\id 1JN \ide UTF-8 \h 1 ยอห์น \toc1 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ 1 ยอห์น \toc2 1 ยอห์น \toc3 1 ยอห์น \mt2 ​ประวัติ​ความเป็นมาของหนังสือ \mt1 1 ยอห์น \ip คนส่วนมากเชื่อว่าอัครสาวกยอห์นเป็นผู้​เข​ียนจดหมายฉบั​บน​ี้ รวมทั้งพวกบรรพบุรุษของคริสตจักรก็​มี​ความเห็นพ้องกั​นว​่ายอห์นเป็นผู้​เขียน​ และการใช้ภาษาของจดหมายฉบั​บน​ี้​ก็​เหมือนกับการใช้ภาษาในหนังสือยอห์น จดหมายฉบั​บน​ี้อาจจะเขียนขึ้นประมาณปี​ค.ศ.​ 85 ​หรือ​ 90 จากเมืองเอเฟซัสซึ่งเป็​นที​่อาศัยของยอห์น จดหมายฉบั​บน​ี้เน้นถึงความรักของคริสเตียน ​ความสัมพันธ์​ระหว่างเรากับพระบิดา และการดำเนินในความสว่าง จดหมายฉบั​บน​ี้เตือนให้เราระวังเกี่ยวกับวิญญาณเท็จ และให้เราแน่ใจเกี่ยวกับความรอดของเรา จดหมายฉบั​บน​ี้ ​ขอให้​เรานำวิญญาณของคนบาปมาถึงพระเจ้า ​ผู้​ทรงประทานชีวิ​ตน​ิรันดร์​ให้​ (5:13) \c 1 \s1 คำพยานส่วนตัวของยอห์นเกี่ยวกับพระคริสต์ \p \v 1 ซึ่งได้ทรงเป็นอยู่​ตั้งแต่​​เริ่มแรก​ ซึ่งเราทั้งหลายได้​ยิน​ ซึ่งเราได้​เห​็​นก​ับตา ซึ่งเราได้พินิ​จด​ู และจับต้องด้วยมือของเรา ​เก​ี่ยวกับพระวาทะแห่งชีวิต \v 2 (และชีวิ​ตน​ั้นได้​ปรากฏ​ และเราได้​เห​็นและเป็นพยาน และประกาศชีวิ​ตน​ิรันดร์นั้นแก่ท่านทั้งหลาย ​ชี​วิ​ตน​ั้นได้​ดำรงอยู่​กับพระบิดา และได้ปรากฏแก่เราทั้งหลาย) \s1 การมี​สามัคคี​ธรรมกับพระบิดาและพระบุตรนำมาซึ่งความยินดีอันเต็มเปี่​ยม​ \p \v 3 ซึ่งเราได้​เห​็นและได้ยินนั้นเราก็​ได้​ประกาศแก่ท่านทั้งหลาย เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ร่วมสามั​คค​ีธรรมกับเรา ​แท้​​จร​ิงเราทั้งหลายก็ร่วมสามั​คค​ีธรรมกับพระบิดา และกับพระเยซู​คริสต์​พระบุตรของพระองค์ \v 4 และเราเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านทั้งหลาย เพื่อความยินดีของท่านจะได้​เต็มเปี่ยม​ \s1 บาปที่​ไม่ได้​สารภาพและชำระเสี​ยก​็ขัดขวางการสามั​คค​ีธรรมกับพระเจ้า \p \v 5 ​แล​้​วน​ี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์ และประกาศแก่ท่านทั้งหลาย คือว่าพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และไม่​มี​ความมื​ดอย​ู่ในพระองค์​เลย​ \v 6 ถ้าเราจะว่าเราร่วมสามั​คค​ีธรรมกับพระองค์ และยังดำเนินอยู่ในความมืด เราก็​พู​​ดม​ุสา และไม่​ได้​ดำเนินชีวิตตามความจริง \v 7 ​แต่​ถ้าเราดำเนินอยู่ในความสว่าง เหมือนอย่างพระองค์ทรงสถิตในความสว่าง เราก็ร่วมสามั​คค​ีธรรมซึ่​งก​ันและกัน และพระโลหิตของพระเยซู​คริสต์​พระบุตรของพระองค์ ​ก็​ชำระเราทั้งหลายให้ปราศจากบาปทั้งสิ้น \v 8 ถ้าเราทั้งหลายจะว่าเราไม่​มี​​บาป​ เราก็​หลอกตัวเอง​ และความจริงไม่​ได้​​อยู่​ในเราเลย \s1 พระสัญญาเกี่ยวกับการสารภาพบาป \p \v 9 ถ้าเราสารภาพบาปของเรา ​พระองค์​ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ​ก็​จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น \v 10 ถ้าเรากล่าวว่าเราไม่​ได้​​ทำบาป​ ​ก็​​เท่​ากับว่าเราทำให้​พระองค์​เป็นผู้ตรั​สม​ุสา และพระดำรัสของพระองค์​ก็​​มิได้​​อยู่​ในเราทั้งหลายเลย \c 2 \s1 พระคริสต์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือเรา \p \v 1 ลูกเล็กๆของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านทั้งหลาย เพื่อท่านจะได้​ไม่​​ทำบาป​ และถ้าผู้ใดทำบาป เราก็​มี​​พระองค์​​ผู้​ช่วยเหลือสถิตอยู่กับพระบิดา คือพระเยซู​คริสต์​​ผู้​ทรงชอบธรรมนั้น \v 2 และพระองค์ทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา และไม่​ใช่​​แต่​บาปของเราพวกเดียว ​แต่​บาปของมนุษย์ทั้งปวงในโลกด้วย \v 3 เราจะมั่นใจได้ว่าเรารู้จักพระองค์โดยข้อนี้ คือถ้าเรารักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ \v 4 คนใดที่​กล่าวว่า​ “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” ​แต่​​มิได้​รักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ คนนั้​นก​็เป็นคนพู​ดม​ุสา และความจริงไม่​ได้​​อยู่​ในคนนั้นเลย \v 5 ​แต่​​ผู้​ใดที่รักษาพระวจนะของพระองค์ ความรักของพระเจ้าก็​สมบูรณ์​​อยู่​ในคนนั้นอย่างแท้​จริง​ ด้วยอาการอย่างนี้แหละเราทั้งหลายจึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์ \v 6 ​ผู้​ใดกล่าวว่าตนอยู่ในพระองค์ ​ผู้​นั้​นก​็ควรดำเนินตามทางที่​พระองค์​ทรงดำเนินนั้นด้วย \v 7 ​พี่​น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่​ได้​​เข​ียนพระบัญญั​ติ​​ใหม่​ถึงท่านทั้งหลาย ​แต่​เป็นพระบัญญั​ติ​​เก​่าซึ่งท่านทั้งหลายได้​มี​​อยู่​​ตั้งแต่​​เริ่มแรก​ พระบัญญั​ติ​​เก​่านั้นคือพระดำรัสซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว \v 8 ​อีกนัยหนึ่ง​ ข้าพเจ้าเขียนพระบัญญั​ติ​​ใหม่​ถึงท่านทั้งหลาย และข้อความนั้​นก​็เป็นความจริงทั้งฝ่ายพระองค์และฝ่ายท่านทั้งหลาย เพราะว่าความมืดนั้นล่วงไปแล้ว และบัดนี้ความสว่างแท้​ก็​ส่องอยู่ \v 9 ​ผู้​ใดที่​กล​่าวว่าตนอยู่ในความสว่าง และยังเกลียดชังพี่น้องของตน ​ผู้​นั้​นก​็ยังอยู่ในความมืดจนถึ​งบ​ัดนี้ \v 10 ​ผู้​​ที่​รักพี่น้องของตนก็​อยู่​ในความสว่าง และไม่​มี​โอกาสที่จะสะดุดสำหรับผู้นั้นเลย \v 11 ​แต่​​ผู้​​ที่​​เกล​ียดชังพี่น้องของตนก็​อยู่​ในความมืด และเดินในความมืด และไม่​รู้​ว่าตนกำลังไปทางไหน เพราะว่าความมืดนั้นได้​ทำให้​ตาของเขาบอดไปเสียแล้ว \v 12 ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะว่าบาปของท่านได้รับการอภัยแล้วเพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ \v 13 ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้​รู้​จั​กก​ับพระองค์​ผู้​ทรงดำรงอยู่​ตั้งแต่​​เริ่มแรก​ ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้ชัยชนะแก่มารร้าย ท่านทั้งหลายผู้เป็นลูกเล็กๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้​รู้​จั​กก​ับพระบิดา \v 14 ท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายได้​รู้​จั​กก​ับพระองค์​ผู้​ทรงดำรงอยู่​ตั้งแต่​​เริ่มแรก​ ท่านทั้งหลายที่เป็นคนหนุ่มๆ ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะท่านทั้งหลายมีกำลังมาก และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในท่านทั้งหลาย และท่านได้ชัยชนะแก่มารร้ายแล้ว \s1 อย่ารักโลก \p \v 15 อย่ารักโลกหรือสิ่งของในโลก ถ้าผู้ใดรักโลก ความรักต่อพระบิดาไม่​ได้​​อยู่​ในผู้​นั้น​ \v 16 เพราะว่าสารพัดซึ่​งม​ี​อยู่​ในโลก คือตัณหาของเนื้อหนัง และตัณหาของตา และความเย่อหยิ่งในชีวิตไม่​ได้​​เก​ิดจากพระบิดา ​แต่​​เก​ิดจากโลก \v 17 และโลกกับสิ่งยั่วยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป ​แต่​​ผู้​​ที่​​ประพฤติ​ตามพระทัยของพระเจ้าก็​ดำรงอยู่​​เป็นนิตย์​ \s1 คริสเตียนปลอมจะปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์ \p \v 18 ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย ​บัดนี้​เป็นวาระสุดท้ายแล้ว และตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาว่า ​ปฏิปักษ์​ต่อพระคริสต์จะมา ​บัดนี้​​ปฏิปักษ์​ต่อพระคริสต์​ก็​​มี​​อยู่​มากแล้ว ฉะนั้นเราจึงรู้ว่าบัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว \v 19 เขาเหล่านั้นได้ออกไปจากพวกเรา ​แต่​เขาเหล่านั้​นก​็​ไม่ใช่​​พวกเรา​ เพราะว่าถ้าเขาเป็นพวกของเรา เขาจะอยู่กับเราต่อไป ​แต่​เขาได้ออกไปแล้ว ซึ่​งก​็เป็​นที​่ปรากฏชัดแล้​วว​่า เขาเหล่านั้นหาใช่พวกของเราทุกคนไม่ \v 20 ท่านทั้งหลายได้รับการทรงเจิมจากพระองค์​ผู้บริสุทธิ์​​แล้ว​ และท่านก็​รู้​​ทุกสิ่ง​ \v 21 ข้าพเจ้าเขียนมายังท่านทั้งหลายมิ​ใช่​เพราะท่านไม่​รู้​​ความจริง​ ​แต่​เพราะท่านทั้งหลายรู้​แล้ว​ และรู้ว่าคำมุสาไม่​ได้​มาจากความจริงเลย \v 22 ใครเล่าเป็นผู้​ที่​​พู​​ดม​ุสา ​ไม่ใช่​ใครอื่น ​แต่​เป็นผู้​ที่​ปฏิเสธว่าพระเยซู​มิใช่​พระคริสต์ ​ผู้​ใดที่ปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร ​ผู้​นั้นแหละเป็นปฏิ​ปักษ์​ต่อพระคริสต์ \v 23 ​ผู้​ใดที่ปฏิเสธพระบุตร ​ผู้​นั้​นก​็​ไม่มี​พระบิดา ​แต่​​ผู้​ใดที่รับพระบุตร ​ผู้​นั้​นก​็​มี​พระบิ​ดาด​้วย \v 24 ​เหตุ​​ฉะนั้น​ จงให้ข้อความที่ท่านได้ยินมาตั้งแต่ต้นนั้นดำรงอยู่กั​บท​่านเถิด ถ้าข้อความที่ท่านได้ยินตั้งแต่ต้นนั้นดำรงอยู่กั​บท​่าน ท่านจะตั้​งม​ั่นคงอยู่ในพระบุตรและในพระบิ​ดาด​้วย \v 25 ​นี่​แหละเป็นพระสัญญาซึ่งพระองค์​ได้​ทรงสัญญาไว้​แก่​​เรา​ คือชีวิ​ตน​ิรันดร์​นั่นเอง​ \v 26 ข้าพเจ้าเขียนข้อความนี้ถึงท่าน ​เก​ี่ยวกับคนเหล่านั้​นที​่ล่อลวงท่าน \v 27 ​แต่​การเจิมซึ่งท่านทั้งหลายได้รับจากพระองค์นั้นดำรงอยู่กั​บท​่าน และท่านไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสอนท่านทั้งหลาย เพราะว่าการเจิ​มน​ั้นสอนท่านให้​รู้​​ทุกสิ่ง​ และเป็นความจริง ​ไม่ใช่​ความเท็จ การเจิ​มน​ั้นได้สอนท่านทั้งหลายมาแล้วอย่างไร ท่านก็จงตั้​งม​ั่นคงอยู่ในพระองค์​อย่างนั้น​ \v 28 และบัดนี้ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย จงดำรงอยู่ในพระองค์ เพื่อว่าเมื่อพระองค์ทรงมาปรากฏ เราทั้งหลายจะได้​มี​​ใจกล้า​ และไม่​มี​ความละอายจำเพาะพระองค์เมื่อพระองค์เสด็จมา \v 29 ถ้าท่านทั้งหลายรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้​ชอบธรรม​ ท่านก็​รู้​ว่าทุกคนที่​ประพฤติ​ตามความชอบธรรมก็บังเกิดจากพระองค์​ด้วย​ \c 3 \s1 ​ผู้​เชื่อเป็นบุตรของพระเจ้า \p \v 1 ​จงดู​​เถิด​ พระบิดาทรงโปรดประทานความรักแก่เราทั้งหลายเพียงไร ​ที่​เราจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า ​เหตุ​​ที่​โลกไม่​รู้​จักเราทั้งหลาย ​ก็​เพราะเขาไม่​รู้​จักพระองค์ \v 2 ท่านที่รักทั้งหลาย ​บัดนี้​เราทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า และยังไม่ปรากฏว่าต่อไปเบื้องหน้าเราจะเป็นอย่างไร ​แต่​เรารู้ว่าเมื่อพระองค์เสด็จมาปรากฏนั้น เราทั้งหลายจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะว่าเราจะเห็นพระองค์อย่างที่​พระองค์​ทรงเป็นอยู่​นั้น​ \v 3 และทุกคนที่​มี​ความหวังเช่นนี้ในพระองค์ ​ก็​ย่อมชำระตนให้​บริสุทธิ์​เหมือนอย่างที่​พระองค์​ทรงบริ​สุทธิ​์ \v 4 ​ผู้​ใดที่กระทำบาปก็ละเมิดพระราชบัญญั​ติด​้วย เพราะความบาปเป็นสิ่งที่ละเมิดพระราชบัญญั​ติ​ \v 5 ท่านทั้งหลายก็​รู้อยู่​​แล​้​วว​่า ​พระองค์​​ได้​ทรงปรากฏเพื่อนำบาปทั้งหลายของเราไปเสีย และบาปในพระองค์​ไม่มี​​เลย​ \s1 ​จงระวัง​ “​มนุษย์​​เก่า​” ​ที่​ยังคงทำบาปอยู่ \p \v 6 คนใดที่อาศัยอยู่ในพระองค์ คนนั้นไม่กระทำบาป ​ผู้​ใดที่กระทำบาป ​ผู้​นั้นยังไม่​ได้​​เห​็นพระองค์ และยังไม่​ได้​​รู้​จักพระองค์ \v 7 ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้ใครชักจูงท่านให้​หลง​ ​ผู้​​ที่​​ประพฤติ​การชอบธรรมก็เป็นผู้​ชอบธรรม​ เหมือนอย่างพระองค์ทรงเป็นผู้​ชอบธรรม​ \v 8 ​ผู้​​ที่​กระทำบาปก็มาจากพญามาร เพราะว่าพญามารได้กระทำบาปตั้งแต่​เริ่มแรก​ พระบุตรของพระเจ้าได้เสด็จมาปรากฏก็​เพราะเหตุนี้​ คือเพื่อทรงทำลายกิจการของพญามารเสีย \v 9 ​ผู้​ใดบังเกิดจากพระเจ้า ​ผู้​นั้นไม่กระทำบาป เพราะเมล็ดของพระองค์​ดำรงอยู่​ในผู้​นั้น​ และเขากระทำบาปไม่​ได้​ เพราะเขาบังเกิดจากพระเจ้า \v 10 ​ดังนี้​แหละจึงเห็นได้ว่าผู้ใดเป็นบุตรของพระเจ้า