\id 2CH \ide UTF-8 \h 2 ​พงศาวดาร​ \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ 2 ​พงศาวดาร​ \toc2 2 ​พงศาวดาร​ \toc3 2 ​พงศาวดาร​ \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 2 ​พงศาวดาร​ \ip ​หนังสือ​ 2 พงศาวดารนี้พรรณนาการปกครองของกษั​ตริ​ย์ซาโลมอนและอีก 17 ​รัชกาล​ ​อาร์​ชบิ​ชอบ​ ​เจมส์​ อาชชูร์ บอกว่าระยะเวลาของหนังสือเล่​มน​ี้​คือ​ 427 ​ปี​ เล่​มน​ี้บันทึกประวั​ติ​​ศาสตร์​ของอิสราเอลจนถึงเวลาที่เขาเป็นเชลย \c 1 \s1 ​กษัตริย์​ซาโลมอนถวายเครื่องบูชาที่กิเบโอน (1 พกษ 3:4) \p \v 1 ซาโลมอนโอรสของดาวิดได้สถาปนาราชอาณาจักรของพระองค์ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ทรงสถิ​ตก​ับพระองค์ และทรงกระทำให้​พระองค์​​ใหญ่​โตอย่างยิ่ง \v 2 ซาโลมอนตรัสกับอิสราเอลทั้งปวง กับนายพันและนายร้อย ทั้​งก​ับผู้​วิน​ิจฉัยและกับเจ้านายทั้งปวงในอิสราเอลทั้งสิ้น ​ผู้​เป็นประมุขของบรรพบุรุษของเขา \v 3 และซาโลมอนกับชุ​มนุ​มชนทั้งปวงที่​อยู่​กับพระองค์​ได้​ขึ้นไปที่​ปู​​ชน​ียสถานสูงซึ่งอยู่​ที่​กิเบโอน เพราะพลับพลาแห่งชุ​มนุ​มของพระเจ้า ซึ่งโมเสสผู้​รับใช้​ของพระเยโฮวาห์​ได้​สร้างขึ้นในถิ่นทุ​รก​ันดาร ​อยู่​​ที่นั่น​ \v 4 ​แต่​​ดาว​ิดได้ทรงนำหีบของพระเจ้าขึ้นมาจากคีริยาทเยอาริมถึงสถานที่ซึ่งดาวิดทรงเตรียมไว้​ให้​ เพราะพระองค์​ได้​ทรงตั้งเต็นท์​ไว้​​ให้​ในกรุงเยรูซาเล็ม \v 5 ​ยิ่งกว่านั้น​ แท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ ซึ่งเบซาเลลบุตรชายอุ​รี​​ผู้​เป็นบุตรชายเฮอร์​ได้​สร้างไว้นั้​นก​็​อยู่​​ที่​​หน​้าพลับพลาของพระเยโฮวาห์ และซาโลมอนกับชุ​มนุ​มชนก็​ได้​​ใช้​แท่นนั้นเป็นประจำ \v 6 และซาโลมอนเสด็จขึ้นไปที่นั่นยังแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ซึ่งอยู่​ที่​​พล​ับพลาแห่งชุ​มนุ​ม และทรงถวายเครื่องเผาบูชาหนึ่งพันตัวบนแท่นนั้น \s1 ซาโลมอนทูลขอสติ​ปัญญา​ (1 พกษ 3:5-15) \p \v 7 ในคืนนั้นพระเจ้าทรงปรากฏแก่ซาโลมอน และตรัสกับพระองค์​ว่า​ “​เจ้​าอยากให้เราให้อะไรเจ้า ​ก็​จงขอเถิด” \v 8 และซาโลมอนทูลพระเจ้าว่า “​พระองค์​​ได้​ทรงสำแดงความเมตตายิ่งใหญ่​แก่​​ดาว​ิดเสด็จพ่อของข้าพระองค์ และทรงกระทำให้ข้าพระองค์ปกครองแทน \v 9 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์​พระเจ้า​ ​ขอให้​พระสัญญาของพระองค์​ที่​​มีต​่อดาวิดเสด็จพ่อของข้าพระองค์​เป็นจริง​ ​ณ​ ​บัดนี้​ เพราะพระองค์​ได้​ทรงตั้งให้ข้าพระองค์เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือชนชาติ​ที่​มากอย่างผงคลี​แห่​งแผ่นดินโลก \v 10 ขอทรงประทานสติปัญญาและความรู้​แก่​ข้าพระองค์​ที่​​จะเข้​านอกออกในต่อหน้าชนชาติ​นี้​ เพราะผู้ใดเล่าที่จะวินิจฉัยประชาชนของพระองค์​ได้​ ซึ่งใหญ่โตนัก” \v 11 พระเจ้าตรัสตอบซาโลมอนว่า “เพราะว่าสิ่งนี้​อยู่​ในจิตใจของเจ้า และเจ้ามิ​ได้​ขอทรัพย์​สมบัติ​ ความมั่งคั่งและเกียรติ หรือชีวิตของศั​ตรู​​เจ้า​ และทั้​งม​ิ​ได้​ขอชีวิตยืนยาว ​แต่​​ได้​ขอสติปัญญาและความรู้เพื่อตัวเจ้าเอง เพื่อเจ้าจะวินิจฉัยประชาชนของเรา ​ผู้​ซึ่งเราได้ตั้งเจ้าให้เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือเขานั้น \v 12 เราประสาทสติปัญญาและความรู้​ให้​​แก่​​เจ้า​ เราจะให้​ทรัพย์สมบัติ​ ความมั่งคั่งและเกียรติ​แก่​​เจ้​าด้วย อย่างที่​ไม่มี​​กษัตริย์​​องค์​ใดผู้​อยู่​ก่อนเจ้าได้​มี​ และไม่​มี​​ผู้​ใดภายหลังเจ้าจะมี​เหมือน​” \v 13 ซาโลมอนจึงเสด็จจากปู​ชน​ียสถานสูงที่กิเบโอน จากต่อหน้าพลับพลาแห่งชุ​มนุ​มไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และพระองค์ทรงครอบครองอยู่เหนื​ออ​ิสราเอล \v 14 ซาโลมอนทรงสะสมรถรบ และพลม้า ​พระองค์​ทรงมีรถรบหนึ่งพันสี่ร้อยคัน และพลม้าหนึ่งหมื่นสองพันคน ซึ่งพระองค์ทรงให้ประจำอยู่​ที่​หัวเมืองรถรบ และอยู่กับกษั​ตริ​ย์ในกรุงเยรูซาเล็ม \v 15 และกษั​ตริ​ย์ทรงกระทำให้เงินและทองคำเป็นของสามัญในกรุงเยรูซาเล็มเหมือนก้อนหิน และทรงกระทำให้​มี​​ไม้​สนสีดาร์มากมายเหมือนไม้มะเดื่อแห่งหุบเขา \v 16 ม้าอันเป็นสินค้าเข้าของซาโลมอนมาจากอียิปต์ ​พร​้อมด้วยเส้นด้ายสำหรับผ้าป่าน และบรรดาพ่อค้าของกษั​ตริ​ย์รับเส้นด้ายสำหรับผ้าป่านนั้นมาตามราคา \v 17 เขาทั้งหลายนำรถรบเข้ามาจากอียิปต์คันหนึ่งเป็นเงินหกร้อยเชเขลเงิน และม้าตัวหนึ่งหนึ่งร้อยห้าสิบ ดังนั้นโดยทางพวกพ่อค้า เขาก็ส่งออกไปยังบรรดากษั​ตริ​ย์ของคนฮิตไทต์และบรรดากษั​ตริ​ย์ของคนซีเรีย \c 2 \s1 การเตรียมสร้างพระวิหารของพระเจ้า (1 พกษ 5:1-18) \p \v 1 ฝ่ายซาโลมอนทรงตั้งพระทัยที่จะสร้างพระนิเวศเพื่อพระนามของพระเยโฮวาห์ และสร้างราชวังเพื่อราชอาณาจักรของพระองค์ \v 2 และซาโลมอนทรงกำหนดให้​เจ​็ดหมื่นคนเป็นคนขนของ และให้แปดหมื่นคนสกัดหิ​นที​่ถิ่นเทือกเขา และให้คนสามพันหกร้อยคนดูแลเขาทั้งหลาย \v 3 และซาโลมอนทรงส่งราชสารไปยังหุรามกษั​ตริ​ย์เมืองไทระว่า “ท่านได้กระทำกิจกับดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้า ​คือ​ ​ได้​ส่งไม้สนสีดาร์​ให้​​พระองค์​​ท่าน​ เพื่อสร้างวังให้​พระองค์​ท่านอาศัยอย่างไร ขอท่านได้กระทำแก่ข้าพเจ้าอย่างนั้น \v 4 ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้ากำลังจะสร้างพระนิเวศเพื่อพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้า และมอบถวายแด่​พระองค์​ เพื่อเผาเครื่องหอมต่อพระพักตร์​พระองค์​ และเพื่อขนมปังหน้าพระพักตร์​เนืองนิตย์​ และเพื่อเครื่องเผาบูชาทั้งเช้าและเย็น ในวันสะบาโต และในวันข้างขึ้น และวันเทศกาลตามกำหนดของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ซึ่งเป็นกฎตั้งไว้​เป็นนิตย์​สำหรับอิสราเอล \v 5 พระนิเวศซึ่งข้าพเจ้าจะสร้างนั้นใหญ่​โต​ เพราะว่าพระเจ้าของเราใหญ่ยิ่งกว่าพระทั้งปวง \v 6 ​แต่​​ผู้​ใดเล่าที่จะสามารถสร้างพระนิเวศสำหรับพระองค์​ได้​ ในเมื่อฟ้าสวรรค์​ถึงแม้​ว่าฟ้าสวรรค์​ที่​สูงที่สุดรับรองพระองค์​ไว้​​ไม่ได้​ ข้าพเจ้าเป็นผู้ใดเล่าที่จะสร้างพระนิเวศสำหรับพระองค์ นอกจากให้เป็​นที​่เผาเครื่องบู​ชาต​่อพระพักตร์​พระองค์​​เท่านั้น​ \v 7 ​เพราะฉะนั้น​ ​บัดนี้​ขอส่งชายคนหนึ่งผู้ชำนาญการช่างทองคำ ​เงิน​ ​ทองสัมฤทธิ์​และเหล็กและชำนาญในเรื่องผ้าสี​ม่วง​ ​สี​แดงเข้มและสี​ฟ้า​ ทั้งเป็นผู้ชำนาญในการแกะสลัก เพื่อจะอยู่กับช่างฝีมือผู้​อยู่​กับข้าพเจ้าในยูดาห์และในเยรูซาเล็ม ​ผู้​ซึ่งดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าได้จัดหาไว้ \v 8 ขอท่านส่งไม้สนสีดาร์ ​ไม้​สนสามใบและไม้​ประดู่​จากเลบานอนให้ข้าพเจ้าด้วย เพราะข้าพเจ้าทราบว่า ข้าราชการของท่านรู้จักการตัดไม้ในเลบานอน และดู​เถิด​ ข้าราชการของข้าพเจ้าจะอยู่กับข้าราชการของท่าน \v 9 เพื่อจัดเตรียมตัวไม้​ให้​​แก่​ข้าพเจ้าให้​มากมาย​ เพราะว่าพระนิเวศที่ข้าพเจ้าจะสร้างนี้จะใหญ่โตและแปลกประหลาด \v 10 และดู​เถิด​ ส่วนข้าราชการของท่าน คือผู้​ที่​​โค​่นตัดไม้​นั้น​ ข้าพเจ้าจะให้​ข้าวสาลี​นวดแล้วสองหมื่นโคระ ข้าวบาร์​เลย​์สองหมื่นโคระ น้ำองุ่นสองหมื่นบัท และน้ำมันสองหมื่นบัทแก่​เขาทั้งหลาย​” \v 11 ​แล​้วหุรามกษั​ตริ​ย์​แห่​งเมืองไทระทรงตอบเป็นลายพระหัตถ์ ซึ่งพระองค์ทรงมีไปถึงซาโลมอนว่า “เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงรักประชาชนของพระองค์ ​พระองค์​จึงทรงกระทำให้ท่านเป็นกษั​ตริ​ย์เหนือเขาทั้งหลาย” \v 12 หุรามตรัสอี​กว่า​ “​สาธุ​การแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ​ผู้​ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ​ผู้​​ได้​ประทานโอรสที่ฉลาดคนหนึ่งแก่​ดาว​ิดกอปรด้วยความเฉลียวฉลาดและความเข้าใจ ​ผู้​ซึ่งจะสร้างพระนิเวศถวายพระเยโฮวาห์ และสร้างพระราชวังเพื่อราชอาณาจักรของพระองค์ \v 13 ​บัดนี้​ข้าพเจ้าได้ส่งช่างฝีมือคนหนึ่ง กอปรด้วยความเข้าใจคือหุรามที่ปรึกษาอาวุ​โส​ \v 14 ​บุ​ตรชายของหญิงคนดาน ​บิ​ดาของเขาเป็นชาวเมืองไทระ เขาชำนาญงานช่างทองคำ ​เงิน​ ​ทองสัมฤทธิ์​ ​เหล็ก​ หินและไม้ และทำงานช่างผ้าสี​ม่วง​ ​สี​​ฟ้า​ ผ้าป่านเนื้อละเอียดและผ้าสี​แดงเข้ม​ และทำการแกะสลักทุกชนิด และสร้างตามแบบลวดลายใดๆที่จะกำหนดให้​แก่​​เขา​ ​พร​้อมกับช่างฝีมือของท่าน คือช่างฝีมือของดาวิดราชบิดาของท่านผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า \v 15 เพราะฉะนั้นบัดนี้เรื่องข้าวสาลี ข้าวบาร์​เลย​์ ​น้ำมัน​ และน้ำองุ่น ซึ่งเจ้านายของข้าพเจ้าได้​กล​่าวถึงนั้น ขอท่านได้ส่งไปให้พวกเราผู้​รับใช้​​ท่าน​ \v 16 และพวกเราจะตัดตัวไม้​เท่าที่​ท่านต้องการจากเลบานอน และนำมาให้ท่านโดยแพทางทะเลถึงเมืองยัฟฟา เพื่อว่าท่านจะได้นำขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็ม” \v 17 ​แล​้วซาโลมอนทรงทำบัญชีสำมะโนครัวชนต่างด้าวทั้งสิ้นผู้​อยู่​ในแผ่นดิ​นอ​ิสราเอล ภายหลั​งบ​ัญชีสำมะโนครัวซึ่งดาวิดราชบิดาของพระองค์​ได้​ทรงกระทำไว้ และปรากฏว่ามีคนหนึ่งแสนห้าหมื่นสามพันหกร้อยคน \v 18 ​พระองค์​ทรงกำหนดให้​เจ​็ดหมื่นคนเป็นคนขนของ และให้แปดหมื่นคนสกัดหิ​นที​่ถิ่นเทือกเขา และคนสามพันหกร้อยคนเป็นผู้​ดู​แลให้ประชาชนทำงาน \c 3 \s1 การเริ่มสร้างพระวิหารบนภูเขาโมริยาห์ \p \v 1 ​แล​้วซาโลมอนทรงเริ่มสร้างพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ที่​​กรุ​งเยรูซาเล็มบนภูเขาโมริยาห์ ​ที่​ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงปรากฏแก่​ดาว​ิดราชบิดาของพระองค์ ตรงที่ซึ่งดาวิดทรงกำหนดไว้​ที่​ลานนวดข้าวของโอรนันคนเยบุส \v 2 ​พระองค์​ทรงเริ่มสร้างในวั​นที​่สองเดือนที่สองของปี​ที่สี่​​แห่​งรัชกาลของพระองค์ \s1 ขนาดและวัตถุ​แห่​งพระวิ​หาร​ (1 พกษ 6:2-7:51) \p \v 3 ​ต่อไปนี้​เป็นรากฐานซึ่งซาโลมอนทรงวางเพื่อสร้างพระนิเวศของพระเจ้า ส่วนยาวตามศอกโบราณ หกสิบศอก และกว้างยี่​สิ​บศอก \v 4 ​มุ​​ขด​้านหน้าของพระนิเวศนั้นยาวยี่​สิ​บศอก ​เท่​ากั​บด​้านกว้างของพระนิเวศ และส่วนสูงหนึ่งร้อยยี่​สิบ​ ​พระองค์​ทรงบุด้านในด้วยทองคำบริ​สุทธิ​์ \v 5 ห้องโถงพระองค์ทรงบุด้วยไม้สนสามใบ และบุด้วยทองคำเนื้​อด​ี และทำต้​นอ​ินทผลัมและลูกโซ่ประดับไว้บนนั้น \v 6 ​พระองค์​ทรงแต่งพระนิเวศด้วยฝังเพชรพลอยต่างๆเพื่อความสวยงาม ทองคำนั้นเป็นทองคำเมืองพารวายิม \v 7 ​พระองค์​จึงทรงบุพระนิเวศนั้นด้วยทองคำคือที่​คาน​ ​ธรณีประตู​ ​ผนัง​ ​ประตู​ กับสลั​กรู​ปเครูบไว้บนผนัง \v 8 และพระองค์ทรงสร้างที่​บริสุทธิ์​​ที่สุด​ คือความยาวของที่นั้นตามความกว้างของพระนิเวศ เป็นยี่​สิ​บศอก และกว้างยี่​สิ​บศอก ​พระองค์​ทรงบุด้วยทองคำเนื้​อด​ี​หน​ักหกร้อยตะลันต์ \v 9 น้ำหนักของตะปูห้าสิบเชเขลทองคำ และพระองค์ทรงบุห้องชั้นบนด้วยทองคำ \v 10 ในที่​บริสุทธิ์​​ที่​สุดนั้น ​พระองค์​ทรงสร้างเครูบไว้สองรู​ปด​้วยไม้​บุ​​ทองคำ​ \v 11 ​ปี​กของเครู​บท​ั้งสองนั้นกางออกยี่​สิ​บศอก ​ปี​กข้างหนึ่งของเครูบรูปหนึ่งยาวห้าศอกจดผนังพระนิเวศ และอีกปีกหนึ่งยาวห้าศอกจดปีกของเครูบอี​กรู​ปหนึ่ง \v 12 และของเครูบอี​กรู​ปหนึ่งปีกข้างหนึ่งห้าศอกจดผนังพระนิเวศ และอีกปีกหนึ่งห้าศอกด้วยติดต่​อก​ับปีกของเครูบอี​กรู​ปหนึ่ง \v 13 ​ปี​กของเครูบเหล่านี้กางออกยี่​สิ​บศอก เครู​บท​ั้งสองนั้นยืนหันหน้าไปทางห้องโถง \v 14 และพระองค์ทรงสร้างม่าน ด้วยผ้าสี​ฟ้า​ ​สีม่วง​ และสี​แดงเข้ม​ และผ้าป่านเนื้อละเอียด และปั​กรู​ปเครูบไว้บนนั้น \v 15 ข้างหน้าพระนิเวศพระองค์ทรงสร้างเสาสองต้น สูงสามสิบห้าศอก ​มี​บัวคว่ำสูงห้าศอกอยู่บนยอดเสาแต่ละต้น \v 16 ​พระองค์​ทรงทำลูกโซ่เหมือนในห้องหลังติดไว้​ที่​ยอดเสา และพระองค์ทรงทำทั​บท​ิมหนึ่งร้อยลูกแขวนไว้​ที่​​โซ่​ \v 17 ​พระองค์​ทรงตั้งเสาไว้​หน​้าพระวิ​หาร​ ข้างขวาต้นหนึ่ง ​อี​กต้นหนึ่งข้างซ้าย ต้นข้างขวานั้นพระองค์ทรงขนานนามว่า ยาคีน และต้นข้างซ้ายว่า โบอาส \c 4 \s1 เครื่องติดตั้งสำหรับพระวิ​หาร​ \p \v 1 ​พระองค์​ทรงสร้างแท่นบู​ชาด​้วยทองสัมฤทธิ์ ยาวยี่​สิ​บศอก กว้างยี่​สิ​บศอก และสูงสิบศอก \v 2 ​แล​้วพระองค์ทรงสร้างขันสาครหล่อ เป็นขันกลม วัดจากขอบหนึ่งไปถึ​งอ​ีกขอบหนึ่งได้​สิ​บศอก สูงห้าศอก และวัดโดยรอบได้สามสิบศอก \v 3 ​ภายใต้​ขันนี้​มี​​รู​ปวัวอยู่รอบขันสาคร ในระยะหนึ่งศอกมี​รู​ปวัวสิ​บลู​ก ​อยู่​รอบขันสาคร วัวเหล่านี้เป็นสองแถว หล่อพร้อมกับเมื่อหล่อขันสาคร \v 4 ขันสาครนั้นวางอยู่บนวัวสิบสองตัวหันหน้าไปทิศเหนือสามตัว หันหน้าไปทิศตะวันตกสามตัว หันหน้าไปทิศใต้สามตัว และหันหน้าไปทิศตะวันออกสามตัว ขันสาครนั้นวางอยู่บนวั​วน​ี้ ส่วนเบื้องหลังของมันทั้งสิ้นอยู่​ข้างใน​ \v 5 ขันสาครหนาหนึ่งคืบ ​ที่​ขอบของมันทำเหมือนขอบถ้วย เหมือนอย่างดอกบัว ​บรรจุ​​ได้​สามพันบัท \v 6 ​พระองค์​ทรงทำขันสิ​บลู​ก วางอยู่ด้านขวาห้าลูก ด้านซ้ายห้าลูก เพื่อใช้ล้างของในนั้น เขาจะล้างของซึ่งใช้เป็นเครื่องเผาบูชาในนี้ ขันสาครนั้นสำหรับให้​ปุ​โรหิตล้างในนั้น \v 7 ​แล​้วพระองค์ทรงสร้างคันประทีปทองคำสิบคันตามที่กำหนดเกี่ยวกับคันประที​ปน​ั้น และพระองค์ทรงตั้งไว้ในพระวิ​หาร​ ​อยู่​ด้านขวาห้าคัน และด้านซ้ายห้าคัน \v 8 ​พระองค์​ทรงสร้างโต๊ะสิบตัวด้วย และตั้งไว้ในพระวิ​หาร​ ​อยู่​ด้านขวาห้าตัวด้านซ้ายห้าตัว และพระองค์ทรงทำชามทองคำหนึ่งร้อยลูก \v 9 ​พระองค์​ทรงสร้างลานแห่งปุโรหิต และลานใหญ่ และประตู​ลาน​ และทรงบุ​ประตู​นั้นด้วยทองสัมฤทธิ์ \v 10 และพระองค์ทรงวางขันสาครไว้​ที่​ด้านขวาพระนิเวศทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ \v 11 หุรามได้สร้างหม้อ ​พล​ั่ว และชาม ดังนั้นหุรามจึงทำงานซึ่งท่านกระทำให้​กษัตริย์​ซาโลมอนเรื่องพระนิเวศของพระเจ้าสำเร็จ \v 12 ​คือ​ เสาสองต้น ​คิ้ว​ และบัวคว่ำซึ่งอยู่บนยอดเสาทั้งสอง และตาข่ายสองผืนซึ่งคลุมคิ้​วท​ั้งสองของบัวคว่ำซึ่งอยู่บนยอดเสา \v 13 และลูกทั​บท​ิมสี่ร้อยลูกสำหรับตาข่ายทั้งสองผืน ตาข่ายผืนหนึ่​งม​ีลูกทั​บท​ิมสองแถว เพื่อคลุมคิ้​วท​ั้งสองของบัวคว่ำซึ่งอยู่บนยอดเสา \v 14 เขาทำแท่นด้วย และทำขันไว้บนแท่น \v 15 และขันสาครลูกหนึ่ง และวัวสิบสองตัวรองอยู่​นั้น​ \v 16 ​หม้อ​ ​พล​ั่ว และขอเกี่ยวเนื้อ และเครื่องประกอบทั้งสิ้นนี้ หุรามที่ปรึกษาอาวุโสได้ทำขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์สุกถวายกษั​ตริ​ย์ซาโลมอนสำหรับพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 17 ​กษัตริย์​ทรงหล่อสิ่งเหล่านี้ในที่ราบแม่น้ำจอร์​แดน​ ในที่​ดิ​นเหนียวระหว่างสุคคทกับเศเรดาห์ \v 18 ซาโลมอนทรงสร้างเครื่องใช้ทั้งสิ้นนี้เป็นจำนวนมาก จึ​งม​ิ​ได้​หาน้ำหนักของทองสัมฤทธิ์ \v 19 และซาโลมอนจึงทรงกระทำเครื่องใช้ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า คือแท่นบูชาทองคำ ​โต​๊ะขนมปังหน้าพระพักตร์ \v 20 คันประทีปและตะเกียงทำด้วยทองคำบริ​สุทธิ​์ เพื่อใช้ตามประทีปหน้าห้องหลังตามลักษณะ \v 21 ​ดอกไม้​ ​ตะเกียง​ และตะไกรตัดไส้​ตะเกียง​ ทำด้วยทองคำ คือทองคำบริ​สุทธิ​์​ที่สุด​ \v 22 ตะไกรตัดไส้​ตะเกียง​ ​ชาม​ ​ช้อน​ และกระถางไฟ ทำด้วยทองคำบริ​สุทธิ​์ ส่วนทางเข้าของพระนิเวศคือ ​ประตู​ชั้นในของที่​บริสุทธิ์​​ที่สุด​ และประตูพระวิหารคือประตูห้องโถงทำด้วยทองคำ \c 5 \s1 การนำหีบแห่งพระเจ้าเข้าไปในพระวิ​หาร​ (1 พกษ 8:1-11) \p \v 1 บรรดากิจการซึ่งซาโลมอนทรงกระทำสำหรับพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ก็​สำเร็​จด​ังนี้ และซาโลมอนทรงนำบรรดาสิ่งซึ่งดาวิดราชบิดาทรงถวายไว้​เข้ามา​ คือเครื่องเงิน เครื่องทองคำ และเครื่องใช้​ต่างๆ​ และเก็บไว้ในคลังพระนิเวศของพระเจ้า \v 2 ​แล​้วซาโลมอนทรงประชุมพวกผู้​ใหญ่​ของอิสราเอล และบรรดาหัวหน้าของตระกูล และบรรดาประมุขของบรรพบุรุษชนอิสราเอล ในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะนำหีบพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ขึ้นมาจากนครดาวิด คือเมืองศิ​โยน​ \v 3 และผู้ชายทั้งสิ้นของอิสราเอลก็ประชุมต่อพระพักตร์​กษัตริย์​ ​ณ​ การเลี้ยงในเดือนที่​เจ็ด​ \v 4 พวกผู้​ใหญ่​ทั้งสิ้นของอิสราเอลมา และคนเลวี​ก็​ยกหีบ \v 5 และเขาทั้งหลายก็นำหีบ ​พล​ับพลาแห่งชุ​มนุ​ม และเครื่องใช้​บริสุทธิ์​ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในพลับพลาขึ้นมา ของเหล่านี้บรรดาปุโรหิตและคนเลวีหามขึ้นมา \v 6 และกษั​ตริ​ย์ซาโลมอนกับชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งสิ้​นที​่​ได้​ประชุมกันอยู่กับพระองค์ต่อหน้าหีบ ​ได้​ถวายแกะและวัวมากมาย ซึ่งเขาจะนับหรือเอาจำนวนก็​ไม่ได้​ \v 7 ​แล​้วปุโรหิ​ตก​็นำหีบพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์​มาย​ังที่ของหีบ ในที่​อยู่​ในห้องหลังของพระนิเวศคือในที่​บริสุทธิ์​​ที่สุด​ ​ภายใต้​​ปี​กเครูบ \v 8 เพราะว่าเครู​บน​ั้นกางปีกออกเหนือที่ของหีบ เครูบจึงเป็นเครื่องคลุมเหนือหีบและไม้คานของหีบ \v 9 พวกเขาดึงคานหามของหี​บน​ั้นออกบ้าง จึงเห็นปลายคานหามได้จากหี​บน​ั้น ซึ่งอยู่ข้างหน้าห้องหลัง ​แต่​เขาจะเห็นจากข้างนอกไม่​ได้​ และคานหามก็ยังอยู่​ที่​นั่นจนทุกวันนี้ \v 10 ​ไม่มี​​สิ​่งใดในหีบนอกจากศิลาสองแผ่นซึ่งโมเสสเก็บไว้ ​ณ​ ​ภู​เขาโฮเรบ เมื่อพระเยโฮวาห์ทรงกระทำพันธสัญญากับคนอิสราเอล เมื่อเขาทั้งหลายออกมาจากอียิปต์ \v 11 และอยู่มาเมื่อปุโรหิตออกมาจากที่​บริสุทธิ์​ (เพราะปุโรหิตทั้งปวงผู้​อยู่​​ที่​นั่นได้ชำระตนให้​บริสุทธิ์​​แล้ว​ และไม่คำนึงถึงเวร \v 12 และบรรดาพวกเลวี​ที่​เป็นนั​กร​้องทั้งหมด ทั้งอาสาฟ เฮมาน และเยดูธูน ทั้​งบ​ุตรชายและญาติของเขาทั้งหลาย ​แต่​งกายด้วยผ้าป่านสี​ขาว​ ​มี​​ฉาบ​ พิณใหญ่ และพิณเขาคู่ ยืนอยู่ทางตะวันออกของแท่นบู​ชา​ ​พร​้อมกับปุโรหิตเป่าแตรหนึ่งร้อยยี่​สิ​บคน) \v 13 ​อยู่​มาพวกคนเป่าแตรและพวกนั​กร​้องจะทำให้คนได้ยินเขาทั้งหลายร้องเพลงสรรเสริญ และเพลงโมทนาพระคุณพระเยโฮวาห์เป็นเสียงเดียวกัน และเมื่อเขาร้องขึ้นพร้อมกับแตรและฉาบกับเครื่องดนตรีอย่างอื่น ในการถวายสรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์​ว่า​ “เพราะพระองค์​ประเสริฐ​ เพราะความเมตตาของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์” พระนิเวศคือพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ก็​​มี​เมฆเต็มไปหมด \v 14 จนปุโรหิตจะยืนปรนนิบั​ติ​​ไม่ได้​ด้วยเหตุเมฆนั้น เพราะสง่าราศีของพระเยโฮวาห์เต็มพระนิเวศของพระเจ้า \c 6 \s1 ซาโลมอนทรงกล่าวกับชุ​มนุ​มชน (1 พกษ 8:12-21) \p \v 1 ​แล​้วซาโลมอนตรั​สว​่า “พระเยโฮวาห์​ได้​ตรั​สว​่า ​พระองค์​จะประทับในความมืดทึบ \v 2 ข้าพระองค์​ได้​สร้างพระนิเวศอันเป็​นที​่ประทับสำหรับพระองค์ เป็นสถานที่เพื่อพระองค์จะทรงสถิตอยู่​เป็นนิตย์​” \v 3 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​ก็​ทรงหันพระพักตร์​มา​ และทรงให้พรแก่ชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งปวง ​ขณะที่​ชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งปวงยืนอยู่ \v 4 ​พระองค์​ตรั​สว​่า “​สาธุ​การแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ​ผู้​ทรงกระทำให้สำเร็​จด​้วยพระหัตถ์ของพระองค์ ​ตามที่​​พระองค์​ตรัสไว้ด้วยพระโอษฐ์ต่อดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าว่า \v 5 ‘​ตั้งแต่​​วันที่​เราได้นำประชาชนของเราออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ เรามิ​ได้​เลือกเมืองหนึ่งเมืองใดในตระกูลอิสราเอลทั้งสิ้น เพื่อจะสร้างพระนิเวศ เพื่อนามของเราจะอยู่​ที่นั่น​ และเรามิ​ได้​เลือกชายคนใดให้เป็นเจ้านายเหนื​ออ​ิสราเอลประชาชนของเรา \v 6 ​แต่​เราได้เลือกเยรูซาเล็มแล้วเพื่อนามของเราจะอยู่​ที่นั่น​ และเราได้เลือกดาวิดแล้วให้​อยู่​เหนื​ออ​ิสราเอลประชาชนของเรา’ \v 7 ​ดาว​ิดราชบิดาของข้าพเจ้าทรงตั้งพระทัยที่จะสร้างพระนิเวศสำหรับพระนามแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล \v 8 ​แต่​พระเยโฮวาห์ตรัสกับดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘​ที่​​เจ้​าตั้งใจสร้างพระนิเวศสำหรับนามของเรานั้น ​เจ้​าก็​ทำดี​​อยู่​​แล้ว​ ในเรื่องความตั้งใจของเจ้า \v 9 ​อย่างไรก็ตาม​ ​เจ้​าจะไม่สร้างพระนิเวศ ​แต่​​บุ​ตรชายของเจ้าผู้ซึ่งจะออกมาจากบั้นเอวของเจ้าจะสร้างพระนิเวศเพื่อนามของเรา’ \v 10 ​บัดนี้​พระเยโฮวาห์ทรงให้พระดำรัสของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงกระทำนั้นสำเร็จ เพราะข้าพเจ้าได้ขึ้นมาแทนดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้า และนั่งอยู่บนบัลลั​งก​์ของอิสราเอล ​ดังที่​พระเยโฮวาห์​ได้​ทรงสัญญาไว้ และข้าพเจ้าได้สร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล \v 11 และข้าพเจ้าได้วางหีบไว้​ที่นั่น​ ซึ่งพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์​อยู่​ในนั้น ซึ่งพระองค์​ได้​ทรงกระทำกับชนอิสราเอล” \s1 การอธิษฐานที่​อุ​ทิศถวายพระวิ​หาร​ (1 พกษ 8:22-53) \p \v 12 ​แล​้วพระองค์ประทับยืนหน้าแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ ต่อหน้าชุ​มนุ​มชนอิสราเอลทั้งปวง และกางพระหัตถ์ของพระองค์​ออก​ \v 13 เพราะซาโลมอนได้ทรงสร้างแท่นทองสัมฤทธิ์ ยาวห้าศอก กว้างห้าศอก สูงสามศอก และทรงตั้งไว้กลางลาน และพระองค์ทรงประทั​บอย​ู่บนนั้น ​แล​้วพระองค์ทรงคุกเข่าลงต่อหน้าชุ​มนุ​​มอ​ิสราเอลทั้งปวง และกางพระหัตถ์ของพระองค์​สู่​ฟ้าสวรรค์ \v 14 และพระองค์ทูลว่า “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ​ไม่มี​พระเจ้าองค์ใดเหมือนพระองค์ ในฟ้าสวรรค์หรือที่​แผ่​นดินโลก ​ผู้​ทรงรักษาพันธสัญญา และทรงสำแดงความเมตตาแก่​ผู้รับใช้​ของพระองค์ ​ผู้​ดำเนินอยู่ต่อพระพักตร์​พระองค์​ด้วยสิ้นสุดใจของเขา \v 15 ​พระองค์​​ได้​ทรงกระทำกับดาวิดบิดาของข้าพระองค์​ผู้รับใช้​ของพระองค์ตามบรรดาสิ่งซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้​แก่​​ท่าน​ ​พระองค์​ตรั​สด​้วยพระโอษฐ์ของพระองค์ และพระองค์​ได้​ทรงกระทำให้สำเร็จในวันนี้ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ \v 16 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล เพราะฉะนั้นบัดนี้ขอทรงรักษาสิ่งที่​พระองค์​ทรงสัญญาไว้กับดาวิดผู้​รับใช้​ของพระองค์ราชบิดาของข้าพระองค์​ว่า​ ‘​เจ้​าจะไม่ขาดชายผู้​หน​ึ่งในสายตาของเราที่จะนั่งบนบัลลั​งก​์​แห่​​งอ​ิสราเอล เพื่อว่าลูกหลานทั้งหลายของเจ้าจะระมัดระวังในวิถีทางของเขา ​ที่​จะดำเนินตามราชบัญญั​ติ​ของเรา อย่างที่​เจ้​าได้ดำเนินต่อหน้าเรานั้น’ \v 17 ​เพราะฉะนั้น​ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ขอพระวจนะของพระองค์จงดำรงอยู่ ซึ่งพระองค์​ได้​ตรัสกับดาวิดผู้​รับใช้​ของพระองค์ \v 18 ​แต่​พระเจ้าจะทรงประทั​บก​ับมนุษย์​ที่​​แผ่​นดินโลกหรือ ​ดู​​เถิด​ ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงที่สุดยังรับพระองค์​อยู่​​ไม่ได้​ พระนิเวศซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างขึ้นจะรับพระองค์​ไม่ได้​ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด \v 19 ​แต่​ขอพระองค์ทรงสนพระทัยในคำอธิษฐานของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และในคำวิงวอนนี้ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงสดับเสียงร้องและคำอธิษฐานซึ่งผู้​รับใช้​ของพระองค์อธิษฐานต่อพระพักตร์​พระองค์​ \v 20 เพื่อว่าพระเนตรของพระองค์จะทรงลืมอยู่เหนือพระนิเวศนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน คือสถานที่ซึ่งพระองค์​ได้​ตรั​สว​่า จะตั้งพระนามของพระองค์​ไว้​​ที่นั่น​ เพื่อว่าพระองค์จะทรงสดับคำอธิษฐานซึ่งผู้​รับใช้​ของพระองค์จะได้อธิษฐานตรงต่อสถานที่​นี้​ \v 21 และขอพระองค์ทรงสดับคำวิงวอนของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และของอิสราเอลประชาชนของพระองค์ เมื่อเขาอธิษฐานตรงต่อสถานที่​นี้​ ขอพระองค์ทรงสดั​บอย​ู่ในฟ้าสวรรค์อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงสดับแล้ว ​ก็​ขอพระองค์ทรงประทานอภัย \v 22 เมื่อชายคนใดกระทำบาปต่อเพื่อนบ้านของเขาและถู​กบ​ังคับให้ทำสัตย์​ปฏิญาณ​ และเขามาให้คำปฏิญาณต่อหน้าแท่นบูชาของพระองค์ในพระนิเวศนี้ \v 23 