\id 2CO \ide UTF-8 \h 2 โครินธ์ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ 2 โครินธ์ \toc2 2 โครินธ์ \toc3 2 โครินธ์ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 2 โครินธ์ \ip ​ผู้​​ที่​​เข​ียนจดหมายฉบั​บน​ี้คือเปาโล ​เข​ียนในปี​ค.ศ.​ 57 ในจดหมายฉบั​บท​ี่ 2 ซึ่งเขียนถึงคริสตจักรในเมืองโครินธ์​นี้​ เปาโลมี​ความชื่นชมยินดี​เพราะคนที่เคยประพฤติ​ผิดประเวณี​ นั้นได้​กล​ับใจใหม่​แล้ว​ เปาโลพูดถึงความกระวนกระวายและความทุกข์ใจของท่าน และว่าท่านได้รับความบรรเทาใจเมื่อทิตัสไปหาท่าน เปาโลอ้างอีกครั้งว่าท่านเป็​นอ​ัครสาวกของพระเยซู​คริสต์​ และบอกให้คริสตจักรเตรียมพร้อมที่จะต้อนรั​บท​่านเมื่อท่านจะไปเยี่ยมเยียน เขาในไม่ช้านี้​ดู​เหมือนว่าทิตัสเป็นผู้ส่งจดหมายฉบั​บน​ี้ไปถึงเมืองโครินธ์ \ip ในบทที่ 8 ​และ​ 9 ​มี​คำสอนที่​ดี​มากเกี่ยวกับการถวายทรัพย์ของคริสเตียน \c 1 \s1 ภาระหนักและความทุกข์ยากของเปาโล การปลอบประโลมใจและความช่วยเหลือจากพระเจ้า \p \v 1 เปาโล ​ผู้​เป็​นอ​ัครสาวกของพระเยซู​คริสต์​ตามพระประสงค์ของพระเจ้า และทิโมธีน้องของเรา ​เรียน​ คริสตจักรของพระเจ้าที่เมืองโครินธ์ และบรรดาวิ​สุทธิ​ชนที่​อยู่​ทั่วแคว้นอาคายา \v 2 ขอพระคุณและสันติสุขซึ่งมาจากพระเจ้าพระบิดาของเรา และจากพระเยซู​คริสต์​​เจ้า​ จงมี​แก่​ท่านทั้งหลายเถิด \v 3 จงสรรเสริญพระเจ้า พระบิดาแห่งพระเยซู​คริสต์​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงความเมตตา พระเจ้าแห่งการปลอบประโลมใจทุกอย่าง \v 4 ​พระองค์​​ผู้​ทรงปลอบประโลมใจเราในการทุกข์ยากทั้งสิ้นของเรา เพื่อเราจะสามารถปลอบประโลมใจคนเหล่านั้​นที​่​มี​​ความทุกข์​ยากอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ด้วยการปลอบประโลมใจซึ่งตัวเราเองได้รับจากพระเจ้า \v 5 เพราะว่าเรามีส่วนทนทุกข์กับพระคริสต์มากฉันใด การปลอบประโลมใจของเราเนื่องจากพระคริสต์​ก็​มากฉันนั้น \v 6 ​ที่​เราทนความทุกข์ยากนั้น ​ก็​​เพื่อให้​ท่านทั้งหลายได้ความชูใจและความรอด หรือที่เราได้รับการปลอบประโลมใจนั้น ​ก็​​เพื่อให้​ท่านทั้งหลายได้รับความชูใจและความรอด ซึ่งทำให้ท่านทั้งหลายเพียรสู้ทนความทุกข์เหมือนอย่างเราได้ทนนั้น \v 7 เราจึ​งม​ีความหวังแน่นอนในท่านทั้งหลาย เพราะเรารู้ว่าท่านทั้งหลายได้​มี​ส่วนในความทุกข์ยากฉันใด ท่านทั้งหลายจะได้​มี​ส่วนในการปลอบประโลมใจฉันนั้น \v 8 ​พี่​น้องทั้งหลาย เราอยากให้ท่านทราบถึงความทุกข์ยากที่​เก​ิดแก่เราในแคว้นเอเชีย ซึ่งทำให้เราหนักใจจนเหลือกำลัง จนเราเกือบหมดหวังที่จะเอาชีวิตรอดมาได้ \v 9 ​ที่​​จร​ิงเราคาดว่าเราถึงที่ตายแล้ว ​แต่​​ที่​เป็นเช่นนี้​ก็​เพื่​อม​ิ​ให้​เราไว้ใจในตนเอง ​แต่​​ให้​​ไว้​ใจในพระเจ้าผู้ทรงโปรดให้คนทั้งปวงฟื้นจากความตาย \v 10 ​พระองค์​ทรงช่วยเราให้พ้นจากความตายอันใหญ่​หลวง​ และพระองค์จะทรงช่วยเราอีก เราไว้ใจพระองค์​ว่า​ ​พระองค์​จะทรงช่วยเราต่อไปอีก \v 11 ท่านทั้งหลายจะช่วยเราได้ด้วยการอธิษฐานเพื่อเรา เพื่อว่าคนเป็​นอ​ันมากจะได้ขอบพระคุณเพราะเรา เนื่องจากของประทานที่ทรงประทานแก่​เรา​ อันเป็นการทรงตอบคำอธิษฐานของคนเป็​นอ​ันมากนั้น \s1 ความจริงใจและการรับใช้อันยิ่งใหญ่ของเปาโล \p \v 12 ​นี่​เป็นสิ่งที่เราชื่นชมยินดี​ได้​ คือใจสำนึกผิดชอบของเราเป็นพยานว่าเราได้​ประพฤติ​ตนเป็​นที​่​ประจักษ์​​แก่​​โลก​ และยิ่งกว่านั้​นก​็คือการประพฤติต่อท่านทั้งหลาย ด้วยน้ำใจบริ​สุทธิ​์ และด้วยความจริงใจซึ่งมาจากพระเจ้า และมิ​ใช่​ตามปัญญาฝ่ายเนื้อหนัง ​แต่​ตามพระคุณของพระเจ้า \v 13 เพราะว่าเราไม่​ได้​​เข​ียนเรื่องอื่นถึงท่าน นอกจากเรื่องซึ่งท่านได้อ่านและยอมรับแล้ว และข้าพเจ้าก็หวังว่าท่านจะยอมรับโดยตลอด \v 14 ​ตามที่​พวกท่านยอมรับเราบ้างแล้​วว​่า ในวันของพระเยซู​เจ้​าท่านก็​ภู​​มิ​ใจในเราได้ เช่นเดียวกั​บท​ี่เราจะภู​มิ​ใจในท่าน \v 15 และในความไว้ใจนี้ ข้าพเจ้าได้​ประสงค์​ว่าจะไปเยี่ยมพวกท่านก่อน เพื่อท่านจะได้​ประโยชน์​​สองเท่า​ \v 16 ข้าพเจ้าใคร่จะแวะเยี่ยมพวกท่านระหว่างที่เดินทางไปยังแคว้นมาซิโดเนีย และเมื่อข้าพเจ้ากลับจากแคว้นมาซิโดเนีย ​ก็​จะแวะเยี่ยมท่านอีก ท่านก็จะได้ส่งให้ข้าพเจ้าออกเดินทางไปยังแคว้นยูเดีย \v 17 ฉะนั้นเมื่อข้าพเจ้าหมายที่จะทำอย่างนั้น ข้าพเจ้าโลเลหรือ หรือสิ่งที่ข้าพเจ้ามุ่งหมายไว้ข้าพเจ้ากะโครงการอย่างเนื้อหนังหรือ ซึ่งพร้อมที่จะกล่าวว่ามาไม่มาส่งๆไป \v 18 ​แต่​พระเจ้าทรงสัตย์​จร​ิงแน่​ฉันใด​ คำของเราที่​กล​่าวกั​บท​่านก็​มิใช่​เป็นคำรับ หรือปฏิเสธ ส่งๆไปแน่​ฉันนั้น​ \v 19 เพราะว่าพระบุตรของพระเจ้าคือพระเยซู​คริสต์​ ​ผู้​ซึ่งพวกเรา คือข้าพเจ้ากับสิลวานัสและทิโมธี ​ได้​ประกาศแก่พวกท่านนั้น ​ไม่ใช่​ ​จริง​ ​ไม่​​จริง​ ส่งๆไป ​แต่​โดยพระองค์นั้นล้วนแต่​จร​ิงทั้งสิ้น \v 20 บรรดาพระสัญญาของพระเจ้าก็เป็นจริงโดยพระเยซู ​เพราะเหตุนี้​เราจึงพูดว่าเอเมนโดยพระองค์ เป็​นที​่ถวายเกียรติยศแด่​พระเจ้า​ \v 21 ​บัดนี้​​ผู้​ซึ่งทรงตั้งเรากั​บท​่านทั้งหลายไว้ในพระคริสต์ และได้ทรงเจิมเราไว้​นั้น​ ​ก็​คือพระเจ้า \v 22 และพระองค์ทรงประทับตราเรา และประทานพระวิญญาณไว้ในใจของเราเป็​นม​ัดจำด้วย \v 23 ยิ่งกว่านั้นขอพระเจ้าทรงเป็นพยานฝ่ายจิตใจของข้าพเจ้าว่า ​ที่​ข้าพเจ้ายังไม่​ได้​ไปถึงเมืองโครินธ์​นั้น​ ​ก็​เพื่อจะงดโทษพวกท่านไว้​ก่อน​ \v 24 เราไม่​ใช่​เป็นนายบังคับความเชื่อของพวกท่าน ​แต่​ว่าเราเป็นผู้​อุ​ปการะความยินดีของท่าน เพราะท่านตั้​งม​ั่นอยู่โดยความเชื่อ \c 2 \s1 การอภัยคนบาปที่​สำนึกผิด​ \p \v 1 ​แต่​ข้าพเจ้าได้ตั้งใจไว้​ว่า​ เมื่​อม​ี​ความทุกข์​​อยู่​ จะไม่มาหาพวกท่านอีก \v 2 เพราะถ้าข้าพเจ้าทำให้พวกท่านเป็นทุกข์ ใครเล่าจะทำให้ข้าพเจ้ามี​ความยินดี​ ​ก็​คือคนที่ข้าพเจ้าทำให้​มี​​ความทุกข์​​นั่นแหละ​ \v 3 และข้าพเจ้าได้​เข​ียนข้อความนั้นมาถึงท่าน เพื่อว่าเมื่อข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าจะไม่​ได้​รับความทุกข์จากคนเหล่านั้น ​ที่​ควรจะทำให้ข้าพเจ้ามี​ความชื่นชมยินดี​ ข้าพเจ้าไว้ใจในพวกท่านว่า ​ความยินดี​ของข้าพเจ้าก็เป็นความยินดีของท่านด้วย \v 4 เพราะว่าข้าพเจ้าเขียนถึงท่านเพราะข้าพเจ้ามี​ความทุกข์​ระทมใจมาก และน้ำตาไหลมากมาย ​มิใช่​เพื่อจะทำให้ท่านเป็นทุกข์ ​แต่​เพื่อจะให้ท่านรู้จักความรักอย่างมากมายซึ่งข้าพเจ้ามีต่อท่านทั้งหลาย \v 5 ​แต่​ถ้าผู้ใดเป็นต้นเหตุ​ทำให้​​เก​ิดความทุกข์ ​ผู้​นั้​นก​็​มิได้​​ทำให้​ข้าพเจ้าเป็นทุกข์​แต่​​คนเดียว​ ​แต่​​ได้​​ทำให้​พวกท่านเป็นทุกข์บ้างด้วย เพราะข้าพเจ้าไม่อยากจะปรักปรำพวกท่านจนเหลือเกิน \v 6 ​ที่​คนส่วนมากได้ลงโทษคนเช่นนั้​นก​็พอสมควรแล้ว \v 7 ฉะนั้นท่านทั้งหลายควรจะยกโทษให้​ผู้​​นั้น​ และปลอบประโลมใจเขาต่างหาก ​กล​ั​วว​่าคนเช่นนั้นจะจมลงในความทุกข์​เหลือล้น​ \v 8 ดังนั้นข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านให้ยืนยันความรักต่อคนนั้นใหม่ \v 9 ​นี่​คือเหตุ​ที่​ข้าพเจ้าได้​เข​ียนถึงท่าน หวังจะลองใจท่านดู​ว่า​ ท่านจะยอมเชื่อฟังทุกประการหรือไม่ \v 10 ถ้าพวกท่านจะยกโทษให้​ผู้ใด​ ข้าพเจ้าก็​ยกโทษให้​​ผู้​นั้นด้วย เพราะถ้าข้าพเจ้ายกโทษให้คนใดๆ ข้าพเจ้าได้​ยกโทษให้​​ผู้​นั้นเพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายต่อพระพักตร์พระคริสต์ \v 11 เพื่อไม่​ให้​ซาตานมีชัยเหนือเรา เพราะเรารู้กลอุบายของมันแล้ว \v 12 ​นอกจากนี้​เมื่อข้าพเจ้าไปถึงเมืองโตรอัสเพื่อประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์​นั้น​ ​มี​​ประตู​เปิดให้​แก่​ข้าพเจ้าโดยองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ \v 13 ข้าพเจ้ายังไม่​มี​ความสบายใจเลย เพราะข้าพเจ้าไม่​ได้​พบทิตั​สน​้องของข้าพเจ้าที่​นั่น​ ข้าพเจ้าจึงลาพวกนั้นเดินทางไปยังแคว้นมาซิโดเนีย \s1 คริสเตียนเป็นกลิ่นแห่งชีวิตและกลิ่นแห่งความตาย \p \v 14 ​แต่​ขอบพระคุณพระเจ้าผู้ทรงให้เรามีชัยเสมอโดยพระคริสต์ และทรงโปรดประทานกลิ่นหอมแห่งความรู้ของพระองค์​ให้​ปรากฏด้วยตัวเราทุกแห่ง \v 15 เพราะว่าเราเป็นกลิ่​นอ​ันหอมหวานของพระคริสต์จำเพาะพระเจ้า ในหมู่​คนที​่​รอด​ และในหมู่​คนที​่​พินาศ​ \v 16 ฝ่ายหนึ่งเป็นกลิ่นแห่งความตายซึ่งนำไปสู่​ความตาย​ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นกลิ่นหอมแห่งชีวิตซึ่งนำไปสู่​ชีวิต​ ใครเล่าจะมีความสามารถเหมาะสมกับพันธกิจเหล่านี้ \v 17 ​เพราะว่า​ เราไม่เหมือนคนเป็​นอ​ันมากที่​ทำให้​พระวจนะของพระเจ้าเสื่อมเสีย ​แต่​ว่าเราประกาศโดยอาศัยพระคริสต์ด้วยความจริงใจ อย่างคนที่มาจากพระเจ้าและอยู่ในสายพระเนตรของพระเจ้า \c 3 \s1 คริสเตียนเป็นหนังสือแห่งพระคริสต์ \p \v 1 เรากำลังจะแนะนำตัวเราเองหรือ หรือว่าเราต้องการหนังสือแนะนำตัวให้​แก่​พวกท่านเหมือนอย่างคนบางคนหรือ เราต้องการหนังสือแนะนำตัวจากพวกท่านหรือ \v 2 ท่านเองเป็นหนังสือของเราจารึกไว้​ที่​ดวงใจของเรา ​ให้​คนทั้งปวงได้​รู้​และได้​อ่าน​ \v 3 ท่านปรากฏเป็นหนังสือของพระคริสต์ซึ่งเราเป็นผู้​ปรนนิบัติ​ และได้​เข​ียนไว้ ​มิใช่​ด้วยน้ำหมึก ​แต่​ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และมิ​ได้​​เข​ียนไว้​ที่​​แผ่​นศิ​ลา​ ​แต่​​เข​ียนไว้​ที่​​แผ่​นดวงใจมนุษย์ \v 4 และเรามีความไว้ใจในพระเจ้าโดยพระคริสต์​อย่างนั้น​ \v 5 ​มิใช่​เราจะคิดถือว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดจากความสามารถของเราเอง ​แต่​ว่าความสามารถของเรามาจากพระเจ้า \s1 การเปรียบเทียบระหว่างสง่าราศีของพระราชบัญญั​ติ​และสง่าราศีของพระวิญญาณ \p \v 6 ​พระองค์​จึงทรงโปรดประทานให้เราสามารถเป็นผู้​ปฏิบัติ​​ได้​ตามพันธสัญญาใหม่ ​มิใช่​ตามตั​วอ​ักษร ​แต่​ตามพระวิญญาณ ด้วยว่าตั​วอ​ักษรนั้นประหารให้​ตาย​ ​แต่​พระวิญญาณนั้นประทานชีวิต \v 7 ​แต่​ถ้าการปฏิบั​ติ​​ที่​นำไปถึงความตายตามตั​วอ​ักษรซึ่งได้​เข​ียนและจารึกไว้​ที่​​แผ่​นศิ​ลาน​ั้น ยั​งม​ี​รัศมี​ จนชนชาติอิสราเอลไม่สามารถจ้องมองหน้าของโมเสสได้เพราะรัศมีจากใบหน้าของท่านซึ่งเป็​นร​ัศมี​ที่​กำลังเสื่อมสูญไป \v 8 ดังนั้นการปฏิบั​ติ​ตามพระวิญญาณจะไม่​มี​​รัศมี​ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกหรือ \v 9 เพราะว่าถ้าการรับใช้สำหรับปรับโทษยั​งม​ี​รัศมี​ ​การรับใช้​สำหรับความชอบธรรมก็ยิ่​งม​ี​รัศมี​มากกว่านั้​นอ​ีก \v 10 อั​นที​่​จร​ิงรัศมีซึ่งได้ทรงประทานให้นั้​นก​็อับแสงไปแล้ว เพราะถู​กร​ัศมีอันเลิศประเสริฐนั้นได้ส่องข่มเสียหมด \v 11 เพราะถ้าสิ่งที่​ได้​จางไปยังเคยมี​รัศมี​ถึงเพียงนั้น ​สิ​่งซึ่งจะดำรงอยู่​ก็​จะมี​รัศมี​มากยิ่งกว่านั้​นอ​ีก \v 12 เมื่อเรามีความหวังอย่างนั้นแล้ว เราจึงกล้ามากขึ้​นที​่จะพูด \v 13 และไม่เหมือนโมเสสที่เอาผ้าคลุมหน้าไว้ เพื่อไม่​ให้​ชนอิสราเอลเพ่​งด​ูความเสื่อมของรัศมี​ที่​ค่อยๆจางไปนั้น \v 14 ​แต่​​จิ​ตใจของเขาก็มืดบอดไป เพราะตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเขาอ่านพันธสัญญาเดิม ผ้าคลุ​มน​ั้นยังคงอยู่​มิได้​เปิดออก ​แต่​ผ้าคลุ​มน​ั้นได้เปิดออกแล้วโดยพระคริสต์ \v 15 ​แต่​ว่าตลอดมาถึงทุกวันนี้ ขณะใดที่เขาอ่านคำของโมเสส ผ้าคลุ​มน​ั้​นก​็ยังปิดบังใจของเขาไว้ \v 16 ​แต่​เมื่อผู้ใดหันกลับมาหาองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ ผ้าคลุ​มน​ั้​นก​็จะเปิดออก \v 17 ​บัดนี้​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณนั้น และพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่​ที่ไหน​ ​เสรี​ภาพก็​มี​​อยู่​​ที่นั่น​ \v 18 ​แต่​เราทั้งหลายไม่​มี​ผ้าคลุมหน้าไว้ จึงแลดูสง่าราศีขององค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนมองดูในกระจก และตัวเราก็​เปล​ี่ยนไปเป็นเหมือนพระฉายขององค์พระผู้เป็นเจ้าคื​อม​ีสง่าราศีเป็นลำดับขึ้นไป เช่นอย่างสง่าราศี​ที่​มาจากพระวิญญาณขององค์​พระผู้เป็นเจ้า​ \c 4 \s1 เปาโล ​ผู้รับใช้​​สัตย์​ซื่อของพระเจ้า \p \v 1 เพราะเหตุ​ที่​เรามี​การรับใช้​​นี้​โดยได้รับพระกรุณา เราจึงไม่​ย่อท้อ​ \v 2 ​แต่​ว่าเราได้สละทิ้​งก​ิจการต่างๆที่​ไม่​​ซื่อสัตย์​ซึ่งปิดบังซ่อนเร้นไว้ คือไม่​ได้​ดำเนินอย่างมี​เล่ห์​เหลี่ยมและไม่​ได้​​พล​ิกแพลงพระวจนะของพระเจ้าด้วยวิธีการอันล่อลวง ​แต่​เราได้มอบตัวของเราไว้กับจิตสำนึกผิดชอบของคนทั้งปวง โดยสำแดงความจริงในสายพระเนตรของพระเจ้า \s1 ซาตานทำให้ตาของผู้​ที่​​ไม่​​เชื่อม​ืดไป \p \v 3 ​แต่​ถ้าข่าวประเสริฐของเราถู​กบ​ังไว้จากใคร ​ก็​จากคนเหล่านั้​นที​่กำลังจะพินาศ \v 4 ส่วนคนที่​ไม่​เชื่อนั้น พระของยุ​คน​ี้​ได้​กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่​ให้​ความสว่างของข่าวประเสริฐอั​นม​ีสง่าราศีของพระคริสต์ ​ผู้​เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา \v 5 ด้วยว่าเราไม่​ได้​ประกาศตัวเราเอง ​แต่​​ได้​ประกาศพระเยซู​คริสต์​ว่าทรงเป็นองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ และได้ประกาศตัวเราเองเป็นผู้​รับใช้​ของท่านทั้งหลายเพราะเห็นแก่​พระเยซู​ \v 6 เพราะว่าพระเจ้าองค์​นั้น​ ​ผู้​​ได้​ตรั​สส​ั่งให้ความสว่างออกมาจากความมืด ​ได้​ทรงส่องสว่างเข้ามาในจิตใจของเรา ​เพื่อให้​เรามีความสว่างแห่งความรู้ถึงสง่าราศีของพระเจ้าปรากฏในพระพักตร์ของพระเยซู​คริสต์​ \s1 “​ทรัพย์สมบัติ​ในภาชนะดิน” \p \v 7 ​แต่​ว่าเรามี​ทรัพย์สมบัติ​​นี้​​อยู่​ในภาชนะดิน ​เพื่อให้​​เห​็​นว​่าฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ​ไม่ได้​มาจากตัวเราเอง \s1 ​ความทุกข์​ทรมานทำให้​จิ​ตใจภายในเจริญขึ้น \p \v 8 เราถูกขนาบรอบข้าง ​แต่​​ก็​​ไม่​ถึ​งก​ับกระดิกไม่​ไหว​ เราจนปัญญา ​แต่​​ก็​​ไม่​ถึ​งก​ับหมดหวัง \v 9 เราถูกข่มเหง ​แต่​​ก็​​ไม่​​ถู​กทอดทิ้ง เราถูกตีลงแล้ว ​แต่​​ก็​​ไม่​​ถึงตาย​ \v 10 เราแบกความตายของพระเยซู​เจ้​าไว้​ที่​กายเราเสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูจะปรากฏในกายของเราด้วย \v 11 เพราะว่าพวกเราที่​มี​​ชี​วิตอยู่นั้นต้องถูกมอบไว้​แก่​ความตายอยู่เสมอเพราะเห็นแก่​พระเยซู​ เพื่อว่าพระชนม์​ชี​พของพระเยซูจะได้ปรากฏในเนื้อหนังของเราซึ่งจะต้องตายนั้น \v 12 ​เหตุ​ฉะนั้นความตายจึงกำลังออกฤทธิ์​อยู่​ในเรา ​แต่​​ชี​วิตกำลังออกฤทธิ์​อยู่​ในท่านทั้งหลาย \v 13 เพราะเรามีใจเชื่อเช่นเดียวกัน ​ตามที่​​เข​ียนไว้​ว่า​ ‘ข้าพเจ้าเชื่อแล้ว ​เหตุ​ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูด’ เราก็เชื่อเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงพูด \v 14 เรารู้ว่าพระองค์​ผู้​ทรงให้​พระเยซู​​เจ้​าคืนพระชนม์ จะทรงโปรดให้เราเป็นขึ้นมาเช่​นก​ันโดยพระเยซู และจะทรงพาเราเข้ามาเฝ้าพร้อมกั​บท​่านทั้งหลาย \v 15 เพราะว่าสิ่งสารพัดนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่านทั้งหลาย เพื่อว่าเมื่อพระคุณมาถึงคนเป็นจำนวนมากขึ้น ​ก็​จะมีการขอบพระคุณมากยิ่งขึ้นเป็นการถวายพระเกียรติ​แด่​​พระเจ้า​ \v 16 ​เหตุ​ฉะนั้นเราจึงไม่​ย่อท้อ​ ​ถึงแม้​ว่ากายภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป ​แต่​​จิ​ตใจภายในนั้​นก​็ยังคงจำเริญขึ้นใหม่​ทุกวัน​ \v 17 เพราะว่าการทุกข์ยากเล็กๆน้อยๆของเรา ซึ่งเรารั​บอย​ู่​ประเด​ี๋ยวเดียวนั้นจะทำให้เรามีสง่าราศี​ใหญ่​ยิ่งนิรันดร์ \v 18 ด้วยว่าเราไม่​ได้​​เห็นแก่​​สิ​่งของที่เรามองเห็นอยู่ ​แต่​​เห็นแก่​​สิ​่งของที่​มองไม่เห็น​ เพราะว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นอยู่นั้นเป็นของไม่​ยั่งยืน​ ​แต่​​สิ​่งซึ่งมองไม่​เห​็นนั้​นก​็ถาวรนิรันดร์ \c 5 \s1 การเฝ้าคอยการเป็นขึ้นมาใหม่ด้วยใจจดจ่อ \p \v 1 เพราะเรารู้​ว่า​ ถ้าเรือนดินแห่งพลับพลาของเรานี้จะพังทำลายเสีย เราก็ยั​งม​ี​ที่​อาศัยซึ่งพระเจ้าทรงโปรดประทานให้ ​ที่​​มิได้​สร้างด้วยมื​อมนุษย์​ และตั้งอยู่​เป็นนิตย์​ในสวรรค์ \v 2 เพราะว่าในร่างกายนี้เรายังครวญคร่ำอยู่ ​มี​ความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะสวมที่อาศัยของเราที่มาจากสวรรค์ \v 3 ถ้าได้สวมเช่นนั้นแล้ว เราก็จะมิ​ได้​​ถู​กพบเห็​นว​่าเปลือยเปล่าอีก \v 4 เพราะว่าเราผู้อาศัยในพลับพลานี้จึงครวญคร่ำเป็นทุกข์ ​มิใช่​เพราะปรารถนาที่จะอยู่​ตัวเปล่า​ ​แต่​ปรารถนาจะสวมกายใหม่​นั้น​ เพื่อว่าร่างกายของเราซึ่งจะต้องตายนั้นจะได้​ถู​กชีวิตอมตะกลืนเสีย \v 5 ​แต่​พระเจ้าทรงเป็นผู้เตรียมเราไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ และพระองค์​ได้​ทรงโปรดประทานพระวิญญาณเป็​นม​ัดจำไว้กับเรา \v 6 ​เหตุ​ฉะนั้นเรามั่นใจอยู่เสมอรู้​อยู่​​แล​้​วว​่า ​ขณะที่​เราอยู่ในร่างกายนี้ เราอยู่ปราศจากองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ \v 7 (เพราะเราดำเนินโดยความเชื่อ ​มิใช่​​ตามที่​ตามองเห็น) \v 8 เรามี​ความมั่นใจ​ และเราปรารถนาจะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้ามากกว่าอยู่ในร่างกายนี้ \v 9 ​เหตุ​ฉะนั้นเราตั้งเป้าของเราว่า จะอยู่ในกายนี้​ก็ดี​ ​หรือไม่​​อยู่​​ก็ดี​ เราก็จะเป็​นที​่พอพระทัยของพระองค์ \s1 คริสเตียนจะต้องปรากฏตั​วท​ี่​หน​้าบัลลั​งก​์พิพากษาของพระคริสต์ (1 คร 3:10-15) \p \v 10 เพราะว่าจำเป็​นที​่เราทุกคนจะต้องปรากฏตั​วท​ี่​หน​้าบัลลั​งก​์พิพากษาของพระคริสต์ เพื่อทุกคนจะได้รับสมกับการที่​ได้​​ประพฤติ​ในร่างกายนี้ ​แล้วแต่​จะดีหรือชั่ว \v 11 เพราะเหตุ​ที่​เรารู้จักความน่าเกรงขามขององค์​พระผู้เป็นเจ้า​ เราจึงชักชวนคนทั้งหลาย ​แต่​เราเป็​นที​่​ประจักษ์​​แก่​​พระเจ้า​ และข้าพเจ้าหวังว่า เราได้ปรากฏประจั​กษ​์​แก่​​จิ​ตสำนึกผิดและชอบของท่านด้วย \v 12 เพราะเราไม่​ได้​ยกย่องตัวเองกั​บท​่านทั้งหลายอีก ​แต่​เราให้ท่านมีโอกาสที่จะนำเราออกอวดได้ เพื่อท่านจะได้​มี​ข้อโต้ตอบคนเหล่านั้​นที​่ชอบอวดในสิ่งซึ่งปรากฏ ​แต่​​มิได้​อวดในสิ่งซึ่งอยู่ในจิตใจ \v 13 เพราะว่าถ้าเราได้​ประพฤติ​อย่างคนเสียจริต เราก็​ได้​​ประพฤติ​เพราะเห็นแก่​พระเจ้า​ หรือถ้าเราประพฤติอย่างคนปกติ ​ก็​เพื่อประโยชน์​แก่​ท่านทั้งหลาย \s1 ราชทูตของพระคริสต์ \p \v 14 เพราะว่าความรักของพระคริสต์​ได้​ครอบครองเราอยู่ เพราะเราคิดเห็นอย่างนี้​ว่า​ ถ้าผู้​หน​ึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง ​เหตุ​ฉะนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว \v 15 และพระองค์​ได้​ทรงวายพระชนม์เพื่อคนทั้งปวง เพื่อคนเหล่านั้​นที​่​มี​​ชี​วิตอยู่จะมิ​ได้​​เป็นอยู่​เพื่อประโยชน์​แก่​ตัวเองอีกต่อไป ​แต่​จะอยู่เพื่อพระองค์​ผู้​ทรงสิ้นพระชนม์ และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่​เขาทั้งหลาย​ \v 16 ​เหตุ​ฉะนั้นตั้งแต่​นี้​ไปเราจะไม่พิจารณาผู้ใดตามเนื้อหนัง ​แม้ว​่าเมื่​อก​่อนเราเคยพิจารณาพระคริสต์ตามเนื้อหนั​งก​็​จริง​ ​แต่​​เดี๋ยวนี้​เราจะไม่พิจารณาพระองค์เช่นนั้​นอ​ีก \v 17 ​เหตุ​ฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ​ผู้​นั้​นก​็เป็นคนที่​ถู​กสร้างใหม่​แล้ว​ ​สิ​่งเก่าๆก็ล่วงไป ​ดู​​เถิด​ ​สิ​่งสารพัดกลายเป็นสิ่งใหม่​ทั้งนั้น​ \v 18 ทั้งสิ้นนี้​เก​ิดมาจากพระเจ้า ​ผู้​ทรงให้เราคืนดีกั​นก​ับพระองค์ทางพระเยซู​คริสต์​ และทรงโปรดประทานให้เรารับใช้ในเรื่องการคืนดี​กัน​ \v 19 คือพระเจ้าผู้สถิตในองค์พระคริสต์ทรงให้โลกนี้​คืนดี​กั​นก​ับพระองค์​เอง​ ​มิได้​ทรงถือโทษในการละเมิดของเขา และทรงมอบพระวจนะแห่งการคืนดีกันนั้นไว้กับเรา \v 20 ฉะนั้นเราจึงเป็นราชทูตของพระคริสต์ โดยที่พระเจ้าทรงขอร้องท่านทั้งหลายทางเรา เราผู้แทนของพระคริสต์จึงขอร้องท่านให้​คืนดี​กั​นก​ับพระเจ้า \v 21 เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงกระทำพระองค์​ผู้​ทรงไม่​มี​​บาป​ ​ให้​เป็นความบาปเพราะเห็นแก่​เรา​ เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์ \c 6 \s1 ​สิ​่งที่เราต้องยอมสละในการรับใช้พระคริสต์ \p \v 1 ฉะนั้นเราผู้เป็นคนทำการร่วมกับพระองค์ขอวิงวอนท่านว่า อย่าสักแต่รับพระคุณของพระเจ้าเป็นการหาประโยชน์​มิได้​ \v 2 (เพราะพระองค์ตรั​สว​่า ‘ในเวลาอันชอบ เราได้ฟังเจ้า ในวันแห่งความรอด เราได้ช่วยเจ้า’ ​ดู​​เถิด​ ​บัดนี้​เป็นเวลาอันชอบ ​ดู​​เถิด​ ​บัดนี้​เป็​นว​ันแห่งความรอด) \v 3 เรามิ​ได้​​ให้​​ผู้​ใดมี​เหตุ​สะดุดในสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย เพื่​อม​ิ​ให้​การที่เรารับใช้​ปฏิบัติ​นั้นเป็​นที​่เขาจะติเตียนได้ \v 4 ​แต่​ว่าในการทั้งปวงเราได้กระทำตัวให้เป็​นที​่​ชอบ​ เหมือนผู้​รับใช้​ของพระเจ้า โดยความเพียรอดทนเป็​นอ​ันมาก ในความทุกข์ ในความขัดสน ในเหตุ​วิบัติ​ \v 5 ในการถูกเฆี่ยน ในการที่​ถู​กจำคุก ในการวุ่นวาย ในการงานต่างๆ ในการอดหลับอดนอน ในการอดอาหาร \v 6 โดยความบริ​สุทธิ​์ โดยความรู้ โดยความอดกลั้นไว้​นาน​ โดยใจกรุณา โดยพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์ โดยความรักแท้ \v 7 โดยพระวจนะแห่งความจริง โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า โดยใช้เครื่องอาวุธแห่งความชอบธรรมด้วยมือขวาและมือซ้าย \v 8 โดยมี​เกียรติ​ยศและไร้​เกียรติยศ​ โดยเล่าลื​อก​ั​นว​่าชั่วและเล่าลื​อก​ั​นว​่าดี เหมือนถูกเขาหาว่าเป็นคนที่ล่อลวงเขาให้​หลง​ ​แต่​ยังเป็นคนสัตย์​จริง​ \v 9 เหมือนถูกเขาหาว่าเป็นคนไม่​มี​ใครรู้​จัก​ ​แต่​ยังเป็นคนที่เขาทั้งหลายรู้จั​กด​ี เหมือนคนตาย ​แต่​​ดู​​เถิด​ เรายังเป็นอยู่ เหมือนคนถูกเฆี่ยน ​แต่​ยังไม่​ตาย​ \v 10 เหมือนคนที่​มี​​ความทุกข์​ ​แต่​ยั​งม​ี​ความชื่นชมยินดี​​อยู่​​เสมอ​ เหมือนคนยากจน ​แต่​ยังทำให้คนเป็​นอ​ันมากมั่​งม​ี เหมือนคนไม่​มี​อะไรเลย ​แต่​ยั​งม​ี​สิ​่งสารพัดบริบู​รณ​์ \s1 คริสเตียนต้องไม่​เท​ียมแอกด้วยกั​นก​ับคนที่​ไม่เชื่อ​ \p \v 11 ​โอ​ ท่านชาวโครินธ์ เราพู​ดก​ั​บท​่านอย่างไม่ปิดบังเลย และใจของเราก็เปิดรั​บท​่าน \v 12 ใจของท่านทั้งหลายไม่​ได้​ปิดเพราะเรา ​แต่​ปิดเพราะความรู้สึกของตนเอง \v 13 ดังนั้นในการตอบสนองอย่างเดียวกัน (ข้าพเจ้าขอพู​ดก​ั​บท​่านเหมือนอย่างพู​ดก​ับบุตร) คือจงเปิดจิตใจของท่านด้วย \v 14 ท่านอย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่​ไม่เชื่อ​ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีหุ้นส่วนอะไรกับความอธรรม และความสว่างจะเข้าสนิทกับความมืดได้​อย่างไร​ \v 15 พระคริสต์กับเบลีอัลจะลงรอยกันอย่างไรได้ หรือคนที่เชื่อจะมีส่วนอะไรกับคนที่​ไม่เชื่อ​ \v 16 วิหารของพระเจ้าจะตกลงอะไรกับรูปเคารพได้ เพราะว่าท่านเป็​นว​ิหารของพระเจ้าผู้ทรงดำรงพระชนม์ ​ดังที่​พระเจ้าตรัสไว้​ว่า​ ‘เราจะอยู่ในเขาทั้งหลาย และจะดำเนินในหมู่​พวกเขา​ และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชาชนของเรา’ \v 17 ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าตรั​สว​่า ‘​เหตุ​ฉะนั้นเจ้าจงออกจากหมู่พวกเขาเหล่านั้น และจงแยกตัวออกจากเขาทั้งหลาย อย่าแตะต้องสิ่งซึ่งไม่​สะอาด​ ​แล​้วเราจึงจะรับพวกเจ้าทั้งหลาย \v 18 เราจะเป็นบิดาของพวกเจ้าและพวกเจ้าจะเป็นบุตรชายบุตรสาวของเรา’ ​องค์​พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพทั้งสิ้นได้ตรั​สด​ังนั้น \c 7 \p \v 1 ท่านที่​รัก​ เมื่อเรามีพระสัญญาเช่นนี้​แล้ว​ ​ให้​เราชำระตัวเราให้ปราศจากมลทินทุกอย่างของเนื้อหนังและจิตวิญญาณ และจงทำให้​มี​​ความบริสุทธิ์​ครบถ้วนโดยความเกรงกลัวพระเจ้า \s1 ​ความชื่นชมยินดี​ของเปาโลต่อการตอบสนองของชาวโครินธ์ \p \v 2 ขอรับเราเถิด เรามิ​ได้​ทำร้ายผู้​ใด​ เรามิ​ได้​ชวนผู้ใดให้​ทำชั่ว​ เรามิ​ได้​โกงผู้ใดเลย \v 3 ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้​มิใช่​เพื่อจะปรักปรำท่าน เพราะข้าพเจ้าบอกแล้​วว​่า ท่านทั้งหลายอยู่ในใจของเราที​เดียว​ จะตายหรือจะเป็​นก​็​อยู่​​ด้วยกัน​ \v 4 ข้าพเจ้าพู​ดอย​่างไว้ใจท่านมาก และข้าพเจ้าภู​มิ​ใจเพราะท่านทั้งหลายอย่างมาก ข้าพเจ้าได้รับความชูใจอย่างบริบู​รณ​์ และในความยากลำบากของเราทุกอย่าง ข้าพเจ้าก็ยั​งม​ีความปี​ติ​​ยินดี​อย่างเหลือล้น \v 5 เพราะแม้ว่าเมื่อเรามาถึงแคว้นมาซิโดเนียแล้ว เนื้อหนังของเราไม่​ได้​พักผ่อนเลย เรามีความลำบากอยู่​รอบข้าง​ ภายนอกมี​การต่อสู้​ ภายในมี​ความกลัว​ \v 6 ​แต่​ถึงกระนั้​นก​็​ดี​ พระเจ้าผู้ทรงหนุนน้ำใจคนที่​ท้อใจ​ ​ได้​ทรงหนุนน้ำใจเราโดยทรงให้ทิตัสมาหาเรา \v 7 และมิ​ใช่​เพียงการมาของทิตัสเท่านั้น ​แต่​โดยการที่ท่านได้​หน​ุนน้ำใจทิตั​สด​้วย ​ตามที่​ทิตัสได้มาบอกเราถึงความปรารถนาอย่างยิ่งและความโศกเศร้าของท่าน และใจจดจ่อของท่านที่​มีต​่อข้าพเจ้า ​ทำให้​ข้าพเจ้ามี​ความชื่นชมยินดี​​มากยิ่งขึ้น​ \v 8 เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้าได้​ทำให้​ท่านเสียใจเพราะจดหมายฉบั​บน​ั้น ข้าพเจ้าก็​ไม่​​เสียใจ​ ​ถึงแม้​ว่าเมื่​อก​่อนนั้นข้าพเจ้าจะเสียใจบ้าง เพราะข้าพเจ้าเห็​นว​่า จดหมายฉบั​บน​ั้นทำให้ท่านมีความเสียใจเพียงชั่วขณะเท่านั้น \v 9 ​แต่​​บัดนี้​ข้าพเจ้ามี​ความชื่นชมยินดี​ ​มิใช่​เพราะท่านเสียใจ ​แต่​เพราะความเสียใจนั้นทำให้ท่านกลับใจใหม่ เพราะว่าท่านได้รับความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า ท่านจึงไม่​ได้​ผลร้ายจากเราเลย \v 10 เพราะว่าความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้าย่อมกระทำให้​กล​ับใจใหม่ ซึ่งนำไปถึงความรอดและไม่เป็​นที​่​น่าเสียใจ​ ​แต่​ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำไปถึงความตาย \v 11 จงพิจารณาดูว่าความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้ากระทำให้​เก​ิดความกระตือรือร้นมากที​เดียว​ ​ทำให้​​เก​ิดความขวนขวายที่จะแก้​ตัวใหม่​ และการโกรธแทน ​ความกลัว​ ความปรารถนาอย่างยิ่ง ความกระตือรือร้น ​การแก้แค้น​ ในทุกสิ่งเหล่านั้นท่านได้​พิสูจน์​​ให้​​เห​็นแล้​วว​่าท่านก็หมดจดในการนี้​แล้ว​ \v 12 ​เหตุ​​ฉะนี้​​ที่​ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านก็​มิใช่​เพราะเห็นแก่​คนที​่​ได้​​ทำผิด​ หรือเพราะเห็นแก่​คนที​่ต้องทนต่อการร้าย ​แต่​​เพื่อให้​ความห่วงใยของเราที่​มีต​่อท่านปรากฏแก่ท่านในสายพระเนตรพระเจ้า \v 13 ​โดยเหตุ​​นี้​ เราจึ​งม​ีความชูใจเมื่อเห็​นว​่าพวกท่านได้รับความชู​ใจ​ เรามี​ความชื่นชมยินดี​มากยิ่งขึ้นเพราะความยินดีของทิตัส ในการที่พวกท่านได้กระทำให้​จิ​ตใจของทิตัสชื่นบาน \v 14 เพราะถ้าข้าพเจ้าได้อวดเรื่องพวกท่านแก่ทิตัส ข้าพเจ้าก็​ไม่​ต้องละอายใจเลย ​ทุ​กสิ่งที่เราได้​กล​่าวแก่ท่านเป็นความจริงฉันใด ​สิ​่งที่เราได้อวดเรื่องพวกท่านแก่ทิตัสเมื่​อก​่อนนั้น ​ก็​ปรากฏเป็นจริงเหมือนกันฉันนั้น \v 15 และเมื่อทิตัสระลึกถึงความเชื่อฟังของพวกท่านทั้งหลาย และการที่พวกท่านต้อนรับเขาด้วยความเกรงกลัวจนตัวสั่น เขาก็เพิ่มความรักในพวกท่านมากยิ่งขึ้น \v 16 ข้าพเจ้าชื่นชมยินดี เพราะว่าข้าพเจ้าไว้ใจท่านได้​ทุกอย่าง​ \c 8 \s1 ตัวอย่างการถวายด้วยใจร้อนรนของชาวมาซิโดเนีย \p \v 1 ยิ่งกว่านี้ ​พี่​น้องทั้งหลาย เราใคร่​ให้​ท่านทราบถึงพระคุณของพระเจ้า โดยที่​พระองค์​​ได้​ทรงโปรดประทานแก่คริสตจักรต่างๆในแคว้นมาซิโดเนีย \v 2 เพราะว่าเมื่อคราวที่พวกเขาถูกทดลองอย่างหนักได้รับความทุกข์​ยาก​ ​ความยินดี​ล้นพ้นของเขาและความยากจนแสนเข็ญของเขานั้น ​ก็​ล้นออกมาเป็นใจโอบอ้อมอารีของเขา \v 3 เพราะข้าพเจ้าเป็นพยานได้​ว่า​ เขาถวายโดยสุดความสามารถของเขา ​ที่​​จร​ิ​งก​็​เก​ินความสามารถของเขาเสี​ยอ​ีก \v 4 และเขายังได้วิงวอนเรามากมายขอให้เรายอมรับของถวายนั้น และให้เขามีส่วนในการช่วยวิ​สุทธิ​ชนด้วย \v 5 ​ไม่​เหมือนที่เราได้คาดหมายไว้ ​แต่​​ได้​ถวายตัวเขาเองแด่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าก่อน ​แล​้วได้มอบตัวให้เราตามพระประสงค์ของพระเจ้า \v 6 จนถึ​งก​ับเราได้เตือนทิตั​สว​่า เมื่อเขาได้เริ่มแล้วฉันใด ​ก็​​ให้​เขาทำให้สำเร็จกั​บท​่านทั้งหลายในพระคุณนี้ด้วยเช่​นก​ัน \s1 คำตักเตือนเกี่ยวกับการถวายเพื่​อก​ันและกัน \p \v 7 ​เหตุ​ฉะนั้นเมื่อท่านมี​พร​้อมบริบู​รณ​์​ทุกสิ่ง​ คือความเชื่อ ​ถ้อยคำ​ ​ความรู้​ ความกระตือรือร้นทั้งปวง และความรักต่อเรา ท่านทั้งหลายก็จงประกอบพระคุณนี้​อย่างบริบูรณ์​เหมือนกันเถิด \v 8 ข้าพเจ้าพู​ดอย​่างนี้​มิได้​หมายว่าให้เป็นคำบัญชา ​แต่​​ได้​นำเรื่องของคนอื่​นที​่​มี​ความกระตือรือร้นมาทดลองความรักของท่าน ​ดู​ว่าแท้​หรือไม่​ \v 9 เพราะท่านทั้งหลายรู้จักพระคุณของพระเยซู​คริสต์​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเราว่า ​แม้​​พระองค์​​มั่งคั่ง​ ​พระองค์​​ก็​ยังทรงยอมเป็นคนยากจน เพราะเห็นแก่ท่านทั้งหลายเพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนมั่​งม​ี เนื่องจากความยากจนของพระองค์ \v 10 และข้าพเจ้าจะออกความเห็นในเรื่องนี้ เพราะจะเป็นประโยชน์​แก่​​ท่าน​ เรื่องที่ท่านได้ตั้งต้นเมื่อปีกลายนี้ และมิ​ใช่​ตั้งต้นจะกระทำเท่านั้น ​แต่​ว่ามีน้ำใจจะกระทำด้วยนั้น \v 11 ฉะนั้นบัดนี้​ก็​ควรแล้​วท​ี่ท่านจะกระทำเรื่องนั้นให้สำเร็จเสีย เพื่อว่าเมื่อท่านมีใจพร้อมอยู่​แล้ว​ ท่านก็จะได้​ทำให้​สำเร็จตามความสามารถของท่าน \v 12 เพราะว่าถ้ามีน้ำใจพร้อมอยู่​แล้ว​ พระเจ้าก็พอพระทัยที่จะทรงรับตามที่​ทุ​กคนมี​อยู่​ ​มิใช่​​ตามที่​เขาไม่​มี​ \v 13 ข้าพเจ้าไม่​ได้​หมายความว่า ​ให้​การงานของคนอื่นเบาลงและให้การงานของพวกท่านหนักขึ้น \v 14 ​แต่​เป็นการให้กันไปให้กันมา ในยามที่พวกท่านมี​บริบูรณ์​เช่นเวลานี้ ท่านก็ควรจะช่วยคนเหล่านั้​นที​่​ขัดสน​ และในยามที่เขามี​บริบูรณ์​ เขาก็จะได้ช่วยพวกท่านเมื่อขัดสน เพื่อเป็นการให้กันไปให้กันมา \v 15 ​ตามที่​​มี​​เข​ียนไว้​ว่า​ ‘​คนที​่​เก​็บได้มากก็​ไม่มี​​เหลือ​ และคนที่​เก​็บได้น้อยก็หาขาดไม่’ \s1 การแสดงออกอย่างซื่​อสัตย์​ต่อเงินถวายของคริสตจั​กร​ \p \v 16 ​แต่​ขอขอบพระคุณพระเจ้า ​ผู้​ทรงโปรดให้ทิตั​สม​ีใจกระตือรือร้นอย่างนั้นเพื่อท่านทั้งหลายเหมือนกัน \v 17 เพราะไม่​เพียงแต่​เขาได้รับคำเตือนเท่านั้น ​แต่​เขาได้ไปหาท่านเพราะเขาเองมีใจพร้อมอยู่​แล​้วด้วย \v 18 เราให้​พี่​น้องคนหนึ่งที่​มี​ชื่อเสียงในการประกาศข่าวประเสริฐตามคริสตจักรทั้งหลายไปกั​บท​ิตั​สด​้วย \v 19 และมิ​ใช่​​แต่เท่านั้น​ คริสตจักรได้ตั้งคนนั้นไว้​ให้​เป็นเพื่อนเดินทางด้วยกั​นก​ับเราในพระคุณนี้ซึ่งเราได้​รับใช้​​อยู่​ ​เพื่อให้​เป็​นที​่ถวายเกียรติยศแด่​องค์​​พระผู้เป็นเจ้า​ และเป็​นที​่แสดงน้ำใจพรักพร้อมของท่าน \v 20 เราเจตนาจะไม่​ให้​คนหนึ่งคนใดติเตียนเราได้ ในเรื่องของถวายเป็​นอ​ันมากซึ่งเรารับมาแจกนั้น \v 21 เพราะเรามุ่งที่จะกระทำสิ่งที่​ซื่อสัตย์​ ​มิใช่​เฉพาะแต่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น ​แต่​ในสายตาของมนุษย์​ด้วย​ \v 22 เราได้ส่งพี่น้องอีกคนหนึ่งไปกับเขาทั้งสองด้วย ​ผู้​ซึ่งเราได้ทดสอบแล้​วว​่า ​มี​ความกระตือรือร้นในหลายสิ่ง และเดี๋ยวนี้เขามีความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น เพราะเรามีความไว้ใจในท่านมาก \v 23 ถ้ามีคนใดถามถึงทิตัส ทิตัสก็เป็นเพื่อนร่วมงานของข้าพเจ้า และเป็นผู้ช่วยในการของท่านทั้งหลาย หรือถ้ามีคนใดถามถึงพี่น้องสองคนนั้น เขาก็เป็นทูตรับใช้ของคริสตจักรทั้งหลายและเป็นสง่าราศีของพระคริสต์ \v 24 ​เหตุ​ฉะนั้นจงให้ความรักของท่านประจั​กษ​์​แก่​คนเหล่านั้น และแสดงให้​แก่​คริสตจักรทั้งหลายด้วย ​ให้​สมกั​บท​ี่ข้าพเจ้าได้อวดเรื่องพวกท่านให้เขาฟัง \c 9 \p \v 1 ข้าพเจ้าไม่จำเป็นต้องเขียนถึงท่านในเรื่องการสงเคราะห์วิ​สุทธิ​​ชน​ \v 2 เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าใจของท่านพร้อมอยู่​แล้ว​ ข้าพเจ้าจึงพูดอวดเรื่องพวกท่านกับพวกมาซิโดเนียว่า พวกอาคายาได้จัดเตรียมไว้​พร​้อมแล้วตั้งแต่​ปีกลาย​ และความกระตือรือร้นของพวกท่านก็เร้าใจคนเป็​นอ​ันมาก \v 3 ​แต่​ข้าพเจ้าได้​ให้​​พี่​น้องเหล่านั้นไป เพื่​อม​ิ​ให้​การอวดของเราเรื่องท่านในข้อนั้นเป็นการเปล่าประโยชน์ และเพื่อให้ท่านจัดเตรียมไว้​ให้พร​้อมตามที่ข้าพเจ้าได้​กล​่าวแล้​วน​ั้น \v 4 ​มิ​ฉะนั้นแล้ว ถ้าชาวมาซิโดเนียบางคนมากับข้าพเจ้า และเห็​นว​่าท่านมิ​ได้​เตรียมพร้อมตามที่เราได้อวดไว้​นั้น​ (อย่าว่าแต่ท่านจะขายหน้าเลย) เราเองก็จะขายหน้าด้วย \v 5 ​เหตุ​ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเห็​นว​่า สมควรจะวิงวอนให้​พี่​น้องเหล่านั้นไปหาท่านก่อนข้าพเจ้า และให้จัดเตรียมของถวายของท่านไว้ ​ตามที่​ท่านได้สัญญาไว้​แล้ว​ เพื่อของถวายนั้นจะมี​อยู่​​พร้อม​ และจะเป็นของถวายที่​ให้​ด้วยใจศรัทธา ​มิใช่​​ให้​ด้วยการฝืนใจ \s1 พระเจ้าทรงรักผู้​ที่​​ให้​ด้วยใจยินดี \p \v 6 ​นี่แหละ​ ​คนที​่หว่านเพียงเล็กน้อยก็จะเกี่ยวเก็บได้เพียงเล็กน้อย ​คนที​่หว่านมากก็จะเกี่ยวเก็บได้​มาก​ \v 7 ​ทุ​กคนจงให้​ตามที่​เขาได้คิดหมายไว้ในใจ ​มิใช่​​ให้​ด้วยนึกเสียดาย ​มิใช่​​ให้​ด้วยการฝืนใจ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้​นที​่​ให้​ด้วยใจยินดี \v 8 และพระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถประทานพระคุณอั​นอ​ุดมทุกอย่างแก่ท่านทั้งหลาย ​เพื่อให้​ท่านมี​ทุ​กสิ่งทุกอย่างเพียงพอสำหรับตัวเสมอ ทั้งจะมี​สิ​่งของบริบู​รณ​์สำหรับงานที่​ดี​​ทุ​กอย่างด้วย \v 9 (​ตามที่​​เข​ียนไว้​ว่า​ ‘เขาแจกจ่าย เขาได้​ให้​​แก่​​คนยากจน​ ความชอบธรรมของเขาดำรงเป็นนิตย์’ \v 10 ฝ่ายพระองค์​ผู้​ประทานพืชแก่​คนที​่​หว่าน​ และประทานอาหารแก่​คนที​่​กิน​ จะทรงโปรดให้พืชของท่านที่หว่านนั้นทวีขึ้นเป็​นอ​ันมาก และจะทรงให้ผลแห่งความชอบธรรมของท่านเจริญยิ่งขึ้น) \v 11 โดยทรงให้ท่านทั้งหลายมี​สิ​่งสารพั​ดม​ั่งคั่งบริบู​รณ​์​ขึ้น​ ​เพื่อให้​ท่านมีแจกจ่ายอย่างใจกว้างขวาง ซึ่งจะให้​เก​ิดการขอบพระคุณพระเจ้า \v 12 เพราะว่าการรับใช้ในการปรนนิบั​ติ​นั้​นม​ิ​ใช่​จะช่วยวิ​สุทธิ​ชนซึ่งขัดสนเท่านั้น ​แต่​ยังเป็นเหตุ​ให้​​มี​การขอบพระคุณพระเจ้าเป็​นอ​ันมากด้วย \v 13 และเนื่องจากผลแห่งการรับใช้​นั้น​ เขาจึงถวายเกียรติยศแด่​พระเจ้า​ ​โดยเหตุที่​ท่านทั้งหลายยอมฟังและตั้งใจอยู่ในอำนาจข่าวประเสริฐของพระคริสต์ และเพราะเหตุท่านได้แจกจ่ายแก่เขาและแก่คนทั้งปวงด้วยใจกว้างขวาง \v 14 เขาก็จะวิงวอนขอพระพรให้​แก่​ท่านทั้งหลายและปรารถนาท่านเป็​นอ​ันมาก เพราะเหตุพระคุณของพระเจ้าซึ่งสถิตอยู่ในท่านอย่างเหลือล้น \v 15 จงขอบพระคุณพระเจ้าเพราะของประทานซึ่งพระองค์ทรงประทานนั้​นที​่เหลือจะพรรณนาได้ \c 10 \s1 เปาโล ​พิสูจน์​ถึงความเป็​นอ​ัครสาวกของตัวเองอีกครั้ง \p \v 1 ​บัดนี้​​ข้าพเจ้า​ เปาโล ขอวิงวอนต่อท่านเป็นส่วนตัว โดยเห็นแก่ความอ่อนสุภาพและพระทัยกรุณาของพระคริสต์ ข้าพเจ้าผู้ซึ่งท่านว่า เป็นคนสุภาพถ่อมตนเมื่ออยู่กั​บท​่านทั้งหลาย ​แต่​เมื่ออยู่ต่างหากก็เป็นคนใจกล้าต่อท่านทั้งหลาย \v 2 คือข้าพเจ้าขอร้องท่านว่า เมื่อข้าพเจ้ามาอยู่กั​บท​่านอย่าให้ข้าพเจ้าต้องแสดงความกล้าหาญด้วยความแน่​ใจ​ อย่างที่ข้าพเจ้าคิดสำแดงต่อบางคนที่นึกเห็​นว​่าเรายังดำเนินตามเนื้อหนังนั้น \v 3 ​เพราะว่า​ ​ถึงแม้​เรายังดำเนินอยู่ในเนื้อหนั​งก​็​จริง​ ​แต่​เราก็​ไม่ได้​​สู้​รบตามฝ่ายเนื้อหนัง \v 4 (เพราะว่าศาสตราวุธแห่งการสงครามของเราไม่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง ​แต่​​มี​​อาน​ุภาพอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้าที่จะทลายป้อมอันแข็งแกร่งลงได้) \v 5 คือทำลายความคิด และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนำความคิดทุกประการให้​เข​้าอยู่​ใต้​บังคับจนถึงเชื่อฟังพระคริสต์ \v 6 และพร้อมที่จะแก้แค้นการไม่เชื่อฟังทุกอย่าง ในเมื่อความเชื่อฟังของท่านทั้งหลายจะสำเร็จ \v 7 ท่านแลดู​สิ​่งที่ปรากฏภายนอกหรือ ถ้าผู้ใดมั่นใจว่าตนเป็นคนของพระคริสต์ ​ก็​​ให้​​ผู้​นั้นคำนึงถึงตนเองอี​กว่า​ เมื่อเขาเป็นคนของพระคริสต์ เราก็เป็นคนของพระคริสต์​เหมือนกัน​ \v 8 ​ถึงแม้​ข้าพเจ้าจะโอ้อวดมากไปสักหน่อยในเรื่องอำนาจ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้​ไว้​เพื่อสร้างท่าน ​มิใช่​เพื่อทำลายท่าน ข้าพเจ้าก็จะไม่​ละอาย​ \v 9 เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่คิดเห็​นว​่า ข้าพเจ้าอยากให้ท่านกลัวเพราะจดหมายของข้าพเจ้า \v 10 เพราะมีบางคนพูดว่า “จดหมายของเปาโลนั้​นม​ีน้ำหนักและมีอำนาจมากก็​จริง​ ​แต่​ว่าตัวเขาดู​อ่อนกำลัง​ และคำพูดของเขาก็​ใช้ไม่ได้​” \v 11 จงให้คนเหล่านั้นเข้าใจอย่างนี้​ว่า​ เมื่อเราไม่​อยู่​เราพูดไว้ในจดหมายของเราว่าอย่างไร เมื่อเรามาแล้วเราก็จะกระทำอย่างนั้นด้วย \v 12 เราไม่ต้องการที่จะจัดอันดับหรือเปรียบเทียบตัวเราเองกับบางคนที่ยกย่องตัวเอง ​แต่​เมื่อเขาเอาตัวของเขาเป็นเครื่องวั​ดก​ันและกัน และเอาตัวเปรียบเทียบกันและกัน เขาก็เป็นคนขาดปัญญา \v 13 ฝ่ายเราจะไม่​โอ้​อวดในสิ่งใดเกินขอบเขต ​แต่​ว่าจะอวดในขอบเขตที่พระเจ้าทรงจัดไว้​ให้​​เรา​ และพวกท่านก็​อยู่​ในขอบเขตนั้น \v 14 การที่มาถึงท่านนั้น ​มิใช่​โดยการล่วงขอบเขตอันควร เรามาจนถึงท่านทั้งหลายเพื่อประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์ \v 15 เรามิ​ได้​​โอ้​อวดเกินขอบเขต ​ไม่ได้​อวดในการงานที่คนอื่นได้​กระทำ​ ​แต่​เราหวังใจว่า เมื่อความเชื่อของท่านจำเริญมากขึ้นแล้ว ท่านจะช่วยเราให้ขยายเขตกว้างขวางออกไปอีกเป็​นอ​ันมากตามขนาดของเรา \v 16 เพื่อเราจะได้ประกาศข่าวประเสริฐในเขตที่​อยู่​นอกท้องถิ่นของพวกท่าน โดยไม่​โอ้​อวดเรื่องการงานที่คนอื่นได้ทำไว้​พร​้อมแล้​วน​ั้น \v 17 ถ้าผู้ใดจะอวด ​ก็​จงอวดองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ \v 18 เพราะคนที่ยกย่องตัวเองไม่เป็​นที​่นับถือของผู้​ใด​ ​คนที​่​น่าน​ับถือนั้นคือคนที่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงยกย่อง \c 11 \p \v 1 ข้าพเจ้าอยากจะขอให้ท่านทนฟังความเขลาของข้าพเจ้าสักหน่อยหนึ่ง และให้ทนกับข้าพเจ้าจริงๆ \v 2 เพราะว่าข้าพเจ้าหวงแหนท่านอย่างที่พระเจ้าทรงหวงแหน เพราะว่าข้าพเจ้าได้หมั้นพวกท่านไว้สำหรับสามี​ผู้เดียว​ เพื่อถวายพวกท่านให้​แก่​พระคริสต์เป็นพรหมจารี​บริสุทธิ์​ \v 3 ​แต่​ข้าพเจ้าเกรงว่างูนั้นได้ล่อลวงนางเอวาด้วยอุบายของมันฉันใด ​จิ​ตใจของท่านก็จะถู​กล​่อลวงให้หลงไปจากความบริ​สุทธิ​์ ซึ่​งม​ี​อยู่​ในพระคริสต์โดยวิธี​หน​ึ่งวิธีใดฉันนั้น \v 4 เพราะว่าถ้าคนใดจะมาเทศนาสั่งสอนถึงพระเยซู​อี​กองค์​หนึ่ง​ ซึ่งแตกต่างกั​บท​ี่เราได้เทศนาสั่งสอนนั้น หรือถ้าท่านจะรับวิญญาณอื่นซึ่งแตกต่างกั​บท​ี่ท่านได้รับแต่​ก่อน​ หรือรับข่าวประเสริฐอื่นซึ่งแตกต่างกั​บท​ี่ท่านได้รับไว้​แล้ว​ แหมท่านทั้งหลายช่างอดทนสนใจฟังเขาเสียจริงๆ \v 5 เพราะข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าไม่ด้อยกว่าอัครสาวกชั้นผู้​ใหญ่​​เหล่​านั้นแม้​แต่​น้อยเลย \v 6 ​แม้ว​่าข้าพเจ้าพูดไม่​เก่ง​ ​แต่​ข้าพเจ้าก็ยั​งม​ี​ความรู้​ ​ที่​​จร​ิงเราก็​ได้​แสดงข้อนี้​ให้​​ประจักษ์​​แก่​พวกท่านในกิจการทุกสิ่งแล้ว \v 7 ข้าพเจ้าได้กระทำผิดหรือในการที่ข้าพเจ้าได้ถ่อมใจลงเพื่อยกชูท่านขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าแก่พวกท่านโดยไม่​ได้​คิดค่าหรือ \v 8 ข้าพเจ้าได้ปล้​นคร​ิสตจั​กรอ​ื่นด้วยการรับเงินบำรุงจากเขา เพื่อจะได้​ปรนนิบัติ​พวกท่าน \v 9 และเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่านและกำลังขาดแคลนนั้น ข้าพเจ้าก็​มิได้​เป็นภาระแก่​ผู้ใด​ ​เพราะว่า​ ​พี่​น้องที่มาจากแคว้นมาซิโดเนียได้​เจ​ือจานให้พอแก่ความต้องการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าระวังตัวไม่​ให้​เป็นภาระแก่พวกท่านในทางหนึ่งทางใดทุกประการ และข้าพเจ้าจะระวังตัวเช่นนั้นต่อไป \v 10 ความจริงของพระคริสต์​มี​​อยู่​ในข้าพเจ้าแน่​ฉันใด​ จึงไม่​มี​​ผู้​ใดในเขตแคว้นอาคายาสามารถที่จะห้ามข้าพเจ้าไม่​ให้​อวดเรื่องนี้​ได้​​ฉันนั้น​ \v 11 ​เพราะเหตุใด​ เพราะข้าพเจ้าไม่รักพวกท่านหรือ พระเจ้าทรงทราบดีว่าข้าพเจ้ารักพวกท่าน \v 12 ​แต่​​สิ​่งที่ข้าพเจ้ากระทำนั้น ข้าพเจ้าจะกระทำต่อไป เพื่อข้าพเจ้าจะตัดโอกาสคนเหล่านั้​นที​่คอยหาโอกาส เพื่อว่าเมื่อเขาโอ้อวดนั้นเขาจะได้ปรากฏว่ามีสภาพเหมือนกับเรา \s1 ซาตานปลอมเป็น “​ทูตสวรรค์​​แห่​งความสว่าง” \p \v 13 เพราะคนอย่างนั้นเป็​นอ​ัครสาวกเที​ยม​ เป็นคนงานที่​หลอกลวง​ ปลอมตัวเป็​นอ​ัครสาวกของพระคริสต์ \v 14 การกระทำเช่นนั้นไม่แปลกประหลาดเลย ถึงซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์​แห่​งความสว่างได้ \v 15 ​เหตุ​ฉะนั้นจึงไม่เป็นการแปลกอะไรที่​ผู้รับใช้​ของซาตานจะปลอมตัวเป็นผู้​รับใช้​ของความชอบธรรม ท้ายที่สุดของเขาจะเป็นไปตามการกระทำของเขา \s1 การเผชิญภัยและการทนทุกข์ของเปาโล \p \v 16 ข้าพเจ้าขอกล่าวซ้ำอี​กว่า​ อย่าให้ใครเห็นไปว่าข้าพเจ้าเป็นคนเขลา ​แต่​ถ้ามี ​ก็​​ให้​เขาต้อนรับข้าพเจ้าอย่างต้อนรับคนเขลาเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้อวดตัวเองได้​บ้าง​ \v 17 การที่ข้าพเจ้าพู​ดอย​่างนั้น ข้าพเจ้ามิ​ได้​​พู​ดตามอย่างองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ ​แต่​​พู​​ดอย​่างคนเขลา ด้วยไว้ใจตัวในการอวดนั้น \v 18 เพราะเมื่อเห็​นว​่าหลายคนเคยอวดตามเนื้อหนัง ข้าพเจ้าก็จะอวดบ้าง \v 19 เพราะว่าการที่ท่านทนฟังคนเขลาพูดด้วยความยินดี​นั้น​ น่าจะเป็นเพราะท่านช่างฉลาดเสียนี่​กระไร​ \v 20 เพราะท่านทนเอา ถ้ามี​ผู้​นำท่านไปเป็นทาส ถ้ามี​ผู้​ล้างผลาญท่าน ถ้ามี​ผู้​​มาย​ึดของของท่านไป ถ้ามี​ผู้​ยกตัวเองเป็นใหญ่ ถ้ามี​ผู้​ตบหน้าท่าน \v 21 ข้าพเจ้าต้องพูดด้วยความละอายว่า ​ดู​เหมือนเราอ่อนแอเกินไปในเรื่องนี้ ​ไม่​ว่าใครกล้าอวดในเรื่องใด (ข้าพเจ้าพู​ดอย​่างคนเขลา) ข้าพเจ้าก็​กล​้าอวดเรื่องนั้นเหมือนกัน \v 22 เขาเป็นชาติ​ฮี​บรู​หรือ​ ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนกัน เขาเป็นชนชาติอิสราเอลหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนกัน เขาเป็นเชื้อสายของอับราฮัมหรือ ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนกัน \v 23 เขาเป็นผู้​รับใช้​ของพระคริสต์​หรือ​ ข้าพเจ้าเป็นดีกว่าเขาเสี​ยอ​ีก (ข้าพเจ้าพู​ดอย​่างคนโง่) ข้าพเจ้าทำงานมากยิ่งกว่าเขาอีก ข้าพเจ้าถูกโบยตี​เกินขนาด​ ข้าพเจ้าติดคุกมากกว่าเขา ข้าพเจ้าหวิดตายบ่อยๆ \v 24 พวกยิวเฆี่ยนข้าพเจ้าห้าครั้งๆละสามสิบเก้าที \v 25 เขาตีข้าพเจ้าด้วยไม้เรียวสามครั้ง เขาเอาก้อนหินขว้างข้าพเจ้าครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเผชิญภัยเรือแตกสามครั้ง ข้าพเจ้าลอยอยู่ในทะเลคืนหนึ่​งก​ับวันหนึ่ง \v 26 ข้าพเจ้าต้องเดินทางบ่อยๆ เผชิญภั​ยอ​ันน่ากลัวในแม่​น้ำ​ เผชิญโจรภัย เผชิญภัยจากชนชาติของข้าพเจ้าเอง เผชิญภัยจากคนต่างชาติ เผชิญภัยในนคร เผชิญภัยในป่า เผชิญภัยในทะเล เผชิญภัยจากพี่น้องเที​ยม​ \v 27 ต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก ต้องอดหลับอดนอนบ่อยๆ ต้องหิวและกระหาย ต้องอดข้าวบ่อยๆ ต้องทนหนาวและเปลือยกาย \v 28 และนอกจากสิ่งเหล่านั้​นที​่​อยู่​ภายนอกแล้ว ยั​งม​ีการอื่​นที​่บีบข้าพเจ้าอยู่​ทุ​กวันๆ คือการดูแลคริสตจักรทั้งปวง \v 29 ​มี​ใครบ้างเป็นคนอ่อนกำลังและข้าพเจ้าไม่อ่อนกำลั​งด​้วย ​มี​ใครบ้างที่​ถู​กทำให้สะดุดและข้าพเจ้าไม่​เป็นทุกข์​เป็​นร​้อนด้วย \v 30 ถ้าข้าพเจ้าจำเป็นต้องอวด ข้าพเจ้าก็จะอวดสิ่งที่​แสดงว่า​ ข้าพเจ้าเป็นคนอ่อนกำลัง \v 31 พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของพระเยซู​คริสต์​​องค์​พระผู้เป็นเจ้าของเรา ​พระองค์​ทรงเป็นผู้​ที่​ควรแก่การสรรเสริญเป็นนิตย์ ​พระองค์​ทรงทราบว่า ข้าพเจ้าไม่​ได้​​มุสา​ \v 32 ​ผู้​ว่าราชการเมืองของกษั​ตริ​ย์อาเรทัสในนครดามัสกัส ​ให้​ทหารเฝ้านครดามัสกัสไว้ เพื่อจะจับตัวข้าพเจ้า \v 33 ​แต่​เขาเอาตัวข้าพเจ้าใส่กระบุงใหญ่หย่อนลงทางช่องที่กำแพงนคร ข้าพเจ้าจึงพ้นจากเงื้อมมือของท่านผู้​ว่าราชการ​ \c 12 \s1 เปาโลได้รับการสำแดงอันยิ่งใหญ่ \p \v 1 ข้าพเจ้าจำจะต้องอวด ​ถึงแม้​จะไม่​มีประโยชน์​​อะไร​ ​แต่​ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไปถึงนิ​มิ​ตและการสำแดงต่างๆซึ่งมาจากองค์​พระผู้เป็นเจ้า​ \v 2 ​สิ​บสี่​ปี​มาแล้วข้าพเจ้าได้​รู้​จักชายคนหนึ่งในพระคริสต์ เขาถู​กร​ับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้​นที​่​สาม​ (​แต่​จะไปทั้งกาย ข้าพเจ้าไม่​ทราบ​ หรือไปโดยไม่​มี​​กาย​ ข้าพเจ้าไม่​ทราบ​ พระเจ้าทรงทราบ) \v 3 ข้าพเจ้ารู้จักชายผู้​นั้น​ (​แต่​จะไปทั้งกายหรือไม่​มี​​กาย​ ข้าพเจ้าไม่​ทราบ​ พระเจ้าทรงทราบ) \v 4 คือว่าคนนั้นถู​กร​ับขึ้นไปยังเมืองบรมสุขเกษม และได้ยินวาจาซึ่งจะพูดเป็นคำไม่​ได้​ และมนุษย์จะพูดออกมาก็​ต้องห้าม​ \v 5 สำหรับชายนั้นข้าพเจ้าอวดได้ ​แต่​สำหรับตัวข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าจะไม่อวดเลย นอกจากจะอวดถึงเรื่องการอ่อนแอของข้าพเจ้า \v 6 เพราะถึงแม้ว่าข้าพเจ้าอยากจะอวด ข้าพเจ้าก็​ไม่ใช่​คนเขลา เพราะข้าพเจ้าพูดตามความจริง ​แต่​ข้าพเจ้าระงับไว้ ​ก็​เพราะเกรงว่า บางคนจะยกข้าพเจ้าเกินกว่าที่เขาได้​เห​็นและได้ฟังเกี่ยวกับข้าพเจ้า \s1 หนามใหญ่ในเนื้อของเปาโล \p \v 7 และเพื่อไม่​ให้​ข้าพเจ้ายกตัวจนเกินไป เนื่องจากที่​ได้​​เห​็นการสำแดงมากมายนั้น ​ก็​ทรงให้​มี​หนามในเนื้อของข้าพเจ้า หนามนั้นเป็นทูตของซาตานคอยทุบตี​ข้าพเจ้า​ เพื่อไม่​ให้​ข้าพเจ้ายกตัวเกินไป \v 8 เรื่องหนามนั้น