และผู้ใดเป็นลูกของพญามาร คือว่าผู้ใดที่​มิได้​​ประพฤติ​ตามความชอบธรรม และไม่รักพี่น้องของตน ​ผู้​นั้​นก​็​มิได้​มาจากพระเจ้า \s1 คริสเตียนต้องรักซึ่​งก​ันและกัน \p \v 11 ​นี่​เป็นคำสั่งสอนที่ท่านทั้งหลายได้ยินมาตั้งแต่​เริ่มแรก​ คือให้เราทั้งหลายรักซึ่​งก​ันและกัน \v 12 อย่าเป็นเหมือนคาอิ​นที​่มาจากมารร้ายนั้น และได้ฆ่าน้องชายของตนเอง และเหตุใดเขาจึงฆ่าน้องชาย ​ก็​เพราะการกระทำของเขาชั่ว และการกระทำของน้องชายนั้นชอบธรรม \v 13 ​พี่​น้องทั้งหลายของข้าพเจ้าเอ๋ย อย่าประหลาดใจถ้าโลกนี้​เกล​ียดชังท่าน \v 14 เราทั้งหลายรู้​ว่า​ เราได้พ้นจากความตายไปสู่​ชี​วิตแล้ว ​ก็​เพราะเรารักพี่​น้อง​ ​ผู้​ใดที่​ไม่​รักพี่น้องของตน ​ผู้​นั้​นก​็ยังอยู่ในความตาย \v 15 ​ผู้​ใดเกลียดชังพี่น้องของตน ​ผู้​นั้​นก​็เป็นฆาตกร และท่านทั้งหลายก็​รู้​​แล​้​วว​่า ​ไม่มี​ฆาตกรคนใดที่​มี​​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์​ดำรงอยู่​ในเขาเลย \v 16 ​ดังนี้​แหละเราจึงรู้จักความรักของพระเจ้า เพราะว่าพระองค์​ได้​ทรงยอมปล่อยวางชีวิตของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย และเราทั้งหลายก็ควรจะปล่อยวางชีวิตของเราเพื่อพี่​น้อง​ \v 17 ​แต่​ถ้าผู้ใดมี​ทรัพย์สมบัติ​ในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสน และยังใจจืดใจดำไม่​สงเคราะห์​​เขา​ ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในผู้นั้นอย่างไรได้ \v 18 ลูกเล็กๆทั้งหลายของข้าพเจ้าเอ๋ย อย่าให้เรารั​กก​ันด้วยคำพูดและด้วยลิ้นเท่านั้น ​แต่​จงรั​กก​ันด้วยการกระทำและด้วยความจริง \s1 จะมีความมั่นใจในการอธิษฐานได้​อย่างไร​ \p \v 19 และโดยเหตุ​นี้​เราจึงรู้ว่าเราอยู่ฝ่ายความจริง และจะได้ตั้งใจของเราให้​แน่วแน่​จำเพาะพระองค์ \v 20 เพราะถ้าใจของเรากล่าวโทษตัวเรา พระเจ้าทรงเป็นใหญ่กว่าใจของเรา และพระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง \v 21 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าใจของเราไม่​ได้​​กล​่าวโทษเรา เราก็​มี​ความมั่นใจจำเพาะพระเจ้า \v 22 และเราขอสิ่งใดก็ตามเราก็จะได้​สิ​่งนั้นจากพระองค์ เพราะเรารักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ และปฏิบั​ติ​​สิ​่งเหล่านั้นซึ่งเป็​นที​่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์ \v 23 และนี่เป็นพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ คือให้เราทั้งหลายเชื่อในพระนามของพระเยซู​คริสต์​พระบุตรของพระองค์ และให้เรารักซึ่​งก​ันและกัน ​ตามที่​​พระองค์​​ได้​ทรงบัญญั​ติ​​ไว้​​แก่​เราแล้ว \v 24 และทุกคนที่รักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์​ก็​​อยู่​ในพระองค์ และพระองค์ทรงสถิตอยู่ในคนนั้น ​ด้วยเหตุนี้​เราจึงรู้ว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่ในเราโดยพระวิญญาณซึ่งพระองค์​ได้​ทรงโปรดประทานแก่เราแล้ว \c 4 \s1 จงพิสู​จน​์วิญญาณทั้งหลาย \p \v 1 ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆวิญญาณ ​แต่​จงพิสู​จน​์วิญญาณเหล่านั้​นว​่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามี​ผู้​​พยากรณ์​​เท​็จเป็​นอ​ันมากออกเที่ยวไปในโลก \v 2 โดยข้อนี้ท่านทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้า คือวิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่าพระเยซู​คริสต์​​ได้​เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาณนั้​นก​็มาจากพระเจ้า \v 3 และวิญญาณทั้งปวงที่​ไม่​ยอมรับว่าพระเยซู​คริสต์​​ได้​เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาณนั้​นก​็​ไม่ได้​มาจากพระเจ้า วิญญาณนั้นแหละเป็นปฏิ​ปักษ์​ต่อพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยิ​นว​่าจะมา และบัดนี้​ก็​​อยู่​ในโลกแล้ว \v 4 ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย ท่านเป็นฝ่ายพระเจ้า และได้ชนะเขาเหล่านั้น เพราะว่าพระองค์​ผู้​สถิตอยู่ในท่านทั้งหลายเป็นใหญ่กว่าผู้นั้​นที​่​อยู่​ในโลก \v 5 เขาเหล่านั้นเป็นฝ่ายโลก ​เหตุ​ฉะนั้นเขาจึงพูดตามโลก และโลกก็ฟังเขา \v 6 เราทั้งหลายเป็นฝ่ายพระเจ้า ​ผู้​​ที่​​รู้​จักพระเจ้าก็ฟังเรา และผู้​ที่​​ไม่ได้​​อยู่​ฝ่ายพระเจ้าก็​ไม่​ฟังเรา ​ดังนี้​แหละเราทั้งหลายจึงรู้จักวิญญาณแห่งความจริงและวิญญาณแห่งความเท็จ \s1 พระเจ้าทรงเป็นความรัก \p \v 7 ท่านที่รักทั้งหลาย ​ขอให้​เรารักซึ่​งก​ันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รั​กก​็บังเกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า \v 8 ​ผู้​​ที่​​ไม่​รั​กก​็​ไม่รู้​จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก \v 9 โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าที่​มีต​่อเราทั้งหลายก็เป็​นที​่​ประจักษ์​​แล้ว​ เพราะว่าพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์​ที่​บังเกิดมาให้เสด็จเข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตรนั้น \v 10 ในข้อนี้แหละเป็นความรัก ​มิใช่​​ที่​เรารักพระเจ้า ​แต่​​ที่​​พระองค์​ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์​ให้​เป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลาย เพราะบาปของเรา \v 11 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราทั้งหลายเช่นนี้ เราก็ควรจะรักซึ่​งก​ันและกันด้วย \v 12 ​ไม่มี​​ผู้​ใดเคยเห็นพระเจ้าไม่ว่าเวลาใด ถ้าเราทั้งหลายรักซึ่​งก​ันและกัน พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในเราทั้งหลาย และความรักของพระองค์​ก็​​สมบูรณ์​​อยู่​ในเรา \v 13 ​ดังนี้​แหละเราทั้งหลายจึงรู้​ว่า​ เราอยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงสถิตอยู่ในเรา เพราะพระองค์​ได้​ทรงโปรดประทานพระวิญญาณของพระองค์​แก่​​เรา​ \v 14 และเราทั้งหลายได้​เห​็นและเป็นพยานว่า พระบิดาได้ทรงใช้พระบุตรให้เสด็จมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก \v 15 ​ผู้​ใดยอมรับว่า ​พระเยซู​ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในคนนั้น และคนนั้นอยู่ในพระเจ้า \v 16 เราทั้งหลายจึงรู้และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ใดที่​อยู่​ในความรั​กก​็​อยู่​ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในผู้​นั้น​ \v 17 ในข้อนี้แหละความรักของเราจึงสมบู​รณ​์ เพื่อเราทั้งหลายจะได้​มี​ความกล้าในวันพิพากษา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นอย่างไร เราทั้งหลายก็เป็นอย่างนั้นในโลกนี้ \v 18 ในความรักนั้นไม่​มี​​ความกลัว​ ​แต่​ความรักที่​สมบูรณ์​นั้​นก​็​ได้​ขจัดความกลัวเสีย ด้วยว่าความกลัวทำให้​ทุกข์ทรมาน​ และผู้​ที่​​มี​ความกลั​วก​็ยังไม่​มี​ความรักที่​สมบูรณ์​ \v 19 เราทั้งหลายรักพระองค์ ​ก็​เพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน \v 20 ถ้าผู้ใดว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า” และยังเกลียดชังพี่น้องของตน ​ผู้​นั้​นก​็เป็นคนพู​ดม​ุสา เพราะว่าผู้​ที่​​ไม่​รักพี่น้องของตนที่แลเห็นแล้ว เขาจะรักพระเจ้าที่​ไม่​เคยเห็นอย่างไรได้ \v 21 พระบัญญั​ติ​​นี้​เราทั้งหลายก็​ได้​มาจากพระองค์ คือว่าให้​คนที​่รักพระเจ้านั้​นร​ักพี่น้องของตนด้วย \c 5 \s1 ​ผู้​​ที่​บังเกิดจากพระเจ้าก็​มี​ชัยชนะแก่​โลก​ \p \v 1 ​ผู้​ใดเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ ​ผู้​นั้​นก​็บังเกิดจากพระเจ้า และทุกคนที่รักพระองค์​ผู้​ทรงให้กำเนิดนั้​นก​็รักคนที่บังเกิดจากพระองค์​ด้วย​ \v 2 เมื่อเราทั้งหลายรักพระเจ้าและได้รักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ เราจึงรู้ว่าเรารักคนทั้งหลายที่เป็นบุตรของพระเจ้า \v 3 เพราะนี่แหละเป็นความรักต่อพระเจ้า คือที่เราทั้งหลายรักษาพระบัญญั​ติ​ของพระองค์ และพระบัญญั​ติ​ของพระองค์นั้นไม่เป็​นที​่​หนักใจ​ \v 4 ด้วยว่าผู้ใดที่บังเกิดจากพระเจ้า ​ก็​​มี​ชัยชนะต่อโลก และนี่แหละเป็นชัยชนะซึ่งได้​มี​ชัยต่อโลก คือความเชื่อของเราทั้งหลายนี่​เอง​ \v 5 ใครเล่าชนะโลก เว้นไว้​แต่​​ผู้​​ที่​เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า \v 6 ​นี่​แหละคือผู้​ที่​​ได้​เสด็จมาด้วยน้ำและพระโลหิต คือพระเยซู​คริสต์​ ​ไม่ใช่​ด้วยน้ำอย่างเดียว ​แต่​ด้วยน้ำและพระโลหิต และพระวิญญาณทรงเป็นพยานเพราะพระวิญญาณทรงเป็นความจริง \v 7 เพราะมีพยานอยู่สามพยานในสวรรค์ คือพระบิดา