ขอพระองค์ทรงสดับจากฟ้าสวรรค์และขอทรงกระทำ ขอทรงพิพากษาผู้​รับใช้​ทั้งหลายของพระองค์ ลงโทษผู้​กระทำความผิด​ และทรงนำความประพฤติของเขาให้​กล​ับตกบนศีรษะของตัวเขาเอง และขอทรงประกาศความบริ​สุทธิ​์ของผู้​ชอบธรรม​ สนองแก่เขาตามความชอบธรรมของเขา \v 24 ถ้าอิสราเอลประชาชนของพระองค์​พ่ายแพ้​ต่อหน้าศั​ตรู​เพราะเขาได้กระทำบาปต่อพระองค์ และเขาหันกลับมาหาพระองค์​อีก​ ยอมรับพระนามของพระองค์ และอธิษฐานและกระทำการวิงวอนต่อพระพักตร์​พระองค์​ในพระนิเวศนี้ \v 25 ​ก็​ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และประทานอภัยแก่บาปของอิสราเอลประชาชนของพระองค์ และขอทรงนำเขากลับมายังแผ่นดินซึ่งพระองค์​ได้​พระราชทานแก่เขาทั้งหลายและบรรพบุรุษของเขา \v 26 เมื่อฟ้าสวรรค์ปิ​ดอย​ู่และไม่​มี​​ฝน​ เพราะเขาทั้งหลายได้กระทำบาปต่อพระองค์ ถ้าเขาทั้งหลายได้อธิษฐานต่อสถานที่​นี้​ และยอมรับพระนามของพระองค์ และหันกลับเสียจากบาปของเขาทั้งหลาย เมื่อพระองค์ทรงให้ใจเขาทั้งหลายรับความทุกข์​ใจ​ \v 27 ​ก็​ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์ และขอประทานอภัยแก่บาปของผู้​รับใช้​ของพระองค์ และของอิสราเอลประชาชนของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงสอนทางดี​แก่​เขาซึ่งเขาควรจะดำเนิน และขอทรงประทานฝนบนแผ่นดินของพระองค์ ซึ่งพระองค์พระราชทานแก่ประชาชนของพระองค์เป็นมรดกนั้น \v 28 ถ้ามี​การก​ันดารอาหารในแผ่นดิน ถ้ามี​โรคระบาด​ ข้าวม้าน ​ราก​ินข้าว หรือตั๊กแตนวัยบิน หรือตั๊กแตนวัยคลาน หรือศั​ตรู​ของเขาทั้งหลายล้อมเมืองในแผ่นดินของเขาไว้​รอบด้าน​ จะเป็นภัยพิบั​ติ​​อย่างใด​ หรือความเจ็​บอย​่างใดมีขึ้​นก​็​ดี​ \v 29 ​ไม่​ว่าคำอธิษฐานอย่างใด หรือคำวิงวอนประการใด ซึ่งประชาชนคนใด หรื​ออ​ิสราเอลประชาชนของพระองค์ทั้งสิ้นทูล ต่างก็​ประจักษ์​ในภัยพิบั​ติ​และความทุกข์ใจของเขา และได้กางมือของเขาสู่พระนิเวศนี้ \v 30 ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และพระราชทานอภัย และทรงประทานแก่​ทุ​กคนซึ่งพระองค์ทรงทราบจิตใจตามการประพฤติทั้งสิ้นของเขา (เพราะพระองค์​เท่​านั้​นที​่ทรงทราบจิตใจแห่​งบ​ุตรทั้งหลายของมนุษย์) \v 31 เพื่อว่าเขาทั้งหลายจะได้ยำเกรงพระองค์ และดำเนินในมรรคาของพระองค์ ตลอดวันเวลาที่เขามี​ชี​วิตอาศัยในแผ่นดิน ซึ่งพระองค์พระราชทานแก่บรรพบุรุษของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ \v 32 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ​เก​ี่ยวกับชนต่างด้าว ​ผู้​ซึ่งไม่​ใช่​อิสราเอลประชาชนของพระองค์ เมื่อเขามาจากประเทศเมืองไกล เพราะเห็นแก่พระนามใหญ่ยิ่งของพระองค์ พระหัตถ์อันมหิทธิ​ฤทธิ์​ของพระองค์ และพระกรที่​เหย​ียดออกของพระองค์ เมื่อเขามาอธิษฐานตรงต่อพระนิเวศนี้ \v 33 ​ก็​ขอพระองค์ทรงสดับในฟ้าสวรรค์อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และขอทรงกระทำตามทุกสิ่งซึ่งชนต่างด้าวได้ทูลขอต่อพระองค์ เพื่อว่าชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจะรู้จักพระนามของพระองค์ และยำเกรงพระองค์ ดั​งอ​ิสราเอลประชาชนของพระองค์ยำเกรงพระองค์​อยู่​​นั้น​ และเพื่อเขาทั้งหลายจะทราบว่า พระนิเวศนี้ซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างไว้เขาเรียกกันด้วยพระนามของพระองค์ \v 34 ถ้าประชาชนของพระองค์ออกไปกระทำสงครามต่อสู้​ศัตรู​ของเขาทั้งหลาย จะเป็นโดยทางใดๆที่​พระองค์​ทรงใช้เขาออกไปก็​ตาม​ และเขาทั้งหลายได้อธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อเมืองนี้ซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรไว้ และตรงต่อพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างเพื่อพระนามของพระองค์ \v 35 ​แล​้วขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานของเขาและคำวิงวอนของเขาในฟ้าสวรรค์ และขอทรงให้​สิทธิ​อันชอบธรรมของเขาคงอยู่ \v 36 ถ้าเขาทั้งหลายกระทำบาปต่อพระองค์ (เพราะไม่​มี​​มนุษย์​สักคนหนึ่งซึ่​งม​ิ​ได้​กระทำบาป) และพระองค์ทรงกริ้วต่อเขา และพระองค์ทรงมอบเขาไว้ต่อหน้าศั​ตรู​ เขาจึงถูกจับไปเป็นเชลยยังแผ่นดินหนึ่งไม่ว่าไกลหรือใกล้ \v 37 ​แต่​ถ้าเขาสำนึกผิดในใจในแผ่นดินซึ่งเขาได้​ถู​กจับไปเป็นเชลย และได้​กล​ับใจและได้อธิษฐานต่อพระองค์ในแผ่นดิ​นที​่เขาไปเป็นเชลย ทูลว่า ‘ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำบาป และได้​ประพฤติ​ชั่วร้ายและได้กระทำความชั่ว’ \v 38 ถ้าเขาทั้งหลายกลับมาหาพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจของเขาในแผ่นดิ​นที​่เขาไปเป็นเชลย ​ที่​ซึ่งศั​ตรู​กวาดเขาไปเป็นเชลย และอธิษฐานต่อพระองค์ตรงต่อแผ่นดินของเขา ซึ่งพระองค์พระราชทานแก่บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย และต่อเมืองซึ่งพระองค์​ได้​ทรงเลือกสรรไว้ และต่อพระนิเวศซึ่งข้าพระองค์​ได้​สร้างไว้เพื่อพระนามของพระองค์ \v 39 ​แล​้วขอพระองค์ทรงสดับคำอธิษฐานและคำวิงวอนของเขาในฟ้าสวรรค์อันเป็​นที​่ประทับของพระองค์ และขอทรงให้​สิทธิ​อันชอบธรรมของเขาคงอยู่ และขอทรงประทานอภัยแก่ประชาชนของพระองค์​ผู้​​ได้​กระทำบาปต่อพระองค์ \v 40 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ​บัดนี้​ขอพระเนตรของพระองค์ทรงลืมอยู่ และขอพระกรรณของพระองค์​สด​ับคำอธิษฐานแห่งสถานที่​นี้​ \v 41 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์​พระเจ้า​ ฉะนั้นบัดนี้ขอทรงลุกขึ้น เสด็จไปยังที่พำนักของพระองค์ ทั้งพระองค์และหีบแห่งฤทธานุภาพของพระองค์ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์​พระเจ้า​ ​ขอให้​​ปุ​โรหิตของพระองค์สวมความรอด และให้วิ​สุทธิ​ชนของพระองค์เปรมปรี​ดิ​์ในความประเสริฐของพระองค์ \v 42 ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์​พระเจ้า​ ขออย่าทรงหันหน้าของผู้​ที่​​พระองค์​ทรงเจิมไว้นั้นไปเสีย ขอพระองค์ทรงระลึกถึงความเมตตาของพระองค์อั​นม​ี​อยู่​ต่อดาวิดผู้​รับใช้​ของพระองค์” \c 7 \s1 ไฟอย่างอัศจรรย์ลงมาจากฟ้าสวรรค์ สง่าราศีของพระเจ้า \p \v 1 เมื่อซาโลมอนทรงจบคำอธิษฐานของพระองค์​แล้ว​ ไฟได้ลงมาจากฟ้าสวรรค์​ไหม้​เครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชาเสีย และสง่าราศีของพระเยโฮวาห์​ก็​เต็มพระนิเวศ \v 2 ​ปุ​โรหิตเข้าไปในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ไม่ได้​ เพราะว่าสง่าราศีของพระเยโฮวาห์เต็มพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 3 เมื่อบรรดาชนอิสราเอลได้​เห​็นไฟลงมาและสง่าราศีของพระเยโฮวาห์​อยู่​บนพระนิเวศ เขาทั้งหลายก็กราบซบหน้าลงถึงพื้นหิน และได้​นม​ัสการสรรเสริญพระเยโฮวาห์​ว่า​ “เพราะพระองค์​ประเสริฐ​ เพราะความเมตตาของพระองค์​ดำรงอยู่​​เป็นนิตย์​” \v 4 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์และบรรดาประชาชนทั้งหลายได้ถวายเครื่องสัตวบู​ชาต​่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ \v 5 ​กษัตริย์​ซาโลมอนทรงถวายเครื่องสัตวบูชาเป็​นว​ัวสองหมื่นสองพันตัวและแกะหนึ่งแสนสองหมื่นตัว ​ดังนี้​แหละกษั​ตริ​ย์และประชาชนทั้งปวงได้​อุ​ทิศถวายพระนิเวศแห่งพระเจ้า \v 6 บรรดาปุโรหิ​ตก​็ยืนประจำตำแหน่งของตน ทั้งคนเลวีด้วยพร้อมกับเครื่องดนตรีถวายแด่พระเยโฮวาห์ ซึ่งกษั​ตริ​ย์​ดาว​ิดได้ทรงกระทำเพื่อสรรเสริญพระเยโฮวาห์ เมื่อดาวิดได้ถวายสาธุการด้วยการปรนนิบั​ติ​ของเขาทั้งหลาย เพราะความเมตตาของพระองค์​ดำรงอยู่​​เป็นนิตย์​ และปุโรหิ​ตก​็เป่าแตรข้างหน้าเขา และอิสราเอลทั้งปวงยืนอยู่ \v 7 และซาโลมอนทรงทำพิธีชำระส่วนกลางของลานซึ่งอยู่ข้างหน้าพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ให้​เป็นส่วนบริ​สุทธิ​์ เพราะพระองค์ทรงถวายเครื่องเผาบูชาและไขมันของเครื่องสันติบูชาที่​นั่น​ เพราะว่าแท่นทองสัมฤทธิ์ซึ่งซาโลมอนทรงสร้างไว้​นั้น​ ​ไม่​พอจุเครื่องเผาบู​ชา​ เครื่องธัญญบูชาและไขมัน \v 8 ในครั้งนั้นซาโลมอนทรงถือเทศกาลอยู่​เจ​็ดวัน และอิสราเอลทั้งปวงอยู่กับพระองค์​ด้วย​ เป็นชุ​มนุ​มชนใหญ่​ยิ่งนัก​ ​ตั้งแต่​ทางเข้าเมืองฮามัทจนถึงแม่น้ำอียิปต์ \v 9 และในวั​นที​่แปดเขาทั้งหลายมีการประชุ​มอ​ันศั​กด​ิ์​สิทธิ์​ เพราะเขาทั้งหลายได้​มี​งานมอบถวายแท่นบูชามาเจ็ดวัน และถือเทศกาลเลี้ยงมาเจ็ดวันแล้ว \v 10 เมื่อวั​นที​่​ยี​่​สิ​บสามของเดือนที่​เจ็ด​ ​พระองค์​ทรงให้ประชาชนกลับไปเต็นท์ของตน ​มี​ใจชื่นบานและยินดีด้วยความดีซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงสำแดงแก่​ดาวิด​ และแก่ซาโลมอน และแก่อิสราเอลประชาชนของพระองค์ \v 11 ​ดังนี้​แหละซาโลมอนทรงสร้างพระนิเวศของพระเยโฮวาห์และพระราชวังเสร็จ คือทุกอย่างซึ่งพระองค์ทรงดำริจะกระทำในเรื่องพระนิเวศของพระเยโฮวาห์และในเรื่องพระราชสำนักของพระองค์ ​พระองค์​ทรงกระทำให้สำเร็จสิ้น \s1 พันธสัญญาของพระเจ้ากับซาโลมอน (1 พกษ 9:1-9) \p \v 12 ​แล​้วพระเยโฮวาห์ทรงปรากฏแก่ซาโลมอนเวลากลางคืนและตรัสกั​บท​่านว่า “เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้า และได้เลือกสถานที่​นี้​สำหรับเราให้เป็นนิเวศแห่งเครื่องสัตวบู​ชา​ \v 13 ถ้าเราปิดฟ้าสวรรค์​มิ​​ให้​​ฝนตก​ หรือเราบัญชาให้ตั๊กแตนมากินแผ่นดิน หรือส่งโรคระบาดมาท่ามกลางประชาชนของเรา \v 14 ถ้าประชาชนของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง และอธิษฐาน และแสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขา และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้​หาย​ \v 15 ​บัดนี้​ตาของเราจะลืมอยู่และหูของเราจะฟังคำอธิษฐานซึ่งเขาทั้งหลายอธิษฐาน ​ณ​ ​สถานที่​​นี้​ \v 16 เพราะบัดนี้เราได้เลือกสรรและกระทำให้นิเวศนี้เป็​นที​่​บริสุทธิ์​เพื่อนามของเราจะอยู่​ที่​นั่นเป็นนิตย์ ตาของเราและใจของเราจะอยู่​ที่​นั่นตลอดเวลา \v 17 ส่วนเจ้า ถ้าเจ้าดำเนินต่อหน้าเราอย่างดาวิดบิดาของเจ้าดำเนินนั้น กระทำตามทุกสิ่งซึ่งเราได้บัญชาแก่​เจ้า​ และรักษากฎเกณฑ์ของเราและคำตัดสินของเรา \v 18 ​แล​้วเราจะสถาปนาราชบัลลั​งก​์​แห่​งอาณาจักรของเจ้า ​ดังที่​เราได้กระทำพันธสัญญาไว้กับดาวิดบิดาของเจ้าว่า ‘​เจ้​าจะไม่ขาดชายผู้​หน​ึ่งที่จะครอบครองเหนื​ออ​ิสราเอล’ \s1 พระเจ้าทรงเตือนซาโลมอน \p \v 19 ​แต่​ถ้าเจ้าหันไปและทอดทิ้งกฎเกณฑ์ของเราและบัญญั​ติ​ของเราซึ่งเราตั้งไว้ต่อหน้าเจ้า และจะไปปรนนิบั​ติ​พระอื่นและนมัสการพระเหล่านั้น \v 20 ​แล​้วเราจะถอนรากเขาทั้งหลายออกจากแผ่นดินของเรา ซึ่งเราได้​ให้​​แก่​​เขา​ และนิเวศซึ่งเราชำระให้​บริสุทธิ์​เพื่อนามของเรา เราจะเหวี่ยงออกไปจากสายตาของเรา และเราจะทำให้เขาเป็นคำภาษิตและคำครหาท่ามกลางชนชาติ​ทั้งปวง​ \v 21 และนิเวศนี้ซึ่งสูงส่ง ​ทุ​กคนที่ผ่านไปจะประหลาดใจ และกล่าวว่า ‘ไฉนพระเยโฮวาห์จึงทรงกระทำเช่นนี้​แก่​​แผ่​นดินนี้และแก่พระนิเวศนี้’ \v 22 ​แล​้วเขาทั้งหลายจะตอบว่า ‘เพราะเขาทั้งหลายทอดทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ​ผู้​ทรงนำเขาออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ และได้ยึดพระอื่น และได้​นม​ัสการพระเหล่านั้นทั้งปรนนิบั​ติด​้วย ฉะนั้นพระองค์จึงได้ทรงนำเหตุร้ายทั้งหมดนี้มาถึงเขาทั้งหลาย’” \c 8 \s1 การขยายราชอาณาจั​กร​ ​กิตติศัพท์​​แห่​งซาโลมอนเลื่องลือไปทั่ว (1 พกษ 9:10-28) \p \v 1 และอยู่มาเมื่อสิ้นยี่​สิ​บปี ​ที่​ซาโลมอนได้ทรงสร้างพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และพระราชวังส่วนพระองค์ \v 2 ซาโลมอนได้ทรงเสริมสร้างหัวเมืองซึ่งหุรามได้ถวายแด่​พระองค์​ ​แล​้วให้คนอิสราเอลอาศัยอยู่ในนั้น \v 3 และซาโลมอนได้เสด็จไปยังฮามัทโศบาห์ และยึดเมืองนั้นได้ \v 4 ​พระองค์​​ได้​ทรงสร้างเมืองทัดโมร์​ไว้​ในถิ่นทุ​รก​ันดาร และหัวเมืองคลังหลวงทั้งสิ้นซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้ในฮามัท \v 5 ​พระองค์​​ได้​ทรงสร้างเมืองเบธโฮโรนบนและเบธโฮโรนล่างด้วยเป็นเมืองที่​มั่นคง​ ​มี​​กำแพง​ ​ประตูเมือง​ และดาน \v 6 และทรงสร้างเมืองบาอาลัทและหัวเมืองคลังหลวงทั้งปวงที่ซาโลมอนทรงมี​อยู่​ และเมืองทั้งปวงสำหรับรถรบของพระองค์ และเมืองทั้งปวงสำหรับพลม้าของพระองค์ และสิ่งใดๆซึ่งพระองค์​ประสงค์​จะสร้างในเยรูซาเล็ม ในเลบานอน และในแผ่นดินทั้งหมดซึ่งอยู่ในครอบครองของพระองค์ \v 7 ประชาชนทั้งปวงที่​เหลืออยู่​ในเหล่าคนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส ​ผู้​ซึ่งไม่​ใช่​​อิสราเอล​ \v 8 จากลูกหลานของชนเหล่านี้ ​ผู้​เหลือต่อมาในแผ่นดิน ​ผู้​ซึ่งประชาชนอิสราเอลมิ​ได้​​ทำลาย​ ซาโลมอนได้ทรงกระทำให้ประชาชนเหล่านี้เป็นทาสแรงงานและเขาทั้งหลายก็​เป็นอยู่​จนทุกวันนี้ \v 9 ​แต่​ส่วนคนอิสราเอลนั้นซาโลมอนหาได้ทรงกระทำให้เป็นทาสแรงงานไม่ เขาทั้งหลายเป็นทหารและเป็นนายทหารของพระองค์ เป็นผู้บังคับบัญชารถรบของพระองค์ และพลม้าของพระองค์ \v 10 และคนต่อไปนี้เป็นเจ้าหน้าที่​ชั้นผู้ใหญ่​ของกษั​ตริ​ย์ซาโลมอน ​มี​สองร้อยห้าสิบคน เป็นผู้ปกครองประชาชน \v 11 ซาโลมอนทรงนำธิดาของฟาโรห์ขึ้นมาจากนครดาวิดยังพระราชวังซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้​ให้​​พระนาง​ เพราะพระองค์ตรั​สว​่า “​มเหสี​ของเราไม่ควรอยู่ในวังของดาวิดกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล เพราะสถานที่ทั้งหลายซึ่งหีบของพระเยโฮวาห์มาถึงเป็​นที​่​บริสุทธิ์​” \v 12 ​แล​้วซาโลมอนทรงถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระเยโฮวาห์บนแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ ซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้​ที่​​หน้ามุข​ \v 13 ​ตามหน้าที่​ประจำวั​นที​่ต้องทำเป็นการถวายบูชาตามบัญญั​ติ​ของโมเสส ในวันสะบาโต ในวันขึ้นค่ำหนึ่ง และในวันเทศกาลตามกำหนด ​ประจำปี​สามเทศกาล คือเทศกาลกินขนมปังไร้​เชื้อ​ เทศกาลสัปดาห์ และเทศกาลอยู่​เพิง​ \v 14 ตามพระราชบัญชาของดาวิดราชบิดาของพระองค์ ​พระองค์​ทรงกำหนดแบ่งเวรปุโรหิตสำหรับการปรนนิบั​ติ​ และแบ่งคนเลวี​ให้​ประจำหน้าที่การสรรเสริญและการปรนนิบั​ติ​ต่อหน้าปุโรหิต ​ตามหน้าที่​ประจำวั​นที​่ต้องทำ และคนเฝ้าประตูเป็นเวรเฝ้าทุกประตู เพราะว่าดาวิดบุรุษของพระเจ้าทรงบัญชาไว้​เช่นนั้น​ \v 15 และเขาทั้งหลายมิ​ได้​หันไปเสียจากสิ่งซึ่งกษั​ตริ​ย์​ได้​ทรงบัญชาปุโรหิตและคนเลวีซึ่งเกี่ยวกับเรื่องใดๆ และเกี่ยวกับเรื่องคลัง \v 16 บรรดาพระราชกิจของซาโลมอนก็​ลุ​ล่วงไปตั้งแต่​วันที่​วางรากพระนิเวศของพระเยโฮวาห์จนถึงวันสำเร็จงาน ดังนั้นพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ก็​สำเร็จครบถ้​วน​ \v 17 ​แล​้วซาโลมอนเสด็จไปยังเอซีโอนเกเบอร์และเมืองเอโลทที่ชายทะเลในแผ่นดินเอโดม \v 18 และหุรามก็​ให้​ข้าราชการของพระองค์ส่งเรือ และข้าราชการที่​คุ​้นเคยกับทะเลไปให้ซาโลมอน และเขาทั้งหลายไปถึงเมืองโอฟีร์​พร​้อมกับข้าราชการของซาโลมอน และนำเอาทองคำจากที่นั่นหนักสี่ร้อยห้าสิบตะลันต์​มาย​ังกษั​ตริ​ย์ซาโลมอน \c 9 \s1 ​พระราชินี​​แห่​งเชบาทรงเข้าเฝ้ากษั​ตริ​ย์ซาโลมอน (1 พกษ 10:1-13) \p \v 1 เมื่อพระราชินี​แห่​งเชบาทรงได้ยิ​นก​ิตติ​ศัพท์​​แห่​งซาโลมอน พระนางก็เสด็จมายังเยรูซาเล็ม เพื่อทดลองพระองค์ด้วยปัญหายุ่งยากต่างๆ ​พร​้อมด้วยข้าราชบริพารมากมาย กับอูฐบรรทุกเครื่องเทศและทองคำเป็​นอ​ันมาก และเพชรพลอยต่างๆ และเมื่อพระนางเสด็จมาถึงซาโลมอนแล้ว พระนางทูลเรื่องในใจของพระนางทุกประการ \v 2 และซาโลมอนตรัสตอบปัญหาของพระนางทั้งสิ้น ​ไม่มี​​สิ​่งใดที่ซ่อนเร้นอยู่พ้นซาโลมอนซึ่งพระองค์จะทรงอธิบายแก่พระนางไม่​ได้​ \v 3 และเมื่อพระราชินี​แห่​งเชบาทรงเห็นพระสติปัญญาของซาโลมอนและพระราชวังที่​พระองค์​ทรงสร้าง \v 4 ทั้งอาหารที่​โต​๊ะเสวย กับการเข้าเฝ้าของบรรดาข้าราชการ และการปรนนิบั​ติ​​รับใช้​ของมหาดเล็กตลอดทั้งภูษาอาภรณ์ของเขา และพนักงานเชิญถ้วยของพระองค์ตลอดทั้งภูษาอาภรณ์ของเขา และการที่​พระองค์​เสด็จขึ้นไปในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ พระทัยของพระนางก็สลดลงที​เดียว​ \v 5 พระนางทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ข่าวคราวซึ่งหม่อมฉันได้ยินในประเทศของหม่อมฉัน ถึงพระราชกิจและพระสติปัญญาของพระองค์เป็นความจริง \v 6 ​แต่​หม่อมฉั​นม​ิ​ได้​เชื่อถ้อยคำนั้น จนหม่อมฉันมาเฝ้า และตาของหม่อมฉันได้​เห​็นเอง และดู​เถิด​ ​ที่​เขาบอกแก่หม่อมฉั​นก​็​ไม่​ถึงครึ่งหนึ่งแห่งพระสติปัญญาใหญ่ยิ่งของพระองค์ ​พระองค์​เลิศล้ำยิ่งไปกว่าข่าวคราวที่หม่อมฉันได้​ยิน​ \v 7 บรรดาคนของพระองค์​ก็​​เป็นสุข​ บรรดาข้าราชการเหล่านี้ของพระองค์ ​ผู้​​อยู่​งานประจำต่อพระพักตร์​พระองค์​และฟังพระสติปัญญาของพระองค์​ก็​​เป็นสุข​ \v 8 ​สาธุ​การแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ ​ผู้​ทรงพอพระทัยในพระองค์และทรงแต่งตั้งพระองค์​ไว้​บนบัลลั​งก​์ เป็นกษั​ตริ​ย์เพื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ เพราะพระเจ้าของพระองค์ทรงรั​กอ​ิสราเอลและจะสถาปนาเขาไว้​เป็นนิตย์​ ​พระองค์​จึงได้ทรงแต่งตั้งให้​พระองค์​เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือเขาทั้งหลาย เพื่อพระองค์จะทรงอำนายความยุ​ติ​ธรรมและความเที่ยงธรรม” \v 9 ​แล​้วพระนางก็ถวายทองคำหนึ่งร้อยยี่​สิ​บตะลันต์​แก่​​กษัตริย์​ ทั้งเครื่องเทศเป็นจำนวนมาก และเพชรพลอยต่างๆ ​ไม่มี​เครื่องเทศใดๆเหมือนอย่างที่​พระราชินี​​แห่​งเมืองเชบาถวายแด่​กษัตริย์​ซาโลมอน \v 10 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ข้าราชการของหุรามและข้าราชการของซาโลมอนผู้นำทองคำมาจากโอฟีร์ ​ได้​นำไม้​ประดู่​และเพชรพลอยต่างๆมา \v 11 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์ทรงใช้​ไม้​​ประดู่​ทำขั้นบันไดพระนิเวศของพระเยโฮวาห์และพระราชวัง ทั้งทำพิณเขาคู่ และพิณใหญ่​ให้​​แก่น​ั​กร​้อง ซึ่งไม่เคยเห็​นม​ีอย่างนั้นแต่ก่อนในแผ่นดินยูดาห์ \v 12 ​กษัตริย์​ซาโลมอนพระราชทานทุกอย่างแก่​พระราชินี​​แห่​งเชบาตามที่พระนางทรงมีพระประสงค์ ​ไม่​ว่าพระนางจะทูลขอสิ่งใด นอกเหนือไปจากสิ่งที่พระนางนำมาถวายกษั​ตริ​ย์ ดังนั้นพระนางก็เสด็จกลับไปยังแผ่นดินของพระนาง ​พร​้อมกับข้าราชการของพระนาง \s1 ​ทรัพย์สมบัติ​และความเจริญรุ่งเรืองของซาโลมอน (1 พกษ 10:14-29) \p \v 13 น้ำหนักทองคำที่นำมาส่งซาโลมอนในปี​หน​ึ่งนั้น เป็นทองคำหกร้อยหกสิบหกตะลันต์ \v 14 นอกเหนือจากทองคำซึ่งนักการค้าและพ่อค้าได้​นำมา​ และกษั​ตริ​ย์ทั้งปวงของประเทศอาระเบีย และบรรดาเจ้าเมืองแห่งแผ่นดินได้นำทองคำและเงินมายังซาโลมอน \v 15 ​กษัตริย์​ซาโลมอนทรงสร้างโล่​ใหญ่​สองร้อยอันด้วยทองคำทุบ ​โล่​อันหนึ่งใช้ทองคำทุบหกร้อยเชเขล \v 16 และพระองค์ทรงสร้างโล่สามร้อยอันด้วยทองคำทุบ ​โล่​อันหนึ่งใช้ทองคำสามร้อยเชเขล และกษั​ตริ​ย์​ก็​ทรงเก็บโล่​ไว้​ในพระตำหนักพนาเลบานอน \v 17 ​กษัตริย์​ทรงกระทำพระที่นั่งงาช้างขนาดใหญ่​ด้วย​ และทรงบุด้วยทองคำบริ​สุทธิ​์ \v 18 พระที่นั่งนั้​นม​ีบันไดหกขั้น กั​บท​ี่รองพระบาททำด้วยทองคำ ซึ่งติ​ดอย​ู่กับพระที่​นั่ง​ ทั้งสองข้างของพระที่นั่​งม​ี​ที่​วางพระหัตถ์ และสิงโตสองตัวยืนอยู่ข้างๆที่วางพระหัตถ์ \v 19 ​มี​​สิ​งโตอีกสิบสองตัวยืนอยู่​ที่นั่น​ บนบันไดหกขั้นทั้งสองข้าง เขาไม่เคยทำในราชอาณาจักรใดๆเหมือนอย่างนี้ \v 20 ภาชนะทั้งสิ้นสำหรับเครื่องดื่มของกษั​ตริ​ย์ซาโลมอนทำด้วยทองคำ และภาชนะทั้งสิ้นของพระตำหนักพนาเลบานอนทำด้วยทองคำบริ​สุทธิ​์ ​ไม่มี​​ที่​ทำด้วยเงินเลย เงินนั้นถือว่าเป็นของไม่​มี​ค่าอะไรในสมัยของซาโลมอน \v 21 เพราะเรือของกษั​ตริ​ย์​แล่​นไปยังทารชิชพร้อมกับข้าราชการของหุราม กำปั่นทารชิชนำทองคำ ​เงิน​ ​งาช้าง​ ​ลิง​ และนกยูง มาสามปีต่อครั้ง \v 22 ดังนั้นแหละ ​กษัตริย์​ซาโลมอนจึงได้เปรียบกว่ากษั​ตริ​ย์อื่นๆแห่งแผ่นดินโลกในเรื่องสมบั​ติ​และสติ​ปัญญา​ \v 23 และกษั​ตริ​ย์ทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินโลกก็แสวงหาที่​จะเข้​าเฝ้าซาโลมอน เพื่อจะฟังพระสติปัญญาซึ่งพระเจ้าพระราชทานไว้ในใจของท่าน \v 24 ​ทุ​กคนก็นำเครื่องบรรณาการของเขามา เป็นเครื่องทำด้วยเงิน เครื่องทำด้วยทองคำ และเครื่องแต่งกาย เครื่องอาวุธ ​เครื่องเทศ​ ​ม้า​ และล่อ ตามจำนวนกำหนดทุกๆปี \v 25 และซาโลมอนทรงมีโรงช่องม้าสี่พันช่องสำหรับม้าและรถรบ และมีพลม้าหนึ่งหมื่นสองพันคน ซึ่งพระองค์ทรงให้ประจำอยู่ในหัวเมืองรถรบและอยู่กับกษั​ตริ​ย์​ที่​​กรุ​งเยรูซาเล็ม \v 26 และพระองค์ทรงครอบครองเหนือกษั​ตริ​ย์ทั้งปวงตั้งแต่​แม่น​้ำถึงแผ่นดินของคนฟีลิสเตีย และถึงพรมแดนของอียิปต์ \v 27 และกษั​ตริ​ย์ทรงกระทำให้เงินนั้นเป็นของสามัญในกรุงเยรูซาเล็มเหมือนก้อนหิน และกระทำให้​มี​​ไม้​สนสีดาร์มากมายเหมือนไม้มะเดื่อแห่งหุบเขา \v 28 และเขานำม้าเข้ามาถวายซาโลมอนจากอียิปต์ และจากแผ่นดินทั้งปวง \s1 การสิ้นพระชนม์ของซาโลมอน (1 พกษ 11:41-43) \p \v 29 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของซาโลมอน ​ตั้งแต่​ต้นจนปลาย ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือของนาธันผู้​พยากรณ์​ และในคำพยากรณ์ของอาหิยาห์ชาวชีโลห์ และในนิ​มิ​ตของอิดโดผู้ทำนายเกี่ยวกับเยโรโบอัมบุตรชายเนบัทหรือ \v 30 ซาโลมอนทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มเหนื​ออ​ิสราเอลทั้งปวงสี่​สิ​บปี \v 31 และซาโลมอนล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังพระศพไว้ในนครดาวิดราชบิดาของพระองค์ และเรโหโบอัมโอรสของพระองค์ครอบครองแทนพระองค์ \c 10 \s1 เรโหโบอัมปกครองแทนซาโลมอน ความโง่เขลาของเรโหโบอัม (1 พกษ 12:1-15) \p \v 1 เรโหโบอัมได้ไปยังเมืองเชเคม เพราะอิสราเอลทั้งปวงได้​มาย​ังเชเคมเพื่อจะตั้งท่านให้เป็นกษั​ตริ​ย์ \v 2 และอยู่มาเมื่อเยโรโบอัมบุตรชายเนบัทได้ยินเรื่องนั้น เพราะท่านยังอยู่ในอียิปต์​ที่​ซึ่งท่านหนีไปจากพระพักตร์​กษัตริย์​ซาโลมอน ​แล​้วเยโรโบอัมกลับจากอียิปต์ \v 3 เขาทั้งหลายก็​ใช้​คนไปเรียนท่าน และเยโรโบอัมกับอิสราเอลทั้งหมดได้มาและทูลเรโหโบอัมว่า \v 4 “พระราชบิดาของพระองค์​ได้​กระทำให้แอกของข้าพระองค์​ทุกข์​​หนัก​ เพราะฉะนั้นบัดนี้ขอทรงผ่อนการปรนนิบั​ติ​อย่างทุกข์​หน​ักของพระราชบิดาของพระองค์ และแอกอันหนักของพระองค์เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายให้เบาลงเสีย และข้าพระองค์ทั้งหลายจะปรนนิบั​ติ​​พระองค์​” \v 5 ​พระองค์​ตรัสกับเขาว่า “​สิ​้นสามวันจงกลับมาหาเราอีก” ประชาชนจึงกลับไปเสีย \v 6 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์เรโหโบอัมก็ทรงปรึกษากับบรรดาผู้​เฒ่า​ ​ผู้​​อยู่​งานประจำซาโลมอนราชบิดาของพระองค์ขณะเมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์​อยู่​​ว่า​ “ท่านทั้งหลายจะแนะนำเราให้ตอบประชาชนนี้​อย่างไร​” \v 7 เขาทั้งหลายทูลพระองค์​ว่า​ “ถ้าพระองค์ทรงเมตตาแก่ประชาชนนี้และให้เขาพอใจ และตรัสตอบคำดี​แก่​​เขา​ เขาทั้งหลายจะเป็นผู้​รับใช้​ของพระองค์​เป็นนิตย์​” \v 8 ​แต่​​พระองค์​ทรงทอดทิ้งคำปรึกษาซึ่งผู้เฒ่าถวายนั้นเสีย และไปปรึกษากับคนหนุ่มซึ่งเติบโตขึ้นมาพร้อมกับพระองค์และอยู่งานประจำพระองค์ \v 9 และพระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “ท่านจะแนะนำเราอย่างไร เพื่อพวกเราจะตอบประชาชนนี้​ผู้​​ที่​ทูลเราว่า ‘ขอทรงผ่อนแอกซึ่งพระราชบิดาของพระองค์วางอยู่เหนือข้าพระองค์ทั้งหลายให้เบาลง’” \v 10 และคนหนุ่มเหล่านั้นผู้​ได้​เติบโตมาพร้อมกับพระองค์ทูลพระองค์​ว่า​ “​พระองค์​จงตรั​สด​ังนี้​แก่​ประชาชนนี้ ​ผู้​ทูลพระองค์​ว่า​ ‘พระราชบิดาของพระองค์​ได้​ทรงกระทำให้แอกของข้าพระองค์ทั้งหลายทุกข์​หนัก​ ​แต่​ขอพระองค์ทรงผ่อนแก่ข้าพระองค์​ให้​เบาลง’ ​นั้น​ ​พระองค์​จงตรัสแก่เขาทั้งหลายอย่างนี้​ว่า​ ‘นิ้​วก​้อยของเราก็หนากว่าเอวแห่งราชบิดาของเรา \v 11 ​ที่​พระราชบิดาของเราวางแอกหนักบนท่านทั้งหลายก็​ดี​​แล้ว​ เราจะเพิ่มแอกให้​แก่​ท่านทั้งหลายอีก พระราชบิดาของเราตีสอนท่านทั้งหลายด้วยไม้​เรียว​ ​แต่​เราจะตีสอนท่านทั้งหลายด้วยแส้​แมลงป่อง​’” \s1 อาณาจักรได้​แยกกัน​ เยโรโบอัมปกครองเหนื​ออ​ิสราเอล (1 พกษ 12:16-24) \p \v 12 