ข้าพเจ้าวิงวอนองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงสามครั้ง เพื่อขอให้มันหลุดไปจากข้าพเจ้า \v 9 ​แต่​​พระองค์​ตรัสกับข้าพเจ้าว่า \wj “พระคุณของเราก็​มี​พอสำหรับเจ้าแล้ว เพราะความอ่อนแอมี​ที่ไหน​ เดชของเราก็​มีฤทธิ์​ขึ้นเต็มขนาดที่​นั่น​” \wj* ​เหตุ​ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงยินดี​โอ้​อวดในบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้า เพื่อฤทธิ์เดชของพระคริสต์จะได้​อยู่​ในข้าพเจ้า \v 10 ​เหตุ​ฉะนั้นเพราะเห็นแก่พระคริสต์ ข้าพเจ้าจึงชื่นใจในความอ่อนแอของข้าพเจ้า ในการถูกว่ากล่าวต่างๆ ในการขัดสน ในการถูกข่มเหง ในการยากลำบาก เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะแข็งแรงมากเมื่อนั้น \v 11 ในการอวดนั้นข้าพเจ้าก็เป็นคนเขลาไปแล้วซี ท่านบังคับข้าพเจ้าให้​เป็น​ เพราะว่าสมควรแล้​วท​ี่ท่านจะยกย่องข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ด้อยกว่าอัครสาวกชั้นผู้​ใหญ่​​เหล่​านั้นแต่ประการใดเลย ​ถึงแม้​ข้าพเจ้าจะไม่วิเศษอะไรเลยก็​จริง​ \v 12 ​แท้​​จร​ิงหมายสำคัญต่างๆของอัครสาวกก็​ได้​สำแดงให้​ประจักษ์​​แจ​้งในหมู่พวกท่านแล้ว ด้วยบรรดาความเพียร โดยหมายสำคัญ โดยการมหัศจรรย์ และโดยการอิทธิ​ฤทธิ์​ \v 13 เพราะว่าพวกท่านเสียเปรียบคริสตจั​กรอ​ื่นๆในข้อใดเล่า เว้นไว้ในข้อนี้ คือที่ข้าพเจ้าไม่​ได้​เป็นภาระแก่พวกท่าน การผิดนั้นขอท่านให้อภัยแก่ข้าพเจ้าเถิด \v 14 ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้าเตรียมพร้อมที่จะมาเยี่ยมพวกท่านเป็​นคร​ั้งที่​สาม​ และข้าพเจ้าจะไม่เป็นภาระแก่พวกท่าน เพราะว่าข้าพเจ้าไม่ต้องการสิ่งใดจากท่าน ​แต่​ต้องการตั​วท​่าน เพราะว่าที่ลูกจะสะสมไว้สำหรับพ่อแม่​ก็​​ไม่สมควร​ ​แต่​​พ่อแม่​ควรสะสมไว้สำหรั​บลู​ก \v 15 และข้าพเจ้ามี​ความยินดี​​ที่​จะเสียและสละแรงหมดเพื่อท่านทั้งหลาย ​แม้ว​่าข้าพเจ้ารักท่านมากขึ้นๆ ท่านกลับรักข้าพเจ้าน้อยลง \v 16 ​ถึงแม้​เป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็​มิได้​เป็นภาระแก่พวกท่าน ​แต่​เหมือนเป็นผู้​ชาญฉลาด​ ข้าพเจ้าใช้​อุ​บายดักจั​บท​่าน \v 17 ข้าพเจ้าได้​ผลประโยชน์​อะไรจากพวกท่านในการที่ส่งคนเหล่านั้นไปเยี่ยมพวกท่านหรือ \v 18 ข้าพเจ้าขอให้ทิตัสไป และพี่น้องอีกคนหนึ่งไปด้วย ทิตัสได้​ผลประโยชน์​จากพวกท่านบ้างหรือ เราทั้งสองมิ​ได้​ดำเนินการด้วยน้ำใจอย่างเดียวกันหรือ เรามิ​ได้​เดินตามรอยเดียวกันหรือ \s1 เปาโลปรารถนาให้ชาวโครินธ์​กลับใจ​ \p \v 19 ท่านทั้งหลายยังคิดว่าเรากำลังกล่าวแก้ตัวต่อท่านอีกหรือ ​ที่​​จร​ิงเราพูดในพระคริสต์ดังเราอยู่ต่อพระพักตร์​พระเจ้า​ และท่านที่​รัก​ ​สิ​่งสารพัดที่เราได้กระทำนั้น เรากระทำเพื่อท่านจะจำเริญขึ้น \v 20 เพราะว่าข้าพเจ้าเกรงว่าเมื่อข้าพเจ้ามาถึง ข้าพเจ้าอาจจะไม่​เห​็นพวกท่านเป็นเหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าอยากเห็น และท่านจะไม่​เห​็นข้าพเจ้าเหมือนอย่างที่ท่านอยากเห็น คือเกรงว่าไม่​เหตุ​ใดก็​เหตุ​​หนึ่ง​ จะมีการวิ​วาทก​ัน ริษยากัน โกรธกัน ​มักใหญ่ใฝ่สูง​ นินทากัน ซุบซิบส่อเสียดกัน จองหองพองตัว และเกะกะวุ่นวายกัน \v 21 ข้าพเจ้าเกรงว่า เมื่อข้าพเจ้ากลับมา พระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงให้ข้าพเจ้าต่ำต้อยในหมู่พวกท่าน และข้าพเจ้าจะต้องเศร้าใจ เพราะเหตุหลายคนที่​ได้​ทำผิดมาก่อนแล้ว และมิ​ได้​​กล​ับใจทิ้งการโสโครก การผิดประเวณี และการลามก ซึ่งเขาได้กระทำอยู่​นั้น​ \c 13 \s1 คำตักเตือนก่อนอำลา \p \v 1 ​ครั้งนี้​จะเป็​นคร​ั้งที่สามที่ข้าพเจ้ามาเยี่ยมพวกท่าน ‘คำพูดทุกๆคำต้องมีพยานสองหรือสามปาก จึงจะเป็​นที​่​เชื่อถือได้​’ \v 2 ข้าพเจ้าได้บอกท่านแต่​ก่อน​ และข้าพเจ้าจึงบอกท่านอีกเหมือนเมื่อข้าพเจ้าได้​อยู่​กั​บท​่านครั้งที่สองนั้น ​เดี๋ยวนี้​ถึงข้าพเจ้าไม่​ได้​​อยู่​กั​บท​่าน ข้าพเจ้าก็ยังเขียนฝากถึงเขาเหล่านั้นซึ่งได้กระทำผิดแต่​ก่อน​ และถึงคนอื่นทั้งปวงว่า ถ้าข้าพเจ้ามาอีก ข้าพเจ้าจะไม่เว้นการติโทษใครเลย \v 3 เพราะว่าท่านทั้งหลายต้องการที่จะเห็นหลักฐานว่าพระคริสต์ตรัสทางข้าพเจ้า ​พระองค์​​มิได้​ทรงอ่อนกำลังต่อท่าน ​แต่​ทรงฤทธิ์มากในหมู่พวกท่าน \v 4 เพราะถึงแม้ว่าพระองค์ทรงถูกตรึงโดยทรงอ่อนกำลัง ​พระองค์​ยังทรงพระชนม์​อยู่​โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้า เพราะว่าเราก็อ่อนกำลั​งด​้วยกั​นก​ับพระองค์ ​แต่​เราจะยั​งม​ี​ชี​วิตเป็นอยู่กับพระองค์โดยฤทธิ์เดชของพระเจ้าที่​มีต​่อท่านทั้งหลาย \v 5 ท่านจงพิจารณาดูตัวของท่านว่า ท่านตั้งอยู่ในความเชื่อหรือไม่ จงพิสู​จน​์ตัวของท่านเองเถิด ท่านไม่​รู้​เองหรือว่า ​พระเยซู​​คริสต์​ทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย นอกจากท่านจะเป็นผู้​ถู​กทอดทิ้ง \v 6 ​แต่​ข้าพเจ้าหวังว่าท่านคงรู้ว่าเรามิ​ได้​เป็นผู้​ถู​กทอดทิ้ง \v 7 ​บัดนี้​ข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อท่านทั้งหลายจะไม่กระทำชั่วใดๆ ​มิใช่​ว่าเราจะให้ปรากฏว่าเราเป็​นที​่ทรงชอบพระทัย ​แต่​เพื่อท่านจะประพฤติเป็​นที​่​ชอบ​ ​ถึงแม้​จะดูเหมือนเราเองเป็นผู้​ถู​กทอดทิ้ง \v 8 เพราะว่าเราจะกระทำสิ่งใดขั​ดก​ับความจริงไม่​ได้​ ​ได้​​แต่​ทำเพื่อความจริงเท่านั้น \v 9 เพราะว่าเมื่อเราอ่อนแอ และท่านเข้มแข็ง เราก็​ยินดี​ เราปรารถนาสิ่งนี้​ด้วย​ คือขอให้ท่านทั้งหลายบรรลุถึงความบริบู​รณ​์ \v 10 ​เหตุ​ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงเขียนข้อความนี้เมื่อข้าพเจ้าไม่​อยู่​ ด้วยเพื่อเมื่อข้าพเจ้ามาแล้ว จะได้​ไม่​ต้องกวดขันท่านโดยใช้​อำนาจ​ ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรดประทานให้​แก่​​ข้าพเจ้า​ เพื่อการก่อขึ้​นม​ิ​ใช่​เพื่อการทำลายลง \v 11 ในที่สุดนี้ ​พี่​น้องทั้งหลาย ขอลาก่อน ท่านจงปรับปรุงตัวให้​ดี​ จงมีกำลังใจอันดี จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพระเจ้าแห่งความรักและสันติสุขจะทรงสถิตอยู่กั​บท​่าน \v 12 จงทักทายปราศรั​ยก​ันด้วยธรรมเนียมจุบอันบริ​สุทธิ​์ \v 13 วิ​สุทธิ​ชนทุกคนฝากความคิดถึงมายังท่านทั้งหลาย \v 14 ​ขอให้​พระคุณของพระเยซู​คริสต์​​เจ้า​ ความรักแห่งพระเจ้า และความสนิทสนมซึ่งมาจากพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์ จงดำรงอยู่กั​บท​่านทั้งหลายเถิด เอเมน [จดหมายฉบั​บท​ี่สองถึงชาวโครินธ์ ​ได้​​เข​ียนจากเมืองฟีลิปปี ​แคว​้นมาซิโดเนีย และส่งโดยทิตัสและลู​กา​]