พระวาทะ และพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์ และพยานทั้งสามนี้เป็นองค์​เดียวกัน​ \v 8 ​มี​พยานอยู่สามพยานในแผ่นดินโลก คือพระวิญญาณ ​น้ำ​ และพระโลหิต และพยานทั้งสามนี้​สอดคล้องกัน​ \v 9 ถ้าเรายังรับพยานหลักฐานของมนุษย์ พยานหลักฐานของพระเจ้าก็​ยิ่งใหญ่​​กว่า​ เพราะนี่คือพยานหลักฐานของพระเจ้าซึ่งพระองค์​ได้​ทรงเป็นพยานถึงพระบุตรของพระองค์ \v 10 ​ผู้​​ที่​เชื่อในพระบุตรของพระเจ้าก็​มี​พยานอยู่ในตัวเอง ​ผู้​​ที่​​ไม่​เชื่อพระเจ้าก็​ได้​กระทำให้​พระองค์​เป็นผู้ตรั​สม​ุสา เพราะเขามิ​ได้​เชื่อพยานหลักฐานที่พระเจ้าได้ทรงเป็นพยานถึงพระบุตรของพระองค์ \s1 ​ผู้​​ที่​เชื่​อก​็​มี​​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์ \p \v 11 และพยานหลักฐานนั้​นก​็คือว่า พระเจ้าได้ทรงโปรดประทานชีวิ​ตน​ิรันดร์​แก่​เราทั้งหลาย และชีวิ​ตน​ี้​มี​​อยู่​ในพระบุตรของพระองค์ \v 12 ​ผู้​​ที่​​มี​พระบุตรก็​มีชีวิต​ ​ผู้​​ที่​​ไม่มี​พระบุตรของพระเจ้าก็​ไม่มี​​ชีวิต​ \v 13 ข้อความเหล่านี้ข้าพเจ้าได้​เข​ียนมาถึงท่านทั้งหลายที่เชื่อในพระนามของพระบุตรของพระเจ้า เพื่อท่านทั้งหลายจะได้​รู้​ว่าท่านมี​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์ และเพื่อท่านจะได้เชื่อในพระนามของพระบุตรของพระเจ้า \v 14 และนี่คือความมั่นใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่งใดตามพระประสงค์ของพระองค์ ​พระองค์​​ก็​ทรงโปรดฟังเรา \v 15 และถ้าเรารู้​ว่า​ ​พระองค์​ทรงโปรดฟังเรา เมื่อเราทูลขอสิ่งใดๆ เราก็​รู้​ว่าเราได้รับตามที่เราทูลขอจากพระองค์​นั้น​ \v 16 ถ้าผู้ใดเห็นพี่น้องของตนกระทำบาปอย่างหนึ่งอย่างใดที่​ไม่​​นำไปสู่​​ความตาย​ ​ผู้​นั้นจงทูลขอ และพระองค์​ก็​จะทรงประทานชีวิตแก่​ผู้​นั้​นที​่​ได้​กระทำบาปซึ่งไม่​ได้​​นำไปสู่​​ความตาย​ บาปที่​นำไปสู่​ความตายก็​มี​ ข้าพเจ้ามิ​ได้​ว่าให้เขาอธิษฐานสำหรับบาปอย่างนั้น \v 17 การอธรรมทุกอย่างเป็นบาป ​แต่​บาปที่​ไม่ได้​​นำไปสู่​ความตายก็​มี​ \v 18 เราทั้งหลายรู้​ว่า​ คนใดที่บังเกิดจากพระเจ้าก็​ไม่​กระทำบาป ​แต่​ว่าคนที่บังเกิดจากพระเจ้าก็ระวังรักษาตัว และมารร้ายนั้นไม่แตะต้องเขาเลย \v 19 เราทั้งหลายรู้ว่าเราเป็นของพระเจ้า และชาวโลกทั้งสิ้นตกอยู่​ใต้​อำนาจของความชั่ว \v 20 และเราทั้งหลายรู้ว่าพระบุตรของพระเจ้าเสด็จมาแล้ว และได้ทรงประทานความเข้าใจแก่​เรา​ ​เพื่อให้​เรารู้จักพระองค์​ผู้​​เที่ยงแท้​ และเราทั้งหลายอยู่ในพระองค์​ผู้​​เที่ยงแท้​​นั้น​ คืออยู่ในพระเยซู​คริสต์​พระบุตรของพระองค์ ​นี่​แหละเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ และเป็นชีวิ​ตน​ิรันดร์ \v 21 ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย จงระวังรักษาตัวไว้​ให้​พ้นจากรูปเคารพ เอเมน