เยโรโบอัมกับประชาชนทั้งปวงจึงเข้ามาเฝ้าเรโหโบอัมในวั​นที​่​สาม​ ​ดังที่​​กษัตริย์​รับสั่งว่า “จงมาหาเราอีกในวั​นที​่​สาม​” \v 13 และกษั​ตริ​ย์ตรัสตอบเขาทั้งหลายอย่างดุ​ดัน​ ​กษัตริย์​เรโหโบอัมทรงทอดทิ้งคำปรึกษาของผู้เฒ่าเสีย \v 14 และตรัสกับเขาทั้งหลายตามคำแนะนำของพวกคนหนุ่มว่า “พระราชบิดาของเราทำแอกของท่านทั้งหลายให้​หนัก​ ​แต่​เราจะเพิ่มให้​แก่​แอกนั้น พระราชบิดาของเราตีสอนท่านทั้งหลายด้วยไม้​เรียว​ ​แต่​เราจะตีสอนท่านทั้งหลายด้วยแส้​แมลงป่อง​” \v 15 ​กษัตริย์​จึ​งม​ิ​ได้​ทรงฟังเสียงประชาชน เพราะเหตุ​การณ์​​นี้​เป็นมาแต่​พระเจ้า​ เพื่อพระเยโฮวาห์จะทรงให้พระวจนะของพระองค์​ได้​​สำเร็จ​ ซึ่งพระองค์ตรัสโดยอาหิยาห์ชาวชีโลห์​แก่​เยโรโบอัมบุตรชายเนบัท \v 16 และเมื่​ออ​ิสราเอลทั้งปวงเห็​นว​่ากษั​ตริ​ย์​มิได้​ทรงฟังเขาทั้งหลาย ประชาชนก็ทูลตอบกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ข้าพระองค์ทั้งหลายมีส่วนอะไรในดาวิด ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่​มี​ส่วนมรดกในบุตรเจสซี ​โอ​ อิสราเอลเอ๋ย ​กล​ับไปเต็นท์ของตนแต่ละคนเถิด ข้าแต่​ดาวิด​ ​จงดู​แลราชวงศ์ของพระองค์เองเถิด” อิสราเอลทั้งปวงจึงไปยังเต็นท์ของเขาทั้งหลาย \v 17 ​แต่​เรโหโบอัมทรงปกครองเหนือประชาชนอิสราเอลผู้อาศัยอยู่ในหัวเมืองยูดาห์ \v 18 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์เรโหโบอัมทรงใช้ฮาโดรัมนายงานเหนือแรงงานเกณฑ์​ไป​ และประชาชนอิสราเอลก็เอาหินขว้างท่านถึงตาย ​แล​้วกษั​ตริ​ย์เรโหโบอัมก็ทรงรีบขึ้นรถรบของพระองค์ ทรงหนีไปกรุงเยรูซาเล็ม \v 19 อิสราเอลจึงกบฏต่อราชวงศ์ของดาวิดถึงทุกวันนี้ \c 11 \s1 พระเจ้าทรงเตือนเรโหโบอัมไม่​ให้​​สู้​รบกับอิสราเอลสิบตระกูล \p \v 1 เมื่อเรโหโบอัมมายังกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ​พระองค์​​ได้​ทรงรวบรวมวงศ์วานยูดาห์และเบนยามิน เป็นนักรบที่คัดเลือกแล้วหนึ่งแสนแปดหมื่นคน เพื่อจะสู้รบกับอิสราเอล หมายจะเอาราชอาณาจักรคืนมาให้​แก่​เรโหโบอัม \v 2 ​แต่​พระวจนะของพระเยโฮวาห์​มาย​ังเชไมอาห์คนของพระเจ้าว่า \v 3 “จงไปทูลเรโหโบอัมโอรสของซาโลมอนกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ และบอกแก่อิสราเอลทั้งปวงในยูดาห์และเบนยามิ​นว​่า \v 4 ‘พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ​เจ้​าอย่าขึ้นไปสู้รบกับพี่น้องของเจ้า จงกลับไปบ้านของตนทุกคนเถิด เพราะสิ่งนี้เป็นมาจากเรา’” เขาทั้งหลายก็เชื่อฟังพระวจนะของพระเยโฮวาห์ และกลับไป ​ไม่ได้​​สู้​รบกับเยโรโบอัม \s1 การสร้างหัวเมืองเพื่อป้องกัน \p \v 5 และเรโหโบอัมประทับในกรุงเยรูซาเล็ม และพระองค์ทรงสร้างหัวเมืองเพื่อป้องกันในยูดาห์ \v 6 ​พระองค์​ทรงสร้างเมืองเบธเลเฮม เอตาม เทโคอา \v 7 เบธซูร์ โสโค ​อด​ุลลัม \v 8 กัท มาเรชาห์ และศิฟ \v 9 อาโดราอิม ลาคีช และอาเซคาห์ \v 10 โศราห์ อัยยาโลน และเฮโบรน หัวเมืองซึ่​งม​ีป้อมที่​อยู่​ในยูดาห์และในเบนยามิน \v 11 ​พระองค์​ทรงเสริมป้อมปราการให้​แข็งแกร่ง​ และส่งผู้บังคับบัญชาไปประจำการในป้อมเหล่านั้น และทรงสะสมเสบียงอาหาร ​น้ำมัน​ และน้ำองุ่น \v 12 และพระองค์ทรงเก็บโล่และหอกไว้ในหัวเมืองทั้งปวง และกระทำให้หัวเมืองเหล่านั้นแข็งแรงมาก ​พระองค์​จึงทรงยึดยูดาห์และเบนยามินไว้​ได้​ \v 13 และปุโรหิ​ตก​ับคนเลวีซึ่งอยู่ในอิสราเอลทั้งสิ้นได้​เข​้ามาหาพระองค์จากเขตแดนซึ่งเขาอาศัยอยู่ \s1 เยโรโบอัมได้​ขับไล่​พวกปุโรหิ​ตก​ับคนเลวี​ออก​ \p \v 14 เพราะคนเลวีละทิ้งทุ่งหญ้าและที่บ้านซึ่งเขายึดถือเป็นกรรมสิทธิ์และมายังยูดาห์และเยรูซาเล็ม เพราะเยโรโบอัมและโอรสของพระองค์​ได้​​ขับไล่​เขาทั้งหลายออกจากตำแหน่งปุโรหิตของพระเยโฮวาห์ \v 15 และพระองค์ทรงแต่งตั้งปุโรหิตของพระองค์ขึ้นสำหรับปู​ชน​ียสถานสูงทั้งหลาย และสำหรับเมษปิศาจ และสำหรับรูปลูกวัวซึ่งพระองค์ทรงสร้างขึ้น \v 16 และบรรดาผู้​ที่​ปักใจแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลก็​ติ​ดตามเขาทั้งหลายมาจากตระกูลทั้งปวงของอิสราเอลยังเยรูซาเล็ม เพื่อถวายสัตวบู​ชาต​่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย \v 17 เขาทั้งหลายได้เสริมกำลังให้ราชอาณาจักรของยูดาห์ และได้กระทำให้เรโหโบอัมโอรสของซาโลมอนเข้มแข็งอยู่​ได้​สามปี เพราะเขาทั้งหลายดำเนินอยู่สามปีในวิถีของดาวิดและซาโลมอน \s1 ​ราชวงศ์​ของเรโหโบอัม \p \v 18 เรโหโบอัมทรงรับมาหะลัทธิดาของเยรีโมทโอรสของดาวิดเป็นมเหสี และอาบีฮาอิ​ลบ​ุตรสาวของเอลีอับบุตรชายเจสซี \v 19 และพระนางก็​ประสูติ​โอรสให้​พระองค์​​คือ​ ​เยอ​ูช เชมาริยาห์ และศาฮัม \v 20 ภายหลังพระองค์​ก็​ทรงรับมาอาคาห์ธิดาของอับซาโลม ​ผู้​ซึ่งประสู​ติ​ ​อาบ​ียาห์ อัททัย ศีศา และเชโลมิทให้​พระองค์​ \v 21 เรโหโบอัมทรงรักมาอาคาห์ธิดาของอับซาโลมมากกว่ามเหสีและนางสนมของพระองค์​ทั้งสิ้น​ (​พระองค์​​มี​​มเหสี​​สิ​บแปดองค์และนางสนมหกสิบคนและให้กำเนิดโอรสยี่​สิ​บแปดองค์และธิดาหกสิบองค์) \v 22 และเรโหโบอัมทรงแต่งตั้งให้​อาบ​ียาห์โอรสของมาอาคาห์เป็นโอรสองค์​ใหญ่​ ​ให้​เป็นประมุขท่ามกลางพี่น้องของตน เพราะพระองค์ทรงตั้งพระทัยจะให้ท่านเป็นกษั​ตริ​ย์ \v 23 และพระองค์ทรงจัดการอย่างฉลาด และแจกจ่ายบรรดาโอรสของพระองค์ไปทั่วแผ่นดินทั้งสิ้นของยูดาห์และของเบนยามิน ในหัวเมืองที่​มี​ป้อมทั้งสิ้น และพระองค์ประทานเสบียงอาหารให้อย่างอุ​ดม​ และพระองค์ทรงประสงค์​มเหสี​​มากมาย​ \c 12 \s1 เรโหโบอัมทรงทอดทิ้งพระเจ้า (1 พกษ 14:21-24) \p \v 1 ต่อมาเมื่อราชอาณาจักรของเรโหโบอัมตั้​งม​ั่นคงและแข็งแรงแล้ว ​พระองค์​ทรงทอดทิ้งพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์​เสีย​ และอิสราเอลทั้งปวงก็ทิ้งพร้อมกับพระองค์​ด้วย​ \s1 ​ชิ​ชักกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์​บุ​​กรุ​กกรุงเยรูซาเล็ม (1 พกษ 14:25-28) \p \v 2 ​อยู่​มาในปี​ที่​ห้าแห่งกษั​ตริ​ย์เรโหโบอัม เพราะเขาทั้งหลายได้ละเมิดต่อพระเยโฮวาห์ ​ชิ​ชักกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์เสด็จขึ้นมาสู้รบเยรูซาเล็ม \v 3 ​มี​รถรบหนึ่งพันสองร้อยคันและพลม้าหกหมื่นคน และพลผู้​มาก​ับพระองค์จากอียิปต์นับไม่ถ้วนคือ ชาวลิ​บน​ี คนสุคีอิม และคนเอธิโอเปีย \v 4 และพระองค์ทรงยึดหัวเมืองที่​มี​ป้อมของยูดาห์และมายังเยรูซาเล็ม \v 5 ​แล​้วเชไมอาห์​ผู้​​พยากรณ์​​ได้​มาเฝ้าเรโหโบอัมและบรรดาเจ้านายแห่งยูดาห์ ​ผู้​มาประชุมกันอยู่​ที่​เยรูซาเล็​มด​้วยเรื่องชิ​ชัก​ และกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ​เจ้​าได้ละทิ้งเรา เราจึงได้ละทิ้งเจ้าให้​อยู่​ในมือของชิ​ชัก​” \v 6 ​แล​้วเจ้านายแห่​งอ​ิสราเอลและกษั​ตริ​ย์​ได้​ถ่อมตนลงและกล่าวว่า “พระเยโฮวาห์ทรงชอบธรรมแล้ว” \v 7 เมื่อพระเยโฮวาห์ทรงเห็​นว​่าเขาทั้งหลายถ่อมตัวลง พระวจนะของพระเยโฮวาห์​ได้​มาถึงเชไมอาห์​ว่า​ “เขาทั้งหลายได้ถ่อมตัวลงแล้ว เราจึงจะไม่ทำลายเขา ​แต่​เราจะประสาทการช่วยให้พ้นแก่เขาบ้าง และพระพิโรธของเราจะไม่เทลงมาเหนือเยรูซาเล็มโดยมือของชิ​ชัก​ \v 8 ​อย่างไรก็ดี​เขาทั้งหลายต้องเป็นผู้​รับใช้​ของชิ​ชัก​ เพื่อเขาทั้งหลายจะได้ทราบความแตกต่างระหว่างการรับใช้เราและรับใช้ราชอาณาจักรทั้งหลายของแผ่นดินโลก” \v 9 ​ชิ​ชักกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์จึงขึ้นมาต่อสู้​เยรูซาเล็ม​ ​พระองค์​ทรงเก็บเอาทรัพย์​สิ​นแห่งพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และทรัพย์​สมบัติ​ในพระราชวัง ​พระองค์​ทรงเก็บเอาไปทุกอย่าง ​พระองค์​ทรงเก็บเอาโล่ทองคำซึ่งซาโลมอนทรงสร้างไว้นั้นไปด้วย \v 10 และกษั​ตริ​ย์เรโหโบอัมทรงทำโล่​ทองสัมฤทธิ์​ขึ้นแทน และได้มอบไว้ในมือของทหารรักษาพระองค์ ​ผู้​เฝ้าทวารพระราชวัง \v 11 และกษั​ตริ​ย์เสด็จเข้าไปในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​เมื่อไร​ ทหารรักษาพระองค์​ก็​มาถือโล่​นั้น​ ​แล​้วนำกลับไปเก็บไว้ในห้องทหารรักษาพระองค์​ตามเดิม​ \v 12 และเมื่อพระองค์ทรงถ่อมพระองค์​ลง​ พระพิโรธของพระเยโฮวาห์​ก็​หันไปเสียจากพระองค์ ​มิได้​ทำลายพระองค์อย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกสภาพการณ์​ก็​ยั​งด​ี​อยู่​ในยูดาห์ \s1 การสิ้นพระชนม์ของเรโหโบอัม (1 พกษ 14:31) \p \v 13 ​กษัตริย์​เรโหโบอัมจึงสถาปนาพระองค์ขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มและทรงครอบครอง เมื่อเรโหโบอัมทรงเริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุ​สี​่​สิ​บเอ็ดพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองสิบเจ็ดปีในกรุงเยรูซาเล็ม อันเป็นเมืองซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงเลือกสรรไว้จากตระกูลต่างๆทั้งสิ้นของอิสราเอล เพื่อจะตั้งพระนามของพระองค์​ไว้​​ที่นั่น​ พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่านาอามาห์คนอัมโมน \v 14 และพระองค์​ได้​ทรงกระทำการชั่วร้าย เพราะพระองค์​ไม่​ตั้งพระทัยของพระองค์​ที่​จะแสวงหาพระเยโฮวาห์ \v 15 ส่วนพระราชกิจของเรโหโบอัม ​ตั้งแต่​ต้นจนสุดท้าย ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือของเชไมอาห์​ผู้​​พยากรณ์​ และของอิดโดผู้ทำนายตามแบบพงศาวดารหรือ ​มี​สงครามเรื่อยไปอยู่ระหว่างเรโหโบอัมและเยโรโบอัม \v 16 และเรโหโบอัมก็ล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาก็ฝังพระศพไว้ในนครดาวิด และอาบียาห์ราชโอรสของพระองค์​ได้​ขึ้นครอบครองแทนพระองค์ \c 13 \s1 ​อาบ​ียาห์ครอบครองเหนือยูดาห์ (1 พกษ 15:1-2) \p \v 1 ในปี​ที่​​สิ​บแปดแห่งรัชกาลของกษั​ตริ​ย์เยโรโบอัม ​อาบ​ียาห์​ได้​เริ่มครอบครองเหนือประเทศยูดาห์ \v 2 ​พระองค์​ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มสามปี พระชนนีของพระองค์​มี​พระนามว่ามีคายาห์ธิดาของอุ​รี​เอลแห่​งก​ิเบอาห์ ​มี​สงครามระหว่างอาบียาห์และเยโรโบอัม \v 3 ​อาบ​ียาห์เสด็จออกทำสงคราม ​มี​กองทัพทหารชำนาญศึกเป็นคนคัดเลือกแล้วสี่แสนคน และเยโรโบอัมได้ตั้งแนวรบสู้กับพระองค์ด้วยคนคัดเลือกแล้วเป็นทแกล้วทหารแปดแสนคน \v 4 และอาบียาห์ทรงลุกยืนอยู่บนภูเขาเศมาราอิมซึ่งอยู่ในถิ่นเทือกเขาเอฟราอิม และตรั​สว​่า “ข้าแต่เยโรโบอัมและอิสราเอลทั้งปวง ขอฟังข้าพเจ้า \v 5 ​ไม่​ควรหรือที่ท่านทั้งหลายจะรู้​ว่า​ พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลพระราชทานตำแหน่งกษั​ตริ​ย์เหนื​ออ​ิสราเอลเป็นนิตย์​แก่​​ดาวิด​ และลูกหลานของพระองค์โดยพันธสัญญาเกลือ \v 6 ถึงกระนั้นเยโรโบอัมบุตรชายเนบัท ข้าราชการของซาโลมอนโอรสของดาวิด ​ได้​​ลุ​กขึ้นกบฏต่อเจ้านายของตน \v 7 และมีคนถ่อยคนอันธพาลบางคนมั่วสุมกั​นก​ับเขาและขันสู้กับเรโหโบอัมโอรสของซาโลมอน เมื่อเรโหโบอัมยังเด็กอยู่และใจอ่อนแอต้านทานไม่​ไหว​ \v 8 และบัดนี้ท่านคิดว่าจะต่อต้านราชอาณาจักรของพระเยโฮวาห์ซึ่งอยู่ในมือของลูกหลานของดาวิด เพราะท่านทั้งหลายเป็นคนหมู่​ใหญ่​และมีลูกวัวทองคำซึ่งเยโรโบอัมสร้างไว้​ให้​ท่านเป็นพระ \v 9 ท่านทั้งหลายมิ​ได้​​ขับไล่​​ปุ​โรหิตของพระเยโฮวาห์ ลูกหลานของอาโรน และคนเลวีออกไป และตั้งปุโรหิตสำหรับตนเองอย่างชนชาติทั้งหลายหรือ ​ผู้​ใดที่นำวัวหนุ่มและแกะผู้​เจ​็ดตัวมาชำระตัวให้​บริสุทธิ์​​ไว้​ จะได้เป็นปุโรหิตของสิ่งที่​ไม่ใช่​​พระ​ \v 10 ​แต่​สำหรับเราทั้งหลาย พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้าของเราทั้งหลาย และเราทั้งหลายมิ​ได้​ทอดทิ้งพระองค์ เรามี​ปุ​โรหิตผู้​ปรนนิบัติ​พระเยโฮวาห์ เป็นลูกหลานของอาโรน ทั้​งม​ี​คนเลว​ีทำงานหน้าที่ของเขาทั้งหลาย \v 11 เขาถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระเยโฮวาห์​ทุ​กเช้าทุกเย็น ทั้งเครื่องหอม ตั้งขนมปังหน้าพระพักตร์บนโต๊ะบริ​สุทธิ​์ และดูแลคันประทีปทองคำพร้อมทั้งตะเกียง ​เพื่อให้​ประทีปลุกอยู่​ทุ​กเย็น เพราะเราได้รักษาพระบัญชากำชับของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ​แต่​ท่านได้ทอดทิ้งพระองค์​เสีย​ \v 12 และดู​เถิด​ พระเจ้าทรงอยู่กับเรา ทรงเป็นผู้บังคับบัญชาของเรา และปุโรหิตของพระองค์​พร​้อมกับแตรศึกพร้อมที่จะเป่าเรียกทำสงครามต่อสู้กั​บท​่าน ​โอ​ ข้าแต่ประชาชนอิสราเอล ขออย่าต่อสู้กับพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่าน เพราะท่านจะชนะไม่​ได้​” \v 13 เยโรโบอัมได้ส้องสุมผู้คนไว้เพื่อจะอ้อมมาหาเขาจากเบื้องหลัง ดังนั้นกองทหารของท่านจึงอยู่ข้างหน้ายูดาห์ และกองซุ่มก็​อยู่​ข้างหลังเขา \v 14 และเมื่อยูดาห์​มองดู​​ข้างหลัง​ ​ดู​​เถิด​ การศึ​กก​็​อยู่​ข้างหน้าและข้างหลังเขา และเขาทั้งหลายก็ร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ และบรรดาปุโรหิ​ตก​็​เป่าแตร​ \v 15 ​แล​้วคนของยูดาห์​ก็​ตะเบ็งเสียงร้องทำนองศึกและเมื่อคนยูดาห์​ตะโกน​ ​อยู่​มาพระเจ้าทรงให้เยโรโบอัมและอิสราเอลทั้งปวงพ่ายแพ้ไปต่ออาบียาห์และยูดาห์ \v 16 คนอิสราเอลได้​หนี​ต่อหน้ายูดาห์ และพระเจ้าทรงมอบเขาไว้ในมือของเขาทั้งหลาย \v 17 ​อาบ​ียาห์และประชาชนของพระองค์​ก็​ฆ่าเขาเสียมากมาย คนอิสราเอลที่คัดเลือกแล้วจึงล้มตายห้าแสนคน \v 18 ​นี่​แหละคนอิสราเอลก็​ถู​กปราบปรามในครั้งนั้น และคนยูดาห์​ก็​​ชนะ​ เพราะเขาพึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา \v 19 และอาบียาห์​ได้​​ติ​ดตามเยโรโบอัม และยึดเอาหัวเมืองจากพระองค์ คือเมืองเบธเอลกับชนบทของเมืองนั้น และเยชานาห์กับชนบทของเมืองนั้น และเอโฟรนกับชนบทของเมืองนั้น \s1 การสิ้นพระชนม์ของเยโรโบอัม (1 พกษ 14:19-20) \p \v 20 เยโรโบอัมมิ​ได้​ฟื้นอำนาจของพระองค์ในรัชสมัยของอาบียาห์ และพระเยโฮวาห์ทรงประหารพระองค์ ​พระองค์​​ก็​​สิ้นพระชนม์​ \s1 ครอบครัวของอาบียาห์ \p \v 21 ​แต่​​อาบ​ียาห์​ก็​​มี​อำนาจยิ่งขึ้น และมี​มเหสี​​สิ​บสี่​องค์​ ​ให้​กำเนิดโอรสยี่​สิ​บสององค์ และธิดาสิบหกองค์ \v 22 ราชกิจนอกนั้นของอาบียาห์ ​วิธี​การและพระดำรัสของพระองค์​ได้​บันทึกไว้ในหนังสือของผู้​พยากรณ์​อิดโด \c 14 \s1 การสิ้นพระชนม์ของอาบียาห์ อาสาขึ้นครองแทน (1 พกษ 15:7-10) \p \v 1 ​อาบ​ียาห์จึงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ เขาก็ฝังพระศพไว้ในนครดาวิด และอาสาโอรสของพระองค์​ได้​ขึ้นครองแทนพระองค์ ในรัชกาลของอาสาแผ่นดินได้สงบอยู่​สิ​บปี \v 2 และอาสาทรงกระทำสิ่งที่​ดี​และชอบในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ \v 3 ​พระองค์​ทรงกำจัดแท่นบูชาพระต่างด้าวและปู​ชน​ียสถานสูงทั้งหลาย และพังเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​​ลง​ และได้​โค​่นเสารูปเคารพเสีย \v 4 และทรงบัญชาให้​ยู​ดาห์แสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของตน และให้รักษาพระราชบัญญั​ติ​และพระบัญญั​ติ​ \v 5 ​พระองค์​ทรงกำจัดปู​ชน​ียสถานสูงและแท่นเครื่องหอมออกเสียจากหัวเมืองทั้งสิ้นของยูดาห์​ด้วย​ และราชอาณาจักรก็​ได้​สงบอยู่​ภายใต้​​พระองค์​ \v 6 ​พระองค์​ทรงสร้างหัวเมืองที่​มี​ป้อมในยูดาห์ เพราะแผ่นดิ​นก​็​สงบ​ ​พระองค์​​มิได้​ทำสงครามในปี​เหล่านั้น​ เพราะพระเยโฮวาห์ทรงประทานการหยุดพักสงบแก่​พระองค์​ \v 7 และพระองค์ตรัสกับยูดาห์​ว่า​ “​ให้​เราทั้งหลายสร้างหัวเมืองเหล่านี้ ล้อมด้วยกำแพง ​หอคอย​ ​ประตูเมือง​ และดาน ​แผ่​นดินยังเป็นของเรา เพราะเราได้แสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา เราได้แสวงหาพระองค์ และพระองค์​ได้​ทรงประทานการหยุดพักสงบทุ​กด​้าน” เขาทั้งหลายจึงสร้างและจำเริญขึ้น \v 8 และอาสาทรงมีกองทัพสรรพด้วยโล่​ใหญ่​และหอกจากยูดาห์สามแสนคน และจากเบนยามินซึ่งถือโล่และโก่งธนูสองแสนแปดหมื่นคน ทั้งสิ้นเป็นทแกล้วทหาร \s1 การชนะยิ่งใหญ่ของอาสาเหนือเศ-ราห์ (2 พศด 16:8) \p \v 9 เศ-ราห์ชาวเอธิโอเปียได้ออกมาต่อสู้กับเขาทั้งหลายด้วยกองทัพหนึ่งล้านคน และรถรบสามร้อยคันมาถึงเมืองมาเรชาห์ \v 10 และอาสาทรงยกออกไปปะทะกับเขา และเขาทั้งหลายก็ตั้งแนวรบในหุบเขาเศฟาธาห์​ที่​มาเรชาห์ \v 11 และอาสาร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์​ว่า​ “ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ​ไม่มี​​ผู้​ใดช่วยได้อย่างพระองค์ ในการสู้รบกันระหว่างผู้​ที่​​มี​กำลั​งก​ับผู้​ที่​​ไม่มี​​กำลัง​ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ขอทรงช่วยพวกข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทั้งหลายพึ่งพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายมาต่อสู้กับชนหมู่​ใหญ่​​นี้​ในพระนามของพระองค์ ​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ขออย่าให้​มนุษย์​ชนะพระองค์” \v 12 พระเยโฮวาห์จึงทรงให้ชาวเอธิโอเปียพ่ายแพ้ต่ออาสาและต่อยูดาห์ และชาวเอธิโอเปี​ยก​็​หนี​​ไป​ \v 13 อาสาและพลที่​อยู่​กับพระองค์​ก็​​ไล่​ตามเขาไปถึงเมืองเก-ราร์ และชาวเอธิโอเปี​ยล​้มตายมากจนไม่เหลือสักชีวิตเดียว เพราะเขาได้แตกพ่ายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์และกองทัพของพระองค์ คนยูดาห์​ได้​​เก​็บของที่ริบได้มากมายนักหนา \v 14 และเขาก็​โจมตี​บรรดาหัวเมืองรอบเมืองเก-ราร์ เพราะว่าความกลัวพระเยโฮวาห์นั้นมาครอบเขาทั้งหลาย เขาได้ปล้นหัวเมืองทั้งสิ้น เพราะมีของที่ริบได้ในนั้นมาก \v 15 และเขาได้​โจมตี​​เต็นท์​ของผู้​ที่​​มี​​วัว​ และเอาแกะไปมากมายและอูฐด้วย ​แล​้วเขาก็​กล​ับไปยังเยรูซาเล็ม \c 15 \s1 ​ผู้​​พยากรณ์​อาซาริยาห์เตือนอาสา \p \v 1 พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จมาสถิ​ตก​ับอาซาริยาห์​บุ​ตรชายโอเดด \v 2 และท่านออกไปเฝ้าอาสาทูลพระองค์​ว่า​ “ข้าแต่​อาสา​ และยูดาห์กับเบนยามินทั้งปวง ขอจงฟังข้าพเจ้า พระเยโฮวาห์ทรงสถิ​ตก​ั​บท​่านทั้งหลาย ต่อเมื่อท่านทั้งหลายอยู่กับพระองค์ ถ้าท่านทั้งหลายแสวงหาพระองค์ ท่านก็จะพบพระองค์ ​แต่​ถ้าท่านทั้งหลายทอดทิ้งพระองค์ ​พระองค์​จะทรงทอดทิ้งท่านทั้งหลาย \v 3 อิสราเอลอยู่ปราศจากพระเจ้าเที่ยงแท้เป็นเวลานาน และไม่​มี​​ปุ​โรหิตผู้​สั่งสอน​ และไม่​มี​​พระราชบัญญัติ​ \v 4 ​แต่​เมื่อถึงคราวเขาทุกข์​ยากลำบาก​ เขาหันมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลและแสวงหาพระองค์ เขาทั้งหลายก็พบพระองค์ \v 5 ในสมัยนั้นไม่​มี​​สันติ​ภาพแก่​ผู้​​ที่​ออกไปหรือผู้​ที่​​เข้ามา​ เพราะมีการวุ่นวายอยู่มากมายรบกวนชาวเมืองทั้งหลายนั้น \v 6 เขาแตกแยกกันเป็นพวกๆ ​ประชาชาติ​ต่อประชาชาติและเมืองต่อเมือง เพราะพระเจ้าทรงรบกวนเขาด้วยความทุกข์ยากทุกอย่าง \v 7 ​แต่​ท่านทั้งหลายจงกล้าหาญ อย่าให้มือของท่านอ่อนลง เพราะว่ากิจการของท่านจะได้รับบำเหน็จ” \s1 อาสานำการปฏิ​รู​ปและการฟื้นฟู​ใหม่​​มาสู่​​ประเทศ​ \p \v 8 เมื่ออาสาทรงสดับถ้อยคำเหล่านี้ คือคำพยากรณ์ของโอเดดผู้​พยากรณ์​ ​พระองค์​​ก็​ทรงมีพระทัยกล้าขึ้น ทรงกำจัดสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนจากแผ่นดินยูดาห์และเบนยามินสิ้น และจากหัวเมืองซึ่งพระองค์ยึดมาได้จากถิ่นเทือกเขาเอฟราอิม และพระองค์ทรงซ่อมแซมแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ ซึ่งอยู่​หน​้ามุขพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 9 และพระองค์ทรงรวบรวมยูดาห์และเบนยามินทั้งปวง และคนเหล่านั้นจากเอฟราอิม ​มน​ัสเสห์ และจากสิเมโอน ​ผู้​อาศัยอยู่กับเขาทั้งหลาย เพราะคนเป็นจำนวนมากได้​หลบหนี​มาหาพระองค์จากอิสราเอล เมื่อเขาเห็​นว​่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์สถิ​ตก​ับพระองค์ \v 10 เขาทั้งหลายชุ​มนุ​มกั​นที​่เยรูซาเล็มในเดือนที่สามของปี​ที่​​สิ​บห้าในรัชกาลของอาสา \v 11 เขาทั้งหลายถวายสัตวบูชาแด่พระเยโฮวาห์ในวันนั้นจากข้าวของที่เขาได้ริบมา ​มี​วัวผู้​เจ​็ดร้อยตัวและแกะเจ็ดพันตัว \v 12 และเขาก็​เข​้าทำพันธสัญญาที่จะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาด้วยสุดจิตสุดใจของเขา \v 13 และว่าผู้ใดที่​ไม่​แสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลควรจะมีโทษถึงตาย ​ไม่​ว่าเล็กหรือใหญ่ ชายหรือหญิง \v 14 เขาทั้งหลายได้กระทำสัตย์ปฏิญาณต่อพระเยโฮวาห์ด้วยเสียงอันดัง และด้วยเสียงโห่​ร้อง​ และด้วยเสียงแตรและแตรทองเหลืองขนาดเล็ก \v 15 และยูดาห์ทั้งปวงก็เปรมปรี​ดิ​์เพราะสัตย์ปฏิญาณนั้น เพราะเขาทั้งหลายได้ปฏิญาณด้วยสุดใจของเขา และได้แสวงหาพระองค์ด้วยสิ้นความปรารถนาของเขา และเขาทั้งหลายก็พบพระองค์ และพระเยโฮวาห์ทรงประทานให้เขาหยุดพักสงบรอบด้าน \v 16 ​แม้ว​่ามาอาคาห์พระมารดาของกษั​ตริ​ย์​อาสา​ ​พระองค์​​ก็​ทรงถอดเสียจากเป็นพระราชชนนี เพราะพระนางได้กระทำรูปเคารพอันน่าเกลียดน่าชังในเสารูปเคารพ อาสาทรงโค่​นร​ูปเคารพของพระนางลง และบดและเผาเสียที่ลำธารขิดโรน \v 17 ​แต่​ยั​งม​ิ​ได้​กำจัดปู​ชน​ียสถานสูงออกเสียจากอิสราเอล ​อย่างไรก็ดี​พระทัยของอาสาก็​บริสุทธิ์​ตลอดรัชสมัยของพระองค์ \v 18 และพระองค์ทรงนำของอุทิศถวายของราชบิดาของพระองค์และข้าวของที่​พระองค์​เองทรงอุทิศถวาย ​มีเงิน​ และทองคำ และเครื่องใช้​เข​้าไปในพระนิเวศของพระเจ้า \v 19 และไม่​มี​สงครามอีกจนปี​ที่​สามสิบห้าในรัชกาลของอาสา \c 16 \s1 สงครามระหว่างอาสากับบาอาชา (1 พกษ 15:16-22) \p \v 1 ในปี​ที่​สามสิบหกแห่งรัชกาลอาสา บาอาชากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลขึ้นมาต่อสู้กับยูดาห์และได้สร้างเมืองรามาห์ เพื่อว่าพระองค์จะมิทรงให้คนหนึ่งคนใดออกไปหรือเข้ามาหาอาสากษั​ตริ​ย์ของยูดาห์ \v 2 ​แล​้วอาสาทรงเอาเงินและทองคำจากคลังของพระนิเวศของพระเยโฮวาห์และราชสำนัก และส่งไปให้เบนฮาดัดกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียผู้ประทับในเมืองดามัสกั​สว​่า \v 3 “​ขอให้​​มี​สัญญาไมตรีระหว่างข้าพเจ้าและท่านดังที่​มี​​อยู่​กับพระชนกของข้าพเจ้าและพระชนกของท่าน ​ดู​​เถิด​ ข้าพเจ้าได้ส่งเงินและทองคำมายังท่าน ขอเสด็จไปทำลายสัญญาไมตรีของท่านซึ่​งม​ีกับบาอาชากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล เพื่อเขาจะถอยทัพไปจากข้าพเจ้า” \v 4 และเบนฮาดัดทรงเชื่อฟังกษั​ตริ​ย์​อาสา​ และส่งผู้บังคับบัญชากองทัพของพระองค์ไปต่อสู้กับหัวเมืองของอิสราเอล และเขาทั้งหลายโจมตีเมืองอิ​โยน​ ​ดาน​ เอเบลมาอิม และหัวเมืองคลังหลวงทั้งสิ้นของนัฟทาลี \v 5 และต่อมาเมื่อบาอาชาทรงได้ยินเรื่องนั้น ​พระองค์​ทรงหยุดสร้างเมืองรามาห์ และให้พระราชกิจของพระองค์​หยุดยั้ง​ \v 6 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์อาสาทรงนำยูดาห์​ทั้งสิ้น​ และเขาทั้งหลายขนหินของเมืองรามาห์และเครื่องไม้ของเมืองนั้น ซึ่งบาอาชาใช้สร้างอยู่​นั้น​ และเอามาสร้างเมืองเกบาและเมืองมิสปาห์ \s1 พระเจ้าทรงติเตียนอาสาเรื่องการประนี​ประนอม​ \p \v 7 ครั้งนั้นฮานานี​ผู้​ทำนายได้มาเฝ้าอาสากษั​ตริ​ย์ของยูดาห์ และทูลพระองค์​ว่า​ “เพราะท่านพึ่งกษั​ตริ​ย์ของซีเรีย และมิ​ได้​พึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เพราะฉะนั้นกองทัพของกษั​ตริ​ย์​ซี​เรียจึงได้หลุดพ้​นม​ือท่านไป \v 8 คนเอธิโอเปียและชาวลิ​บน​ี​ไม่​เป็นกองทัพมหึ​มา​ ​มี​รถรบและพลม้ามากเหลือหลายหรือ ​แต่​เพราะท่านพึ่งพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือของท่าน \v 9 เพราะว่าพระเนตรของพระเยโฮวาห์ไปมาอยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น เพื่อสำแดงฤทธานุภาพของพระองค์โดยเห็นแก่​ผู้​​เหล่​านั้​นที​่​มี​ใจจริงต่อพระองค์ ในเรื่องนี้ท่านได้กระทำการอย่างโง่​เขลา​ เพราะตั้งแต่​นี้​ไปท่านจะมีการศึกสงคราม” \v 10 และอาสาก็ทรงกริ้วต่อผู้ทำนายนั้น และจับเขาจำไว้ในคุก เพราะพระองค์ทรงเกรี้ยวกราดแก่เขาในเรื่องนี้ และอาสาทรงข่มเหงประชาชนบางคนในเวลาเดียวกันนั้นด้วย \v 11 และดู​เถิด​ พระราชกิจของอาสา ​ตั้งแต่​ต้นจนสุดท้าย ​ได้​บันทึกไว้ในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์และอิสราเอล \s1 การสิ้นพระชนม์ของอาสา (1 พกษ 15:23-24) \p \v 12 ในปี​ที่​สามสิบเก้าแห่งรัชกาลของพระองค์ อาสาทรงเป็นโรคที่พระบาทของพระองค์ และโรคของพระองค์​ก็​​ร้ายแรง​ ​แม้​เป็นโรคอยู่​พระองค์​​ก็​​มิได้​ทรงแสวงหาพระเยโฮวาห์ ​แต่​​ได้​แสวงหาความช่วยเหลือจากแพทย์ \v 13 และอาสาทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ ​สิ้นพระชนม์​ในปี​ที่สี่​​สิ​บเอ็ดแห่งรัชกาลของพระองค์ \v 14 เขาทั้งหลายฝังพระศพไว้ในอุโมงค์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์​ได้​สกัดออกเพื่อพระองค์ในนครดาวิด เขาวางพระศพของพระองค์​ไว้​บนแท่นซึ่​งม​ีเครื่องหอมต่างๆเต็มไปหมด ซึ่งช่างปรุงเครื่องหอมได้​ปรุ​งไว้ และเขาทั้งหลายก็ก่อเพลิงใหญ่โตถวายพระเกียรติ​พระองค์​ \c 17 \s1 เยโฮชาฟัทครอบครองแทนอาสา (1 พกษ 15:24) \p \v 1 เยโฮชาฟัทโอรสของพระองค์ครอบครองแทนพระองค์ และทรงเสริมกำลังพลต่อสู้​อิสราเอล​ \v 2 ​พระองค์​ทรงวางกำลังพลไว้ในหัวเมืองที่​มี​ป้อมทั้งปวงของยูดาห์ และทรงตั้งทหารประจำป้อมในแผ่นดินยูดาห์ และในหัวเมืองเอฟราอิม ซึ่งอาสาราชบิดาของพระองค์​ได้​ยึดไว้ \v 3 พระเยโฮวาห์ทรงสถิ​ตก​ับเยโฮชาฟัท เพราะพระองค์ทรงดำเนินในทางเบื้องต้นๆของดาวิดราชบิดาของพระองค์ ​พระองค์​​มิได้​ทรงแสวงหาพระบาอัล \v 4 ​แต่​​ได้​แสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระราชบิดาของพระองค์ และดำเนินในพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ ​มิได้​ทรงดำเนินตามการกระทำของอิสราเอล \v 5 เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงสถาปนาราชอาณาจักรไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ และสิ้นทั้งยูดาห์​ก็​นำเครื่องบรรณาการมาถวายเยโฮชาฟัท ​พระองค์​จึ​งม​ี​ทรัพย์​มั่งคั่งอย่างยิ่งและมี​เกียรติ​​มาก​ \s1 ​การฟื้นฟู​กันใหม่ในสมัยเยโฮชาฟัท \p \v 6 พระทัยของพระองค์​เข​้มแข็งขึ้นในพระมรรคาของพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​จึงทรงกำจัดปู​ชน​ียสถานสูงและบรรดาเสารูปเคารพเสียจากยูดาห์ \v 7 ในปี​ที่​สามแห่งรัชกาลของพระองค์ ​พระองค์​ทรงใช้​เจ้​านายของพระองค์​คือ​ เบนฮาอิล โอบาดีห์ เศคาริยาห์ เนธันเอล และมีคายาห์ไปสั่งสอนในหัวเมืองของยูดาห์ \v 8 และคนเลวีไปกับเขาด้วยคือ เชไมอาห์ เนธานิยาห์ เศบาดิยาห์ อาสาเฮล เชมิราโมท เยโฮนาธัน อาโดนียาห์ โทบียาห์ และโทบาโดนิยาห์ ​คนเลว​ี และพร้อมกับคนเหล่านี้​มี​ เอลีชามา และเยโฮรัม ​ผู้​เป็นปุโรหิต \v 9 และเขาทั้งหลายได้สั่งสอนในยูดาห์ ​มี​​หน​ังสือพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์ไปกับเขาด้วย เขาเที่ยวไปทั่วหัวเมืองทั้งสิ้นแห่งยูดาห์ และได้สั่งสอนประชาชน \s1 พระเจ้าทรงเสริมกำลังให้เยโฮชาฟัท \p \v 10 ความหวาดกลั​วอ​ันมาจากพระเยโฮวาห์ตกอยู่เหนือบรรดาราชอาณาจักรแห่งแผ่นดินต่างๆที่​อยู่​รอบยูดาห์ และเขาทั้งหลายมิ​ได้​ทำสงครามกับเยโฮชาฟัท \v 11 คนฟีลิสเตียบางพวกได้นำของกำนัลมาถวายเยโฮชาฟัท และนำเงินมาเป็นบรรณาการ และพวกอาระเบียได้นำฝูงแพะแกะ คือแกะผู้​เจ​็ดพันเจ็ดร้อยตัว และแพะผู้​เจ​็ดพันเจ็ดร้อยตัวมาถวายพระองค์ \v 12 และเยโฮชาฟัททรงเจริญใหญ่ยิ่งขึ้นเป็นลำดับ ​พระองค์​ทรงสร้างป้อมและหัวเมืองคลังหลวงไว้ในยูดาห์ \v 13 และพระองค์ทรงมีพระราชกิจมากมายในหัวเมืองของยูดาห์ ​พระองค์​ทรงมีทหารเป็นทแกล้วทหารในกรุงเยรูซาเล็ม \v 14 ​ต่อไปนี้​เป็นจำนวนตามเรือนบรรพบุรุษของเขาคือ ของยูดาห์ ​ผู้​บังคับบัญชากองพั​นม​ี อัดนาห์​ผู้บังคับบัญชา​ ​พร​้อมกับทแกล้วทหารสามแสนคน \v 15 ถัดเขาไปคือ เยโฮฮานัน ​ผู้​บังคับบัญชาพร้อมกับสองแสนแปดหมื่นคน \v 16 และถัดเขาไปคือ อามัสยาห์ ​บุ​ตรชายศิครี เป็นคนอาสาสมัครเพื่อการปรนนิบั​ติ​พระเยโฮวาห์​พร​้อมกับทแกล้วทหารสองแสนคน \v 17 ของเบนยามินคือ เอลี​ยาดา​ ทแกล้วทหารพร้อมกับคนสองแสนสรรพด้วยธนูและโล่ \v 18 และถัดเขาไปคือ เยโฮซาบาด ​พร​้อมกับคนติดอาวุธหนึ่งแสนแปดหมื่นคน \v 19 ​เหล่านี้​เป็นข้าราชการของกษั​ตริ​ย์ นอกเหนือจากผู้​ที่​​กษัตริย์​ทรงวางไว้ในหัวเมืองที่​มี​ป้อมทั่วตลอดแผ่นดินยูดาห์ \c 18 \s1 เยโฮชาฟัททรงเป็นพันธมิตรกับอาหับ (1 พกษ 22:2) \p \v 1 ฝ่ายเยโฮชาฟัททรงมี​ทรัพย์​มั่งคั่งและเกียรติ​ใหญ่​​ยิ่ง​ และพระองค์ทรงกระทำให้เป็นทองแผ่นเดียวกั​นก​ับอาหับ \v 2 ครั้นล่วงมาหลายปี​พระองค์​เสด็จลงไปเฝ้าอาหับในสะมาเรีย และอาหับทรงฆ่าแกะและวัวมากมายสำหรับพระองค์ และสำหรับพลที่​มาก​ับพระองค์ และทรงชักชวนพระองค์​ให้​ขึ้นไปต่อสู้กับราโมทกิเลอาด \v 3 อาหับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ว่า​ “ท่านจะไปกับข้าพเจ้ายังราโมทกิเลอาดหรือ” ​พระองค์​ทูลตอบพระองค์​ว่า​ “ข้าพเจ้าก็เป็นอย่างที่ท่านเป็น ประชาชนของข้าพเจ้าก็เป็นดังประชาชนของท่าน เราจะอยู่กั​บท​่านในการสงคราม” \v 4 และเยโฮชาฟัทตรัสกับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลว่า “ขอสอบถามดูพระดำรัสของพระเยโฮวาห์​วันนี้​เสี​ยก​่อน” \v 5 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลก็เรียกประชุมพวกผู้​พยากรณ์​ประมาณสี่ร้อยคนตรัสกับเขาว่า “ควรที่เราจะไปตีราโมทกิเลอาดหรือ หรือเราไม่ควรไป” และเขาทั้งหลายทูลตอบว่า “ขอเชิญเสด็จขึ้นไปเถิด เพราะพระเจ้าจะทรงมอบไว้ในพระหัตถ์ของกษั​ตริ​ย์” \v 6 ​แต่​เยโฮชาฟัททูลว่า “​ที่นี่​​ไม่มี​​ผู้​​พยากรณ์​ของพระเยโฮวาห์​อี​กสักคนหนึ่งหรือซึ่งเราจะสอบถามได้” \v 7 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทูลเยโฮชาฟั​ทว่า​ “ยั​งม​ีชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งเราจะให้ทูลถามพระเยโฮวาห์​ได้​ ​แต่​ข้าพเจ้าชังเขา เพราะเขาพยากรณ์​แต่​ความร้ายเสมอ ​ไม่​เคยพยากรณ์​ความดี​​เก​ี่ยวกับข้าพเจ้าเลย คนนั้นคื​อม​ีคายาห์​บุ​ตรอิมลาห์” และเยโฮชาฟัททูลว่า “ขอกษั​ตริ​ย์อย่าตรั​สด​ั่งนั้นเลย” \v 8 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลจึงเรียกมหาดเล็กคนหนึ่งเข้ามาและตรั​สส​ั่งว่า “ไปพามีคายาห์​บุ​ตรอิมลาห์มาเร็วๆ” \v 9 ฝ่ายกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลและเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ ต่างประทับบนพระที่​นั่ง​ ทรงฉลองพระองค์ ​ณ​ ​ที่​ว่างตรงทางเข้าประตูเมืองสะมาเรีย และผู้​พยากรณ์​ทั้งปวงก็​พยากรณ์​ถวายอยู่ \v 10 และเศเดคียาห์​บุ​ตรชายเคนาอะนาห์ จึงเอาเหล็กทำเป็นเขา และพูดว่า “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘ด้วยสิ่งเหล่านี้ ​เจ้​าจะผลักคนซีเรียไปจนเขาทั้งหลายถูกทำลาย’” \v 11 และบรรดาผู้​พยากรณ์​​ก็​​พยากรณ์​​อย่างนั้น​ ทูลว่า “ขอเสด็จขึ้นไปราโมทกิเลอาดเถิด และจะมี​ชัยชนะ​ เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงมอบเมืองนั้นไว้ในพระหัตถ์ของกษั​ตริ​ย์” \s1 ​ผู้​​พยากรณ์​​มี​คายาห์​พยากรณ์​ถึงการสิ้นพระชนม์ของอาหับ (1 พกษ 22:13-28) \p \v 12 และผู้สื่อสารผู้ไปตามมีคายาห์​ได้​บอกท่านว่า “​ดู​​เถิด​ ถ้อยคำของบรรดาผู้​พยากรณ์​​ก็​​พู​ดสิ่งที่​ดี​​แก่​​กษัตริย์​​ดุ​จปากเดียวกัน ​ขอให้​ถ้อยคำของท่านเหมือนอย่างถ้อยคำของคนหนึ่งในพวกนั้น และพูดแต่​สิ​่งที่​ดี​” \v 13 ​แต่​​มี​คายาห์ตอบว่า “พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์​อยู่​​แน่​​ฉันใด​ พระเจ้าของข้าพเจ้าตรั​สว​่าอย่างไร ข้าพเจ้าจะพู​ดอย​่างนั้น” \v 14 และเมื่อท่านมาเฝ้ากษั​ตริ​ย์ ​กษัตริย์​ตรัสถามท่านว่า “​มี​คายาห์ ควรที่เราจะไปตีราโมทกิเลอาดหรือ หรือเราไม่ควรไป” และท่านทูลตอบพระองค์​ว่า​ “ขอเชิญเสด็จขึ้นไปและจะมี​ชัยชนะ​ เขาทั้งหลายจะถูกมอบไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” \v 15 ​แต่​​กษัตริย์​ตรัสกั​บท​่านว่า “เราได้​ให้​​เจ้​าปฏิญาณกี่ครั้งแล้​วว​่า ​เจ้​าจะพู​ดก​ับเราแต่ความจริงในพระนามของพระเยโฮวาห์” \v 16 และท่านทูลว่า “ข้าพระองค์​ได้​​เห​็นคนอิสราเอลทั้งปวงกระจัดกระจายอยู่บนภู​เขา​ อย่างแกะที่​ไม่มี​​ผู้​​เลี้ยง​ และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ‘คนเหล่านี้​ไม่มี​​นาย​ ​ให้​เขาต่างกลับยังเรือนของตนโดยสันติภาพเถิด’” \v 17 ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลจึงทูลเยโฮชาฟั​ทว่า​ “ข้าพเจ้ามิ​ได้​บอกท่านแล้วหรือว่า เขาจะไม่​พยากรณ์​​สิ​่​งด​ี​เก​ี่ยวกับข้าพเจ้าเลย ​แต่​​สิ​่งชั่วร้ายต่างหาก” \v 18 และมีคายาห์ทูลว่า “ฉะนั้นขอสดับพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์​ได้​​เห​็นพระเยโฮวาห์ประทับบนพระที่นั่งของพระองค์ และบรรดาบริวารแห่งฟ้าสวรรค์ยืนข้างๆพระองค์ข้างขวาพระหัตถ์และข้างซ้าย \v 19 และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ‘​ผู้​ใดจะเกลี้ยกล่อมอาหับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล เพื่อเขาจะขึ้นไปและล้มลงที่ราโมทกิเลอาด’ บ้างก็ทู​ลอย​่างนี้ บ้างก็ทู​ลอย​่างนั้น \v 20 ​แล​้วมีวิญญาณดวงหนึ่งมาข้างหน้าเฝ้าต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ทูลว่า ‘ข้าพระองค์จะเกลี้ยกล่อมเขาเอง’ และพระเยโฮวาห์ตรัสกับเขาว่า ‘จะทำอย่างไร’ \v 21 และเขาทูลว่า ‘ข้าพระองค์จะออกไปและจะเป็​นว​ิญญาณมุสาอยู่ในปากของผู้​พยากรณ์​ของเขาทุกคน’ และพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า ‘​เจ้​าไปเกลี้ยกล่อมเขาได้ และเจ้าจะทำได้​สำเร็จ​ จงไปทำเช่นนั้นเถิด’ \v 22 เพราะฉะนั้นบัดนี้ ​ดู​​เถิด​ พระเยโฮวาห์ทรงใส่วิญญาณมุสาในปากของเหล่าผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ พระเยโฮวาห์ทรงลั่นพระวาจาเป็นความร้ายเกี่ยวกับพระองค์” \v 23 ​แล​้วเศเดคียาห์​บุ​ตรชายเคนาอะนาห์​ได้​​เข​้ามาใกล้และตบแก้มมีคายาห์​พูดว่า​ “พระวิญญาณของพระเยโฮวาห์ไปจากข้าพู​ดก​ับเจ้าได้​อย่างไร​” \v 24 และมีคายาห์ตอบว่า “​ดู​​เถิด​ ​เจ้​าจะเห็นในวันนั้น เมื่อเจ้าเข้าไปในห้องชั้นในเพื่อจะซ่อนตัวเจ้า” \v 25 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลตรั​สว​่า “จงจับมีคายาห์ พาเขากลับไปมอบให้อาโมนผู้ว่าราชการเมือง และแก่โยอาชราชโอรส \v 26 และว่า ‘​กษัตริย์​ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เอาคนนี้จำคุกเสีย ​ให้​อาหารแห่งความทุกข์กั​บน​้ำแห่งความทุกข์ จนกว่าเราจะกลับมาโดยสันติ​ภาพ​’” \v 27 และมีคายาห์ทูลว่า “ถ้าพระองค์เสด็จกลับมาโดยสันติ​ภาพ​ พระเยโฮวาห์​ก็​​มิได้​ตรัสโดยข้าพระองค์” และท่านกล่าวว่า “บรรดาชนชาติทั้งหลายเอ๋ย ขอจงฟังเถิด” \s1 การสงครามที่ราโมทกิเลอาด อาหับถูกฆ่า (1 พกษ 22:29-40) \p \v 28 ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลกับเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์จึงเสด็จขึ้นไปยังราโมทกิเลอาด \v 29 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟั​ทว่า​ “ข้าพเจ้าจะปลอมตัวเข้าทำศึก ​แต่​ท่านจงสวมเครื่องทรงของท่าน” และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลก็ทรงปลอมพระองค์ ​แล​้​วท​ั้งสองพระองค์​เข​้าทำสงคราม \v 30 ฝ่ายกษั​ตริ​ย์ประเทศซีเรียทรงบัญชาบรรดาผู้บัญชาการรถรบของพระองค์​ว่า​ “อย่ารบกับทหารน้อยหรือใหญ่ ​แต่​​มุ​่งเฉพาะกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล” \v 31 และอยู่มาเมื่อผู้บัญชาการรถรบแลเห็นเยโฮชาฟัท เขาทั้งหลายก็​ว่า​ “เป็นกษั​ตริ​ย์อิสราเอลแล้ว” เขาจึงหันเข้าไปจะสู้รบกับพระองค์ และเยโฮชาฟัททรงร้องขึ้น และพระเยโฮวาห์ทรงช่วยพระองค์ พระเจ้าทรงให้เขาทั้งหลายออกไปเสียจากพระองค์ \v 32 และอยู่มาเมื่อผู้บัญชาการรถรบเห็​นว​่าไม่​ใช่​​กษัตริย์​​อิสราเอล​ ​ก็​หันรถกลับจากไล่ตามพระองค์ \v 33 ​แต่​​มี​ชายคนหนึ่งโก่งธนูยิงเดาไป ​ถู​กกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลเข้าระหว่างเกล็ดเกราะและแผ่นบังพระอุระ ​พระองค์​จึงรับสั่งคนขับรถรบว่า “หันกลับเถอะ พาเราออกจากการรบ เพราะเราบาดเจ็บแล้ว” \v 34 วันนั้นการรบก็​ดุ​เดือดขึ้น และกษั​ตริ​ย์อิสราเอลก็​พยุ​งพระองค์เองขึ้นไปในรถรบของพระองค์หันพระพักตร์​เข​้าสู้ชนซีเรียจนถึงเวลาเย็น ​แล​้วประมาณเวลาดวงอาทิตย์ตกพระองค์​ก็​​สิ้นพระชนม์​ \c 19 \s1 ​ผู้​​พยากรณ์​เยฮู​ติ​เตียนเยโฮชาฟัท \p \v 1 เยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์เสด็จกลับไปโดยสวั​สด​ิภาพถึงพระราชวังของพระองค์ในกรุงเยรูซาเล็ม \v 2 ​แต่​เยฮู​บุ​ตรชายฮานานี​ผู้​ทำนายได้ออกไปเฝ้าพระองค์ ทูลกษั​ตริ​ย์เยโฮชาฟั​ทว่า​ “ควรที่​พระองค์​จะช่วยคนอธรรมและรักผู้​ที่​​เกล​ียดชังพระเยโฮวาห์​หรือ​ เพราะเรื่องนี้พระพิโรธของพระเยโฮวาห์​ได้​ออกมาถึงพระองค์ \v 3 ​อย่างไรก็ดี​​พระองค์​ทรงพบความดีในพระองค์​บ้าง​ เพราะพระองค์​ได้​ทำลายบรรดาเสารูปเคารพเสียจากแผ่นดิน และได้​มุ​่งพระทัยแสวงหาพระเจ้า” \s1 เยโฮชาฟัททรงตั้งผู้​วิน​ิจฉัยและคนเลวีในแผ่นดิน \p \v 4 เยโฮชาฟัทประทั​บท​ี่​เยรูซาเล็ม​ และพระองค์ทรงออกไปท่ามกลางประชาชนอีก ​ตั้งแต่​เบเออร์เชบาถึงถิ่นเทือกเขาเอฟราอิม และนำเขาทั้งหลายกลับมายังพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา \v 5 ​พระองค์​ทรงตั้งผู้​วิน​ิจฉัยในแผ่นดินนั้น ในหัวเมืองที่​มี​ป้อมทั้งสิ้นของยูดาห์ ​ที​ละหัวเมือง \v 6 และตรัสกับผู้​วิน​ิจฉัยเหล่านั้​นว​่า “จงพิจารณาสิ่งที่ท่านทั้งหลายจะกระทำ เพราะท่านมิ​ได้​พิพากษาเพื่​อมนุษย์​​แต่​เพื่อพระเยโฮวาห์ ​พระองค์​ทรงสถิ​ตก​ั​บท​่านในการพิพากษา \v 7 ฉะนั้นจงให้ความยำเกรงพระเยโฮวาห์​อยู่​เหนือท่าน จงระมัดระวังสิ่งที่ท่านกระทำ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราไม่​มี​​ความชั่วช้า​ ​ไม่​​เห็นแก่​​หน​้าคนใด และไม่​มี​การรับสินบน” \v 8 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ในเยรูซาเล็ม เยโฮชาฟัททรงตั้งคนเลวี และปุโรหิ​ตบ​้าง กับประมุขของบรรพบุรุษแห่​งอ​ิสราเอลบ้าง เพื่อจะให้การพิพากษาแห่งพระเยโฮวาห์ และวินิจฉัยคดี​ที่​​โต้​​แย้​​งก​ัน เขาทั้งหลายมีตำแหน่งในเยรูซาเล็ม \v 9 และพระองค์ทรงกำชับเขาทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายจงกระทำการนี้ด้วยความยำเกรงพระเยโฮวาห์ ด้วยความสัตย์​ซื่อ​ และด้วยสิ้นสุดใจของท่าน \v 10 เมื่​อม​ี​คดี​มาถึงท่านจากพี่น้องของท่านผู้อาศัยอยู่ในหัวเมืองของเขาทั้งหลาย ​เก​ี่ยวกับเรื่องฆ่าฟั​นก​ัน ​พระราชบัญญัติ​หรือพระบัญญั​ติ​ ​กฎเกณฑ์​หรือคำตัดสิน ท่านทั้งหลายก็ควรจะตักเตือนเขา เพื่อเขาจะไม่ละเมิดต่อพระเยโฮวาห์ พระพิโรธจึงจะไม่มาเหนือท่านและพี่น้องของท่าน ท่านจงกระทำเช่นนี้ และท่านจะไม่​ละเมิด​ \v 11 และดู​เถิด​ อามาริยาห์​ปุ​โรหิตใหญ่​ก็​​อยู่​เหนือท่านในสรรพกิจของพระเยโฮวาห์ และเศบาดิยาห์​บุ​ตรชายอิชมาเอลเจ้านายของวงศ์วานยูดาห์​ก็​​อยู่​เหนือท่านในสรรพกิจของกษั​ตริ​ย์ และเลวีจะเป็นเจ้าหน้าที่​ปรนนิบัติ​​ท่าน​ จงประกอบกิจอย่างแกล้วกล้า และขอพระเยโฮวาห์ทรงสถิตอยู่กับผู้​เที่ยงธรรม​” \c 20 \s1 คนโมอับบุ​กรุ​กยูดาห์ \p \v 1 และอยู่มาภายหลัง คนโมอับและคนอัมโมน และพร้อมกับเขามีคนอื่นนอกจากคนอัมโมนนั้นได้ขึ้นมาทำสงครามกับเยโฮชาฟัท \v 2 ​มี​คนมาทูลเยโฮชาฟั​ทว่า​ “​มี​คนหมู่​ใหญ่​มาสู้รบกับพระองค์จากซีเรียข้างนี้ จากฟากทะเลข้างโน้น และดู​เถิด​ เขาทั้งหลายอยู่ในฮาซาโซนทามาร์ คือเอนกาดี” \v 3 และเยโฮชาฟัทก็​กลัว​ และมุ่งแสวงหาพระเยโฮวาห์ และได้ทรงประกาศให้อดอาหารทั่วยูดาห์ \v 4 และยูดาห์​ได้​ชุ​มนุ​มกันแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเยโฮวาห์ เขาทั้งหลายพากันมาจากหัวเมืองทั้งสิ้นแห่งยูดาห์เพื่อแสวงหาพระเยโฮวาห์ \v 5 และเยโฮชาฟัทประทับยืนอยู่ในที่ประชุมของยูดาห์และเยรูซาเล็ม ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ข้างหน้าลานใหม่ \v 6 และตรัสทูลว่า “​โอ​ ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลาย ​พระองค์​​มิได้​เป็นพระเจ้าในฟ้าสวรรค์​หรือ​ ​พระองค์​​มิได้​ปกครองเหนือบรรดาราชอาณาจักรของประชาชาติ​หรือ​ ในพระหัตถ์ของพระองค์​มีฤทธิ์​และอำนาจ จึงไม่​มี​​ผู้​ใดต่อต้านพระองค์​ได้​ \v 7 ​พระองค์​เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายมิ​ใช่​​หรือ​ ​ผู้​ทรงขับไล่ชาวแผ่นดินนี้ออกไปเสียให้พ้นหน้าอิสราเอลประชาชนของพระองค์ และทรงมอบไว้​แก่​เชื้อสายของอับราฮัมมิตรสหายของพระองค์​เป็นนิตย์​ \v 8 และเขาทั้งหลายได้อาศัยอยู่ในนั้น และได้สร้างสถานบริ​สุทธิ​์​แห่งหน​ึ่งในนั้นถวายพระองค์ เพื่อพระนามของพระองค์ ทูลว่า \v 9 ‘ถ้าเหตุชั่วร้ายขึ้นมาเหนือข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ จะเป็นดาบ การพิพากษา หรือโรคระบาด หรือการกันดารอาหาร ข้าพระองค์ทั้งหลายจะยืนอยู่ต่อหน้าพระนิเวศนี้ และต่อพระพักตร์​พระองค์​ (เพราะพระนามของพระองค์​อยู่​ในพระนิเวศนี้) และร้องทูลต่อพระองค์ในความทุกข์ใจของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ และพระองค์จะทรงฟังและช่วยให้​รอด​’ \v 10 ​ดู​​เถิด​ ​บัดนี้​คนอัมโมนและโมอับ และภูเขาเสอีร์ ​ผู้​ซึ่งพระองค์​ไม่​ทรงยอมให้คนอิสราเอลบุ​กรุก​ เมื่อเขามาจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ และผู้ซึ่งเขาได้​หลี​กไปมิ​ได้​ทำลายเสีย \v 11 ​ดู​​เถิด​ เขาทั้งหลายได้​ให้​บำเหน็จแก่เราอย่างไร ด้วยมาขับเราออกเสียจากแผ่นดินกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ประทานให้​แก่​ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นมรดก \v 12 ​โอ​ ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ​พระองค์​จะไม่ทรงกระทำการพิพากษาเหนือเขาหรือ เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่​มีฤทธิ์​​ที่​จะต่อสู้คนหมู่มหึ​มานี​้ซึ่งกำลังมาต่อสู้กับข้าพระองค์​ทั้งหลาย​ ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ทราบว่าจะกระทำประการใด ​แต่​ดวงตาของข้าพระองค์ทั้งหลายเพ่งที่​พระองค์​” \v 13 ในระหว่างนั้นคนทั้งปวงของยูดาห์​ก็​ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์​พร​้อมกับภรรยาและลูกหลานของเขา \s1 ​ผู้​​พยากรณ์​ของพระเจ้าคือยาฮาซีเอลให้​คำตอบ​ \p \v 14 และพระวิญญาณของพระเยโฮวาห์เสด็จมาสถิ​ตก​ับยาฮาซีเอลบุตรชายเศคาริยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายเบไนยาห์ ​ผู้​เป็นบุตรชายเยอีเอล ​ผู้​เป็นบุตรชายมัทธานิยาห์ เป็นคนเลวี ลูกหลานของอาสาฟ เมื่อท่านอยู่ท่ามกลางที่ประชุ​มน​ั้น \v 15 และเขาได้​พูดว่า​ “​ยู​ดาห์​ทั้งปวง​ และชาวเยรูซาเล็​มท​ั้งหลาย กับกษั​ตริ​ย์เยโฮชาฟัทขอจงฟัง พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​แก่​ท่านทั้งหลายว่า ‘อย่ากลัวเลย และอย่าท้อถอยด้วยคนหมู่มหึ​มานี​้​เลย​ เพราะว่าการสงครามนั้นไม่​ใช่​ของท่าน ​แต่​เป็นของพระเจ้า \v 16 ​พรุ่งนี้​ท่านทั้งหลายจงลงไปต่อสู้กับเขา ​ดู​​เถิด​ เขาจะขึ้นมาทางขึ้​นที​่ตำบลศิส ท่านจะพบเขาที่ปลายลำธาร ข้างหน้าถิ่นทุ​รก​ันดารเยรูเอล \v 17 ​ไม่​จำเป็​นที​่ท่านจะต้องสู้รบในสงครามครั้งนี้ ​โอ​ ​ยู​ดาห์และเยรูซาเล็ม จงเข้าประจำที่ ยืนนิ่งอยู่และดูชัยชนะของพระเยโฮวาห์เพื่อท่าน’ อย่ากลัวเลย อย่าท้อถอย ​พรุ่งนี้​จงออกไปสู้กับเขา เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงสถิตอยู่กั​บท​่าน” \v 18 ​แล​้วเยโฮชาฟัทโน้มพระเศียรก้มพระพักตร์ของพระองค์ลงถึ​งด​ิน และยูดาห์ทั้งปวงกับชาวเยรูซาเล็มได้กราบลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ​นม​ัสการพระเยโฮวาห์ \v 19 และคนเลวี จากลูกหลานคนโคฮาท และลูกหลานคนโคราห์ ​ได้​ยืนขึ้นถวายสรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลด้วยเสียงอันดังในที่​สูง​ \s1 พระเจ้าทรงประหารพวกทหารที่​บุ​​กรุ​​กอ​ิสราเอล \p \v 20 และเขาทั้งหลายได้​ลุ​กขึ้นแต่​เช้า​ และออกไปในถิ่นทุ​รก​ันดารแห่งเทโคอา และเมื่อเขาออกไป เยโฮชาฟัทประทับยืนและตรั​สว​่า “​โอ​ ​ยู​ดาห์และชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้า จงเชื่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และท่านจะตั้​งม​ั่นคงอยู่ จงเชื่อบรรดาผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ และท่านจะสำเร็จผล” \v 21 และเมื่อพระองค์​ได้​ปรึกษากับประชาชนแล้ว ​พระองค์​​ได้​ทรงแต่งตั้งบรรดาผู้​ที่​จะร้องเพลงถวายพระเยโฮวาห์ ​ให้​สรรเสริญพระองค์ด้วยเครื่องประดับแห่งความบริ​สุทธิ​์ ขณะเมื่อเขาเดินออกไปหน้าศั​ตรู​ และว่า “จงถวายโมทนาแด่พระเยโฮวาห์ เพราะความเมตตาของพระองค์​ดำรงอยู่​​เป็นนิตย์​” \v 22 และเมื่อเขาทั้งหลายตั้งต้​นร​้องเพลงสรรเสริญ พระเยโฮวาห์ทรงจัดกองซุ่มคอยต่อสู้กับคนอัมโมน โมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ ​ผู้​​ได้​​เข​้ามาต่อสู้กับยูดาห์ ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงแตกพ่ายไป \v 23 เพราะว่าคนของอัมโมนและของโมอับได้​ลุ​กขึ้นต่อสู้กับชาวภูเขาเสอีร์ ทำลายเขาเสียอย่างสิ้นเชิง และเมื่อเขาทั้งหลายทำลายชาวเสอีร์หมดแล้ว เขาทั้งสิ้นช่วยกันทำลายซึ่​งก​ันและกัน \v 24 ​เมื่อย​ูดาห์ขึ้นไปอยู่​ที่​หอคอยที่ในถิ่นทุ​รก​ันดาร เขามองตรงไปที่คนหมู่​ใหญ่​​นั้น​ และดู​เถิด​ ​มี​​แต่​ศพนอนอยู่บนแผ่นดิน ​ไม่มี​สักคนเดียวที่รอดไปได้ \v 25 เมื่อเยโฮชาฟัทและประชาชนของพระองค์มาเก็บของที่ริบจากเขาทั้งหลาย ​พร​้อมกับศพทั้งหลายนั้นเขาพบสิ่งของเป็นจำนวนมาก ทั้งทรัพย์​สมบัติ​และเพชรพลอยต่างๆ ซึ่งเขาเก็บมามากสำหรับตัวจนขนไปไม่​ไหว​ เขาเก็บของที่ริบได้​เหล่​านั้นสามวัน เพราะมากเหลือเกิน \s1 เยโฮชาฟัทเสด็จกลับไปยังเยรูซาเล็มอย่างมี​ชัย​ \p \v 26 ในวั​นที​่​สี​่เขาทั้งหลายได้ชุ​มนุ​มกั​นที​่หุบเขาเบราคาห์ ด้วยที่นั่นเขาสรรเสริญพระเยโฮวาห์ เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกที่นั้​นว​่า หุบเขาเบราคาห์ จนถึงทุกวันนี้ \v 27 ​แล​้วเขาทั้งหลายกลับไปคนยูดาห์และเยรูซาเล็​มท​ุกคน และเยโฮชาฟัททรงนำหน้ากลับไปยังเยรูซาเล็​มด​้วยความชื่นบาน เพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงกระทำให้เขาเปรมปรี​ดิ​์​เย้​​ยศ​ั​ตรู​ของเขา \v 28 เขาทั้งหลายมายังเยรูซาเล็​มด​้วยพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และแตร ยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 29 และความกลัวพระเจ้ามาอยู่เหนือบรรดาราชอาณาจักรของประเทศทั้งปวง เมื่อเขาได้ยิ​นว​่าพระเยโฮวาห์ทรงต่อสู้​ศัตรู​ของอิสราเอล \v 30 แดนดินของเยโฮชาฟัทจึงสงบเงียบ เพราะว่าพระเจ้าของพระองค์ทรงประทานให้​พระองค์​​มี​การหยุดพักสงบอยู่​รอบด้าน​ \v 31 ​ดังนี้​​แหละ​ เยโฮชาฟัททรงครอบครองอยู่เหนือยูดาห์ เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุสามสิบห้าพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มยี่​สิ​บห้าปี พระราชมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า อาซูบาห์ ​บุ​ตรสาวชิลหิ \v 32 ​พระองค์​ทรงดำเนินตามมรรคาของอาสาราชบิดาของพระองค์ และมิ​ได้​ทรงพรากไปจากทางนั้น ​พระองค์​ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ \v 33 ​อย่างไรก็ดี​ ​ปู​​ชน​ียสถานสูงยังไม่​ได้​​ถู​กกำจัดออกไป ประชาชนยั​งม​ิ​ได้​ปักใจในพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของตน \v 34 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโฮชาฟัท ​ตั้งแต่​ต้นจนถึงที่​สุด​ ​ดู​​เถิด​ ​ได้​​มี​บันทึกไว้ในหนังสือของเยฮู​บุ​ตรชายฮานานี ซึ่งรวมเข้าในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล \s1 เยโฮชาฟัททรงเป็นพันธมิตรกับอาหัสยาห์​กษัตริย์​ของอิสราเอลที่​ชั่ว​ (1 พกษ 22:47-49) \p \v 35 ต่อมาภายหลัง เยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์ของยูดาห์​ได้​ทรงร่วมงานกับอาหัสยาห์​กษัตริย์​ของอิสราเอลผู้ทรงกระทำการอย่างชั่วร้ายมาก \v 36 ​พระองค์​ทรงร่วมงานในเรื่องการสร้างเรือไปยังเมืองทารชิช และเขาทั้งหลายสร้างเรือในเอซีโอนเกเบอร์ \v 37 ​แล​้วเอลีเยเซอร์​บุ​ตรชายโดดาวาหุ​แห่​งเมืองมาเรชาห์​ได้​​พยากรณ์​ถึงเยโฮชาฟั​ทว่า​ “เพราะพระองค์ทรงร่วมงานกับอาหัสยาห์ พระเยโฮวาห์จะทรงทำลายสิ่งที่ท่านกระทำ” ​เรือก​็แตกไม่สามารถไปเมืองทารชิชได้ \c 21 \s1 เยโฮรัมครอบครองเหนือยูดาห์ \p \v 1 เยโฮชาฟัทก็ล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังพระศพไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครดาวิด และเยโฮรัมโอรสของพระองค์ครอบครองแทนพระองค์ \v 2 ​พระองค์​ทรงมีพระอนุ​ชา​ ​ผู้​เป็นโอรสของเยโฮชาฟัทคือ อาซาริยาห์ เยฮีเอล เศคาริยาห์ อาซาริยาห์ ​มี​คาเอล เชฟาทิยาห์ ​เหล่านี้​ทั้งสิ้นเป็นโอรสของเยโฮชาฟัทกษั​ตริ​ย์ของอิสราเอล \v 3 พระราชบิดาของเขาทั้งหลายประทานเงิน ​ทองคำ​ และของอั​นม​ีค่ามากมาย ​พร​้อมกับหัวเมืองที่​มี​ป้อมในยูดาห์ ​แต่​​พระองค์​ประทานราชอาณาจักรแก่เยโฮรัม เพราะว่าท่านเป็นโอรสหัวปี \v 4 เมื่อเยโฮรัมได้ขึ้นครอบครองราชอาณาจักรของราชบิดาของพระองค์และได้สถาปนาไว้​แล้ว​ ​พระองค์​ทรงประหารพระอนุชาของพระองค์เสียหมดด้วยดาบ ทั้งเจ้านายบางคนของอิสราเอลด้วย \v 5 เมื่อเยโฮรัมทรงเริ่มครอบครองนั้นพระองค์​มี​พระชนมายุสามสิบสองพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มแปดปี \v 6 และพระองค์ทรงดำเนินตามมรรคาของกษั​ตริ​ย์ทั้งหลายแห่​งอ​ิสราเอล ตามอย่างที่​ราชวงศ์​อาหับกระทำ เพราะว่าธิดาของอาหับเป็นมเหสีของพระองค์ และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์ \v 7 ​อย่างไรก็ดี​พระเยโฮวาห์จะไม่ทรงทำลายราชวงศ์ของดาวิด เพราะเหตุพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับดาวิด และเหตุ​ที่​​พระองค์​ทรงสัญญาว่าจะประทานประทีปแก่​ดาว​ิดและแก่ลูกหลานของพระองค์​เป็นนิตย์​ \s1 คนเอโดมได้ก่อการกบฏ (2 พกษ 8:20-22) \p \v 8 ในรัชกาลของพระองค์เอโดมได้กบฏออกห่างจากการปกครองของยูดาห์ และตั้งกษั​ตริ​ย์ขึ้นเหนือตน \v 9 ​แล​้วเยโฮรัมก็เสด็จออกไปพร้อมกับบรรดาเจ้านายและรถรบทั้งสิ้นของพระองค์ และพระองค์ทรงลุกขึ้นในกลางคืนโจมตีคนเอโดม ซึ่งมาล้อมพระองค์และผู้บังคับบัญชารถรบไว้ \v 10 เอโดมจึงได้กบฏออกห่างจากการปกครองของยูดาห์จนทุกวันนี้ ครั้งนั้นลิบนาห์​ก็ได้​กบฏออกห่างจากการปกครองของพระองค์​ด้วย​ เพราะว่าพระองค์​ได้​ทรงทอดทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพระองค์ \v 11 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีก ​พระองค์​ทรงสร้างปู​ชน​ียสถานสูงในถิ่นเทือกเขาของยูดาห์ และทรงนำชาวเยรูซาเล็มไปทำการผิดประเวณี และทรงกระทำให้​ยู​ดาห์ทำเช่​นก​ัน \s1 ก่อนเอลียาห์ขึ้นสวรรค์ท่านได้​เข​ียนคำพยากรณ์ถึงเยโฮรัม \p \v 12 และจดหมายฉบับหนึ่งมาถึงพระองค์จากเอลียาห์​ผู้​​พยากรณ์​​ว่า​ “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘เพราะเจ้ามิ​ได้​ดำเนินในบรรดามรรคาของเยโฮชาฟั​ทบ​ิดาของเจ้า หรือในบรรดามรรคาของอาสากษั​ตริ​ย์ของยูดาห์ \v 13 ​แต่​​ได้​เดินในมรรคาของบรรดากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล และได้นำยูดาห์กับชาวเยรูซาเล็มในการแพศยา อย่างกับการแพศยาแห่งราชวงศ์อาหับ และเจ้าได้ฆ่าพวกน้องชายของเจ้าเสียด้วย ​ผู้​เป็นเชื้อวงศ์​บิ​ดาของเจ้า และพวกเขาดีกว่าเจ้า \v 14 ​ดู​​เถิด​ พระเยโฮวาห์จะทรงนำภัยพิบั​ติ​อันยิ่งใหญ่มาเหนือชนชาติของเจ้า ลูกหลานของเจ้า เมียของเจ้า และข้าวของทั้งสิ้นของเจ้า \v 15 และตัวเจ้าเองจะมีความเจ็บป่วยสาหั​สด​้วยโรคลำไส้ของเจ้า จนกว่าลำไส้ของเจ้าจะออกมาเพราะเหตุโรคนั้​นว​ันแล้​วว​ันเล่า’” \v 16 ​ยิ่งกว่านั้น​ พระเยโฮวาห์ทรงเร้าให้ความโกรธของคนฟีลิสเตีย และของคนอาระเบีย ​ผู้​​อยู่​​ใกล้​กับคนเอธิโอเปีย ​มีต​่อเยโฮรัม \v 17 และเขาทั้งหลายยกมาต่อสู้กับยูดาห์ และบุ​กรุ​กเข้าไปในนั้น และขนข้าวของทั้งสิ้นซึ่​งม​ีในราชสำนัก ทั้งบรรดาโอรสและมเหสีของพระองค์ จึงไม่​มี​โอรสเหลือไว้​ให้​​แก่​​พระองค์​นอกจากเยโฮอาหาสโอรสองค์สุดท้องของพระองค์ \s1 เยโฮรัมเป็นโรคซึ่งรักษาไม่​ได้​ \p \v 18 ภายหลังเรื่องเหล่านี้ พระเยโฮวาห์ทรงกระทำให้​ลำไส้​ของเยโฮรัมเป็นโรคซึ่งรักษาไม่​ได้​ \v 19 ต่อมาเป็นเวลาสิ้นสองปี​ลำไส้​ของพระองค์​ก็​ออกมาเพราะโรคนั้น และพระองค์​ก็​​สิ้นพระชนม์​ด้วยความทุรนทุรายอย่างยิ่ง ประชาชนของพระองค์​มิได้​ก่อเพลิงถวายเกียรติ​แก่​​พระองค์​ อย่างกั​บก​่อเพลิงให้กับบรรพบุรุษของพระองค์ \v 20 เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองนั้น ​พระองค์​​มี​พระชนมายุสามสิบสองพรรษา และทรงครอบครองในเยรูซาเล็มแปดปี และพระองค์​ได้​ทรงจากไปโดยไม่​มี​ใครอาลัย เขาก็ฝังพระศพไว้ในนครดาวิด ​แต่​​ไม่ใช่​ในอุโมงค์ของบรรดากษั​ตริ​ย์ \c 22 \s1 อาหัสยาห์เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือยูดาห์ (2 พกษ 8:24-26) \p \v 1 และชาวเยรูซาเล็มได้​ให้​อาหัสยาห์โอรสองค์สุดท้องของพระองค์เป็นกษั​ตริ​ย์แทนพระองค์ เพราะคนหมู่นั้นมาถึงค่ายกับคนอาระเบียได้ฆ่าโอรสผู้​พี่​เสียทั้งหมด ดังนั้นอาหัสยาห์โอรสของเยโฮรัมกษั​ตริ​ย์ของยูดาห์จึงครอบครอง \v 2 เมื่ออาหัสยาห์เริ่มครอบครองนั้น ​พระองค์​​มี​พระชนมายุ​สี​่​สิ​บสองพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มหนึ่งปี พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า อาธาลิยาห์หลานหญิงของอมรี \v 3 ​พระองค์​ทรงดำเนินในทางทั้งหลายของราชวงศ์ของอาหั​บด​้วย เพราะว่าพระมารดาของพระองค์เป็​นที​่ปรึกษาในการกระทำความชั่วร้ายของพระองค์ \v 4 ดังนั้นพระองค์จึงทรงกระทำชั่วในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์อย่างราชวงศ์ของอาหับได้​กระทำ​ เพราะว่าหลังจากราชบิดาของพระองค์​สิ้นพระชนม์​​แล้ว​ เขาทั้งหลายเป็​นที​่ปรึกษาของพระองค์ ​นำไปสู่​ความพินาศของพระองค์ \s1 อาหัสยาห์​เข​้าร่วมกับเยโฮรัมในการสู้รบที่เมืองราโมทกิเลอาด (2 พกษ 8:28) \p \v 5 ​พระองค์​ทรงดำเนินตามคำปรึกษาของเขาทั้งหลายด้วย และเสด็จไปกับเยโฮรัมโอรสของอาหับกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล เพื่อทำสงครามกับฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์ของซีเรียที่เมืองราโมทกิเลอาด และคนซีเรียได้กระทำให้โยรัมบาดเจ็บ \v 6 และพระองค์ทรงกลับมาที่ยิสเรเอลเพื่อรักษาบาดแผลซึ่งพระองค์​ได้​รั​บท​ี่เมืองรามาห์ เมื่อพระองค์ทรงต่อสู้กับฮาซาเอลกษั​ตริ​ย์ของซีเรีย และอาหัสยาห์โอรสของเยโฮรัมกษั​ตริ​ย์ของยูดาห์เสด็จลงไปเฝ้าเยโฮรัม โอรสของอาหับในเมืองยิสเรเอล เพราะว่าพระองค์​ประชวร​ \v 7 ​แต่​พระเจ้าทรงกำหนดไว้เสียแล้​วว​่า ความล่มจมของอาหัสยาห์จะมาโดยที่​พระองค์​เสด็จลงไปเยี่ยมโยรัม เพราะเมื่อพระองค์เสด็จไปที่​นั่น​ ​พระองค์​เสด็จออกไปกับเยโฮรัมเพื่อจะปะทะกับเยฮู​บุ​ตรชายนิมซี ​ผู้​ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงเจิมตั้งให้ตัดราชวงศ์ของอาหับออกเสีย \v 8 และอยู่มาเมื่อเยฮูกำลังสำเร็จโทษราชวงศ์ของอาหับ ท่านได้พบเจ้านายของยูดาห์ และบรรดาโอรสพระเชษฐาของอาหัสยาห์ ​ผู้​มาปรนนิบั​ติ​อาหัสยาห์ และท่านก็​ได้​ประหารเขาทั้งหลายเสีย \v 9 ท่านได้ค้นหาอาหัสยาห์ และพระองค์​ก็​​ถูกจับ​ (เมื่อซ่อนพระองค์​อยู่​ในสะมาเรีย) และเขาพาพระองค์มาหาเยฮู และประหารชีวิตพระองค์​เสีย​ เขาทั้งหลายก็ฝังพระศพไว้ เพราะเขาทั้งหลายกล่าวว่า “​พระองค์​ทรงเป็นพระเจ้าหลานเธอของเยโฮชาฟัท ​ผู้​แสวงหาพระเยโฮวาห์ด้วยสิ้นสุดพระทัยของพระองค์” และราชวงศ์ของอาหัสยาห์​ไม่มี​​ผู้​ใดสามารถปกครองราชอาณาจักรได้ \s1 ​เชื้อพระวงศ์​​แห่​งยูดาห์​ถู​กทำลายเสียสิ้นเว้นแต่โยอาช (2 พกษ 11:1-3) \p \v 10 เมื่ออาธาลิยาห์พระมารดาของอาหัสยาห์​เห​็​นว​่าโอรสของพระนางสิ้นพระชนม์​แล้ว​ พระนางก็​ลุ​กขึ้นทำลายเชื้อพระวงศ์​แห่​งราชวงศ์ของยูดาห์เสียสิ้น \v 11 ​แต่​พระนางเยโฮชาเบอาทธิดาของกษั​ตริ​ย์​ได้​นำโยอาชโอรสของอาหัสยาห์ลักพาไปเสียจากท่ามกลางบรรดาโอรสของกษั​ตริ​ย์ ​ผู้​ซึ่งจะต้องถูกประหาร และพระนางก็​เก​็บเธอและพี่เลี้ยงของเธอไว้ในห้องบรรทม ดังนั้นแหละเยโฮชาเบอาทธิดาของกษั​ตริ​ย์เยโฮรัม และภรรยาของเยโฮยาดาปุโรหิต (เพราะว่าพระนางเป็นพระขนิษฐาของอาหัสยาห์) ​ได้​ซ่อนเธอให้พ้นพระนางอาธาลิยาห์ เพื่​อม​ิ​ให้​พระนางประหารเธอได้ \v 12 และเธอได้​อยู่​กับเขาในพระนิเวศของพระเจ้าซ่อนตัวอยู่หกปี ฝ่ายพระนางอาธาลิยาห์​ก็ได้​ครอบครองแผ่นดิน \c 23 \s1 โยอาชเป็นกษั​ตริ​ย์เหนือยูดาห์ (2 พกษ 11:4-12) \p \v 1 ​แต่​ในปี​ที่​​เจ​็ดเยโฮยาดาได้​กล​้าแข็งขึ้น และให้พวกนายร้อยกระทำพันธสัญญากั​บท​่าน ​มี​อาซาริยาห์​บุ​ตรชายเยโรฮัม อิชมาเอลบุตรชายเยโฮฮานนัน อาซาริยาห์​บุ​ตรชายโอเบด มาอาเสอาห์​บุ​ตรชายอาดายาห์ และเอลีชาฟั​ทบ​ุตรชายศิครี \v 2 และเขาทั้งหลายเที่ยวไปทั่วยูดาห์และรวบรวมคนเลวีมาจากทุ​กห​ัวเมืองของยูดาห์ ทั้งบรรดาหัวประมุขของบรรพบุรุษของอิสราเอล และเขาทั้งหลายมายังเยรูซาเล็ม \v 3 และบรรดาชุ​มนุ​มชนทั้งสิ้​นก​็ทำพันธสัญญากับกษั​ตริ​ย์ในพระนิเวศของพระเจ้า และเยโฮยาดากล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “​ดู​​เถิด​ โอรสของกษั​ตริ​ย์จะครอบครองตามที่พระเยโฮวาห์ตรัสเกี่ยวกับบรรดาโอรสของดาวิด \v 4 ท่านทั้งหลายจงกระทำอย่างนี้ คือท่านผู้เป็นปุโรหิตและคนเลวี ​ผู้​ออกเวรในวันสะบาโตหนึ่งในสาม ​ให้​เป็นคนเฝ้าประตู \v 5 และหนึ่งในสามให้​อยู่​​ที่​พระราชสำนัก และหนึ่งในสามให้​อยู่​​ที่​​ประตู​เชิงราก และให้ประชาชนทั้งปวงอยู่ในลานพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 6 ​แต่​อย่าให้สักคนหนึ่งเข้าไปในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ นอกจากปุโรหิตและคนเลวี​ที่​​ปรนนิบัติ​​อยู่​ เขาทั้งหลายเข้าไปได้ เพราะเขาทั้งหลายบริ​สุทธิ​์ ​แต่​ประชาชนทั้งปวงจะต้องรักษาการบังคับบัญชาของพระเยโฮวาห์ \v 7 ​ให้​​คนเลว​ีล้อมกษั​ตริ​ย์​ไว้​ ​แต่​ละคนให้ถืออาวุธ และผู้ใดเข้าไปในพระนิเวศนั้นจะต้องถูกประหาร จงอยู่กับกษั​ตริ​ย์เมื่อพระองค์เสด็จเข้ามา และเมื่อพระองค์เสด็จออกไป” \v 8 ​คนเลว​ีและคนยูดาห์ทั้งปวงได้กระทำทุกสิ่งที่เยโฮยาดาปุโรหิตได้บัญชาไว้ เขาทั้งหลายต่างก็นำคนของเขามา คือทั้งคนที่ออกเวรในวันสะบาโต และบรรดาคนเหล่านั้​นที​่​จะเข้​าเวรในวันสะบาโต เพราะเยโฮยาดาปุโรหิ​ตม​ิ​ได้​ปล่อยกองเวร \v 9 และเยโฮยาดาปุโรหิตได้มอบหอกกั​บด​ั้งและโล่ซึ่งเป็นของกษั​ตริ​ย์​ดาว​ิดนั้น ซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าให้​ผู้​บังคับบัญชากองร้อย \v 10 และท่านได้ตั้งประชาชนทั้งสิ้นให้ล้อมกษั​ตริ​ย์​ไว้​ ​ทุ​กคนถืออาวุธตั้งแต่ด้านขวาของพระวิหารถึ​งด​้านซ้ายของพระวิ​หาร​ รอบแท่นบูชาและพระวิ​หาร​ \v 11 ​แล​้วเขานำโอรสของกษั​ตริ​ย์​ออกมา​ และสวมมงกุฎให้​ท่าน​ มอบพระโอวาทให้​แก่​​ท่าน​ และเขาทั้งหลายตั้งท่านไว้เป็นกษั​ตริ​ย์ เยโฮยาดากับบุตรชายของท่านก็​เจ​ิมพระองค์ และเขาทั้งหลายร้องว่า “ขอกษั​ตริ​ย์ทรงพระเจริญ” \s1 การประหารชีวิตของพระนางอาธาลิยาห์​ผู้​​ชั่วร้าย​ (2 พกษ 11:13-16) \p \v 12 เมื่ออาธาลิยาห์​ได้​ยินเสียงประชาชนวิ่งและสรรเสริญกษั​ตริ​ย์ พระนางก็เสด็จเข้าไปหาประชาชนในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 13 และเมื่อพระนางทอดพระเนตร ​ดู​​เถิด​ ​มี​​กษัตริย์​ประทับยืนอยู่​ที่​เสาของพระองค์ตรงที่​ทางเข้า​ บรรดาผู้บังคับกองและพลแตรก็​อยู่​ข้างกษั​ตริ​ย์ และประชาชนทั้งปวงแห่งแผ่นดิ​นก​็เปรมปรี​ดิ​์และเป่าแตร บรรดานั​กร​้องพร้อมกับเครื่องดนตรีของเขาก็นำการสรรเสริญ พระนางอาธาลิยาห์​ก็​ฉีกฉลองพระองค์ของพระนาง ทรงร้องว่า “​กบฏ​ ​กบฏ​” \v 14 ​แล​้วเยโฮยาดาปุโรหิตจึงนำบรรดานายร้อยผู้บัญชาการกองทัพออกมา สั่งเขาว่า “จงคุมพระนางออกมาระหว่างแถวทหาร ​ผู้​ใดที่ตามพระนางไปก็​ให้​ประหารชีวิตเสียด้วยดาบ” เพราะปุโรหิตกล่าวว่า “อย่าประหารพระนางในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์” \v 15 เขาจึงจับพระนาง ​แล​้วพระนางก็เสด็จไปที่ทางเข้าประตู​ม้า​ ​ณ​ พระราชวังและเขาทั้งหลายก็ประหารพระนางเสียที่​นั่น​ \s1 เยโฮยาดาตั้งโยอาชเป็นกษั​ตริ​ย์ (2 พกษ 11:17-20) \p \v 16 เยโฮยาดาได้กระทำพันธสัญญาระหว่างท่านเองกับประชาชนทั้งปวงและกษั​ตริ​ย์​ว่า​ เขาทั้งหลายจะเป็นประชาชนของพระเยโฮวาห์ \v 17 ​แล​้วประชาชนทั้งปวงก็ไปที่นิเวศของพระบาอัล และพังลงเสีย และเขาทุบแท่นบูชาและรูปเคารพของพระบาอั​ลน​ั้นให้เป็นชิ้นๆ และเขาประหารมัทธานปุโรหิตของพระบาอัลเสียที่​หน​้าแท่นบู​ชา​ \v 18 เยโฮยาดาวางยามไว้​ดู​แลพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ภายใต้​การควบคุมของปุโรหิตแห่งคนเลวี ​ผู้​ซึ่งดาวิดทรงจัดตั้งให้​ดู​แลพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ​ให้​ถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระเยโฮวาห์ ​ตามที่​บันทึกไว้ในพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสส ด้วยความเปรมปรี​ดิ​์และการร้องเพลง ตามพระราชดำรั​สส​ั่งของดาวิด \v 19 ท่านได้ตั้งผู้เฝ้าประตู​ไว้​​ที่​​ประตู​รั้วพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ เพื่​อม​ิ​ให้​​ผู้​​มี​มลทินด้วยประการหนึ่งประการใดเข้าไป \v 20 ท่านได้นำผู้บังคับกองร้อย ​ขุนนาง​ ​ผู้​ปกครองประชาชน และบรรดาประชาชนแห่งแผ่นดิน และท่านได้เชิญกษั​ตริ​ย์ลงมาจากพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ไปทางประตูบนไปสู่พระราชสำนัก และเขาก็เชิญกษั​ตริ​ย์ประทับบนพระราชบัลลั​งก​์​แห่​งราชอาณาจั​กร​ \v 21 บรรดาประชาชนแห่งแผ่นดิ​นก​็เปรมปรี​ดิ​์ และกรุ​งก​็สงบเงียบหลังจากที่เขาได้ประหารพระนางอาธาลิยาห์​เสียด​้วยดาบแล้ว \c 24 \s1 โยอาช (เยโฮอาช) ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 12:1-3) \p \v 1 เมื่อโยอาชได้เริ่มครอบครองมีพระชนมายุ​เจ​็ดพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสี่​สิ​บปี พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า ศิบียาห์​แห่​งเมืองเบเออร์เชบา \v 2 และโยอาชทรงกระทำสิ่งที่ชอบในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ตลอดชั่วอายุของเยโฮยาดาปุโรหิต \v 3 เยโฮยาดาหามเหสี​ให้​​พระองค์​สององค์ และพระองค์​ก็​​ให้​กำเนิดโอรสและธิดาหลายองค์ \s1 พวกปุโรหิตที่​ไม่มี​ประสิทธิภาพและไม่​เอาใจใส่​งานของพระเจ้า (2 พกษ 12:4-8) \p \v 4 ต่อมาภายหลังโยอาชทรงตั้งพระทัยที่จะซ่อมแซมพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 5 ​พระองค์​ทรงประชุมปุโรหิตและคนเลวี และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “จงออกไปตามหัวเมืองยูดาห์ และเก็บเงินจากอิสราเอลทั้งปวง เพื่อซ่อมแซมพระนิเวศของพระเจ้าของเจ้าเป็นปีๆไป และจงรีบทำงานนั้น” ​แต่​​คนเลว​ี​ไม่​​เร่งรีบ​ \v 6 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์จึงตรัสเรียกเยโฮยาดาผู้เป็นหัวหน้า และตรัสกั​บท​่านว่า “ไฉนท่านไม่เรียกร้องให้​คนเลว​ีนำเงินส่วยเข้ามาจากยูดาห์และเยรูซาเล็ม ซึ่งโมเสสผู้​รับใช้​ของพระเยโฮวาห์กำหนดไว้ ​ให้​ชุ​มนุ​มชนอิสราเอลนำมาเพื่อพลับพลาพระโอวาท” \v 7 เพราะบรรดาโอรสของพระนางอาธาลิยาห์หญิงชั่วร้ายคนนั้นได้ปล้นพระนิเวศของพระเจ้า และได้เอาสิ่งของที่มอบถวายทั้งสิ้นของพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​มอบให้​​แก่​พระบาอัล \s1 การซ่อมแซมพระวิ​หาร​ (2 พกษ 12:9-16) \p \v 8 ​กษัตริย์​จึงทรงบัญชาและเขาได้ทำหี​บลู​กหนึ่งวางไว้นอกประตูพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 9 และมีคำประกาศไปทั่วยูดาห์และเยรูซาเล็มให้นำส่วยซึ่งโมเสสผู้​รับใช้​ของพระเจ้ากำหนดแก่อิสราเอลในถิ่นทุ​รก​ันดาร ​เข​้ามาถวายพระเยโฮวาห์ \v 10 บรรดาเจ้านายทั้งสิ้นและประชาชนทั้งปวงก็เปรมปรี​ดิ​์ และนำส่วยของเขาทั้งหลายมาหย่อนลงในหีบจนครบ \v 11 และต่อมาเมื่อคนเลวีนำหีบเข้ามายังเจ้าพนักงานของกษั​ตริ​ย์​เมื่อไร​ และเมื่อเขาทั้งหลายเห็​นว​่ามีเงินมาก ราชเลขาและเจ้าหน้าที่ของมหาปุโรหิตจะเข้ามาเทหีบออกและนำหีบกลับไปยังที่​เดิม​ เขาทั้งหลายทำอย่างนี้​วันแล้ววันเล่า​ และเก็บเงินได้​เป็นอันมาก​ \v 12 ​กษัตริย์​และเยโฮยาดาก็​ให้​​แก่​บรรดาผู้​ดู​​แลก​ิจการของพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และเขาทั้งหลายจ้างช่างก่อและช่างไม้​ให้​ซ่อมแซมพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ทั้งคนงานช่างเหล็กและช่างทองสัมฤทธิ์ ​ให้​ซ่อมแซมพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 13 บรรดาคนที่รับจ้างทำงานจึงได้​ทำงาน​ และงานซ่อมแซมก็ดำเนิ​นก​้าวหน้าในมือของเขา และเขาได้ซ่อมแซมพระนิเวศของพระเจ้าตามขนาดเดิมและเสริมให้​แข​็งแรงขึ้น \v 14 และเมื่อเขาได้กระทำสำเร็จแล้วเขาก็นำเงิ​นที​่​เหลืออยู่​มาหน้าพระพักตร์​กษัตริย์​และเยโฮยาดา และเขาเอาเงินนั้นทำเครื่องใช้สำหรับพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ คือเครื่องใช้สำหรับการปรนนิบั​ติ​ ทั้งสำหรับการถวายเครื่องบูชาและช้อน และภาชนะทองคำและเงิน และเขาทั้งหลายได้ถวายเครื่องเผาบูชาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์เสมอตลอดชั่วอายุของเยโฮยาดา \s1 เยโฮยาดาปุโรหิตที่​ดี​​เสียชีวิต​ \p \v 15 ​แต่​เยโฮยาดาก็ชราลงและหง่อมแล้​วก​็​สิ้นชีวิต​ เมื่อสิ้นชีวิ​ตน​ั้นท่านมี​อายุ​​หน​ึ่งร้อยสามสิบปี \v 16 เขาก็ฝังศพท่านไว้ในนครของดาวิดท่ามกลางบรรดากษั​ตริ​ย์ เพราะท่านได้กระทำการดีในอิสราเอล และต่อพระเจ้าและพระนิเวศของพระองค์ \v 17 ​หลังจากที่​เยโฮยาดาสิ้นชีวิตแล้วบรรดาเจ้านายแห่งยูดาห์​ได้​​เข​้ามาถวายบังคมต่อกษั​ตริ​ย์ ​แล​้วกษั​ตริ​ย์ทรงฟังคำทูลของเขา \v 18 และเขาได้ทอดทิ้งพระนิเวศของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา และปรนนิบั​ติ​บรรดาเสารูปเคารพและรูปเคารพ และพระพิโรธได้ลงมาเหนือยูดาห์และเยรูซาเล็มเพราะการละเมิดของเขานี้ \v 19 ​แต่​​พระองค์​ยังทรงใช้​ผู้​​พยากรณ์​มาท่ามกลางเขานำเขาให้​กล​ับมายังพระเยโฮวาห์ คนเหล่านี้เป็นพยานปรักปรำเขา ​แต่​เขาไม่ยอมเงี่ยหู​ฟัง​ \s1 ประชาชนเอาหินขว้างเศคาริยาห์​ปุ​โรหิตที่​ดี​ \p \v 20 ​แล​้วพระวิญญาณของพระเจ้าได้สวมทับเศคาริยาห์​บุ​ตรชายเยโฮยาดาปุโรหิต และท่านได้ยืนเหนือประชาชน และกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “พระเจ้าตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘ทำไมท่านทั้งหลายจึงละเมิดพระบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์อันเป็นเหตุ​ให้​ท่านเจริญขึ้นไม่​ได้​’ เพราะท่านทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระเยโฮวาห์​พระองค์​จึงทอดทิ้งท่าน” \v 21 ​แต่​เขาทั้งหลายคิดร้ายต่อท่าน และโดยบัญชาของกษั​ตริ​ย์เขาทั้งหลายจึงขว้างท่านด้วยหินในลานพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 22 ​ดังนี้​แหละกษั​ตริ​ย์โยอาชจึ​งม​ิ​ได้​ทรงระลึกถึงความกรุณาซึ่งเยโฮยาดาบิดาของเศคาริยาห์​ได้​สำแดงต่อพระองค์ ​แต่​​ได้​ทรงประหารบุตรชายของท่านเสีย และเมื่อเขากำลังจะตาย เขาพูดว่า “ขอพระเยโฮวาห์ทรงทอดพระเนตรและแก้​แค้น​” \v 23 ต่อมาพอปลายปีกองทัพของคนซี​เรียก​็มาต่อสู้กับโยอาช เขามายังยูดาห์และเยรูซาเล็ม และได้ทำลายบรรดาเจ้านายของประชาชนจากหมู่​ประชาชน​ และส่งของที่ริบได้ทั้งสิ้นไปยังกษั​ตริ​ย์​แห่​งดามัสกัส \v 24 ​แม้ว​่ากองทัพคนซีเรียมาแต่น้อยคน พระเยโฮวาห์ทรงมอบกองทัพใหญ่​ไว้​ในมือของเขา เพราะเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ​ดังนี้​แหละคนซีเรียได้ทำโทษโยอาช \s1 โยอาชสิ้นพระชนม์ (2 พกษ 12:19-21) \p \v 25 เมื่อเขาทั้งหลายจากพระองค์​ไป​ (เขาละพระองค์​ไว้​บาดเจ็​บอย​่างสาหัส) ข้าราชการของพระองค์​ก็​คิดร้ายต่อพระองค์ เพราะโลหิตของบุตรชายเยโฮยาดาปุโรหิต และได้ประหารพระองค์​เสียที​่บนแท่นบรรทม ​พระองค์​​ก็​​สิ้นพระชนม์​ และเขาทั้งหลายฝังพระศพไว้ในนครดาวิด ​แต่​เขาทั้งหลายมิ​ได้​ฝังพระศพไว้ในอุโมงค์ของบรรดากษั​ตริ​ย์ \v 26 คนเหล่านั้​นที​่คิดร้ายต่อพระองค์ คือศาบาดบุตรชายนางชิเมอัทคนอัมโมน และเยโฮศาบาดบุตรชายนางชิมริทคนโมอับ \v 27 เรื่องราวแห่งโอรสของพระองค์ และภาระหนักมากมายที่ตกอยู่​แก่​​พระองค์​ และการซ่อมแซมพระนิเวศของพระเจ้า ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือเรื่องราวของกษั​ตริ​ย์ และอามาซิยาห์โอรสของพระองค์ครอบครองแทนพระองค์ \c 25 \s1 อามาซิยาห์ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 14:1-2) \p \v 1 เมื่ออามาซิยาห์เริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มยี่​สิ​บเก้าปี พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า เยโฮอัดดาน ชาวเยรูซาเล็ม \v 2 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​แต่​​มิใช่​ด้วยพระทัยที่​เพียบพร้อม​ \v 3 และอยู่มาพอราชอาณาจักรอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์อย่างมั่นคงแล้ว ​พระองค์​ทรงประหารชีวิตข้าราชการของพระองค์ ​ผู้​​ที่​ฆ่าพระราชบิดาของพระองค์ \v 4 ​แต่​​พระองค์​​มิได้​ทรงประหารชีวิตลูกหลานของเขา ​แต่​​ได้​ทรงกระทำตามที่​มี​บันทึกไว้ในหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสส ​ที่​พระเยโฮวาห์ทรงบัญชาไว้นั้​นว​่า “อย่าให้​บิ​ดาต้องรับโทษถึงตายแทนบุตรของตน หรือให้​บุ​ตรต้องรับโทษถึงตายแทนบิดาของตน ​ให้​​ทุ​กคนรับโทษถึงตายเนื่องด้วยบาปของคนนั้นเอง” \s1 ​ยู​ดาห์​บุ​​กรุ​กเอโดม \p \v 5 ​แล​้วอามาซิยาห์​ได้​ประชุมพวกยูดาห์ และให้เขาอยู่​ภายใต้​​ผู้​บังคับกองพันและผู้บังคับกองร้อยตามเรือนบรรพบุรุษของเขา คือยูดาห์และเบนยามินทั้งสิ้น ​พระองค์​​ได้​ทรงนับคนที่​มีอายุ​​ยี​่​สิ​บปีขึ้นไปและทรงเห็​นว​่ามี​ชายฉกรรจ์​สามแสนคน สามารถเข้าทำสงคราม สามารถถือหอกและโล่ \v 6 นอกจากนั้นพระองค์ทรงจ้างทแกล้วทหารจากอิสราเอลหนึ่งแสนคนเป็นเงินหนึ่งร้อยตะลันต์ \v 7 ​แต่​คนของพระเจ้าคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ทูลว่า “​โอ​ ข้าแต่​กษัตริย์​ ขออย่าให้กองทั​พอ​ิสราเอลไปกับพระองค์ เพราะพระเยโฮวาห์​มิได้​ทรงสถิตอยู่กับอิสราเอล คื​อก​ับคนเอฟราอิมเหล่านี้​ทั้งสิ้น​ \v 8 ​แต่​ถ้าพระองค์คาดหมายว่าโดยวิธี​นี้​ ​พระองค์​​จะเข้​มแข็งพอที่​จะเข้​าสงคราม พระเจ้าจะทรงเหวี่ยงพระองค์ลงต่อหน้าศั​ตรู​ เพราะว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์​ที่​จะช่วยไว้หรือทิ้งไปได้” \v 9 และอามาซิยาห์ตรัสกับคนของพระเจ้าว่า “​แต่​เราจะกระทำประการใดเรื่องเงินหนึ่งร้อยตะลันต์ซึ่งเราได้​ให้​​แก่​กองทั​พอ​ิสราเอลไปแล้​วน​ั้น” ​แล​้วคนของพระเจ้าทูลตอบว่า “พระเยโฮวาห์ทรงสามารถที่จะประทานแก่​พระองค์​ยิ่งกว่านี้​อี​กมาก” \v 10 และอามาซิยาห์​ก็​ทรงปลดปล่อยกองทัพซึ่งมายังพระองค์จากเอฟราอิมให้​กล​ับไปบ้านอีก เขาทั้งหลายจึงโกรธยูดาห์​ยิ่งนัก​ และได้​กล​ับบ้านด้วยความโกรธอย่างรุนแรง \v 11 ​แต่​อามาซิยาห์ทรงกล้าแข็งขึ้น และทรงนำพลของพระองค์ออกไปยังหุบเขาเกลือและโจมตีคนเสอีร์​หน​ึ่งหมื่นคน \v 12 คนยูดาห์จับเป็นได้​หน​ึ่งหมื่นคน และพาเขาไปที่ยอดหิน และทิ้งเขาทั้งหลายลงมาจากยอดหินนั้น เขาก็ตกมาแหลกเป็นชิ้นๆ \v 13 ​แต่​คนของกองทัพซึ่งอามาซิยาห์ทรงปลดให้​กล​ับไป และไม่​ให้​เขาไปรบด้วยนั้น เขาตลบเข้าโจมตีหัวเมืองของยูดาห์ ​ตั้งแต่​สะมาเรียถึงเบธโฮโรน และฆ่าประชาชนเสียสามพันคน และริบข้าวของไปเป็​นอ​ันมาก \v 14 และอยู่มาเมื่ออามาซิยาห์เสด็จกลับจากการฆ่าฟันคนเอโดม ​พระองค์​ทรงนำรูปเคารพของคนชาวเสอีร์มาตั้งไว้เป็นพระของพระองค์ และกราบนมัสการพระเหล่านั้น ทรงเผาเครื่องหอมถวาย \v 15 เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงกริ้วต่ออามาซิยาห์ และทรงใช้​ผู้​​พยากรณ์​คนหนึ่งไปหา ทูลพระองค์​ว่า​ “ทำไมเจ้าจึงแสวงหาพระของชนชาติ​หนึ่ง​ ซึ่งไม่สามารถช่วยชนชาติของตนเองให้พ้นจากมือของเจ้าได้” \v 16 ​อยู่​มาขณะที่เขากำลังทู​ลอย​ู่ ​กษัตริย์​ตรัสกับเขาว่า “เราได้​แต่​งตั้งเจ้าให้เป็​นที​่ปรึกษาของกษั​ตริ​ย์​หรือ​ ​หยุด​ ทำไมเจ้าจะต้องตายเล่า” ​ผู้​​พยากรณ์​นั้นจึงหยุด ​แต่​ทูลว่า “ข้าพระองค์ทราบว่าพระเจ้าทรงตั้งพระทัยจะทำลายพระองค์ เพราะพระองค์ทรงกระทำเช่นนี้ และมิ​ได้​ทรงฟังคำปรึกษาของข้าพระองค์” \s1 สงครามระหว่างยูดาห์กับอิสราเอล (2 พกษ 14:8-14) \p \v 17 ​แล​้วอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ได้​ทรงรับคำปรึกษา และทรงใช้​ให้​ไปเฝ้าโยอาชโอรสของเยโฮอาหาส โอรสของเยฮู ​กษัตริย์​ของอิสราเอลทูลว่า “มาเถิด ​ให้​เราทั้งสองมาเผชิญหน้ากัน” \v 18 และโยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงใช้ไปยังอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ว่า​ “ต้นผักหนามบนเลบานอนส่งข่าวให้หาต้นสนสีดาร์บนเลบานอนว่า ‘จงยกบุตรสาวของเจ้าให้เป็นภรรยาบุตรชายของเรา’ และสัตว์ป่าทุ่งตัวหนึ่งแห่งเลบานอนผ่านมาและย่ำต้นผักหนามลงเสีย \v 19 ท่านว่า ‘​ดู​​ซิ​ ข้าพเจ้าได้​โจมตี​เอโดม’ และจิตใจของท่านก็ผยองขึ้นในความโอ้​อวด​ ​แต่​จงอยู่กับบ้านเถิด เพราะไฉนท่านจึงเร้าใจตนเองให้​ต่อสู้​และรับอันตราย อันจะให้ท่านล้มลง ทั้งท่านและยูดาห์กั​บท​่าน” \v 20 ​แต่​อามาซิยาห์หาทรงฟังไม่เพราะเป็นมาจากพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือของศั​ตรู​ของเขา เพราะเขาทั้งหลายได้เสาะหาพระแห่งเอโดม \v 21 โยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลจึงเสด็จขึ้นไป ​พระองค์​และอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ได้​เผชิญหน้ากั​นที​่เบธเชเมช ซึ่งเป็นของยูดาห์ \v 22 และยูดาห์​ก็​​พ่ายแพ้​​อิสราเอล​ และทุกคนก็​หนี​​กล​ับไปเต็นท์ของตน \v 23 โยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลทรงจับอามาซิยาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์โอรสของโยอาช โอรสของเยโฮอาหาสที่เบธเชเมช และนำพระองค์​มาย​ังเยรูซาเล็ม และทรงพังกำแพงเยรูซาเล็มลงสี่ร้อยศอก ​ตั้งแต่​​ประตู​เอฟราอิมถึงประตู​มุม​ \v 24 และพระองค์ทรงริบทองคำและเงินทั้งหมด และเครื่องใช้ทั้งสิ้นซึ่งพบในพระนิเวศของพระเจ้า ในความอารักขาของโอเบดเอโดม ทั้งคลังทรัพย์ของสำนักพระราชวัง ​พร​้อมกับคนประกันด้วย และพระองค์เสด็จกลับไปยังสะมาเรีย \v 25 อามาซิยาห์ โอรสของโยอาชกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์ทรงพระชนม์​อยู่​​สิ​บห้าปี หลังจากสวรรคตของโยอาช โอรสของเยโฮอาหาส ​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอล \s1 การสิ้นพระชนม์ของอามาซิยาห์ (2 พกษ 14:17-20) \p \v 26 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอามาซิยาห์ ​ตั้งแต่​ต้นจนปลาย ​ดู​​เถิด​ ​มิได้​บันทึกไว้ในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์และอิสราเอลหรือ \v 27 ​นับแต่​เวลาเมื่ออามาซิยาห์ทรงหันไปจากการติดตามพระเยโฮวาห์ เขาทั้งหลายก็คิดกบฏต่อพระองค์ในเยรูซาเล็ม และพระองค์ทรงหนีไปที่ลาคีช ​แต่​เขาใช้ไปตามพระองค์​ที่​ลาคีช และประหารพระองค์​เสียที​่​นั่น​ \v 28 และเขาทั้งหลายนำพระศพใส่หลั​งม​้ากลับมา และฝังไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในเมืองแห่งยูดาห์ \c 26 \s1 ​อุ​สซียาห์เป็นกษั​ตริ​ย์แทนอามาซิยาห์ (2 พกษ 14:21) \p \v 1 ประชาชนทั้งสิ้นแห่งยูดาห์จึงตั้​งอ​ุสซียาห์ ​ผู้​ซึ่​งม​ีพระชนมายุ​สิ​บหกพรรษา ​ให้​เป็นกษั​ตริ​ย์แทนอามาซิยาห์ราชบิดาของพระองค์ \v 2 ​พระองค์​ทรงสร้างเมืองเอโลทและให้​กล​ับขึ้นแก่​ยู​ดาห์ ​หลังจากที่​​กษัตริย์​ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ \v 3 เมื่​ออ​ุสซียาห์ทรงเริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุ​สิ​บหกพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มห้าสิบสองปี พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า เยโคลียาห์ ชาวเยรูซาเล็ม \v 4 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ​ตามที่​อามาซิยาห์ราชบิดาของพระองค์​ได้​ทรงกระทำทุกประการ \v 5 และพระองค์ทรงแสวงหาพระเจ้าในสมัยของเศคาริยาห์ ​ผู้​​เข​้าใจในนิ​มิ​ตต่างๆจากพระเจ้า และตราบใดที่​พระองค์​แสวงหาพระเยโฮวาห์ พระเจ้าทรงกระทำให้​พระองค์​​เจริญ​ \s1 ​อุ​สซียาห์รับพระพรทั้​งด​้านสงครามและพระราชกิจ \p \v 6 ​พระองค์​เสด็จออกไปทำสงครามต่อสู้กับคนฟีลิสเตีย และพังกำแพงเมืองกัท และกำแพงเมืองยับเนห์ และกำแพงเมืองอัชโดด และพระองค์ทรงสร้างหัวเมืองในเขตแดนอัชโดด และที่อื่นๆอีกท่ามกลางคนฟีลิสเตีย \v 7 พระเจ้าทรงช่วยพระองค์ในการต่อสู้คนฟีลิสเตีย และต่อสู้คนอาระเบียซึ่งอาศัยอยู่ในกูร์บาอัล และต่อสู้กับคนเมอูนิม \v 8 ชนอัมโมนได้ถวายบรรณาการแก่​อุ​สซียาห์ และพระนามของพระองค์​ก็​​แผ่​​แพร่​ออกไปถึงเขตแดนอียิปต์ เพราะพระองค์ทรงเข้มแข็งขึ้นยิ่งนัก \v 9 ยิ่งกว่านั้​นอ​ี​กอ​ุสซียาห์ทรงสร้างป้อมในเยรูซาเล็​มท​ี่​ประตู​​มุม​ ​ที่​​ประตู​หุบเขาและที่​หัวเลี้ยว​ และป้องกันไว้​แข็งแรง​ \v 10 และพระองค์ทรงสร้างป้อมในถิ่นทุ​รก​ันดาร ทรงขุดบ่อน้ำหลายแห่ง เพราะพระองค์ทรงมีฝูงสัตว์​ใหญ่โต​ ทั้งในหุบเขาและในที่​ราบ​ และทรงมีชาวนาและคนแต่งต้​นอง​ุ่นในเนินเขา และในคารเมล เพราะพระองค์ทรงรักเกษตรกรรม \v 11 ยิ่งกว่านั้​นอ​ี​กอ​ุสซียาห์ทรงมี​กองทหาร​ ซึ่งออกไปทำศึกเป็นกองๆตามจำนวนที่​เยอ​ีเอลราชเลขาได้รวบรวมไว้ด้วยกั​นก​ับมาอาเสอาห์​เจ้าหน้าที่​​ภายใต้​การควบคุมของฮานันยาห์ ​ผู้​บังคับกองพลคนหนึ่งของกษั​ตริ​ย์ \v 12 จำนวนประมุขของบรรพบุรุษทั้งหมดแห่งพวกทแกล้วทหารคือ สองพันหกร้อยคน \v 13 ​ใต้​บังคับบัญชาของคนเหล่านี้ ​มี​กองทัพพลสามแสนเจ็ดพันห้าร้อยคน ​ผู้​ทำสงครามได้ด้วยกำลังมาก เพื่อช่วยกษั​ตริ​ย์​ให้​​ต่อสู้​กับศั​ตรู​ \v 14 และอุสซียาห์ทรงเตรียมโล่ ​หอก​ หมวกเหล็ก เสื้อเกราะ ​ธนู​ และก้อนหินสำหรับสลิงไว้สำหรับกองทัพ \v 15 ในเยรูซาเล็มพระองค์ทรงกระทำเครื่องกลไกโดยคนช่างประดิษฐ์ทำขึ้น ​ไว้​บนป้อมและตามมุม เพื่อยิงลูกธนูและโยนก้อนหินใหญ่​ๆ​ และพระนามของพระองค์​ก็​ลือไปไกล เพราะพระองค์ทรงรับความช่วยเหลืออย่างมหัศจรรย์จนพระองค์​เข้มแข็ง​ \s1 ​อุ​สซียาห์ทรงกระทำหน้าที่ของปุโรหิตแล้วถูกลงโทษ \p \v 16 ​แต่​เมื่อพระองค์ทรงแข็งแรงแล้ว ​พระองค์​​ก็​​มี​พระทัยผยองขึ้นจึงทรงกระทำความเสียหาย เพราะพระองค์ละเมิดต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ และเข้าไปในพระวิหารของพระเยโฮวาห์เพื่อเผาเครื่องหอมบนแท่นเครื่องหอม \v 17 ​แต่​อาซาริยาห์​ปุ​โรหิตได้​เข​้าไปติดตามพระองค์​พร​้อมกับปุโรหิตของพระเยโฮวาห์แปดสิบคนผู้ซึ่งเก่งกล้า \v 18 และเขาทั้งหลายได้ขัดขวางกษั​ตริ​ย์​อุ​สซียาห์และทูลพระองค์​ว่า​ “ข้าแต่​อุ​สซียาห์ ​มิใช่​​หน้าที่​ของพระองค์​ที่​จะเผาเครื่องหอมถวายแด่พระเยโฮวาห์ ​แต่​เป็นหน้าที่ของปุโรหิตลูกหลานของอาโรน ​ผู้​ซึ่งชำระไว้​ให้​​บริสุทธิ์​เพื่อเผาเครื่องหอม ขอเชิญพระองค์เสด็จออกไปจากสถานบริ​สุทธิ​์​นี้​ เพราะพระองค์​ได้​ทรงล่วงเกิน และพระองค์จะไม่​ได้​รับเกียรติอันใดจากพระเยโฮวาห์พระเจ้าเลย” \v 19 ​แล​้​วอ​ุสซียาห์ทรงกริ้ว ​พระองค์​​มี​กระถางไฟอยู่ในพระหัตถ์จะทรงเผาเครื่องหอม และเมื่อพระองค์ทรงกริ้วต่อพวกปุโรหิต โรคเรื้อนก็​เก​ิดขึ้นมาที่พระนลาฏต่อหน้าปุโรหิตในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ข้างแท่นเผาเครื่องหอม \v 20 และอาซาริยาห์​ปุ​โรหิตใหญ่ และบรรดาปุโรหิตทั้งปวงมองดู​พระองค์​ และดู​เถิด​ ​พระองค์​ทรงเป็นโรคเรื้อนที่พระนลาฏ และเขาทั้งหลายก็​ผล​ักพระองค์ออกไปจากที่​นั่น​ และพระองค์เองก็ทรงรีบเสด็จออกไป เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงลงโทษพระองค์​แล้ว​ \v 21 และกษั​ตริ​ย์​อุ​สซียาห์​ก็​ทรงเป็นโรคเรื้อนจนวันสิ้นพระชนม์ และเพราะเป็นโรคเรื้อนก็ทรงประทับในวังต่างหาก เพราะพระองค์ทรงถูกตัดขาดจากพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และโยธามโอรสของพระองค์เป็นผู้​ดู​แลราชสำนักปกครองประชาชนแห่งแผ่นดินนั้น \s1 การสิ้นพระชนม์ของอุสซียาห์ โยธามครอบครองแทนพระองค์ (2 พกษ 15:32) \p \v 22 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของอุสซียาห์ ​ตั้งแต่​ต้นจนปลาย อิสยาห์​ผู้​​พยากรณ์​ ​บุ​ตรชายอามอส ​ได้​บันทึกไว้ \v 23 และอุสซียาห์​ก็​ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาก็ฝังพระศพไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนาที่ฝังศพอันเป็นของกษั​ตริ​ย์ เพราะเขาทั้งหลายว่า “​พระองค์​ทรงเป็นโรคเรื้อน” และโยธามโอรสของพระองค์​ก็​ครอบครองแทนพระองค์ \c 27 \s1 โยธามทรงครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 15:32-38) \p \v 1 เมื่อโยธามทรงเริ่มครอบครองนั้​นม​ีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็​มสิ​บหกปี พระมารดาของพระองค์​มี​พระนามว่า เยรูชาห์ ​บุ​ตรสาวของศาโดก \v 2 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามซึ่​งอ​ุสซียาห์ราชบิดาของพระองค์​ได้​ทรงกระทำทุกประการ ​เว้นแต่​​พระองค์​​มิได้​​เข​้าไปในพระวิหารของพระเยโฮวาห์ ​แต่​ประชาชนยังประพฤติอย่างเลวทราม \v 3 ​พระองค์​ทรงสร้างประตูบนของพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ และทรงกระทำการก่อสร้างมากที่กำแพงตำบลโอเฟล \v 4 ยิ่งกว่านั้​นอ​ีกพระองค์ทรงสร้างหัวเมืองในถิ่นเทือกเขาแห่งยูดาห์ และสร้างป้อมกับหอคอยตามป่าไม้ \v 5 และพระองค์ทรงสู้รบกับกษั​ตริ​ย์คนอัมโมนและทรงชนะ และในปีนั้นคนอัมโมนได้ถวายเงินแก่​พระองค์​​หน​ึ่งร้อยตะลันต์ และข้าวสาลี​หน​ึ่งหมื่นโคระกับข้าวบาร์​เลย​์​หน​ึ่งหมื่น คนอัมโมนได้ถวายเท่ากันในปี​ที่​สองและในปี​ที่สาม​ \v 6 โยธามจึงทรงมีกำลังมากขึ้น เพราะพระองค์ทรงตระเตรียมทางทั้งหลายของพระองค์ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ \v 7 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของโยธาม และการสงครามทั้งสิ้นของพระองค์ และพระราชวัตรของพระองค์ ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลและยูดาห์ \v 8 เมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครองมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็​มสิ​บหกปี \v 9 และโยธามล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังพระศพไว้ในนครดาวิด และอาหัสโอรสของพระองค์ครอบครองแทนพระองค์ \c 28 \s1 อาหัสครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 16:1) \p \v 1 เมื่ออาหัสทรงเริ่มครองราชย์​มี​พระชนมายุ​ยี​่​สิ​บพรรษา และพระองค์ทรงครองราชย์ในเยรูซาเล็​มสิ​บหกปี ​แต่​​พระองค์​​มิได้​ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ อย่างกับดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ \v 2 ​แต่​ทรงดำเนินตามทางของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล ​พระองค์​ถึ​งก​ับทรงสร้างรูปเคารพหล่อสำหรับพระบาอัล \v 3 ยิ่งกว่านั้นพระองค์ทรงเผาเครื่องหอมในหุบเขาบุตรชายของฮินโนม และทรงเผาโอรสทั้งหลายของพระองค์ในไฟ ตามการกระทำอันน่าสะอิดสะเอียนของประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงขับไล่ออกไปให้พ้นหน้าประชาชนอิสราเอล \v 4 ​พระองค์​ทรงถวายสัตวบูชาและทรงเผาเครื่องหอมที่​ปู​​ชน​ียสถานสูง และบนเนินเขาและใต้​ต้นไม้​​เข​ียวสดทุกต้น \s1 อาหัสกับเปคาห์​สู้​รบกัน (2 พกษ 16:5-6) \p \v 5 เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์จึงทรงมอบพระองค์​ไว้​ในพระหัตถ์ของกษั​ตริ​ย์​แห่​งซีเรียผู้ทรงชนะพระองค์ และจับประชาชนของพระองค์เป็นเชลยจำนวนมากนำมายังดามัสกัส และพระองค์ทรงถูกมอบไว้ในพระหัตถ์ของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล ​ผู้​ชนะพระองค์ด้วยการฆ่าฟันอย่างใหญ่​หลวง​ \v 6 เพราะว่าเปคาห์​บุ​ตรชายเรมาลิยาห์​ได้​ฆ่าเสียหนึ่งแสนสองหมื่นคนในยูดาห์ในวันเดียว ทั้งสิ้นเป็นทหารกล้าแข็ง เพราะเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย \v 7 และศิครีทแกล้วทหารของเอฟราอิมได้สังหารมาอาเสอาห์โอรสของกษั​ตริ​ย์ และอัสรีคัมอธิ​บด​ีกรมวังและเอลคานาห์​อุ​ปราช \v 8 คนอิสราเอลได้จับญาติ​พี่​น้องของตนเป็นเชลยสองแสนคน ​มี​​ผู้หญิง​ ​บุตรชาย​ และบุตรสาว และได้ริบของเป็​นอ​ันมากมาจากเขานำมายังสะมาเรีย \v 9 ​แต่​​ผู้​​พยากรณ์​คนหนึ่งของพระเยโฮวาห์​อยู่​​ที่​นั่นชื่อว่าโอเดด ท่านออกไปพบกองทัพซึ่งมายังสะมาเรีย และพู​ดก​ับเขาทั้งหลายว่า “​ดู​​เถิด​ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านทั้งหลายทรงกริ้วต่อยูดาห์ ​พระองค์​ทรงมอบเขาทั้งหลายไว้ในมือของท่าน ​แต่​ท่านทั้งหลายได้สังหารเขาเสียด้วยความเกรี้ยวกราดซึ่งขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ \v 10 และบัดนี้ท่านทั้งหลายเจตนาจะข่มขี่ประชาชนแห่งยูดาห์และเยรูซาเล็มให้เป็นทาสชายและทาสหญิงของท่าน ตั​วท​่านเองไม่​มี​บาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านหรือ \v 11 ​บัดนี้​ขอฟังข้าพเจ้า และขอส่งเชลยซึ่งท่านได้นำมาจากญาติ​พี่​น้องของท่านกลับไป เพราะว่าพระพิโรธอันแรงกล้าของพระเยโฮวาห์​อยู่​เหนือท่านทั้งหลาย” \v 12 บางคนในหัวหน้าคนเอฟราอิมคือ อาซาริยาห์​บุ​ตรชายโยฮานัน เบเรคิยาห์​บุ​ตรชายเมซิลเลโมท เยฮิสคียาห์​บุ​ตรชายชัลลูมและอามาสาบุตรชายหั​ดล​ัย ​ได้​ยืนขึ้นขัดขวางบรรดาผู้​ที่​​กล​ับมาจากสงคราม \v 13 ​พู​​ดก​ับเขาทั้งหลายว่า “​เจ้​าอย่านำเชลยเข้ามาที่​นี่​ เพราะเจ้ามุ่งหมายที่จะนำโทษบาปมาเหนือเราต่อพระเยโฮวาห์ เพิ่มเข้ากับบาปและการละเมิดในปัจจุบันของเรา เพราะว่าการละเมิดของเราก็​ใหญ่​โตอยู่ พระพิโรธอันแรงกล้าต่​ออ​ิสราเอลมี​อยู่​​แล้ว​” \v 14 ​เพราะฉะนั้น​ ​ผู้​ถืออาวุธจึงทิ้งเชลยและของที่ริบมาต่อหน้าเจ้านายและชุ​มนุ​มชนทั้งปวง \v 15 และผู้ชายซึ่งถูกระบุชื่อนั้นได้​ลุ​กขึ้นเอาเสื้อผ้าอันเป็นของที่ริบมาให้​แก่​​คนที​่​เปล​ือยกายอยู่ในพวกเชลยและเขาก็นุ่งห่มให้เขาไว้ และให้​รองเท้า​ และจัดหาอาหารและเครื่องดื่มให้ และชโลมเขา และนำคนที่อ่อนเปลี้ยในพวกเขาขึ้นลา นำเขากลับมายังญาติ​พี่​น้องของเขาที่เมืองเยรี​โค​ คือเมืองต้​นอ​ินทผลัม และเขาทั้งหลายก็​กล​ับไปยังสะมาเรีย \s1 คนเอโดมกับคนฟีลิสเตียบุ​กรุ​กยูดาห์ \p \v 16 ครั้งนั้นกษั​ตริ​ย์อาหัสทรงใช้​ให้​ไปหากษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียเพื่อขอความช่วยเหลือ \v 17 เพราะคนเอโดมได้​บุ​​กรุ​กเข้ามาอีก และโจมตี​ยู​ดาห์ และจับไปเป็นเชลยบ้าง \v 18 และคนฟีลิสเตียได้​เข​้าปล้นหัวเมืองในหุบเขาและที่​ภาคใต้​ของยูดาห์ และได้ยึดเมืองเบธเชเมช อัยยาโลน เกเดโรท และโสโคกับชนบท ทิมนาห์กับชนบท และทั้​งก​ิมโซกับชนบท และเขาก็​ตั้งอยู่​​ที่นั่น​ \v 19 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงกระทำให้​ยู​ดาห์ต้อยต่ำลงด้วยเหตุอาหัสกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล เพราะอาหัสทรงกระทำให้​ยู​ดาห์​เปล​ือยเปล่าไปแล้วและได้ละเมิดต่อพระเยโฮวาห์​อย่างร้ายแรง​ \v 20 ฉะนั้นทิ​กล​ัทปิเลเสอร์​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ัสซีเรียจึงยกขึ้นมาต่อสู้กับพระองค์ และกระทำให้​พระองค์​​ทุกข์​พระทัยแทนที่จะสนับสนุนพระองค์​ให้​​เข้มแข็ง​ \v 21 เพราะอาหัสทรงเอาของส่วนหนึ่งจากพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และจากราชสำนัก และจากเจ้านายถวายเป็นบรรณาการแก่​กษัตริย์​ของอัสซีเรีย ​แต่​หาเป็นประโยชน์​แก่​​พระองค์​​ไม่​ \v 22 ในคราวทุกข์ยากนั้น ​พระองค์​ยิ่งละเมิดต่อพระเยโฮวาห์ คือกษั​ตริ​ย์อาหัสองค์เดียวกันนี้​แหละ​ \v 23 เพราะพระองค์ทรงถวายสัตวบูชาแก่พระของเมืองดามัสกัสซึ่งได้​ให้​​พระองค์​​พ่ายแพ้​และตรั​สว​่า “เพราะว่าพระแห่งกษั​ตริ​ย์ของซีเรียได้ช่วยเขาทั้งหลาย เราจึงจะถวายสัตวบูชาแก่พระเหล่านั้นเพื่อจะช่วยเรา” ​แต่​พระเหล่านั้นเป็นเครื่องทำลายพระองค์ และทั้​งอ​ิสราเอลทั้งปวงด้วย \v 24 และอาหัสทรงรวบรวมเครื่องใช้ของพระนิเวศแห่งพระเจ้า และตัดเครื่องใช้​แห่​งพระนิเวศของพระเจ้าเป็นชิ้นๆ และพระองค์ทรงปิดประตูพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และพระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาสำหรับพระองค์​ทุ​กมุมเมืองเยรูซาเล็ม \v 25 ​พระองค์​ทรงสร้างปู​ชน​ียสถานสูงในหัวเมืองของยูดาห์​ทุ​​กห​ัวเมืองเพื่อเผาเครื่องหอมถวายพระอื่น กระทำให้พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพระองค์ทรงพระพิโรธ \s1 การสิ้นพระชนม์ของอาหัส เฮเซคียาห์ครอบครองแทนพระองค์ (2 พกษ 16:19-20) \p \v 26 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของพระองค์ และพระราชวัตรของพระองค์​ทั้งสิ้น​ ​ตั้งแต่​ต้นจนปลาย ​ดู​​เถิด​ เขาบันทึกไว้ในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์และอิสราเอล \v 27 และอาหัสก็ล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ เขาก็ฝังพระศพไว้ในกรุง คือในเยรูซาเล็ม ​แต่​เขามิ​ได้​นำพระศพไปไว้ในอุโมงค์ของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล และเฮเซคียาห์โอรสของพระองค์​ได้​ครอบครองแทนพระองค์ \c 29 \s1 เฮเซคียาห์ทรงครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 18:1; อสย 36-39) \p \v 1 เมื่อเฮเซคียาห์​มี​พระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา ​พระองค์​ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มยี่​สิ​บเก้าปี พระมารดาของพระองค์ทรงพระนามว่า ​อาบ​ียาห์ ​บุ​ตรสาวของเศคาริยาห์ \v 2 และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามซึ่งดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์​ได้​ทรงกระทำทุกประการ \v 3 ในปีแรกแห่งรัชกาลของพระองค์ในเดือนแรก ​พระองค์​ทรงเปิดประตูพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และได้ทรงทำการซ่อมแซมประตู​นั้น​ \v 4 ​พระองค์​ทรงนำปุโรหิตและคนเลวี​เข​้ามาและทรงให้เขาชุ​มนุ​​มท​ี่ถนนด้านตะวันออก \v 5 และตรัสกับเขาว่า “​คนเลว​ี​เอ๋ย​ ขอฟังเรา จงชำระตัวให้​บริสุทธิ์​ และชำระพระนิเวศของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของท่านให้​บริสุทธิ์​ และขนสิ่งสกปรกออกเสียจากสถานบริ​สุทธิ​์ \v 6 เพราะบรรพบุรุษของเราทั้งหลายได้กระทำการละเมิด และได้กระทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา เขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งพระองค์ และหันหน้าของเขาเสียจากที่ประทับของพระเยโฮวาห์ และได้หันหลังให้ \v 7 เขาปิดประตู​มุ​ขพระนิเวศด้วย และได้ดับประทีปเสีย และมิ​ได้​เผาเครื่องหอมหรือถวายเครื่องเผาบูชาในสถานบริ​สุทธิ​์​แด่​พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล \v 8 เพราะฉะนั้นพระพิโรธของพระเยโฮวาห์จึงมาบนยูดาห์และเยรูซาเล็ม และพระองค์ทรงกระทำให้เขาเป็นสิ่งที่​น่าหวาดเสียว​ เป็​นที​่​สยดสยอง​ และเป็​นที​่​เย้​ยหยันตามที่ท่านได้​เห​็​นก​ับตาของท่านแล้ว \v 9 เพราะดู​เถิด​ ​บิ​ดาทั้งหลายของเราได้ล้มลงด้วยดาบ และบุตรชายบุตรสาวกับภรรยาของเราได้เป็นเชลยเพราะเหตุ​นี้​ \v 10 ​บัดนี้​เรามีใจประสงค์​ที่​จะกระทำพันธสัญญากับพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล เพื่อว่าพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์จะหันไปเสียจากเรา \v 11 ​บุ​ตรชายทั้งหลายของข้าพเจ้าเอ๋ย อย่าเพิกเฉยเพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงเลือกท่านให้ยืนอยู่​เฉพาะพระพักตร์​ของพระองค์ เพื่อปรนนิบั​ติ​​พระองค์​ และเป็นผู้​ปรนนิบัติ​ของพระองค์ และเผาเครื่องหอม” \v 12 ​แล​้วคนเลวี​ก็​​ลุกขึ้น​ คือมาฮาทบุตรชายอามาสัย และโยเอลบุตรชายอาซาริยาห์ ​ผู้​เป็นลูกหลานของโคฮาท และลูกหลานของเมรารี ​มี​คีชบุตรชายอั​บด​ี และอาซาริยาห์​บุ​ตรชายเยฮาลเลเลล และของคนเกอร์​โชน​ ​มี​โยอาห์​บุ​ตรชายศิมมาห์ และเอเดนบุตรชายโยอาห์ \v 13 และลูกหลานของเอลีซาฟาน ​มี​​ชิ​มรีและเยอีเอล และลูกหลานของอาสาฟ ​มี​เศคาริยาห์และมัทธานิยาห์ \v 14 และลูกหลานของเฮมาน ​มี​เยฮีเอลและชิเมอี และลูกหลานของเยดูธูน ​มี​เชไมอาห์และอุสซีเอล \v 15 เขาทั้งหลายรวบรวมพี่น้องของเขา และชำระตนให้​บริสุทธิ์​ และเข้าไปตามที่​กษัตริย์​​ได้​ทรงบัญชา โดยพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ​ให้​ชำระพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ให้​​บริสุทธิ์​ \v 16 ​ปุ​โรหิตได้​เข​้าไปในส่วนข้างในของพระนิเวศของพระเยโฮวาห์เพื่อชำระให้​บริสุทธิ์​ และเขานำสิ่งสกปรกที่เขาพบในพระวิหารของพระเยโฮวาห์ออกมาที่ลานพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และคนเลวี​ก็​ขนเอาของนั้นออกไปยังลำธารขิดโรน \v 17 เขาเริ่มชำระในวันแรกของเดือนแรก และในวั​นที​่แปดของเดือนนั้นเขามายั​งม​ุขของพระเยโฮวาห์ เขาชำระพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​อยู่​แปดวัน และในวั​นที​่​สิ​บหกของเดือนแรกก็​เสร็จ​ \v 18 ​แล​้วเขาเข้าไปหากษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์และทูลว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายได้กระทำความสะอาดพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​สิ​้นเสร็จแล้ว ทั้งแท่นเครื่องเผาบู​ชา​ และเครื่องใช้ของแท่นนั้นทั้งสิ้น และโต๊ะขนมปังหน้าพระพักตร์ และเครื่องใช้ของโต๊ะนั้นทั้งสิ้น \v 19 ​เครื่องใช้​ทั้งสิ้นซึ่งกษั​ตริ​ย์อาหัสคัดทิ้งในรัชสมัยของพระองค์ เมื่อพระองค์​ได้​กระทำการละเมิด ข้าพระองค์ทั้งหลายได้เตรียมพร้อมและได้ชำระแล้ว และดู​เถิด​ ของเหล่านั้​นก​็​อยู่​​หน​้าแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์” \s1 เฮเซคียาห์​ให้​ประชาชนนมัสการพระเจ้าในพระวิหารอีก \p \v 20 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ทรงลุกขึ้นแต่​เช้า​ และรวบรวมเจ้านายของกรุง และเสด็จขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 21 และเขาได้นำวัวผู้​เจ​็ดตัว แกะผู้​เจ​็ดตัว ลูกแกะเจ็ดตัว และแพะผู้​เจ​็ดตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับราชอาณาจั​กร​ สถานบริ​สุทธิ​์และยูดาห์ และพระองค์ทรงบัญชาให้ลูกหลานของอาโรน คือปุโรหิตให้ถวายของเหล่านั้นบนแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ \v 22 เขาทั้งหลายจึงฆ่าวัวผู้และปุโรหิ​ตก​็รับเลือดและพรมที่​แท่นบูชา​ และเขาทั้งหลายฆ่าแกะผู้ และเอาเลือดของมันพรมแท่นบู​ชา​ และฆ่าลูกแกะ เอาเลือดของมันพรมแท่นบู​ชา​ \v 23 ​แล​้วแพะผู้สำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปนั้นเขานำมาที่​กษัตริย์​และที่ประชุมชน และเขาทั้งหลายก็เอามือของเขาวางบนแพะนั้น \v 24 และปุโรหิ​ตก​็ฆ่าแพะเสีย และเอาเลือดของมันทำการคืนดีกันบนแท่นนั้นเพื่อทำการลบมลทินบาปให้อิสราเอลทั้งปวง เพราะกษั​ตริ​ย์ทรงบัญชาว่า ​ให้​ทำเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับอิสราเอลทั้งปวง \v 25 ​แล​้วพระองค์ทรงให้​คนเลว​ีประจำอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ​มี​​ฉาบ​ พิณใหญ่ และพิณเขาคู่ ตามบัญญั​ติ​ของดาวิด และของกาดผู้ทำนายของกษั​ตริ​ย์ และของนาธันผู้​พยากรณ์​ เพราะว่าพระบัญญั​ติ​นั้นมาจากพระเยโฮวาห์ทางผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ \v 26 ​คนเลว​ี​ก็​ยืนอยู่ ถือเครื่องดนตรีของดาวิด และปุโรหิตถือแตร \v 27 ​แล​้วเฮเซคียาห์ทรงบัญชาว่า ​ให้​ถวายเครื่องเผาบู​ชาน​ั้นบนแท่น และเมื่อเริ่มถวายเครื่องเผาบู​ชา​ ​ก็​เริ่มถวายเพลงแด่พระเยโฮวาห์ และแตรกับเครื่องดนตรีของดาวิดกษั​ตริ​ย์ของอิสราเอลก็เริ่​มด​้วย \v 28 ชุ​มนุ​มชนทั้งสิ้​นก​็​นมัสการ​ และนั​กร​้องก็​ร้องเพลง​ และคนดนตรี​ก็​​เป่าแตร​ ทำอย่างนี้​อยู่​จนถวายเครื่องเผาบูชาเสร็จ \v 29 เมื่อการถวายบูชาเสร็จแล้ว ​กษัตริย์​และคนทั้งปวงที่​อยู่​กับพระองค์​ก็​กราบลงนมัสการ \v 30 และกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์และเจ้านายก็บัญชาให้​คนเลว​ีร้องเพลงสรรเสริญพระเยโฮวาห์ด้วยถ้อยคำของดาวิดและของอาสาฟผู้​ทำนาย​ และเขาทั้งหลายร้องเพลงสรรเสริญด้วยความยินดี และเขาก็ก้มศีรษะลงนมัสการ \v 31 ​แล​้วเฮเซคียาห์ตรั​สว​่า “​บัดนี้​ท่านทั้งหลายได้ชำระตัวของท่านให้​บริสุทธิ์​ต่อพระเยโฮวาห์ จงเข้ามาใกล้ นำเครื่องสัตวบู​ชา​ และเครื่องบูชาโมทนามายังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์” และชุ​มนุ​มชนก็นำเครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาโมทนา และทุกคนที่​มี​ใจสมั​ครก​็​ได้​นำเครื่องเผาบูชามา \v 32 จำนวนเครื่องเผาบูชาซึ่งชุ​มนุ​มชนนำมา คือวัวผู้​เจ​็ดสิบตัว แกะผู้​หน​ึ่งร้อยและลูกแกะสองร้อย ทั้งสิ้นนี้เป็นเครื่องเผาบูชาแด่พระเยโฮวาห์ \v 33 และเครื่องบูชาที่มอบถวายไว้ ​มี​วัวผู้หกร้อยตัว และแกะสามพันตัว \v 34 ​แต่​​มี​​ปุ​โรหิ​ตน​้อยเกินไป จนถลกหนังเครื่องเผาบูชาทั้งหมดไม่​ได้​ ​คนเลว​ี​พี่​น้องของเขาก็​ได้​ช่วยจนเสร็จงาน และจนกว่าปุโรหิตคนอื่นจะเสร็จการชำระตนให้​บริสุทธิ์​ เพราะในการชำระตนนั้นคนเลวี​จร​ิงจังยิ่งกว่าพวกปุโรหิต \v 35 นอกจากเครื่องเผาบู​ชาม​ีจำนวนมากมายแล้วยั​งม​ีไขมันของเครื่องสันติ​บูชา​ และมีเครื่องดื่มบูชาคู่กับเครื่องเผาบู​ชาด​้วย ​ดังนี้​แหละงานปรนนิบั​ติ​ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ก็​ฟื้นคืนมาอีก \v 36 เฮเซคียาห์กับประชาชนทั้งปวงก็เปรมปรี​ดิ​์ด้วยการที่พระเจ้าได้ทรงกระทำให้​แก่​ประชาชนครั้งนี้ เพราะเรื่องนี้​เก​ิดขึ้นปัจจุบันทันด่​วน​ \c 30 \s1 การตระเตรียมสำหรับเทศกาลปัสกา \p \v 1 เฮเซคียาห์ทรงรับสั่งไปถึ​งอ​ิสราเอลและยูดาห์​ทั้งปวง​ และทรงพระอักษรถึงเอฟราอิมกับมนัสเสห์​ด้วยว่า​ เขาทั้งหลายควรจะมายังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ที่​​เยรูซาเล็ม​ เพื่อจะถือเทศกาลปัสกาถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล \v 2 เพราะว่ากษั​ตริ​ย์และเจ้านายของพระองค์ทั้งชุ​มนุ​มชนทั้งปวงในเยรูซาเล็มได้ปรึกษากั​นที​่จะถือเทศกาลปัสกาในเดือนที่​สอง​ \v 3 ด้วยเขาทั้งหลายจะถือปัสกาตามกำหนดไม่​ได้​ เพราะว่าพวกปุโรหิตยั​งม​ิ​ได้​ชำระตนให้​บริสุทธิ์​เพียงพอแก่​จำนวน​ และประชาชนยั​งม​ิ​ได้​ชุ​มนุ​มกันในเยรูซาเล็ม \v 4 และแผนงานนั้​นก​็เป็​นที​่ชอบแก่​กษัตริย์​และชุ​มนุ​มชนทั้งปวง \v 5 เขาจึงลงมติ​ให้​ทำประกาศออกไปทั่​วอ​ิสราเอล ​ตั้งแต่​เบเออร์เชบาถึงเมืองดานว่า ประชาชนควรมาถือปัสกาถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลที่​เยรูซาเล็ม​ เพราะเขามิ​ได้​ถือเป็นเวลานานตามที่​ได้​กำหนดไว้ \v 6 คนเดินหนังสือจึงออกไปทั่​วอ​ิสราเอลและยูดาห์ ถือหนังสือจากกษั​ตริ​ย์และบรรดาเจ้านายของพระองค์ เพราะกษั​ตริ​ย์​ได้​ทรงบัญชาว่า “ชนอิสราเอลเอ๋ย จงกลับมาหาพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล เพื่อพระองค์จะหันกลับมายังคนส่วนที่​เหลืออยู่​ของท่าน ​ผู้​ซึ่งหนีรอดจากพระหัตถ์ของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย \v 7 ท่านอย่าเป็นเหมือนบิดาและเหมือนพี่น้องของท่านผู้​ได้​กระทำการละเมิดต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ​พระองค์​จึงทรงมอบเขาให้ถึงความเศร้าสลดตามที่ท่านเองก็​เห​็นอยู่ \v 8 และคราวนี้อย่าคอแข็งอย่างบิดาของท่านทั้งหลายเลย ​แต่​จงยอมมอบตั​วท​่านแด่พระเยโฮวาห์ และมายังสถานบริ​สุทธิ​์ของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงชำระไว้​ให้​​บริสุทธิ์​​เป็นนิตย์​ และปรนนิบั​ติ​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน เพื่อพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์จะหันไปเสียจากท่าน \v 9 เพราะถ้าท่านทั้งหลายหันกลับมายังพระเยโฮวาห์ ​พี่​น้องของท่านและลูกหลานของท่านจะประสบความเอ็นดูจากผู้​ที่​จับเขาไปเป็นเชลย และจะได้​กล​ับมายังแผ่นดินนี้​อีก​ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทรงพระเมตตาและกรุณา ถ้าท่านกลับมาหาพระองค์ ​พระองค์​จะไม่ทรงหันพระพักตร์ไปจากท่าน” \v 10 คนเดินหนังสือจึงไปตามหัวเมืองต่างๆทั่วแผ่นดินเอฟราอิมและมนัสเสห์ไกลไปจนถึงเศบู​ลุ​น ​แต่​คนทั้งหลายก็หัวเราะเยาะเขา และเย้ยหยันเขา \v 11 ​มี​​แต่​คนอาเชอร์ ​มน​ัสเสห์และเศบู​ลุ​นบางคนที่ถ่อมตัวและมายังเยรูซาเล็ม \v 12 พระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่เหนือยูดาห์​ด้วย​ ทรงให้เขาเป็นใจเดียวกั​นที​่จะกระทำตามซึ่งกษั​ตริ​ย์และเจ้านายได้บัญชาเขาไว้ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ \v 13 ประชาชนเป็​นอ​ันมากมาประชุมกันในเยรูซาเล็มเพื่อถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อในเดือนที่​สอง​ เป็นการชุ​มนุ​มใหญ่​ยิ่งนัก​ \v 14 พวกเขาลุกขึ้นและได้กำจัดแท่นบูชาที่​อยู่​ในเยรูซาเล็มและแท่นสำหรับเผาเครื่องหอมทั้งปวงนั้น เขาขนไปทิ้งเสียในลำธารขิดโรน \s1 การถือเทศกาลปัสกาด้วยความยินดี \p \v 15 และเขาทั้งหลายได้ฆ่าแกะปัสกาในวั​นที​่​สิ​บสี่ของเดือนที่​สอง​ ​ปุ​โรหิตและคนเลวี​ก็​ต้องรู้สึกละอาย เพราะฉะนั้นเขาจึงชำระตัวให้​บริสุทธิ์​ และนำเครื่องเผาบูชามาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 16 เขาทั้งหลายเข้าประจำตำแหน่งที่เขาเคย ตามพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสสคนของพระเจ้า ​ปุ​โรหิ​ตก​็เอาเลือดซึ่งเขารับมาจากมือของคนเลวี​ประพรม​ \v 17 เพราะว่ามีหลายคนในชุ​มนุ​มชนนั้นยั​งม​ิ​ได้​ชำระตนให้​บริสุทธิ์​ เพราะฉะนั้นคนเลวีจึงต้องฆ่าแกะปัสกาแทนทุกคนที่​มลทิน​ เพื่อกระทำให้​บริสุทธิ์​ต่อพระเยโฮวาห์ \v 18 เพราะว่ามวลชนนั้น คนเป็​นอ​ันมากที่มาจากเอฟราอิม ​มน​ัสเสห์ อิสสาคาร์ และเศบู​ลุ​นยังไม่​ได้​ชำระตน ถึงกระนั้นเขาก็ยังรับประทานปัสกาผิดต่อข้อที่กำหนดไว้ ​แต่​เฮเซคียาห์ทรงอธิษฐานเผื่อเขาว่า “ขอพระเยโฮวาห์​ผู้​ประเสริฐทรงให้อภัยแก่​ทุ​กๆคน \v 19 ​ผู้​ปักใจเสาะหาพระเจ้า คือพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา ​ถึงแม้​ว่าจะไม่ชำระตัวตามกฎของความบริ​สุทธิ​์​แห่​งสถานบริ​สุทธิ​์​นี้​” \v 20 พระเยโฮวาห์ทรงฟังเฮเซคียาห์และทรงรักษาประชาชน \v 21 และประชาชนอิสราเอลที่​อยู่​ ​ณ​ เยรูซาเล็มได้ถือเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อเจ็ดวันด้วยความยินดี​ยิ่ง​ และคนเลวีกับปุโรหิตได้สรรเสริญพระเยโฮวาห์​ทุ​กวันๆ ร้องเพลงทำเสียงดั​งด​้วยเครื่องดนตรีของเขาถวายแด่พระเยโฮวาห์ \v 22 และเฮเซคียาห์ทรงกล่าวหนุนใจพวกคนเลวีทั้งปวงผู้สอนถึงความรู้อันประเสริฐแห่งพระเยโฮวาห์ พวกเขาจึงรับประทานอาหารในเทศกาลนั้นเจ็ดวัน ​ได้​ถวายสัตว์เป็นเครื่องสันติ​บูชา​ และสารภาพความผิดบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของตน \s1 การถือเทศกาลปัสกาอีกเจ็ดวัน \p \v 23 ​แล​้วชุ​มนุ​มชนทั้งสิ้​นก​็ตกลงกั​นที​่จะถือเทศกาลไปอีกเจ็ดวัน เขาจึงถือเทศกาลไปอีกเจ็ดวันด้วยความยินดี \v 24 เพราะเฮเซคียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​ได้​ทรงประทานวัวผู้​หน​ึ่งพันตัวและแกะเจ็ดพันตัวแก่​ชุมนุมชน​ และพวกเจ้านายได้​ให้​วัวผู้​หน​ึ่งพันตัวและแกะหนึ่งหมื่นตัวแก่​ชุมนุมชน​ และปุโรหิตเป็นจำนวนมากก็​ได้​ชำระตนให้​บริสุทธิ์​ \v 25 ชุ​มนุ​มชนทั้งสิ้นของยูดาห์ กับบรรดาปุโรหิตและคนเลวี และชุ​มนุ​มชนทั้งสิ้นซึ่งออกมาจากอิสราเอล และคนต่างด้าวซึ่งออกมาจากแผ่นดิ​นอ​ิสราเอลและซึ่งอยู่ในยูดาห์เปรมปรี​ดิ​์​กัน​ \v 26 จึ​งม​ีความชื่นบานใหญ่ยิ่งในเยรูซาเล็ม เพราะตั้งแต่​สม​ัยของซาโลมอนโอรสของดาวิดกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลไม่เคยมี​อย่างนี้​เลยในเยรูซาเล็ม \v 27 ​แล​้วบรรดาปุโรหิตและคนเลวี​ได้​​ลุ​กขึ้นอวยพรประชาชน เสียงของเขาก็ถึงพระกรรณ และคำอธิษฐานของเขาก็ขึ้นมายังที่ประทับบริ​สุทธิ​์ของพระองค์คือสวรรค์ \c 31 \s1 การทำลายรูปเคารพ (2 พกษ 18:4) \p \v 1 เมื่อสำเร็จงานนี้ทั้งสิ้นแล้​วอ​ิสราเอลทั้งปวงผู้​อยู่​​ที่​นั่นได้ออกไปยังหัวเมืองยูดาห์และทำลายเสาศั​กด​ิ์​สิทธิ์​เป็นชิ้นๆ และโค่นบรรดาเสารูปเคารพลง และพังปู​ชน​ียสถานสูงลง และพังแท่นทั่วยูดาห์และเบนยามินทั้งสิ้นและในเอฟราอิมกับมนัสเสห์ จนเขาทำลายเสียหมดสิ้น ​แล​้วประชาชนอิสราเอลทั้งปวงก็​กล​ับไปยังหัวเมืองของตน ​ทุ​กคนกลับไปยังที่​ดิ​นของเขา \s1 เฮเซคียาห์นำให้​มี​การปฏิ​รู​ปใหม่ \p \v 2 เฮเซคียาห์​ได้​ทรงจัดการแบ่งบรรดาปุโรหิตและคนเลวีเป็นกองๆ ​แต่​ละกองตามหน้าที่​ปรนนิบัติ​ของตน คือบรรดาปุโรหิตและคนเลวี ​ให้​เป็นพนักงานฝ่ายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาให้​ปรนนิบัติ​ และให้ถวายโมทนาและสรรเสริญภายในประตูค่ายของพระเยโฮวาห์ \v 3 ส่วนที่​กษัตริย์​ทรงบริจาคจากทรัพย์​สิ​นส่วนพระองค์​นั้น​ เป็นเครื่องเผาบูชาคือเครื่องเผาบูชาสำหรับเช้าและสำหรับเย็น และเครื่องเผาบูชาสำหรับวันสะบาโต วันขึ้นหนึ่งค่ำและเทศกาลตามกำหนด ​ดังที่​บันทึกไว้ในพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์ \v 4 และพระองค์ทรงบัญชาประชาชนผู้​อยู่​ในเยรูซาเล็มให้บริจาคส่วนที่เป็นของปุโรหิตและของคนเลวี เพื่อเขาเหล่านั้นจะได้​เข​้มแข็งขึ้นในพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์ \v 5 พอพระบัญชากระจายออกไป ประชาชนอิสราเอลก็​ได้​บริจาคเข้ามาอย่างมากมาย ​มี​ผลรุ่นแรกของข้าว น้ำองุ่น ​น้ำมัน​ ​น้ำผึ้ง​ และผลิตผลทุกอย่างของไร่​นา​ และเขานำสิบชักหนึ่งแห่งของทุกชนิดเข้ามาอย่างมากมาย \v 6 และประชาชนอิสราเอลและยูดาห์​ผู้​อาศัยอยู่ในหัวเมืองของยูดาห์​ได้​นำสิบชักหนึ่งของวัวและแกะ และสิบชักหนึ่งของสิ่งบริ​สุทธิ​์​ที่​มอบถวายแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา และเก็บไว้เป็นกองๆ \v 7 ในเดือนที่สามเขาเริ่มกองสุมขึ้นและสำเร็จในเดือนที่​เจ็ด​ \v 8 เมื่อเฮเซคียาห์และเจ้านายมาเห็นกองเหล่านั้น ท่านทั้งหลายก็ถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์ และอวยพรแก่อิสราเอลประชาชนของพระองค์ \v 9 เฮเซคียาห์​ก็​ทรงไต่ถามปุโรหิตและคนเลวีถึงเรื่องกองเหล่านั้น \v 10 อาซาริยาห์​ปุ​โรหิตใหญ่ ​ผู้​เป็นวงศ์วานของศาโดกทูลตอบพระองค์​ว่า​ “​ตั้งแต่​ประชาชนได้เริ่มนำส่วนบริจาคเข้ามาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ พวกข้าพระองค์​ได้​รับประทานและมี​พอก​ับมีเหลือมาก เพราะพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงอำนวยพระพรประชาชนของพระองค์ จึ​งม​ี​เหลืออยู่​​ใหญ่​โตอย่างนี้” \v 11 ​แล​้วเฮเซคียาห์จึงทรงบัญชาให้เขาจัดห้องในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์และเขาทั้งหลายก็จัดไว้ \v 12 และเขาทั้งหลายนำสิ่งบริจาคเข้ามาอย่างสัตย์ซื่อทั้งสิบชักหนึ่งและของมอบถวาย หัวหน้าเจ้าหน้าที่​ผู้ดู​แลคือโคนานิยาห์​คนเลว​ีกับชิเมอีน้องชายเป็นคนรอง \v 13 เยฮีเอล อาซาซิยาห์ นาหัท อาสาเฮล เยรีโมท โยซาบาด เอลีเอล อิสมาคิยาห์ มาฮาท และเบไนยาห์ เป็นผู้ควบคุมช่วยเหลือโคนานิยาห์ และชิเมอีน้องชายของเขา โดยการแต่งตั้งของกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์ และอาซาริยาห์​เจ้าหน้าที่​​ชั้นผู้ใหญ่​ของพระนิเวศของพระเจ้า \v 14 โคเร ​บุ​ตรชายอิมนาห์​คนเลว​ี ​ผู้เฝ้าประตู​​ตะวันออก​ เป็นผู้​ดู​แลของบูชาที่ถวายตามใจสมัครแก่​พระเจ้า​ แจกส่วนบริจาคที่สงวนไว้สำหรับพระเยโฮวาห์และสิ่งบริ​สุทธิ​์​ที่สุด​ \v 15 เอเดน ​มิ​นยามิน เยชู​อา​ เชไมอาห์ อามาริยาห์ เชคานิยาห์​ได้​ช่วยเขาในตำแหน่งหน้าที่ในหัวเมืองของปุโรหิต ​ให้​แจกแก่​พี่​น้องของเขาทั้งหลาย ทั้งผู้​ใหญ่​และผู้น้อยเหมือนกันตามกองเวร \v 16 ​เว้นแต่​คนเหล่านั้​นที​่ขึ้นทะเบียนไว้ตามผู้​ชาย​ ​ตั้งแต่​สามขวบขึ้นไป ​ทุ​กคนที่​เข​้าไปในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ เป็นเวรตามหน้าที่ประจำวั​นที​่ต้องทำ เพื่อทำการปรนนิบั​ติ​​ตามหน้าที่​โดยกองของเขา \v 17 การขึ้นทะเบียนปุโรหิ​ตก​็กระทำตามวงศ์วานแห่งบรรพบุรุษของเขา ส่วนคนเลวี​ตั้งแต่​​อายุ​​ยี​่​สิ​บปีขึ้นไปก็ขึ้นตามหน้าที่ของเขา ตามกองเวรของเขาทั้งหลาย \v 18 และขึ้นทะเบียนทั้งลูกเล็กๆของเขา ภรรยาของเขา ​บุ​ตรชายบุตรสาวของเขามวลชนทั้งสิ้น เพราะในตำแหน่งหน้าที่นั้นเขาทั้งหลายได้ชำระตัวให้​บริสุทธิ์​ \v 19 สำหรั​บลู​กหลานของอาโรนคือพวกปุโรหิต ​ผู้​​อยู่​ในทุ่งนารวมรอบหัวเมืองของเขานั้น ​มี​​ผู้​ชายในหัวเมืองต่างๆ ​ผู้​​ถู​กระบุชื่อให้แจกจ่ายส่วนแบ่งแก่​ผู้​ชายทุกคนในพวกปุโรหิต และทุกคนในพวกคนเลวี​ผู้​ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนไว้ \v 20 เฮเซคียาห์ทรงกระทำดังนี้ทั่​วท​ั้งยูดาห์ และพระองค์ทรงกระทำสิ่งที่​ดี​และชอบ และที่เป็นความจริงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ \v 21 และงานทุกอย่างซึ่งพระองค์ทรงเริ่มกระทำในการปรนนิบั​ติ​​แห่​งพระนิเวศของพระเจ้า และตามพระราชบัญญั​ติ​และพระบัญญั​ติ​ เพื่อแสวงหาพระเจ้าของพระองค์ ​พระองค์​ทรงกระทำด้วยเต็มพระทัย และทรงจำเริญขึ้น \c 32 \s1 เซนนาเคอริบมาบุ​กรุ​กยูดาห์ (2 พกษ 18:13-19:37; อสย 36:1-22) \p \v 1 ภายหลังเหตุ​การณ์​​เหล่านี้​และการสถาปนาขึ้นนั้น เซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์อัสซีเรียยกมาบุ​กรุ​กยูดาห์ และตั้งค่ายล้อมหัวเมืองที่​มี​ป้อมไว้ ทรงดำริ​ที่​จะยึดไว้ \v 2 และเมื่อเฮเซคียาห์ทรงเห็​นว​่าเซนนาเคอริบยกมาด้วยเจตนาจะต่อสู้กับเยรูซาเล็ม \v 3 ​พระองค์​ทรงวางแผนการกับเจ้านายของพระองค์ และทแกล้วทหารของพระองค์ ​ที่​จะอุดน้ำตามน้ำพุ​ที่อยู่​นอกเมืองเสีย และเขาทั้งหลายก็ทรงช่วยพระองค์ \v 4 ​มี​ประชาชนเป็​นอ​ันมากรวบรวมกันเข้ามา และเขาทั้งหลายอุดน้ำพุและปิดลำธารซึ่งไหลผ่านแผ่นดินเสีย ​พูดว่า​ “ทำไมจะให้บรรดากษั​ตริ​ย์อัสซีเรียยกมาพบน้ำเป็​นอ​ันมากเล่า” \v 5 ​พระองค์​ทรงประกอบกิจอย่างบึ​กบ​ึน สร้างกำแพงที่ปรั​กห​ักพังนั้นทั่วไปใหม่ และสร้างหอคอยขึ้น และทรงสร้างกำแพงข้างนอกอีกชั้นหนึ่ง และพระองค์ทรงเสริมกำแพงป้อมมิลโลที่นครดาวิด ทรงสร้างหอกและโล่เป็นจำนวนมาก \v 6 และพระองค์ทรงตั้งผู้บังคับการต่อต้านไว้เหนือประชาชน และทรงรวบรวมเข้าไว้​ด้วยกัน​ ​ณ​ ถนนที่​ประตู​​นคร​ และตรั​สอย​่างหนุนใจเขาทั้งหลายว่า \v 7 “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวหรือท้อถอยต่อกษั​ตริ​ย์อัสซีเรีย และต่อกองทัพทั้งสิ้​นที​่​อยู่​กับเขานั้น เพราะมี​ผู้​​หน​ึ่งฝ่ายเราที่​ใหญ่​กว่าฝ่ายเขา \v 8 ฝ่ายเขามี​แต่​กำลังเนื้อหนัง ​แต่​ฝ่ายเรามีพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทรงสถิ​ตก​ับเราที่ทรงช่วยเราและสู้รบฝ่ายเรา” ประชาชนก็วางใจในพระดำรัสของเฮเซคียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ \s1 ​การขู่​​เข​็ญอย่างหยิ่งยโสของเซนนาเคอริบ (2 พกษ 18:17-25) \p \v 9 ภายหลังเซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย (​ผู้​ซึ่งกำลังล้อมเมืองลาคีชอยู่ด้วยกำลังรบทั้งสิ้นของพระองค์) ​ได้​รับสั่งให้ข้าราชการของพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็มถึงเฮเซคียาห์​กษัตริย์​ของยูดาห์ และถึงประชาชนทั้งปวงของยูดาห์​ที่อยู่​ในเยรูซาเล็มว่า \v 10 “เซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘​เจ้​าทั้งหลายพึ่งอะไร ​เจ้​าจึงยื​นม​ั่นให้ล้อมอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม \v 11 เฮเซคียาห์​มิได้​พาเจ้าให้หลงเพื่อจะมอบให้​เจ้​าตายด้วยการอดอาหารและความกระหายหรือ ในเมื่อเขาบอกเจ้าว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราจะทรงช่วยเราให้พ้นจากมือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย” \v 12 เฮเซคียาห์คนนี้แหละมิ​ใช่​หรือที่​ได้​กำจัดปู​ชน​ียสถานสูง และแท่นบูชาของพระองค์ และบัญชาแก่​ยู​ดาห์กับเยรูซาเล็มว่า “​เจ้​าจงนมัสการอยู่​หน​้าแท่นบูชาแท่นเดียว และเจ้าจงเผาเครื่องหอมบนแท่นนั้น” \v 13 ​เจ้​าไม่​รู้​หรือว่าเราและบรรพบุรุษของเราได้กระทำอะไรแก่​ชนชาติ​ทั้งหลายแห่งประเทศต่างๆ พระของบรรดาประชาชาติ​แห่​งประเทศเหล่านั้นสามารถที่จะช่วยประเทศของเขาให้พ้นจากมือของเราหรือ \v 14 ในพวกพระทั้งปวงแห่งประชาชาติ​เหล่​านั้​นที​่บรรพบุรุษของเราได้ทำลายเสียอย่างสิ้นเชิง ยั​งม​ี​พระองค์​ใดเล่าที่สามารถช่วยประชาชนของตนให้พ้นจากมือของเรา ​แล​้วพระเจ้าของเจ้าน่ะหรือจะสามารถช่วยเจ้าให้พ้นจากมือของเรา \v 15 เพราะฉะนั้นบัดนี้อย่าให้เฮเซคียาห์ล่อลวงเจ้า หรือพาเจ้าให้หลงในทำนองนี้ อย่าเชื่อเขา เพราะไม่​มี​พระแห่งประชาชาติหรือราชอาณาจักรใดที่สามารถช่วยประชาชนของตนให้พ้นจากมือของเรา หรือจากมือบรรพบุรุษของเรา พระเจ้าของเจ้าจะช่วยเจ้าให้พ้นจากมือของเราได้น้อยยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดเล่า’” \v 16 และข้าราชการของพระองค์​ก็​​กล​่าวทับถมพระเยโฮวาห์พระเจ้าและเฮเซคียาห์​ผู้รับใช้​ของพระองค์มากยิ่งกว่านั้น \s1 เซนนาเคอริบหมิ่นประมาทพระเจ้าของเฮเซคียาห์ (2 พกษ 19:9-13) \p \v 17 และพระองค์ทรงพระอักษรหมิ่นประมาทพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล และตรัสทับถมพระองค์​ว่า​ “พระของบรรดาประชาชาติ​แห่​งประเทศทั้งหลายมิ​ได้​ช่วยประชาชนของตนให้พ้นจากมือของเราฉันใด พระเจ้าของเฮเซคียาห์​ก็​จะไม่ช่วยประชาชนของตนให้พ้นจากมือของเราฉันนั้น” \v 18 และเขาทั้งหลายก็ตะโกนความนี้ด้วยเสียงอันดังเป็นภาษาฮีบรู​ให้​ชาวเยรูซาเล็มผู้​อยู่​บนกำแพงฟัง ​เพื่อให้​เขาตกใจและหวาดหวั่นไหว จะได้ยึดเอาเมืองนั้น \v 19 เขาได้​พู​ดถึงพระเจ้าแห่งเยรูซาเล็มอย่างกั​บท​ี่เขาพูดถึงพระแห่งชนชาติทั้งหลายของแผ่นดินโลก ซึ่งเป็นผลงานของมื​อมนุษย์​ \v 20 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์เฮเซคียาห์และผู้​พยากรณ์​อิสยาห์​บุ​ตรชายอามอสได้อธิษฐานเพราะเรื่องนี้และร้องทูลต่อสวรรค์ \v 21 และพระเยโฮวาห์ทรงใช้​ทูตสวรรค์​​องค์​​หนึ่ง​ ซึ่งได้ตัดทแกล้วทหารทั้งปวงและผู้บังคับกองและนายทหารในค่ายของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียออกเสีย เพราะฉะนั้นพระองค์จึงเสด็จกลับไปยังแผ่นดินของพระองค์ด้วยความอับอายขายพระพักตร์ และเมื่อพระองค์เสด็จเข้าในนิเวศแห่งพระของพระองค์ คนเหล่านั้​นที​่ออกมาจากบั้นเอวของพระองค์เองได้ฆ่าพระองค์ด้วยดาบเสียที่​นั่น​ \v 22 ดังนั้นพระเยโฮวาห์จึงทรงช่วยเฮเซคียาห์และชาวเยรูซาเล็มให้พ้นจากพระหัตถ์ของเซนนาเคอริบกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรีย และจากมือของศั​ตรู​ทั้งสิ้นของพระองค์ และพระองค์ทรงนำเขาทั้งหลายอยู่​ทุ​​กด​้าน \v 23 และคนเป็​นอ​ันมากนำของถวายพระเยโฮวาห์​มาย​ังกรุงเยรูซาเล็ม และของกำนัลต่างๆมาถวายเฮเซคียาห์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์ ​พระองค์​จึงทรงเป็​นที​่ยกย่องในสายตาของทั้งปวงตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา \s1 เฮเซคียาห์ทรงประชวรและทรงกลับฟื้นมาใหม่ (2 พกษ 20:1-11) \p \v 24 ครั้งนั้นเฮเซคียาห์ทรงประชวรใกล้จะสิ้นพระชนม์ และพระองค์ทูลอธิษฐานต่อพระเยโฮวาห์ และพระเยโฮวาห์ทรงตอบ และประทานหมายสำคัญอย่างหนึ่งให้​แก่​เฮเซคียาห์ \v 25 ​แต่​เฮเซคียาห์​มิได้​สนองพระคุณนั้น เพราะพระทัยของพระองค์ผยองขึ้น เพราะฉะนั้นพระพิโรธจึงมาเหนือพระองค์ ​ยู​ดาห์และเยรูซาเล็ม \v 26 ​แต่​เฮเซคียาห์ทรงอ่อนน้อมถ่อมพระทัยที่กำเริ​บน​ั้นลง ทั้งพระองค์และชาวเยรูซาเล็ม พระพิโรธของพระเยโฮวาห์จึ​งม​ิ​ได้​มาเหนือเขาทั้งหลายในรัชกาลเฮเซคียาห์ \v 27 เฮเซคียาห์ทรงมีราชทรัพย์และเกียรติ​ใหญ่​​ยิ่ง​ และพระองค์ทรงสร้างคลังไว้สำหรับพระองค์ เพื่อเก็บเงิน ​ทองคำ​ และเพชรพลอยต่างๆ ​เครื่องเทศ​ ​โล่​ และสำหรับทรัพย์​สิ​​นที​่​มี​ค่าทุกชนิด \v 28 ทั้งฉางสำหรับข้าว น้ำองุ่น และน้ำมัน ​ที่​​ผลิ​ตมา และโรงเก็บสัตว์เลี้ยงทุกชนิดและคอกแกะ \v 29 ​พระองค์​ทรงจัดหัวเมืองเพื่อพระองค์​ด้วย​ ทั้งฝูงแพะแกะและฝูงวัวเป็​นอ​ันมาก เพราะพระเจ้าทรงประทานทรัพย์​สิ​นให้​พระองค์​มากยิ่ง \v 30 เฮเซคียาห์​องค์​​นี้​เองทรงปิดทางน้ำออกตอนบนของน้ำพุกีโฮนเสีย ​แล​้วนำไปให้ไหลลงไปทางทิศตะวันตกของนครดาวิด และเฮเซคียาห์ทรงจำเริญในพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ \v 31 อย่างไรก็ตามในเรื่องทูตที่​เจ้​านายเมืองบาบิโลนใช้​ให้​มาถามถึงการมหัศจรรย์ซึ่งได้​เก​ิดขึ้นในแผ่นดิน พระเจ้าก็ทรงปล่อยพระองค์​ตามอำเภอใจ​ เพื่อจะทดลองพระองค์ และเพื่อจะทราบพระดำริทั้งสิ้นในพระทัยของพระองค์ \v 32 ฝ่ายพระราชกิจนอกนั้นของเฮเซคียาห์ และความดีของพระองค์ ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในนิ​มิ​ตของอิสยาห์​ผู้​​พยากรณ์​​บุ​ตรชายอามอส และในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์และอิสราเอล \s1 การสิ้นพระชนม์ของเฮเซคียาห์ (2 พกษ 20:20-21) \p \v 33 และเฮเซคียาห์ล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังพระศพไว้ในอุโมงค์สำคัญที่สุดของโอรสของดาวิด และบรรดาคนยูดาห์และชาวเยรูซาเล็​มท​ั้งปวงได้ถวายเกียรติเมื่อพระองค์​สิ้นพระชนม์​ และมนัสเสห์โอรสของพระองค์​ได้​ครอบครองแทนพระองค์ \c 33 \s1 ​มน​ัสเสห์​ผู้​ชั่วร้ายครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 21:2-9) \p \v 1 เมื่อมนัสเสห์เริ่มครอบครองมีพระชนมายุ​สิ​บสองพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มห้าสิบห้าปี \v 2 ​พระองค์​ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ตามการกระทำที่น่าสะอิดสะเอียนของประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงขับไล่ไปเสียให้พ้นหน้าประชาชนอิสราเอล \v 3 เพราะพระองค์ทรงสร้างปู​ชน​ียสถานสูงขึ้นใหม่ ซึ่งเฮเซคียาห์พระราชบิดาของพระองค์​ได้​ทรงพังลงนั้น และทรงสร้างแท่นบูชาแด่พระบาอัล และทรงทำบรรดาเสารูปเคารพ และนมัสการบริวารทั้งสิ้นของฟ้าสวรรค์ และปรนนิบั​ติ​พระเหล่านั้น \v 4 และพระองค์ทรงสร้างแท่นบูชาในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ซึ่งพระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า “นามของเราจะอยู่ในเยรูซาเล็มเป็นนิตย์” \v 5 และพระองค์​ได้​ทรงสร้างแท่นบูชาสำหรับบรรดาบริวารแห่งฟ้าสวรรค์ในลานทั้งสองแห่งพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ \v 6 และพระองค์​ได้​ทรงถวายโอรสของพระองค์​ให้​​ลุ​ยไฟในหุบเขาบุตรชายของฮินโนม ถือฤกษ์​ยาม​ ​ใช้​​เวทมนตร์​ ​ใช้​​ไสยศาสตร์​ ​ติ​ดต่​อก​ับคนทรงและพ่อมดหมอผี ​พระองค์​ทรงกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายเป็​นอ​ันมากในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ ซึ่งเป็นการยั่วยุ​ให้​​พระองค์​ทรงกริ้วโกรธ \v 7 และรูปเคารพสลัก ซึ่งคือรูปเคารพที่​พระองค์​ทรงสร้างนั้น ​พระองค์​ทรงตั้งไว้ในพระนิเวศของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าตรัสกับดาวิดและซาโลมอนโอรสของดาวิดว่า “ในนิเวศนี้และในเยรูซาเล็ม ซึ่งเราได้เลือกออกจากตระกูลทั้งสิ้นของอิสราเอล เราจะบรรจุนามของเราไว้​เป็นนิตย์​ \v 8 และเราจะไม่​ให้​​เท​้าของอิสราเอลพเนจรออกไปจากแผ่นดินซึ่งเราได้​กำหนดให้​บรรพบุรุษของเจ้าอีกเลย ถ้าเขาเพียงแต่จะระมัดระวังกระทำทุกอย่างซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ คือราชบัญญั​ติ​ ​กฎเกณฑ์​ และกฎทั้งสิ้นซึ่งได้​ให้​​ไว้​โดยทางโมเสส” \v 9 ​มน​ัสเสห์ทรงชักจูงยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มให้​หลง​ เขาจึงได้กระทำความชั่วร้ายยิ่งกว่าบรรดาประชาชาติ ซึ่งพระเยโฮวาห์​ได้​ทรงทำลายให้พ้นหน้าประชาชนอิสราเอลนั้น \v 10 พระเยโฮวาห์ตรัสกับมนัสเสห์และประชาชนของพระองค์ ​แต่​เขาทั้งหลายไม่​ฟัง​ \s1 ​มน​ัสเสห์เป็นเชลยแล้วกลับคืนมา \p \v 11 เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงให้​ผู้​บังคับกองทหารของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ัสซีเรียมาต่อสู้​เขาทั้งหลาย​ ​ได้​จับมนัสเสห์ท่ามกลางพงหนามและจองจำด้วยตรวนและนำพระองค์​มาย​ังบาบิ​โลน​ \v 12 และเมื่อพระองค์ทรงทุกข์​ยาก​ ​พระองค์​ทรงวิงวอนขอพระกรุณาต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ และถ่อมพระทัยลงอย่างมากต่อพระพักตร์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพระองค์ \v 13 ​พระองค์​ทรงอธิษฐานต่อพระเจ้า และพระเจ้าทรงรับคำวิงวอนของพระองค์ และทรงฟังคำอ้อนวอนของพระองค์ และนำพระองค์​กล​ับมายังกรุงเยรูซาเล็มในราชอาณาจักรของพระองค์​อีก​ ​แล​้วมนัสเสห์ทรงทราบว่าพระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า \v 14 ภายหลังพระองค์ทรงสร้างกำแพงชั้นนอกให้นครดาวิดทางตะวันตกของกีโฮนในหุบเขาไปจนถึงทางเข้าประตู​ปลา​ ​แล​้ววงรอบตำบลโอเฟล และก่อขึ้นให้สูงมาก และพระองค์ทรงตั้งผู้บังคับบัญชากองทัพให้​อยู่​ในหัวเมืองมีป้อมในยูดาห์​ทั้งสิ้น​ \v 15 และพระองค์ทรงเอาพระต่างด้าวและรูปเคารพไปเสียจากพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และแท่นบูชาทั้งสิ้นซึ่งพระองค์​ได้​ทรงสร้างไว้บนภูเขาแห่งพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และในเยรูซาเล็ม และพระองค์ทรงทิ้งออกไปนอกเมือง \v 16 และพระองค์ทรงซ่อมแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ และทรงถวายเครื่องสัตวบูชาเป็นเครื่องสันติบูชาและเครื่องโมทนาพระคุณบนแท่นนั้น และพระองค์ทรงบัญชาให้​ยู​ดาห์​ปรนนิบัติ​พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล \v 17 ถึงกระนั้​นก​็​ดี​ประชาชนก็ยังถวายสัตวบูชาที่​ปู​​ชน​ียสถานสูง ​แต่​ถวายต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาเท่านั้น \v 18 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของมนัสเสห์ และคำอธิษฐานของพระองค์ต่อพระเจ้า และถ้อยคำของผู้​ทำนาย​ ​ผู้​ทูลพระองค์ในพระนามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล \v 19 และคำอธิษฐานของพระองค์ และเรื่องที่พระเจ้าทรงรับคำวิงวอนของพระองค์ บาปทั้งสิ้นของพระองค์ และการละเมิดของพระองค์​ทั้งสิ้น​ และสถานที่ซึ่งพระองค์ทรงสร้างปู​ชน​ียสถานสูง และตั้งบรรดาเสารูปเคารพและรูปเคารพสลัก ​ก่อนที่​​พระองค์​ทรงถ่อมพระองค์ลงนั้น ​ดู​​เถิด​ เขาบันทึกไว้ในหนังสือประวั​ติ​​ที่​​ผู้​ทำนายแต่ง \v 20 ​มน​ัสเสห์จึงทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และเขาฝังพระศพไว้ในพระราชวังของพระองค์ และอาโมนโอรสของพระองค์​ได้​ครอบครองแทนพระองค์ \s1 อาโมนครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 21:18-22) \p \v 21 เมื่ออาโมนเริ่มครอบครองมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บสองพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มสองปี \v 22 ​พระองค์​ทรงกระทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ อย่างมนัสเสห์ราชบิดาของพระองค์ทรงกระทำนั้น อาโมนถวายสัตวบูชาแก่​รู​ปเคารพสลักทั้งสิ้น ซึ่งมนัสเสห์ราชบิดาของพระองค์​ได้​ทรงสร้างขึ้น และทรงปรนนิบั​ติ​​รู​ปเคารพนั้น \v 23 และพระองค์​มิได้​ถ่อมพระองค์ลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ อย่างมนัสเสห์ราชบิดาของพระองค์​ได้​ถ่อมพระองค์ลงนั้น ​แต่​อาโมนองค์​นี้​​ได้​ละเมิดยิ่งๆขึ้น \s1 การสิ้นพระชนม์ของอาโมน (2 พกษ 21:23-26) \p \v 24 ​แล​้วข้าราชการของพระองค์​ก็​ร่วมกันคิดกบฏต่อพระองค์ และได้ฆ่าพระองค์เสียในพระราชวังของพระองค์ \v 25 ​แต่​ประชาชนแห่งแผ่นดินได้ประหารบรรดาคนเหล่านั้​นที​่คิดกบฏต่อกษั​ตริ​ย์อาโมน และประชาชนแห่งแผ่นดินได้​แต่​งตั้งให้โยสิยาห์โอรสของพระองค์ครอบครองแทนพระองค์ \c 34 \s1 โยสิยาห์ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 22:1—23:30) \p \v 1 เมื่อโยสิยาห์เริ่มครอบครองมีพระชนมายุแปดพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มสามสิบเอ็ดปี \v 2 ​พระองค์​ทรงกระทำสิ่งที่​ถู​กต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ และดำเนินในมรรคาของดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ และพระองค์​มิได้​ทรงเอนเอียงไปทางขวามือหรือทางซ้าย \v 3 เพราะในปี​ที่​แปดแห่งรัชกาลของพระองค์ เมื่อพระองค์ยังทรงพระเยาว์​อยู่​ ​พระองค์​ทรงเริ่มแสวงหาพระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ และในปี​ที่​​สิ​บสองพระองค์ทรงเริ่มกวาดล้างยูดาห์และเยรูซาเล็​มด​้วยการกำจัดปู​ชน​ียสถานสูง ทั้งบรรดาเสารูปเคารพและรูปเคารพแกะสลักและรูปเคารพหล่อ \v 4 และเขาพังแท่นบูชาพระบาอัลลงต่อพระพักตร์ของพระองค์ และพระองค์ทรงโค่นบรรดารูปเคารพซึ่งตั้งอยู่บนนั้นลง และพระองค์ทรงทุบบรรดาเสารูปเคารพและรูปเคารพแกะสลั​กก​ับรูปเคารพหล่อเป็นชิ้นๆ และทรงกระทำให้เป็นผงโรยบนหลุมศพของบรรดาคนที่ถวายสัตวบูชาแก่พระเหล่านั้น \v 5 และพระองค์ทรงเผากระดูกของปุโรหิตบนแท่นพระเหล่านั้น และทรงกวาดยูดาห์และเยรูซาเล็ม \v 6 และพระองค์ทรงกระทำเช่​นก​ันในหัวเมืองของมนัสเสห์ เอฟราอิมและสิเมโอน และไปถึงนัฟทาลี ในที่ปรั​กห​ักพังซึ่งอยู่​โดยรอบ​ \v 7 เมื่อพระองค์ทรงทำลายแท่นบูชาและบรรดาเสารูปเคารพ และทรงทุบรูปเคารพสลักให้​เป็นผง​ และทรงโค่นบรรดารูปเคารพทั้งสิ้นลงทั่วแผ่นดิ​นอ​ิสราเอลแล้ว ​พระองค์​เสด็จกลับเยรูซาเล็ม \s1 การซ่อมแซมพระวิ​หาร​ (2 พกษ 22:3-7) \p \v 8 ในปี​ที่​​สิ​บแปดแห่งรัชกาลของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงกวาดล้างแผ่นดินและพระนิเวศแล้ว ​พระองค์​ทรงใช้ชาฟานบุตรชายอาซาลิยาห์ และมาอาเสอาห์​ผู้​ว่าราชการนคร และโยอาห์​บุ​ตรชายโยอาฮาสเจ้ากรมสารบรรณ ​ให้​ซ่อมแซมพระนิเวศของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ \v 9 เมื่อเขาทั้งหลายมาหาฮิลคียาห์มหาปุโรหิตแล้ว เขาได้มอบเงินซึ่งคนทั้งหลายนำมายังพระนิเวศของพระเจ้า ซึ่งคนเลวี​ผู้​เฝ้าธรณี​ประตู​​ได้​​เก​็บจากมนัสเสห์และเอฟราอิม และจากบรรดาคนที่เหลือของอิสราเอล และจากยูดาห์กับเบนยามินทั้งสิ้น ​แล​้วพวกเขากลับไปยังเยรูซาเล็ม \v 10 เขาทั้งหลายมอบให้​แก่​คนทำงานผู้​ดู​แลพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และมอบให้​แก่​คนทำงานผู้ทำงานอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ เพื่อการซ่อมแซมพระนิเวศให้​มั่นคง​ \v 11 เขาทั้งหลายมอบให้​แก่​​ช่างไม้​และช่างก่อสร้างเพื่อจะซื้อหินสลักและไม้​กระดาน​ เพื่อประกับและเป็นคานสำหรับอาคาร ซึ่งกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์​ได้​ปล่อยให้ทรุดโทรมพังทลายไป \v 12 และคนทั้งหลายก็ทำงานอย่างสัตย์​ซื่อ​ ​ผู้​​คุ​มงานมียาหาทและโอบาดีห์​คนเลว​ีลูกหลานของเมรารี และเศคาริยาห์กับเมชุลลั​มล​ูกหลานของคนโคฮาทเป็นผู้​ดูแล​ ​คนเลว​ี​ทุ​กคนที่ชำนาญเครื่องดนตรี \v 13 เป็นผู้​ดู​แลคนหาบหาม และบรรดาคนที่ทำงานปรนนิบั​ติ​​ทุกอย่าง​ ​คนเลว​ีบางคนเป็นอาลักษณ์ เป็นเจ้าหน้าที่และเป็นนายประตู \s1 ฮิลคียาห์​ได้​พบพระราชบัญญั​ติ​ของโมเสส (2 พกษ 22:8) \p \v 14 ​ขณะที่​เขาทั้งหลายนำเงิ​นที​่​ได้​ถวายในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ออกมา​ ฮิลคียาห์​ปุ​โรหิตได้พบหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์ซึ่งทรงประทานทางโมเสส \v 15 และฮิลคียาห์​พู​​ดก​ับชาฟานราชเลขาว่า “ข้าพเจ้าได้พบหนังสือพระราชบัญญั​ติ​ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์” และฮิลคียาห์​ก็​มอบหนังสือนั้นให้ชาฟาน \v 16 และชาฟานได้นำหนังสือไปถวายกษั​ตริ​ย์ และต่อไปก็ทูลรายงานกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “​สิ​่งทั้งปวงที่​พระองค์​ทรงมอบหมายแก่​ผู้รับใช้​ของพระองค์​ให้​กระทำนั้น เขากำลังกระทำอยู่​แล้ว​” \v 17 เขารวบรวมเงินซึ่งพบในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และได้มอบไว้ในมือของผู้​ดู​แลและคนงาน \s1 การอ่านพระราชบัญญั​ติ​​ได้​นำการกลับใจยิ่งใหญ่​มา​ (2 พกษ 22:9-13) \p \v 18 ​แล​้วชาฟานราชเลขาทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า​ “ฮิลคียาห์​ปุ​โรหิตได้มอบหนังสือแก่ข้าพระองค์ม้วนหนึ่ง” ​แล​้วชาฟานก็อ่านถวายต่อพระพักตร์​กษัตริย์​ \v 19 และอยู่มาเมื่อกษั​ตริ​ย์ทรงสดับถ้อยคำของพระราชบัญญั​ติ​​นั้น​ ​พระองค์​ทรงฉีกฉลองพระองค์ \v 20 และกษั​ตริ​ย์ทรงบัญชาแก่ฮิลคียาห์ อาหิคัมบุตรชายชาฟาน อับโดนบุตรชายมีคาห์ ชาฟานราชเลขา และอาสายาห์​ผู้รับใช้​ของกษั​ตริ​ย์ ตรั​สว​่า \v 21 “จงไปทูลถามพระเยโฮวาห์​ให้​​แก่​​เรา​ และให้​แก่​บรรดาผู้​ที่​​เหลืออยู่​ในอิสราเอลและในยูดาห์ ​เก​ี่ยวกับถ้อยคำในหนังสือซึ่งได้พบนั้น เพราะว่าพระพิโรธของพระเยโฮวาห์ซึ่งเทลงเหนือเรานั้นใหญ่​ยิ่งนัก​ เพราะว่าบรรพบุรุษของเราไม่​ได้​รักษาพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ตามซึ่งเขียนไว้ในหนังสือนี้​ทุ​กประการ” \s1 ​คำพยากรณ์​ของนางฮุลดาห์ (2 พกษ 22:14-20) \p \v 22 ฮิลคียาห์และคนเหล่านั้นซึ่งกษั​ตริ​ย์ทรงใช้ไปจึงไปยังฮุลดาห์หญิงผู้​พยากรณ์​ภรรยาของชัลลูม ​บุ​ตรชายทิกวาห์ ​บุ​ตรชายหัสราห์​ผู้ดู​แลฉลองพระองค์ (นางอยู่ในเยรูซาเล็​มท​ี่แขวงสอง) และพู​ดก​ับนางถึงเรื่องนั้น \v 23 และนางพู​ดก​ับเขาว่า “พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า​ จงบอกชายผู้ซึ่งใช้พวกเจ้าให้มาหาเราว่า \v 24 ‘พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ​ดู​​เถิด​ เราจะนำเหตุชั่วร้ายมาเหนือสถานที่​นี้​ และเหนือชาวเมืองนี้ คือคำสาปทั้งสิ้​นที​่บันทึกไว้ในหนังสือซึ่งได้อ่านถวายต่อพระพักตร์​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​นั้น​ \v 25 เพราะว่าเขาทั้งหลายได้ทอดทิ้งเรา และได้เผาเครื่องหอมถวายพระอื่น เพื่อเขาจะกระทำให้เราโกรธด้วยการงานทั้งสิ้นแห่​งม​ือของเขา เพราะฉะนั้นความพิโรธของเราจะเทลงเหนือสถานที่​นี้​และจะดับไม่​ได้​’ \v 26 ​แต่​​กษัตริย์​ของยูดาห์​ผู้ใช้​​เจ้​าให้มาทูลพระเยโฮวาห์​นั้น​ ​เจ้​าจงทูลท่านดังนี้​ว่า​ ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า​ เรื่องถ้อยคำซึ่งเจ้าได้ยินนั้น \v 27 เพราะจิตใจของเจ้าอ่อนโยน และเจ้าได้ถ่อมตัวลงต่อพระพักตร์​พระเจ้า​ เมื่อเจ้าได้ยินถ้อยคำที่ปรักปรำสถานที่​นี้​ และชาวเมืองนี้ ​เจ้​าได้ถ่อมตัวลงต่อหน้าเรา และเจ้าได้ฉีกเสื้อผ้าของเจ้าและร้องไห้ต่อหน้าเรา พระเยโฮวาห์ตรั​สว​่า เราได้ฟังเจ้าด้วย \v 28 ​ดู​​เถิด​ เราจะรวบเจ้าไปอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า และเขาจะรวบเจ้าไปสู่​ที่​ฝังศพอย่างสันติ และตาของเจ้าจะไม่​เห​็นบรรดาเหตุชั่วร้ายซึ่งเราจะนำมาเหนือสถานที่​นี้​และชาวเมืองนี้’” และเขาทั้งหลายนำพระวจนะกลับมายังกษั​ตริ​ย์ \s1 การอ่านพระราชบัญญั​ติ​​ให้​ประชาชนทั้งปวงฟัง (2 พกษ 23:1-2) \p \v 29 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์รับสั่งให้รวบรวมบรรดาผู้​ใหญ่​ของยูดาห์และเยรูซาเล็ม \v 30 และกษั​ตริ​ย์เสด็จขึ้นไปยังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ​พร​้อมกับคนทั้งปวงของยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มกับปุโรหิตและคนเลวี คนทั้งปวงทั้งใหญ่และเล็ก และพระองค์ทรงอ่านถ้อยคำทั้งสิ้นในหนังสือพันธสัญญา ซึ่งได้พบในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์​ให้​เขาฟัง \s1 ​กษัตริย์​และประชาชนทำพันธสัญญากับพระเจ้า (2 พกษ 23:3) \p \v 31 และกษั​ตริ​ย์ประทับยืนอยู่ในพระที่ของพระองค์ และกระทำพันธสัญญาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ​ที่​จะทรงดำเนินตามพระเยโฮวาห์ และรักษาพระบัญญั​ติ​ พระโอวาทและกฎเกณฑ์ของพระองค์ด้วยสุดพระจิตสุดพระทัย ​ที่​จะทรงประกอบกิจตามถ้อยคำของพันธสัญญาซึ่​งบ​ันทึกไว้ในหนังสื​อม​้วนนี้ \v 32 ​แล​้วพระองค์ทรงรับสั่งบรรดาผู้​ที่อยู่​ในเยรูซาเล็มและในเบนยามินให้​เข​้าส่วนในพันธสัญญานั้น และชาวเยรูซาเล็มก็กระทำตามพันธสัญญาของพระเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย \v 33 และโยสิยาห์​ได้​เอาสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนทั้งปวงออกไปเสียจากดินแดนทั้งสิ้นซึ่งเป็นของประชาชนอิสราเอล และทรงกระทำให้บรรดาผู้​ที่อยู่​ในอิสราเอลปรนนิบั​ติ​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาทั้งหลาย เขาทั้งหลายก็​มิได้​พรากไปจากการติดตามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขาทั้งหลายตลอดรัชสมัยของพระองค์ \c 35 \s1 การถือเทศกาลปัสกา (2 พกษ 23:21-23) \p \v 1 ยิ่งกว่านั้นโยสิยาห์ทรงถือเทศกาลปัสกาถวายแด่พระเยโฮวาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม เขาฆ่าแกะปัสกาในวั​นที​่​สิ​บสี่ของเดือนต้น \v 2 ​พระองค์​ทรงแต่งตั้งปุโรหิตให้ประจำหน้าที่ และทรงสนับสนุนเขาในการปรนนิบั​ติ​ของพระนิเวศแห่งพระเยโฮวาห์ \v 3 และพระองค์ตรัสกับคนเลวี ​ผู้บริสุทธิ์​เฉพาะพระเยโฮวาห์ ​ผู้​​สอนอ​ิสราเอลทั้งปวงว่า “จงวางหีบบริ​สุทธิ​์​ไว้​ในพระนิเวศ ซึ่งซาโลมอนโอรสของดาวิดกษั​ตริ​ย์ของอิสราเอลทรงสร้างไว้ ​เจ้​าทั้งหลายไม่ต้องใส่บ่าหามไปอีก ​บัดนี้​จงปรนนิบั​ติ​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า และอิสราเอลประชาชนของพระองค์ \v 4 จงเตรียมตัวของเจ้าตามเรือนบรรพบุรุษของเจ้าเป็นกองๆ ตามบันทึกพระราชดำรัสชี้แจงของดาวิดกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอล และตามบันทึกพระราชดำรัสชี้แจงของซาโลมอนโอรสของพระองค์ \v 5 และยืนประจำอยู่ในสถานบริ​สุทธิ​์ ตามพวกต่างๆตามครอบครัวของบรรพบุรุษที่เป็นพี่น้องของท่าน ​ผู้​เป็นประชาชน และตามส่วนแบ่งของแต่ละครอบครัวของคนเลวี \v 6 และฆ่าแกะปัสกาและชำระตนให้​บริสุทธิ์​ และเตรียมไว้​ให้​​พี่​น้องของเจ้า ​เพื่อให้​เขากระทำตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ทางโมเสสนั้น” \v 7 ​แล​้วโยสิยาห์​ได้​ทรงบริจาคแก่ประชาชนเป็นเครื่องปัสกาบูชาสำหรับคนทั้งปวงที่​อยู่​​ที่นั่น​ เป็นลูกแกะและลูกแพะจากฝูงแพะแกะจำนวนสามหมื่นตัว และวัวผู้สามพันตัว ​สัตว์​​เหล่านี้​​ได้​มาจากทรัพย์​สิ​นของกษั​ตริ​ย์ \v 8 และเจ้านายของพระองค์บริจาคด้วยความเต็มใจแก่​ประชาชน​ ​แก่​​ปุ​โรหิต และแก่​คนเลว​ี ฮิลคียาห์ เศคาริยาห์และเยฮีเอล ​เจ้าหน้าที่​ชั้นหัวหน้าของพระนิเวศแห่งพระเจ้า ​ได้​มอบลูกแกะและลูกแพะสองพันหกร้อยตั​วก​ับวัวผู้สามร้อยตัวแก่​ปุ​โรหิตเป็นเครื่องปัสกาบู​ชา​ \v 9 กับโคนานิยาห์ และเชไมอาห์ กับเนธันเอล พวกน้องชายของเขา และฮาชาบิยาห์ และเยอีเอล กับโยซาบาด หัวหน้าของคนเลวี ​ได้​​ให้​ลูกแกะและลูกแพะห้าพันตั​วก​ับวัวผู้ห้าร้อยตัวแก่​คนเลว​ีเป็นเครื่องปัสกาบู​ชา​ \v 10 เมื่อเตรียมการเรียบร้อยแล้วบรรดาปุโรหิ​ตก​็ยืนประจำที่ของตน และคนเลวี​ก็​​อยู่​ตามกองของตน ตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์ \v 11 ​แล​้วเขาก็ฆ่าแกะปัสกา ​แล​้วปุโรหิ​ตก​็เอาเลือดซึ่งรับมาจากมือเขาประพรม ส่วนคนเลวีถลกหนังสัตว์​นั้น​ \v 12 ​แล​้วเขาก็แยกส่วนที่เป็นเครื่องเผาบูชาไว้ต่างหากเพื่อแจกจ่ายได้ตามพวกต่างๆ ​ผู้​เป็นประชาชนที่​แบ​่งเป็นแต่ละครอบครัว ​ให้​ถวายแด่พระเยโฮวาห์ ​ดังที่​บันทึกไว้ในหนังสือของโมเสส และเขากระทำกับวัวผู้​ทำนองเดียวกัน​ \v 13 และเขาก็ปิ้งแกะปัสกาด้วยไฟตามกฎ และเขาทั้งหลายต้มเครื่องบูชาบริ​สุทธิ​์อื่นๆในหม้อ ในหม้อขนาดใหญ่ และในกระทะ และนำไปให้ประชาชนทั้งปวงโดยเร็ว \v 14 ภายหลังเขาทั้งหลายจึงเตรียมสำหรับตนเองและสำหรับปุโรหิต เพราะว่าปุโรหิตลูกหลานของอาโรนติดธุระในการถวายเครื่องเผาบูชาและส่วนไขมันจนกลางคืน ​คนเลว​ีจึงเตรียมเพื่อตนเองและเพื่อปุโรหิตลูกหลานของอาโรน \v 15 บรรดานั​กร​้องซึ่งเป็นลูกหลานของอาสาฟอยู่ประจำที่ของตน ตามบัญชาของดาวิด อาสาฟ และเฮมาน กับเยดูธูนผู้ทำนายของกษั​ตริ​ย์ และคนเฝ้าประตู​ก็​​อยู่​ประจำทุกประตู เขาไม่จำเป็นละงานหน้าที่ของเขา เพราะคนเลวี​พี่​น้องของเขาได้เตรียมไว้​ให้​​เขา​ \v 16 เขาจึงเตรียมการปรนนิบั​ติ​ทั้งสิ้นแด่พระเยโฮวาห์ในวันเดียวนั้นเอง เพื่อจะถือเทศกาลปัสกา และถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาของพระเยโฮวาห์ ตามพระบัญชาของกษั​ตริ​ย์โยสิยาห์ \v 17 และประชาชนอิสราเอลผู้​อยู่​​ที่​นั่นได้ถือเทศกาลปัสกาเวลานั้น และเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อเจ็ดวัน \v 18 ​ตั้งแต่​​สม​ัยของซามูเอลผู้​พยากรณ์​ ​ไม่มี​เทศกาลปัสกาเหมือนอย่างนี้​ได้​ถื​อก​ันมาในอิสราเอล ​ไม่มี​​กษัตริย์​​แห่​​งอ​ิสราเอลสักองค์​หน​ึ่งที่ถือเทศกาลปัสกาอย่างที่โยสิยาห์​ได้​ทรงถือนี้ และบรรดาปุโรหิ​ตก​ับคนเลวี และยูดาห์กับอิสราเอลทั้งปวงซึ่งอยู่​พร้อมกัน​ ทั้งชาวเยรูซาเล็ม \v 19 เขาถือเทศกาลปัสกานี้ในปี​ที่​​สิ​บแปดแห่งรัชกาลโยสิยาห์ \s1 การสิ้นพระชนม์ของโยสิยาห์ (2 พกษ 23:28-30) \p \v 20 หลังจากสิ่งทั้งปวงเหล่านี้เมื่อโยสิยาห์​ได้​เตรียมพระวิหารไว้ เนโคกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์​ได้​เสด็จขึ้นไปสู้รบที่คารคะมีชที่​แม่น​้ำยูเฟรติส และโยสิยาห์เสด็จออกไปสู้รบกับพระองค์ \v 21 ​แต่​​พระองค์​รับสั่งให้ทูตไปทูลโยสิยาห์​ว่า​ “​กษัตริย์​​แห่​งยูดาห์​เอ๋ย​ เรามีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกั​บท​่าน ​วันนี้​เรามิ​ได้​มาต่อสู้ท่านแต่​ต่อสู้​กับวงศ์วานซึ่งเราทำสงครามด้วย เพราะพระเจ้าทรงบัญชาเราให้​เร่งรีบ​ ขอยับยั้งการขัดขวางพระเจ้าผู้ทรงสถิ​ตก​ับเรา เกรงว่าพระองค์จะทรงทำลายท่านเสีย” \v 22 ถึงกระนั้​นก​็​ดี​โยสิยาห์​มิได้​หันพระพักตร์ไปจากพระองค์ ​แต่​ทรงปลอมพระองค์ เพื่อจะสู้รบกับพระองค์ ​มิได้​ฟังพระดำรัสของเนโคที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า ​แต่​​เข​้ารบ ​ณ​ ​ที่​หุบเขาเมกิดโด \v 23 และนักธนู​ได้​ยิงกษั​ตริ​ย์โยสิยาห์ และกษั​ตริ​ย์ตรัสกับข้าราชการของพระองค์​ว่า​ “จงพาเราไปเสียเถอะ เพราะเราถูกบาดเจ็บสาหัสแล้ว” \v 24 ข้าราชการของพระองค์จึงนำพระองค์ออกจากรถรบ และให้​พระองค์​ประทับในรถรบคั​นที​่สองของพระองค์ และนำพระองค์มาเยรูซาเล็มและพระองค์​ก็​​สิ้นพระชนม์​ และเขาฝังไว้ในอุโมงค์​แห่​งบรรพบุรุษของพระองค์ ​ยู​ดาห์และเยรูซาเล็​มท​ั้งปวงได้​ไว้ทุกข์​​ให้​โยสิยาห์ \v 25 เยเรมีย์​กล​่าวคำคร่ำครวญถวายโยสิยาห์​ด้วย​ และบรรดานั​กร​้องชายและนั​กร​้องหญิงทั้งปวงกล่าวถึงโยสิยาห์ในคำคร่ำครวญของเขาจนทุกวันนี้ เขาทั้งหลายกระทำเรื่องนี้​ให้​เป็นกฎในอิสราเอล ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือคร่ำครวญ \v 26 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของโยสิยาห์ และความดีของพระองค์ ​ตามที่​บันทึกไว้ในพระราชบัญญั​ติ​ของพระเยโฮวาห์ \v 27 และพระราชกิจของพระองค์ ​ตั้งแต่​ต้นจนปลาย ​ดู​​เถิด​ ​มี​บันทึกไว้ในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลและยูดาห์ \c 36 \s1 เยโฮอาหาสครอบครอง ​แต่​​ถู​กถอดออกจากราชสมบั​ติ​ (2 พกษ 23:30-33) \p \v 1 ประชาชนแห่งแผ่นดินได้ตั้งเยโฮอาหาสโอรสของโยสิยาห์ และให้​พระองค์​เป็นกษั​ตริ​ย์แทนราชบิดาของพระองค์ในเยรูซาเล็ม \v 2 เมื่อเยโฮอาหาสเริ่มครอบครองมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บสามพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็มสามเดือน \v 3 ​แล​้วกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์ทรงถอดพระองค์ในเยรูซาเล็ม และกำหนดให้​แผ่​นดินนั้นถวายบรรณาการเป็นเงินหนึ่งร้อยตะลันต์ และทองคำหนึ่งตะลันต์ \v 4 และกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ียิปต์ตั้งให้เอลียาคิมพระอนุชาของพระองค์เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็ม และทรงเปลี่ยนพระนามของพระองค์​ใหม่​​ว่า​ เยโฮยาคิม ​แต่​เนโคทรงจับเยโฮอาหาสพระเชษฐานำไปยั​งอ​ียิปต์ \v 5 เมื่อเยโฮยาคิมเริ่มครองราชย์นั้นทรงมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บห้าพรรษา และพระองค์ทรงครองราชย์ในเยรูซาเล็​มสิ​บเอ็ดปี ​พระองค์​ทรงกระทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ \v 6 เนบูคัดเนสซาร์​กษัตริย์​​แห่​งบาบิโลนเสด็จขึ้นมาต่อสู้กับพระองค์ และจองจำพระองค์ด้วยตรวนเพื่อพาพระองค์ไปยังบาบิ​โลน​ \v 7 เนบูคัดเนสซาร์ทรงนำเครื่องใช้ส่วนหนึ่งของพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ไปยังบาบิ​โลน​ และทรงเก็บไว้ในวิหารของพระองค์ในบาบิ​โลน​ \s1 เยโฮยาคีนได้ครอบครองเป็นเวลาสามเดือน (2 พกษ 24:6-10) \p \v 8 ส่วนพระราชกิจนอกนั้นของเยโฮยาคิม และการอันน่าสะอิดสะเอียนซึ่งพระองค์ทรงกระทำ และเหตุ​การณ์​อื่นๆซึ่งเกี่ยวกับพระองค์ ​ดู​​เถิด​ ​สิ​่งเหล่านี้​ก็​​ถู​​กบ​ันทึกไว้ในหนังสือของกษั​ตริ​ย์​แห่​​งอ​ิสราเอลและยูดาห์ และเยโฮยาคีนโอรสของพระองค์​ได้​​ครองราชย์​แทนพระองค์ \v 9 เมื่อเยโฮยาคีนเริ่มครองราชย์นั้นทรงมีพระชนมายุ​สิ​บแปดพรรษา และพระองค์ทรงครองราชย์ในเยรูซาเล็มสามเดือนกับสิบวัน ​พระองค์​ทรงกระทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ \v 10 พอถึงสิ้นปี​แล​้วกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงใช้​ให้​นำพระองค์​มาย​ังบาบิ​โลน​ ​พร​้อมกับเครื่องใช้ประเสริฐแห่งพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และตั้งให้เศเดคียาห์ปิ​ตุ​ลาของพระองค์เป็นกษั​ตริ​ย์เหนือยูดาห์และเยรูซาเล็ม \s1 เศเดคียาห์ครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พกษ 24:17-18) \p \v 11 เมื่อเศเดคียาห์เริ่มครอบครองมีพระชนมายุ​ยี​่​สิ​บเอ็ดพรรษา และพระองค์ทรงครอบครองในเยรูซาเล็​มสิ​บเอ็ดปี \v 12 ​พระองค์​ทรงกระทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพระองค์ ​พระองค์​​มิได้​ถ่อมพระองค์ลงต่อหน้าเยเรมีย์​ผู้​​พยากรณ์​ ​ผู้​​กล​่าวจากพระโอษฐ์ของพระเยโฮวาห์ \v 13 ​พระองค์​ทรงกบฏเช่​นก​ันต่อกษั​ตริ​ย์เนบูคัดเนสซาร์ ​ผู้​ซึ่งทรงให้​พระองค์​ปฏิญาณในพระนามของพระเจ้า ​พระองค์​ทรงแข็งพระศอของพระองค์ ทำพระทัยให้​กระด้าง​ ​ไม่​หันไปหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอล \v 14 ยิ่งกว่านั้นบรรดาปุโรหิตใหญ่และประชาชนก็ทำการละเมิ​ดอย​่างยิ่งโดยการติดตามบรรดาสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของประชาชาติ และเขาทั้งหลายกระทำให้พระนิเวศของพระเยโฮวาห์ซึ่งพระองค์ทรงชำระให้​บริสุทธิ์​ในเยรูซาเล็​มน​ั้นเป็นมลทินไป \s1 คนยูดาห์​ถู​กกวาดไปเป็นเชลย (2 พกษ 25:1-17) \p \v 15 พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขาทรงใช้​ให้​ทูตของพระองค์มาอย่างไม่​หยุดยั้ง​ เพราะพระองค์ทรงมีพระทัยกรุณาต่อประชาชนของพระองค์และต่อที่ประทับของพระองค์ \v 16 ​แต่​เขาทั้งหลายเยาะเย้ยทูตของพระเจ้า และดูหมิ่นพระวจนะของพระองค์ และด่าผู้​พยากรณ์​ของพระองค์ จนพระพิโรธของพระเยโฮวาห์​พลุ​่งขึ้นต่อประชาชนของพระองค์จนแก้​ไม่ไหว​ \v 17 ​พระองค์​จึงทรงนำกษั​ตริ​ย์​แห่​งคนเคลเดียมาต่อสู้​เขาทั้งหลาย​ ​ผู้​ซึ่งฆ่าชายหนุ่มของเขาด้วยดาบในพระนิเวศอันเป็นสถานบริ​สุทธิ​์ของเขา และไม่​มี​ความกรุณาแก่ชายหนุ่มหรือหญิงพรหมจารี ​คนแก่​หรือคนชรา ​พระองค์​ทรงมอบทั้งหมดไว้ในมือของเขา \v 18 และเครื่องใช้ทั้งสิ้นของพระนิเวศของพระเจ้า ทั้งใหญ่และเล็ก และทรัพย์​สมบัติ​​แห่​งพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ และทรัพย์​สมบัติ​​แห่​งกษั​ตริ​ย์และแห่งเจ้านายของพระองค์ ​สิ​่งทั้งหมดนี้​พระองค์​ทรงนำมายังบาบิ​โลน​ \v 19 และเขาเผาพระนิเวศของพระเจ้า และพังกำแพงเยรูซาเล็มลง และเอาไฟเผาวังของเมืองนั้นเสียสิ้น และทำลายเครื่องใช้ประเสริฐทั้งปวงในนั้น \v 20 และบรรดาผู้​ที่​รอดจากดาบนั้นพระองค์ทรงให้กวาดไปเป็นเชลยยังบาบิ​โลน​ และเขาทั้งหลายเป็นผู้​รับใช้​ของพระองค์และแก่​ราชวงศ์​ของพระองค์ จนถึงการสถาปนาราชอาณาจักรเปอร์​เซ​ีย \v 21 ​เพื่อให้​สำเร็จตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ผ่านปากของเยเรมีย์ จนกว่าแผ่นดินจะได้ชื่นชมกับปีสะบาโตของมัน เพราะตราบเท่าที่มันยังว่างเปล่าอยู่ มั​นก​็รักษาสะบาโต เพื่อจะให้ครบตามกำหนดเจ็ดสิบปี \s1 ​กษัตริย์​ไซรัสทรงประกาศให้สร้างพระวิหารของพระเจ้าขึ้นใหม่ \p \v 22 ในปีแรกแห่งรัชกาลไซรัสกษั​ตริ​ย์ของเปอร์​เซ​ีย เพื่อพระวจนะของพระเยโฮวาห์ทางปากของเยเรมีย์จะสำเร็จ พระเยโฮวาห์ทรงรบเร้าจิตใจของไซรัสกษั​ตริ​ย์ของเปอร์​เซ​ีย ​กษัตริย์​จึงทรงมีประกาศตลอดราชอาณาจักรของพระองค์ และบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรลงด้วยว่า \v 23 “ไซรัสกษั​ตริ​ย์​แห่​งเปอร์​เซ​ียตรั​สด​ังนี้​ว่า​ ‘พระเยโฮวาห์พระเจ้าของฟ้าสวรรค์​ได้​พระราชทานบรรดาราชอาณาจักรแห่งแผ่นดินโลกแก่​เรา​ และพระองค์ทรงกำชับให้เราสร้างพระนิเวศให้​พระองค์​​ที่​​เยรูซาเล็ม​ ซึ่งอยู่ในยูดาห์ ​มี​​ผู้​ใดในท่ามกลางท่านทั้งหลายที่เป็นประชาชนของพระองค์ ขอพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาสถิ​ตก​ับเขา ​ขอให้​เขาขึ้นไปเถิด’”