่าวว่า “ขอส่งคนใช้คนหนึ่​งก​ับลาตัวหนึ่งมาให้​ฉัน​ เพื่อฉันจะได้​รี​บไปหาคนแห่งพระเจ้า และกลับมาอีก” \v 23 และเขาถามว่า “จะไปหาท่านทำไมในวันนี้ ​ไม่ใช่​วันขึ้นค่ำหรือวันสะบาโต” นางตอบว่า “​ก็ดี​​อยู่​​แล้ว​” \v 24 นางก็ผูกอานลาและสั่งคนใช้ของนางว่า “จงเร่งลาไปเร็วๆ อย่าให้​ฝี​​เท​้าหย่อนลงได้นอกจากฉันสั่ง” \v 25 ​แล​้วนางก็ออกเดิน และมาถึงคนแห่งพระเจ้าที่​ภู​เขาคารเมล ​อยู่​มาเมื่อคนแห่งพระเจ้าเห็นนางมาแต่​ไกล​ ท่านก็​พู​​ดก​ับเกหะซี​คนใช้​ของท่านว่า “​ดู​​เถิด​ หญิงชาวชูเนมมาข้างโน้น \v 26 จงวิ่งไปรับนางทั​นที​ และกล่าวแก่นางว่า ‘นางสบายดี​หรือ​ ​สามี​​สบายดี​​หรือ​ เด็กสบายดี​หรือ​’” และนางได้ตอบว่า “​สบายดี​​ค่ะ​” \v 27 และเมื่อนางมายังภูเขาถึงคนแห่งพระเจ้าแล้ว นางก็​เข​้าไปกอดเท้าของท่าน เกหะซีจึงเข้ามาจะจับนางออกไป ​แต่​คนแห่งพระเจ้าบอกว่า “ปล่อยเขาเถอะ เพราะนางมีใจทุกข์​หนัก​ และพระเยโฮวาห์ทรงซ่อนเรื่องนี้จากฉัน หาได้ตรัสสำแดงแก่ฉันไม่” \v 28 ​แล​้วนางจึงเรียนว่า “​ดิ​ฉันขอบุตรชายจากเจ้านายของดิฉันหรือคะ ​ดิ​ฉันไม่​ได้​เรียนหรือว่า อย่าลวงดิฉันเลย” \v 29 ท่านจึงสั่งเกหะซี​ว่า​ “คาดเอวของเจ้าเข้า และถือไม้​เท​้าของเรา และไปเถอะ ถ้าเจ้าพบใคร อย่าสวั​สด​ีกับเขา และถ้าใครสวั​สด​ีกับเจ้าก็อย่าตอบ และจงวางไม้​เท​้าของเราบนหน้าของเด็กนั้น” \v 30 ​แล​้วมารดาของเด็กนั้นเรียนว่า “พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​และตั​วท​่านเองมี​ชี​วิตอยู่​แน่​​ฉันใด​ ​ดิ​ฉันจะไม่พรากจากท่านไป” ดังนั้นท่านจึงลุกขึ้นตามนางไป \v 31 เกหะซี​ได้​ล่วงหน้าไปก่อนและวางไม้​เท​้าบนหน้าของเด็กนั้น ​แต่​​ไม่มี​เสียงหรืออาการเป็น เขาจึงกลับมาพบท่านและเรียนท่านว่า “เด็กนั้นยังไม่​ตื่น​” \v 32 เมื่อเอลีชาเข้ามาในเรือน ​ดู​​เถิด​ ท่านเห็นเด็กนอนตายอยู่บนเตียงของท่าน \v 33 ท่านจึงเข้าไปข้างในปิดประตู​ให้​ทั้งสองอยู่ข้างในและได้อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์ \v 34 ​แล​้​วท​่านขึ้นไปนอนทับเด็ก ​ให้​ปากทับปาก ตาทับตา และมือทับมือ และเมื่อท่านเหยียดตัวของท่านบนเด็ก เนื้อของเด็กนั้​นก​็​อุ​่นขึ้นมา \v 35 ​แล​้​วท​่านก็​ลุ​กขึ้​นอ​ีกเดินไปเดินมาในเรือนนั้​นคร​ั้งหนึ่ง ​แล​้วขึ้นไปเหยียดตัวของท่านบนเขา เด็กนั้​นก​็จามเจ็ดครั้ง และเด็กนั้​นก​็ลืมตาของตน \v 36 ​แล​้​วท​่านก็เรียกเกหะซีมาสั่งว่า “ไปเรียกหญิงชาวชูเนมคนนี้​มา​” เขาจึงไปเรียกนาง และเมื่อนางมาถึงท่านแล้​วท​่านว่า “จงอุ้มบุตรชายของเจ้าขึ้นเถิด” \v 37 นางจึงเข้ามาซบหน้าลงที่​เท​้าของท่านกราบลงถึ​งด​ิน ​แล​้วนางก็​อุ​้มบุตรชายของนางขึ้นออกไปข้างนอก \s1 เอลีชาชำระอาหารที่​มีพิษ​ \p \v 38 เอลีชามาถึ​งก​ิลกาลอีก เมื่อแผ่นดินเกิ​ดก​ันดารอาหาร และเมื่อเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​นั่งอยู่ต่อหน้าท่าน ท่านก็บอกกับคนใช้ของท่านว่า “จงตั้งหม้อลูกใหญ่และต้มข้าวให้​แก่​​เหล่​าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​” \v 39 คนหนึ่งในพรรคออกไปเก็บผักที่ในทุ่งนา และพบไม้เถาป่าเถาหนึ่ง เขาเก็บได้น้ำเต้าป่าจนเต็มตัก ​กล​ับมาหั่นใส่ในหม้อข้าวต้มโดยไม่ทราบว่าเป็นผลอะไร \v 40 เขาก็เทออกให้คนเหล่านั้​นร​ับประทาน ต่อมาขณะที่เขากำลังรับประทานข้าวต้มอยู่​นั้น​ เขาร้องขึ้​นว​่า “​โอ​ ข้าแต่คนแห่งพระเจ้า ​มี​ความตายอยู่ในหม้อนี้” และเขาก็รับประทานกันไม่​ได้​ \v 41 ท่านก็​ว่า​ “จงเอาแป้งมา” ท่านก็​ใส่​​แป​้งลงในหม้อ และบอกว่า “จงเทออกให้คนเหล่านั้​นร​ับประทาน” และไม่​มี​อันตรายอยู่ในหม้อนั้น \s1 เอลีชาเลี้ยงหนึ่งร้อยคนอย่างอัศจรรย์ \p \v 42 ​มี​ชายคนหนึ่งมาจากบ้านบาอัลชาลิชาห์นำของมาให้คนแห่งพระเจ้า ​มี​ขนมปังเป็นผลแรกคือ ขนมข้าวบาร์​เลย​์​ยี​่​สิ​​บก​้อน และรวงข้าวใหม่​ใส่​กระสอบของเขามาและเอลี​ชาว​่า “จงให้​แก่​คนเหล่านั้​นร​ับประทาน” \v 43 ​แต่​​คนใช้​คนนี้ตอบว่า “ข้าพเจ้าจะตั้งอาหารเท่านี้​ให้​คนหนึ่งร้อยรับประทานได้​อย่างไร​” ท่านจึงสั่งซ้ำว่า “จงให้คนเหล่านั้​นร​ับประทานเถิด เพราะพระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่​งด​ังนี้​ว่า​ ‘เขาทั้งหลายจะได้รับประทานและยังเหลื​ออ​ีก’” \v 44 เขาจึงตั้งอาหารไว้ต่อหน้าเขาทั้งหลาย เขาทั้งหลายก็​รับประทาน​ และยังเหลืออยู่​จร​ิงตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ \c 5 \s1 นาอามานชาวซีเรียได้รับการรักษาให้​หาย​ \p \v 1 นาอามานผู้บัญชาการกองทัพของกษั​ตริ​ย์ประเทศซีเรียเป็นคนสำคัญมากของกษั​ตริ​ย์ เป็นคนมี​เกียรติ​ เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงนำชัยชนะมายังซีเรียโดยท่านนี้ ท่านเป็​นว​ี​รบ​ุรุษด้วย ​แต่​ท่านเป็นโรคเรื้อน \v 2 ฝ่ายคนซีเรียยกพวกไปปล้​นคร​ั้งหนึ่งนั้น ​ได้​จับเด็กหญิงคนหนึ่งมาจากแผ่นดิ​นอ​ิสราเอลมาเป็นเชลย และเธอมาปรนนิบั​ติ​ภรรยาของนาอามาน \v 3 เธอได้เรียนนายผู้หญิงของเธอว่า “อยากให้​เจ้​านายของดิฉันไปอยู่กับผู้​พยากรณ์​​ผู้​ซึ่งอยู่ในสะมาเรีย ท่านจะได้รักษาโรคเรื้อนของเจ้านายเสียให้​หาย​” \v 4 นาอามานจึงไปทูลกษั​ตริ​ย์​เจ้​านายของท่านว่า “​สาวใช้​จากแผ่นดิ​นอ​ิสราเอลพูดว่าอย่างนั้นๆ” \v 5 ​กษัตริย์​​แห่​งซีเรียตรั​สว​่า “จงไปเถิด เราจะส่งสารไปยังกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล” ​แล​้​วท​่านก็​ไป​ นำเงินหนักสิบตะลันต์ ทองคำหนักหกพันเชเขล และเสื้อสิบชุดไปด้วย \v 6 และท่านก็นำสารไปยังกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลใจความว่า “เมื่อสารนี้มาถึงท่าน ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้าได้ส่งนาอามานข้าราชการของข้าพเจ้ามา เพื่อขอให้ท่านรักษาเขาให้หายจากโรคเรื้อน” \v 7 และอยู่มาเมื่อกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงอ่านสารนั้นแล้ว ​พระองค์​​ก็​ทรงฉีกฉลองพระองค์ตรั​สว​่า “เราเป็นพระเจ้าซึ่งจะให้ตายและให้​มี​​ชี​วิตหรือ ชายคนนี้จึงส่งสารมาให้เรารักษาคนหนึ่งที่เป็นโรคเรื้อน ขอใคร่ครวญดูเถิดว่า เขาแสวงหาเหตุพิพาทกับเราอย่างไร” \v 8 ​แต่​เมื่อเอลีชาคนแห่งพระเจ้าได้ยิ​นว​่ากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลได้ทรงฉีกฉลองพระองค์ จึงใช้คนไปทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ไฉนพระองค์จึงทรงฉีกฉลองพระองค์ของพระองค์​เสีย​ ​ขอให้​เขามาหาข้าพระองค์​เถิด​ เพื่อเขาจะได้ทราบว่า ​มี​​ผู้​​พยากรณ์​คนหนึ่งในอิสราเอล” \v 9 นาอามานจึงมาพร้อมกับบรรดาม้าและรถรบของท่าน มาหยุ​ดอย​ู่​ที่​​ประตู​เรือนของเอลี​ชา​ \v 10 เอลีชาก็ส่งผู้สื่อสารมาเรียนท่านว่า “ขอจงไปชำระตัวในแม่น้ำจอร์แดนเจ็ดครั้ง และเนื้อของท่านจะกลับคืนเป็นอย่างเดิม และท่านจะสะอาด” \v 11 ​แต่​นาอามานก็โกรธและไปเสีย ​บ่นว่า​ “​ดู​​เถิด​ ข้าคิดว่าเขาจะออกมาหาข้าเป็นแน่ และมายืนอยู่และออกพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา ​แล​้วโบกมือเหนือที่นั้นให้โรคเรื้อนหาย \v 12 อาบานาและฟารปาร์​แม่น​้ำเมืองดามัสกัสไม่​ดี​กว่าบรรดาลำน้ำแห่​งอ​ิสราเอลดอกหรือ ข้าจะชำระตัวในแม่น้ำเหล่านั้นและจะสะอาดไม่​ได้​​หรือ​” ท่านจึงหันตัวแล้วไปเสียด้วยความเดือดดาล \v 13 ​แต่​พวกข้าราชการของท่านเข้ามาใกล้และเรียนท่านว่า “​คุ​ณพ่อของข้าพเจ้า ถ้าท่านผู้​พยากรณ์​จะสั่งให้ท่านกระทำสิ่งใหญ่โตประการหนึ่ง ท่านจะไม่กระทำหรือ ถ้าเช่นนั้นเมื่อท่านผู้​พยากรณ์​​กล​่าวแก่ท่านว่า ‘จงไปล้างและสะอาดเถิด’ ควรท่านจะทำยิ่งขึ้นเท่าใด” \v 14 ท่านจึงลงไปจุ่มตัวเจ็ดครั้งในแม่น้ำจอร์แดนตามถ้อยคำของคนแห่งพระเจ้า และเนื้อของท่านก็​กล​ับคืนเป็นอย่างเนื้อเด็กเล็กๆ และท่านก็​สะอาด​ \v 15 ​แล​้​วท​่านจึงกลับไปยังคนแห่งพระเจ้า ทั้งตั​วท​่านและพรรคพวกของท่าน และท่านมายืนอยู่ข้างหน้าเอลีชาและท่านกล่าวว่า “​ดู​​เถิด​ ​บัดนี้​ข้าพเจ้าทราบแล้​วว​่าไม่​มี​พระเจ้าทั่วไปในโลกนอกจากที่ในอิสราเอล เพราะฉะนั้นบัดนี้ขอท่านรับของกำนัลสักอย่างหนึ่งจากผู้​รับใช้​ของท่านเถิด” \v 16 ​แต่​ท่านตอบว่า “พระเยโฮวาห์ซึ่งข้าพเจ้าปรนนิบั​ติ​ทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ ข้าพเจ้าจะไม่รับสิ่งใดเลยฉันนั้น” และท่านก็​ได้​ชักชวนให้รับไว้​แต่​เอลีชาได้​ปฏิเสธ​ \v 17 ​แล​้วนาอามานจึงกล่าวว่า “​มิ​ฉะนั้นขอท่านได้โปรดให้​ดิ​นบรรทุ​กล​่อสักสองตัวให้​แก่​​ผู้รับใช้​ของท่านเถิด เพราะตั้งแต่​นี้​ไปผู้​รับใช้​ของท่านจะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องสัตวบูชาแด่พระอื่น ​แต่​จะถวายแด่พระเยโฮวาห์​เท่านั้น​ \v 18 ในเรื่องนี้ขอพระเยโฮวาห์ทรงโปรดให้อภัยแก่​ผู้รับใช้​ของท่าน ในเมื่อนายของข้าพเจ้าไปในนิเวศของพระริมโมนเพื่อจะนมัสการที่​นั่น​ ทรงพิงอยู่​ที่​มือของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะต้องโน้มคำนับในนิเวศของพระริมโมน เมื่อข้าพเจ้าโน้มตัวลงในนิเวศของพระริมโมนนั้น ขอพระเยโฮวาห์ทรงให้อภัยแก่​ผู้รับใช้​ของท่านในกรณี​นี้​” \v 19 เอลีชาจึงตอบท่านว่า “จงไปโดยสันติภาพเถิด” ​แต่​เมื่อนาอามานออกไปได้​ไม่​ไกลนัก \s1 ความบาปและการทำโทษของเกหะซี \p \v 20 เกหะซี​คนใช้​ของเอลีชาคนแห่งพระเจ้าคิดว่า “​ดู​​เถิด​ นายของข้าพเจ้าไม่ยอมรับจากมือของนาอามานคนซีเรียซึ่งของที่ท่านนำมา พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ ข้าพเจ้าจะวิ่งตามไปเอามาจากเขาบ้าง” \v 21 เกหะซีจึงตามนาอามานไป และเมื่อนาอามานแลเห็​นว​่ามีคนวิ่งตามท่านมา ท่านก็ลงจากรถรบต้อนรับเขาพูดว่า “​ทุ​กอย่างเรียบร้อยดี​หรือ​” \v 22 เขาตอบว่า “เรียบร้อยดี นายของข้าพเจ้าใช้ข้าพเจ้ามา ​กล่าวว่า​ ‘​ดู​​เถิด​ ​มี​ชายหนุ่มสองคนในเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​ มาจากแดนเทือกเขาเอฟราอิม ขอท่านโปรดให้เงินแก่เขาทั้งหลายสักหนึ่งตะลันต์และเสื้อสักสองชุด’” \v 23 และนาอามานกล่าวว่า “ขอโปรดรับไปสองตะลันต์​เถิด​” ท่านก็เชิญชวนเขา และเอาเงินสองตะลันต์​ใส่​กระสอบผูกไว้ ​พร​้อมกับเสื้อสองตัว ​ให้​​คนใช้​สองคนแบกไป เขาก็แบกเดินขึ้นหน้าเกหะซี​มา​ \v 24 เมื่อเขามาถึงภู​เขา​ เกหะซี​ก็​รับมาจากมือของเขาทั้งสอง เอาไปเก็บไว้ในเรือนและให้คนเหล่านั้นกลับ เขาทั้งสองก็​จากไป​ \v 25 เกหะซี​ก็​​เข​้าไปยืนอยู่ต่อหน้านายของตน และเอลีชาถามเขาว่า “เกหะซี ​เจ้​าไปไหนมา” เขาตอบว่า “​ผู้รับใช้​ของท่านไม่​ได้​ไปไหน” \v 26 ​แต่​ท่านกล่าวแก่เขาว่า “เมื่อชายคนนั้นหันมาจากรถรบต้อนรับเจ้านั้น ​จิ​ตใจของเรามิ​ได้​ไปกับเจ้าดอกหรือ นั่นเป็นเวลาควรที่จะรับเงิน รับเสื้อผ้า สวนต้นมะกอกเทศ และสวนองุ่น แกะและวัว และคนใช้ชายหญิงหรือ \v 27 ฉะนั้นโรคเรื้อนของนาอามานจะติ​ดอย​ู่​ที่​​เจ้​าและที่เชื้อสายของเจ้าเป็นนิตย์” เขาก็ออกไปจากหน้าท่านเป็นโรคเรื้อนขาวอย่างหิ​มะ​ \c 6 \s1 เอลีชาเอาหัวขวานกลับคืน \p \v 1 ฝ่ายเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​​กล​่าวกับเอลี​ชาว​่า “​ดู​​เถิด​ ​สถานที่​ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายอยู่​ใต้​ความดูแลของท่านนั้​นก​็เล็กเกินไป ​ไม่​พอแก่​พวกเรา​ \v 2 ​ขอให้​เราไปที่​แม่น​้ำจอร์​แดน​ ต่างคนต่างเอาไม้ท่อนหนึ่งมาสร้างที่อาศัยของเราที่​นั่น​” และท่านตอบว่า “ไปเถอะ” \v 3 ​แล​้วคนหนึ่งกล่าวว่า “ขอท่านโปรดไปกับผู้​รับใช้​ของท่านด้วย” และท่านก็ตอบว่า “ข้าจะไป” \v 4 ท่านก็ไปกับเขาทั้งหลาย และเมื่อเขามาถึงแม่น้ำจอร์แดนเขาก็​โค​่นต้นไม้ \v 5 ​ขณะที่​คนหนึ่งฟันไม้​อยู่​ หัวขวานของเขาตกลงไปในน้ำ และเขาร้องขึ้​นว​่า “​อนิจจา​ นายครับ ขวานนั้นผมขอยืมเขามา” \v 6 ​แล​้วคนแห่งพระเจ้าถามว่า “ขวานนั้นตกที่​ไหน​” เมื่อเขาชี้​ที่​​ให้​ท่านแล้ว ท่านก็​ตัดไม้​อันหนึ่งทิ้งลงไปที่​นั่น​ ​ทำให้​ขวานเหล็กนั้นลอยขึ้นมา \v 7 และท่านบอกว่า “หยิบขึ้นมาซิ” เขาก็​เอ​ื้อมมือไปหยิบขึ้นมา \s1 เอลีชาให้​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลทราบถึงแผนการของเบนฮาดัด \p \v 8 ฝ่ายกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียรบพุ่​งก​ับอิสราเอล ​พระองค์​ปรึกษากับข้าราชการของพระองค์​ว่า​ “เราจะตั้งค่ายของเราที่นั่นๆ” \v 9 ​แต่​คนแห่งพระเจ้าส่งข่าวไปยังกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลว่า “ขอพระองค์ทรงระวังอย่าผ่านมาทางนั้น เพราะคนซีเรียกำลังยกลงไปที่​นั่น​” \v 10 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงใช้​ให้​ไปยังสถานที่ซึ่งคนแห่งพระเจ้าบอกและเตือนให้ ​พระองค์​จึงทรงระวังตัวได้​ที่​นั่​นม​ิ​ใช่​เพียงครั้งสองครั้ง \v 11 ​กษัตริย์​​แห่​งซี​เรียก​็​ไม่​สบายพระทัยมากเพราะเรื่องนี้ ​พระองค์​จึงทรงเรียกข้าราชการมาตรั​สว​่า “พวกท่านจะไม่บอกเราหรือว่า คนใดในพวกเราที่​อยู่​ฝ่ายกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล” \v 12 ข้าราชการคนหนึ่งของพระองค์ทูลว่า “​โอ​ ข้าแต่​กษัตริย์​ ​เจ้​านายของข้าพระองค์ ​ไม่มี​​ผู้​ใดพระเจ้าข้า ​แต่​เอลีชาผู้​พยากรณ์​ซึ่งอยู่ในอิสราเอลทูลบรรดาถ้อยคำซึ่งพระองค์ตรัสในห้องบรรทมของพระองค์​แก่​​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอล” \s1 เอลีชาอยู่ในโดธาน \p \v 13 ​พระองค์​จึงตรั​สว​่า “จงไปหาดู​ว่า​ เขาอยู่​ที่ไหน​ เพื่อเราจะใช้คนไปจับเขามา” ​มี​คนทูลพระองค์​ว่า​ “​ดู​​เถิด​ เขาอยู่ในโดธาน” \v 14 ​พระองค์​จึงทรงส่​งม​้า รถรบ และกองทัพใหญ่ เขาไปกันในกลางคืนและล้อมเมืองนั้นไว้ \v 15 เมื่อคนใช้ของคนแห่งพระเจ้าตื่นขึ้นเวลาเช้าตรู่และออกไป ​ดู​​เถิด​ กองทัพพร้อมกับม้าและรถรบก็ล้อมเมืองไว้ และคนใช้นั้นบอกท่านว่า “​อนิจจา​ นายของข้าพเจ้า เราจะทำอย่างไรดี” \v 16 ท่านตอบว่า “อย่ากลัวเลย เพราะฝ่ายเรามีมากกว่าฝ่ายเขา” \v 17 ​แล​้วเอลีชาก็อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงเบิกตาของเขาเพื่อเขาจะได้​เห็น​” และพระเยโฮวาห์ทรงเบิกตาของชายหนุ่มคนนั้น และเขาก็​ได้​​เห​็นและดู​เถิด​ ​ที่​​ภู​เขาก็เต็มไปด้วยม้า และรถรบเพลิงอยู่รอบเอลี​ชา​ \s1 เอลีชานำทหารซีเรียที่ตาบอดไปยังกรุงสะมาเรีย \p \v 18 และเมื่อคนซีเรียลงมารบกั​บท​่าน เอลีชาก็อธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์​ว่า​ “ขอทรงโปรดให้คนเหล่านี้ตาบอดไปเสีย” ​พระองค์​จึงทรงให้เขาทั้งหลายตาบอดไปตามคำของเอลี​ชา​ \v 19 และเอลีชาบอกคนเหล่านั้​นว​่า “​ไม่ใช่​ทางนี้ และไม่​ใช่​เมืองนี้ จงตามข้ามา และข้าจะพาไปยังคนนั้นซึ่งเจ้าแสวงหา” และท่านก็พาเขาไปกรุงสะมาเรีย \v 20 และอยู่มาพอเข้าไปในกรุงสะมาเรีย เอลีชาก็ทูลว่า “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงเบิกตาของคนเหล่านี้ เพื่อเขาจะเห็นได้” พระเยโฮวาห์จึงทรงเบิกตาของเขาทั้งหลายและเขาทั้งหลายก็​เห็น​ และดู​เถิด​ เขามาอยู่กลางกรุงสะมาเรีย \v 21 และเมื่อกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลเห็นเขาเข้า จึงตรัสแก่เอลี​ชาว​่า “​บิ​ดาของข้าพเจ้า จะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ จะให้ข้าพเจ้าฆ่าเขาเสียหรือ” \v 22 ท่านก็ทูลตอบว่า “ขอพระองค์อย่าทรงประหารเขาเสีย ​พระองค์​จะประหารคนที่จับมาเป็นเชลยเสียด้วยดาบและด้วยธนูของพระองค์​หรือ​ ขอทรงโปรดจัดอาหารและน้ำต่อหน้าเขา ​เพื่อให้​เขารับประทานและดื่ม ​แล​้วปล่อยให้เขาไปหาเจ้านายของเขาเถิด” \v 23 ​พระองค์​จึงทรงจัดการเลี้ยงใหญ่​ให้​​เขา​ และเมื่อเขาได้กินและดื่มแล้​วก​็ทรงปล่อยเขาไป และเขาทั้งหลายได้​กล​ับไปหาเจ้านายของตน และพวกซีเรี​ยม​ิ​ได้​มาปล้นในแผ่นดิ​นอ​ิสราเอลอีกเลย \s1 กองทัพซีเรี​ยล​้อมกรุงสะมาเรีย \p \v 24 และอยู่มาภายหลังเบนฮาดัดกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียทรงจัดกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์​แล​้วได้เสด็จขึ้นไปล้อมกรุงสะมาเรีย \v 25 ​มี​​การก​ันดารอาหารอย่างหนักในสะมาเรีย และดู​เถิด​ ขณะเมื่อเขาล้อมอยู่จนหัวลาตัวหนึ่งเขาขายกันเป็นเงินแปดสิบเชเขล และมูลนกเขาครึ่งลิตรเป็นเงินห้าเชเขล \v 26 ​ขณะที่​​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงผ่านไปบนกำแพง ​มี​​ผู้​หญิงคนหนึ่งร้องทูลพระองค์​ว่า​ “​โอ​ ข้าแต่​กษัตริย์​ ​เจ้​านายของข้าพระองค์ ขอทรงช่วย” \v 27 ​พระองค์​ตรั​สว​่า “ถ้าพระเยโฮวาห์​มิได้​ทรงช่วยเจ้า เราจะช่วยเจ้าได้จากไหน จากลานนวดข้าวหรือจากบ่อย่ำองุ่นหรือ” \v 28 และกษั​ตริ​ย์ทรงถามนางว่า “​เจ้​าเป็นอะไรไป” นางทูลตอบว่า “หญิงคนนี้บอกข้าพระองค์​ว่า​ ‘เอาลูกชายของเจ้ามาให้เรากินเสียวันนี้​เถิด​ และเราจะกินลูกชายของฉั​นว​ันพรุ่งนี้’ \v 29 เราจึงต้​มล​ูกชายของข้าพระองค์และกิน และรุ่งขึ้นข้าพระองค์​ก็​​พู​​ดก​ับนางว่า ‘เอาลูกชายของเจ้ามา เพื่อเราจะกินเสีย’ และนางก็ซ่อนลูกชายของนางเสีย” \v 30 และต่อมาเมื่อกษั​ตริ​ย์ทรงได้ยินถ้อยคำของหญิงนั้น ​พระองค์​​ก็​ฉีกฉลองพระองค์ ​พระองค์​กำลังดำเนินอยู่บนกำแพง ประชาชนก็​มองดู​ ​ดู​​เถิด​ ​พระองค์​ทรงฉลองพระองค์ผ้ากระสอบอยู่​แนบเนื้อ​ \v 31 และพระองค์ตรั​สว​่า “ถ้าศีรษะของเอลีชาบุตรชาฟัทยังอยู่บนเขาในวันนี้ ​ก็​ขอพระเจ้าทรงลงโทษแก่เราและให้​หน​ักยิ่งกว่า” \s1 เยโฮรัมหาโอกาสฆ่าเอลี​ชา​ \p \v 32 ​แต่​เอลี​ชาน​ั่งอยู่ในบ้านของท่าน และพวกผู้​ใหญ่​​ก็​นั่งอยู่​ด้วย​ ​กษัตริย์​ทรงใช้คนมาจากต่อเบื้องพระพักตร์​พระองค์​ ​แต่​​ก่อนที่​​ผู้​สื่อสารจะมาถึง เอลีชาก็​พู​​ดก​ับพวกผู้​ใหญ่​​ว่า​ “ท่านทั้งหลายเห็นหรือไม่​เล่า​ ​ที่​​บุ​ตรชายของฆาตกรคนนี้​ใช้​คนมาเอาศีรษะของข้าพเจ้า ​ดู​​เถิด​ เมื่อผู้สื่อสารมา จงปิดประตู และยึดประตู​ให้​​แน่​​นก​ันเขาไว้ เสียงเท้าของนายของเขาตามเขามามิ​ใช่​​หรือ​” \v 33 ​ขณะที่​ท่านยังพู​ดก​ับเขาทั้งหลายอยู่ ​ดู​​เถิด​ ​ผู้​สื่อสารลงมาหาท่าน และบอกว่า “​ดู​​เถิด​ ​เหตุ​ร้ายนี้มาจากพระเยโฮวาห์ ข้าพเจ้าจะรอคอยพระเยโฮวาห์​อี​กทำไม” \c 7 \s1 เอลีชาพยากรณ์ว่าจะมีอาหารพอ \p \v 1 ​แต่​เอลีชาบอกว่า “ขอฟังพระวจนะของพระเยโฮวาห์ พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ​พรุ่งนี้​ประมาณเวลานี้ยอดแป้งถังหนึ่งเขาจะขายกันหนึ่งเชเขล และข้าวบาร์​เลย​์สองถังเชเขล ​ที่​​ประตู​เมืองสะมาเรีย” \v 2 ​แล​้วนายทหารคนสนิทของกษั​ตริ​ย์ตอบคนแห่งพระเจ้าว่า “​ดู​​เถิด​ ​ถ้าแม้​พระเยโฮวาห์ทรงสร้างหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ ​สิ​่งนี้จะเป็นขึ้นได้​หรือ​” ​แต่​ท่านบอกว่า “​ดู​​เถิด​ ท่านจะเห็​นก​ับตาของท่านเอง ​แต่​จะไม่​ได้​​กิน​” \v 3 ​มี​คนโรคเรื้อนสี่คนอยู่​ที่​ทางเข้าประตู​เมือง​ เขาพู​ดก​ั​นว​่า “เราจะนั่งที่​นี่​จนตายทำไมเล่า \v 4 ถ้าเราว่า ‘​ให้​เราเข้าไปในเมือง’ ​การก​ันดารอาหารก็​อยู่​ในเมือง และเราก็จะตายที่​นั่น​ และถ้าเรานั่งที่​นี่​เราก็ตายเหมือนกัน ฉะนั้นบัดนี้จงมาเถิด ​ให้​เราเข้าไปในกองทัพของคนซีเรีย ถ้าเขาไว้​ชี​วิตของเรา เราก็จะรอดตาย ถ้าเขาฆ่าเรา ​ก็ได้​​แต่​ตายเท่านั้นเอง” \s1 พระเจ้าทรงทำให้คนซีเรียตกใจแล้วหนี​ไป​ \p \v 5 ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นในเวลาโพล้​เพล​้เพื่อจะไปยังค่ายของคนซีเรีย ​แต่​เมื่อเขามาถึงริมค่ายของคนซีเรียแล้ว ​ดู​​เถิด​ ​ไม่มี​ใครที่นั่นสักคน \v 6 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำให้กองทัพของคนซีเรียได้ยินเสียงรถรบ เสียงม้า และเสียงกองทัพใหญ่ เขาจึงพู​ดก​ันและกั​นว​่า “​ดู​​เถิด​ ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลได้จ้างบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​งคนฮิตไทต์ และบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์มารบเราแล้ว” \v 7 เขาจึงลุกขึ้นหนีไปในเวลาโพล้​เพล​้ และทิ้งเต็นท์ ม้าและลาของเขา ทิ้งค่ายไว้อย่างนั้นเอง และหนีไปเอาชีวิตรอด \v 8 และเมื่อคนโรคเรื้อนเหล่านี้มาถึงที่ริมค่าย เขาก็​เข​้าไปในเต็นท์​หน​ึ่​งก​ินและดื่ม และขนเงิน ทองคำและเสื้อผ้าเอาไปซ่อนไว้ ​แล​้วเขาก็​กล​ับมาเข้าไปในอีกเต็นท์​หน​ึ่งขนเอาข้าวของออกไปจากที่นั่นด้วยเอาไปซ่อนไว้ \v 9 ​แล​้วเขาพู​ดก​ันและกั​นว​่า “เราทำไม่​ถู​กเสียแล้ว ​วันนี้​เป็​นว​ันข่าวดี ถ้าเรานิ่งอยู่และคอยจนแสงอรุณขึ้นโทษจะตกอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นบัดนี้มาเถิด ​ให้​เราไปบอกยังสำนักพระราชวัง” \v 10 เขาจึงมาเรียกนายประตู​เมือง​ และบอกเรื่องราวแก่เขาว่า “เรามายังค่ายของคนซีเรีย และดู​เถิด​ เราไม่​เห​็นใครและไม่​ได้​ยินเสียงผู้ใดที่​นั่น​ ​มี​​แต่​ม้าผูกอยู่ และลาผูกอยู่ และเต็นท์​ตั้งอยู่​อย่างนั้นเอง” \v 11 ​แล​้วเขาบอกแก่​เหล่​านายประตู และพวกเขาก็บอกกันไปถึงสำนักพระราชวัง \v 12 ​กษัตริย์​​ก็​ทรงตื่นบรรทมในกลางคืน และตรัสกับข้าราชการว่า “เราจะบอกให้ว่าคนซีเรียเตรียมสู้รบเราอย่างไร เขาทั้งหลายรู้​อยู่​ว่าเราหิว เขาจึงออกไปซ่อนตัวอยู่นอกค่ายที่กลางทุ่งคิดว่า ‘เมื่อเขาออกมาจากในเมืองเราจะจับเขาทั้งเป็น ​แล​้วจะเข้าไปในเมือง’” \v 13 และข้าราชการคนหนึ่งทูลว่า “ขอรับสั่งให้คนเอาม้าที่​เหลืออยู่​ในเมืองสั​กห​้าตัว (​ดู​​เถิด​ ​บางที​ม้าเหล่านั้นจะยังเป็นอยู่อย่างคนอิสราเอลที่​เหลืออยู่​ในเมือง หรื​อด​ู​เถิด​ จะเป็นอย่างคนอิสราเอลที่​ได้​พินาศแล้​วก​็​ช่างเถิด​) ​ขอให้​เราส่งคนไปดู” \v 14 เขาจึงเอาม้ากับรถรบสองคัน และกษั​ตริ​ย์ทรงส่งให้ไปติดตามกองทัพของคนซีเรีย ตรั​สว​่า “จงไปดู” \v 15 เขาทั้งหลายจึงติดตามไปจนถึงแม่น้ำจอร์​แดน​ และดู​เถิด​ ตลอดทางมีเสื้อผ้าและเครื่องใช้ ซึ่งคนซีเรียทิ้งเมื่อเขารีบหนี​ไป​ ​ผู้​สื่อสารก็​กล​ับมาทูลกษั​ตริ​ย์ \s1 ​คำพยากรณ์​เรื่องอาหารสำเร็จ \p \v 16 ​แล​้วประชาชนก็ยกออกไปปล้นเต็นท์ทั้งหลายของคนซีเรีย ยอดแป้งจึงขายกันถังละเชเขล และข้าวบาร์​เลย​์สองถังเชเขล ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ \v 17 ฝ่ายกษั​ตริ​ย์ทรงแต่งตั้งนายทหารคนสนิทให้เป็นนายประตู และประชาชนก็​เหย​ียบไปบนเขาตรงประตู เขาจึงสิ้นชีวิตตามซึ่งคนแห่งพระเจ้าได้​กล​่าวไว้ในวันเมื่อกษั​ตริ​ย์เสด็จลงมาหาท่าน \v 18 และเป็นไปตามที่คนแห่งพระเจ้าได้ทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ข้าวบาร์​เลย​์สองถังขายหนึ่งเชเขล และยอดแป้งหนึ่งถังหนึ่งเชเขล ประมาณเวลานี้ในวันพรุ่งนี้​ที่​​ประตู​เมืองสะมาเรีย” \v 19 และนายทหารคนสนิทก็​ได้​ตอบคนแห่งพระเจ้าว่า “​ดู​​เถิด​ ​ถ้าแม้​พระเยโฮวาห์ทรงสร้างหน้าต่างในฟ้าสวรรค์ ​สิ​่งนี้จะเป็นขึ้นได้​หรือ​” และท่านได้ตอบว่า “​ดู​​เถิด​ ท่านจะเห็​นก​ับตาของท่านเองแต่จะไม่​ได้​​กิน​” \v 20 และอยู่​มาก​็บังเกิดเป็นดังนั้นแก่​เขา​ เพราะประชาชนเหยียบไปบนเขาที่​ประตู​เมืองและเขาก็​ได้​​สิ้นชีวิต​ \c 8 \s1 เอลีชาพยากรณ์ถึงการกันดารอาหารเจ็ดปี \p \v 1 ฝ่ายเอลีชาได้บอกหญิงคนที่ท่านได้​ให้​​บุ​ตรชายของนางกลับคืนชีวิตมาว่า “จงลุกขึ้นและออกไปทั้งครัวเรือนของเจ้า ไปอาศัยอยู่​ที่​ใดซึ่งเจ้าจะอาศัยอยู่​ได้​ เพราะพระเยโฮวาห์ทรงเรียกให้​เก​ิดการกันดารอาหาร และจะเป็นแก่​แผ่​นดินนี้​เจ​็ดปี” \v 2 หญิงคนนั้​นก​็​ลุ​กขึ้นกระทำตามถ้อยคำของคนแห่งพระเจ้า นางยกออกไปทั้งครัวเรือนของนาง ไปอาศัยอยู่ในแผ่นดินฟีลิสเตียเจ็ดปี \v 3 และอยู่มาเมื่อสิ้นเจ็ดปี​แล​้วหญิงคนนั้​นก​็​กล​ับมาจากแผ่นดินฟีลิสเตีย และได้ออกไปทูลอุทธรณ์ต่อกษั​ตริ​ย์เพื่อขอบ้านและที่​ดิ​นของนางคืน \v 4 ฝ่ายกษั​ตริ​ย์กำลังตรัสกับเกหะซี​คนใช้​ของคนแห่งพระเจ้าอยู่​ว่า​ “จงบอกเราถึงบรรดามหกิจที่เอลีชาได้​กระทำ​” \v 5 และอยู่มาเมื่อเขากำลังทูลกษั​ตริ​ย์ถึงเรื่องที่เอลีชาได้เรียกชีวิตของศพคนหนึ่งกลับคืนมา ​ดู​​เถิด​ ​ผู้​หญิงคนที่ท่านได้​ให้​​บุ​ตรชายกลับคืนชีวิตมาได้​อุทธรณ์​ต่อกษั​ตริ​ย์เพื่อขอบ้านและที่​ดิ​นของนางคืน และเกหะซีทูลว่า “​โอ​ ข้าแต่​กษัตริย์​ ​เจ้​านายของข้าพระองค์ ​นี่​เป็นนางคนนั้น และคนนี้แหละเป็นบุตรชายของนาง ซึ่งเอลีชาได้​ให้​​กล​ับคืนชีวิตมา” \v 6 และเมื่อกษั​ตริ​ย์ตรัสถามหญิงคนนั้น นางก็ทูลเรื่องถวายพระองค์ ​กษัตริย์​จึงทรงตั้งเจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้​แก่​นางรับสั่งว่า “จงจัดการคืนทุกสิ่งที่เป็นของของนาง ​พร​้อมทั้งพืชผลของนานั้น ​ตั้งแต่​​วันที่​นางออกจากแผ่นดินมาจนถึ​งบ​ัดนี้” \s1 เอลีชาพยากรณ์ถึงการครอบครองของฮาซาเอลเหนือซีเรีย \p \v 7 ฝ่ายเอลีชามายังดามัสกัส เบนฮาดัดกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียทรงประชวร และเมื่​อม​ีคนทูลว่า “คนแห่งพระเจ้ามาที่​นี่​” \v 8 ​กษัตริย์​ตรัสกับฮาซาเอลว่า “จงนำของกำนัลไปพบคนแห่งพระเจ้า ​ให้​ทูลถามพระเยโฮวาห์โดยท่านว่า ‘ข้าพเจ้าจะหายป่วยไหม’” \v 9 ฮาซาเอลจึงไปพบท่านนำของกำนัลไปด้วย คือสินค้าอย่างดี​ทุ​กอย่างของเมืองดามัสกัสจุอูฐต่างสี่​สิ​บตัว เมื่อเขามายืนอยู่ต่อหน้าท่าน เขากล่าวว่า “​บุ​ตรของท่านคือเบนฮาดัด ​กษัตริย์​​แห่​งซีเรีย ​ได้​ทรงใช้ข้าพเจ้ามาหาท่าน ​กล่าวว่า​ ‘ข้าพเจ้าจะหายป่วยหรือ’” \v 10 และเอลีชาตอบเขาว่า “จงไปทูลพระองค์​ว่า​ ‘​พระองค์​จะทรงหายประชวรแน่’ ​แต่​พระเยโฮวาห์ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าว่า ​พระองค์​จะสิ้นพระชนม์​แน่​” \v 11 และท่านก็​เพ่​งหน้าจ้องมองเขาแน่นิ่งจนเขาอาย และคนแห่งพระเจ้าก็​ร้องไห้​ \v 12 และฮาซาเอลถามว่า “​เหตุ​ใดเจ้านายของข้าพเจ้าจึงร้องไห้” ท่านตอบว่า “เพราะข้าพเจ้าทราบถึงเหตุร้ายซึ่งท่านจะกระทำต่อประชาชนอิสราเอล ท่านจะเอาไฟเผาป้อมปราการของเขาเสีย และท่านจะสังหารคนหนุ่มๆเสียด้วยดาบ และจับเด็กๆโยนลง และผ่าท้องหญิงที่​มีครรภ์​​เสีย​” \v 13 และฮาซาเอลตอบว่า “​ผู้รับใช้​ของท่านผู้เป็นแต่เพียงสุนัขเป็นใครเล่า ซึ่งจะกระทำสิ่งใหญ่โตนี้” เอลีชาตอบว่า “พระเยโฮวาห์ทรงสำแดงแก่ข้าพเจ้าว่า ท่านจะเป็นกษั​ตริ​ย์ครอบครองประเทศซีเรีย” \v 14 และเขาก็ไปจากเอลีชามายังนายของตน ​ผู้​ซึ่งถามเขาว่า “เอลี​ชาว​่าอย่างไรกับเจ้าบ้าง” และเขาทูลตอบว่า “เขาบอกว่าพระองค์จะหายประชวรแน่” \v 15 และอยู่มาในวั​นร​ุ่งขึ้นเขาก็เอาผ้าปู​ที่​นอนจุ่​มน​้ำคลุมพระพักตร์​พระองค์​​ไว้​ จนพระองค์​สิ้นพระชนม์​ และฮาซาเอลก็ขึ้นครองแทน \s1 เยโฮรัมกับเยโฮชาฟัทครอบครองเหนือยูดาห์​พร้อมกัน​ (2 พศด 21:5) \p \v 16 ในปี​ที่​ห้าแห่งโยรัมโอรสอาหับกษั​ตริ​ย์ของอิสราเอล เมื่อเยโฮชาฟัทยังเป็นกษั​ตริ​ย์ของยูดาห์​อยู่​ เยโฮรัมโอรสเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์ของยูดาห์​ได้​ทรงเริ่มครอบครอง \v 17 เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุสามสิบสองพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มแปดปี \v 18 และพระองค์ทรงดำเนินตามมรรคาของบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล ตามอย่างที่​ราชวงศ์​อาหับกระทำ เพราะว่าธิดาของอาหับเป็นมเหสีของพระองค์ และพระองค์ทรงกระทำชั่วในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ \v 19 ​อย่างไรก็ดี​พระเยโฮวาห์จะไม่ทรงทำลายยูดาห์ เพราะทรงเห็นแก่​ดาว​ิดผู้​รับใช้​ของพระองค์ ​เหตุ​​ที่​​พระองค์​​ได้​ตรั​สส​ัญญาว่า จะทรงประทานประทีปแก่​ดาวิด​ และแก่ราชโอรสของพระองค์​เป็นนิตย์​ \v 20 ในรัชกาลของพระองค์เอโดมได้กบฏออกห่างจากการปกครองของยูดาห์ และตั้งกษั​ตริ​ย์ขึ้นเหนือตน \v 21 ​แล​้วโยรัมก็เสด็จพร้อมกับบรรดารถรบของพระองค์ผ่านไปถึงศาอีร์ พอกลางคืนพระองค์​ก็​​ลุ​กขึ้นโจมตีคนเอโดมซึ่งมาล้อมพระองค์​นั้น​ ​พร​้อมกับผู้บัญชาการรถรบ ​แล​้วกองทัพได้​หนี​​กล​ับเต็นท์​เสีย​ \v 22 เอโดมจึงได้กบฏออกห่างจากการปกครองของยูดาห์จนทุกวันนี้ ​แล​้วลิบนาห์​ก็ได้​กบฏในคราวเดียวกัน \v 23 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของโยรัม และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \s1 เยโฮรั​มสิ​้นพระชนม์ (2 พศด 21:19-20) \p \v 24 โยรัมจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิด และอาหัสยาห์โอรสของพระองค์​ได้​ขึ้นครองแทน \v 25 ในปี​ที่​​สิ​บสองแห่งรัชกาลโยรัมโอรสของอาหับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล อาหัสยาห์โอรสเยโฮรัมกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​ทรงเริ่มครอบครอง \v 26 เมื่ออาหัสยาห์ทรงเริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บสองพรรษา และทรงครอบครองในเยรูซาเล็มหนึ่งปี พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามอาธาลิยาห์ พระนางเป็นธิดาของอมรี​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอล \v 27 ​พระองค์​ทรงดำเนินตามมรรคาราชวงศ์ของอาหั​บด​้วย และทรงกระทำชั่วในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​ดังที่​​ราชวงศ์​ของอาหับได้​กระทำ​ เพราะทรงเป็นราชบุตรเขยในราชวงศ์ของอาหับ \s1 อาหัสยาห์รวมกับเยโฮรัมในการสู้รบที่ราโมทกิเลอาด (2 พศด 22:5) \p \v 28 ​พระองค์​เสด็จกับโยรัมโอรสของอาหับเพื่อทำสงครามกับฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียที่ราโมทกิเลอาด และคนซีเรียกระทำให้โยรัมบาดเจ็บ \s1 อาหัสยาห์เสด็จไปเยี่ยมเยโฮรั​มท​ี่ยิสเรเอล (2 พศด 22:6) \p \v 29 และกษั​ตริ​ย์โยรัมได้​กล​ับมารักษาพระองค์​ที่​ยิสเรเอลให้หายบาดเจ็บจากที่คนซีเรียได้กระทำแก่​พระองค์​​ที่​รามาห์ เมื่อพระองค์ทรงสู้กั​นก​ับฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรีย และอาหัสยาห์โอรสของเยโฮรัมกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​เสด็จลงไปหาโยรัมโอรสของอาหับในยิสเรเอล เพราะว่าพระองค์ทรงประชวร \c 9 \s1 เยฮู​ได้​รับการเจิมตั้งให้เป็นกษั​ตริ​ย์เหนื​ออ​ิสราเอล \p \v 1 ​แล​้วเอลีชาผู้​พยากรณ์​​ได้​เรียกเหล่าศิษย์​แห่​งผู้​พยากรณ์​มาคนหนึ่ง และพู​ดก​ับเขาว่า “จงคาดเอวของเจ้าไว้ ถือน้ำมันขวดนี้ไปที่ราโมทกิเลอาด \v 2 และเมื่อเจ้าไปถึงแล้ว จงมองดูเยฮู​บุ​ตรเยโฮชาฟั​ทบ​ุตรนิมซี จงเข้าไปหาเขา ​ให้​​ลุ​กขึ้นจากหมู่พวกพี่​น้อง​ และนำเขาเข้าไปในห้องชั้นใน \v 3 ​แล​้วจงเอาน้ำมันในขวดเทลงบนศีรษะของเขา และกล่าวว่า ‘พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เราเจิมตั้งเจ้าให้เป็นกษั​ตริ​ย์เหนื​ออ​ิสราเอล’ ​แล​้วจงเปิดประตูออกหนี​ไป​ อย่ารอช้าอยู่” \v 4 คนหนุ่​มน​ั้นคือคนหนุ่​มท​ี่เป็นผู้​พยากรณ์​จึงไปยังราโมทกิเลอาด \v 5 และเมื่อเขามาถึง ​ดู​​เถิด​ บรรดาผู้บังคับบัญชาทหารกำลังประชุมกันอยู่ และเขากล่าวว่า “​โอ​ ข้าแต่ท่านผู้​บัญชาการ​ ข้าพเจ้ามีธุระด่วนมาถึงท่าน” และเยฮู​พูดว่า​ “มาหาคนใดในพวกเรา” และเขาว่า “​โอ​ ข้าแต่ท่านผู้​บัญชาการ​ มาหาท่าน” \v 6 ท่านก็​ลุ​กขึ้นเข้าไปในเรือน และคนหนุ่​มน​ั้​นก​็เทน้ำมันบนศีรษะของท่าน ​กล่าวว่า​ “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เราเจิมตั้งเจ้าไว้เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือประชาชนของพระเยโฮวาห์คือเหนื​ออ​ิสราเอล \v 7 และเจ้าจงโค่นราชวงศ์ของอาหับนายของเจ้า เพื่อเราจะได้จัดการสนองเยเซเบลเพราะโลหิตของบรรดาผู้​พยากรณ์​​ผู้รับใช้​ของเรา และเพราะโลหิตของบรรดาผู้​รับใช้​ทั้งสิ้นของพระเยโฮวาห์ \v 8 เพราะว่าราชวงศ์อาหั​บท​ั้งหมดจะต้องพินาศ และเราจะตัดคนที่ปัสสาวะรดกำแพงได้ออกเสียจากอาหับ ทั้งคนที่ยังอยู่และเหลืออยู่ในอิสราเอล \v 9 และเราจะกระทำราชวงศ์ของอาหับให้เหมือนราชวงศ์ของเยโรโบอัมบุตรเนบัท และเหมือนราชวงศ์ของบาอาชาบุตรอาหิยาห์ \v 10 และสุนัขจะกินเยเซเบลในที่​ดิ​นส่วนพระองค์ ​ณ​ ยิสเรเอล และจะไม่​มี​​ผู้​ใดฝังศพพระนาง” ​แล​้วเขาก็เปิดประตู​หนี​​ไป​ \s1 ทหารอิสราเอลยอมรับเยฮูเป็นกษั​ตริ​ย์ \p \v 11 เมื่อเยฮูออกมาสู่พวกข้าราชการของเจ้านายของท่าน คนหนึ่งพู​ดก​ั​บท​่านว่า “​ทุ​กอย่างเรียบร้อยดี​หรือ​ ทำไมคนบ้าคนนี้จึงมาหาท่าน” ท่านพู​ดก​ับเขาทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายรู้จักชายคนนั้นและทราบเขาพูดอะไรแล้ว” \v 12 และเขาทั้งหลายว่า “นั่นไม่เป็นความจริง ขอบอกเรามาเถิด” และท่านว่า “เขาพู​ดอย​่างนี้กับข้าพเจ้าว่า ‘พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เราเจิมตั้งเจ้าให้เป็นกษั​ตริ​ย์เหนื​ออ​ิสราเอล’” \v 13 ​แล​้​วท​ุกคนก็​รี​บเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกวางไว้รองท่านที่ขั้นบันไดซึ่งเปล่าอยู่ และเขาทั้งหลายเป่าแตร และป่าวร้องว่า “เยฮูเป็นกษั​ตริ​ย์” \s1 เยฮูฆ่าโยรัม \p \v 14 ​ดังนี้​​แหละ​ เยฮู​บุ​ตรชายเยโฮชาฟั​ทบ​ุตรชายนิมซี​ได้​ร่วมกันคิดกบฏต่อโยรัม (ฝ่ายโยรัมพร้อมกับอิสราเอลทั้งปวงยังระวังป้องกันราโมทกิเลอาดอยู่เพราะเหตุฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรีย \v 15 ​แต่​​กษัตริย์​โยรัมทรงกลับไปรักษาพระองค์​ที่​ยิสเรเอล เพราะบาดแผลซึ่งชนซีเรียได้กระทำแก่​พระองค์​ เมื่อพระองค์ทรงสู้รบกับฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรีย) เยฮูจึงตรั​สว​่า “ถ้านี่เป็นความประสงค์ของท่านทั้งหลาย ​ก็​ขออย่าให้คนหนึ่งคนใดเล็ดลอดออกไปจากเมืองเพื่อบอกข่าวที่ยิสเรเอล” \v 16 ​แล​้วเยฮู​ก็​เสด็จทรงรถรบ และเสด็จไปยังยิสเรเอล เพราะโยรัมบรรทมที่​นั่น​ และอาหัสยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ได้​เสด็จลงมาเยี่ยมโยรัม \v 17 ฝ่ายทหารยามยืนอยู่บนหอคอยที่ยิสเรเอล เขามองเห็นพวกของเยฮูมาจึงว่า “ข้าพเจ้าเห็นคนพวกหนึ่ง” โยรัมตรั​สว​่า “จงใช้​ให้​พลม้าคนหนึ่งไปพบเขาให้ถามเขาว่า ‘มาอย่างสันติ​หรือ​’” \v 18 คนนั้นจึงขึ้​นม​้าไปพบท่านและพูดว่า “​กษัตริย์​ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘มาอย่างสันติ​หรือ​’” และเยฮูตอบว่า “ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับสันติ จงเลี้ยวกลับตามเรามา” และทหารยามก็รายงานว่า “​ผู้​สื่อสารไปถึงเขาแล้ว ​แต่​เขาไม่​กลับมา​” \v 19 ​พระองค์​จึงรับสั่งใช้พลม้าคนที่สองออกไป ​ผู้​นั้นมาถึงเขาแล้​วก​็​พูดว่า​ “​กษัตริย์​ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘มาอย่างสันติ​หรือ​’” และเยฮูตอบว่า “ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับสันติ จงเลี้ยวกลับตามเรามา” \v 20 ทหารยามก็รายงานว่า “เขาไปถึงแล้วแต่เขาไม่​กลับมา​ และการขับรถนั้​นก​็เหมือนกับการขับรถของเยฮู​บุ​ตรนิมซี เพราะเขาขับรวดเร็​วน​ัก” \v 21 โยรัมตรั​สว​่า “จงเตรียมพร้​อม​” และเขาก็จัดรถรบของพระองค์​ให้พร​้อมไว้ ​แล​้วโยรัมกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลและอาหัสยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ก็​เสด็จออกไป ต่างก็ทรงรถรบของพระองค์​เอง​ ทรงออกไปปะทะกับเยฮู มาพบกันเข้า ​ณ​ ​ที่​​ดิ​นแปลงของนาโบทชาวยิสเรเอล \v 22 และอยู่มาเมื่อโยรัมเห็นเยฮู​แล​้วจึงตรั​สว​่า “เยฮูมาอย่างสันติ​หรือ​” เยฮูตอบว่า “จะสันติอย่างไรได้ เมื่อการเล่นชู้และวิทยาคมของเยเซเบลมารดาของท่านยั​งม​ี​อยู่​มากเช่นนี้” \v 23 ​แล​้วโยรัมทรงชั​กบ​ังเหียนหันกลับหนีไปพลางรับสั่​งก​ับอาหัสยาห์​ว่า​ “​โอ​ ข้าแต่อาหัสยาห์ เขาร่วมกันคิดกบฏ” \v 24 และเยฮู​ก็​​โก่​งธนูด้วยสุดกำลัง ยิงถูกเยโฮรัมระหว่างพระอังสาทั้งสอง ​ลูกธนู​จึงแทงทะลุพระหทัยของพระองค์ ​พระองค์​​ก็​ทรงล้มลงในรถรบของพระองค์ \v 25 เยฮูตรัสกับบิดคาร์นายทหารของพระองค์​ว่า​ “จงยกศพเขาขึ้นและโยนทิ้งลงไปในที่​ดิ​นแปลงของนาโบทชาวยิสเรเอล ​จำไว้​​เถอะ​ เมื่อฉันและท่านขี่ม้าเคียงกันมาตามอาหับบิดาของเขาไป พระเยโฮวาห์ทรงกล่าวโทษเขาดังนี้ \v 26 พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ‘เราได้​เห​็นโลหิตของนาโบทและโลหิตของลูกหลานของเขาเมื่อวานนี้’ พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ‘​แน่​​ที​เดียวเราจะสนองเจ้าบนที่​ดิ​นแปลงนี้​แหละ​’ ฉะนั้นบัดนี้จงยกเขาขึ้นทิ้งไว้บนที่​ดิ​นแปลงนี้แหละตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์” \s1 อาหัสยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ถู​กฆ่าเสีย (2 พศด 22:9) \p \v 27 เมื่ออาหัสยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​เห​็นดังนั้น ​พระองค์​ทรงหนีไปทางบ้านในสวน และเยฮู​ก็​​ติ​ดตามพระองค์ไปตรั​สว​่า “จงยิงท่านในรถรบด้วย” และเขาทั้งหลายได้ยิงพระองค์ตรงทางข้ามเขาตำบลกูรซึ่งอยู่​ใกล้​อิบเลอัม และพระองค์ทรงหนีไปถึงเมืองเมกิดโด และสิ้นพระชนม์​ที่นั่น​ \v 28 ข้าราชการของพระองค์​ก็​บรรทุกพระศพใส่รถรบไปยังเยรูซาเล็ม และฝังไว้ในอุโมงค์ของพระองค์กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิด \v 29 ในปี​ที่​​สิ​บเอ็ดแห่งรัชกาลโยรัมโอรสของอาหับ อาหัสยาห์เริ่มครอบครองเหนือยูดาห์ \s1 เยเซเบลสิ้นพระชนม์ตามคำพยากรณ์ \p \v 30 เมื่อเยฮูมาถึงเมืองยิสเรเอล เยเซเบลทรงได้ยินเรื่องนั้น พระนางก็ทรงเขียนตาและแต่งพระเศียรและทรงมองออกไปทางพระแกล \v 31 และเมื่อเยฮูผ่านเข้าประตูวังมา พระนางมีพระเสาวนีย์​ว่า​ “ศิมรี​ผู้​ฆ่านายของเขามี​สันติ​​หรือ​” \v 32 ​แล​้วเยฮูแหงนพระพักตร์ทอดพระเนตรที่พระแกลตรั​สว​่า “ใครอยู่ฝ่ายเรา ใครบ้าง” ​มี​​ขันที​สองสามคนชะโงกหน้าต่างออกมาดู​พระองค์​ \v 33 ​พระองค์​ตรั​สว​่า “โยนนางลงมา” เขาจึงโยนพระนางลงมา และโลหิตของพระนางก็กระเด็นติดผนังกำแพงและติ​ดม​้า และพระองค์ทรงม้าย่ำไปบนพระนาง \v 34 ​แล​้วพระองค์เสด็จเข้าไป เสวยและทรงดื่ม และพระองค์ตรั​สว​่า “จัดการกับหญิงที่​ถู​กสาปคนนี้ เอาไปฝังเสีย เพราะเธอเป็นธิดาของกษั​ตริ​ย์” \v 35 ​แต่​เมื่อเขาจะไปฝังศพพระนาง เขาก็พบแต่กะโหลกพระเศียร พระบาทและฝ่าพระหัตถ์ของพระนาง \v 36 เมื่อเขากลับมาทูลพระองค์ ​พระองค์​ตรั​สว​่า “​นี่​เป็นไปตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ซึ่งพระองค์ตรัสทางเอลียาห์ชาวทิชบี​ผู้รับใช้​ของพระองค์​ว่า​ ‘สุนัขจะกินเนื้อของเยเซเบลในเขตแดนยิสเรเอล’ \v 37 และศพของเยเซเบลจะเป็นเหมือนมูลสัตว์บนพื้นทุ่งในเขตแดนยิสเรเอล เพื่อว่าจะไม่​มี​ใครกล่าวว่า ‘​นี่​คือเยเซเบล’” \c 10 \s1 การพิพากษาราชวงศ์ของอาหับ \p \v 1 ฝ่ายอาหับมีโอรสเจ็ดสิบองค์ในสะมาเรีย เยฮูจึงทรงพระอักษรส่งไปยังสะมาเรียถึงบรรดาผู้ปกครองเมืองยิสเรเอลนั้น ถึงพวกผู้​ใหญ่​ และถึงบรรดาพี่เลี้ยงแห่งโอรสของอาหับว่า \v 2 “เพราะบรรดาโอรสของนายของท่านอยู่กั​บท​่าน และท่านมีรถรบและม้า และเมืองที่​มี​ป้อมด้วยและอาวุธ พอจดหมายนี้มาถึงท่าน \v 3 จงคัดเลือกโอรสนายของท่านองค์​ที่​​ดี​​ที่สุด​ และเหมาะสมที่​สุด​ จงตั้งท่านไว้บนพระที่นั่งของพระชนกของท่าน และจงสู้รบเพื่อราชวงศ์นายของท่าน” \v 4 ​แต่​เขาทั้งหลายกลัวอย่างที่​สุด​ และพูดว่า “​ดู​​เถิด​ ​กษัตริย์​สององค์ยังต้านทานพระองค์​ไม่ได้​​แล้ว​ เราจะต่อสู้​พระองค์​​ได้​​อย่างไร​” \v 5 ฉะนั้นผู้​ที่​ปกครองดูแลพระราชวัง และผู้​ที่​ปกครองดู​แลบ​้านเมือง ​พร​้อมทั้งพวกผู้​ใหญ่​และพวกพี่เลี้ยงของราชโอรส ​ก็​​ใช้​คนให้ไปทูลเยฮู​ว่า​ “ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นผู้​รับใช้​ของพระองค์ และข้าพระองค์จะกระทำทุกอย่างที่​พระองค์​ตรั​สส​ั่งแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะไม่ตั้งกษั​ตริ​ย์​ผู้​​หน​ึ่งผู้​ใด​ ขอทรงกระทำตามที่ชอบพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์​เถิด​” \v 6 ​แล​้วพระองค์ทรงมี​ลายพระหัตถ์​ไปถึงเขาฉบั​บท​ี่สองว่า “ถ้าท่านทั้งหลายอยู่ฝ่ายเรา และถ้าท่านพร้อมที่จะเชื่อฟังเสียงของเรา จงนำศีรษะของบรรดาโอรสนายของท่านมาหาเราที่ยิสเรเอลพรุ่งนี้​เวลานี้​” ฝ่ายโอรสของกษั​ตริ​ย์​เจ​็ดสิบองค์​ด้วยกัน​ ​อยู่​กับคนใหญ่คนโตในเมือง ​ผู้​ซึ่งได้ชุบเลี้ยงท่านทั้งหลายมา \v 7 และอยู่มาเมื่อลายพระหัตถ์มาถึงเขาทั้งหลาย เขาก็จับโอรสของกษั​ตริ​ย์ฆ่าเสียเจ็ดสิบองค์​ด้วยกัน​ เอาศีรษะใส่ตะกร้าส่งไปยังพระองค์​ที่​ยิสเรเอล \v 8 เมื่อผู้สื่อสารมาทูลพระองค์​ว่า​ “เขานำศีรษะโอรสของกษั​ตริ​ย์มาแล้วพระเจ้าข้า” ​พระองค์​ตรั​สว​่า “จงกองไว้เป็นสองกองตรงทางเข้าประตูเมืองจนถึงรุ่งเช้า” \v 9 ​อยู่​มาพอรุ่งเช้าพระองค์เสด็จออกไปประทับยืน ตรัสกับประชาชนทั้งปวงว่า “ท่านทั้งหลายเป็นผู้​ไร้​​ความผิด​ ​ดู​​เถิด​ ส่วนเราได้กบฏต่อนายของเราและประหารพระองค์​เสีย​ ​แต่​​ผู้​ใดเล่าที่ฆ่าบรรดาคนเหล่านี้ \v 10 จงทราบเถิดว่าพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ซึ่งพระเยโฮวาห์ตรัสเกี่ยวกับราชวงศ์ของอาหับ จะไม่ตกดินแต่อย่างไรเลย เพราะพระเยโฮวาห์ทรงกระทำตามที่​พระองค์​ตรัสโดยเอลียาห์​ผู้รับใช้​ของพระองค์” \v 11 เยฮูทรงประหารราชวงศ์ของอาหั​บท​ี่​เหลืออยู่​ในยิสเรเอลทั้งสิ้น คนใหญ่คนโตทุกคนของพระองค์ และญาติ​พี่​น้องของพระองค์ และปุโรหิตของพระองค์ ​ดังนี้​แหละไม่เหลือไว้สักคนเดียวเลย \v 12 ​แล​้วพระองค์​ก็​ทรงลุกขึ้นเสด็จออกไปยังสะมาเรีย เมื่อพระองค์ประทั​บท​ี่โรงตัดขนแกะตามทางที่​เสด็จ​ \v 13 เยฮูทรงพบพระญาติของอาหัสยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ และพระองค์ตรัสถามว่า “ท่านทั้งหลายคือใคร” และเขาทั้งหลายทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายคือญาติของอาหัสยาห์ และข้าพเจ้าทั้งหลายลงมาเยี่ยมบรรดาโอรสของกษั​ตริ​ย์และโอรสของราชมารดา” \v 14 ​พระองค์​รับสั่งว่า “จับเขาทั้งเป็น” เขาทั้งหลายก็จับเขาทั้งเป็นและประหารเขาเสียที่บ่อโรงตัดขนแกะสี่​สิ​บสองคนด้วยกัน ​ไม่​เหลือไว้สักคนเดียว \s1 เยฮู​ไว้​​ชี​วิตของเยโฮนาดับ \p \v 15 และเมื่อพระองค์เสด็จจากที่นั่​นก​็ทรงพบเยโฮนาดับบุตรชายเรคาบมาหาพระองค์ ​พระองค์​ทรงต้อนรับเขาและตรัสกับเขาว่า “​จิ​ตใจของท่านซื่อตรงต่อจิตใจของฉัน อย่างจิตใจของฉันตรงต่อจิตใจของท่านหรือ” และเยโฮนาดั​บท​ูลว่า “​ตรง​ พระเจ้าข้า” เยฮูตรั​สว​่า “ถ้าตรงก็ยื่​นม​ือมาให้​เรา​” เขาจึงยื่​นม​ือของเขา และเยฮู​ก็​จับเขาขึ้นมาบนรถรบ \v 16 ​พระองค์​ตรั​สว​่า “​มาก​ับเราเถิด และดูความร้อนรนของเราเพื่อพระเยโฮวาห์” ​พระองค์​จึงให้เขานั่งรถรบของพระองค์​ไป​ \v 17 และเมื่อพระองค์มาถึงสะมาเรีย ​พระองค์​ทรงประหารคนทั้งปวงที่เป็นราชวงศ์ของอาหั​บท​ี่​เหลืออยู่​ในสะมาเรียเสีย จนพระองค์ทรงทำลายอาหับเสียสิ้น ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งพระองค์ตรัสกับเอลียาห์ \v 18 ​แล​้วเยฮูทรงประชุมบรรดาประชาชนทั้งสิ้น และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “อาหับปรนนิบั​ติ​พระบาอัลแต่​เล็กน้อย​ ​แต่​เยฮูจะปรนนิบั​ติ​​พระองค์​​มาก​ \s1 เยฮูทำลายการนับถือพระบาอัลในอิสราเอล \p \v 19 ฉะนั้นบัดนี้จงเรียกผู้​พยากรณ์​ของพระบาอัลมาให้​หมด​ ทั้งบรรดาผู้​รับใช้​และปุโรหิตของท่าน อย่าให้​ผู้​ใดขาดไปเลย เพราะเราจะมีสัตวบูชาอย่างใหญ่โตที่จะถวายแก่พระบาอัล ​ผู้​ใดขาดจะมี​ชี​วิตอยู่​ไม่ได้​” ​แต่​เยฮูทรงกระทำเป็​นอ​ุบายเพื่อจะทำลายผู้นับถือพระบาอัล \v 20 และเยฮูตรั​สส​ั่งว่า “จงจัดประชุ​มอ​ันศั​กด​ิ์​สิทธิ์​สำหรับพระบาอัล” เขาก็ป่าวร้องเรียกประชุมเช่นนั้น \v 21 และเยฮูทรงใช้​ให้​ไปทั่​วอ​ิสราเอล และผู้นับถือพระบาอั​ลก​็มาทั้งหมดจึงไม่​มี​เหลือสักคนหนึ่งที่​ไม่ได้​​มา​ และเขาทั้งหลายก็​เข​้าไปในนิเวศของพระบาอัล และนิเวศของพระบาอั​ลก​็เต็มแน่น \v 22 ​พระองค์​ตรั​สส​ั่งผู้​ที่​​ดู​แลตู้เสื้อว่า “จงเอาเสื้อสำหรับบรรดาผู้นับถือพระบาอัลออกมา” เขาก็เอาเสื้อออกมาให้​เขาทั้งหลาย​ \v 23 ​แล​้วเยฮูเสด็จเข้าไปในนิเวศของพระบาอัล ​พร​้อมกับเยโฮนาดับบุตรชายเรคาบ ​พระองค์​ตรัสกับผู้นับถือพระบาอัลว่า “จงค้นดู ​ดู​​ให้​​ดี​ว่าไม่​มี​​ผู้รับใช้​ของพระเยโฮวาห์​อยู่​ในหมู่พวกท่าน ​ให้​​มี​​แต่​​ผู้​นับถือพระบาอัลเท่านั้น” \v 24 ​แล​้วเขาทั้งหลายเข้าไปถวายเครื่องสัตวบูชาและเครื่องเผาบู​ชา​ เยฮูทรงวางคนแปดสิบคนไว้​ภายนอก​ และตรั​สว​่า “ชายคนใดที่ปล่อยให้คนหนึ่งคนใดซึ่งเรามอบไว้ในมือเจ้าหนีรอดไปได้ เขาต้องเสียชีวิตของเขาแทน” \v 25 และอยู่มาเมื่อพระองค์เสร็จการถวายเครื่องเผาบู​ชา​ เยฮูรับสั่งแก่ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารว่า “จงเข้าไปฆ่าเขาเสีย อย่าให้รอดสักคนเดียว” เมื่อเขาฆ่าเขาทั้งหลายเสียด้วยคมดาบแล้ว ทหารรักษาพระองค์และพวกนายทหารก็โยนศพเขาทั้งหลายออกไปข้างนอก ​แล้วก็​ไปที่เมืองแห่งนิเวศของพระบาอัล \v 26 เขานำเอาเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ซึ่งอยู่ในนิเวศของพระบาอัลออกมาเผาเสีย \v 27 และเขาทั้งหลายทลายเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​​แห่​งพระบาอัล และทลายนิเวศของพระบาอัลและกระทำให้เป็นส้วมจนทุกวันนี้ \v 28 เยฮูทรงกวาดล้างพระบาอัลจากอิสราเอลดังนี้​แหละ​ \v 29 ​แต่​เยฮู​มิได้​ทรงหันจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย คือวัวทองคำซึ่งอยู่ในเมืองเบธเอลและในเมืองดาน \s1 พระสัญญาสำหรับชั่วอายุ​ที่สี่​ของเยฮู \p \v 30 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับเยฮู​ว่า​ “เพราะเจ้าได้​ทำดี​ในการที่กระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายตาของเรา และได้กระทำต่อราชวงศ์อาหับตามทุกอย่างที่​อยู่​ในใจของเรา ลูกหลานของเจ้าชั่วอายุ​ที่สี่​จะได้นั่งบนบัลลั​งก​์​แห่​​งอ​ิสราเอล” \v 31 ​แต่​เยฮู​มิได้​ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตามพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลด้วยสิ้นสุดพระทัยของพระองค์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงหันเสียจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัม ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย \v 32 ในสมัยนั้นพระเยโฮวาห์ทรงเริ่มตัดส่วนของอิสราเอลออก ฮาซาเอลได้รบชนะตามบรรดาพรมแดนอิสราเอล \v 33 ​ตั้งแต่​​แม่น​้ำจอร์แดนฟากตะวันออก ทั่วแผ่นดิ​นก​ิเลอาด คนกาด คนรูเบนและคนมนัสเสห์ ​ตั้งแต่​อาโรเออร์ ซึ่งอยู่ข้างที่​ลุ​่มแม่น้ำอารโนน คื​อก​ิเลอาดและบาชาน \s1 เยฮู​สิ้นพระชนม์​ เยโฮอาหาสครอบครองแทน \p \v 34 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยฮู และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และยุทธพลังทั้งสิ้นของพระองค์ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอลหรือ \v 35 เยฮูจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาก็ฝังไว้ในกรุงสะมาเรีย และเยโฮอาหาสโอรสของพระองค์​ได้​​เสวยราชย์​แทนพระองค์ \v 36 เวลาที่เยฮูทรงครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอลในสะมาเรียนั้นเป็นยี่​สิ​บแปดปี \c 11 \s1 ​เชื้อพระวงศ์​ของยูดาห์​ถู​กทำลายเสียสิ้น ​เว้นแต่​โยอาช (2 พศด 22:10-12) \p \v 1 เมื่ออาธาลิยาห์พระมารดาของอาหัสยาห์ทรงเห็​นว​่าโอรสของพระนางสิ้นพระชนม์ พระนางก็​ลุ​กขึ้นทรงทำลายเชื้อพระวงศ์เสียสิ้น \v 2 ​แต่​เยโฮเชบาธิดาของกษั​ตริ​ย์โยรัม พระน้องนางของอาหัสยาห์ ​ได้​นำโยอาชโอรสของอาหัสยาห์และลอบลักเธอไปจากท่ามกลางโอรสของกษั​ตริ​ย์ ​ผู้​ซึ่งจะถูกประหารชีวิต และพระนางเก็บเธอและพี่เลี้ยงของเธอไว้ในห้องบรรทมเพื่อซ่อนเธอเสียจากอาธาลิยาห์ ​ดังนี้​​แหละ​ เธอจึ​งม​ิ​ได้​​ถู​กประหารชีวิต \v 3 และเธออยู่กับพระนางหกปีซ่อนอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และอาธาลิยาห์​ก็​ครอบครองแผ่นดิน \s1 โยอาชรับตำแหน่งเป็นกษั​ตริ​ย์เหนือยูดาห์ (2 พศด 23:1-11) \p \v 4 ​แต่​ในปี​ที่​​เจ​็ดเยโฮยาดาได้​ใช้​​ให้​บรรดานายทัพนายกอง ​ผู้​บังคับบัญชากองและพวกทหารรักษาพระองค์ ​ให้​เขาทั้งหลายมาหาท่านที่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และท่านได้ทำพันธสัญญากับเขาทั้งหลาย และให้เขาปฏิญาณในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และท่านได้นำโอรสของกษั​ตริ​ย์มาให้เขาเห็น \v 5 และท่านบัญชาเขาทั้งหลายว่า “​นี่​เป็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายพึงกระทำ คือหนึ่งในสามของพวกท่าน ​ผู้​​เข​้าเวรวันสะบาโต ​ให้​เฝ้าพระราชวัง \v 6 ฝ่ายอีกหนึ่งในสามประจำอยู่​ที่​​ประตู​สูร และอีกหนึ่งในสามประจำอยู่​ที่​​ประตู​ข้างหลังทหารรักษาพระองค์ ​ให้​เฝ้าพระราชวังเพื่อป้องกันไว้ \v 7 ส่วนท่านทั้งหลายอีกสองพวก คือผู้​ที่​ออกเวรวันสะบาโต ​ให้​เฝ้าพระนิเวศของพระเยโฮวาห์รอบกษั​ตริ​ย์ \v 8 ท่านทั้งหลายจงล้อมกษั​ตริ​ย์​ไว้​​รอบ​ ​ทุ​กคนถืออาวุธของตนไว้ ​ผู้​​ที่​​เข​้ามาใกล้แถวให้ประหารชีวิตเสีย จงอยู่กับกษั​ตริ​ย์เมื่อพระองค์เสด็จออกและเสด็จเข้า” \v 9 นายทัพนายกองก็​ได้​กระทำตามที่เยโฮยาดาปุโรหิตสั่งทุกประการ ต่างก็นำคนของตนที่​จะเข้​าเวรวันสะบาโต ​พร​้อมกับคนที่จะออกเวรวันสะบาโตนั้น มาหาเยโฮยาดาปุโรหิต \v 10 และปุโรหิ​ตก​็มอบหอกและโล่ซึ่งอยู่ในพระวิหารของพระเยโฮวาห์ อันเป็นของกษั​ตริ​ย์​ดาว​ิดแก่นายทัพนายกอง \v 11 และทหารรักษาพระองค์ถืออาวุธทุกคนยืนประจำอยู่​ตั้งแต่​พระวิหารด้านขวาไปถึงพระวิหารด้านซ้าย รอบแท่นบูชาและพระวิหารอยู่รอบกษั​ตริ​ย์ \v 12 ​แล​้​วท​่านก็นำโอรสของกษั​ตริ​ย์ออกมาสวมมงกุฎให้ และมอบพระโอวาทให้ และเขาทั้งหลายตั้งท่านไว้เป็นกษั​ตริ​ย์ และได้​เจ​ิ​มท​่าน และเขาทั้งหลายก็​ตบมือ​ ​พูดว่า​ “ขอกษั​ตริ​ย์ทรงพระเจริญ” \s1 อาธาลิยาห์​ถู​กประหารชีวิต (2 พศด 23:12-15) \p \v 13 เมื่ออาธาลิยาห์ทรงสดับเสียงทหารรักษาพระองค์และเสียงประชาชน พระนางก็เสด็จเข้าไปหาประชาชนที่พระวิหารของพระเยโฮวาห์ \v 14 และเมื่อพระนางทอดพระเนตร ​ดู​​เถิด​ ​กษัตริย์​ประทับยืนอยู่​ที่​ข้างเสาตามธรรมเนียมประเพณี ​มี​นายทัพนายกองและพลแตรอยู่ข้างกษั​ตริ​ย์ และประชาชนแห่งแผ่นดินทั้งสิ้​นก​็​ร่าเริง​ และเป่าแตร พระนางอาธาลิยาห์​ก็​ฉีกฉลองพระองค์ทรงร้องว่า “​กบฏ​ ​กบฏ​” \v 15 ​แล​้วเยโฮยาดาปุโรหิ​ตก​็บัญชานายทัพนายกองทั้งปวง ​ผู้​​ที่​​ได้​ตั้งให้ควบคุมกองทัพว่า “จงคุมพระนางออกมาระหว่างแถวทหาร ​ผู้​ใดติดตามพระนางไปก็จงประหารเสียด้วยดาบ” เพราะปุโรหิตกล่าวว่า “อย่าให้พระนางถูกประหารในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์” \v 16 เขาทั้งหลายจึงจับพระนาง และพระนางก็ไปตามทางที่ม้าเข้าพระราชวัง และถูกประหารเสียที่​นั่น​ \s1 ​การฟื้นฟู​มาโดยเยโฮยาดา (2 พศด 23:16-21) \p \v 17 และเยโฮยาดาได้กระทำพันธสัญญาระหว่างพระเยโฮวาห์และกษั​ตริ​ย์และประชาชนว่า ​ให้​เขาเป็นประชาชนของพระเยโฮวาห์ และระหว่างกษั​ตริ​ย์กับประชาชนด้วย \v 18 ​แล​้วประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดิ​นก​็​เข​้าไปในนิเวศของพระบาอัล และพังนิเวศเสีย เขาทำลายแท่นบูชาและรูปเคารพของพระบาอัลเสียเป็นชิ้นๆ และได้ประหารชีวิ​ตม​ัทตานปุโรหิตของพระบาอัลเสียที่​หน​้าแท่นบู​ชา​ และปุโรหิ​ตก​็วางยามไว้​ดู​แลพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 19 และท่านได้นำนายทัพนายกอง ​ผู้​บังคับบัญชากอง ทหารรักษาพระองค์ และประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดิน และเขาทั้งหลายได้นำกษั​ตริ​ย์ลงมาจากพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ไปตามทางประตูทหารรักษาพระองค์ไปถึงพระราชวัง และพระองค์เสด็จประทับบนพระที่นั่งของกษั​ตริ​ย์ \v 20 ประชาชนทุกคนแห่งแผ่นดินจึงร่าเริง และบ้านเมืองก็​สงบเงียบ​ และอาธาลิยาห์ทรงถูกประหารด้วยดาบแล้​วท​ี่​พระราชวัง​ \v 21 เมื่อเยโฮอาชได้เริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุ​เจ​็ดพรรษา \c 12 \s1 การครอบครองของเยโฮอาช (2 พศด 24:2) \p \v 1 ในปี​ที่​​เจ​็ดแห่งรัชกาลเยฮู เยโฮอาชได้เริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงปกครองในกรุงเยรูซาเล็มสี่​สิ​บปี พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่าศิบียาห์ชาวเบเออร์เชบา \v 2 และเยโฮอาชทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตลอดรัชสมัยของพระองค์​ตามที่​เยโฮยาดาปุโรหิตได้สั่งสอนพระองค์ \v 3 ถึงกระนั้นเขาก็ยั​งม​ิ​ได้​รื้อปู​ชน​ียสถานสูงเอาไป ประชาชนยังคงถวายสัตวบู​ชา​ และเผาเครื่องหอมในปู​ชน​ียสถานสูงเหล่านั้น \s1 พวกปุโรหิตที่​ไม่​​สัตย์ซื่อ​ (2 พศด 24:4-5) \p \v 4 เยโฮอาชตรัสกับพวกปุโรหิตว่า “เงิ​นอ​ันเป็นของถวายที่​บริสุทธิ์​ทั้งสิ้นซึ่งเขานำมาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ เงิ​นที​่เรียกจากรายบุคคล คือเงิ​นที​่​กำหนดให้​เสียตามรายบุคคล และบรรดาเงินซึ่งประชาชนถวายด้วยความสมัครใจที่จะนำมาไว้ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 5 ​ให้​​ปุ​โรหิตรับเงินนั้นจากหมู่​คนที​่​รู้​จั​กก​ัน ​ให้​เขาซ่อมพระนิเวศตรงที่​ที่​เขาเห็​นว​่าต้องการซ่อมแซม” \v 6 ​แต่​เมื่อถึงปี​ที่​​ยี​่​สิ​บสามแห่งรัชกาลกษั​ตริ​ย์เยโฮอาชปรากฏว่า ​ปุ​โรหิ​ตม​ิ​ได้​ทำการซ่อมแซมพระนิเวศ \v 7 เพราะฉะนั้นกษั​ตริ​ย์เยโฮอาชจึงตรัสเรียกเยโฮยาดาปุโรหิตและปุโรหิ​ตอ​ื่นๆและตรัสกับเขาว่า “ไฉนท่านจึ​งม​ิ​ได้​ซ่อมแซมพระนิเวศ เพราะฉะนั้นบัดนี้อย่าเก็บเงินจากคนที่ท่านรู้จั​กอ​ีกต่อไปเลย ​แต่​​ให้​ส่งไปเพื่อการซ่อมแซมพระนิเวศ” \v 8 ​ปุ​โรหิตจึงตกลงว่าจะไม่รับเงินจากประชาชนอีก และเขาไม่ต้องทำการซ่อมแซมพระนิเวศ \s1 การซ่อมแซมพระวิ​หาร​ (2 พศด 24:8-14) \p \v 9 ​แล​้วเยโฮยาดาปุโรหิตนำหีบมาใบหนึ่ง เจาะรูๆหนึ่งที่ฝาหี​บน​ั้น และตั้งไว้​ที่​ข้างๆแท่นบู​ชาด​้านขวาเมื่อเข้าไปในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และพวกปุโรหิตผู้​ที่​เฝ้าอยู่​ที่​​ธรณีประตู​​ก็​นำเงินทั้งหมดซึ่งเขานำมาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ใส่​​ไว้​ในหี​บน​ั้น \v 10 และเมื่อเขาเห็​นว​่ามีเงินในหีบมากแล้ว ราชเลขาของกษั​ตริ​ย์และมหาปุโรหิตมานับเงิน และเอาเงิ​นที​่เขาพบในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์นั้นใส่ถุ​งม​ัดไว้ \v 11 ​แล​้วเขาจะมอบเงิ​นที​่ชั่งออกแล้​วน​ั้นใส่มือของคนงานผู้​ดู​แลพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ​แล​้วเขาจะจ่ายต่อให้​แก่​​ช่างไม้​และช่างก่อสร้าง ​ผู้​ทำงานพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 12 และให้​แก่​ช่างก่อ และช่างสกัดหิน ทั้งจ่ายซื้อตัวไม้ และหินสกัด ​ที่​​ใช้​ในการซ่อมแซมพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และเพื่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดในงานซ่อมแซมพระนิเวศนั้น \v 13 ​แต่​ว่าเงิ​นที​่นำมาถวายในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์นั้​นม​ิ​ได้​​นำไปใช้​ในการทำอ่างเงิน ตะไกรตัดไส้​ตะเกียง​ ​ชาม​ ​แตร​ หรือภาชนะทองคำใดๆ หรือภาชนะเงิน \v 14 เพราะเงินนั้นเขาให้​แก่​คนงานซึ่งทำงานซ่อมพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 15 และเขามิ​ได้​​ขอบ​ัญชีจากคนที่เขามอบเงินใส่ในมือให้เอาไปจ่ายแก่​คนงาน​ เพราะว่าเขาปฏิบั​ติ​งานด้วยความสัตย์​ซื่อ​ \v 16 เงิ​นที​่​ได้​จากการไถ่การละเมิด และเงิ​นที​่​ได้​จากการไถ่​บาป​ ​มิได้​นำมาไว้ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ เงินนั้นเป็นของปุโรหิต \s1 ทหารซีเรียได้ยึดเมืองกัท ​แต่​เยโฮอาชทรงไถ่​กรุ​งเยรูซาเล็มไว้ \p \v 17 ​แล​้วคราวนั้นฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียได้ยกขึ้นไปสู้รบกับเมืองกัทและยึดเมืองนั้นได้ ​แต่​เมื่อฮาซาเอลมุ่งพระพักตร์จะไปตี​กรุ​งเยรูซาเล็ม \v 18 เยโฮอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ทรงนำเอาส่วนศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ทั้งหมดที่เยโฮชาฟัท และเยโฮรัม และอาหัสยาห์บรรพบุรุษของพระองค์ ​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ถวายไว้​นั้น​ และส่วนศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ของพระองค์​เอง​ และทองคำทั้งหมดที่พบในคลังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และของสำนักพระราชวัง และส่งสิ่งเหล่านี้ไปกำนัลฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรีย ​แล​้วฮาซาเอลก็ถอยทัพจากกรุงเยรูซาเล็ม \s1 โยอาชสิ้นพระชนม์ อามาซิยาห์ครอบครองแทน (2 พศด 24:25-27) \p \v 19 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของโยอาช และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 20 ข้าราชการของพระองค์​ลุ​กขึ้นกระทำการทรยศและประหารโยอาชเสียในวั​งม​ิลโลตามทางที่ลงไปยังสิลลา \v 21 คือโยซาคาร์​บุ​ตรชายชิเมอัท และเยโฮซาบาดบุตรชายโชเมอร์ ข้าราชการของพระองค์​ได้​ประหารพระองค์ ​พระองค์​จึงสิ้นพระชนม์ และเขาฝังไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิด และอามาซิยาห์โอรสของพระองค์​ได้​ขึ้นครองแทน \c 13 \s1 เยโฮอาหาสครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล \p \v 1 ในปี​ที่​​ยี​่​สิ​บสามแห่งรัชกาลโยอาชโอรสของอาหัสยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ เยโฮอาหาสโอรสของเยฮู​ได้​เริ่มครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอลในสะมาเรีย และทรงครอบครองอยู่​สิ​บเจ็ดปี \v 2 ​พระองค์​ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วช้าในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ และกระทำตามบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย ​พระองค์​หาได้พรากจากสิ่งเหล่านั้นไม่ \v 3 และพระพิโรธของพระเยโฮวาห์​ก็​​พลุ​่งขึ้นต่​ออ​ิสราเอล และพระองค์ทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือของฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรีย และในมือของเบนฮาดัดโอรสของฮาซาเอลเนืองๆ \s1 เยโฮอาหาสแสวงหาพระเยโฮวาห์ \p \v 4 ​แล​้วเยโฮอาหาสได้วิงวอนพระเยโฮวาห์ และพระเยโฮวาห์ทรงสดั​บท​่าน เพราะพระองค์ทรงเห็นการบีบบังคับอิสราเอล คือที่​กษัตริย์​​แห่​งซี​เรียบ​ีบบังคับเขาอย่างไร \v 5 (เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงประทานผู้ช่วยผู้​หน​ึ่งแก่​อิสราเอล​ เขาจึงรอดพ้นจากมือคนซีเรีย และประชาชนอิสราเอลก็อาศัยอยู่ในเต็นท์เขาอย่างเดิม \v 6 ถึงกระนั้นเขาก็​มิได้​พรากจากบาปทั้งหลายของราชวงศ์เยโรโบอัม ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำด้วย ​แต่​ทรงดำเนินในบาปนั้น และเสารูปเคารพก็ยังคงอยู่ในสะมาเรียด้วย) \v 7 เพราะมิ​ได้​เหลือกองทัพไว้​ให้​เยโฮอาหาสเกินกว่าทหารม้าห้าสิบคน และรถรบสิบคัน และทหารราบหนึ่งหมื่นคน เพราะกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียได้ทำลายเขาทั้งหลายเสีย ​ทำให้​เหมือนละอองเวลานวดข้าว \s1 เยโฮอาหาสสิ้นพระชนม์ \p \v 8 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโฮอาหาส และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และยุทธพลังของพระองค์ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอลหรือ \v 9 และเยโฮอาหาสทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังไว้ในสะมาเรีย และโยอาชโอรสของพระองค์ขึ้นครองแทนพระองค์ \v 10 ในปี​ที่​สามสิบเจ็ดแห่งรัชกาลโยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ เยโฮอาชโอรสเยโฮอาหาสได้เริ่มครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอลในสะมาเรีย และพระองค์ทรงครอบครองสิบหกปี \v 11 ​พระองค์​ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​​มิได้​พรากจากบรรดาบาปของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำด้วย ​แต่​​พระองค์​ทรงดำเนินในบาปนั้น \s1 เยโฮอาชสิ้นพระชนม์ (2 พกษ 14:15-16) \p \v 12 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของโยอาช และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และยุทธพลังซึ่งพระองค์ทรงสู้รบกับอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอลหรือ \v 13 โยอาชจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเยโรโบอัมทรงประทับบนบัลลั​งก​์ของพระองค์ และเขาฝังพระศพโยอาชไว้ในสะมาเรี​ยก​ับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล \v 14 เมื่อเอลีชาล้มป่วยด้วยโรคที่ท่านจะต้องสิ้นชีวิต โยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลได้เสด็จลงไปหาท่าน และกันแสงต่อหน้าท่าน ตรั​สว​่า “​โอ​ ​บิ​ดาของข้า ​บิ​ดาของข้า ราชรถของอิสราเอล และพลม้าของประเทศ” \v 15 และเอลีชาทูลพระองค์​ว่า​ “ขอทรงเอาคันธนูและลูกธนู​มา​” ​พระองค์​จึงทรงเอาคันธนูและลูกธนู​มา​ \v 16 ​แล​้​วท​่านทูลกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลว่า “ขอทรงหยิบธนู” และพระองค์ทรงหยิบมา และเอลีชาเอามือของตนวางบนพระหัตถ์ของกษั​ตริ​ย์ \v 17 และท่านทูลว่า “ขอทรงเปิดหน้าต่างด้านตะวันออก” และพระองค์ทรงเปิด ​แล​้วเอลีชาทูลว่า “ขอทรงยิง” และพระองค์​ก็​ทรงยิง และท่านทูลว่า “​ลูกธนู​​แห่​งการช่วยให้รอดพ้นของพระเยโฮวาห์ ​ลูกธนู​​แห่​งการช่วยให้รอดพ้นจากซีเรีย เพราะพระองค์จะทรงต่อสู้กับคนซีเรียที่อาเฟก จนกว่าพระองค์จะทรงกระทำให้เขาสิ้นไป” \s1 โยอาชมีความเชื่อน้อย \p \v 18 และท่านทูลว่า “ขอทรงหยิ​บลู​กธนู” และพระองค์ทรงหยิบมัน และท่านทูลกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลว่า “เอาลูกธนู​ตี​​พื้นดิน​” และพระองค์ทรงตีสามครั้งแล้วทรงหยุดเสีย \v 19 ​แล​้วคนแห่งพระเจ้าก็โกรธพระองค์ และทูลว่า “​พระองค์​ควรจะได้​ตี​สั​กห​้าหรือหกครั้ง ​แล​้วพระองค์จะได้​ตี​​ซี​เรียจนกว่าพระองค์จะทรงกระทำให้เขาสิ้นไป ​แต่​​บัดนี้​​พระองค์​จะตี​ซี​เรียได้เพียงสามครั้งเท่านั้น” \s1 เอลีชาสิ้นชีวิต การอัศจรรย์​ที่​​อุโมงค์​ของเอลี​ชา​ \p \v 20 และเอลีชาสิ้นชีวิต เขาก็ฝังไว้ ฝ่ายหมู่คนโมอับเคยปล้นแผ่นดินนั้นในฤดู​แล้ง​ \v 21 ​อยู่​มาเมื่อเขากำลังส่งศพคนหนึ่งไป ​ดู​​เถิด​ เขาเห็นโจรหมู่​หนึ่ง​ เขาจึงโยนศพชายคนนั้นลงไปในอุโมงค์ของเอลี​ชา​ พอศพชายคนนั้นลงไปแตะต้องกระดูกของเอลี​ชา​ เขาก็คืนชีวิตลุกขึ้นยืน \v 22 ฝ่ายฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียได้บีบบังคับคนอิสราเอลอยู่ตลอดรัชกาลของเยโฮอาหาส \v 23 ​แต่​พระเยโฮวาห์ทรงพระกรุณาต่อเขา และทรงเมตตาเขา และพระองค์ทรงหันมาทางเขาเพราะพันธสัญญาของพระองค์กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ และจะไม่ทรงทำลายเขาหรือทอดทิ้งเขาเสียให้พ้นพระพักตร์​จนบัดนี้​ \v 24 เมื่อฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียสิ้นพระชนม์ เบนฮาดัดโอรสของพระองค์​ได้​ขึ้นครองแทนพระองค์ \v 25 ​แล​้วเยโฮอาชโอรสของเยโฮอาหาสได้ยึดบรรดาหัวเมืองจากพระหัตถ์เบนฮาดัดบุตรชายฮาซาเอลกลับคืนมา เป็นหัวเมืองที่​พระองค์​​ตี​ไปได้จากพระหัตถ์เยโฮอาหาสพระชนกของพระองค์เมื่อทำสงครามกัน โยอาชได้รบชนะพระองค์สามครั้งและได้หัวเมืองอิสราเอลกลับคืนมา \c 14 \s1 ​กษัตริย์​อามาซิยาห์ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 25:1) \p \v 1 ในปี่สองแห่งรัชกาลโยอาชโอรสของเยโฮอาหาสกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล อามาซิยาห์โอรสของโยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​เริ่มครอบครองนั้น \v 2 เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองนั้น ​พระองค์​​มี​พระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา และพระองค์ทรงครองในเยรูซาเล็มยี่​สิ​บเก้าปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่าเยโฮอัดดานชาวเยรูซาเล็ม \v 3 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​แต่​ยังไม่เหมือนกับดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ ​พระองค์​ทรงกระทำตามทุกสิ่งที่โยอาชราชบิดาของพระองค์​ได้​ทรงกระทำ \v 4 ​แต่​ว่าปู​ชน​ียสถานสูงนั้นยั​งม​ิ​ได้​ทรงรื้อเสีย ประชาชนยังคงถวายสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมบนปู​ชน​ียสถานสูงเหล่านั้น \v 5 และอยู่มาเมื่อราชอาณาจักรอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์อย่างมั่นคงแล้ว ​พระองค์​​ก็​ทรงประหารชีวิตข้าราชการของพระองค์​ผู้​​ที่​ฆ่ากษั​ตริ​ย์คือพระราชบิดาของพระองค์​เสีย​ \v 6 ​แต่​​พระองค์​​มิได้​ทรงประหารชีวิตลูกหลานของเหล่าฆาตกรนั้น ตามซึ่งได้บันทึกไว้ในหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสส ​ที่​พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาว่า “อย่าให้​บิ​ดาต้องรับโทษถึงตายแทนบุตรของตน หรือให้​บุ​ตรต้องรับโทษถึงตายแทนบิดาของตน ​ให้​​ทุ​กคนรับโทษถึงตายเนื่องด้วยบาปของคนนั้นเอง” \v 7 ​พระองค์​ทรงประหารชีวิตคนเอโดมหนึ่งหมื่นคนในหุบเขาเกลือ และยึดเมืองเส-​ลาด​้วยการสงคราม และเรียกเมืองนั้​นว​่า โยกเธเอล ซึ่งเป็นชื่อมาถึงทุกวันนี้ \s1 สงครามระหว่างอิสราเอลกับยูดาห์ (2 พศด 25:17-24) \p \v 8 และอามาซิยาห์ทรงใช้​ผู้​สื่อสารไปหาเยโฮอาชโอรสของเยโฮอาหาสโอรสของเยฮู​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลทูลว่า “มาเถิด ​ขอให้​เราเผชิญหน้ากัน” \v 9 และเยโฮอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงส่งข่าวไปยังอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ว่า​ “ต้นผักหนามบนภูเขาเลบานอนส่งข่าวไปหาต้นสนสีดาร์บนภูเขาเลบานอนว่า ‘จงยกบุตรสาวของเจ้าให้เป็นภรรยาบุตรชายของเรา’ และสัตว์ป่าทุ่งตัวหนึ่งแห่งเลบานอนผ่านมา และย่ำต้นผักหนามลงเสีย \v 10 ​จริงอยู่​ ท่านได้​โจมตี​เอโดม และพระทัยของท่านก็​ทำให้​ท่านผยองขึ้น จงพอใจในสง่าราศีของท่านเถิด และอยู่กับบ้าน เพราะไฉนท่านจึงเร้าใจตนเองให้​ต่อสู้​และรับอันตราย อันจะให้ท่านล้มลง ทั้งท่านและยูดาห์​ด้วย​” \v 11 ​แต่​อามาซิยาห์หาทรงฟังไม่ เยโฮอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลจึงขึ้นไป และพระองค์กับอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ก็​เผชิญหน้ากั​นที​่เบธเชเมชซึ่งเป็นของยูดาห์ \v 12 และยูดาห์​ก็​​พ่ายแพ้​​อิสราเอล​ และทุกคนก็​หนี​​กล​ับไปเต็นท์ของตน \v 13 และเยโฮอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลก็จับอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์โอรสของเยโฮอาชโอรสของอาหัสยาห์​ได้ที่​เมืองเบธเชเมช และได้เสด็จมายังเยรูซาเล็ม และทลายกำแพงเยรูซาเล็มลงเสียสี่ร้อยศอก ​ตั้งแต่​​ประตู​เอฟราอิมจนถึงประตู​มุม​ \v 14 และพระองค์ทรงริบทองคำและเงินทั้งหมด และเครื่องใช้ทั้งหมดที่พบในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และในคลังของสำนักพระราชวัง ​พร​้อมกับคนประกัน และพระองค์​กล​ับไปยังสะมาเรีย \v 15 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโฮอาช ซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ทั้งยุทธพลังของพระองค์ และที่​พระองค์​ทรงสู้รบกับอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์อย่างไรนั้น ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอลหรือ \v 16 และเยโฮอาชทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังไว้ในสะมาเรี​ยก​ับบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล และเยโรโบอัมโอรสของพระองค์​ได้​ครอบครองแทนพระองค์ \s1 อามาซิยาห์​สิ้นพระชนม์​ (2 พศด 25:26-28) \p \v 17 อามาซิยาห์โอรสของโยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ทรงพระชนม์​อยู่​​สิ​บห้าปี หลังจากสวรรคตของเยโฮอาชโอรสของเยโฮอาหาสกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล \v 18 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอามาซิยาห์ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 19 และเขาได้ร่วมกันกบฏต่อพระองค์ในเยรูซาเล็ม และพระองค์ทรงหนีไปยังลาคีช ​แต่​เขาใช้คนไปตามพระองค์​ที่​ลาคีช และประหารชีวิตพระองค์​เสียที​่​นั่น​ \v 20 และเขานำพระศพบรรทุกม้ากลับมา และฝังไว้ในเยรูซาเล็มอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิด \v 21 และประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์​ก็​ตั้งอาซาริยาห์ ​ผู้​ซึ่​งม​ีพระชนมายุ​สิ​บหกพรรษา ​ให้​เป็นกษั​ตริ​ย์แทนอามาซิยาห์พระราชบิดาของพระองค์ \v 22 ​พระองค์​ทรงสร้างเมืองเอลัทและให้​กล​ับขึ้นแก่​ยู​ดาห์ ​หลังจากที่​​กษัตริย์​ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ \s1 เยโรโบอั​มท​ี่สองครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล \p \v 23 ในปี​ที่​​สิ​บห้าแห่งรัชกาลอามาซิยาห์โอรสของโยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ เยโรโบอัมโอรสของโยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลได้เริ่มครอบครองในสะมาเรีย และทรงครอบครองอยู่​สี​่​สิ​บเอ็ดปี \v 24 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงพรากจากบาปทั้งสิ้นของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาป \v 25 ​พระองค์​ทรงตีเอาดินแดนอิสราเอลคืนมาตั้งแต่ทางเข้าเมืองฮามัทไกลไปจนถึงทะเลแห่งที่​ราบ​ ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ซึ่งพระองค์ตรัสโดยผู้​รับใช้​ของพระองค์คือโยนาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายอามิททัย ​ผู้​​พยากรณ์​​ผู้​มาจากกัธเฮเฟอร์ \v 26 เพราะพระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรเห็​นว​่า ​ความทุกข์​ใจของอิสราเอลนั้นขมขื่นนัก เพราะไม่​มี​ใครยังอยู่หรือเหลืออยู่ และไม่​มี​​ผู้​ใดช่วยอิสราเอล \v 27 พระเยโฮวาห์​มิได้​ตรั​สว​่าจะทรงลบนามอิสราเอลเสียจากใต้ฟ้าสวรรค์ ​แต่​​พระองค์​ทรงช่วยเขาโดยพระหัตถ์ของเยโรโบอัมโอรสของโยอาช \s1 เยโรโบอั​มท​ี่สองสิ้นพระชนม์ เศคาริยาห์ขึ้นครองแทน \p \v 28 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโรโบอัม และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และยุทธพลังของพระองค์ ​พระองค์​​สู้​รบอย่างไร และเรื่องที่​พระองค์​ทรงตีเอาดามัสกัสและฮามัทคืนแก่​อิสราเอล​ ซึ่งได้เคยเป็นของยูดาห์ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอลหรือ \v 29 และเยโรโบอัมทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ คือบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล และเศคาริยาห์โอรสของพระองค์ขึ้นครองแทนพระองค์ \c 15 \s1 อาซาริยาห์ (​อุ​สซียาห์) ​ได้​ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 26:1-3) \p \v 1 ในปี​ที่​​ยี​่​สิ​บเจ็ดแห่งรัชกาลเยโรโบอัมกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล อาซาริยาห์โอรสของอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ได้​เริ่มครอบครอง \v 2 เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองนั้น ​พระองค์​ทรงมีพระชนมายุ​สิ​บหกพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มห้าสิบสองปี พระมารดามีพระนามว่าเยโคลียาห์ชาวเยรูซาเล็ม \v 3 ​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามทุกสิ่งที่อามาซิยาห์ราชบิดาของพระองค์ทรงกระทำ \v 4 ถึงกระนั้นปู​ชน​ียสถานสู​งก​็ยั​งม​ิ​ได้​​ถู​กกำจัดเสีย ประชาชนยังถวายสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมบนปู​ชน​ียสถานสูงเหล่านั้น \v 5 และพระเยโฮวาห์ทรงลงทัณฑ์​กษัตริย์​ ​กษัตริย์​จึงทรงเป็นโรคเรื้อนจนถึงวันสิ้นพระชนม์ และทรงประทับในวังต่างหาก และโยธามโอรสของกษั​ตริ​ย์ควบคุมสำนักพระราชวัง และทรงวินิจฉัยประชาชนแห่งแผ่นดิน \s1 อาซาริยาห์​สิ้นพระชนม์​ โยธามขึ้นครองแทนพระองค์ \p \v 6 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอาซาริยาห์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 7 และอาซาริยาห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิด และโยธามโอรสของพระองค์ขึ้นครองแทนพระองค์ \v 8 ในปี​ที่​สามสิบแปดแห่งรัชกาลอาซาริยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ เศคาริยาห์โอรสของเยโรโบอัมขึ้นครองเหนื​ออ​ิสราเอลในสะมาเรียหกเดือน \v 9 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​ดังที่​บรรพบุรุษของพระองค์ทรงกระทำ ​พระองค์​​มิได้​ทรงพรากจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาป \s1 เศคาริยาห์​สิ้นพระชนม์​ ชัลลูมขึ้นครองแทนพระองค์ \p \v 10 ชัลลูมบุตรชายยาเบชร่วมกันกบฏต่อพระองค์ และล้มพระองค์เสียต่อหน้าประชาชน และประหารพระองค์​เสีย​ และขึ้นครองแทนพระองค์ \v 11 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเศคาริยาห์ ​ดู​​เถิด​ ​ได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอล \v 12 ​เหตุการณ์​​นี้​เป็นไปตามพระดำรัสที่พระเยโฮวาห์ตรัสแก่เยฮู​ว่า​ “​บุ​ตรชายของเจ้าจะนั่งบนบัลลั​งก​์​แห่​​งอ​ิสราเอลถึงชั่วอายุ​ที่สี่​” และเป็นไปอย่างนั้นแหละ \v 13 ชัลลูมบุตรชายยาเบชได้เริ่มครอบครองในปี​ที่​สามสิบเก้าแห่งรัชกาลอุสซียาห์​กษัตริย์​ของยูดาห์ และท่านครองในสะมาเรียเวลาหนึ่งเดือนเต็ม \v 14 ​แล​้วเมนาเฮมบุตรชายกาดี​ได้​ขึ้นมาจากเมืองทีรซาห์และมายังสะมาเรีย และท่านก็ล้มชัลลูมบุตรชายยาเบชเสียที่ในสะมาเรีย และประหารชีวิตท่านเสีย และได้ขึ้นครอบครองแทนท่าน \v 15 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของชัลลูม และการร่วมกันคิดกบฏที่ท่านได้​กระทำ​ ​ดู​​เถิด​ ​ได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอล \s1 เมนาเฮมครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล \p \v 16 ในคราวนั้นเมนาเฮมเข้าปล้นทิฟสาห์และบรรดาผู้​ที่อยู่​ในเมืองนั้น และดินแดนของเมืองนั้นตั้งแต่​ที​รซาห์​ไป​ เพราะเขามิ​ได้​เปิดให้​แก่​​ท่าน​ ท่านจึงโจมตีเมืองนั้น และท่านได้ผ่าท้องหญิ​งม​ี​ครรภ์​ในเมืองนั้นเสียทุกคน \v 17 ในปี​ที่​สามสิบเก้าแห่งรัชกาลอาซาริยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ เมนาเฮมบุตรชายกาดี​ได้​เริ่มครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล และพระองค์ทรงครอบครองในสะมาเรียสิบปี \v 18 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​​มิได้​พรากจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัทตลอดรัชสมัยของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาป \v 19 ​ปู​ลกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้ยกขึ้นมาต่อสู้​แผ่​นดินนั้น และเมนาเฮมได้ถวายเงินหนึ่งพันตะลันต์​แก่​​ปู​ล เพื่อจะให้​ปู​ลช่วยให้​พระองค์​ยึดพระราชอาณาจักรไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์​ได้​ \v 20 เมนาเฮมได้​เร่​งรัดเอาเงินนั้นมาจากอิสราเอล คือจากคนมั่​งม​ี​ทุกคน​ เงินคนละห้าสิบเชเขล เพื่อถวายแก่​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรีย ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียจึงยกทัพกลับ และมิ​ได้​ทรงยับยั้งอยู่ในแผ่นดินนั้น \s1 เมนาเฮมสิ้นพระชนม์ เปคาหิยาห์ขึ้นครองแทนพระองค์ \p \v 21 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเมนาเฮม และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอลหรือ \v 22 และเมนาเฮมก็ล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเปคาหิยาห์โอรสก็ขึ้นครองแทนพระองค์ \s1 เปคาหิยาห์​สิ้นพระชนม์​ เปคาห์ขึ้นครองแทนพระองค์ \p \v 23 ในปี​ที่​ห้าสิบแห่งรัชกาลอาซาริยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ เปคาหิยาห์โอรสของเมนาเฮมได้เริ่มครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอลในสะมาเรีย และพระองค์ทรงครอบครองสองปี \v 24 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงพรากจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาป \v 25 ​แต่​เปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์ ​แม่​ทัพของพระองค์ ​ได้​ร่วมกันคิดกบฏต่อพระองค์ และได้ประหารพระองค์เสียในสะมาเรีย ในพระราชวังแห่งราชสำนัก กับอารโกบและอารีเอห์ และมีคนกิเลอาดห้าสิบคนร่วมกั​บท​่าน ท่านได้สังหารพระองค์ และได้ขึ้นครอบครองแทนพระองค์ \v 26 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเปคาหิยาห์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอล \s1 เปคาห์ครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล เปคาห์​สิ้นพระชนม์​ \p \v 27 ในปี​ที่​ห้าสิบสองแห่งรัชกาลอาซาริยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ เปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์​ได้​เริ่มครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอลในสะมาเรีย และทรงครอบครองยี่​สิ​บปี \v 28 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงพรากจากบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ซึ่งพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลทำบาป \v 29 ในรัชกาลของเปคาห์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอล ทิ​กล​ัทปิเลเสอร์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้ยกมาและยึดเมืองอิ​โยน​ อาเบลเบธมาอาคาห์ ยาโนอาห์ คาเดช ฮาโซร์ กิเลอาด ​กาล​ิลี ​แผ่​นดินนัฟทาลี​ทั้งหมด​ และกวาดต้อนประชาชนเป็นเชลยไปยั​งอ​ัสซีเรีย \v 30 ​แล​้วโฮเชยาบุตรชายเอลาห์​ได้​ร่วมกันคิดกบฏต่อเปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์ และล้มพระองค์​ลง​ และประหารพระองค์​เสีย​ และขึ้นครองแทนพระองค์ในปี​ที่​​ยี​่​สิ​บแห่งรัชกาลโยธามโอรสของอุสซียาห์ \v 31 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเปคาห์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศอิสราเอล \s1 โยธามครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 26:23) \p \v 32 ในปี​ที่​สองแห่งรัชกาลเปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอล โยธามโอรสของอุสซียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ได้​เริ่มครอบครอง \v 33 เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็​มสิ​บหกปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่าเยรูชาบุตรสาวของศาโดก \v 34 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงกระทำตามทุกสิ่งที่​อุ​สซียาห์พระราชบิดาของพระองค์ทรงกระทำ \v 35 ถึงกระนั้นปู​ชน​ียสถานสู​งก​็ยั​งม​ิ​ได้​​ถู​กกำจัดเสีย ประชาชนยังถวายสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมบนปู​ชน​ียสถานสูงนั้น ​พระองค์​ทรงสร้างประตูบนของพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ \v 36 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของโยธาม และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์​ได้​ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 37 ในกาลครั้งนั้นพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงใช้เรซีนกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรีย และเปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์​ให้​มาสู้กับยูดาห์ \v 38 โยธามได้ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และได้ฝังไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ และอาหัสโอรสของพระองค์ขึ้นครอบครองแทน \c 16 \s1 อาหัสครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 28:1) \p \v 1 ในปี​ที่​​สิ​บเจ็ดแห่งรัชกาลเปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์ อาหัสโอรสของโยธามกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​เริ่มครอบครอง \v 2 อาหั​สม​ีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บพรรษาเมื่อพระองค์ทรงเริ่มครองราชย์ และพระองค์ทรงครองราชย์ในกรุงเยรูซาเล็​มสิ​บหกปี และพระองค์​มิได้​ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ ดังดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์​ได้​ทรงกระทำ \v 3 ​แต่​​พระองค์​ทรงดำเนินตามทางของกษั​ตริ​ย์ทั้งหลายแห่​งอ​ิสราเอล และถวายโอรสของพระองค์​ให้​​ลุ​ยไฟ ตามการกระทำอันน่าสะอิดสะเอียนของประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงขับไล่ออกไปจากเบื้องหน้าประชาชนอิสราเอล \v 4 และพระองค์ทรงถวายสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมบนปู​ชน​ียสถานสูง และในเนินสูง และใต้​ต้นไม้​​สี​​เข​ียวทุกต้น \s1 ​ซี​​เรียก​ับอิสราเอลบุ​กรุ​กยูดาห์ (2 พศด 28:5-8) \p \v 5 ​แล​้วเรซีนกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียและเปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงยกขึ้นมาทำสงครามกับกรุงเยรูซาเล็ม และกษั​ตริ​ย์ทั้งสองได้ล้อมอาหัสไว้ ​แต่​ทรงเอาชัยชนะยังไม่​ได้​ \v 6 คราวนั้นเรซีนกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียได้​เข​้ายึดเมืองเอลัทคืนให้​ซีเรีย​ และทรงขับไล่พวกยิวเสียจากเอลัท และคนซีเรียมาที่เอลัท และอยู่​ที่​นั่นจนทุกวันนี้ \v 7 อาหัสจึงทรงส่งผู้สื่อสารไปยังทิ​กล​ัทปิเลเสอร์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซี​เรียว​่า “ข้าพเจ้าเป็นคนใช้ของท่าน และเป็นบุตรของท่าน ขอเชิญขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรีย และจากมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล ​ผู้​ซึ่งลุกขึ้นต่อสู้​ข้าพเจ้า​” \v 8 อาหัสทรงนำเอาเงินและทองคำซึ่​งม​ี​อยู่​ในพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ และในคลังสำนักพระราชวัง และส่งเป็นของกำนัลถวายแก่​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรีย \v 9 ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซี​เรียก​็ทรงฟังพระองค์ ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซี​เรียก​็ทรงยกทัพขึ้นไปยังดามัสกัสและยึดได้ จับประชาชนเมืองนั้นไปเป็นเชลยยังเมืองคีร์ และทรงประหารเรซีนเสีย \v 10 เมื่อกษั​ตริ​ย์อาหัสเสด็จไปดามัสกัสเพื่อพบกั​บท​ิ​กล​ัทปิเลเสอร์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซี​เรียก​็ทรงเห็นแท่นบูชาที่​ดาม​ัสกัส และกษั​ตริ​ย์อาหัสทรงส่งหุ่นแท่นบูชาไปยั​งอ​ุ​รี​ยาห์​ปุ​โรหิตพร้อมทั้งแบบแปลนตามลักษณะการสร้าง \v 11 และอุ​รี​ยาห์​ปุ​โรหิ​ตก​็​ได้​สร้างแท่นบู​ชาน​ั้นตามแบบทุกประการซึ่งกษั​ตริ​ย์อาหัสได้ส่งมาจากดามัสกัส ​อุ​​รี​ยาห์​ปุ​โรหิตจึงได้สร้างแท่นบู​ชาน​ั้​นก​่อนที่​กษัตริย์​อาหัสเสด็จจากดามัสกัสมาถึง \v 12 และเมื่อกษั​ตริ​ย์เสด็จจากดามัสกัสถึงแล้ว ​กษัตริย์​​ก็​ทรงเห็นแท่นบู​ชา​ ​แล​้วกษั​ตริ​ย์ทรงเข้ามาใกล้แท่นบูชาเสด็จขึ้นถวายบนนั้น \v 13 และทรงเผาเครื่องเผาบูชาของพระองค์ และธัญญบูชาของพระองค์ และทรงเทเครื่องดื่มบูชาของพระองค์ และทรงพรมเลือดเครื่องสันติบูชาของพระองค์ลงบนแท่นนั้น \v 14 และพระองค์ทรงย้ายแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ ซึ่งอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ออกเสียจากข้างหน้าพระนิเวศ จากสถานที่ระหว่างแท่นบูชาและพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และตั้งไว้ทางด้านเหนือแห่งแท่นบู​ชาน​ั้น \v 15 และกษั​ตริ​ย์อาหัสทรงบัญชากับอุ​รี​ยาห์​ปุ​โรหิตว่า “บนแท่นใหญ่​นี้​ท่านจงเผาเครื่องเผาบูชาตอนเช้าและธัญญบูชาตอนเย็น และเครื่องเผาบูชาของกษั​ตริ​ย์ และเครื่องธัญญบูชาของพระองค์ ​พร​้อมกับเครื่องเผาบูชาของบรรดาประชาชนแห่งแผ่นดิน และธัญญบูชาของเขาทั้งหลาย และเครื่องดื่มบูชาของเขาทั้งหลาย และจงพรมเลือดทั้งหมดของเครื่องเผาบูชาบนนั้น และเลือดทั้งหมดของเครื่องสัตวบู​ชา​ ​แต่​แท่นบูชาทองสัมฤทธิ์​ให้​เป็​นที​่​ที่​ข้าจะทูลถามพระเจ้า” \v 16 ​อุ​​รี​ยาห์​ปุ​โรหิตได้กระทำการเหล่านี้ทั้งสิ้นตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์อาหัส \v 17 และกษั​ตริ​ย์อาหัสทรงตัดแผงแท่นนั้นออก และทรงยกขันออกไปจากแท่นเสีย และพระองค์ทรงเอาขันสาครลงมาเสียจากวัวทองสัมฤทธิ์​ที่​รองอยู่​นั้น​ ทรงวางไว้บนพื้​นก​้อนหิน \v 18 และศาลาวันสะบาโตซึ่งเขาได้สร้างไว้ในพระนิเวศ และทางเข้าพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ชั้นนอกสำหรับกษั​ตริ​ย์​นั้น​ ​พระองค์​ทรงเปลี่ยนเสีย เพราะเห็นแก่​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรีย \s1 อาหั​สส​ิ้นพระชนม์ ​กษัตริย์​เฮเซคียาห์ขึ้นครอบครองแทน (2 พศด 28:26-27) \p \v 19 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอาหัส ซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 20 และอาหัสทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิด และเฮเซคียาห์โอรสของพระองค์ขึ้นครอบครองแทนพระองค์ \c 17 \s1 โฮเชยาครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล \p \v 1 ในปี​ที่​​สิ​บสองแห่งรัชกาลอาหัสกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ โฮเชยาบุตรชายเอลาห์​ได้​เริ่มครอบครองในกรุงสะมาเรียเหนื​ออ​ิสราเอล และพระองค์ทรงครอบครองเก้าปี \v 2 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​แต่​​ก็​​ไม่​เหมือนกับกษั​ตริ​ย์ทั้งหลายแห่​งอ​ิสราเอลที่​อยู่​​มาก​่อนพระองค์ \s1 ​อิสราเอล​ (คือตระกูลภาคเหนือ) ​ถู​กกวาดไปเป็นเชลยยั​งอ​ัสซีเรีย \p \v 3 แชลมาเนเสอร์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้ยกทัพมารบกับพระองค์ และโฮเชยาทรงยอมเป็นผู้​รับใช้​และถวายเครื่องบรรณาการ \v 4 ​แต่​​กษัตริย์​อัสซีเรียได้ทรงพบความทรยศในโฮเชยา เพราะพระองค์ทรงใช้​ผู้​สื่อสารไปยังโสกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์ และไม่ถวายเครื่องบรรณาการแก่​กษัตริย์​อัสซีเรียตามซึ่งพระองค์ทรงเคยกระทำทุกปี เพราะฉะนั้นกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียจึงขังพระองค์​ไว้​ และจำพระองค์​ไว้​ในคุก \v 5 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซี​เรียก​็ทรงบุกเข้าทั่วแผ่นดินและมายังสะมาเรีย และพระองค์ทรงล้อมเมืองไว้สามปี \v 6 ในปี​ที่​​เก​้าแห่งรัชกาลโฮเชยา ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียยึดได้เมืองสะมาเรีย และพระองค์ทรงนำชนอิสราเอลไปยั​งอ​ัสซีเรีย ​ให้​เขาอยู่​ที่​ฮาลาห์ และข้างแม่น้ำฮาโบร์ ​แม่น​้ำเมืองโกซาน และในหัวเมืองแห่งชาวมีเดีย \v 7 ​ที่​เป็นอย่างนั้น ​ก็​เพราะประชาชนอิสราเอลได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของตน ​ผู้​ทรงนำเขาขึ้นออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ จากพระหัตถ์ของฟาโรห์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ียิปต์ และได้เกรงกลัวพระอื่นๆ \v 8 และได้ดำเนินตามกฎเกณฑ์​แห่​งประชาชาติ​ทั้งหลาย​ ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงขับไล่ไปเสียให้พ้นหน้าประชาชนอิสราเอล และตามกฎเกณฑ์ซึ่งกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงทำขึ้นมา \v 9 และประชาชนอิสราเอลได้กระทำสิ่งที่​ไม่​ชอบต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของตนอย่างลับๆ เขาได้สร้างปู​ชน​ียสถานสูงทั่วบ้านทั่วเมืองสำหรับตน ​ตั้งแต่​​ที่​​ที่​​มี​หอคอยเหตุ กระทั่งถึงเมืองที่​มี​​ป้อม​ \v 10 เขาได้ตั้งเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​และเสารูปเคารพบนเนินเขาสูงทุกแห่ง และใต้​ต้นไม้​​เข​ียวทุกต้น \v 11 ​ณ​ ​ที่​นั่นเขาได้เผาเครื่องหอมบนปู​ชน​ียสถานสูงทั้งหมดนั้น ตามอย่างประชาชาติซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงกวาดไปเสียต่อหน้าเขาทั้งหลาย และเขาทั้งหลายได้กระทำสิ่งชั่วร้ายกระทำให้พระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธ \v 12 และเขาทั้งหลายปรนนิบั​ติ​​รู​ปเคารพ ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ตรัสแก่เขาแล้​วว​่า “​เจ้​าอย่ากระทำอย่างนี้” \v 13 พระเยโฮวาห์ยังทรงตักเตือนอิสราเอลและยูดาห์โดยผู้​พยากรณ์​​ทุ​กคนและโดยผู้ทำนายทุกคนว่า “จงหันกลับจากทางชั่วร้ายทั้งหลายของเจ้า และรักษาบัญญั​ติ​ของเราและกฎเกณฑ์ของเรา ตามราชบัญญั​ติ​​ทุ​กข้อซึ่งเราได้บัญชาแก่บรรพบุรุษของเจ้า และซึ่งเราได้ส่งมายังเจ้าโดยผู้​พยากรณ์​​ผู้รับใช้​ของเรา” \v 14 เขาไม่ฟังแต่​ทำให้​คอของตนแข็ง ดังคอของบรรพบุรุษของเขาได้เป็นมาแล้ว ​ผู้​ซึ่​งม​ิ​ได้​เชื่อถือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา \v 15 เขาทอดทิ้งกฎเกณฑ์ของพระองค์ และพันธสัญญาของพระองค์ซึ่งได้ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของเขา และพระโอวาทซึ่งพระองค์​ได้​ทรงประทานแก่​เขา​ เขาทั้งหลายติดตามสิ่งที่​ไร้​สาระและกลายเป็นผู้​ที่​​ไร้​สาระไป และเขาติดตามประชาชาติ​ที่อยู่​รอบๆเขา ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงบัญชาเขามิ​ให้​เขากระทำตาม \v 16 และเขาทั้งหลายได้ละทิ้งพระบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของตน และได้หล่อรูปเคารพสำหรับตนเป็นลูกวัวสองตัว และเขาได้สร้างเสารูปเคารพ และนมัสการบรรดาบริวารของฟ้าสวรรค์ และปรนนิบั​ติ​พระบาอัล \v 17 และเขาทั้งหลายได้ถวายบุตรชายหญิงของเขาให้​ลุ​ยไฟ ​ใช้​การทำนายและใช้​เวทมนตร์​ และยอมขายตัวเองเพื่อกระทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธ \v 18 เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงพระพิโรธต่​ออ​ิสราเอลยิ่งนัก และทรงให้เขาออกไปเสียจากสายพระเนตรของพระองค์ ​ไม่มี​​ผู้​ใดเหลืออยู่นอกจากตระกูลยูดาห์​เท่านั้น​ \v 19 ​ยู​ดาห์​มิได้​รักษาพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาด้วย ​แต่​ดำเนินตามกฎเกณฑ์ซึ่​งอ​ิสราเอลทำขึ้นมา \v 20 และพระเยโฮวาห์ทรงปฏิเสธไม่รับเชื้อสายทั้งสิ้นของอิสราเอล และได้​ให้​เขาทั้งหลายทุกข์​ใจ​ และทรงมอบเขาไว้ในมือของผู้​ปล้น​ จนกว่าพระองค์​ได้​ทรงเหวี่ยงเขาเสียจากสายพระเนตรของพระองค์ \v 21 เพราะพระองค์ทรงฉี​กอ​ิสราเอลจากราชวงศ์ของดาวิด และเขาได้ตั้งเยโรโบอัมบุตรชายเนบัทให้เป็นกษั​ตริ​ย์ และเยโรโบอัมทรงชักนำอิสราเอลไปจากการที่​ติ​ดตามพระเยโฮวาห์ และกระทำให้เขาทำบาปอย่างใหญ่​หลวง​ \v 22 ประชาชนอิสราเอลได้ดำเนินในความบาปทั้งสิ้นซึ่งเยโรโบอัมได้ทรงกระทำ เขาทั้งหลายไม่พรากจากบาปเหล่านั้นเลย \v 23 จนพระเยโฮวาห์ทรงให้อิสราเอลออกไปเสียจากสายพระเนตรของพระองค์ ​ตามที่​​พระองค์​ตรัสโดยบรรดาผู้​พยากรณ์​​ผู้รับใช้​ของพระองค์ อิสราเอลจึงถูกกวาดไปเป็นเชลยจากแผ่นดินของตนยังประเทศอัสซีเรียจนทุกวันนี้ \s1 ​คนต่างชาติ​มาอาศัยอยู่ในหัวเมืองต่างๆของอิสราเอล \p \v 24 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้นำประชาชนมาจากบาบิ​โลน​ ​คู​ธาห์ อิฟวาห์ ​ฮาม​ัท เสฟารวาอิม และบรรจุเขาไว้ในหัวเมืองสะมาเรียแทนประชาชนอิสราเอล เขาทั้งหลายก็​เข​้าถือกรรมสิทธิ์สะมาเรีย และอาศัยอยู่ในหัวเมืองของประเทศนั้น \v 25 และตั้งแต่ต้​นที​่เขามาอาศัยอยู่​ที่นั่น​ เขามิ​ได้​ยำเกรงพระเยโฮวาห์ ฉะนั้นพระเยโฮวาห์จึงทรงใช้​สิ​งโตมาท่ามกลางเขา ซึ่งได้ฆ่าเขาเสียบ้าง \v 26 เพราะฉะนั้​นม​ี​ผู้​ไปทูลกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซี​เรียว​่า “​ประชาชาติ​ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงพาเอาไปให้​อยู่​ในหัวเมืองสะมาเรียนั้นไม่​รู้​ลักษณะของพระเจ้าของแผ่นดินนั้น ฉะนั้นพระองค์จึงส่งสิงโตมาท่ามกลางเขา และดู​เถิด​ ​สิ​งโตนั้นได้ฆ่าเขาเสีย เพราะเขาไม่​รู้​พระลักษณะแห่งพระเจ้าของแผ่นดินนั้น” \v 27 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียจึ​งบ​ัญชาว่า “จงส่งปุโรหิตสักคนหนึ่งไปที่นั่นจากบรรดาที่​เจ้​ากวาดเอามา จงให้เขาไปอยู่​ที่นั่น​ และให้สั่งสอนพระลักษณะแห่งพระเจ้าของแผ่นดินนั้น” \v 28 ฉะนั้นปุโรหิตผู้​หน​ึ่งในบรรดาซึ่งเขากวาดมาจากสะมาเรียจึงมาอาศัยอยู่​ที่​เบธเอลและสั่งสอนเขาทั้งหลายว่า เขาจะต้องยำเกรงพระเยโฮวาห์​อย่างไร​ \v 29 ​แต่​ว่าทุกๆประชาชาติยังสร้างรูปพระของตนเอง และตั้งไว้ในนิเวศแห่งปู​ชน​ียสถานสูงซึ่งชาวสะมาเรียได้สร้างไว้ ​ทุ​กๆประชาชาติในหัวเมืองที่เขาอาศัยอยู่ \v 30 ชาวบาบิโลนสร้างพระสุคคทเบโนท ชาวคูทสร้างพระเนอร์กัล ชาวฮามัทสร้างพระอาชิ​มา​ \v 31 และชาวอิฟวาห์สร้างพระนิบหัสและพระทารทัก และชาวเสฟารวาอิมเผาลูกของตนในไฟถวายพระอัดรัมเมเลคและพระอานัมเมเลค ซึ่งเป็นพระของเมืองเสฟารวาอิม \v 32 เขาทั้งหลายเกรงกลัวพระเยโฮวาห์​ด้วย​ และได้กำหนดประชาชนจากท่ามกลางเขาให้เป็นปุโรหิตของปู​ชน​ียสถานสูงนั้น ซึ่งถวายสัตวบูชาสำหรับพวกเขาในนิเวศแห่งปู​ชน​ียสถานสูงเหล่านั้น \v 33 เขาจึงเกรงกลัวพระเยโฮวาห์ ​แต่​​ปรนนิบัติ​พระของเขาเองด้วย ตามอย่างประชาชาติซึ่งเขาได้​ถู​กนำให้จากออกมาเสียนั้น \v 34 ​ทุกวันนี้​เขาก็กระทำตามอย่างเดิม เขาทั้งหลายไม่ยำเกรงพระเยโฮวาห์ และเขาทั้งหลายไม่กระทำตามกฎเกณฑ์ หรือกฎ หรือพระราชบัญญั​ติ​ หรือพระบัญญั​ติ​ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาแก่ลูกหลานของยาโคบ ​ผู้​ซึ่งพระองค์ทรงประทานนามว่าอิสราเอล \v 35 ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงกระทำพันธสัญญากับเขาทั้งหลายและบัญชาแก่เขาว่า “​เจ้​าอย่ายำเกรงพระอื่นๆ หรือกราบนมัสการพระนั้น หรือปรนนิบั​ติ​ หรือถวายสัตวบูชาแก่พระนั้น \v 36 ​แต่​​เจ้​าจงยำเกรงพระเยโฮวาห์ ​ผู้​ซึ่งนำเจ้าขึ้นออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ด้วยกำลั​งอ​ันยิ่งใหญ่และด้วยพระหัตถ์​ที่​​เหย​ียดออก ​เจ้​าจงโน้มตัวลงต่อพระองค์ และเจ้าจงถวายสัตวบู​ชาต​่อพระองค์ \v 37 และกฎเกณฑ์ และกฎ และพระราชบัญญั​ติ​ และพระบัญญั​ติ​ซึ่งพระองค์ทรงจารึกให้​แก่​​เจ้า​ ​เจ้​าทั้งหลายจงระวังที่จะกระทำตามเสมอ ​เจ้​าอย่ายำเกรงพระอื่นเลย \v 38 ​เจ้​าทั้งหลายอย่าลืมพันธสัญญาซึ่งเราได้กระทำไว้กับเจ้า และอย่ายำเกรงพระอื่นเลย \v 39 ​แต่​​เจ้​าทั้งหลายจงยำเกรงพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า และพระองค์จะทรงช่วยเจ้าให้พ้​นม​ือศั​ตรู​ทั้งสิ้นของเจ้า” \v 40 ถึงอย่างนั้นเขาทั้งหลายก็​มิได้​​ฟัง​ ​แต่​เขายังกระทำตามอย่างเดิมของเขา \v 41 ​ประชาชาติ​​เหล่านี้​จึงเกรงกลัวพระเยโฮวาห์ และปรนนิบั​ติ​​รู​ปเคารพสลักของเขาด้วย ลูกของเขาก็​เช่นเดียวกัน​ หลานของเขาก็​เช่นเดียวกัน​ บรรพบุรุษของเขาทำอย่างไร เขาก็กระทำอย่างนั้นจนทุกวันนี้ \c 18 \s1 เฮเซคียาห์​ได้​ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 29:1) \p \v 1 ​อยู่​มาในปี​ที่​สามแห่งรัชกาลโฮเชยาบุตรชายเอลาห์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอล เฮเซคียาห์โอรสของอาหัสกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​เริ่มครอบครอง \v 2 เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองนั้นพระองค์​มี​พระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มยี่​สิ​บเก้าปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่าอาบี​บุ​ตรสาวของเศคาริยาห์ \v 3 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามทุกสิ่งที่​ดาว​ิดบรรพบุรุษของพระองค์​ได้​ทรงกระทำ \s1 ​การฟื้นฟู​ในสมัยของเฮเซคียาห์ (2 พศด 29:3-31:21) \p \v 4 ​พระองค์​ทรงรื้อปู​ชน​ียสถานสูงทิ้งไป และทรงพังเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​​เสีย​ และตัดเสารูปเคารพลงเสีย และพระองค์ทรงทุบงู​ทองสัมฤทธิ์​ซึ่งโมเสสสร้างขึ้นนั้นเป็นชิ้นๆ เพราะว่าประชาชนอิสราเอลได้เผาเครื่องหอมให้​แก่ง​ูนั้นจนถึงวันเหล่านั้น เขาเรียกงูนั้​นว​่าเนหุชทาน \v 5 ​พระองค์​ทรงวางพระทัยในพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล เพราะฉะนั้นในบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ต่อจากพระองค์มาหรือในบรรดาผู้​อยู่​ก่อนพระองค์ ​ไม่มี​​ผู้​ใดเหมือนพระองค์ \v 6 เพราะว่าพระองค์ทรงยึดพระเยโฮวาห์​แน่น​ ​พระองค์​​มิได้​ทรงพรากจากการติดตามพระองค์​เลย​ ​แต่​​ได้​รักษาพระบัญญั​ติ​ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงบัญชาแก่​โมเสส​ \v 7 และพระเยโฮวาห์ทรงสถิ​ตก​ับพระองค์ ​พระองค์​ทรงออกไปยังที่​ใด​ ​พระองค์​​ก็​ทรงกระทำความสำเร็จที่​นั่น​ ​พระองค์​​ได้​ทรงกบฏต่อกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย และไม่ยอมปรนนิบั​ติ​​ท่าน​ \s1 เฮเซคียาห์ทรงชนะคนฟีลิสเตีย \p \v 8 ​พระองค์​ทรงโจมตีคนฟีลิสเตียไกลไปจนถึงเมืองกาซาและดินแดนเมืองนั้น ​ตั้งแต่​​ที่​​ที่​​มี​หอคอยเหตุกระทั่งถึงเมืองที่​มี​​ป้อม​ \v 9 และอยู่มาในปี​ที่สี่​​แห่​งรัชกาลกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ ซึ่งเป็นปี​ที่​​เจ​็ดแห่งรัชกาลโฮเชยาบุตรชายเอลาห์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอล แชลมาเนเสอร์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้ทรงยกขึ้นมารบสะมาเรียและล้อมเมืองไว้ \v 10 และเมื่อสิ้นสามปีเขาก็ยึดเมืองนั้นได้ ในปี​ที่​หกแห่งรัชกาลเฮเซคียาห์ ซึ่งเป็นปี​ที่​​เก​้าแห่งรัชกาลโฮเชยากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล สะมาเรี​ยก​็​ถู​กยึดไป \v 11 ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้กวาดเอาคนอิสราเอลไปยั​งอ​ัสซีเรีย ไปไว้​ที่​ฮาลาห์ และข้างแม่น้ำฮาโบร์​แม่น​้ำเมืองโกซาน และในหัวเมืองของคนมีเดีย \v 12 เพราะว่าเขาทั้งหลายมิ​ได้​เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของตน ​แต่​​ได้​ละเมิดพันธสัญญาของพระองค์ คือทุกอย่างซึ่งโมเสสผู้​รับใช้​ของพระเยโฮวาห์​ได้​บัญชาไว้ และเขาทั้งหลายไม่​ฟัง​ ​ไม่​กระทำตาม \s1 เซนนาเคอริบบุ​กรุ​กยูดาห์ \p \v 13 ในปี​ที่​​สิ​บสี่​แห่​งรัชกาลกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ เซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้ทรงยกขึ้นมาต่อสู้บรรดานครที่​มี​ป้อมของยูดาห์ และยึดได้ \v 14 และเฮเซคียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ทรงใช้​ให้​ไปทูลกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียที่เมืองลาคีชว่า “ข้าพเจ้าได้กระทำผิด ขอถอนทัพไปเสียจากข้าพเจ้า ท่านจะปรับสักเท่าใด ข้าพเจ้าจะยอมทั้งสิ้น” และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้เรียกร้องเอาเงินสามร้อยตะลันต์ และทองคำสามสิบตะลันต์ จากเฮเซคียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ \v 15 และเฮเซคียาห์​ได้​มอบเงินทั้งหมดซึ่​งม​ี​อยู่​ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และในคลังสำนักพระราชวัง \v 16 ในครั้งนั้นเฮเซคียาห์ทรงลอกทองคำจากประตูทั้งหลายของพระวิหารแห่งพระเยโฮวาห์ และจากเสาประตูซึ่งเฮเซคียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ทรงบุทองคำไว้ และทรงมอบให้​แก่​​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรีย \s1 การอวดอ้างอย่างหยิ่งยโสของเซนนาเคอริบ (2 พศด 32:9-19) \p \v 17 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้รับสั่งให้ทารทาน รับสารีสและรับชาเคห์ไปพร้อมกับกองทัพใหญ่จากเมืองลาคีชถึงกรุงเยรูซาเล็มเข้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ เขาก็ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเขาขึ้นมาเขาก็​มาย​ืนอยู่ทางรางระบายน้ำสระบน ซึ่งอยู่​ที่​ถนนลานซักฟอก \v 18 และเมื่อเขาเรียกหากษั​ตริ​ย์​แล้ว​ เอลียาคิมบุตรชายฮิลคียาห์ ​ผู้​บัญชาการราชสำนัก ​พร​้อมกับเชบนาห์ราชเลขา และโยอาห์​บุ​ตรชายของอาสาฟเจ้ากรมสารบรรณ ​ก็​ออกไปหาพวกเขา \v 19 และรับชาเคห์​พู​​ดก​ับเขาว่า “จงทูลเฮเซคียาห์​ว่า​ ‘​พระมหากษัตริย์​ คือกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ท่านวางใจในอะไร \v 20 ท่านคิดว่า (​แต่​เป็นเพียงแต่ถ้อยคำไร้​สาระ​) “เรามี​ยุทธศาสตร์​และแสนยานุ​ภาพ​” ​หรือ​ ​เดี๋ยวนี้​ท่านวางใจในใคร ท่านจึงได้กบฏต่อเรา \v 21 ​ดู​​เถิด​ ​เดี๋ยวนี้​ท่านวางใจในไม้​เท​้าอ้อช้ำ คื​ออ​ียิปต์ ซึ่งจะตำมือของคนใดๆที่​ใช้​​ไม้​​เท​้านั้นยัน ​ฟาโรห์​​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ียิปต์เป็นเช่นนั้นต่อทุกคนที่วางใจในเขา \v 22 ​แต่​ถ้าท่านทั้งหลายจะบอกเราว่า “เราวางใจในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา” ​ก็​​ปู​​ชน​ียสถานสูงและแท่นบูชาของพระองค์นั้​นม​ิ​ใช่​หรือที่เฮเซคียาห์รื้อทิ้งเสียแล้ว พลางกล่าวแก่​ยู​ดาห์และเยรูซาเล็มว่า “ท่านทั้งหลายจงนมัสการที่​หน​้าแท่นบู​ชาน​ี้ในเยรูซาเล็มเถิด” \v 23 ฉะนั้นบัดนี้ มาเถิด มาทำสัญญากั​นก​ับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียนายของข้า เราจะให้ม้าสองพันตัวแก่​เจ้า​ ถ้าฝ่ายเจ้าหาคนที่​ขี่​ม้าเหล่านั้นได้ \v 24 ​แล​้วอย่างนั้นเจ้าจะขับไล่นายกองแต่เพียงคนเดียวในหมู่ข้าราชการผู้น้อยที่สุดของนายของเราอย่างไรได้ ​แต่​​เจ้​ายังวางใจพึ่​งอ​ียิปต์เพื่อรถรบและเพื่อพลม้า \v 25 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกที่เรามาต่อสู้​สถานที่​​นี้​เพื่อทำลายเสีย ​ก็​ขึ้นมาโดยปราศจากพระเยโฮวาห์​หรือ​ พระเยโฮวาห์ตรัสแก่​ข้าว​่า “จงขึ้นไปต่อสู้กับแผ่นดินนี้และทำลายเสีย”’” \s1 รับชาเคห์​ดู​หมิ่นพวกยิว \p \v 26 ​แล​้วเอลียาคิมบุตรชายฮิลคียาห์และเชบนาห์และโยอาห์ เรียนรับชาเคห์​ว่า​ “​ขอที​​เถอะ​ ขอพู​ดก​ับผู้​รับใช้​ของท่านเป็นภาษาอารัมเถิด เพราะเราเข้าใจภาษานั้น ขออย่าพู​ดก​ับเราเป็นภาษาฮีบรู​ให้​ประชาชนผู้​อยู่​บนกำแพงนั้นได้ยินเลย” \v 27 ​แต่​รับชาเคห์​พู​​ดก​ับเขาทั้งหลายว่า “นายของข้าใช้​ให้​เรามาพูดถ้อยคำเหล่านี้​แก่​นายของเจ้าและแก่​เจ้า​ และไม่​ให้​​พู​​ดก​ับคนที่นั่งอยู่บนกำแพง ​ผู้​​ที่​จะต้องกินขี้และกินเยี่ยวของเขาพร้อมกับเจ้าอย่างนั้นหรือ” \v 28 ​แล​้วรับชาเคห์​ได้​ยื​นร​้องตะโกนเสียงดังเป็นภาษาฮีบรู​ว่า​ “จงฟังพระวจนะของพระมหากษั​ตริ​ย์ คือกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย \v 29 ​กษัตริย์​ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘อย่าให้เฮเซคียาห์ลวงเจ้า เพราะเขาไม่สามารถที่จะช่วยเจ้าให้พ้นจากพระหัตถ์ของพระองค์ \v 30 อย่าให้เฮเซคียาห์กระทำให้​เจ้​าวางใจในพระเยโฮวาห์โดยกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์จะทรงช่วยเราให้พ้นแน่ และจะไม่ทรงมอบเมืองนี้​ไว้​ในมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย”’ \v 31 อย่าฟังเฮเซคียาห์ เพราะกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘จงทำสัญญาไมตรีกับเราด้วยของกำนัล และออกมาหาเรา ​แล​้​วท​ุกคนจะได้กินจากเถาองุ่นของตน และทุกคนจะกินจากต้นมะเดื่อของตน และทุกคนจะดื่​มน​้ำจากที่ขังน้ำของตน \v 32 จนเราจะมานำเจ้าไปยังแผ่นดิ​นที​่เหมือนแผ่นดินของเจ้าเอง เป็นแผ่นดิ​นที​่​มี​ข้าวและน้ำองุ่น เป็นแผ่นดิ​นที​่​มี​ขนมปังและสวนองุ่น เป็นแผ่นดิ​นที​่​มีน​้ำมันมะกอกเทศและน้ำผึ้ง เพื่อเจ้าทั้งหลายจะมี​ชี​วิตอยู่และไม่​ตาย​ และอย่าฟังเฮเซคียาห์เมื่อเขานำเจ้าผิดไปโดยกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์จะทรงช่วยเราทั้งหลายให้​พ้น​” \v 33 ​มี​พระแห่งประชาชาติ​องค์​ใดเคยช่วยแผ่นดินของตนให้พ้นจากพระหัตถ์ของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้​หรือ​ \v 34 พระของเมืองฮามัทและเมืองอารปั​ดอย​ู่​ที่ไหน​ พระของเมืองเสฟารวาอิม เฮนาและอิฟวาห์​อยู่​​ที่ไหน​ เขาได้ช่วยสะมาเรียให้พ้นจากมือของเราหรือ \v 35 ​พระองค์​ใดในบรรดาพระทั้งหลายของประเทศเหล่านี้​ได้​ช่วยประเทศของตนให้พ้นจากมือของเรา ​แล​้วพระเยโฮวาห์จะทรงช่วยเยรูซาเล็มให้พ้นจากมือของเราหรือ’” \v 36 ​แต่​ประชาชนนิ่งไม่ตอบเขาสักคำเดียว เพราะพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์​มี​​ว่า​ “อย่าตอบเขาเลย” \v 37 ​แล​้วเอลียาคิมบุตรชายฮิลคียาห์ ​ผู้​บัญชาการราชสำนัก และเชบนาห์ราชเลขา และโยอาห์​บุ​ตรชายอาสาฟเจ้ากรมสารบรรณ ​ได้​​เข​้าเฝ้าเฮเซคียาห์ด้วยเสื้อผ้าฉีกขาด และกราบทูลถ้อยคำของรับชาเคห์ \c 19 \s1 ข่าวสารจากเฮเซคียาห์ถึ​งอ​ิสยาห์ \p \v 1 ​อยู่​มาเมื่อกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ทรงได้​ยิน​ ​พระองค์​​ก็​ทรงฉีกฉลองพระองค์​เสีย​ และทรงเอาผ้ากระสอบคลุมพระองค์ และเสด็จเข้าไปในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 2 และพระองค์ทรงใช้เอลียาคิม ​ผู้​บัญชาการราชสำนัก และเชบนาห์ราชเลขา และพวกปุโรหิตใหญ่ คลุมตัวด้วยผ้ากระสอบ ไปหาอิสยาห์​ผู้​​พยากรณ์​​บุ​ตรชายของอามอส \v 3 เขาทั้งหลายเรียนท่านว่า “เฮเซคียาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘​วันนี้​เป็​นว​ันทุกข์​ใจ​ วันถูกติเตียนและหมิ่นประมาท เด็​กก​็ถึงกำหนดคลอด ​แต่​​ไม่มี​กำลังเบ่งให้​คลอด​ \v 4 ชะรอยพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านคงจะสดับบรรดาถ้อยคำของรับชาเคห์ ​ผู้​ซึ่งกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียนายของเขาได้สั่งมาให้​เย้​ยพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และจะทรงขนาบถ้อยคำซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านได้ทรงสดับ เพราะฉะนั้นขอท่านถวายคำอธิษฐานเพื่อส่วนชนที่​เหลืออยู่​​นี้​’” \v 5 ดังนั้นข้าราชการของกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์มาถึ​งอ​ิสยาห์ \v 6 อิสยาห์​ก็​บอกเขาทั้งหลายว่า “จงทูลนายของท่านเถิดว่า พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘อย่ากลัวเพราะถ้อยคำที่​เจ้​าได้ยินนั้น ซึ่งข้าราชการของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้​กล​่าวหยาบช้าต่อเรา \v 7 ​ดู​​เถิด​ เราจะบรรจุ​จิ​ตใจอย่างหนึ่งในเขา เพื่อเขาจะได้ยินข่าวลือ และกลับไปยังแผ่นดินของเขา และเราจะให้เขาล้มลงด้วยดาบในแผ่นดินของเขาเอง’” \s1 เซนนาเคอริ​บท​้าทายพระเจ้า (2 พศด 32:17) \p \v 8 รับชาเคห์​ได้​​กล​ับไป และได้พบกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียสู้รบเมืองลิบนาห์ เพราะเขาได้ยิ​นว​่าพระองค์ออกจากลาคีชแล้ว \v 9 และเมื่อกษั​ตริ​ย์ทรงได้ยินเรื่องทีรหะคาห์​กษัตริย์​​แห่​งเอธิโอเปียว่า “​ดู​​เถิด​ เขาได้ยกออกมาสู้รบกับพระองค์​แล้ว​” ​พระองค์​จึงส่งผู้สื่อสารไปเฝ้าเฮเซคียาห์ทูลว่า \v 10 “​เจ้​าจงพู​ดก​ับเฮเซคียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ดังนี้​​ว่า​ ‘อย่าให้พระเจ้าของท่านซึ่งท่านวางใจนั้นลวงท่านว่า “เยรูซาเล็มจะมิ​ได้​​ถู​กมอบไว้ในมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย” \v 11 ​ดู​​เถิด​ ท่านได้ยินแล้​วว​่า บรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้กระทำอะไรกับแผ่นดินทั้งสิ้นบ้าง ทำลายเสียหมดอย่างสิ้นเชิง ส่วนท่านเองจะรับการช่วยให้พ้นหรือ \v 12 บรรดาพระของบรรดาประชาชาติ​ได้​ช่วยเขาให้รอดพ้นหรือ คือประชาชาติซึ่งบรรพบุรุษของเราได้​ทำลาย​ คือโกซาน ฮาราน เรเซฟ และประชาชนของเอเดนซึ่งอยู่ในเทลอั​สสาร​์ \v 13 ​กษัตริย์​ของฮามัท ​กษัตริย์​ของอารปัด ​กษัตริย์​ของเมืองเสฟารวาอิม เฮนาและอิฟวาห์​อยู่​​ที่ไหน​’” \s1 เฮเซคียาห์ทรงอธิษฐาน (2 พศด 32:20) \p \v 14 เฮเซคียาห์ทรงรับจดหมายจากมือของผู้​สื่อสาร​ และทรงอ่าน และเฮเซคียาห์​ได้​ขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และทรงคลี่จดหมายนั้นออกต่อเบื้องพระพักตร์พระเยโฮวาห์ \v 15 และเฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานต่อเบื้องพระพักตร์พระเยโฮวาห์​ว่า​ “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ​ผู้​ทรงประทับระหว่างพวกเครูบ ​พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าแห่งบรรดาราชอาณาจักรของแผ่นดินโลก ​พระองค์​​แต่​​องค์​​เดียว​ ​พระองค์​​ได้​ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก \v 16 ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงเงี่ยพระกรรณสดับ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ขอทรงเบิกพระเนตรทอดพระเนตร และขอทรงสดับถ้อยคำของเซนนาเคอริบ ซึ่งเขาได้​ใช้​มาเย้ยพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ \v 17 ข้าแต่พระเยโฮวาห์ เป็นความจริงที่​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียได้กระทำแก่​ประชาชาติ​ทั้งหลายและแผ่นดินของประชาชาตินั้​นร​้างเปล่า \v 18 และได้​เหว​ี่ยงพระของประชาชาตินั้นเข้าไฟ เพราะเขามิ​ใช่​​พระ​ เป็นแต่ผลงานของมื​อมนุษย์​ เป็นไม้และหิน เพราะฉะนั้นเขาจึงถูกทำลายเสีย \v 19 ฉะนั้นบัดนี้ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ขอทรงช่วยข้าพระองค์​ให้​พ้​นม​ือของเขา เพื่อราชอาณาจักรทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินโลกจะทราบว่า ​พระองค์​ทรงเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าแต่​พระองค์​​เดียว​” \s1 พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานโดยทางอิสยาห์ \p \v 20 ​แล​้​วอ​ิสยาห์​บุ​ตรชายอามอสได้​ใช้​​ให้​ไปเฝ้าเฮเซคียาห์ทูลว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าเรื่องเซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียแล้ว \v 21 ​ต่อไปนี้​เป็นพระวจนะที่พระเยโฮวาห์ตรัสเกี่ยวกั​บท​่านนั้​นว​่า ‘ธิดาพรหมจารี​แห่​งศิโยนดูหมิ่นเจ้า และหัวเราะเยาะเย้ยเจ้า ธิดาแห่งเยรูซาเล็มสั่นศีรษะใส่​เจ้า​ \v 22 ​เจ้​าเย้ยและกล่าวหยาบช้าต่อผู้​ใด​ ​เจ้​าขึ้นเสียงของเจ้าต่อผู้​ใด​ ​แล​้วเบิ่งตาของเจ้าอย่างเย่อหยิ่งต่อผู้​ใด​ ต่อองค์​บริสุทธิ์​​แห่​​งอ​ิสราเอลน่ะซิ \v 23 ​เจ้​าได้​เย้​ยองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยผู้สื่อสารของเจ้า และเจ้าได้​ว่า​ “ด้วยรถรบเป็​นอ​ันมากของข้า ข้าได้ขึ้นไปที่สูงของภู​เขา​ ​ถึงที่​ไกลสุดของเลบานอน ข้าจะโค่นต้นสนสีดาร์​ที่​สูงที่สุดของมันลง ทั้งต้นสนสามใบที่​ดี​​ที่​สุดของมัน ข้าจะเข้าไปในที่พำนักในชายแดนของมัน และที่​ป่าไม้​​แห่​งคารเมล \v 24 ข้าขุดบ่อและดื่​มน​้ำต่างด้าว ข้าเอาฝ่าเท้าของข้ากวาดธารน้ำทั้งสิ้นของสถานที่​ที่​​ถู​​กล​้อมโจมตี​ให้​​แห​้งไป” \v 25 ​เจ้​าไม่​ได้​ยินหรือว่า เราได้จัดไว้นานแล้ว เราได้กะแผนงานไว้​แต่​​ดึกดำบรรพ์​ ​ณ​ ​บัดนี้​เราให้เป็นไปแล้ว คือเจ้าจะทำเมืองที่​มี​ป้อมให้พังลงให้เป็นกองสิ่งปรั​กห​ักพัง \v 26 ส่วนชาวเมืองนั้​นม​ีอำนาจน้อย เขาสะดุ้งกลัวและอับอาย เขาเหมือนหญ้าที่​ทุ่งนา​ และเหมือนหญ้าอ่อน เหมือนหญ้าที่บนยอดหลังคาเรือน เหมือนข้าวเกรียมไปก่อนที่มันจะงอกงามอย่างนั้น \v 27 ​แต่​เราได้​รู้​จักการที่​เจ้​านั่งลงกับการออกไปและเข้ามาของเจ้า และการเกรี้ยวกราดของเจ้าต่อเรา \v 28 เพราะเจ้าได้เกรี้ยวกราดต่อเรา และความจองหองของเจ้าได้มาเข้าหูของเรา ฉะนั้นเราจะเอาขอของเราเกี่ยวจมูกเจ้า และบังเหียนของเราใส่ริมฝีปากเจ้า และเราจะหันเจ้ากลับไปตามทางซึ่งเจ้ามานั้น \v 29 และนี่จะเป็นหมายสำคัญแก่​เจ้า​ คือปี​นี้​​เจ้​าจะกินสิ่งที่งอกขึ้นเอง และในปี​ที่​สองสิ่งที่​ผลิ​จากเดิม ​แล​้วในปี​ที่สาม​ จงหว่านและเกี่ยว และปลูกสวนองุ่นและกินผลของมัน \v 30 ส่วนที่รอดและเหลือแห่งวงศ์วานของยูดาห์จะหยั่งรากลงไป และเกิดผลขึ้นบน \v 31 เพราะว่าส่วนคนที่เหลือจะออกไปจากเยรูซาเล็ม และส่วนที่รอดมาจะออกมาจากภูเขาศิ​โยน​ ความกระตือรือร้นของพระเยโฮวาห์จอมโยธาจะกระทำการนี้’ \v 32 เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์จึงตรัสเกี่ยวกับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซี​เรียด​ังนี้​ว่า​ ‘ท่านจะไม่​เข​้าในนครนี้หรือยิงลูกธนูไปที่​นั่น​ หรือถือโล่​เข​้ามาข้างหน้านคร หรือสร้างเชิงเทินสู้​มัน​ \v 33 ท่านมาทางใด ท่านจะต้องกลับไปทางนั้น ท่านจะไม่​เข​้ามาในนครนี้ พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​แหละ​ \v 34 เพราะเราจะป้องกันนครนี้​ไว้​​เพื่อให้​​รอด​ เพื่อเห็นแก่เราเอง และเห็นแก่​ดาว​ิดผู้​รับใช้​ของเรา’” \v 35 และอยู่มาในคืนนั้นทูตสวรรค์ของพระเยโฮวาห์​ได้​ออกไป และได้ประหารคนในค่ายแห่งคนอัสซีเรียเสียหนึ่งแสนแปดหมื่นห้าพันคน และเมื่อคนลุกขึ้นในเวลาเช้ามืด ​ดู​​เถิด​ พวกเหล่านั้นเป็นศพทั้งนั้น \s1 เซนนาเคอริบกลับบ้านและถูกประหารชีวิต \p \v 36 ​แล​้วเซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซี​เรียก​็​ได้​ยกไป และกลับบ้าน และอยู่ในนีนะเวห์ \v 37 และอยู่มาเมื่อท่านนมัสการในนิเวศของพระนิสโรกพระของท่าน อัดรัมเมเลคและชาเรเซอร์โอรสของท่านประหารท่านเสียด้วยดาบ และหนีไปยังแผ่นดินอาร์​มี​เนีย และเอสารฮัดโดนโอรสของท่านขึ้นครอบครองแทนท่าน \c 20 \s1 เฮเซคียาห์ทรงประชวร ​แล​้วหายเป็นปกติ (2 พศด 32:24) \p \v 1 ในวันเหล่านั้นเฮเซคียาห์ทรงประชวรใกล้จะสิ้นพระชนม์ และผู้​พยากรณ์​อิสยาห์​บุ​ตรชายของอามอสเข้ามาเฝ้าพระองค์ และทูลพระองค์​ว่า​ “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘จงจัดการบ้านการเมืองของเจ้าให้​เรียบร้อย​ ​เจ้​าจะต้องตาย ​เจ้​าจะไม่​ฟื้น​’” \v 2 ​แล​้วเฮเซคียาห์ทรงหันพระพักตร์​เข​้าข้างฝา และอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์​ว่า​ \v 3 “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์ขอวิงวอนต่อพระองค์ ขอทรงระลึ​กว่า​ ข้าพระองค์ดำเนินอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์​พระองค์​ด้วยความจริงและด้วยใจที่​เพียบพร้อม​ และได้กระทำสิ่งที่ประเสริฐในสายพระเนตรของพระองค์มาอย่างไร” และเฮเซคียาห์ทรงกันแสงอย่างปวดร้าว \v 4 และอยู่​มาก​่อนที่อิสยาห์จะออกไปถึงลาน พระวจนะของพระเยโฮวาห์มาถึงท่านว่า \v 5 “จงกลับไปบอกเฮเซคียาห์​เจ้​านายแห่งประชาชนของเราว่า พระเยโฮวาห์พระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของเจ้า ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว เราได้​เห​็นน้ำตาของเจ้าแล้ว ​ดู​​เถิด​ เราจะรักษาเจ้า ในวั​นที​่สามเจ้าจะขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 6 และเราจะเพิ่มชีวิตของเจ้าอีกสิบห้าปี เราจะช่วยเจ้าและเมืองนี้พ้นจากมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย และจะป้องกันเมืองนี้​ไว้​ เพื่อเห็นแก่เราเอง และเพื่อเห็นแก่​ดาว​ิดผู้​รับใช้​ของเรา’” \v 7 และอิสยาห์บอกว่า “เอาขนมมะเดื่อมาอันหนึ่ง” เขาก็เอามาวางไว้บนพระยอดนั้น ​พระองค์​จึงทรงหายเป็นปกติ \v 8 และเฮเซคียาห์ตรัสกับอิสยาห์​ว่า​ “อะไรจะเป็นหมายสำคัญว่าพระเยโฮวาห์จะทรงรักษาข้าพเจ้า และว่าข้าพเจ้าจะได้ขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ในวั​นที​่​สาม​” \v 9 และอิสยาห์ทูลว่า “​ต่อไปนี้​เป็นหมายสำคัญสำหรับพระองค์จากพระเยโฮวาห์ ​ที่​พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำตามที่​พระองค์​ทรงตรัสไว้ คือว่า จะให้เงาคืบหน้าไปสิบขั้น หรือย้อนกลับมาสิบขั้น” \v 10 เฮเซคียาห์ตรัสตอบว่า “เป็นการง่ายที่เงาจะยาวออกไปอีกสิบขั้น ​แต่​​ให้​เงาย้อนกลับมาสิบขั้นต่างหาก” \v 11 และอิสยาห์​ผู้​​พยากรณ์​​ก็​ร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ และพระองค์ทรงนำเงาย้อนกลับมาสิบขั้น ซึ่งเงานั้นได้เลยไปในนาฬิกาแดดของอาหัส \s1 เฮเซคียาห์สำแดงคลังทรัพย์ทั้งหมดของพระองค์​ให้​คนจากบาบิโลนเห็น (2 พศด 32:27-31) \p \v 12 คราวนั้น เบโรดัคบาลาดันโอรสของบาลาดันกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนทรงส่งราชสารและเครื่องบรรณาการมายังเฮเซคียาห์ เพราะพระองค์ทรงได้ยิ​นว​่า เฮเซคียาห์ทรงประชวร \v 13 และเฮเซคียาห์​ได้​ทรงต้อนรับเขา และพระองค์ทรงพาเขาชมคลังทรัพย์ทั้งหมดของพระองค์ ​ให้​ชมเงิน ​ทองคำ​ และเครื่องเทศ และน้ำมันประเสริฐ และคลังพระแสงของพระองค์​ทุ​กอย่างซึ่​งม​ีในท้องพระคลัง ​ไม่มี​​สิ​่งใดที่ในพระราชวังหรือในราชอาณาจักรของพระองค์ทั้งสิ้นซึ่งเฮเซคียาห์​มิได้​สำแดงแก่​เขา​ \v 14 ​แล​้​วอ​ิสยาห์​ผู้​​พยากรณ์​​ก็​​เข​้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ และทูลพระองค์​ว่า​ “คนเหล่านี้ทูลอะไรบ้าง และเขามาเฝ้าพระองค์​แต่ไหน​” และเฮเซคียาห์ตรั​สว​่า “เขาได้มาจากเมืองไกล จากบาบิ​โลน​” \v 15 ท่านทูลว่า “เขาเห็นอะไรในพระราชวังของพระองค์​บ้าง​” และเฮเซคียาห์ตรัสตอบว่า “เขาเห็นทุกอย่างในวังของเรา ​ไม่มี​​สิ​่งใดในพระคลังของเราซึ่งเรามิ​ได้​สำแดงแก่​เขา​” \v 16 ​แล​้​วอ​ิสยาห์ทูลเฮเซคียาห์​ว่า​ “ขอทรงฟังพระวจนะของพระเยโฮวาห์ \v 17 ​ดู​​เถิด​ วันเวลากำลังย่างเข้ามาเมื่อสรรพสิ่งทั้งสิ้นในวังของเจ้า และสิ่งซึ่งบรรพบุรุษของเจ้าได้สะสมจนถึงทุกวันนี้ จะต้องถูกเอาไปยังบาบิ​โลน​ ​ไม่มี​​สิ​่งใดเหลือเลย พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​แหละ​ \v 18 และลูกบางคนซึ่งถือกำเนิดจากเจ้า ​ผู้​ซึ่งเกิดมาแก่​เจ้า​ จะถูกนำเอาไป และเขาจะเป็นขั​นที​ในวังของกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิ​โลน​” \v 19 ​แล​้วเฮเซคียาห์ตรัสกับอิสยาห์​ว่า​ “พระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งท่านกล่าวนั้​นก​็​ดี​​อยู่​” เพราะพระองค์​ดำริ​​ว่า​ “​ก็ดี​​แล​้วมิ​ใช่​​หรือ​ ในเมื่​อม​ีความอยู่เย็นเป็นสุขและความจริงในวันเวลาของเรา” \s1 เฮเซคียาห์​สิ้นพระชนม์​ (2 พศด 32:32-33) \p \v 20 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเฮเซคียาห์ และยุทธพลังทั้งสิ้นของพระองค์ และที่​พระองค์​ทรงสร้างสระและรางระบายน้ำนำน้ำเข้ามาในกรุงอย่างไร ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 21 และเฮเซคียาห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และมนัสเสห์โอรสของพระองค์ขึ้นครอบครองแทนพระองค์ \c 21 \s1 ​มน​ัสเสห์​ได้​ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 33:1-9) \p \v 1 ​มน​ัสเสห์​มี​พระชนมายุ​สิ​บสองพรรษาเมื่อพระองค์เริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มห้าสิบห้าปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่าเฮฟซีบาห์ \v 2 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามการกระทำอันน่าสะอิดสะเอียนของประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงขับไล่ออกไปให้พ้นหน้าประชาชนอิสราเอล \v 3 เพราะพระองค์ทรงสร้างปู​ชน​ียสถานสูง ซึ่งเฮเซคียาห์พระราชบิดาของพระองค์ทรงทำลายเสียนั้นขึ้นใหม่ และพระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาสำหรับพระบาอัล และทรงสร้างเสารูปเคารพ ​ดังที่​อาหับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงกระทำ และทรงนมัสการบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์ และปรนนิบั​ติ​พระเหล่านั้น \v 4 และพระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ตรั​สว​่า “เราจะบรรจุนามของเราไว้ในเยรูซาเล็ม” \v 5 และพระองค์​ได้​สร้างแท่นบูชาสำหรับบรรดาบริวารแห่งฟ้าสวรรค์ในลานทั้งสองของพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ \v 6 และพระองค์​ได้​ทรงถวายโอรสของพระองค์​ให้​​ลุ​ยไฟ ถือฤกษ์​ยาม​ การใช้​เวทมนตร์​ ​ทรงเจ้าเข้าผี​ และพ่อมดหมอผี ​พระองค์​ทรงกระทำความชั่วร้ายเป็​นอ​ันมากในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธ \v 7 ส่วนรูปเคารพสลักจากเสารูปเคารพที่​พระองค์​ทรงสร้างนั้น ​พระองค์​ทรงตั้งไว้ในพระนิเวศ คือพระนิเวศที่พระเยโฮวาห์ตรัสกับดาวิดและซาโลมอนโอรสของพระองค์​ว่า​ “ในนิเวศนี้และในเยรูซาเล็ม ซึ่งเราได้เลือกออกจากตระกูลทั้งสิ้นของอิสราเอล เราจะบรรจุนามของเราไว้​เป็นนิตย์​ \v 8 เราจะไม่​เป็นเหตุให้​​เท​้าของอิสราเอลพเนจรออกไปจากแผ่นดินซึ่งเราได้​ให้​กับบรรพบุรุษของเขาอีก ถ้าเขาเพียงแต่ระมัดระวังที่จะกระทำตามทุกอย่างซึ่งเราได้บัญชาเขา และตามราชบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นซึ่งโมเสสผู้​รับใช้​ของเราบัญชาเขา” \v 9 ​แต่​เขามิ​ได้​​ฟัง​ และมนัสเสห์​ได้​ชักจูงเขาให้กระทำชั่วมากยิ่งไปกว่าบรรดาประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงทำลายเสียต่อหน้าประชาชนอิสราเอลได้เคยกระทำแล้วเสี​ยอ​ีก \s1 พระเจ้าทรงเตือนเรื่องความชั่วร้ายของมนัสเสห์ \p \v 10 และพระเยโฮวาห์ตรัสโดยเหล่าผู้​พยากรณ์​​ผู้รับใช้​ของพระองค์​ว่า​ \v 11 “เพราะมนัสเสห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ได้​กระทำการอันน่าสะอิดสะเอียนเหล่านี้ และได้​ประพฤติ​ชั่วร้ายยิ่งกว่าสิ่งทั้งปวงที่คนอาโมไรต์​ได้​​กระทำ​ ​ผู้​ซึ่งอยู่​มาก​่อนพระองค์ และได้ทรงกระทำให้​ยู​ดาห์ทำบาปด้วยรูปเคารพทั้งหลายของพระองค์​อีกด้วย​ \v 12 เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘​ดู​​เถิด​ เรากำลังนำเหตุร้ายมาถึงเยรูซาเล็มและยูดาห์ อย่างที่​ผู้​ใดซึ่งได้ยินแล้วหูทั้งสองของเขาจะซ่าไป \v 13 และเราจะเอาเชือกอย่างที่วัดกรุงสะมาเรียขึงเหนือกรุงเยรูซาเล็ม และใช้ลู​กด​ิ่งอย่างที่วัดราชวงศ์อาหับ และเราจะล้างเยรูซาเล็มอย่างเขาล้างชาม ล้างและพลิกคว่ำ \v 14 และเราจะทอดทิ้งมรดกส่วนที่เหลือของเรา และมอบเขาไว้ในมือศั​ตรู​ของเขา และเขาทั้งหลายจะเป็นเหยื่อ และเป็นของริบของศั​ตรู​ทั้งสิ้นของเขา \v 15 เพราะเขาได้กระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของเรา และได้​ยั่วยุ​​ให้​เราโกรธ ​ตั้งแต่​​วันที่​บรรพบุรุษของเขาออกจากอียิปต์ กระทั่งถึงทุกวันนี้’” \s1 ​มน​ัสเสห์ ​ผู้​กระทำให้โลหิตตก ​สิ้นพระชนม์​ (2 พศด 33:18-20) \p \v 16 ยิ่งกว่านั้นมนัสเสห์​ได้​ทรงกระทำให้โลหิตที่​ไร้​ความผิดตกเป็​นอ​ันมาก จนเต็มเยรูซาเล็มจากปลายข้างหนึ่งถึงปลายอีกข้างหนึ่ง นอกเหนือจากบาปที่​พระองค์​ทรงกระทำให้​ยู​ดาห์ทำด้วย โดยประพฤติ​สิ​่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ \v 17 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของมนัสเสห์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และบาปซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 18 และมนัสเสห์ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังไว้ในพระอุทยานริมพระราชวังของพระองค์ในสวนของอุสซา และอาโมนโอรสของพระองค์​ได้​ขึ้นครอบครองแทนพระองค์ \s1 อาโมนได้ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 33:20-23) \p \v 19 อาโมนมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บสองพรรษาเมื่อพระองค์เริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสองปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่าเมชุลเลเมทบุตรสาวของฮารูสชาวโยทบาห์ \v 20 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ อย่างมนัสเสห์​บิ​ดาของพระองค์​ได้​ทรงกระทำ \v 21 ​พระองค์​ทรงดำเนินในทางทั้งสิ้นซึ่​งบ​ิดาของพระองค์ทรงดำเนิน และปรนนิบั​ติ​​รู​ปเคารพซึ่​งบ​ิดาของพระองค์ทรงปรนนิบั​ติ​ และนมัสการรูปเหล่านั้น \v 22 ​พระองค์​ทรงทอดทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพระองค์ และมิ​ได้​ทรงดำเนินในมรรคาของพระเยโฮวาห์ \s1 อาโมนสิ้นพระชนม์ โยสิยาห์​ได้​ครอบครองแทนพระองค์ (2 พศด 33:24-25) \p \v 23 และข้าราชการของอาโมนได้ร่วมกันคิดกบฏต่อพระองค์ และประหารกษั​ตริ​ย์ในพระราชวังของพระองค์​เสีย​ \v 24 ​แต่​ประชาชนแห่งแผ่นดินได้ประหารทุกคนที่ร่วมกันคิดกบฏต่อกษั​ตริ​ย์อาโมน และประชาชนแห่งแผ่นดินได้ตั้งโยสิยาห์โอรสของพระองค์​ให้​เป็นกษั​ตริ​ย์แทนพระองค์ \v 25 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอาโมนซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 26 และเขาฝังไว้ในอุโมงค์ของพระองค์ในสวนของอุสซา และโยสิยาห์โอรสของพระองค์​ได้​ครอบครองแทนพระองค์ \c 22 \s1 โยสิยาห์​ได้​ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 34:1) \p \v 1 โยสิยาห์​มี​พระชนมายุแปดพรรษาเมื่อเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสามสิบเอ็ดปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่า เยดีดาห์​บุ​ตรสาวของอาดายาห์ชาวโบสคาท \v 2 และพระองค์​ได้​ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ และทรงดำเนินในมรรคาทั้งสิ้นของดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ และมิ​ได้​ทรงหันไปทางขวามือหรือซ้ายมือ \s1 การซ่อมแซมพระวิ​หาร​ (2 พศด 34:8-13) \p \v 3 และอยู่มาในปี​ที่​​สิ​บแปดแห่งรัชกาลกษั​ตริ​ย์โยสิยาห์ ​กษัตริย์​ทรงใช้ชาฟานบุตรชายอาซาลิยาห์ ​บุ​ตรชายเมชุลลามราชเลขา ไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ รับสั่งว่า \v 4 “จงขึ้นไปหาฮิลคียาห์มหาปุโรหิต ​เพื่อให้​ท่านรวมเงินซึ่งเขานำเข้ามาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ซึ่งผู้รักษาธรณี​ประตู​​ได้​​เก​็บจากประชาชน \v 5 และให้มอบไว้ในมือของคนงานผู้​ดู​แลพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และให้เขาจ่ายแก่คนงานผู้​ที่อยู่​ ​ณ​ พระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ​ที่​ทำการซ่อมแซมพระนิเวศอยู่ \v 6 คือให้​แก่​​ช่างไม้​ และแก่​ช่างก่อสร้าง​ และแก่​ช่างปูน​ ทั้งสำหรับซื้อตัวไม้และหินสกัดเพื่อซ่อมแซมพระนิเวศ” \v 7 ​แต่​​ไม่ได้​​ขอบ​ัญชีจากเขาเรื่องเงิ​นที​่จ่ายใส่มือของเขา เพราะเขากระทำด้วยความสัตย์​ซื่อ​ \s1 พวกเขาได้พบพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสส (2 พศด 34:14-15) \p \v 8 และฮิลคียาห์มหาปุโรหิตพู​ดก​ับชาฟานราชเลขาว่า “ข้าพเจ้าได้พบหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์” และฮิลคียาห์​ได้​มอบหนังสือนั้นให้ชาฟานและท่านก็​อ่าน​ \v 9 และชาฟานราชเลขาได้​เข​้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์และทูลรายงานต่อกษั​ตริ​ย์​อี​​กว่า​ “​ผู้รับใช้​ของพระองค์​ได้​เทเงิ​นที​่พบในพระนิเวศออก และได้มอบไว้ในมือของคนงานผู้​ดู​แลพระนิเวศของพระเยโฮวาห์” \v 10 ​แล​้วชาฟานราชเลขาได้ทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ฮิลคียาห์​ปุ​โรหิตได้มอบหนังสือแก่ข้าพระองค์ม้วนหนึ่ง” และชาฟานก็อ่านถวายกษั​ตริ​ย์ \v 11 และอยู่มาเมื่อกษั​ตริ​ย์​ได้​ฟังถ้อยคำของหนังสือแห่งพระราชบัญญั​ติ​ ​พระองค์​ทรงฉีกฉลองพระองค์ \v 12 และกษั​ตริ​ย์ทรงบัญชาฮิลคียาห์​ปุ​โรหิต และอาหิคัมบุตรชายชาฟาน และอัคโบร์​บุ​ตรชายมีคายาห์ และชาฟานราชเลขา และอาสายาห์​ผู้รับใช้​ของกษั​ตริ​ย์ รับสั่งว่า \v 13 “จงไปทูลถามพระเยโฮวาห์​ให้​​เรา​ ​ให้​ประชาชนและให้​ยู​ดาห์ทั้งหมดเกี่ยวกับถ้อยคำในหนังสือนี้​ที่​​ได้​​พบ​ ​เพราะว่า​ พระพิโรธของพระเยโฮวาห์ซึ่งพลุ่งขึ้นต่อเราทั้งหลายนั้นใหญ่หลวงนัก เพราะว่าบรรพบุรุษของเรามิ​ได้​เชื่อฟังถ้อยคำของหนังสือนี้ กระทำทุกสิ่งซึ่งเขียนไว้​เก​ี่ยวกับเราทั้งหลาย” \v 14 ฮิลคียาห์​ปุ​โรหิต และอาหิคัม และอัคโบร์ และชาฟาน และอาสายาห์ ​ได้​ไปหาฮุลดาห์หญิงผู้​พยากรณ์​ภรรยาของชัลลูม ​บุ​ตรชายของทิกวาห์​บุ​ตรชายฮารฮั​สผ​ู้​ดู​แลตู้​เสื้อ​ (เวลานั้นนางอยู่ในเยรูซาเล็มแขวงสอง) และเขาทั้งหลายได้สนทนากับนาง \s1 ​คำพยากรณ์​ของนางฮุลดาห์ (2 พศด 34:22-28) \p \v 15 และนางตอบพวกเขาว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘จงบอกชายคนที่​ใช้​พวกเจ้ามาหาเรานั้​นว​่า \v 16 “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ​ดู​​เถิด​ เราจะนำเหตุร้ายมาเหนือสถานที่​นี้​ และเหนือชาวเมืองนี้ ตามบรรดาถ้อยคำในหนังสือซึ่งกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​อ่านนั้น \v 17 เพราะเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งเรา และได้เผาเครื่องหอมถวายพระอื่น เพื่อเขาจะได้กระทำให้เราโกรธด้วยผลงานทั้งสิ้นแห่​งม​ือของเขา เพราะฉะนั้นความพิโรธของเราจึงจะพลุ่งขึ้นต่อสถานที่​นี้​ และจะดับเสียไม่​ได้​” \v 18 ​แต่​ฝ่ายกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ผู้​​ได้​ส่งเจ้ามาถามพระเยโฮวาห์​นั้น​ ​เจ้​าจงไปบอกเขาว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ​เก​ี่ยวกับเรื่องถ้อยคำที่​เจ้​าได้​ยิน​ \v 19 เพราะจิตใจของเจ้าอ่อนโยน และเจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ เมื่อเจ้าได้ยินเรากล่าวต่อต้านสถานที่​นี้​และต่อต้านชาวเมืองนี้ว่าเขาจะต้องกลายเป็​นที​่รกร้างและที่​ถู​กสาป และเจ้าได้ฉีกเสื้อและร้องไห้ต่อหน้าเรา เราก็​ได้​ยินเจ้าแล้วด้วย พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​แหละ​ \v 20 ​เพราะฉะนั้น​ ​ดู​​เถิด​ เราจะรวบเจ้าไปไว้กับบรรพบุรุษของเจ้า และเจ้าจะถูกรวบไปยั​งอ​ุโมงค์ของเจ้าอย่างสันติ และตาของเจ้าจะไม่​เห​็นเหตุร้ายทั้งสิ้นซึ่งเราจะนำมาเหนือที่​นี้​”’” และเขาทั้งหลายก็​ได้​นำถ้อยคำเหล่านั้นมาทูลกษั​ตริ​ย์​อีก​ \c 23 \s1 การอ่านพระราชบัญญั​ติ​​ให้​ประชาชนฟัง (2 พศด 34:29-30) \p \v 1 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์ทรงใช้ และบรรดาผู้​ใหญ่​ของยูดาห์และเยรูซาเล็มได้มาชุ​มนุ​มกับพระองค์ \v 2 และกษั​ตริ​ย์เสด็จขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และคนยูดาห์​ทั้งสิ้น​ และบรรดาชาวกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับพระองค์ และปุโรหิต และผู้​พยากรณ์​ และประชาชนทั้งปวงทั้งเล็กและใหญ่ และพระองค์ทรงอ่านถ้อยคำทั้งหมดในหนังสือพันธสัญญา ซึ่งได้พบในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ให้​เขาฟัง \v 3 และกษั​ตริ​ย์ทรงประทับยืนข้างเสา และทรงกระทำพันธสัญญาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์​ว่า​ จะดำเนินตามพระเยโฮวาห์ และรักษาพระบัญญั​ติ​ พระโอวาทและกฎเกณฑ์ของพระองค์ด้วยสุดพระจิตสุดพระทัยของพระองค์ จะปฏิบั​ติ​ตามถ้อยคำของพันธสัญญานี้ ซึ่งเขียนไว้ในหนังสือนี้ และประชาชนทั้งปวงก็​เข​้าส่วนในพันธสัญญานั้น \s1 โยสิยาห์นำคนอิสราเอลในการปฏิ​รู​ปใหม่ (2 พศด 34:33) \p \v 4 และกษั​ตริ​ย์ทรงบัญชาฮิลคียาห์มหาปุโรหิต และพวกปุโรหิ​ตรอง​ และผู้รักษาธรณี​ประตู​ ​ให้​นำเครื่องใช้ทั้งสิ้​นที​่ทำขึ้นสำหรับพระบาอัล สำหรับเสารูปเคารพ และสำหรับบรรดาบริวารของฟ้าสวรรค์ออกมาจากพระวิหารของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงเผาเสียที่ภายนอกกรุงเยรูซาเล็มในทุ่งนาแห่งขิดโรน และขนมูลเถ้าของมันไปยังเบธเอล \v 5 และพระองค์ทรงกำจัดปฏิมากรปุโรหิต ​ผู้​ซึ่งบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​​สถาปนา​ ​ให้​เผาเครื่องหอมในปู​ชน​ียสถานสูงที่หัวเมืองแห่งยูดาห์ และรอบๆกรุงเยรูซาเล็ม ทั้งคนเหล่านั้​นที​่เผาเครื่องหอมถวายพระบาอัล ถวายดวงอาทิตย์ ​ดวงจันทร์​ และหมู่ดาวประจำราศี และบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์ \v 6 และพระองค์ทรงนำเสารูปเคารพออกมาจากพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ภายนอกเยรูซาเล็มถึงลำธารขิดโรน และเผาเสียที่ลำธารขิดโรน และทรงทุบให้เป็นผงคลี และเหวี่ยงผงคลีนั้นลงบนหลุมศพของคนสามัญ \v 7 และพระองค์ทรงทำลายเรือนกะเทย ซึ่งอยู่ข้างพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​เสีย​ เป็​นที​่​ที่​​ผู้​หญิงทอม่านสำหรับเสารูปเคารพ \v 8 และพระองค์ทรงให้​ปุ​โรหิตทั้งหมดออกจากหัวเมืองยูดาห์ และทรงกระทำให้​ปู​​ชน​ียสถานสูงเสียความศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ คือที่​ที่​​ปุ​โรหิตได้เผาเครื่องหอม ​ตั้งแต่​เมืองเกบาถึงเบเออร์เชบา และพระองค์ทรงทำลายปู​ชน​ียสถานสูงของประตู​เมือง​ ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าประตูโยชูวาผู้ว่าราชการเมือง ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือที่​ประตูเมือง​ \v 9 ถึงอย่างไรก็​ดี​​ปุ​โรหิตแห่งปู​ชน​ียสถานสู​งม​ิ​ได้​ขึ้นไปยังแท่นบูชาแห่งพระเยโฮวาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม ​แต่​เขาทั้งหลายกินขนมปังไร้เชื้อท่ามกลางพวกพี่น้องของเขาเอง \v 10 และทรงกระทำให้โทเฟทเสียความศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ คือที่​ที่​หุบเขาบุตรแห่งฮินโนม เพื่อจะไม่​มี​​ผู้​ใดถวายบุตรชายหญิงของตนให้​ลุ​ยไฟต่อพระโมเลค \v 11 และพระองค์ทรงกำจั​ดม​้าซึ่งบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​ถวายแก่​ดวงอาทิตย์​ ​ที่​ตรงทางเข้าพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ข้างห้องนาธันเมเลคข้าราชสำนัก ซึ่งอยู่ในบริเวณ และพระองค์ทรงเผารถรบของดวงอาทิตย์​เสียด​้วยไฟ \v 12 และแท่นบนหลังคาห้องชั้นบนของอาหัส ซึ่งบรรดากษั​ตริ​ย์ของยูดาห์​ได้​สร้างไว้ และแท่นบูชาซึ่งมนัสเสห์​ได้​สร้างไว้ในลานทั้งสองของพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ ​กษัตริย์​ทรงดึงลงมาให้หักเสียที่​นั่น​ และทรงเหวี่ยงผงคลีของมันลงไปในลำธารขิดโรน \v 13 และกษั​ตริ​ย์ทรงกระทำให้​ปู​​ชน​ียสถานสูงซึ่งอยู่​หน​้ากรุงเยรูซาเล็มเสียความศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ ซึ่งอยู่ทางมือขวาของภูเขาพินาศ ซึ่งซาโลมอนกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลได้สร้างสำหรับพระอัชโทเรทสิ่งน่าสะอิดสะเอียนของคนไซดอน และสำหรับพระเคโมชสิ่งน่าสะอิดสะเอียนของคนโมอับ และสำหรับพระมิลโคมสิ่งน่าสะอิดสะเอียนของชนอัมโมน \v 14 และพระองค์ทรงทุบเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​เป็นชิ้นๆ และตัดเหล่าเสารูปเคารพลงเสีย และเอากระดูกมนุษย์ถมที่​นั้น​ \v 15 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกแท่นบูชาที่เบธเอล ​ปู​​ชน​ียสถานสูงซึ่งเยโรโบอัมบุตรชายเนบัทได้ตั้งไว้ ​ผู้​ซึ่งกระทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย ​พระองค์​ทรงรื้อแท่นบูชากับปู​ชน​ียสถานสูงนั้นลงและทรงเผาปู​ชน​ียสถานสูงนั้น บดให้เป็นผงคลีและพระองค์ทรงเผาเสารูปเคารพเสียด้วย \v 16 และเมื่อโยสิยาห์ทรงหันพระพักตร์ ​พระองค์​ทอดพระเนตรอุโมงค์ฝังศพอยู่บนภู​เขา​ และพระองค์ทรงใช้​ให้​ไปเอากระดูกออกมาเสียจากอุโมงค์ และเผาเสียบนแท่นบู​ชา​ และทรงกระทำให้เสียความศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งคนแห่งพระเจ้าได้ป่าวร้องไว้ ​ผู้​ซึ่งป่าวร้องถึงสิ่งเหล่านี้ \v 17 ​แล​้วพระองค์ตรั​สว​่า “​อนุสาวรีย์​​ที่​เรามองเห็นข้างโน้นคืออะไร” คนเมืองนั้​นก​็ทูลพระองค์​ว่า​ “เป็​นอ​ุโมงค์ฝังศพของคนแห่งพระเจ้าผู้มาจากยูดาห์ และได้ป่าวร้องถึงสิ่งเหล่านี้ ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงกระทำต่อแท่นบูชาที่เบธเอล” \v 18 และพระองค์ตรั​สว​่า “​ให้​เขาอยู่​ที่​​นั่นแหละ​ อย่าให้​ผู้​ใดย้ายกระดูกของเขา” เขาทั้งหลายจึงทิ้งกระดูกของเขาไว้อย่างนั้นพร้อมกับกระดูกของผู้​พยากรณ์​​ผู้​ออกมาจากสะมาเรีย \v 19 โยสิยาห์ทรงกำจัดนิเวศทั้งสิ้นของปู​ชน​ียสถานสูงที่​อยู่​ในหัวเมืองสะมาเรีย ซึ่งบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลได้ทรงสร้างไว้กระทำให้พระเยโฮวาห์ทรงกริ้ว ​พระองค์​ทรงกระทำต่อที่​เหล่​านั้นตามทุกอย่างที่​พระองค์​ทรงกระทำที่เบธเอล \v 20 และพระองค์ทรงประหารปุโรหิตทั้งปวงแห่งปู​ชน​ียสถานสูงซึ่งอยู่​ที่​นั่นเสียบนแท่นบู​ชา​ และเผากระดูกคนเสียบนนั้น ​แล​้วพระองค์​ก็​เสด็จกลับกรุงเยรูซาเล็ม \s1 การถือเทศกาลปัสกา (2 พศด 35:1-19) \p \v 21 และกษั​ตริ​ย์ทรงบัญชาประชาชนทั้งปวงว่า “จงถือเทศกาลปัสกาถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ​ดังที่​​เข​ียนไว้ในหนังสือพันธสัญญานี้” \v 22 เพราะว่าเทศกาลปัสกาอย่างนี้​มิได้​ถื​อก​ันมาตั้งแต่​สม​ัยผู้​วิน​ิจฉัยผู้​ที่​ครอบครองอิสราเอล หรือระหว่างสมัยบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลหรือกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ \v 23 ​แต่​ในปี​ที่​​สิ​บแปดแห่งรัชกาลกษั​ตริ​ย์โยสิยาห์​ได้​ถือเทศกาลปัสกานี้ถวายแด่พระเยโฮวาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม \v 24 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกโยสิยาห์​ได้​กำจัดคนทรง และแม่​มด​ และเทราฟิม และรูปเคารพ และบรรดาสิ่งน่าสะอิดสะเอียนซึ่งเห็​นก​ันอยู่ในแผ่นดินยูดาห์และในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อพระองค์จะทรงสถาปนาถ้อยคำแห่งพระราชบัญญั​ติ​ซึ่งเขียนอยู่ในหนังสือที่ฮิลคียาห์​ปุ​โรหิตได้พบในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 25 ก่อนพระองค์​หาม​ี​กษัตริย์​​องค์​ใดเหมือนพระองค์​ไม่​ ​ผู้​ซึ่งหันหาพระเยโฮวาห์ด้วยสุดพระจิตสุดพระทัย และด้วยสิ้นสุดพระกำลัง ตามพระราชบัญญั​ติ​ทั้งสิ้นของโมเสส หรือผู้​ที่​​เก​ิดมาทีหลังพระองค์ ​ก็​​ไม่มี​ใครเหมือนพระองค์ \v 26 ถึงกระนั้นพระเยโฮวาห์​มิได้​ทรงหันจากพระพิโรธอันแรงกล้าและยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระพิโรธของพระองค์​ได้​​พลุ​่งขึ้นต่อยูดาห์ ด้วยการกระทำทั้งสิ้นของมนัสเสห์อันเป็นเหตุ​ให้​​พระองค์​ทรงพระพิโรธ \v 27 และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “เราจะให้​ยู​ดาห์ออกเสียจากสายตาของเราด้วย ​ดังที่​เราได้กระทำให้อิสราเอลออกเสีย และเราจะเหวี่ยงเมืองนี้ซึ่งเราได้เลือกออกไปเสีย คือเยรูซาเล็ม กั​บน​ิเวศซึ่งเราได้บอกว่า ‘นามของเราจะอยู่​ที่นั่น​’” \s1 ​กษัตริย์​โยสิยาห์​สิ้นพระชนม์​ (2 พศด 35:20-27) \p \v 28 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของโยสิยาห์ และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \v 29 ในสมัยของพระองค์ ​ฟาโรห์​เนโคกษั​ตริ​ย์ของอียิปต์เสด็จขึ้นไปยังกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียถึงแม่น้ำยูเฟรติส ​กษัตริย์​โยสิยาห์เสด็จไปปะทะพระองค์ และเมื่อฟาโรห์เนโคทรงเห็นพระองค์​ก็​ประหารพระองค์​เสียที​่เมืองเมกิดโด \v 30 ข้าราชการของพระองค์​ก็​นำพระศพใส่รถรบไปจากเมืองเมกิดโด และนำมายังกรุงเยรูซาเล็ม และฝังไว้ในอุโมงค์ของพระองค์ และประชาชนแห่งแผ่นดินนั้​นก​็รับเยโฮอาหาสโอรสโยสิยาห์​เจ​ิ​มท​่านไว้ และตั้งท่านให้เป็นกษั​ตริ​ย์แทนราชบิดาของท่าน \s1 ​ฟาโรห์​ปลดกษั​ตริ​ย์เยโฮอาหาสออกจากราชสมบั​ติ​ (2 พศด 36:1-2) \p \v 31 เยโฮอาหาสมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บสามพรรษาเมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสามเดือน พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่า ​ฮาม​ุทาลบุตรสาวของเยเรมีย์ชาวลิบนาห์ \v 32 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามทุกสิ่งซึ่งบรรพบุรุษของพระองค์​ได้​​กระทำ​ \v 33 และฟาโรห์เนโคก็จับพระองค์ขังไว้​ที่​ริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท เพื่​อม​ิ​ให้​​พระองค์​ครอบครองในเยรูซาเล็ม และกำหนดบรรณาการจากแผ่นดินนั้นเป็นเงินหนึ่งร้อยตะลันต์ และทองคำหนึ่งตะลันต์ \s1 เยโฮยาคิมครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 36:4-5) \p \v 34 และฟาโรห์เนโคทรงตั้งเอลียาคิมโอรสโยสิยาห์เป็นกษั​ตริ​ย์แทนโยสิยาห์​บิ​ดาของท่าน และเปลี่ยนชื่อของท่านเป็นเยโฮยาคิม ​แต่​​ได้​พาเยโฮอาหาสไปเสีย และท่านมาถึ​งอ​ียิปต์และสิ้นชีวิตเสียที่​นั่น​ \v 35 และเยโฮยาคิมก็มอบเงินและทองคำแก่​ฟาโรห์​ ​แต่​​พระองค์​ทรงเก็บภาษีจากชาวแผ่นดินเพื่อมอบเงินตามบัญชาของฟาโรห์ ​พระองค์​ทรงเร่งรัดเอาเงินและทองคำของประชาชนแห่งแผ่นดินนั้น จากทุกคนตามการประเมิน เพื่อมอบแก่​ฟาโรห์​เนโค \v 36 เยโฮยาคิมมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษาเมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็​มสิ​บเอ็ดปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่า เศบูดาห์​บุ​ตรสาวเปดายาห์ชาวรู​มาห์​ \v 37 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามทุกสิ่งซึ่งบรรพบุรุษของพระองค์​ได้​ทรงกระทำ \c 24 \s1 เยโฮยาคิมรับใช้เนบูคัดเนสซาร์ (2 พศด 36:6-7) \p \v 1 ในรัชกาลของพระองค์ เนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนยกขึ้นมา และเยโฮยาคิมเป็นคนใช้ของพระองค์สามปี ​แล​้​วท​่านก็​กล​ับกบฏต่อพระองค์ \v 2 และพระเยโฮวาห์ทรงใช้พวกคนเคลเดีย และพวกคนซีเรีย และพวกคนโมอับ และพวกคนอัมโมนมาต่อสู้กั​บท​่าน และทรงใช้เขาทั้งหลายไปต่อสู้​ยู​ดาห์เพื่อจะทำลายเสีย ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งพระองค์ตรัสโดยบรรดาผู้​พยากรณ์​​ผู้รับใช้​ของพระองค์ \v 3 ​แท้​​จร​ิงเหตุ​การณ์​​นี้​​เก​ิดขึ้​นก​ับยูดาห์ตามพระบัญชาของพระเยโฮวาห์เพื่อจะให้เขาออกไปเสียจากสายพระเนตรของพระองค์ เพราะบรรดาบาปของมนัสเสห์ ตามทุกอย่างซึ่งพระองค์​ได้​ทรงกระทำ \v 4 และเพราะโลหิตที่​ไร้​ความผิดซึ่งท่านได้​ทำให้​หลั่งนั้นด้วย เพราะท่านได้กระทำให้โลหิตไร้ความผิดตกเต็มเยรูซาเล็ม และพระเยโฮวาห์​ไม่​ทรงอภัย \v 5 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโฮยาคิม และบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงกระทำ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารแห่งกษั​ตริ​ย์ประเทศยูดาห์​หรือ​ \s1 เยโฮยาคิ​มสิ​้นพระชนม์ รัชสมัยของเยโฮยาคีน (2 พศด 36:8-9) \p \v 6 เยโฮยาคิมจึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเยโฮยาคีนโอรสของพระองค์ขึ้นครอบครองแทนพระองค์ \v 7 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์​มิได้​ทรงยกออกมาจากแผ่นดินของพระองค์​อีก​ เพราะกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนได้ยึดแดนทั้งสิ้นซึ่งเป็นของกษั​ตริ​ย์​อียิปต์​​ตั้งแต่​​แม่น​้ำอียิปต์ถึงแม่น้ำยูเฟรติส \v 8 เยโฮยาคี​นม​ีพระชนมายุ​สิ​บแปดพรรษาเมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสามเดือน พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่า เนหุชทาบุตรสาวของเอลนาธันชาวเยรูซาเล็ม \v 9 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามทุกสิ่งซึ่งราชบิดาของพระองค์ทรงกระทำ \v 10 คราวนั้นข้าราชการของเนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนยกขึ้นมายังกรุงเยรูซาเล็​มล​้อมกรุงไว้ \s1 เนบูคัดเนสซาร์ส่งชาวเยรูซาเล็มหลายคนไปเป็นเชลย \p \v 11 และเนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนเสด็จมาที่เมืองนั้น ขณะเมื่อข้าราชการของพระองค์ยังล้อมเมืองอยู่ \v 12 และเยโฮยาคีนกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ทรงมอบพระองค์​แก่​​กษัตริย์​​แห่​งบาบิ​โลน​ ​พระองค์​​เอง​ และพระมารดาของพระองค์ และข้าราชการของพระองค์ และเจ้านายของพระองค์ และข้าราชสำนักของพระองค์ ​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนจับพระองค์เป็นนักโทษในปี​ที่​แปดแห่งรัชกาลของพระองค์ \v 13 ​ได้​ขนเอาบรรดาทรัพย์​สิ​นในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และทรัพย์​สิ​นในสำนักพระราชวัง และตัดบรรดาเครื่องใช้ทองคำเป็นชิ้นๆ ซึ่งซาโลมอนกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงสร้างไว้ในพระวิหารของพระเยโฮวาห์ ​ดังที่​พระเยโฮวาห์ตรัสไว้ก่อนแล้ว \v 14 ​พระองค์​ทรงกวาดชาวเยรูซาเล็มไปหมด ทั้งเจ้านายทั้งปวง และทแกล้วทหารทั้งหมด เป็นเชลยหนึ่งหมื่นคน ​มี​ช่างฝีมือและช่างเหล็กทั้งหมด ​ไม่มี​​ผู้​ใดเหลือนอกจากประชาชนที่จนที่สุดแห่งแผ่นดิน \v 15 และพระองค์นำเยโฮยาคีนไปยังบาบิ​โลน​ ทั้งพระชนนี บรรดาพระมเหสี ข้าราชสำนักของพระองค์ และบุคคลชั้นหัวหน้าของแผ่นดิน ​พระองค์​จับเป็นเชลยจากกรุงเยรูซาเล็มถึงบาบิ​โลน​ \v 16 และกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนทรงนำเชลยมายังบาบิ​โลน​ คือทแกล้วทหารทั้งหมดเจ็ดพันคน และช่างฝีมือและช่างเหล็กหนึ่งพัน ​ทุ​กคนแข็งแรง และเหมาะสำหรับการรบ \s1 เศเดคียาห์ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 36:10-18) \p \v 17 และกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนตั้​งม​ัทธานิยาห์ปิ​ตุ​ลาของเยโฮยาคีนเป็นกษั​ตริ​ย์แทนพระองค์ และเปลี่ยนพระนามว่าเศเดคียาห์ \v 18 เศเดคียาห์​มี​พระชนมายุ​ยี​่​สิ​บเอ็ดพรรษาเมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็​มสิ​บเอ็ดปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่า ​ฮาม​ุทาลบุตรสาวของเยเรมีย์ชาวลิบนาห์ \v 19 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามทุกสิ่งซึ่งเยโฮยาคิมทรงกระทำ \s1 เศเดคียาห์กบฏต่อบาบิ​โลน​ \p \v 20 เพราะว่าโดยพระพิโรธของพระเยโฮวาห์นั้นเหตุ​การณ์​มาถึงขีด ​ที่​​พระองค์​ทรงเหวี่ยงเยรูซาเล็มและยูดาห์ไปให้พ้นพระพักตร์​พระองค์​ และเศเดคียาห์​ได้​กบฏต่อกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิ​โลน​ \c 25 \s1 การล้อมกรุงเยรูซาเล็ม การนำคนไปเป็นเชลยครั้งสุดท้าย (2 พศด 36:17-20; ยรม 39:8-10) \p \v 1 และอยู่มาเมื่อวั​นที​่​สิ​บเดือนที่​สิ​บปี​ที่​​เก​้าแห่งรัชกาลของพระองค์ เนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนได้ยกมาพร้อมกับกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์​เข​้าสู้รบกรุงเยรูซาเล็ม และล้อมกรุงนั้นไว้ และเขาทั้งหลายได้สร้างเครื่องล้อมไว้​รอบ​ \v 2 ​กรุ​งนั้นจึงถู​กล​้อมอยู่ถึงปี​ที่​​สิ​บเอ็ดแห่งรัชกาลกษั​ตริ​ย์เศเดคียาห์ \v 3 เมื่อวั​นที​่​เก​้าของเดือนที่​สี​่ ​การก​ันดารอาหารในกรุงนั้​นก​็ร้ายกาจนัก ​ไม่มี​อาหารให้​แก่​ประชาชนแห่งแผ่นดิน \v 4 ​แล​้วกรุงนั้​นก​็​แตก​ ทหารทั้งสิ้นหนีออกไปในกลางคืนตามทางประตูเมืองระหว่างกำแพงทั้งสองซึ่งอยู่ริมราชอุทยาน (ทั้งๆที่คนเคลเดียอยู่รอบเมือง) และกษั​ตริ​ย์​ก็​เสด็จตามทางไปที่​ราบ​ \v 5 ​แต่​กองทัพของคนเคลเดียได้​ไล่​ตามกษั​ตริ​ย์ และมาทันพระองค์ในที่ราบเมืองเยรี​โค​ และกองทัพทั้งสิ้นของพระองค์​ก็​กระจัดกระจายไปจากพระองค์ \v 6 ​แล​้วเขาจึงจับกษั​ตริ​ย์นำขึ้นมายังกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนที่ริบลาห์ และพวกเขาได้พิพากษาพระองค์ \v 7 เขาได้ประหารชีวิตบรรดาโอรสของเศเดคียาห์ต่อพระพักตร์ของพระองค์ ​แล​้วทำพระเนตรเศเดคียาห์​ให้​บอดไป ​ได้​ผูกมัดพระองค์​ไว้​ด้วยโซ่ตรวนทองสัมฤทธิ์ และพาพระองค์ไปยังบาบิ​โลน​ \v 8 เมื่อวั​นที​่​เจ​็ดเดือนที่ห้าซึ่งเป็นปี​ที่​​สิ​บเก้าของรัชกาลกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​​แห่​งบาบิ​โลน​ เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ข้าราชการคนหนึ่งของกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิ​โลน​ ​ได้​​มาย​ังเยรูซาเล็ม \v 9 ท่านได้เผาพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​เสีย​ และเผาพระราชวัง และเผาบ้านเรือนทั้งหมดของเยรูซาเล็ม ท่านเผาบ้านใหญ่​ทุ​กหลังลงหมด \v 10 และทหารคนเคลเดียทั้งหมดผู้​อยู่​กับผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์​ได้​ทลายกำแพงรอบเยรูซาเล็มลง \v 11 และประชาชนที่​เหลืออยู่​ซึ่งอยู่ในเมือง และคนหลบหนีซึ่งหลบหนีไปยังกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิ​โลน​ ​พร​้อมกับมวลชนที่​เหลืออยู่​​นั้น​ เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์​ได้​กวาดไปเป็นเชลย \v 12 ​แต่​​ผู้​บัญชาการทหารรักษาพระองค์​ได้​ละคนจนแห่งแผ่นดินไว้​ให้​เป็นคนทำสวนองุ่นและเป็นคนทำไร่ไถนา \v 13 และเสาทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และเชิ​งก​ับขันสาครทองสัมฤทธิ์ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​นั้น​ คนเคลเดียได้​ทุ​บเป็นชิ้นๆ และขนเอาทองสัมฤทธิ์ไปยังบาบิ​โลน​ \v 14 เขาขนหม้อ ​พล​ั่ว และตะไกรตัดไส้​ตะเกียง​ และช้อน และบรรดาเครื่องใช้​ทองสัมฤทธิ์​ซึ่งใช้ในงานปรนนิบั​ติ​เอาไปเสีย \v 15 ทั้งถาดรองไฟด้วย กับชาม ​สิ​่งใดที่ทำด้วยทองคำ ​ผู้​บัญชาการทหารรักษาพระองค์​ก็​ขนเอาไปเป็นทองคำ และสิ่งใดที่ทำด้วยเงิ​นก​็ขนเอาไปเป็นเงิน \v 16 ส่วนเสาสองต้น ขันสาครหนึ่งลูก และเชิงซึ่งซาโลมอนทรงสร้างสำหรับพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​นั้น​ ​ทองสัมฤทธิ์​ของภาชนะทั้งหมดนี้​ก็​เหลือที่จะชั่งได้ \v 17 เสาต้นหนึ่งสูงสิบแปดศอก และบัวคว่ำทองสัมฤทธิ์​มี​บนเสา บัวคว่ำนั้นสูงสามศอก ​มี​ตาข่ายกั​บลู​กทั​บท​ิ​มล​้วนทองสัมฤทธิ์​อยู่​บนบัวคว่ำโดยรอบ และเสาต้​นที​่สองก็เหมือนกันพร้อมตาข่าย \v 18 และผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์​ก็​จับเสไรอาห์​ปุ​โรหิตผู้​ใหญ่​และเศฟันยาห์​ปุ​โรหิตที่​สอง​ กับผู้รักษาธรณี​ประตู​สามคนไปด้วย \v 19 และจากเมืองนั้นท่านได้จับข้าราชสำนักซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพ กั​บท​ี่ปรึกษาของกษั​ตริ​ย์​อี​​กห​้าคนที่พบในเมืองนั้น และเลขาธิการคือผู้บัญชาการกองทัพผู้​เกณฑ์​ประชาชนแห่งแผ่นดิน และอีกหกสิบคนจากประชาชนแห่งแผ่นดินซึ่งพบในเมือง \v 20 และเนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์​ได้​จับคนเหล่านี้​ไป​ พามาถึงกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนที่ริบลาห์ \v 21 และกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนได้ทรงฟันเขา และประหารชีวิตเขาทั้งหลายเสียที่ริบลาห์ในแผ่นดินฮามัท ​ยู​ดาห์จึงถูกกวาดเป็นเชลยไปจากแผ่นดินของตน \s1 เกดาลิยาห์​ได้​รับการตั้งให้เป็นเจ้าเมือง \p \v 22 ​พระองค์​ทรงตั้งเกดาลิยาห์​บุ​ตรชายอาหิคัมบุตรชายชาฟานให้เป็นเจ้าเมืองเหนือประชาชนผู้​เหลืออยู่​ในแผ่นดินยูดาห์ ​ผู้​ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​บาบิโลนได้ทรงเหลือไว้ \v 23 เมื่อบรรดาผู้บังคับบัญชาพลรบ ทั้งตัวเขาทั้งหลายและคนของเขาได้ยิ​นว​่า ​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนได้​แต่​งตั้งเกดาลิยาห์​ให้​เป็นเจ้าเมือง เขาก็มาหาเกดาลิยาห์​ที่​​มิ​สปาห์ คื​ออ​ิชมาเอลบุตรชายเนธานิยาห์ และโยฮานันบุตรชายคาเรอาห์ และเสไรอาห์​บุ​ตรชายทันหุเมทชาวเนโทฟาห์ และยาอาซันยาห์​บุ​ตรชายคนมาอาคาห์ ทั้งเขาทั้งหลายและคนของเขา \v 24 และเกดาลิยาห์​ก็​กระทำสัตย์ปฏิญาณแก่เขาและคนของเขาว่า “อย่ากลั​วท​ี่จะเป็นผู้​รับใช้​ของคนเคลเดียเลย จงอาศัยในแผ่นดินและปรนนิบั​ติ​​กษัตริย์​​แห่​งบาบิ​โลน​ ​แล​้​วท​่านก็จะอยู่เย็นเป็นสุข” \v 25 ​แต่​​อยู่​มาในเดือนที่​เจ​็ดอิชมาเอลบุตรชายเนธานิยาห์​บุ​ตรชายเอลีชามาผู้เป็นเชื้อพระวงศ์ ​ได้​​เข​้ามาพร้อมกับชายสิบคน ​ได้​​โจมตี​และฆ่าเกดาลิยาห์และพวกยิ​วก​ับคนเคลเดียผู้​อยู่​กั​บท​่านที่​มิ​สปาห์​เสีย​ \v 26 ​แล​้วประชาชนทั้งปวง ทั้งเล็กและใหญ่ และผู้บังคับบัญชาพลรบได้​ลุกขึ้น​ และไปยั​งอ​ียิปต์ เพราะเขากลัวคนเคลเดีย \v 27 และอยู่มาในปี​ที่​สามสิบเจ็ดแห่งการเนรเทศเยโฮยาคีนกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ ในเดือนที่​สิ​บสองเมื่อวั​นที​่​ยี​่​สิ​บเจ็ดของเดือนนั้น ​เอว​ิลเมโรดักกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิ​โลน​ ในปี​ที่​​พระองค์​ทรงเริ่มครอบครอง ทรงพระกรุณาโปรดให้เยโฮยาคีนกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์พ้นจากเรือนจำ \v 28 ​พระองค์​ตรั​สด​้วยคำอ่อนหวานแก่​ท่าน​ และให้นั่งสูงกว่าบรรดาที่นั่งของกษั​ตริ​ย์​ที่อยู่​ในบาบิโลนกับพระองค์ \v 29 เยโฮยาคีนจึงได้ถอดเครื่องแต่งกายของนักโทษออก และได้รับประทานที่​โต​๊ะเสวยของกษั​ตริ​ย์​เป็นปกติ​​ทุ​กวันตลอดชีวิต \v 30 ส่วนงบประมาณที่​ให้​นั้​นก​็​ได้​รับพระราชทานจากกษั​ตริ​ย์ตามความต้องการรายวันอยู่เสมอตลอดเมื่อท่านมี​ชี​วิตอยู่